ตื่นตระหนกกลางดึก ได้ยินเสียงแมวร้องโอ้กอ้ากเลยลุกขึ้นมาดูพบแฟนกำลังป้อนน้ำสตรอเบอร์รีสด
เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นก็เหมือนกับการเลี้ยงเด็กตัวน้อยๆ ที่จะต้องคอยเอาใจใส่ดูแลไม่ต่างอะไรกับเด็กที่มีอายุเพียงแค่ 2 ขวบ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวพวกเขาก็มีความคิดมีสมองที่สามารถฟังและสื่อสารกับเรารู้เรื่องแต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าการแสดงออกของแมวหรือสุนัขในแต่ละตัวนั้นเป็นอย่างไร
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวกับแฟนของเขา หลังจากที่เขานั้นตื่นตระหนกขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงแฟนสาวของเขาพูดกับแมวว่า กินน้ำสตรอเบอร์รี่นะคะลูกซึ่งเขาก็คิดในใจว่าโหยให้แมวกินน้ำสตรอเบอร์รี่เลยโว้ยยยย
แต่พอผ่านไปสักพักเขากลับได้ยินเสียงอะไรโอ้กอ้ากๆ ด้วยความแปลกใจเขาจึงได้ลุกและตื่นขึ้นมาดู จึงได้พบว่ามันไม่ใช่น้ำสตอรเบอร์รี่อย่างที่เขานั้นคิดแต่มันคือยาน้ำสีชมพูของแมวของเขาเอง ซึ่งเขาเองก็ทำได้เพียงแค่คิดในใจเพราะไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา เพราะเดี๋ยวแมวจะรู้ตัว
ซึ่งทั้งนี้เขาได้บอกว่าแฟนผมนั้นเป็นเอามาก ป้อนยาแมวก็ต้องหลอกแมวว่ามันคือน้ำสตรอเบอร์รี่ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าสุนัขหรือแมวเราก็ควรที่จะหลอกล่อพวกเขาเมื่อถึงเวลาที่จะต้องกินยาทั้งๆที่พวกเขาเองก็คงจะรู้ว่านั่นคือยาแต่มนุษย์อย่างเราก็ยังคงทำเพราะด้วยความเป็นแม่ที่เป็นห่วงลูก
ซึ่งทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวก็ได้สร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆในกลุ่ม ทาสแมว Official เป็นอย่างมากอีกทั้งยังเป็นเรื่องราวสุดน่ารักระหว่างคนเป็นแม่ที่ได้เลี้ยงเจ้าเหมียวสุดที่รักได้อย่างน่ารักสุดหัวใจ และก็อยากจะฝากเอาเพื่อนๆเอาไว้ว่าการหลอกให้กินน้ำสตรอเบอรร์รี่นั้นอาจจะทำได้เพียงแค่ครั้งเดียว เพราะครั้งต่อๆไปพวกน้องอาจจะรู้ตัวแล้ว ฮ่าฮ่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วรวิทย์ วาสนา
เกือบต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เพราะความหวังดีของผู้เป็นแม่ ร้องลั่นให้ช่วยกลางดึกจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เพราะความหวังดีของผู้เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง เมื่อเราได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเราก็รักและดูแลพวกเขาด้วยความหวังดีเสมอมาซึ่งในบางครั้งความหวังดีเหล่านั้นก็กลับมาทำเค้าโดยที่ตัวเราเองไม่รู้ตัวและไม่ได้ตั้งใจทางเจ้าของเองก็ไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับเรื่องราวของผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อเตือนเพื่อนๆในกลุ่ม ทาสแมว Official หลังจากที่เธอนั้นได้พบเรื่องราวที่เจอมากับตัวสดๆร้อนๆ หลังจากที่เกือบที่จะต้องสูญเสียแมวอันเป็นที่รักไปเพราะด้วยความหวังดีของตัวเอง
ซึ่งหากเพื่อนๆเลี้ยงสัตว์แล้วเพื่อนๆเองก็คงจะหาปลอกคอมาใส่ให้กับน้องๆสัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆ เพื่อด้วยความสวยงามและการที่ทำให้หลายๆคนได้รู้ว่าสัตว์ตัวนั้นๆมีเจ้าของ หลายคนมักมีเบอร์ติดที่ปลอกคอเผื่อในกรณีที่หมาแมวหลุดหาย แต่ทว่าการนำปลอกคอมาใส่ให้กับน้องหมาน้องแมวแล้วก็อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้
หลังจากที่ผู้เป็นเจ้าของรายนี้ได้เล่าว่า เกือบจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะความดื้อของนางด้วย ร้องเสียงดังกลางดึกตื่นทั้งพ่อและแม่ ไม่รู้ว่าไปจับนกหรือตัวอะไรเข้ามากระดิ่งไปติดที่ตะขอปากก็ดันไปติดด้วย โชคดีที่พ่อมาเห็นเข้าเลยช่วยเอาไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นคงจะสิ้นใจ
ต่อไปจะไม่ใส่ให้อีกแล้วเพราะเลี้ยงระบบปิด คงจะตกใจด้วยความกลัวไม่กินอะไรเลยในตอนนี้ ซึ่งทั้งนี้เธอจึงนำเรื่องราวมาบอกกับเพื่อนๆในกลุ่มเพื่อเตือนถึงอันตรายใกล้ตัวที่สามารถจะเกิดขึ้นได้หากไม่ระมัดระวัง เพราะเป็นเพียงปัญหาเล็กๆที่เรียกว่าเส้นผมบังภูเขาซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้กับน้องหมาหรือน้องแมวของพวกเราเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วันฤดี มุกธวัช
อดีตแมวจรอาศัยอยู่ในตู้เก็บของที่โรงเรียน คุณครูก็จะเอาไปปล่อยตัดสินใจโทรหาแม่เดี๋ยวหนูเลี้ยงเอง
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ส้ม กุ้ง ได้เผยเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่าดอลลาร์ ดอลลาร์เป็นอดีตแมวจรตัวน้อยที่ถูกผู้โพสต์เก็บมาเลี้ยง ในตอนแรกน้องเป็นแมวขี้กลัว ขู่เก่ง ไม่ไว้ใจผู้ใดเพราะเป็นแมวจรมาก่อน แต่พอได้สัมผัสถึงความรักพฤติกรรมของน้องก็เปลี่ยนแปลงไป
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่า นับตั้งแต่ตอนที่ทาสยังเป็นเด็กตั้งแต่สมัยอยู่ ม.3 ทาสไปเจอลูกแมวตัวนึงอยู่ในตู้เก็บของที่โรงเรียน เจ้าแมวตัวนี้ขู่เก่งมากมายไม่ยอมให้จับเลยแม้แต่น้อย ตามจีบไม่ได้ก็เลยลักน้องกลับบ้านซะเลยเพราะคุณครูบอกจะเอาไปปล่อย
ทาสก็โทรบอกแม่มารับน้อง พอไปถึงบ้านก็ขู่ไม่เลิกด้วยความเป็นแมวจรมาก่อนสงสัยอดีตของน้องจะฝังใจ จนเข้าวันที่สองอยู่ดีๆก็มานอนที่คอฉัน ตั้งแต่วันนั้นจนตอนนี้ทาสอยู่ ป.ว.ช3แล้ว 4ปีแล้วนะที่คอยเป็นพลังบวกคอยอยู่เคียงข้างกันเสมอมาไม่ว่าสถานการณ์ไหน 7กุมภาพันธ์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ดอลลาร์ อายุครบ4ขวบแล้ว
ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวในกลุ่ม ชมรมแมวสายดาร์ก ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า 4 ปีผ่านไปน้องตัวอ้วนขึ้นมากเลย แถมลายของนางก็สวยหน้ากลมโตมีความเหมือนแมวสายพันธุ์ โชคดีของนางและนางทาสที่ได้เลี้ยงแมวที่น่ารัก จากอดีตแมวที่มีความฝังใจแต่ปัจจุบันน้องได้อยู่กับทาสแมวที่รักมันจริง ยินดีด้วยนะ สุขสันต์วันเกิดจ้า
ขอขอบคุณ : ส้ม กุ้ง
ตูบตัวผอมอาศัยอยู่บนเขาไร้น้ำไร้อาหาร วิ่งกระดิกหางมาหาหนุ่มมอเตอร์ไซค์หวังให้ช่วยชีวิต
เพราะหลายชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้เลยต้องดิ้นรนอยู่แบบตามมีตามเกิด พอวันนึงไม่เป็นที่ต้องการแล้วก็ถูกเอามาปล่อยอย่างไร้เยื่อใยแถมสถานที่ที่ถูกเอามาปล่อยไว้ก็ไร้แม้แต่แหล่งน้ำหรือแหล่งอาหารที่จะประทังชีวิตให้รอด เลยได้แต่อยู่อย่างไร้ความหวังด้วยเนื้อตัวที่ผอมแห้งเรี่ยวแรงก็ไม่มี
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Narongrit Pongpin ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบหลังจากที่เขานั้นได้พบเจอน้องเข้าโดยบังเอิญซึ่งเขาได้เล่าว่า เลิกงานมามาจอดรถเล่นเจอสุนัขตัวหนึ่งวิ่งมาหา แต่ทว่าสภาพของน้องนั้นกลับดูผอมแห้งมากราวกับว่าอดอยากมานานแสนนาน ซึ่งผู้โพสต์ก็มีเพียงไข่ต้มให้กินเพื่อประทังความหิวเพราะไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย
โดยก็ไม่รู้เลยว่าน้องนั้นถูกเอามาปล่อยไว้นานแค่ไหนแล้วสภาพถึงเป็นขนาดนี้ ซึ่งทั้งนี้ก็เลยนำเรื่องราวมาโพสต์ลง ในโลกออนไลน์เผื่อมีใครผ่านไปผ่านมาจะได้เข้าช่วยเหลือน้องที โดยที่เขานั้นได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ พิกัดทางขึ้นช่องสามหมอ เสาเรด้า อ.แก้คร้อ จ.ชัยภมิ น้องหมานอนอยู่ศาลาเรด้า น้องหมามีอยู่ 3 ตัวอีก 2 ตัววิ่งหนีเข้าป่า
โดยหลังจากนั้นก็ได้มีผู้คนใจดียื่นมือมาเข้ามาช่วยเหลือน้องในเวลาต่อมา ซึ่งในตอนแรกก็ไปตามหาน้องแต่กลับไม่พบเพราะบริเวณที่น้องอาศัยอยู่นั้นเป็นป่าแถมยังมืดไม่มีไฟจนในที่สุดก็ได้พบน้องซึ่งน้องก็ได้อาศัยอยู่กับเพื่อนอีกหนึ่งตัวซึ่งสภาพก็ผอมแห้งเช่นเดียวกัน โดยผู้เข้าไปช่วยเหลือได้โพสต์ว่า
23.19 อัพเดทภาพจากต้นโพสต์เจอน้องแล้วแต่ทำได้เพียงแค่ให้อาหารก่อน ในวันพรุ่งนี้จะพยายามที่เข้าช่วยเหลืออีกรอบและอาจจะหาคนมาช่วยจับน้องเพื่อที่จะนำตัวไปรักษาอีกต่อไป ซึ่งหากเพื่อนๆท่านไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถเข้าไปติดต่อได้ที่ต้นโพสต์ ขอเพียงแค่บ้านแค่อาหารวันละมื้อสองมื้อให้พวกหนูได้อิ่มไม่ต้องอยู่อย่างอดๆอยากๆก็เพียงพอแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Narongrit Pongpin
พวกหนูกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เจ้าของไม่ต้องการ พวกหนูทำอะไรผิดทำไมถึงทำกับหนู
เพราะมนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์ที่เห็นแก่ตัวมากที่สุด ยามอยากที่จะเลี้ยงก็สักแต่ว่าจะเอามาเลี้ยงแต่ยามที่เบื่อเห็นว่าเป็นภาระก็เอาไปปล่อยอย่างไร้เยื้อใย ซึ่งการทำแบบนี้นั้นถือว่าเป็นการไร้ความรับผิดชอบมากที่สุด เพราะอันตรายจากโลกภายนอกที่พวกเขานั้นต้องเจอ
ยิ่งถ้าเคยเลี้ยงไว้ในระบบปิดไม่เคยได้ออกไปใช้ชีวิตภายนอกยิ่งแล้วใหญ่ เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวเหล่านี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า นุ้ย อะไหล่มอเตอร์ไซค์ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวเหล่านี้หลังที่เธอนั้นได้ไปพบพวกเขา ซึ่งน้องถูกจับใส่กรงจำนวนนับสิบตัวเอามาโยนปล่อยไว้กลางหมู่บ้านที่เธอได้อยู่
อย่างไร้เยื่อใยไม่คิดเลยว่าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อได้อย่างไร ซึ่งน้องๆก็ไร้เดียงสามากไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าตนนั้นกำลังถูกเอามาปล่อยไว้ แออัดกันอยู่ในกรงโดยเธอเองก็ได้นำเรื่องราวมาโพสต์โดยที่ระบุข้อความเอาไว้ว่า ใครหนอช่างทำกันได้ตอนอยากจะเลี้ยงกับตอนเอามาปล่อยมันช่างต่างกันจริงๆ
โดยหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจและอยากที่จะช่วยเหลือพวกน้องๆ แต่ทว่าเมื่อได้สอบถามไปยังผู้โพสต์แล้วผู้โพสต์ก็ได้ประสานงานให้อีกรอบ ผู้โพสต์จึงได้ไปสอบถามและตามไปดูโดยพบว่าได้มีมูลนิธิรับน้องไปอยู่ในความดูแลแล้ว ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะติดตามเรื่องราวของน้องเพิ่มเติมก็สามาถเข้าไปสอบถามได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก นุ้ย อะไหล่มอเตอร์ไซค์
ไซตัวอ้วนหลงทางกลับบ้านไม่ถูก ก็เลยมานอนรอเจ้าของที่เซเว่นเผื่อเจ้าของจะกลับมารับ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Methawee Malaloy ได้เผยเรื่องราวของสุนัขหลงทางตัวหนึ่ง น้องเป็นหมาสายพันธุ์
ไซบีเรียนฮัสกี้มานอนตากแอร์อยู่ข้างในเซเว่น ดูจากรูปร่างของน้องแล้วน้องน่าจะเพิ่งหลงทางมาได้ไม่นาน เพราะรูปร่างของเจ้าไซยังอ้วนท้วนสมบูรณ์แต่ตัวมอมไปหน่อยนะน้อง
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า น้องหลงทางมาจ้า นางคงไม่รู้จะทำยังไงดีก็เลยเดินเข้าเซเว่นซะเลย ดีที่น้องมีปลอกคอน้องมีเบอร์โทรเจ้าของอยู่ติดที่ปลอกคอเผื่อน้องพลัดหลงหรือหนีเที่ยวมาจะได้ตามตัวได้ ก็เลยโทรตามเจ้าของให้มารับน้องกลับบ้าน
และล่าสุดทางเจ้าของก็มารับน้องเรียบร้อยแล้ว หลงเมื่อไรก็แวะมา เซเว่น อีเลฟเว่น ฮ่าฮ่า ปล.ขอบคุณน้องๆพนักงาน7-11สาข ลาดพร้าว81ทุกคนด้วยนะที่เมตตาไม่ไล่น้อง แถมให้ถ้วยใส่น้ำให้น้องกินด้วยน่ารักสุดๆเลยทั้งพนักงานและน้องหมา
ดูจากสภาพของเจ้าไซแล้วน่าจะเหน็ดเหนื่อยเพราะหาทางกลับบ้านไม่ถูก จะมีก็เซเว่นนี่แหละอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน น้องก็เลยมาแอบนอนอยู่ข้างใน ดีนะที่ปลอกคอของน้องมีเบอร์โทรเจ้าของติดอยู่น้องก็เลยกลับบ้านได้ไม่ต้องหลงทางอีกแล้ว แต่แอดว่าดูจากทรงไม่น่าหลงทางนะน่าจะแอบหนีเที่ยวมากกว่าดูสิตัวมอมเชียว ฮ่าฮ่า
ขอขอบคุณ : Methawee Malaloy
จับได้คาหนังคาเขาเตรียมเอามาปล่อย แต่ถูกเจ้าของที่จับได้รีบขับรถหนีแทบไม่ทัน
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ปิยะ ชื่นขวัญเลิศ ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอกับสองผัวเมียขี่สามล้อพ่วงข้าง กำลังพยายามหาพื้นที่เพื่อนำน้องหมาป่วยไปปล่อยที่ข้างสวนของผู้โพสต์ ในตอนนั้นสองผัวเมียได้นำน้องลงจากรถแล้ว หนุ่มผู้โพสต์เลยถ่ายรูปไปพร้อมด่าไปชุดใหญ่
.
จนสองผัวเมียพอรู้ว่าโดนด่าว่ากำลังจะปล่อยน้องหมา รีบอุ้มน้องกลับขึ้นรถสามล้อพ่วงข้างหนีไปหน้าตาเฉยๆ แถมทั้งสองยังเถียงข้างๆคูๆว่าไม่ได้เอาน้องมาปล่อยเลยนะ เขาก็ยืนด่าไปนานจนภาพสุดท้ายที่ได้เห็นคือเขาก็ขี่รถหายไป ไม่รู้ชะตาชีวิตของน้องจะเป็นยังไงตัวก็ผอมแถมป่วยอีกต่างหาก
ดูสภาพของน้องสิครับ ทำไมคุณถึงได้ทำกับน้องได้ลงเขาก็มีชีวิตมีจิตใจเหมือนกับเรานะ และแน่นอนที่สุดเขารักพวกคุณมาก แต่ความรักที่เขามอบให้คุณกลับตอบแทนกับน้องแบบนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะขี่รถหนีไปพร้อมน้องหมา แต่แอดเชื่อได้เลยว่าถึงยังไงแล้วน้องก็ต้องโดนปล่อยอยู่ดี
แล้วตอนนี้น้องอยู่ที่ไหน จะเป็นยังไง จะกินอะไรมีเพียงสองผัวเมียคู่นี้ที่รู้ว่าตอนนี้น้องอยู่ไหน แล้วเราจะติดตามเพื่อช่วยน้องยังไง เห้อ... และล่าสุดทาง มูลนิธิ วอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation -Wdt ได้นำเรื่องราวของน้องไปโพสต์ลงในเพจแล้วเพื่อตามหาสองผัวเมียคู่นี้ ว่าตอนนี้น้องอยู่ที่ไหน เราได้แต่หวังว่าจะพบเจอน้องในที่สุด พิกัดจังหวัดระยอง
ที่มา ปิยะ ชื่นขวัญเลิศ
หมาจรหน้าเซเว่นเดินไกลกว่าครึ่งกิโล เดินมาหาถึงหน้าห้องบนตึกชั้น2เพราะคิดถึงคนที่เคยเล่นด้วยกันไม่กี่นาทีก่อน
เพราะชีวิตที่เคยได้รับความรักความเอาใจใส่ เมื่อมีคนมาให้ความสนใจก็อยากที่จะได้ความรักความเอาใจใส่เหมือนที่เคยมีมา เพราะชีวิตหลังจากการถูกนำมาปล่อยนั้นช่างเปลี่ยวเหงาต้องทนอยู่กับความอดอยากไร้คนจะมาเหลียวแล แถมยังต้องดิ้นรนหาอาหารประทังชีวิตในแต่ละมื้อ
เช่นเดียวกับเจ้าตูบรายนี้ หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sorasart Wisetsin ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้ลงบนเฟสบุ๊กหลังจากที่เขาและทีมงานได้ไปถ่ายทำรายการซึ่งในระหว่างนั้นตากล้องของเขาก็ได้ไปเล่นกับสุนัขจรที่อยู่บริเวณหน้าเซเว่นซึ่งพอเสร็จแล้วเขาก็ได้กลับมายังที่พัก
ซึ่งหลังจากนั้นหลังกลับถึงที่พักกลับพบสุนัขหน้าตาคุ้นๆมายืนรออยู่ที่หน้าประตูห้องดังกล่าว โดยที่เจ้าตูบตัวนี้เป็นหมาหน้าเซเว่นที่ตากล้องไปเล่นด้วยระหว่างการรอถ่ายทำรายการ ซึ่งจากระยะทางหน้าเซเว่นดังกล่าวมาถึงที่พักน่าจะอยู่ราวๆ 500 เมตรโดยที่เจ้าตูบนั้นได้วิ่งตามรถมาด้วย
เพราะด้วยการที่มีคนมาเล่นด้วยจึงทำให้เจ้าตูบสะกดรอยตามมายังที่พัก เมื่อนางมาถึงก็มานั่งหน้ายิ้มอยู่ที่หน้าประตูซึ่งเป็นบริเวณชั้นสองอีกด้วยไม่รู้ว่าแอบขึ้นมาได้ยังไงกัน แต่มาถึงขนาดนี้แล้วทางทีมงานเลยให้ไก่ให้กินไปหนึ่งกล่อง เรียกได้ว่าทั้งอิ่มอกอิ่มใจทั้งคนทั้งหมากันเลยทีเดียว
งานนี้เลยเรียกทั้งรอยยิ้มและความสุขให้กับทางผู้คนในโลกออนไลน์เป็นอย่างมากและก็ดูเหมือนว่าน้องจะเป็นสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าน้องเป็นสุนัขจรหรือเป็นสุนัขมีเจ้าของกันแน่ แต่ที่รู้ๆนั้นคือน้องฉลาดเอามากๆเลยทีเดียว ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะติดตามเรื่องราวดังกล่าวก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยจ้า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sorasart Wisetsin
แมวจรสายบู้สู้ไม่ถอยตั้งแต่เป็นแมวจรมา5ปี พี่ก็มีเรื่องมาทุกวันถ้าวันไหนไม่มีเรื่องเดี๋ยวนอนไม่หลับ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Monruedee Meethong ได้เผยเรื่องราวของเจ้ามู่ทู่ เจ้ามู่ทู่เป็นแมวจรสายบู้สู้ไม่ถอย เห็นน้องอยู่อย่างนี้มา 5 ปีแล้ว พี่เขามักจะออกไปสู้ศึกอยู่เป็นประจำ เจอหน้ากันทีไรก็เห็นได้แผลมาทุกที ใจนึงก็อยากจะเลี้ยงน้องเอาไว้ที่บ้าน แต่เฮียแกรักอิสระไม่ยอมให้จับง่ายๆ
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มาอีกแล้ว "มู่ทู่" แมวจรขาใหญ่ประจำกรม 5ปีแล้วที่เห็นกันมาตั้งแต่นางเล่นตัว,ไม่ยอมเข้าใกล้ ทั้งที่เราอยากจะเอามาเลี้ยงที่บ้าน แต่นางเขาสมัครใจที่จะมีชีวิตอิสระ เดินเข้าได้ทุกบ้านที่มีอาหารวางให้ บางวันไปออกศึกมาหน้าตาบวม ยับเยินตลอด
แต่นางอึดมากไม่ยอมให้จับ ได้แต่ใส่ยาให้นาง และนางก็หายเอง แต่ตอนนี้เริ่มจะมาวนเวียนใกล้บ้านบ่อยขึ้นเรื่อยๆเพราะน้องเราเค้าจะเลี้ยงข้าวแมวจรในกรมทุกเช้าก่อนไปทำงานอยู่เป็นประจำและมู่ทู่ก็จะมานั่งรอเป็นตัวแรกเพื่อกินอาหาร ทุกวัน วันนี้ยอมให้เข้าใกล้ที่สุดแล้วนะ "มู่ทู่ แมวพันปี
และดูเหมือนน้องจะเป็นแมวสายพันธุ์นะเพราะรูปร่างของน้องใหญ่มาก เป็นแมวจรมาก็หลายปีแล้วน้องน่าจะหลุดมา ถ้าเฮียแกได้อยู่ในบ้าน อาบน้ำทำความสะอาด ดูแลร่างกายของเฮียแกดีๆแอดเชื่อว่ามู่ทู่จะต้องเป็นแมวที่น่ารักมากๆ ขนาดยับเยิบขนาดนี้เฮียแกยังน่ารักเลย เบาๆบ้างนะลูกไม่ต้องออกศึกมากก็ได้ร่างกายไม่ใช่หุ่นยนต์นะที่จะไปสู้รบกับเขาแทบทุกวัน
ขอขอบคุณ : Monruedee Meethong
อุ้มสุนัขเดินเท้าเปล่ามาหาหมอตอนเที่ยงคืน ควักเงินก้อนสุดท้ายที่มีแม้ตัวจะเหนื่อยแต่หมาจะต้องรอดให้ได้
เพราะในชีวิตคนเรานั้นการมีเงินหรือมีทรัพย์สินมากมายก็ใช่ว่าจะมีความสุขมากมาย บางคนรวยเป็นพันๆล้านแต่ก็ไร้ซึ่งความสุข ซึ่งในหลายๆครั้งเรามักจะเห็นมุมน่ารักที่ดูแล้วช่างอุ่นใจเพราะแม้จะไม่ต้องมีมากมายใดๆแต่ก็มีความสุขกายสบายใจเมื่อได้อยู่ร่วมกัน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Watchaparn Kraiphop ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของคุณป้าและสุนัขตัวนี้ หลังจากที่คุณป้าได้พาสุนัขมาหาหมอแต่ทว่าคุณป้ามีเงินไม่พอ คุณป้ามาถึงตอน 5 ทุ่มสิบหกนาทีซึ่งร้านก็กำลังจะปิดแล้ว ป้าก็ดันไม่มีเงินอีกแต่เคสนี้มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีและจรรยบรรณของแพทย์จึงต้องทำ
ซึ่งน้องหมาของคุณป้านั้นตกอยู่ในอาการที่น่าเป็นห่วงและด้วยความรักที่คุณป้ามีต่อสุนัขตัวนี้ถึงจะมีเงินแต่ไม่พอ ก็ยังยอมที่จะมาขอให้คุณหมอช่วยรักษาและช่วยชีวิตสุนัขอันเป็นที่รักเอาไว้ เพราะเค้าคือแก้วตาดวงใจของคุณป้า และโดยระหว่างที่รอคุณหมอนั้นคุณป้าเองก็ได้เผลอหลับไป
แต่ทว่าถึงแม้ตัวจะเหนื่อยจะง่วงเพียงใดในอ้อมกอดนั้นก็ยังคงไม่ปล่อยมือออกไปจากสุนัขอันเป็นที่รัก เรียกได้ว่าเป็นภาพที่เรียกความสุขได้จริงๆ เพราะถึงแม้จะไม่ต้องมีมากมายแต่ขอเพียงคนที่รักอยู่ด้วยก็สุขใจพอแล้ว หลังการช่วยน้องนั้นก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และช่วยลูกสุนัขออกมาได้อย่างปลอดภัยทั้งแม่และลูก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Watchaparn Kraiphop