เจอลูกแมวเกิดรู้สึกหลงรัก เดินไปซื้อขนมแมวกะจะล่อเข้าบ้าน แต่ลุงข้างบ้านกลับนำไปปล่อย
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Ruch Ngerncharoen ได้เผยเรื่องราวของลูกแมวตัวน้อยที่เขาได้พบเจอน้องนั้นอยู่หน้าบ้าน เขารู้สึกถูกชะตาน้องและอยากพาน้องเข้าบ้านเป็นอย่างมาก แต่เขาเองก็ต้องรีบไปทำงานในตอนเช้า เดินไปซื้อขนมเตรียมล่อแมวเข้าบ้านอย่างดิบดี แต่พอมาถึงลุงข้างบ้านบอกเอาน้องไปปล่อยแล้ว
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เมื่อเช้าเจอลูกแมวถูกนำมาปล่อยที่หน้าบ้าน น้องอ้อนเก่งด้วย น่ารักมาก เลยคิดว่าจะเก็บมาเลี้ยง พอตกเย็นก็เลิกงานเดินไปซื้อขนมมาล่อกะจะพาน้องเข้าบ้าน พอไปถึงหน้าบ้านกลับหาน้องไม่เจอ แล้วข้างบ้านก็บอกว่าจับไปปล่อยแล้ว รูู้สึกถูกชะตามากแล้วโดนแบบนี้จุกจนพูดไม่ออกเลย
และหนุ่มผู้โพสต์ยังได้กล่าวอีกว่าน้องน่ารักมาก แต่เสียดายที่ได้ถ่ายเก็บเอาไว้แค่ 3 รูปและใครจะคิดว่า 3 รูปนี้จะเป็นรูปสุดท้ายที่ได้ถ่ายไว้ และคนที่นำน้องไปปล่อยเป็นคนแก่อายุมากแล้ว เขามีความเชื่อว่าแมวดำจะนำพาโชคร้ายมาให้ เขาก็เลยสวนกลับไปว่าขนาดลุงตัวดำแมวเขายังไม่ว่าอะไรลุงเลย ทำไมต้องทำกับน้องแบบนี้ด้วย
แต่ข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้าง หลังเขาตามหาน้องอยู่หลายชั่วโมง ลุงเขาก็มาบอกว่าปล่อยไว้ตรงข้ามถนนนี่เอง ไม่ไกลกันมากพอสักพักมีคนใจบุญไปเจอน้องเข้าและเก็บน้องไปเลี้ยงแล้ว ก็อย่างว่าแหละตัวเขาเองไม่มีวาสนาที่จะได้เลี้ยงแมว เดินตามหาซะทั่วเลยทั้งวัดทั้งตลาด โถ่ลูกเอ้ย
ที่มา Ruch Ngerncharoen
เป็นแมวพันธุ์มีเจ้าของแต่เลี้ยงแบบปล่อยกว่า10ชีวิต ต้องหากินเองใช้ชีวิตนอนใต้ท้องรถเยี่ยงแมวจร
เพราะการนำสุนัขหรือแมวมาเลี้ยงนั้นเท่ากับการเพิ่มภาระให้กับตนเอง ทั้งเรื่องของเวลาและการดูแลเอาใจใส่ ซึ่งเราก็มักจะย้ำบอกกับเพื่อนๆว่าให้เตรียมความพร้อมให้ดีก่อนที่จะนำหรือเอาพวกเขามาเลี้ยง มิเช่นนั้นปัญหาการถูกทิ้งก็จะตามมาเช่นเดียวกับเจ้าเหมียวเหล่านี้
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thayida Lovekhun ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวแมวพันธุ์เปอร์เซียที่แอบมานอนอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะมีเจ้าของแต่กลับถูกปล่อยปละละเลยเลี้ยงแบบปล่อยให้อยู่ตามข้างถนน แถมยังมีกันหลายตัว
โดยบ้านที่น้องอาศัยอยู่นั้นเป็นบ้านเช่าและมีแมวมากกว่า 10 กว่าชีวิตซึ่งเธอได้เดินไปดูที่บ้านของน้องมากลิ่นก็ลอยเตะจมูกออกมาเลย แต่เจ้าของน้องไม่อยู่แล้วน้องก็น่ารักมากๆให้จับด้วย ซึ่งเธอจึงนำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่ม ทาสแมวเพราะเป็นห่วง
ในเรื่องความปลอดภัยของน้องๆแถมยังเอาข้าวเปล่าให้น้องๆกินเพราะดูแล้วน้องๆน่าจะหิว ซึ่งน้องก็กินแบบไม่เลือก แต่ถึงยังไงเธอก็จะพยายามเช็คให้แน่ใจอีกทีว่าแมวเหล่านี้ยังเป็นที่ต้องการของผู้เป็นเจ้าของเก่าอยู่หรือไม่ มิเช่นนั้นก็อยากที่จะหาบ้านให้กับน้องๆต่อไป
น้องๆจะได้ไม่ต้องมาทนตากแดดเร่รอนแบบนี้อีก เพราะอันตรายจากโลกภายนอกนั้นน่ากลัวไหนจะหมาไหนจะคนไหนจะรถยิ่งมานอนแอบอยู่ใต้ท้องรถแล้วด้วยก็กลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นมาได้ ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจติดตามเรื่องราวต่อไปก็สามารถติดตามไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอขอบคุณข้อมูลจาก Thayida Lovekhun
สาวโพสต์เตือนสติ หลังต้องเสียแมวสุดที่รัก เพราะปล่อยให้น้องเดินเล่นนอกบ้านเพียง 5นาที
เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงก็เหมือนกับการเลี้ยงเด็กตัวเล็กๆ ที่เราจะต้องดูแลเอาใจใส่เขาให้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อเลี้ยงแล้วพวกเขาก็เหมือนกับคนในครอบครัวของเรา ซึ่งเราก็มักจะบอกเตือนกับเพื่อนๆเสมอว่าการเลี้ยงสัตว์ในระบบเปิดนั้นเป็นสิ่งที่มีอันตรายอยู่รอบตัว
เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Artika Cholatharnsoonthorn ซึ่งได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์เพื่อที่จะเตือนสติเพื่อนๆที่เลี้ยงสัตว์ ซึ่งเธอนั้นก็ปล่อยให้น้องเดินเล่นแค่บนหลังคาบ้าน พอถึงเวลาก็จะเข้าบ้านในทุกๆวัน
แต่ทว่าวันนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้นน้องแมวของเธอนั้นได้หายตัวไป และเธอก็พยายามที่จะตามหาน้องจนไปเปิดกล้องวงจรปิดดูกลับพบว่าน้องได้หายไปบริเวณหลังคาบ้านดังกล่าวจึงได้เปิดหลังคาดูกลับพบงูเหลือมตัวใหญ่ ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะถูกกินเข้าไป
โดยในวันนี้น้องได้ช่วยชีวิตคนในบ้านเอาไว้เพราะถ้าวันนี้น้องไม่ถูกกินเข้าไปก็ไม่รู้เลยว่ามีงูอยู่ในบ้าน อีกทั้งหมาที่อาศัยอยู่ข้างหลังบ้านก็คงจะไม่รอดเช่นกัน ซึ่งพี่รปภ.ในหมู่บ้านได้มาบอกว่าเคยจับงูตัวนี้ได้มาแล้วครั้งหนึ่งจากบ้านหลังอื่นและได้นำมาปล่อยเอาไว้ที่ป่าหลังกำแพงบ้านของเธอ
ซึ่งคาดว่างูคงจะเลื้อยเข้ามาภายในบ้านอีกครั้ง โดยทั้งนี้ปกติน้องแมวก็ไม่ได้เลี้ยงอยู่ในระบบเปิด 100 % จะมีแค่ตอนที่ปล่อยออกมาเดินเล่นบนหลังคาเพียงแค่วันละ 5-10 นาทีเพียงเท่านั้น ซึ่งในทุกวันเรียกน้องเข้าบ้านน้องก็จะเดินกลับเข้ามาแต่ในวันนี้น้องไม่กลับมาอีกเลย จึงฝากเตือนเพื่อนๆพี่ที่เลี้ยงสัตว์ให้ระมัดระวังกันให้ดีเพราะอันตรายจากภายนอกนั้นอันตรายมากกว่าที่คุณคิดไว้เสมอ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Artika Cholatharnsoonthorn
สาวทาสแมวได้แต่ทำใจ แมวของเธอเริ่มไม่ไหวทุกอย่างดูช้าไปหมด รอนับวันกลับดาวแมว
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : วาทีรัตน์ มณีจันสุข ได้เผยเรื่องราวที่เธอนั้นต้องทำใจไว้ล่วงหน้าว่าแมวของเธอนั้นใกล้หมดลมเข้าไปทุกทีแล้ว โดยแมวของเธออยู่กับเธอมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กเพราะตอนนี้คุณปู่แมวก็มีอายุปาเข้าไป 19 ปีแล้ว และร่างกายของคุณปู่เองก็เริ่มไม่ไหวและแสดงออกมาเรื่อยๆ
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า คุณปู่แตงโมอายุ 19ปี เริ่มไม่กินข้าวกินปลาไม่มีเรี่ยวแรงมา 2-3วันแล้วแถมช่วงนี้คุณปู่เองยังมีกลิ่นปากกินอะไรก็อ๊วก ตอนนี้ได้แต่เตรียมใจและทำใจไว้แต่เนิ่นๆ พาน้องไปรักษากับคุณหมอแล้วคุณหมอบอกว่าอวัยวะภายในเริ่มเสื่อมแล้ว ตามอายุขัยของเค้า ตอนนี้เริ่มเตรียมใจไว้ค่ะ..เวลาที่เหลืออยู่จะอยู่เคียงข้างจะดูแลให้ดีที่สุด
ก่อนหน้านี้คุณปู่เองมีร่างกายแข็งแรงทุกอย่าง แต่พอพักหลังคุณปู่เริ่มช้าลงด้วยอายุขัยที่มากขึ้นถ้าเทียบกับคนแล้วคุณปู่จะมีอายุราวๆ 90-95 ปีเลยก็ว่าได้ ตอนนี้ทางเจ้าของทำได้เพียงอยู่เคียงข้างและจะดูแลคุณปูให้ดีที่สุด เพราะคุณปู่ร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้ว
ชาวเน็ตในกลุ่มทาสแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมช่วยกันส่งกำลังใจให้ เพราะการเลี้ยงสัตว์สิ่งหนึ่งที่ได้มาคือความรักความอบอุ่นและความผูกพัน แต่สิ่งหนึ่งที่คนเลี้ยงสัตว์จะต้องเจอคือการจากลาไม่ช้าก็เร็ว และเราจะต้องทำใจให้ได้ เพราะพวกเขามีอายุที่สั้นกว่าเรามากนัก แอดเองก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับคุณจะต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ และขอให้คุณปู่แข็งแรงอยู่รอดไปอีกนานๆนะ
ที่มา วาทีรัตน์ มณีจันสุข
หายไป 3 ปีเจอกันอีกทีที่หน้าร้านขายอาหารสัตว์ วินาทีนั้นดีใจจนอยากร้องไห้สุดท้ายความฝันก็เป็นจริง
เพราะการเลี้ยงแมวในระบบปิดนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมาก เพื่อความปลอดภัยจากโลกภายนอกอีกทั้งยังป้องกันแมวหายได้อีกด้วย โดยเรามักจะย้ำเตือนเพื่อนๆให้เลี้ยงแมวในรูปแบบที่ปิดเพราะถ้าวันนึงเขานั้นหายตัวไปเราไม่รู้เลยว่าเราจะได้เขาคืนมาอีกหรือไม่
เช่นเดียวกับเรี่องราวของเธอคนนี้ โดยผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แคทรียา จำนงมี ซึ่งเธอได้เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวแสนรักของเธอลงในกลุ่ม ทาสแมว Official หลังจากที่แมวของเธอนั้นได้หายไปนานกว่า 3 ปี ซึ่งเธอก็ได้พยายามที่จะตามหาน้องมาตลอดจนเกือบที่จะถอดใจ
เพราะเธอคิดว่าน้องคงไม่รอดแล้ว แต่แล้ววันนึงเธอได้ไปเอาอาหารแมวที่ร้านขายอาหารสัตว์ที่สั่งประจำ ซึ่งแว๊บแรกที่เธอได้เห็นแมวตัวนี้เธอก็คิดในใจว่าต้องใช่น้องแน่ๆ ซึ่งเธอก็ดีใจมากจึงได้ถามกับทางพี่เจ้าของร้านพี่เจ้าของร้านจึงได้บอกว่าน้องหลงมา ใจเธอตอนนั้นคือดีใจมากจนอยากที่จะร้องไห้ออกมาดังๆเลย
ซึ่งเธอเองก็พยายามที่จะเปิดรูปให้กับทางเจ้าของร้านดูและพยายามถามทุกอย่างว่าใช่น้องมั้ยจนทางเจ้าของร้านเองก็บอกว่าใช่ ซึ่งทางเจ้าของร้านก็พูดกลับมาว่าเอากลับไหม ตอนนั้นเธอตอบแบบไม่คิดเลยว่าเอากลับค่ะ ทั้งๆที่บ้านตอนนี้ก็มี 10 ตัวแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรเธอบอกว่าเธอสามารถดูแลได้
ซึ่งเธอก็จะนำน้องกลับไปบ้านเพื่อที่จะรักษาอาหารต่อไปเพราะน้องป่วยอีกด้วย ซึ่งทั้งนี้ก็ถือเป็นเรื่องราวที่น่าดีใจที่เพื่อนๆหลายๆคนในกลุ่มต่างก็พากันแสดงความยินดีเพราะมีไม่กี่รายที่แมวหายแล้วกลับมาพบเจอกันแบบนี้ ก็เลยอยากจะให้เพื่อนๆช่วยกันดูแลสัตว์เลี้ยงของตัวเองให้ดีเพราะอาจจะไม่โชคดีแบบสาวเจ้าของรายนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก แคทรียา จำนงมี
ถูกขังลืมมาหลายปี รอดมาได้เพราะชายผู้นี้พยายามเขี่ยอาหารเข้าช่องประตู เพื่อให้หลายๆชีวิตในนั้นได้มีชีวิตอยู่รอดต่อไป
ในทุกๆครั้งเราก็มักจะย้ำเตือนเพื่อนๆเสมอในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงว่าก่อนที่จะนำพวกเขามาเลี้ยงนั้นเพื่อนๆจะต้องเตรียมความพร้อมที่จะต้องดูแลเอาใจใส่ให้กับพวกเขา เพราะพวกเขานั้นก็เหมือนกับเด็กตัวน้อยๆที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เลี้ยงดู มิเช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาการทอดทิ้งตามมา
อย่างเช่นเจ้าเหมียวเหล่านี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เตือน ต่อผมระยอง ที่ได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เธอนั้นพบชายวัยกลางคนรายหนึ่งพยายามนั่งเขี่ยอะไรสักอย่างอยู่ที่หน้าประตู ซึ่งเธอจึงเขาไปดูและได้พบว่า ประตูดังกล่าวนั้นถูกปิดแบบนี้มาหลายปีแล้ว
แต่มีสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆหลายตัวที่ยังคงอยู่ในนั้นโดยที่ไม่สามารถที่จะออกไปไหนได้ มืดมากๆไม่มีแม้น้ำหรืออาหารหรือแสงสว่างยามค่ำคืน ซึ่งพอเธอได้ผ่านจุดตรงนั้นเธอก็เห็นชายรายนี้พยายามที่เขี่ยอะไรสักอย่างตรงช่องประตูด้านล่างที่เล็กมากๆ
ซึ่งพอมองไปด้านในก็มีน้องแมวกำลังกินอาหารที่พี่เค้าได้นำมาให้เลยสอบถามเรื่องราวว่าทำไมน้องแมวถึงอยู่ในนั้นหลายตัว โดยพี่ต๊อปได้นำอาหารมาให้กับน้องๆแมวในทุกๆวันหลังเลิกงานเป็นเวลานานกว่าเกือบปี ตั้งแต่รุ่นแม่แมวจนถึงลูกๆแม่แมวก็ผสมกันเองจนมีลูกมีหลาน
ทั้งนี้ถ้าน้องๆไม่ได้พี่เขาช่วยเอาไว้ก็คงจะแย่แน่ๆแต่ถึงยังไงก็อยากที่จะให้มีหน่วยงานต่างๆเข้ามาช่วยเหลือน้องทีเพราะถ้าปล่อยไว้น้องคงไม่รอดเข้าสักวันเพราะไม่มีใครดูแล ซึ่งเธอได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ หน้าโลตัสระยองห้องใกล้ๆกับร้านขายทุกอย่าง 20 ซึ่งพี่ต๊อปได้เคยแจ้งให้เจ้าของมาเปิดประตูแต่ก็ไม่มีใครมาไขกุญแจให้ทำได้เพียงแค่ให้อาหารน้องไปประทังชีวิตไปวันๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดือน ต่อผมระยอง
สาวร้องไห้ไม่หยุด ยืนขอร้องทั้งน้ำตาวิงวอนขอแฟนเลี้ยงแมวย้ำชัดหนูจะเอาหนูจะต้องได้เลี้ยงแมว
อาจจะเป็นเพราะว่าหัวใจของคนเรานั้นมีความอ่อนโยนต่อความมีเมตตาต่อสัตว์ไม่เหมือนกัน บางคนเห็นสัตว์ตัวน้อยๆก็รู้สึกสงสารบางคนเห็นแล้วก็อาจจะรู้สึกเฉยๆเพราะชีวิตแต่ละคนนั้นต้องเกิดมาพบเจอกับความดิ้นรน แต่ทว่าในบางครั้งความอ่อนโยนของหัวใจต่อคนเรานั้นก็เป็นสิ่งทีดี
แต่ทว่ามันก็อาจจะไม่ดีมากนักถ้าเกิดเราพบเจอเรื่องราวแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกับผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า น้องแมม เกาพุงแมวด้วยมือเปล่า ที่ได้มาเล่าเรื่องราวสุดน่ารักลงในกลุ่ม ทาสแมว หลังจากที่น้องสาวของเธอนั้นได้ไปพบเจ้าเหมียวตัวน้อยตัวสีส้มเข้า
ที่ถูกนำมาใส่ตระกร้าเพื่อที่จะหาบ้านแล้วเธอก็ได้ไปพบเข้า ซึ่งเจ้าเหมียวส้มตัวน้อยก็ได้หลุดออกมาจากตระกร้าในระหว่างที่เธอนั้นไปพบและร้องเหมียวๆ ซึ่งเธอเองนั้นมีหัวใจที่อ่อนโยนมากจึงทำให้เกิดความเมตตาและสงสารจึงอยากที่จะได้มาเลี้ยง
แต่ทว่าที่บ้านของเธอนั้นก็มีแมวอยู่แล้วสองตัว แฟนของเธอจึงไม่อยากจะให้นำมาเลี้ยงเพิ่มเพราะจะเกิดภาระแต่ด้วยความที่น้องสาวของผู้โพสต์นั้นเกิดความสงสารเจ้าเหมียวตัวส้มจึงร้องไห้และคุยกับแฟนว่าเธออยากได้และจะเอามาให้ได้ ต่อให้วันเกิดปีนี้จะไม่ได้ของขวัญเธอก็ยอม
จนในที่สุดแฟนของเธอก็จำเป็นต้องยอมพากลับไปหาเจ้าเหมียวส้มตัวน้อยและได้น้องมาครอบครองในที่สุด ซึ่งหลังจากนั้นเธอก็ได้พาเจ้าเหมียวตัวส้มนั้นไปหาหมอแล้วตรวจดูโรคต่างๆพร้อมกับทำวัคซีนเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับเจ้าส้มนั้นก็ได้มีชื่อใหม่เป็นที่เรียบร้อยโดยมีชื่อว่าเจ้าบิ๊กซี โดยทั้งนี้ก็อยากจะฝากแฟนทาสแมวหลายๆคนเอาไว้ว่าถ้าเจอแมวน่าสงสารอย่าให้แฟนของคุณเห็นเพราะคุณอาจจะได้แมวเพิ่มแบบทาสแมวรายนี้ฮาๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก น้องแมม เกาพุงแมวด้วยมือเปล่า และชมคลิป
https://www.facebook.com/showclip3/videos/356000865283148/
สาวทาสแมวได้แต่โทษตัวเอง และยังคงรู้สึกผิดที่ทำให้แมวสุดที่รักต้องจากไปเพราะความสะเพร่าของตัวเอง
เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้วเราก็จะต้องดูแลพวกเขาให้ดีเหมือนกับเด็กตัวน้อยๆที่ไม่รู้ประสีประสา เพราะสมองของพวกเขานั้นเทียบเท่ากับเด็กตัวน้อยๆที่ไม่สามารถคิดหรือรับรู้ได้เหมือนกับผู้ใหญ่ ซึ่งไม่ว่าอะไรก็ตามที่คาดว่าจะเป็นอันตรายต่อตัวพวกเขาเราก็ควรที่จะเก็บให้พ้นมือพวกเขา
มิเช่นนั้นเราก็อาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตอย่างเช่นเดียวกับสาวผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า สวย สดใส ตามการเวล รายนี้หลังได้นำเรื่องราวและอุทาหรณ์มาฝากเตือนเพื่อนๆเอาไว้ลงในกลุ่ม ปรึกษาเรื่องแมว by ปอน ซึ่งเธอนั้นได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ทำให้เธอเสียใจมากที่สุด
จากความสะเพร่าของตัวเธอเองที่ไม่ดูแลน้องแมวสุดที่รักให้ดีซึ่งในวันนั้นเธอได้ปล่อยให้น้องแมวอยู่กันเพียงลำพังที่บ้านซึ่งด้วยการกลับมาจากการทำงานก็พบว่าไฟที่บ้านนั้นได้ตัดไปเพราะ เบรกเกอร์ที่บ้านตัดไฟเนื่องจากเกิดไฟฟ้าช็อตหรือไฟรั่ว
ซึ่งสิ่งที่เธอนั้นเสียใจมากที่สุดคือการจากไปของน้องเหมียวสุดที่รักของเธอและด้วยความสะเพร่าของตัวเธอเอง เพราะน้องแมวนั้นไปกัดสายไฟตู้เย็นจนรั่วและช็อตเข้าไปยังตัวน้องจนสิ้นใจ ซึ่งเธอเองก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่ไม่เก็บสายไฟให้ดีพอ
ทั้งนี้เธอจึงนำเรื่องราวมาเตือนเพื่อนๆเพื่อว่าจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเพื่อนๆเองได้ ซึ่งเธอก็ไม่อยากที่จะให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกและไม่อยากให้ใครต้องมาเสียใจหรือรู้สึกผิดเหมือนกับเธอ ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าแมวหรือสุนัขนั้นมีสมองเทียบเท่ากับเด็กที่มีอายุเพียงสองขวบพวกเขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าอันไหนอันตรายอันไหนถูกอันไหนผิดเพราะฉะนั้นเราเลือกที่จะเลี้ยงพวกเขาแล้วก็อยากที่จะให้ดูแลพวกเขาให้ดีๆจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจที่หลัง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สวย สดใส ตามการเวลา
วินมอไซค์รับเงินเขามา2พันสัญญาจะเลี้ยงดูเจ้าเตี้ยหมาคอนโด พอได้เงินกลับเอาน้องไปปล่อยในขณะที่ตั้งท้อง
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 แฟนเพจเฟสบุ๊กช่วยเหลือสัตว์อย่าง : The Voice (เสียงจากเรา) ได้เผยเรื่องราวของหนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ที่สัญญาว่าจะเอาเจ้าเตี้ยแม่หมาที่กำลังตั้งท้องไปเลี้ยงที่ต่างจังหวัด แต่พอรับเงินไปรับเตี้ยไปคนในคอนโดขอคืนเพราะไม่ไว้ใจ
.
โดยทางแฟนเพจได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า สรุปว่าเตี้ยหายจริง และเตี้ยกำลังตั้งท้อง! วินมอเตอร์ไซค์รับเงินจากคนในคอนโด2000บาท รับปากกันดิบดีว่าจะเอากลับไปเลี้ยงที่จังหวัดชัยนาท พอมีคนตามหาขอเตี้ยคืน ทางวินมอเตอร์ไซค์คนเดิม กลับขอเรียกเงินเพิ่มอีก5000! เป็นค่าไปเอาตัวเตี้ยคืนจากชัยนาท
พอคนที่รักเตี้ยตกลงจ่าย5000 วินคนนี้กลับสารภาพว่า ไม่ได้เอาเตี้ยไปเลี้ยง! แต่เอาไปปล่อย!!! ทางผู้บริหารคอนโดรู้สึกเสียใจมากอย่างมากเพราะเป็นคนรักสัตว์เช่นกัน และวินอยู่ข้างกับคอนโด คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่คิดว่าจะโกหกหน้า...ได้กันถึงขนาดนี้
ตอนนี้เตี้ยหายไปแล้ว และวินคนดังกล่าวก็หายไป! ขอพลังโซเชียลช่วยตามหาเตี้ย ไม่แน่ใจว่าไปปล่อยชัยนาทจริงหรือไม่ เบื้องต้นไม่ปักใจเชื่อ! ใครพบน้องหมาหน้าเหมือนเตี้ย ติดต่อที่ Line"@savinganimals" หรือเบอร์0957309954 ใครพบเจอเตี้ยแม่หมากำลังตั้งท้องโปรดติดต่อไปยังช่องทางที่ให้ไว้ด่วนเลยนะครับ รูปร่างหน้าตาเตี้ยเหมือนกับในรูปเลย ฝากด้วยนะ พิกัด ระหว่างรังสิต-ชัยนาท
ที่มา The Voice (เสียงจากเรา)
ลมหายใจเฮือกสุดท้าย คาบลูกมาฝากไว้หน้าบ้าน หลังไปนอนสิ้นลมข้างถังขยะหวังเพียงให้ทาสดูแลต่อให้ที
ถ้าเกิดเราพูดถึงคำว่าแม่แล้ว เพื่อนๆทุกคนก็คงจะเข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งสำหรับคำว่าแม่กันดีอยู่แล้ว เพราะขึ้นชื่อว่าแม่ย่อมทำทุกอย่างเสียสละทุกอย่างเพื่อลูกอย่างเราๆได้เสมอ แม้ว่าสิ่งๆนั้นจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตามแม่ก็ยอมที่จะสละให้ลูกได้
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Prakrongsri Nid Bunrunpho ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวผู้เป็นแม่ที่ใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายทำเพื่อลูกอันเป็นที่รักก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ซึ่งผู้โพสต์นั้นได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่ม ทาสแมว โดยได้เล่าไว้ว่า
ขอหาบ้านให้กับน้องๆ เนื่องจากแม่แมวนั้นคาบลูกมาไว้ที่หน้าบ้านเมื่อวาน แต่วันนี้แม่แมวไปนอนสิ้นลมข้างถังขยะบ้านเยื้องๆกัน เหลือแต่เพียงลูกตัวน้อย 5 ตัวที่ซุกอยู่ข้างกำแพงบ้าน เธอจึงจับน้องออกมาป้อนนม แต่เหมือนว่าน้องๆจะกลัวมากๆ สงสารจับหัวใจ
เพราะว่าแม่ไม่อยู่แล้วพวกหนูจะอยู่กันอย่างไรจะกินอะไรกัน ซึ่งเธอเองก็อยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงแต่ทว่าแฟนของเธอก็ไม่โอเคกับการเลี้ยงแมว จึงอยากวอนเพื่อนๆในกลุ่มช่วยกันหาบ้านให้กับน้องๆ เพื่อที่น้องๆจะได้ไม่ต้องทนอยู่อย่างหวาดกลัวอีกต่อไป อีกทั้งแม่แมวเองก็มาฝากเอาไว้ด้วยใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายก่อนจากไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Prakrongsri Nid Bunrunpho