ทาสแมว

เพราะชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้ทำให้บางชีวิตนั้นต้องเกิดมาเพื่อดิ้นรนให้ได้อิ่มท้องให้ได้ที่หลบแดดหลบฝน ยิ่งถ้าเกิดมาเป็นสัตว์จรตัวยังน้อยไร้หนทางหรือที่จะพักพิงก็ยิ่งจะหันไปหาใครเขาก็ไม่สนใจอยากจะรับไปดูแล จึงต้องเดินเข้าไปหาบ้านที่พอจะมีความหวังให้เขาช่วยรับหนูเพิ่มอีกตัว เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า LookNam Panida ที่ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยมาโพสต์ลงยังกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เธอนั้นพบเจ้าเหมียวจรตัวน้อยมาด้อมๆมองๆอยู่ที่รูประตูบ้าน แวะมาทักทายแมวที่ประตูหลังบ้านซึ่งน้องอยากที่จะเล่นกับแมวของเธอ และคาดว่าน่าจะเป็นลูกแมวจรที่แม่มาคลอดทิ้งเอาไว้และพยายามมุดเข้ามาในมุ้งลวดพยายามจะหาทางเข้ามา ก็คงด้วยอยากที่จะมีบ้านแบบพี่เขา ด้วยตัวยังน้อยและไร้เดียงสาจึงไม่รู้ว่าจะหาของกินที่ไหนและก็คงจะได้กลิ่นแมวเลยพยายามเข้ามา และน้องก็ช่างน่าเอ็นดูซะเหลือเกิน ซึ่งผู้โพสต์เองก็เลี้ยงแมวอยู่แล้วและก็คงจะเกินห้ามใจจนในที่สุดก็ยอมให้เจ้าเหมียวน้อยเข้ามาแต่โดยดี แถมเจ้าเหมียวตัวพี่ที่เธอเลี้ยงไว้ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบเจ้าตัวน้องแต่อย่างใด แถมยังยินยอมให้น้องเข้ามาในบ้านอีกด้วย ถือว่าเป็นพี่ที่น่ารักมากๆคงจะเห็นว่าน้องก็คงจะลำบาก ซึ่งเธอเองก็ตกลงว่าจะเลี้ยงน้องและเอาเข้ามาดูแลต่อไปโดยตั้งชื่อให้กับเจ้าเหมียวตัวน้อยว่าเจ้าบุญรอด และก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความประทับใจของผู้คนในกลุ่มทาสแมว ที่สร้างรอยยิ้มสุดน่ารักด้วยความเมตตาทั้งของผู้โพสต์และพี่เหมียวสุดน่ารัก เลี้ยงยังไงให้น้องมีเมตตาต่อแมวตัวอื่นแบบนี้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก LookNam Panida

เพราะการนำแมวมาเลี้ยงนั้นเท่ากับการรับเด็กตัวน้อยๆมาเลี้ยง ด้วยการเลี้ยงดูและความผูกพันธุ์นั้นทำให้เกิดความรักและความสุข แต่ทว่าเพื่อนๆเองก็คงจะเคยคิดเหมือนกันว่าถ้าวันนี้พวกเราไม่อยู่ดูแลพวกเขาแล้วพวกเขาจะอยู่กันต่อไปได้อย่างไร เพราะจะหันไปหาใครที่รักพวกเขาเท่ากับเราก็คงจะไม่มี เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Vipaporn Diragphok ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวจำนวนกว่า 10 กว่าตัวมาโพสต์ยังโลกออนไลน์หลังจากที่เธอนั้นได้พบเจอกับปัญหาเจ้าของของเเจ้าเหมียวรายนี้เกิดล้มป่วยด้วยอาการทางสมองและต้องรักษาด่วน แต่ถ้ารับการรักษาแล้วก็อาจจะกลับมาไม่เป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป อีกทั้งคนป่วยก็ยังไม่มีญาติอยู่ในเขตพื้นที่กทม.อีกด้วย แถมพ่อแม่ของผู้เป็นเจ้าของของน้องๆก็แก่มากแล้ว มาจากเชียงใหม่และเคราห์ก็ซ้ำกรรมก็ยังซัดด้วยทว่าภายในสิ้นเดือนนี้ทางผู้เป็นเจ้าของของน้องๆจะต้องทำการย้ายออกซึ่งก็มีน้องแมวจำนวนกว่า 10 ตัว โดยผู้โพสต์ก็ได้ระบุพิกัดเอาไว้ด้วยที่ ลำลูกกา คลอง 2 ซึ่งหากท่านใดใจบุญอยากที่จะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปยังผู้โพสต์หรือเบอร์ที่ระบุไว้ที่ต้นโพสต์ หรืออยากจะช่วยเหลือยังไงก็ลองติดต่อดู ซึ่งทั้งความรู้สึกของน้องๆเองก็คงจะคิดถึงผู้เป็นเจ้าของเป็นอย่างมาก เพราะเขาก็ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนกับพ่อกับแม่และน้องๆก็โดนปล่อยอยู่กันตามลำพังในบ้านเช่าแห่งนี้ ไม่รู้ว่ามีอะไรได้ตกถึงท้องบ้างหรือยังเพราะจากการที่ผู้โพสต์ได้โพสต์รูปลงนั้นเหมือนกับน้องๆก็กลัวที่จะต้องเจอผู้คนแปลกหน้าที่เข้าไปในบ้าน ด้วยหวังว่าผู้เป็นเจ้าของจะกลับมาอีกครั้ง ขอขอบคุณข้อมูลจาก Vipaporn Diragphok

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : แกล้ว โชติรัตน์ ได้เผยเรื่องราวช่วงชีวิตสุดท้ายของน้องข้าวปั้น สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนที่เขานั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยน้องข้าวปั้นนั้นได้จากไปแบบกะทันหันเพราะดีใจที่เจ้าของกลับถึงบ้านจนน้องน็อค และสิ้นใจในเวลาต่อมา . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ความสุขสุดท้ายของข้าวปั้น เรื่องราวของผมที่อยากจะเล่าให้ทุกคนได้ฟัง น้องเป็นหมาพันธุ์ปอม โดนปล่อยในเล้าไก่ ผมกับแฟนจึงขอน้องมาเลี้ยงเพราะสงสาร ผมและแฟนดูแลรักษาเค้าจนเค้าหายดีทุกอย่าง เค้าร่าเริงสดใสและมีความสุข น้องขี้อ้อนมาก จากวันนั้นที่ผมกับแฟนช่วยเขามา น้องข้าวปั้นก็อยู่กับผมมาตลอด 5 ปี จนเมื่อวานผมไปไหว้พระ พอกลับถึงบ้านน้องดีใจขั้นสุดจนน๊อค แล้วล้มพับไป ผมและแฟนตกใจมาก รีบพาน้องไปโรงพยาบาลสัตว์ ด่วน แต่น้องก็ไม่รอแล้ว น้องเสียระหว่างเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ผมเสียใจมากเพราะรักเค้ามากๆ เค้าคือลูกคนหนึ่งของผม ตอนนี้ผมนำน้องไปประกอบพิธีทางศาสนาเรียบร้อยครับ จนถึงวันนี้ผมจะไม่มีน้องข้าวปั้นอยู่อีกแล้ว แต่ผมจะติดตามเพจรักหมาจังตลอดไปครับ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในเพจรักหมาจัง และมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความเสียใจกับผู้เป็นเจ้าของกับการจากไปอย่างกะทันหันของน้อง เรื่องราวนี้กลายเป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดีว่า ชีวิตของน้องหมาเองไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้คุณอาจจะกอดจะหอมเขาและดูเหมือนน้องไม่ได้มีอาการใดๆ แต่พอน้องดีใจที่คุณกลับถึงบ้าน...เวลานั้นอาจเป็นช่วงชีวิตสุดท้ายของน้องก็เป็นได้ ขอแสดงความเสียใจกับผู้เป็นเจ้าของน้องข้าวปั้นด้วยนะครับ ที่มา แกล้ว โชติรัตน์

หากเพื่อนๆเป็นทาสแมวอยู่แล้วก็จะเข้าใจดีว่าถ้าเรานั้นเจอเจ้าเหมียวจรหรือเจ้าเหมียวตามข้างทางที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งถ้าหากว่าเราเป็นทาสแมวอยู่แล้วก็คงจะอดใจไม่ไหวที่จะช่วยเหลือเจ้าเหมียวเหล่านั้น เพราะแม้แต่บางรายก็ถึงขนาดต้องเก็บเอากลับบ้านไปด้วยเพราะความสงสาร เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า อุ่นจิตร ยุกตานนท์ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดแสบของตน หลังจากที่เธอนั้นได้ยินเสียงลูกแมวร้องจึงได้รีบออกไปดู ซึ่งสิ่งที่เห็นคือเจ้าแสบนั้นไปคาบลูกแมวมาจากไหนก็ไม่รู้ เลียเอ็นดูเหมือนกับลูกแท้ๆของตัวเอง ซึ่งเจ้าแสบนั้นเป็นแมวส้มและลูกแมวตัวน้อยก็สีส้มเช่นเดียวเจ้าแสบก็คงจะคิดว่าคงจะเป้นลูกตัวเองทั้งที่ตัวเองนั้นก็ไม่มีไข่จนแห้งเหี่ยวนานแล้ว โดยปกติแล้วแสบก็จะคาบนกคาบหนูสารพัดจะเอากลับมาบ้านมาฝากแม่อยู่เรื่อยไป แต่วันนี้เป็นลูกแมว ใช่แล้วลูกแมวไปเอาลูกแมวที่ไหนมา ซึ่งสีหน้าของเพื่อนๆเจ้าแสบนั้นก็ดูจะตอนรับน้องเป็นอย่างดีเพราะจากการซูมดูแต่ละตัวแล้วหน้าตาก็จะประมาณนี้กันทั้งนั้น แถมผู้โพสต์นั้นก็ยังบอกอีกด้วยว่า ที่บ้านยังเยอะไม่พอใช่ไหมแสบอยากจะเป็นพ่อไปอีก แต่ทว่าจะตั้งชื่อน้องว่าอะไรดีนะ เอ้าคุณแม่สรุปก็เลี้ยงตามใจลูกจนได้ โดยทั้งนี้จากเรื่องราวดังกล่าวก็ได้สร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆในกลุ่มเป็นอย่างมากเพราะด้วยความที่อยากจะมีลูกตัวน้อยๆของนางจึงทำให้หลายคนหลังรักแถมผู้เป็นแม่เองก็บ่นไปอย่างนั้นพอถึงเวลาก็ถามเพื่อนๆในกลุ่มอีกด้วยว่าจะต้องชื่อน้องว่าอะไรดี ถึงอย่างไรก็ตามก็อยากจะฝากคนที่ชอบเอาแมวเอาหมาไปปล่อยตามที่ต่างๆเพราะถ้าพวกเขาไม่เจอคนใจดีช่วยเอาไว้อย่างเช่นเจ้าส้มตัวนี้น้องๆก็ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบากมากกว่าที่คุณคิด ขอขอบคุณข้อมูลจาก อุ่นจิตร ยุกตานนท์

เรามักจะบอกกับเพื่อนๆว่าการนำสุนัขหรือแมวมาเลี้ยงนั้นจะต้องเตรียมความพร้อม เพราะสิ่งที่เพื่อนๆจะได้รับจากการเลี้ยงดูพวกเขานอกจากความรักและความสุขเพื่อนๆยังจะต้องมีความรับผิดชอบต่อการเลี้ยงดูเพราะเขาก็หนึ่งชีวิต ซึ่งหากไม่เตรียมตัวให้ดีปัญหาเหล่านี้ก็จะตามมา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังหลวงพี่ท่านหนึ่ง ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังถูกเอามาวางไว้พร้อมกับลังกระดาษและอาหารจำนวนนึงที่ข้างกำแพงวัด ซึ่งผู้โพสต์รายนี้ก็เป็นพระรูปหนึ่งที่จำวัดอยู่ที่วัดแห่งนี้และพบกับน้องเข้า โดยสภาพที่พบน้องตอนแรกคือพบลังกระดาษและอาหารเม็ดกระจัดกระจายอยู่ในลัง ดูแล้วน่าจะเป็นแมวที่เจ้าของไม่ต้องการ โดยคาดว่าน้องน่าจะไม่สบายและไม่อยากที่จะดูแลต่อหลวงพี่ท่านนี้จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์ โดยได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า หวังว่าคงจะไม่ได้เอาน้องมาปล่อยจริงๆใช่ไหม หมาแมวปล่อยในวัดยังมีอีกหรอ หากเจ้าของน้องได้เห็นโพสต์นี้ ได้ลืมน้องเอาไว้และถ้าน้องหายป่วยแล้วก็มาติดต่อได้ตลอดเวลานะครับ น้องน่ารักมากจริงๆ ตอนนี้น้องคงจะคิดถึงผู้เป็นเจ้าของแย่แล้ว โดยทางหลวงพี่เองก็อยากที่จะดูแลน้องให้ดีแต่ทว่ากลัวว่าสุนัขและแมวที่วัดอาจจะเข้ามาทำอะไรน้องได้ จึงทำได้แค่ให้ที่พักพิงชั่วคราวเพียงเท่านั้นหรือถ้าหากผู้เป็นเจ้าของนำมาปล่อยเอาไว้จริงๆก็คงจะทำการหาบ้านให้กับน้องต่อไป ซึ่งก็ทำได้แค่สงสารน้องเพราะสัตว์เหล่านี้พวกเขาก็มีหัวใจเหมือนกับเรา เราเลี้ยงพวกเขามาก็ไม่ต่างจากคนเป็นแม่ที่เลี้ยงดูลูกน้อย แล้วถ้าแม่ไม่อยู่ลูกน้อยจะมีจิตใจเป็นอย่างไรก็อยากจะให้ทุกคนลองนึกดูแล้วกัน ขอขอบคุณข้อมูลจาก พระณณิณ กลฺยาณสิริ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Narayut Kuntupthai ได้เผยเรื่องราวพร้อมฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับการหาบ้านให้กับแมว โดยก่อนหน้านี้ไม่นานเขานั้นได้ประกาศตามหาบ้านให้กับน้องและมีคนสนใจรับน้องไปเลี้ยงทั้งสองตัว เห็นว่ามีเงินและรักแมว แต่พอรับน้องไปกลับนำน้องไปปล่อย . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์นะครับ เดือนก่อนหน้านี้มีคนใจบุญรับสมชายกับสมหญิงไปเลี้ยง โดยเจ้าของของน้องรู้สึกดีใจมากๆ ที่หาบ้านให้น้องทั้งสองตัวได้สำเร็จ สภาพพื้นที่การเลี้ยงดู น่าจะอยู่(ทาวน์เฮาส์) เลี้ยงแบบระบบปิดไอ้เราก็หมดห่วง คนขอรับเลี้ยงอายุประมาณ 20 ปี บอกว่ามีเงินรักแมวดูแลได้บลาๆ และหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าของได้ติดต่อกับคนที่ขออุปการะน้องไปเลี้ยงไม่ได้เป็นเวลากว่า 1 เดือนเต็ม ขาดการติดต่อไปดื้อๆไม่อัพเดทใดๆ ให้ทราบและติดตามน้องไม่ได้ จนกระทั่งวันนี้ ทางเจ้าของเดินทางไปถึงบ้านของคนรับเลี้ยงที่พระประแดง เจอคนแต่ไม่เจอแมวเลย..โดยคนที่รับน้องไปเลี้ยงได้แจ้งว่า น้องเป็นพยาธิ เลยเอาไปไว้ที่บ้านอีกหลังหนึ่งแถว วัดบางกระดี่(แถวๆแสมดำ) ก่อนไปวัดเลยถามว่า ทำไมถึงติดต่อไม่ได้ล่ะ นางตอบมือถือเสีย งั้นพี่โทรเข้าFBแฟน ของหนูก็ได้ค่ะ หลังจากนั้นก็เดินทางไปวัดอีก 30 กม. พอไปถึงที่หมายผลปรากฏว่า ไม่เจอสมหญิงและสมชาย แต่ดันไปเจอซากแมวลายสลิดนอนอยู่ เลยโทรกลับไปหาน้องว่า เรา : แมวพี่อยู่ไหน ? ...คำตอบคือ น้อง : แมวเสียแล้วอ่าค่ะน้องเป็นพยาธิ ก็เลยเอาไปไว้ที่นั่น เรา : แล้วทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่ที่พระประแดง ให้กูมาทำไมแสมดำ แล้วแฟนน้องติดต่อได้ไม่คิดจะให้ติดตามหน่อยเลยเหรอ ? เลี้ยงไม่ได้ทำไมไม่บอก แมวกูก็เป็นพยาธิอ่ะ กูก็รักษา หายไม่หายก็ต้องรักษาไม่ใช่เอามันมาปล่อย น้อง : หนูไม่ได้เอาไปปล่อยค่ะ เรา :...

เพื่อนๆหลายคนอาจจะเคยเป็น ว่าอยากที่จะเลี้ยงแมวแต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เลี้ยงจึงต้องอาศัยเล่นกับแมวข้างบ้านเอา เพราะด้วยความพร้อมในการเป็นทาสและด้วยพรมลิขิตที่ยังไม่มีมา แต่ทว่าถ้าหากเราหลงไหลในแมวเข้าแล้วเชื่อว่าสักวันนึงเราก็คงจะตกเป็นทาสจนในที่สุด เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nan Nattamon ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเธอเองลงในกลุ่มทาสแมวซึ่งในตอนแรกเธอก็ไม่ได้เป็นทาสแต่อย่างใดแต่ก็อยากที่จะเลี้ยงแมวจึงอาศัยเล่นกับแมวข้างบ้านเอาจนวันนึงมีเจ้าเหมียวหลงมาแต่ด้วยความที่บ้านของเธอนั้นเลี้ยงสุนัข เธอเลยประกาศหาบ้านให้กับเจ้าเหมียวแต่ก็ไม่มีใครต้องการจนในที่สุดเธอจึงต้องเลี้ยงน้องเอง ซึ่งในตอนแรกนั้นเธอก็ได้เอาน้องเข้ามาในบ้านแต่ด้วยความที่ในบ้านมีหมา หมาของเธอกลับกลัวแมวเพราะเจ้าเหมียวนั้นไปไล่ตบเขา เธอเลยจำเป็นต้องให้น้องอยู่นอกบ้านแต่ก็มีอาหารและห้องน้ำให้เสร็จสรรพ และน้องก็ไม่ไปไหนด้วยนิสัยที่ซนสุดๆเลยตั้งชื่อว่าเจ้าซุงหงอคง น้องเป็นแมวผู้ชายนอนหน้าบ้านแบบแมนๆ ชอบหาหนูหาจิ้งจกมาวางไว้ที่หน้าประตูเกือบทุกวัน แต่ทว่าในวันนี้นางกลับไปหาแมวสาวมาให้ ใช่แล้วค่ะแมวแมวจริงๆ เป็นแมวที่มีปลอกคอด้วยแม่เจ้า งานนี้เลยลำบากทาสต้องอุ้มแมวที่เจ้าหงอคงพามาให้ไปตระเวนถามระแวกบ้านว่าแมวใคร จนได้เรื่องราวว่าสรุปน้องเป็นแมวบ้านตรงข้ามที่พามาเลี้ยงใหม่ นางเลยพามาให้แม่ดูตัวงานนี้เลยทำเอาตกอกตกใจคิดว่าจะหาเมียมาให้แม่ซะแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องราวดังกล่าวก็ได้สร้างความน่ารักให้กับเพื่อนๆในกลุ่มเป็นอย่างมากและรูปของน้องเมื่อได้เข้าไปในบ้านในแต่ละวันก็สร้างรอยยิ้มได้อย่างมากเช่นกันเพราะดูแล้วน้องหมาคงจะกลัวน้องจริงๆ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nan Nattamon

ด้วยหัวอกคนเป็นแม่แล้วย่อมทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะปกป้องลูกน้อยเสมอ เพราะด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ของแม่นั้นยอมแลกไม่ว่าจะกับอะไรก็อยากจะให้ลูกได้อยู่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องมาทนทุกข์ลำบาก ยิ่งเกิดเป็นแมวจรแล้วก็คงแย่เพราะแม่ก็ทำให้พวกหนูได้เพียงเท่านี้ เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวสีขาวตาเหล่ตัวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า บีม เสนาะ ได้มาโพสต์เล่าเรื่องราวของแม่เหมียวลูกอ่อนตัวนี้มาโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมวเพื่อที่จะหาบ้านให้กับน้อง เพราะเนื่องด้วยน้องเป็นแมวจรที่เพิ่งคลอดลูกน้อยซึ่งไม่สามารถที่จะเข้าใกล้ได้ เพราะน้องขู่ด้วยเนื่องมาจากเคยเป็นแมวมีเจ้าของแต่ก็คงระหกระเหินมาเป็นแมวจรและระแวงผู้คน ซึ่งทำได้เพียงหาที่ปลอดภัยให้กับลูกๆตัวน้อย ซึ่งผู้โพสต์ทำได้เพียงทำที่นอนให้กับน้องและลูกตัวน้อยแต่ด้วยความเป็นห่วงลูกน้องก็ไม่อยู่และคาบลูกไปไว้ที่โอ่งกระถางต้นไม้ จึงหวังอยากให้มีคนมารับน้องไปเลี้ยง แต่ก็ขอให้รับไปทั้งครอกเพราะไม่อยากพรากลูกพรากแม่ของเขา ซึ่งหัวอกแม่นั้นก็ทำได้เพียงแค่ปกป้องลูกน้อยอย่างสุดพลังถึงแม้ว่าแม่จะทำได้เพียงเท่านี้ก็ตาม แต่ก็อยากให้ลูกได้อยู่อย่างปลอดภัยเพราะแม่นั้นเป็นแมวจร ที่ไร้ที่พักที่อาศัยจะหากินยังไงเมื่อลูกโต หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปทางผู้โพสต์ก็ได้ออกมาอัปเดทเพิ่มเติมว่าได้มีพนักงานที่โรงแรมช่วยกันดูแลน้องและมีคนคอยให้อาหารซึ่งน้องน่าจะเป็นแมวที่มีพนักงานที่โรงแรมนั้นคอยช่วยให้อาหารอยู่แล้วแต่ถึงอย่างไรก็อยากจะให้มีบ้านที่ปล่อยภัยได้อยู่อย่างมีความสุข ซึ่งหากเพื่อนๆต้องการติดตามเรื่องต่อก็สามารถติดตามไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก บีม เสนาะ 

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Vimonwan Sariya ได้เผยเรื่องราวที่เธอนั้นไม่มีวันลืม โดยก่อนหน้านั้นเธอได้เลี้ยงน้องหมาอยู่ 3 ตัว แต่เกิดปัญหาในเรื่องครอบครัวและด้านการเงินและเรื่องที่อยู่ที่จำต้องยกน้องหมาให้กับคนอื่น แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอมาย้อนนึกถึงลูกดู เธอได้แต่คิดเสมอว่านี่เธอทำอะไรลงไป อยากได้น้องคืนมาแต่ก็ทำไม่ได้เพราะยกให้คนอื่นเขาไปแล้ว . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มีเรื่องมาเล่าให้เพื่อนๆฟังค่ะ ยาวนิดนึงนะคะ นี่คือใบบัว หมาที่เราทำคลอดเองกับมือเลย ตัดสายสะตือเอง ทำเองหมดทุกอย่าง เลี้ยงน้องมาตั้งแต่อยู่ในท้อง บัวเป็นหมาที่น่ารักและดื้อมาก แต่บัวก็ขี้อ้อนสุดๆ ชอบให้โยนบอลให้แล้วคาบมาใส่มือเรา ให้เราโยนให้ บัวฉลาด แสนรู้ รู้มาก เราไปเที่ยวด้วยกันบ่อยสุดๆ ตอนนั้นเรามีมะหมา บีเกิลทั้งหมด3ตัว พ่อทอง แม่โลตัส และลูกบัว เราเลี้ยงน้องมาได้ปีกว่า และช่วงนั้นครอบครัวเรามีปัญหามากมาย แม่โลตัสท้องแต่โลตัสแท้งลูก เสียค่าหมอไปสองหมื่นกว่า และเริ่มมีปัญหารายรับรายจ่าย ไม่มีคนดูแลน้อง และเราต้องทำงาน เช่าห้องเลยดูแลเองไม่ได้ ให้แม่เลี้ยงไปพักใหญ่เลย เริ่มไม่ไหวแม่ก็ไม่สบายด้วย เราก็มีปัญหากับแม่อีก ตอนนั้นเลยตัดสินใจหาบ้านให้ ใบบัว กับพ่อทอง ตอนนั้นยอมรับว่าไม่คิดให้ดีก่อนที่จะให้คนอื่นไป เเละตัดสินใจเร็วไปมาก ใบบัวกับพ่อทองได้บ้านใหม่ที่ราชบุรี เราพาน้องไปส่งถึงที่เลย วันนั้นเองเป็นวันที่เราจำไม่เคยลืม ภาพที่น้องนั้งมองเราจากหน้าประตูรั้ว เเละเราค่อยๆขับรถออกมา ห่างออกมาเรื่อยๆ น้องก็ยังนั่งมองเรา จนสุดทางและลับหายไป มันเป็นภาพที่เจ็บปวดมาก จากวันนั่นจนวันนี้ก็จะสองปีแล้วที่เราให้น้องไปแบบนั้น เรานึกถึงที่ไร น้ำตามันไหลออกมาเองตลอด บ้านใหม่น้องก็ดูแลน้องดี เราไม่กล้าทักไปถาม...

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Parichat PM Artiwara ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้ขับรถไปเติมน้ำมันที่ปั้มแห่งหนึ่ง ในขณะที่กำลังเติมน้ำมันพนักงานก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ แถมน้องพนักงานยังทำหน้าตาตื่นและรีบแจ้งให้กับเธอว่าพี่ๆมีแมวอยู่ข้างหลังรถพี่ ! . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขับรถมาเติมน้ำมันที่ปั้มแห่งหนึ่ง แต่ดันมีแมวคนข้างบ้านติดท้ายรถมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้เรื่องเลย พอจอดเติมน้ำมันเท่านั้นเเหละเด็กปั้มบอกมีแมวติดอยู่หลังรถพี่มา แต่ครั้งแรกเด็กปั้มเขาคิดว่าเป็นตุ๊กตา พอได้ยินแมวร้องเท่านั้นแหละหน้าตื่นเลย รีบเรียกเราใหญ่เลยพี่ๆ มีแมวอยู่หลังรถพี่ๆ เราก็งงอิหยังวะ มีมาได้ไงวะรถวิ่งมาตลอดอะ พอหันไปมองโซฟาเท่านั้นแหละ ก็เห็นขาเจ้าแมวห้อยมาเลยอย่างชัด ถึงว่าทำไมมอไซค์2คันบีบแตรเรียกอยู่งั้นไอ้เราก็คิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิดนะบีบแตรใส่ทำไม ก็ยังขับรถมาอย่างสบายใจ5555 สรุปเด็กปั้มต้องเอาแมวออกให้พร้อมกับไปหากระสอบมาให้ใส่เจ้าแมวกลับเอาไปคืนคนข้างบ้าน ฮ่าๆๆๆ ดีนะไม่ไปหล่นตรงไหนกลางทางเข้าอะเกือบไปแล้วมั้ยลูกเอ้ย และอัปเดทล่าสุดนะหลังเอาแมวไปคืนแล้วในตอนที่เลิกงานมา นางยังไม่ยอมกลับบ้านอีกจ้า มานอนอยู่ข้างรถอีกแล้วนางยังไม่เข็ดอีก เจ้าขาวชอบหนีน้องๆอีกสามตัวมานอนที่บ้าน เห็นว่าโดนน้องแกล้งบ่อยๆเลยรำคาญ เจ้าของเค้าบอกมางั้นนะ ฮ่าฮ่า ที่มา Parichat PM Artiwara