หน้าแรก บล็อก หน้า 536

เปิดไฟส่องต้นไม้ไว้กลางคืนถึงเช้า เดินมาดูตกใจทำไมแมวนอนท่านี้ นอนตาค้างสู้แสงคอย่น พุงไม่หายใจ

หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงแมวหรือสัมผัสกับการเลี้ยงแมวมาบ้างแล้ว ก็อาจจะเข้าใจพวกเขาได้บ้างเพราะแมวนั้นมักจะมีนิสัยไม่เหมือนใคร เพราะในบางครั้งเราก็ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังทำได้เพราะในความอิ้นดิ้นั้นทำให้เราไม่รู้ได้เลยว่าพวกเขานั้นคิดอะไรอยู่ เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวสุดมึนที่มีชื่อว่า เจ้าโตโร่ ตัวนี้หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thanachat Sanchang ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดมึนมาโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เขานั้นจะเปิดไฟส่องต้นไม้เอาไว้ในตอนกลางคืนจนถึงเช้า เพื่อช่วยในการสังเคราะห์แสงของต้นไม้ แต่ทว่าเมื่อเขานั้นกำลังจะเข้านอนจึงเดินมาดูกลับพบเจ้าเหมียวนอนตาค้าง ซึ่งทำให้เค้าตกใจเป็นอย่างมากจนถึงขนาดอุทานออกมาว่า ตู๊ยแน่นอนนอนท่านี้ คอย่นพุงไม่หายใจ ปกติจะไม่มานอนตรงนี้ชอบไปนอนในมุมไม่สุงสิงกับเรา แมวที่ไหนจะมานอนลืมตาสู้แสงนอกจากตู๊ยไปแล้ว เขานั้นจึงเอามือเอื้อมไปลูบหัวแล้วพูดว่าโถ่ไม่น่าเลยลูกเอ้ย คงเดินมาแถวๆนี้มาหาป๊าแล้วคงจะหมดลมไปก่อน แต่พอหันมาอีกทีมันหงุดหงิดใส่ที่ไปกวนมัน ปัดโถ่ก็นึกว่าเป็นอะไรไปแล้วที่ไหนได้นอนดูต้นไม้เพลินๆ ซึ่งบางทีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแต่น้องจะมานอนท่านี้ไม่ได้ ซึ่งเรื่องราวนี้ก็เป็นเรี่องราวอินดิ้ที่สร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆในกลุ่มเป็นอย่างมากอีกทั้งทำให้เราได้รู้ว่าในความอินดิ้ของเหล่าเจ้าเหมียวนั้นไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ เพราะไม่ว่าจะแมวตัวไหนก็มีความเป็นตัวเองค่อนข้างสูงมากๆ แต่ยังไงพวกเขาก็มีหัวใจนะอย่าลืมกันด้วยละ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Thanachat Sanchang‎

นั่งเรือข้ามเกาะมาด้วยตัวคนเดียว นอนรักษาตัวพอหายดีก็นั่งเรือกลับเองพร้อมเสบียงระหว่างทางจากคุณหมอ

เมื่อไม่นานมานี้แฟนเพจเฟสบุ๊ก : โรงพยาบาลสัตว์มะขามเตี้ย ได้เผยเรื่องราวสุดน่ารักของน้องป๊อกกี้ น้องนั่งเรือมาเองข้ามเกาะพะงันมานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์ 17 วัน พอน้องหายดีทางคุณหมอก็ส่งไปขึ้นเรือข้ามฝากกลับด้วยตนเอง แถมผูกเสบียงอาหาร ตอนมามาตัวเดียวตอนขากลับก็กลับเพียงตัวเดียว . โดยทางแฟนเพจได้เล่าว่า “ มาเองกลับเองได้  “ น้องแมวกล่าว น้องแมวชื่อว่าน้องป๊อกกี้น้องนั่งเรือมาจากพะงัน มานอนรักษาตัว อยู่ที่ โรงพยาบาลสัตว์มะขามเตี้ย 17วัน แต่ตอนนี้น้องหายป่วยแล้ว น้องจะกลับบ้านละ น้องตีตั๋วเรือนอน กลับเกาะพะงันตัวคนเดียว ตอนมาก็มาตัวคนเดียว น่ารักหลาย พี่หมอผูกเสบียงไปให้แล้วนะ มีน้ำเปล่า 1 ขวด อาหารเปียก 2 ซอง ไว้กินระหว่างทางนะป๊อกกี้ นี่ไงเสบียงของน้องทางคุณหมอได้เขียนข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หวังให้ใครสักคนช่วยให้อาหารน้องที เพราะน้องต้องเดินทางข้ามเกาะเป็นเวลากว่า 1 วันเต็มเพราะเป็นเรือนอน หลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ไปได้ไม่นานล่าสุด ทางคุณพ่อซึ่งเป็นเจ้าของแมวได้ส่งรูปมาให้กับคุณหมอว่าตอนนี้น้องถึงมือคุณพ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้องปลอดภัยดีจ้า จากการเดินทางในครั้งนี้ทำเอาเหล่าทาสแมวและคนรักสัตว์ต่างพากันยิ้มไม่หุบ และส่งต่อเรื่องราวสุดน่ารักของน้องป๊อกกี้   ขอขอบคุณ : โรงพยาบาลสัตว์มะขามเตี้ย

หนุ่มทาสแมวขอลองดีสักตั้ง หลังป้าที่รู้จักไอ้เทาเข้ามาบอกระวังนะถ้าจับไอ้เทาจะโดนมันฟัด

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nuttapong Phueakrak ได้เผยเรื่องราวของทาสแมวคนหนึ่ง ที่จู่ๆเขาก็ไปพบเจอกับแมวจรนอนอยู่พอดี ด้วยความเป็นทาสแมวเขาจึงเข้าไปเล่นด้วย เข้าไปลูบหับ แต่สักพักคุณป้าที่เดินผ่านกลับพูดกับเขาว่า ระวังไว้ด้วยนะ มันเป็นแมวดุ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เจอแมวอีกแล้วครับ เดินไปไหนก็เจอแต่แมว เจอปุ๊ปก็เล่นกะมันปั๊บ นวดๆหยุดๆนวดเส้นกดจุด พอผ่านไปสักพักมีป้าเดินมาแล้วพูดว่า"ไอ้เทามันดุนะ ใครเข้าใกล้มันจะขู่ ใครจับมันมันจะฟัด " ผมรีบเอามือออกในทันทีเลย พร้อมกับงงว่า อ้าวแล้วทำไมยอมให้ตรูจับว่ะ แล้วพูดกับไอ้เทาว่า "เอ็งลืมดุนะไอ้เทา จูนสมองหน่อยนะน้อง เอ็งคือแมวดุ จะมายอมแบบนี้ไม่ได้" ป้าคนนั้นได้ยินก็ยิ้มแล้วพูดอีกว่า "มันเลี้ยงไม่เชื่อง ใครแตะเนื้อต้องตัวมันไม่ได้เลย มันดุมาก" ก็งงทำไมแมวมันยอมให้ผมเล่น ดีนะมันไม่งับมือผม พร้อมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แมวดุยังมาอ้อนเรา เรานี่มันเก่งจุงเลย สงสัยน้องลืมตัวว่าเป็นแมวดุ ไม่ก็น้องอาจรู้ว่าคนที่กำลังมาเล่นด้วยเป็นทาสแมวและรักแมวจริงๆ น้องอาจจะสัมผัสอะไรได้บางอย่างนะ หรือตอนที่ป้ากำลังพูดว่าน้องดุน้องอาจกำลังคิดว่าโถ่ป้ามาพูดอะไรตอนนี้ ต้องทำหน้าเข้มทำหน้าดุอีกล่ะ แต่แอดเชื่อนะว่าแมวรู้ว่าใครรักมัน และรู้ว่าใครควรดุรู้ว่าใครไม่ควรดุอันนี้จากประสบการณ์โดยตรงเลย ฮ่าฮ่า แต่เรื่องนี้ก็จบลงด้วยดีนะ ทางหนุ่มผู้โพสต์ไม่ได้โดนงับโดนขู่แต่อย่างใด นี่แหละนะวิถีของทาสแมวเจอแมวไม่ได้ต้องพูดคุยต้องเข้าไปเล่นด้วย ขอขอบคุณ : Nuttapong Phueakrak

เดินร้องหาตัวพี่ใช้ชีวิตไปวันๆ จากที่เคยวิ่งเล่นก็ไม่กินไม่นอนซึมเศร้า เพราะพี่เขาจากเราไปแล้ว

เพื่อนๆหลายคนนั้นคงจะคิดว่าแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีหัวใจและคิดว่าพวกเขานั้นเห็นเราเป็นเพียงแค่ทาสเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วพวกเขาก็มีหัวใจและมีความรู้สึกผูกพันธุ์ไม่ต่างอะไรจากสุนัขหรือคนอย่างเราๆเลย เพราะเขานั้นก็มีชีวิตมีลมหายใจมีหัวใจเหมือนกับเรา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หากเพื่อนๆได้เคยอ่านเรื่องราวของเจ้าตูบที่เสียเพื่อนหรือผู้เป็นเจ้าของก็มักจะมีอาการตรอมใจ ที่เสียใจกับการสูญเสียซึ่งทั้งนี้เราก็ไม่ค่อยจะพบมากนักในแมวเท่าไหร่นักเช่นเดียวกับเจ้าเหมียวตัวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sirirak Anan ได้โพสต์ปรึกษาเพื่อนๆในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เจ้าเหมียวของเขานั้นมีท่าทีและอาการที่ผิดไปหลังจากที่เขานั้นเสียพี่ของเขาไป(แมว) เมื่อก่อนเธอก็จะเลี้ยงแมว 2 ตัวให้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาซึ่งตอนนี้พี่ของเจ้าเหมียวนั้นได้เสียไปร่วมเดือนกว่าๆแล้ว โดยในช่วงแรกๆน้องก็จะมีอาการเดินหาตัวพี่และร้องเรียกหา ซึ่งหลังจากนั้นน้องก็เริ่มใช้ชีวิตไปวันๆหิวก็กินถึงเวลาก็นอนไม่ชอบยุ่งหรือพบปะกับใครเลยจากที่เคยซนเที่ยวเล่นเดี๋ยวนี้ก็ซึมเหงาๆ ซึ่งทางผู้เป็นเจ้าของเองก็กลัวว่าน้องนั้นจะตรอมใจจึงได้มาสอบถามกับเพื่อนๆในกลุ่มเพื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เพราะชีวิตที่เคยอยู่ด้วยกันมาตลอดเมื่อตอนอยู่ด้วยกันตัวน้องก็มักจะแหย่ตัวพี่ให้โมโหอยู่เสมอ มาในวันนี้ไม่มีพี่อีกต่อไปแล้วเลยได้แต่กินแล้วก็นอนไม่เที่ยวเล่นเหมือนแต่ก่อนเพราะคงโหยหาและคิดถึงพี่ที่จากไปแล้ว ซึ่งทั้งนี้เพื่อนในกลุ่มก็ได้ช่วยกันแก้ปัญหาด้วยการบอกว่าให้หาแมวเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยงเป็นเพื่อนน้อง แต่ทางผู้เป็นเจ้าของเองก็กังวลใจเพราะคุณพ่อก็ไม่อยากได้แมวมาเลี้ยงอีกเนื่องจากเสียใจจากตัวพี่ที่เสียไปและกลัวว่าจะต้องเสียใจแบบนั้นอีก ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าแมวนั้นเป็นสัตว์ทีมีความเครียดสูงมากๆพวกเขาสามารถเคลียดจนสิ้นใจได้เลยทีเดียวยังไงก็อย่าลืมดูแลเอาใจใส่พวกเขาให้มากๆอาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sirirak Anan

อาศัยอยู่บนต้นไม้ร่วมปีเพราะแถวนี้มีหมาเกือบ30ตัว หลังถูกเอามาปล่อยไม่เคยได้วิ่งเล่นใช้ชีวิตในโลกกว้าง

ในวันที่ชีวิตเราแย่หรือต้องผ่านต้องเจอกับเรื่องร้ายๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต อยากให้ลองมองไปรอบๆตัวเราที่หลายคนนั้นเจอเรื่องที่หนักกว่าเราหลายๆเท่า ยิ่งไปกว่านั้นคือสัตว์จรเหล่านี้ที่ไม่มีแม้แต่เสียงจะพูดเป็นภาษาคนที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากใครๆ ได้แต่ดิ้นรนหาหนทางเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองซึ่งหากไม่มีคนมาคอยช่วยเอาไว้ป่านนี้ก็คงจะสิ้นใจไปนานแล้ว หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า พรรณผกา อักษรสวาสดิ์ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของสองเจ้าเหมียวจรรายนี้ลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เธอนั้นพบน้องอาศัยอยู่บนต้นไม้ อยู่แบบนี้มานานกว่าร่วมปีเพราะเธอเองเป็นคนนำอาหารมาให้น้องๆ ซึ่งเธอก็ไม่สามารถที่จะจับน้องๆได้ โดยเธอได้เล่าว่าพวกน้องๆนั้นต้องอยู่แต่บนต้นไม้เพราะบริเวณดังกล่าวนั้นมีหมากว่า 30 ตัว ซึ่งหลังจากที่พวกน้องๆโดนผู้เป็นเจ้าของเก่าเอามาปล่อยไว้ก็ได้แต่อยู่บนนั้น แถมไม่สามารถที่จะจับตัวได้เลยเพราะน้องๆหวาดระแวงผู้คน ไม่เคยได้เหยียบพื้นดินเหยียบพื้นโลกหรือแม้แต่จะวิ่งเล่นใช้ชีวิตอย่างอิสระ ซึ่งเมื่อก่อนนั้นมีแมวเยอะกว่านี้แต่คาดว่าน่าจะถูกหมาฟัดไปจนสิ้นเหลือเพียงเจ้าสองตัวนี้เพียงเท่านั้น เธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ เพื่อที่จะปรึกษาเพื่อนๆในกลุ่มเพราะอยากจะช่วยพวกน้องๆให้ออกไปจากตรงนี้เสียที ซึ่งทั้งนี้ก็อยากวอนหน่วยงานใดที่พอจะช่วยเหลือพวกน้องๆได้ก็วอนเข้าช่วยเหลือทีหรือเพื่อนๆคนไหนมีกำลังทรัพย์หรือกำลังแรงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ อยากจะให้น้องๆอยู่กันอย่างอิสระจะได้ไม่ต้องคอยหวาดระแวงอยู่แต่บนต้นไม้แบบนี้อีกต่อไป ขอขอบคุณข้อมูลจาก พรรณผกา อักษรสวาสดิ์

อุ้มลูกหมาวิ่งหนีไฟที่กำลังไล่เข้ามา หลังแม่หมาตกใจหนักเห็นไฟลุกไหม้คาบลูกหนีเพราะเป็นห่วงลูก

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ประชากร แก้วเคน ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอกับหนูน้อยคนหนึ่ง หนูน้อยคนนี้กำลังนั่งเฝ้าลูกหมาอยู่ที่ข้างถนน ตอนแรกเขาคิดในใจว่าสงสัยน้องเกิดอุบัติเหตุ จากการสอบถามแท้ที่จริงแล้วน้องกำลังเฝ้าลูกหมา ส่วนคุณป้ากำลังวิ่งเข้าไปในจุดที่ไฟไหม้เพื่อช่วยลูกหมา . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ประสบการณ์ระหว่างเดินทาง ผมขับรถผ่านเส้นแก่งคอยมุ่งหน้าบ้านนา เห็นเด็กผู้หญิงนั่งอยู่ข้างถนน ในตอนแรกผมคิดว่าน้องได้รับอุบัติเหตุผมและแฟนจึงได้จอดรถแล้วรีบลงไปดู แต่สิ่งที่เห็นคือน้องและป้า ได้พยายามช่วยกันหาน้องหมาที่เพิ่งคลอดในโพรงหญ้า ที่กำลังเกิดไฟไหม้ จากการสอบถามป้าว่ารู้ได้ยังไงว่าหมามาคลอดลูกตรงนี้ ป้าแกบอกมาเอาอาหารมาให้น้องทุกวัน วันนี้ป้าแกไปรับหลานที่โรงเรียนและระหว่างทางกลับบ้านเห็นไฟกำลังลุกไหม้ป่าแกเลยรีบมาหาน้องหมาเพื่อที่จะนำไปที่บ้านกลัวน้องจะเป็นอะไร กว่าจะหาจนครบ8 ตัว โดนหญ้าบาดแขนกันไปคนละหลายแผล ที่ค้นหาเพราะแม่หมาคาบลูกไปอยู่คนละทิศละทาง แต่ป้าแกจำได้ว่ามี8 ตัว ขอให้ป้าพบแต่สิ่งดีๆครับกับบุญครั้งนี้ และลูกหมาทุกตัวก็ปลอดภัยด้วยความรักที่มีต่อหมาของคุณป้าท่านนี้ ชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวในกลุ่มรักหมาจัง ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวคำขอบคุณให้กับคุณป้าท่านนี้ ที่ยอมเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยลูกหมาที่เพิ่งเกิด ถ้าคุณป้าไม่เข้าไปช่วยเราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าน้องหมาเหล่านี้จะรอดชีวิตหรือไม่ ขอขอบคุณนะครับคุณป้า   ขอขอบคุณ : ประชากร แก้วเคน

ได้ยินเสียงแม่นอนร้องไห้ ยอมอดข้าวรีบวิ่งมาหาเฝ้าทั้งคืนด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าแม่จะเป็นอะไรไป

ในบางครั้งเพื่อนๆเคยคิดกันมั้ยว่าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรานั้นรักเราบ้างหรือไม่ เช่นสัตว์เลี้ยงจำพวกเจ้าเหมียวทั้งหลายที่หลายคนคิดว่าพวกเขานั้นไม่มีหัวใจและมองเราเป็นแค่ทาสเพียงเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพวกเขาก็มีหัวใจและรักเราไม่ต่างไปจากสุนัขเลยแหละ เพียงแต่เขาไม่ได้แสดงออกมาเท่านั้นเอง เช่นเดียวกับสาวผู้เป็นเจ้าของรายนี้หลังจากที่เธอนั้นได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดที่รักของเธอ หลังจากที่วันหนึ่งเธอนั้นปวดหัวไมเกรนเพราะการมีรอบเดือน ซึ่งเธอก็จะปวดอยู่แบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วแต่ทว่ารอบนี้นั้นปวดจนเธอทนไม่ไหวถึงกับร้องไห้ออกมา และด้วยความเจ้าเหมียวของเธอหิวข้าวเจ้าเหมียวก็มาร้องเรียกที่ข้างที่นอนเพราะถึงเวลาที่จะต้องกินข้าวของน้องแล้ว ซึ่งเธอเองก็ลุกไม่ไหวจึงวานให้แฟนไปเทข้าวให้น้องที่ แต่ทว่าโดยปกตินั้นแฟนของเธอกับเจ้าเหมียวก็ไม่ค่อยจะสนิทกันเท่าไหร่นัก ซึ่งในวันเองแฟนของเธอก็เดินไปเทข้าวให้เจ้าตัวอ้วนแทน แล้วแฟนของเธอก็ได้บอกกับเจ้าเหมียวว่า อ้วนแม่เค้าไม่สบายอ้วนไม่ไปดูแม่หน่อย และสิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าเหมียวตัวอ้วนที่กำลังกินข้าวด้วยความหิวอยู่ จู่ๆก็เดินออกไปจากจานข้าวที่ยังกินไม่เสร็จและเดินไปหาผู้เป็นแม่ที่นอนป่วยจมอยู่ที่เตียง ซึ่งเธอยังได้บอกอีกว่าปกติแล้วอ้วนจะไม่ขึ้นเตียงเพราะกลัวพ่อดุ แต่ในวันนี้อ้วนมานั่งเฝ้าแม่ทั้งคืน แถมพอตกดึกก็มาเดินวนเวียนอยู่ใกล้ๆแม่ไม่ห่างซึ่งเมื่อเธอร้องไห้ออกมาเจ้าเหมียวก็กระโดดขึ้นมาที่หน้าอกและมาเลียที่หน้าราวกับว่ากำลังบอกแม่ว่าอย่าร้องนะแม่นะ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้บอกอีกว่าน้องนั้นเป็นแมวที่ถูกผู้เป็นเจ้าของเก่าทิ้ง ซึ่งก็ต้องขอบคุณเจ้าของเก่ามากๆที่ทำให้เราได้เจอกัน และก็อยากจะฝากทาสเอาไว้ด้วยว่าจริงๆแล้วแมวทุกตัวก็รักผู้เป็นเจ้าของไม่ต่างจากสุนัขเลยเพียงแต่พวกเขาไม่แสดงออกมาให้พวกเราได้เห็นเท่านั้นเอง ขอขอบคุณข้อมูลจาก LadyAnocha Pcs

เล่าทั้งน้ำตาหัวอกแม่ หลังใช้ชีวิตร่วมกับแฟนที่ไม่ชอบแมว และต้องปล่อยให้แมวอยู่กับแฟนเพียงลำพัง

เพราะมีหัวใจคนละดวง หัวจิตหัวใจความรักต่อสิ่งต่างๆก็ต่างกันออกไปซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงหรือบังคับกันไม่ได้ ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบแต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นความจริงก็คือสัตว์ทุกชนิดนั้นล้วนแต่มีหัวใจและมีความรู้สึกนึกคิด ซึ่งเพื่อนๆหลายๆคนอาจจะต้องเคยประสบกับปัญหาแฟนไม่ชอบแมว เช่นเดียวกับผู้ใช้เฟสบุ๊ครายนี้หลังโพสต์เล่าเรื่องของเจ้าเหมียวสุดน่าสงสารลงในกลุ่ม ทาสแมว Offical หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีโพสต์จากเพื่อนๆในกลุ่มเล่าเกี่ยวกับปัญหาแมวและแฟนของเขา เธอจึงได้มาเล่าเรื่องราวของเธอบ้างผ่านทาง               โลกออนไลน์ ซึ่งตัวเธอเองก็ประสบปัญหากับแฟนที่ไม่ชอบแมวเหมือนกัน โดยเธอเลี้ยงเจ้าเหมียวที่มีชื่อว่า สมาย มาตั้งแต่ 3 เดือนจนตอนนี้ 4 ขวบแล้วเธออยู่กับแมวทุกวันจนรู้นิสัยของแมวตัวเองดี ซึ่งตอนสมาย 2 ขวบกว่าๆเธอก็มีแฟน ตอนแรกๆแฟนก็ชอบแมวดีแต่พออยู่ไปได้สักพักกลับเริ่มไม่ชอกบอกให้เอาไปปล่อย บอกว่าขนมันติดเสื้อ ซึ่งเธอเองทำงานเช้าส่วนแฟนของเธอทำงานเย็น แฟนของเธอจึงต้องอยู่กับแมวตลอดซึ่งเธอเองก็กลัวว่าแฟนของเธอนั้นจะทำอะไรแมว เพราะทุกวันหลังเลิกงานมาต้องลุ้นว่าแมวจะอยู่มั้ย กลัวว่าแฟนจะเอาแมวไปปล่อยเวลาที่เธอนั้นกอดแมวตัวเองแฟนก็จะไม่พอใจ ซึ่งแฟนเธอเคยพูดไว้ว่าทำไมต้องรักแมวมากกว่าคนและก็ไม่มีเหตุผลขึ้นเรื่อยๆ โดยหลังจากที่เธอเลิกงานทุกวันเธอก็จะมาอุ้มน้องอยู่เป็นประจำและวันหนึ่งเธอก็สงสัยว่าทำไมขนของแมวเธอมันสั้นๆลงหางทีฟูๆก็ไม่ฟูเหมือนเดิม ซึ่งเธอโกรธมากสิ่งเดียวที่เธอคิดในตอนนั้นก็คือแฟนของเธอนั้นตัดขนของน้อง และมันก็เป็นอย่างที่เธอคิด โดยแฟนเธอบอกว่าไม่ชอบมันมีขนเลยตัด หลังจากนั้นก็มีอีกครั้งนึงกลับมาห้องน้องแมวมีแผลที่ปาก เธอก็สังเกตุว่าทำไมน้องหนวดกุดแถมฟันน้องหักไม่รู้ว่าหักตอนไหนเธอจึงคิดว่าเค้าคงจะตัดหนวดแมวและเกิดพลาดไปโดนฟันเลยทำให้เป็นแผลที่ปากซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ผ่านไปแต่ทว่ามันกลับหนักมากขึ้นเรื่อยๆเพราะหลังจากนั้น เธอกลับมาที่ห้องเห็นว่าหน้าต่างเปิดเอาไว้ซึ่งเป็นคอนโดชั้นสูง ใจของเธอนั้นตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะความกลัว พอเธอถามแฟนของเธอแฟนกลับตอบมาว่าแมวมันฉลาดไม่กล้ากระโดดหรอก ซึ่งก็มีอีกครั้งที่แรงมาก คือทุกครั้งที่เธอกลับมาห้องน้องแมวกลับไม่ร้องทักเหมือนเดิมและเธอก็ต้องเดินหาซึ่งเจ้าเหมียวนั้นไปแอบหลบอยู่ที่มุมห้องและลุกเดินไม่ได้ วิ่งไม่ได้ตัวอ่อน ซึ่งพอเธอถามแฟนเธอเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรน้อง ซึ่งเธอเองก็ไม่เชื่อเรื่องที่เขาบอก จนในที่สุดก็ไล่เขาออกไปจากชีวิต และมันก็เป็นจริงที่เขานั้นได้ทำกับแมวอย่างทีเธอคิดซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆไว้ด้วยหากว่ามีแฟนเป็นคนที่ไม่ชอบสัตว์อาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้อย่างเช่นเจ้าเหมียวสมายตัวนี้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก ผมชื่อ สมาย ครับ

แฟนโกรธจัดลั่นวาจาแมวจะต้องไปอยู่ที่อื่น หลังโดนแมวฟัดฉีดยาไป8เข็ม

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Pooklook Mewnoy ได้เผยเรื่องราว ระหว่างแมวของเธอกับแฟนหนุ่ม โดยแมวของเธอนั้นเริ่มโตเป็นหนุ่มแล้วอารมณ์เริ่มไม่คงที่ แมวของเธอก็ดันไปงับเข้าที่แขนของแฟนเพราะแฟนดันไปจับตัวน้องตอนน้องกำลังอารมณ์ไม่ดี แฟนของเธอก็เลยถูกฉีดยาไป 8 เข็ม . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เนื่องจากแฟนโดนแมวงับต้องฉีดยาไปที่แผลกว่า 8 เข็ม ทำให้แฟนเราโมโหแมวมากบอกให้เราเอาแมวไปอยู่ที่อื่น คนอย่างเราการไล่แมวเท่ากับเหยียบเรา ตอนเย็นเราตั้งใจกลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าแฟนเห็นเข้าก็เลยถามจะไปไหน เราก็ตอบกลับไปว่าจะกลับไปอยู่บ้านจะพาแมวไปด้วย ในเมื่อเธอไล่แมวของฉันออกจากบ้านฉันก็จะไปกับแมวด้วย พอแฟนได้ยินเท่านั้นแหละแฟนเราทำเสียงอ่อนลงทันที ทีหลังตัวเองก็อย่าให้แมวมางับเค้าอีกนะ เรื่องนี้ก็เลยจบลงกันด้วยดี ช่วงนี้แมวก็เริ่มโตแล้วอารมณ์ของน้องไม่ค่อยคงที่สักเท่าไหร่ ชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวต่างกล่าวกันว่า ถ้าจะรักฉันต้องรักแมวฉันด้วย บ้างก็เข้ามาสอบถามว่าทำไมน้องไปงับแฟนได้ละ แฟนไปทำอะไรให้หรือเปล่า เธอก็เลยเข้ามาตอบกลับว่าแฟนของเธอเข้าไปห้ามในตอนที่แมวกำลังฟัดกัน มันเป็นสิ่งต้องห้ามเลยนะเวลาแมวฟัดกันอย่าไปห้ามให้หาวิธีอื่นห้ามจะดีกว่า ไม่งั้นอาจโดนลูกหลงเหมือนแฟนหนุ่มของเธอได้ วิธีการไล่แมวฟัดกันที่ดีที่สุดคือการสะบัดน้ำใส่ เพราะแมวไม่ชอบน้ำถ้าแมวโดนน้ำน้องจะปล่อยกันในทันที ลองทำตามดูได้นะ ไม่ก็ใช้ฟ็อกกี้ฉีดไปที่ตัวน้องก็ได้ น้องจะตกใจและปล่อยออกเอง อย่าเอามือเข้าไปห้ามนะเพราะในตอนนั้นแมวจะอารมณ์แปรปรวนในช่วงเวลานั้นเขาจะจำเจ้าของไม่ได้เลยนะ ต้องใช้น้ำดีที่สุด ที่มา Pooklook Mewnoy

หมาน้อยหนักเพียง6ขีด กลับมาน่ารักอีกครั้งหลังสาวใจดีพบเจอและชุบเลี้ยงจนเติบใหญ่

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎ปทุมพร ดุจประยูร‎ ได้เผยเรื่องราวและพัฒนาการของลูกหมาตัวหนึ่ง น้องเป็นลูกหมาตัวน้อยที่ตอนที่พบเจอน้ำหนักมีเพียง 6ขีด น้องจึงถูกปล่อยไว้ด้วยสภาพที่สาวใจดีเข้าไปเจอเห็นแล้วต้องช่วยเหลือในทันที และเธอก็อยากให้น้องมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากให้น้องมีเจ้าของ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ตอนนั้นแม่เก็บหนูมารักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ น้องถูกปล่อยไว้ แต่ตอนนี้หนูสวยหรือยังคะ แต่แม่บอกหนูเป็นหมาเมียงชัดๆ ฮ่าฮ่าฮ่า จิ๋วแจ๋วหมาที่ศาลากลางเชียงใหม่ หมาจรศาลากลางเชียงใหม่ น้องเป็นหมาตัวเมีย ตอนช่วยเหลือน้องไว้ชาวเน็ตคิดว่าเป็นลูกหนูเพราะนำหนักของน้องมีเพียง 6 ขีด ตัวเบามาก สาวเจ้าของจึงรักษอยู่นานจนน้องหายดี เพราะน้องเป็นเรื้อน ขนเริ่มขึ้นกลับมาสวยงามอย่างที่ควรจะเป็น  และดูเหมือนว่าน้องจะเป็นสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานด้วยนะ ดูสิ เจ้าของเก่าจะเสียดายน้องมั้ยถ้าคุณเลี้ยงให้ดีน้องก็จะน่ารักแบบนี้แหละ ขอบคุณสาวผู้โพสต์ด้วยนะที่ช่วยชุบชีวิตน้องเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวคำชื่นชมให้กับสาวใจดีที่ช่วยเหลือน้องไว้ และน้องหมาเองก็จะรักและซื่อสัตย์กับคุณไปตลอดกาล   ขอขอบคุณ : ‎ปทุมพร ดุจประยูร‎