แต่ก็ยังเฝ้ารออยู่ที่เดิมแม้จะรู้ว่าเขาจะไม่มีวันกลับมารับ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Mr'Jákkrit Phimmasań ได้เผยเรื่องราวของแม่หมาแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่ง น้องเป็นแม่หมาที่ต้องเลี้ยงดูลูกน้อยอยู่ที่ข้างถนน โดยน้องถูกนำมาปล่อยเอาไว้ โดยที่แม่หมาก็ยังไม่รู้ว่าเธอนั้นกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เจ้าของเขาไม่ต้องการแล้ว แต่น้องยังคงนั่งรออยู่ที่เดิมเสมอ
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ใครกันช่างกล้าเอาน้องมาปล่อยแบบนี้หนอ จิตใจยังเป็นคนอยู่หรือป่าวครับเนี่ย ปล่อยให้นั่งรอเจ้าของอยู่นานจนลูกน้อยของตนต้องจบชีวิตลงเพราะรถที่วิ่งผ่านไปมา เหลือเพียงแค่สองแม่ลูกที่ผมรับเลี้ยงแล้วกันเนอะ
สัญญาจะดูแลให้ดีที่สุดเลย เจ้าหมาน้อยผู้รอคอยเจ้าของอย่างมีความหวัง ในความโชคร้ายก็ยังมีเราที่เมตตานะ หลังได้รับการช่วยเหลือจากหนุ่มใจดี โดยเขานั้นได้อุ้มแม่หมากับลูกน้อยที่หลงเหลืออยู่ขึ้นมาบนรถ และทันใดนั้นแม่หมาก็แสดงออกมาด้วยสีหน้าที่มีความสุขเพราะเธอรู้ว่ามีคนกำลังช่วยลูกของเธออยู่
ชีวิตต่อจากนี้แม่หมากับลูกของเธอก็จะมีแต่ความสุข ไม่ต้องนั่งรอเจ้าของอยู่ที่ข้างถนนอีกต่อไปแล้วเธอมีเจ้าของคนใหม่แล้วนะ รีบลืมเจ้าของคนเก่าไปเลยก็ได้นะเพราะคนๆนั้นไม่ได้รักเธอจริงนะลูกเอ้ย ขอขอบคุณคนใจดีรับน้องไปเลี้ยงด้วยนะครับ
ขอขอบคุณ : Mr'Jákkrit Phimmasań
ทำได้เพียงส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หลังเดินตกร่องเกือบจมน้ำโผล่หัวขึ้นมาเพื่อหายใจ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : อณุพงศ์ พิทักษ์เจริญ ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอกับลูกแมวสามสี ลูกแมวตัวนี้ตกลงไปยังที่ระบายของเสียไม่รู้ว่าตกลงไปนานเท่าไหร่แล้ว น้องได้แต่ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจนหนุ่มใจดีรายนี้ไปพบเข้า น้องไม่สามารถขึ้นมาเองได้เพราะตัวยังเล็กแถมเป็นโคลนเหมือนกับยางมะตอย
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ถ้าคุณทำได้จงช่วยเหลือผู้อื่น ถ้าคุณทำไม่ได้อย่างน้อยจงอย่าทำพวกเขาเลย ถ้าข้าไม่มาเจอเจ้า เจ้าคงต้องสิ้นใจแน่ๆ มันเป็นบุญของเจ้าเลยนะ มันช่างรู้สึกปลาบปลื้มใจจริงๆ จากนี้ต่อไปเจ้าต้องดูเเลตัวเองให้ดีๆใช้ชีวิตให้เติบใหญ่กว่าที่เป็นอยู่นะ นี่คือบทเรียนของเจ้าเลยนะ แต่ก็ตามหาเสียงนั้นอยู่นานจนตามหาน้องเจอเกือบไปแล้วมั้ยลูก
น้องได้รับการช่วยเหลือด้วยความทุลักทุเลกว่าจะเอาน้องขึ้นมาได้ หลังจากนั้นหนุ่มใจดีก็อาบน้ำให้น้องจนตัวสะอาด และเช็ดตัวให้แห้ง เกือบไปแล้วมั้ยลูกเอ้ย ถ้าไม่มีคนไปพบเจอก็ไม่รู้ว่าชีวิตน้องจะเป็นยังไง จะขึ้นก็ขึ้นไม่ได้ทำได้เพียงส่งเสียงร้องเผื่อจะมีใครสักคนช่วยชีวิต
น้องเป็นแมวสามสีด้วยอายุราวๆ 3-4 สัปดาห์ เพราะน้องเป็นแมวจรไม่รู้จักโลกภายนอก เห็นเป็นร่องอยู่ข้างทางน้องก็เลยเผลอตกลงไป และไม่ใช่ใครที่ไหนนะที่รับน้องเลี้ยงไป คุณพี่ รปภ. ท่านนี้แหละจ้าที่รู้สึกถูกชะตากับน้องก็เลยยินดีรับเลี้ยงน้องเอง
ดูสายตาของพี่ รปภ. สิ พี่เขารู้สึกเอ็นดูน้องเหลือเกินก็เลยตัดสินใจรับมาเลี้ยงทันที น้องจะได้มีข้าวกินไม่ต้องเดินเร่ร่อนเหมือนกับที่เป็นอยู่อีกแล้ว
อาบน้ำเช็ดตัวจนแห้งน้องก็จะหน้าตาประมาณนี้นะ น่ารักเหลือเกินลูกเอ้ยความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้างนะลูก
ขอขอบคุณ : อณุพงศ์ พิทักษ์เจริญ
ลอยคอในน้ำร่วม2วัน ทั้งแดดร้อนจ้าทั้งน้ำท่วมจนเหลือแค่คอ ร้องสุดเสียงหวังให้ใครสักคนได้ยินเสียง
อาจะเพราะด้วยการที่ใครสักคนจะเห็นคุณค่าของชีวิตเราในโลกใบนี้นั้นเป็นสิ่งที่ยาก ยิ่งแล้วถ้าเกิดมาไม่ได้เป็นสัตว์ที่มีสายพันธุ์ดีๆดูน่ารักน่าเอาใจใส่ด้วยแล้วก็ยิ่งยากจะมีใครเห็นคุณค่าในตัว ซ้ำถ้าเกิดโชคร้ายได้รับอุบัติเหตุหรือตกอยู่ในสิ่งที่อันตรายที่ต้องการจะได้รับความช่วยเหลือ
ก็มีโอกาสเพียงน้อยนิดที่จะมีใครๆเห็นใจ เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวตัวน้อยตัวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Plapla Ratchanewan ได้โพสต์เล่าเรื่องถึงความโชคดีของเจ้าเหมียวตัวน้อยหลังจากที่น้องตกไปอยู่ในท่อระบายน้ำ 2 วัน 1 คืนซึ่งกลางวันแดดก็ร้อนแถมยังจมน้ำเหลือแต่คอ
ซึ่งเธอเองก็ได้ยินเสียงน้องมาตั้งแต่วันที่ 15 จนถึงค่ำของวันที่ 16 ก็ยังคงได้ยินอยู่ตรงท่อหน้าบ้านไม่ไปไหนเธอจึงขอความช่วยเหลือเพื่อนข้างๆบ้านแต่ก็ไม่มีใครสนใจจะช่วย จึงพยายามหาวิธีโพสต์ลงในเฟสเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจนเพื่อนประสานงานติดต่อหน่วยงานมูลนิธิมาช่วย
จนมีคนแนะนำให้ลองโทรไปที่ 199 ไม่ถึง 20 นาทีเจ้าหน้าที่ก็มาถึงพี่เค้าช่วยกันงัดฝาท่อพอเปิดมาเสียงเจ้าเหมียวก็เงียบไปพอเปิดดันไม่เจอแมวแถมน้องก็ไม่ร้องเอาไฟฉายส่องก็หาไม่เจอ หาอยู่นานจนพี่กู้ภัยเค้ากลับไปและเปิดฝาท่อเอาไว้ เธอก็โล่งใจอย่างน้อยน้องก็คงจะกระโดดออกมาได้บ้าง
จนน้องชายของเธอกลับมาถึงบ้าน น้องแมวก็ร้องขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ร้องไม่หยุดน้องชายของเธอจึงเอาโทรศัพท์ถ่ายวิดีโอดูจึงได้รู้ว่าน้องแมวนั้นอยู่ตรงไหนจนในที่สุดก็ช่วยขึ้นมาได้สำเร็จ แล้วสิ่งที่เห็นคือน้องเป็นลูกแมวที่มีอายุเพียงแค่ 3-4 อาทิตย์ไม่รู้ว่าลงไปอยู่ได้ยังไง แต่ก็ดีใจที่ช่วยขึ้นมาได้โดยล่าสุดน้องที่ช่วยน้องแมวขึ้นมาเอาน้องไปเลี้ยงแล้วโชคดีมากเลยเจ้าเหมียวที่ได้อยู่ในความดูแลของพี่เค้า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Plapla Ratchanewan และชมคลิป
วิ่งตามไม่หยุด หมาน้อยวิ่งสี่คูณร้อยวิ่งตามสาวมอเตอร์ไซค์แม้จะเหนื่อยจนไม่ไหว หวังให้เธอช่วยชีวิตหนูที
เพราะในชีวิตจริงนั้นไม่เหมือนกับในละครที่วาดฝัน เมื่อยามยากลำบากใจมีใครเล่ามายื่นมือช่วยเหลือซ้ำแล้วเกิดมาเป็นสุนัขจรที่ไม่มีใครต้องการ ยิ่งถ้าสีไม่สวยหรือไม่น่ารักหันไปหาใครก็ไร้จะเหลียวแลหรือหากถูกเอามาปล่อยไว้พื้นที่ไร้ผู้คนก็ไร้ทางดิ้นรนจะมีชีวิตต่อ
เช่นเดียวกับเจ้าตูบน้อยรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Arissara Ruethiduang ได้โพสต์คลิปวิดีโอของเจ้าตูบตัวน้อยที่น่าสงสารหลังเขานั้นได้พบน้องเข้าในระหว่างทางกลับบ้านแต่เจ้าตูบน้อยก็วิ่งตามรถมอเตอร์ไซต์ที่เขานั้นได้ขี่มาไม่หยุด
ด้วยสุดกำลังที่มีหวังให้ช่วยเหลือ ซึ่งในตอนแรกเธอนั้นก็คิดว่าน้องคงยังเด็กเล็กและไม่รู้ประสีประสาจึงวิ่งเล่นวิ่งตามรถผ่านไปมาทั่ว จนสักพักน้องก็ไม่มีวี่แววที่จะหยุดวิ่งเธอจึงตัดสินใจหยุดรถและลงไปดูว่าน้องนั้นต้องการอะไรซึ่งสิ่งที่เห็นก็คือน้องนั้นตกอยู่ในสภาพที่ผอมโซ
แต่ก็ยังคงวิ่งมาด้วยใจหวังอาจจะเพราะด้วยการถูกนำมาปล่อยเอาไว้ในบริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นทางที่ไร้บ้านคนอาศัยจึงไม่มีอะไรตกถึงท้อง เธอจึงตัดสินใจที่จะเอาน้องนั้นกลับบ้านไปเลี้ยงด้วยเพราะความสงสารที่เกิดขึ้นน้องจึงได้บ้านในที่สุด
และเมื่อขึ้นรถน้องก็ส่งยิ้มหวานให้ราวกับว่าน้องกำลังดีใจที่มีคนช่วยชีวิต และน้องก็คงรู้ว่ามนุษย์รายนี้คงจะรับน้องไปเลี้ยงด้วยแน่ๆน้องจึงยิ้มออกมาด้วยความสุขดังในภาพนี้ ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากคิดจะนำสุนัขไปลอยแพก็ให้คิดถึงตอนที่พวกเขาต้องอยู่และเอาชีวิตรอดด้วยว่าพวกเขาจะอยู่รอดต่อไปได้ยังไง เพราะอย่าได้ลืมไปว่าพวกเขานั้นก็มีหัวใจไม่ต่างจากเรา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Arissara Ruethiduang และชมคลิป
https://www.facebook.com/showclip3/videos/2607480669374062
https://www.facebook.com/showclip3/videos/585427128855387
รอคอยอย่างมีความหวัง นอนรอก็แล้วนั่งรอก็แล้วหวังลึกๆว่าคนข้างหลังประตูจะจำกันได้
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nichthakan Ployngam ได้เผยเรื่องราวของสุนัขพันธุ์บีเกิ้ลตัวนี้ที่เธอได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยในวันดังกล่าวเจ้าตูบตัวอ้วนดันไปนั่งรอใครบางคนอยู่ที่หน้าห้องพักของลูกค้า และนางก็นอนรอด้วยความหวังเหมือนต้องการอะไรสักอย่าง เพราะเมื่อวานน้องทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับและทางลูกค้าก็เลยจัดทิปให้อย่างงาม
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เมื่อวานลูกค้าห้องนี้เอาขนมจากที่ทำงานเอามาฝากน้องพนักงานต้อนรับ เพราะทางลูกค้าเขาทำงานเกี่ยวกับอาหารสุนัข พอเช้าวันอาทิตย์ พนักงานต้อนรับแอบขึ้นมาเฝ้ารอพี่ตื่นถึงหน้าห้องกันเลยทีเดียว แหม่ๆน้องรู้งานเห็นว่าเมื่อวานได้ทิปหนัก พอมาวันนี้เท่านั้นแหละไม่ค่อยจะเห็นแก่กินเลยนางมารอรับลูกค้าถึงหน้าห้อง
เพราะนางหวังว่าวันนี้คงจะได้ทิปอีกเพราะลูกค้าท่านนี้ใจดี เปย์ขนมน้องหมาให้กิน โอ้ยยยยไม่ค่อยสักเท่าไหร่เลยนะแกนางขยันเกินหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไปเยอะเลย นี่ขนาดวันหยุดวันอาทิตย์นะ นางยังเข้างานมาคอยเฝ้ารอ นอนรอก็แล้ว นั่งรอก็แล้วในที่สุดน้องก็ได้ทิปหนักอีกครั้ง ขยันทำงานจริงๆเลยนะเต้าอ้วงงงงง
และนี่คือสภาพของน้องเมื่อได้รับการเปย์ทิปอย่างหนัก ถ้าลูกค้ายังไม่กลับสงสัยวันรุ่งขึ้นก็จะมีเต้าอ้วงไปรอรับถึงหน้าห้องอีก ฮ่าฮ่าฮ่า
ขอขอบคุณ : Nichthakan Ployngam
สาวไทยปล่อยแมวไว้ที่เมืองอู่ฮั่นเพียงลำพัง พวกเขาได้แต่เฝ้ารอการกลับมาของเจ้าของที่ริมหน้าต่าง
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : KhunNai Aom Billingham ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงพวกมันเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวทั้งสองตัวนี้ติดอยู่ในเมืองอู่ฮั่น โดยที่ทางเจ้าของซึ่งเป็นสาวไทยและมีบ้านอยู่ที่นั่น และในช่วงวันหยุดยาวของประเทศจีนเธอจึงได้กลับมายังบ้านเกิดอย่างประเทศไทย
.
แต่เกิดไวรัสตามที่เป็นข่าวซะก่อน เที่ยวบินต่างๆที่กลับไปยังเมืองอู่ฮั่นก็ถูกยกเลิกหมด เธอจึงไม่สามารถเดินทางกลับไปดูแลแมวของเธอได้ ส่วนเจ้าเหมียวทั้งสองต้องคอยดูกันและกันและรอคอยการกลับมาของผู้เป็นแม่ พวกเขาได้แต่เฝ้าอยู่ที่ริมหน้าต่างเพื่อรอการกลับมาของเจ้าของ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ทางเจ้าของเป็นทาสแมว มีวิธีรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวทั้งสองชื่อว่ามูนนี่ลูกสาว กับบอนด์โจเจ้าลูกชาย วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ปล่อยให้แมวอยู่บ้านที่อู่ฮั่นต้องเตรียมตัวเรื่องอะไรบ้าง จริง ๆแล้วถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากให้เขาอยู่บ้านตามลำพัง
ถ้าเอาไปฝากเลี้ยงตามโรงแรมแมวที่เราไว้ใจถ้าได้ก็เอาไปฝากเถอะค่ะ แต่นิสัยแมวแต่ละตัวไม่เหมือนกันและบางพื้นที่ไม่มีโรงแรมแมวดีๆ ที่ไว้ใจได้รับเลี้ยง อย่างเช่นกรณีของเรานะ แมวของเราจะไม่ชอบและกลัวคนแปลกหน้าเป็นที่สุด บวกกับโรงแรมแมวที่ไว้ใจได้ไม่มีในพื้นที่ด้วยเลยต้องหาคนมาเลี้ยงให้
ที่บ้านค่ะ ทุกปีเราจะต้องปล่อยแมวไว้ที่บ้านปีละ 2 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 3 สัปดาห์ - 2 เดือน เนื่องจากน้องแมวอาศัยอยู่ประเทศจีนก็เลยไม่สะดวกพาบินตามไปหลายๆ ประเทศด้วย เลยให้เขาเฝ้าบ้าน (จริง ๆ หนีแมวเที่ยว)
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนลอยแพแมว
1. พี่เลี้ยงหลัก เนื่องจากบ้านนี้แม่แมวเรื่องเยอะ รายละเอียดปีกย่อยเยอะ พี่เลี้ยงจะหายากนิดนึง ได้เปลี่ยนพี่เลี้ยงใหม่ทุกปีเลย เน้นคนที่รักสัตว์ มีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเอง และต้องพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย
2. พี่เลี้ยงสำรองและต้องซ่อนกุญแจสำรองไว้บริเวรใกล้ๆ กับทางเข้าบ้านด้วย เผื่อพี่เลี้ยงหลักมีเหตุจำเป็นมาไม่ได้หรือทำกุญแจหาย
3. อาหารเปียก อาหารเม็ดมีเครื่องให้อาหารอัตโนมัติตั้งเวลาและสั่งงานผ่านมือถือของเราได้ เลยไม่ค่อยห่วงเรื่องอดเท่าไร น้ำมีให้หลายๆจุดภายในบ้าน ขนมวิตามินก็เตรียมให้เพื่อลดความเครียด
4. กระบะทรายและทราย เตรียมให้พอแต่มีพี่เลี้ยงมาตักทรายแมวให้ทุกวันอยู่แล้ว
5....
หนูน้อยวัย12เขียนจดหมายพร้อมเอาหมาใส่กล่องเพราะกำลังช่วยชีวิตน้องอยู่
เมื่อไม่นานมานีแฟนเพจเฟสบุ๊ก : เขียวหวาน ได้เผยเรื่องราวจากแหล่งข่าวในต่างประเทศ โดยเรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวการเอามาปล่อยที่เต็มไปด้วยน้ำตา เป็นเรื่องราวที่ต้องขอขอบคุณน้องจริงๆ โดยสุนัขตัวนี้ถูกนำมาวางไว้พร้อมจุดหมายสั้นๆของเด็กชายวัยเพียง 12 ขวบ
.
โดยทางแฟนเพจไดเล่าว่า ที่ประตูหน้าศูนย์ช่วยเหลือและพักพิงสัตว์แห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา มีคนนำกล่องใบนี้มาวางไว้ และหนึ่งในนั้นมีน้องหมาที่มีคนเอามาปล่อยไว้ แต่พอเมื่อเปิดกล่องดูเจ้าหน้าที่ได้เจอน้องหมา กับจดหมายของเด็กน้อย ซึ่งเขาได้เขียนถึงเจ้าหน้าที่ที่รับดูแลหมาในจดหมาย
และเขียนข้อความเอาไว้ว่า “ผมชื่อ อังเดรครับ อายุ12ปี ผมกับแม่ตัดสินใจแล้วว่าจะให้พวกพี่ๆช่วยดูแลหมาของผม โดยที่พ่อของผมยังไม่รู้เรื่องนี้เลยว่าผมกับแม่แอบเอามาให้พวกพี่ พ่อชอบเตะและทำกับหมาของผมบ่อยๆ และคิดว่าจะเอาหมาของผมไปขายในเร็ววันนี้
มีอยู่ครั้งนึงพ่อเตะเขา จนทำให้หางเป็นแผล ผมหวังว่าพวกพี่ๆจะช่วยรับเลี้ยงและดูแลหมาของผมนะครับ และผมใส่ของเล่นที่เขาชอบเล่นกับผมมาให้ด้วย เพื่อให้หมาของผมจะไม่ลืมผมนะครับ”
กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำเอาน้ำตาซึม ต้องขอขอบคุณหนูน้อยคนนี้จริงๆที่ช่วยชีวิตหมาของตน เขาคงรักหมาตัวนี้มาก แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะมีพ่อแบบนี้อยู่ เห้อ...แม่ของหนูสอนลูกมาดีเหลือเกิน ขอบคุณนะที่ช่วยน้อง น้องหมาเองคงจะจดจำหนูไปตลอดทั้งชีวิต และสักวันพวกเขาคงได้กลับมาเจอกันอีก
ที่มา เขียวหวาน
เลี้ยงแมวมา 2 ปีไม่เคยมีปัญหา แต่จู่ๆแฟนกลับบอกว่าไม่อยากเลี้ยงแมวแล้วเพราะไม่ชอบขนแมว
เพราะคนเรานั้นมีหัวใจที่อ่อนโยนแตกต่างกันอาจจะด้วยการเลี้ยงดูหรือการที่เติบโตมาในครอบครัวที่แตกต่างทำให้มนุษย์เรานั้นมีทั้งชอบและไม่ชอบสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ ซึ่งจากปัญหาส่วนใหญ่ที่ได้พบเจอก็คือการเลี้ยงสุนัขหรือแมวร่วมกันด้วยการที่เพิ่งมีแฟน
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pornthawan Jandee ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเธอหลังจากที่เธอนั้นได้มีปัญหากับแฟนเรื่องของการเลี้ยงแมวซึ่งเธอนั้นก็ได้เลี้ยงน้องแมวมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ซึ่งแฟนของเธอนั้นเป็นโรคภูมิแพ้แต่ก็เห็นว่ารักแมวดี
เพราะด้วยการที่เขานั้นเล่นด้วยกันทุกวันซึ่งหลังจากกลับมาจากที่ทำงานแฟนของเธอก็จะกลับมาอุ้มน้องแมว แต่บางครั้งก็ชอบบ่นเมื่อตัวเองนั้นจามว่าไม่อยากที่จะเลี้ยงน้องแล้วเพราะจามบ่อยก็บ่นว่าเป็นเพราะขนของน้อง ซึ่งเธอก็เลยได้พูดว่าถ้าไม่ให้เลี้ยงแล้วจะเอาไปอยู่ที่ไหน
เพราะด้วยเลี้ยงมาก็รักและผูกพันกับน้องมากเพราะน้องอยู่ด้วยมาตลอดสองปี โดยสิ่งที่เธอคิดเอาไว้ก็คือถ้าเป็นปัญหากับแฟนมากๆจริงๆจะพาน้องแมวไปอยู่ที่อื่น โดยยอมที่จะแยกกับแฟน ซึ่งเธอจึงมาขอคำปรึกษากับเพื่อนๆในกลุ่มเพื่อถามว่าเธอนั้นตัดสินใจถูกมั้ย
โดยทั้งนี้ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับเธอเพราะด้วยการที่เลี้ยงน้องมากว่าจะโตมาขนาดนี้แถมยังอยู่ด้วยกันมาตลอดและรักน้องเหมือนกับลูกคนนึง ซึ่งถ้าปัญหามันแก้กันไม่ได้จริงๆก็แนะนำให้ลองแยกกันอยู่เพราะแฟนนั้นเราสามารถที่จะหาใหม่ได้แต่ถ้าแมวตัวนี้ถ้าหายไปเชื่อเหอะว่าคุณจะกลับมาคิดทีหลัง เพราะแมวตัวนี้ไม่สามารถหาที่ไหนได้อีกแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pornthawan Jandee
นักร้องสาวติดต่อเข้ามาขอลูกหมาไปเลี้ยง ป้าก็เอาไปส่งถึงบ้านแต่พอรับไปกลับเอาน้องไปปล่อย
ทุกๆครั้งที่เราบอกถึงการเตรียมความพร้อมกับการที่จะคิดนำสุนัขหนึ่งตัวมาเลี้ยง เพราะการนำสุนัขหนึ่งตัวมาเลี้ยงนั้นเท่ากับคุณจะต้องแบกรับภาระกับหนึ่งชีวิตที่คุณจะต้องดูแลเขาไปตลอดชีวิต อีกทั้งคนในสมัยนี้มองเพียงแค่มุมจากภายนอกไม่ได้เพราะสิ่งที่อยู่ในจิตใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าอยากจะเลี้ยงแต่ไม่พร้อมดูแล
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Noppawan Chantree ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบตัวน้อยที่เธอนั้นได้รับคำปรึกษามาจากคุณป้ารายหนึ่งหลังจากที่คุณป้านั้นได้มอบลูกสุนัขให้กับสาวนักร้องที่มาขอสุนัขตัวนี้ไปเลี้ยงดู
แต่เมื่อถึงเวลาส่งน้องให้แล้วนักร้องสาวรายดังกล่าวกลับทำสุนัขหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีเหตุผลใดๆ พอถามบ่อยๆเข้ากลับหายไปดื้อๆไม่ตอบแชท ไม่อ่านแถมไม่สนใจใยดีไม่สามารถที่จะติดต่อได้อีกด้วย จนกระทั่งหลังจากที่เธอได้นำเรื่องราวมาโพสต์เธอจึงได้รับแจ้งว่าสุนัขตัวดังกล่าวซึ่งเป็นลูกหมานั้นได้งับลูกของเธอเข้าในวันแรกเขาจึงปล่อยให้มันหายไป
ซึ่งทางคุณป้าผู้ที่มอบสุนัขให้กับนักร้องสาวรายนี้ก็ได้แจ้งเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าถ้าไม่เลี้ยงหรือไม่โอเคกับลูกสุนัขเธอก็พร้อมที่จะรับคืนเนื่องจากทางคุณป้าเองก็คงจะรักสุนัขตัวนี้มากเช่นเดียวกัน จนได้อัพเดทเพิ่มเติมจากทางนักร้องสาวโดยเธออ้างว่า
สามีของเธอนั้นรดน้ำต้นไม้เลยเปิดประตูรั้วเอาไว้สุนัขจึงหายออกไปจากบ้านจนในที่สุดนักร้องสาวรายดังกล่าวก็ได้ออกตามหาสุนัขให้จากที่ในตอนแรกนั้นแจ้งมาแค่ว่า ถ้าเจอสุนัขแล้วจะแจ้งไปแต่กลับไม่มีการตามหาใดๆ ซึ่งทั้งนี้ทางผู้โพสต์เองจึงได้ออกมาโพสต์เรื่องดังกล่าวเพื่อให้เพื่อนๆในกลุ่มช่วยกันตามหาเผื่อว่าจะมีใครเคยเห็นุสนัข
ลักษณะแบบนี้ก็จะได้แจ้งไปทางคุณป้าอีกที จนในสุดทางแอดมินกลุ่มได้ออกเงินเพื่อที่จะให้ทางคุณป้านั้นเหมารถเพื่อที่จะไปตามหาสุนัขตัวนี้จนพบน้องเข้าโดยทางหัวหน้าคนงานได้สามารถจับตัวน้องไว้ได้และส่งกลับคืนในอ้อมกอดผู้เป็นเจ้าของในที่สุด ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากคิดจะหาบ้านหรือมอบสิ่งที่คุณรักมากที่สุดให้กับใครสักคนดูแลคุณต้องมั่นใจว่าคนคนนั้นจะสามารถดูแลสิ่งที่คุณรักมากที่สุดได้ดีมากกว่าตัวคุณเองมิเช่นนั้นก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Noppawan Chantree
หนุ่มเจอแมวจรมาดักรอหน้าบ้านทุกวันแล้วร้องแง้วๆ ตามง้ออยู่นานเพราะอยากไปอยู่ด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : สมโปรด พึ่งบุญ ได้เผยเรื่องราวของอดีตแมวจรอย่างเจ้าแพนด้า เจ้าแพนด้าเคยมีเจ้าของแต่เจ้าของไม่สามารถดูแลได้ ทำให้เจ้าแพนด้าต้องออกหากินเองโดยแพนด้าได้พบเจอกับคนใจดีอย่างผู้โพสต์ที่เอาอาหารให้กินเพียง 1 มื้อ พอได้กินเท่านั้นแหละเจ้าแพนด้าก็จะมารอดักหน้าบ้านทุกวันเพราะรู้ว่าคนๆนี้รักมันจริง
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า อยากเล่าอดีตแมวจรเจ้าแพนด้าให้เพื่อนๆที่ยังไม่รู้จักแพนด้าครับ แพนด้าเค้าเป็นแมวจรเค้าเคยมีเจ้าของครับแต่เจ้าของเค้าเป็นอัมพาต เลยไม่สามารถดูแลแพนด้าได้ แพนด้าเลยต้องหากินเองกับคนโน้นคนนี้ เจอเขาไล่บ้าง หมาไล่บ้าง
วันนึงเค้ามามองๆผม ผมเองเห็นเขาผอมๆเลยเอาอาหารไปวางให้กินแรกๆก็กลัวเพราะแพนด้าไม่ไว้ใจใคร แต่พอหลังๆก็มาร้องขอกินเวลาหิว เวลาได้กินก็จะบ่นงึมงำไปด้วย ว่าอร่อยม้ากมากก ช่วงนั้นน้องพลอยแอบไม่พอใจแล้วว่าพ่อเอาอาหารของน้องพลอยไปให้มันกินทำมัย(น้องพลอยคือแมวอีกตัวนึง)
ถึงเวลาผมเลิกงานก็จะมาซุ่มรอรับตรงทางเลี้ยวเข้าบ้านทุกครั้งแล้วก็ร้องขอกินครับ ทำท่าน่ารักใส่ ทำท่าลัมนอนกลิ้งไปมา คลอเคลีย ซึ่งตอนนั้นผมต้องย้ายออกจากบ้านเช่าเข้ามาอยู่บ้านหลังใหม่ที่ซื้อช่วงนั้นก็ลังเล ไม่อยากเอาแพนด้ามาอยู่ด้วยเพราะเข้ากันกับสาวๆไม่ได้สาวๆไม่ชอบเอามากๆ
แต่โชคดีมีน้องสาวบอกให้เอามาด้วย ถ้าไม่เอามามันจะเร่ร่อนหากินที่ไหนเลยตัดสินใจเอามาอยู่ด้วยกันครับ ตอนนี้เข้าปีที่ 3 แล้วล่ะ ครับ ตอนนี้อิพ่อหลงแพนด้าโงหัวไม่ขึ้นเลยจ้า โชคดีทั้งคนทั้งแมวเลยก็ว่าได้นะ ทางผู้โพสต์เองก็ได้แมวที่น่ารักอย่างเจ้าแพนด้ามาเลี้ยง ส่วนแพนด้าก็ได้ทาสคนใหม่ที่พร้อมจะดูแลแพนด้าจนกว่าจะหมดลมหายใจ
ขอขอบคุณ : สมโปรด พึ่งบุญ