ทาสแมว

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎นู๋อ้น ได้เผยเรื่องราวที่จะทำให้ตัวเขานั้นไม่มีวันลืม โดยเขานั้นได้บอกเล่าเรื่องราวก่อนที่ยายจะจากไปยายแต๋วอายุ 18 ปี ถ้าเทียบกับมนุษย์แล้วถือว่ายายอายุมากๆ และนี่ก็คือแมวตัวแรกที่เขาได้เลี้ยงไว้และจะจดจำยายแต๋วไปตลอดกาล โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า ผมกลับมาจากหาหมอ ยายแต๋วค่อยๆเดินมาหา แล้วทิ้งตัวนอนลงข้างๆ ผมหันไปดูเลยบอกยายว่าถ้าไม่ไหวยายก็นอนหลับเลยนะ ไม่ต้องห่วงแล้ว ยายค่อยๆก้มหัวลงนอน กระดิกหางสองครั้งแล้วก็นิ่งไป ยายแต๋วจากไปอย่างสงบ ยายแต๋วมาอยู่ด้วยประมาณ 17-18  ปีได้ ยายเป็นแมวตัวแรกที่ผมเคยเลี้ยง ยายเป็นแมวสามสีที่สวยใครเห็นก็ชอบ ยายเป็นแมวที่ดุมาก ลูกหลานของยายจากกันไปก่อนหมดแล้ว เหลือยายตัวเดียว ยายแต๋วเข้มแข็งมากหลังไม่สบายมา 2 ปีกว่า ยายเป็นแมวใจแข็งมาก ยายเป็นแมวเร่ร่อนตั้งแต่เด็กแล้วมาอยู่บ้านผม ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน โชคดีนะยายแต๋ว จะคิดถึงยายแต๋วนะ ....อย่างไรก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ ขอให้ยายไปอยู่บนดาวแมวกับลูกๆหลานๆนะ ลูกๆหลานๆของยายจะดูแลยายแต๋วต่อเอง ที่มา ‎นู๋อ้น

เมื่อไม่นานมานี้หลวงพี่ เจริญทรัพย์ กิตฺติปัญฺโญ ได้เผยเรื่องราวหลังได้พบเจอกับน้องแมวตัวหนึ่ง มันเป็นแมวโชคร้ายถูกคนนำมาปล่อยเอาไว้ที่วัด ทางหลวงพี่เองก็ไม่ได้มีเงินมากมายแต่ก็พร้อมที่จะดูแล อาหารแมวที่ญาติโยมเข้ามาบริจาคให้ก็มีพร้อมที่จะทำให้พวกเขาได้พออิ่มท้อง โดยหลวงพี่ได้โพสต์ในกลุ่มคนอวดแมวพร้อมระบุข้อความเอาไว้ว่า เพิ่มมาอีกหนึ่งชีวิต ที่น้องได้กินอิ่มในวันนี้ ก็เพราะน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากพวกท่าน คงจะอยู่ด้วยกันไปนานๆ เมื่อเรามีเมตตา สัตว์ย่อมรู้ ร่วมตั้งชื่อให้น้อง น้องพึ่งมาโดนปล่อยเมื่อวานก่อนนี้ ยังไงซะก็จะขอดูแลต่อไป พอดีว่าเดินไปเห็นเมื่อวานที่หลังเมรุเลยงงว่ามายังไงสรุปแล้วโดนเอามาปล่อย ใจอาตมาอย่ากเอาไปเลี้ยงที่ห้องกับลิงเผือกนึกขึ้นได้ว่าเขามาจากข้างนอกกลัวลิงเผือกจะติดโรค อาตมาสามารถเลี้ยงแมวเลี้ยงหมาทั้งวัดได้แต่ทุนทรัพย์ในการรักษาไม่พอต่อการดำรงชีวิตเพียงแค่เราช่วยเหลือให้ที่อยู่ให้อาหารผมเองก็ยังมีให้เหลือเฟือเพราะผมยังมีหลวงพี่อีกท่านที่คอยประคับประคองกันไป..ขอเจริญพร..มีแมวอยู่ 3 เคส ที่อาตมากำลังหาทางช้วยเพื่อให้ถึงการรักษาเร็วๆ อีกหนึ่งชีวิตที่คนไม่ต้องการ แต่ไม่ต้องกลัวนะหลวงพี่จะดูแลน้องเอง แต่การไม่ทิ้งน้องดีที่สุดนะอย่าผลักภาระไปให้ทางวัดเลยเนอะ เลี้ยงทั้งทีต้องเลี้ยงให้สุดจนกว่าพวกเขาจะหมดลมหายใจ ที่มา เจริญทรัพย์ กิตฺติปัญฺโญ

เพราะชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้ทำให้หลายๆชีวิตต้องทนอยู่อย่างอดอยาก แล้วยิ่งเป็นสัตว์ด้วยแล้วก็ยิ่งยากที่จะไปพูดบอกใครเพราะพวกเขานั้นไม่สามารถที่จะร้องขอความช่วยเหลือได้เหมือนกับคน จึงต้องทนอยู่กับสภาพที่ต้องเจอ แม้เมื่อก่อนจะมีเจ้าของเคยมีบ้านมีที่อยู่อาศัยที่หลบแดดหลบฝนวันนึงเป็นภาระจึงถูกนำมาปล่อยไว้ ให้ต้องเผชิญชีวิตตามลำพังไร้แม้แต่แหล่งน้ำให้ดับกระหาย วันไหนโชคดีเจอคนใจดีก็ได้อิ่มท้องอย่างเช่นวันนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า อนุสรณ์ ปานบุญ ได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เขานั้นได้พบครอบครัวเจ้าตูบครอบครัวนี้ถูกนำมาปล่อยเอาไว้ไร้ร่มเงาให้พักพิงไร้แม้แต่แหล่งน้ำให้กินเมื่อยามร้อน โดยผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความพร้อมรูปภาพเอาไว้ลงในกลุ่มรักหมาจังโดยระบุข้อความว่า "น่าสงสารครับอยู่กลางแดดร้อนๆแม่มันพาลูกๆมาหลบที่ร่มใต้เสาไฟแถวนี้ไม่มีที่บังแดดใครอยากช่วยอยู่ทางเข้านิคคมเหมราชติดโรงงาน MG ผมหาข้าวมาให้กินกันหมดเลยดูหิวมาก" ซึ่งเมื่อผู้โพสต์ได้พบน้องก็ได้นำข้าวมาให้พวกน้องๆได้กิน ซึ่งดูแล้วพวกน้องๆก็น่าจะอดกันมาหลายวันแล้วไม่รู้ได้มีอะไรตกถึงท้องบ้างหรือป่าว คนเอามาปล่อยก็ไม่คิดเลยว่าพวกเขานั้นจะต้องเผชิญชีวิตอยู่ต่อกันไปอย่างไร ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงอยากจะเข้าช่วยเหลือก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้างที่หลบแดดหลบฝนข้าววันละมื้อสองมื้อให้ได้อิ่มน้องๆมีทั้งหมด 4 ตัวมากันทั้งครอบครัวเรียกได้ว่าถูกเอามาปล่อยยกครอบครัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะช่วยจริงๆก็ติดต่อได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยจ้า ขอขอบคุณข้อมูลจาก "อนุสรณ์ ปานบุญ"

ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดประทับใจในโลกออนไลน์หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้นำเรื่องเล่ามาโพสต์ลงในกลุ่ม คนรักน้องหมาอุดร หลังจากที่เธอนั้นตัดสินใจจอดรถเพื่อที่จะช่วยอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆให้รอดพ้นจากอันตรายบนท้องถนน ซึ่งเธอนั้นได้ระบุข้อความในกลุ่มเอาไว้ว่า "เรื่องเล่าระหว่างทางในวันที่ขับมอไซต์ เจ้าตัวเล็กข้างถนนวิ่งออกถนนรถหลบกันให้วุ่น แต่เราปล่อยผ่านไม่ได้ทำไมเป็นคนแบบนี้!!!!! ถนนเส้นนี้รถขับไวสุดๆ ยิ่งตอนเช้าคนไปทำงานจอดรถจับน้องเข้าข้างทางก็ไม่ยอม ยอมรับเลยว่าทั้งใช้มือฟาดใช้เท้าเขี่ยแบบรุนแรง" "พูดง่ายๆเตะเพื่อให้มันกลัวแล้ววิ่งเข้าข้างทางแต่มันไม่กลัวมีแต่จะวิ่งออกถนน จับไปไว้ลึกสุดๆก็วิ่งออกมา วิ่งมากลางถนนอีกแล้วมานั่งที่มอเตอร์ไซต์ ปล่อยไว้วันนี้ยังไงก็ไม่รอดในเช้านี้ล้าน%  ปล่อยผ่านก็ทำใจไม่ลงงานก็ต้องรีบ...ตัดสินใจเทของทุกอย่างใส่ใต้เบาะ" "แล้วเอามันยัดลงในกระเป๋า โชคดีของเราแล้วววันนี้ โชคดีของแกด้วยที่มาเจอชั้น เอาสัตว์สี่เท้าจะเข้าบ้านกลับไปก็คงโดนด่ายับตามสเตป เป็นลูกที่ชอบหาภาระให้พ่อแม่ เป็นความดีที่ไม่อยากทำเลยจริงๆ แต่จะปล่อยให้รถชนก็คงทำไม่ได้ "แล้วหมาหน้าตาแบบนี้ประกาศหาบ้านก็คงยาก...หรือมีใครที่สนใจมั้ย..หมาบ้านเลี้ยงง่ายดูหน้าตาโตขึ้นคงสวย เรายินดีไปส่งให้นะคะ เด็กหญิงบุญนาค" ซึ่งผู้โพสต์ก็ที่จะช่วยน้องไม่ได้จริงๆจึงต้องพยายามอย่างสุดความสามารถในการจับน้อง เพื่อที่จะยัดใส่กระเป๋ากลับมาบ้านก็เพราะไม่รู้จะใช้วิธีไหนแล้วจริงๆถ้าหากปล่อยเอาไว้คงไม่พ้นรถแน่ๆ ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นที่ซุกหัวนอนมีข้าวมีน้ำให้กินแค่นี้ก็พอใจแล้ว ขอขอบคุณข้อมูลจาก "ชมพู่ สวยน้อย อร่อยมาก"

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kloy Ninkaraket ได้เผยเรื่องราวกับภาพความทรงจำสุดประทับใจ ของเจ้าบางแก้วตัวหนึ่ง มันเป็นบางแก้วที่เธอนั้นเคยเล่นกับมันเมื่อ 3 ปีก่อน ใครหลายๆคนเคยบอกว่าสุนัขพันธุ์บางแก้วจะไม่เอาใครเลยนอกจากเจ้าของ มันรักเจ้าของเพียงคนเดียวกับคนอื่นคือจะดุมาก แต่ภาพที่เห็นกลับตรงกันข้ามกันเลยทีเดียว . โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า ความทรงจำของหมาน้อย เค้าว่าบางแก้วจะไม่เอาใครนอกจากเจ้าของ ?? เคยเล่นกับน้องตอนอายุประมาณ 3-4 เดือนแล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ผ่านมาเกือบ 3ปี วันนี้ไปเยี่ยมที่บ้านก็กลัวว่าจะจำเราไม่ได้ แต่แค่รถจอดหน้าประตูรั้วและโผล่หน้าออกไปนอกรถเท่านั้น เค้าจำได้และดีใจสุดๆ แทบเปิดประตูรั้วไม่ทันเลย (เพื่อนเล่นของสฟิ้งซ์ครั้งยังเป็นเด็ก น้องชื่อปันปันเป็นสุนัขพันธุ์บางแก้วที่ใครๆหลายๆคนก็บอกว่าดุ แต่ความทรงจำของปันๆยังคงจำได้เพราะเคยเล่นด้วยกันสมัยปันๆยังเป็นเด็กแม้ตอนนั้นจะอยู่ในวัยเพียง 3 เดือนก็ตาม ชาวเน็ตในกลุ่ม Gluta Story ได้กล่าวว่าลองดูที่มุมปากของน้องสิจะเห็นได้ว่าน้องกำลังยิ้มอยู่ เป็นภาพความประทับใจเหลือเกินที่สุนัขพันธุ์บางแก้วจดจำคนที่เคยเล่นด้วยกันมา แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 3 ปีแต่น้องยังคงจำได้ไม่มีวันลืม ขอขอบคุณ : Kloy Ninkaraket

ถือเป็นภาพสุดประทับใจแก่คนในโลกออนไลน์เมื่อชายหนุ่มรายหนึ่งได้อุ้มสุนัขตัวเล็กๆขึ้นมาหอมและมาจุ๊บด้วยความเอ็นดู ซึ่งเป็นภาพที่ใครหลายต่อหลายคนพูดถึงและต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นภาพที่สุดน่ารักและแชร์ต่อกันไปอย่างกว้างขวาง   โดยเรื่องราวดังกล่าวนั้นได้ถูกนำมาเผย่แพร่ต่อจากทางแฟนเพจ up2youha ที่ได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 14  พ.ย. 2562 โดยได้เขียนบรรยายเนื้อหาเอาไว้ว่า "สุดน่ารักคนขายพวงมาลัยแยกสาทร เวลาเหนื่อยจะมานั่งพักแล้วจุ๊บน้องหมาที่เลี้ยงเอาไว้ จุ๊บทุกวันทุกเวลาที่เหนื่อย ผ่านมาแถวนี้ทุกวัน" "ก็เห็นเขาจุ๊บหลายรอบมาก ลูกสาวบอกว่าวันนี้มาม๊าถ่ายรูปสิเลยรีบถ่ายมาเห็นความน่ารักของน้องหมากับคนเลี้ยงแล้วแอบยิ้มไม่หุบเลยค่ะ ช่างน่ารักเหลือเกิน"  ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปยังอินสตารแกรมก็ได้มีผู้คนเข้ามาชื่นชมกันต่างๆนาๆ เพราะความสุขในชีวิตแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันถึงจะไม่ได้มีมากมายแต่ก็มีความหมายและคุณค่า และต่างพากันชื่นชมความรักที่ชายหนุ่มรายนี้มีต่อน้องหมาของเขาแถมยังหอมน้องหมาแบบนี้ในทุกๆวันพร้อมเป็นกำลังใจให้ต่อกันและกัน แม้ในวันที่เหนื่อยยากลำบากแต่ก็ยังมีกันเสมอมา เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมุมในมุมที่มีแต่ตึกสูงใจกลางเมืองแต่ก็ยังสามารถที่จะสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับผู้คนที่ได้พบเห็น ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนผ่านไปแถวนั้นก็อย่าลืมแวะไปอุดหนุนพี่เค้าด้วยนะ     ขอขอบคุณข้อมูลจาก komchadluek

หากในวันนี้ที่เพื่อนๆท้อหรือหมดหวังอยากให้เพื่อนๆได้ลองนั่งมองย้อนดูเรื่องราวของคุณแม่ตูบจรสามขาตัวนี้ที่ดิ้นรนเลี้ยงลูกน้อย 9 ตัวมาด้วยความยากลำบากแม้ว่าตัวแม่นั้นจะขาพิการเดินหาอาหารด้วยความยากลำบากแต่ก็อดทนสู้ชีวิตเลี้ยงลูกมาครบและปลอดภัยทุกชีวิต หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า รักหมาแมวจร หาบ้านฟรี หลังจากที่เขานั้นได้พบน้องเข้าจึงพยายามที่จะหาบ้านให้กับน้องเพราะด้วยความสงสารที่น้องนั้นต้องทนใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบากในแต่ละวันซึ่งผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "มีใครอยากได้ไหมคะน้อง ไม่มีบ้านสงสารน้องแม่น้องเป็นหมาจนมีสามขาเก่งมากที่เลี้ยงลูกได้อยู่ครบเก้าตัวเพราะแถวนี้ตัวเงินตัวทองเยอะงูเหลือมด้วย อยู่เลี่ยมคลองทวีซอยทวีวัฒณาซอย 1 จ้า เดวมีคนมาปล่อยอีกเขารื้อบ้านแล้วดีนะที่ยังมีไฟให้เดี๋ยวแจกลูกหมดก็เอาทำหมันละ" "กำลังรวบรวมกับเพื่อนไปทำคลีนิคที่ทำฟรีนะแต่เสี่ยงเพราะเขาพิการเอาไปทำที่โรงพยาบาลดีกว่ามีอะไรจะได้ช่วยทัน ช่วยกันหน่อยค่ะใครเอาทักมานะคะอยู่ กรุงเทพ ตัวผู้ 2 เมีย 1 ถ้าใจจะรับน้องไปเลี้ยงมีรถส่งฟรีค่ะ" ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นมีที่ให้ซุกหัวนอนไม่ต้องทนตากแดดตากฝนไม่ต้องทนเร่ร่อนหาอาหารให้ลูกอีกต่อไป เพราะด้วยหัวอกแม่แต่ก็อดทนเลี้ยงลูกมาด้วยความยากลำบากแม้ขาจะพิการก็ไม่มีย่อท้อ ซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากเพื่อนๆเจอสุนัขหรือแมวจรต้องการความช่วยเหลือก็อยากที่จะให่เพื่อนๆยื่นมาเข้าไปช่วยเพราะเราไม่รู้เลยว่าชีวิตนั้นๆจะมีลมหายใจต่อได้อีกกี่วันหากว่าเราเมินเขาไป ขอขอบคุณข้อมูลจาก ตุ๊กตา ยูนิคอน

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Teetawat Konta ได้เผยเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าแมวจรตัวน้อยตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวจรที่หลงเข้ามาขอนอนอาศัยอยู่ในศูนย์ฮอนด้า และด้วยโชคชะตาที่รู้สึกถูกใจตั้งแต่แรกเห็น หนุ่มใจดีท่านนี้ตัดสินใจรับน้องกลับไปเลี้ยงที่บ้านในทันที . โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า แมวจรศูนย์ฮอนด้า ป้าแม่บ้านบอกหลงมาอยู่หลายเดือนแล้ว วันนี้พี่คนนี้เอารถมาเช็คช่วงรอรถ แล้วน้องแมวจรก็มานอน มาเล่นกับพี่เขา พอพี่เขาทำรถเสร็จ วางแมวแล้วเดินไป แล้วเดินกลับมา บอกกับป้าแม่บ้านว่า ... เดี๋ยวผมเอาไปเลี้ยงเองครับ  จรมานาน เจอคนถูกฉะตา วันนี้ได้บ้านแล้ว  อีก1ชีวิต ที่กำลังจะมีชีวิตที่ดีขึ้น จนเรื่องราวของน้องถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนชาวเน็ตหลายท่านได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันว่า นี่แหละคือโชคชะตาทำให้ทั้งคู่ได้มาเจอกัน บ้างก็บอกว่า โอ้ยยย...ดีใจด้วยนะลูกเป็นแมวจรมาตั้งเดือนกว่า แต่พอได้พบเจอคนที่รักน้องจริงน้องก็ได้บ้านในทันที ต่อไปนี้หนูก็จะมีแต่ความสุข เลิกกลายเป็นแมวจรแล้ว ต้องขอบคุณพี่ใจดีท่านนี้จริงๆ ถ้าพี่เขาไม่เอารถมาเช็คที่ศูนย์ทั้งคู่ก็จะไม่ได้เจอกัน ถ้าไม่ได้เจอกันน้องก็จะกลายเป็นแมวจรไม่รู้จบ ดีใจด้วยน้าาาาา ขอขอบคุณ : Teetawat Konta

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Ploypapat Wong ได้เผยเรื่องราวของน้องแครกเกอร์ น้องแครกเกอร์เป็นลูกแมวจรที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกระบี่ แต่แม่ของน้องแครกเกอร์ดันเอาลูกมาแอบมาซ่อนไว้ที่รถส้วม ทางด้านของรถส้วมเองก็ไม่รู้ว่ามีแมวติดเข้ามาในรถด้วย น้องแครกเกอร์จึงต้องออกเดินทางข้ามจังหวัดเข้าเมืองกรุงด้วยตัวคนเดียวแม้จะอายุเพียง 1 เดือนก็ตาม . โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า สวัสดีค่ะ หนูชื่อแครกเกอร์ อายุ 1 เดือนค่ะ หนูมีประวัติที่น่าสงสารมากค่ะ หนูมาไกลจากกระบี่ แม่หนูเอาหนูมาแอบไว้บนรถส้วม สาธารณะ แล้วรถก็มาถึงกรุงเทพฯ โดยที่หนูมาคนเดียว หนูเลยมาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง แต่บ้านหลังนั้นก็มีรุ่นพี่อยู่ แล้วรุ่นพี่ก็ไม่ชอบหนู หนูเลยต้องย้ายบ้าน จนหนูได้มาอยู่กับแม่พี่ๆคิดว่าหนูเป็นพันธุ์อะไรคะ แต่ถึงหนูจะเป็นพันธุ์อะไรพ่อกับแม่ก็รักหนูค่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เป็นทาสหนูเรียบร้อยค่ะ ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู ตัวของน้องก็ยังเล็กนิดเดียวจนผู้คนในกลุ่มทาสแมวต่างหลงรัก โชคยังดีนะที่หนูน้อยแอบอยู่ในรถวิ่งข้ามจังหวัดเข้ากรุงเทพได้อย่างปลอดภัย ไม่ตกลงไปยังท้องถนนซะก่อน ชีวิตต่อจากนี้หนูก็จะมีแต่ความสุขไม่ต้องเป็นแมวจรอีกต่อไปแล้ว แต่สิ่งที่น่าเศร้าก็คือหนูจะไม่มีวันได้พบเจอกับแม่ที่จังหวัดกระบี่อีกแล้ว เห้อ......   ขอขอบคุณ : Ploypapat Wong

เพื่อนๆหลายคนที่ต้องทำงานประจำคงจะเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ดี เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วพนักงานบริษัทหรือพนักงานประจำก็จะต้องมีวันหยุดในแต่ละสัปดาห์ซึ่งวันหยุดของพนักงานประจำนั้นก็มีน้อยซะเหลือเกินซึ่งเพื่อนๆส่วนใหญ่ก็มักจะใช้เวลาในวันหยุดอย่างคุ้มค่าและมีแผนวางไว้อยู่แล้วเสมอ เช่นเดียวกับหนุ่มรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sit Sittichaiya ได้โพสต์เล่าเรื่องราวประสบการณ์วันหยุดของเขานั้นต้องหมดไปเพราะเจอเจ้าสามตัวนี้ หลังพบเจอพวกเขาถูกนำมาปล่อยทิ้งเอาไว้โดยอยู่ตรง 3 แยกพอดิบพอดีซึ่งผู้ที่นำทางมาเจอเจ้าตัวน้อยๆก็ไม่ใช่ใครอื่นนั่นก็คือ Google Maps นั่นเอง โดย Google Maps นั้นได้นำทางเขานั้นหลงเข้าไปในป่าจนไปเจอเจ้าเหมียวทั้ง 3 ตัวนี้ซึ่งพิกัดที่เขาได้ตั้งเอาไว้ในตอนแรกก็คือห้างสรรพสินค้าแต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม Google maps นั้นถึงได้นำพาเขาเข้าไปในป่าลึกขนาดนี้ ซึ่งผู้โพสตนั้นได้นำเรื่องราวมาลงในกลุ่มอย่างชมรมแมวสายดาร์ก และเขาก็ได้เล่าอีกด้วยว่า ในตอนที่เขานั้นได้เจอกับเจ้าเหมียวทั้งสามตัวในตอนแรกเจ้าเหมียวทั้งสามก็ได้ทักทายเขาด้วยเสียงอะไรไม่รู้คล้ายๆงูเห่าเสียงดังฟ้อๆๆเลย ซึ่งตอนแรกเขาก็คิดว่างูจริงแต่ที่ไหนได้เป็นแมวน้อยทั้งสามนั้นเอง ซึ่งวันหยุดของเขาก็เลยต้องหมดไปเพราะเจ้าเหมียวทั้งสามตัวนี้ แต่ก็ยังดีที่ช่วยพวกน้องๆนั้นออกมาได้เพราะในบริเวณดังกล่าวนั้นค่อนข้างจะเป็นป่าและไร้บ้านคนถ้าปล่อยเอาไว้คงไม่พ้นจะเป็นอาหารให้แก่สัตว์อื่นๆแน่ๆ ยังไงก็ยังได้ช่วยชีวิตเจ้าตัวน้อยๆห้างเอาไว้ไปเมื่อไหร่ก็ไปได้เนอะ ซึ่งจากโพสต์ดังกล่าวก็ได้มีผู้คนเข้ามาชื่นชมความมีน้ำใจและน่ารักของเจ้าเหมียวตัวน้อยทั้งสามตัวอีกด้วย ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sit Sittichaiya