หน้าแรก บล็อก หน้า 524

ร้องสุดเสียงเรียกหาเจ้าของที่หน้าบ้าน หลังเจ้าของจากไปแล้วจะไม่มีวันกลับมารับ

หากการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นทำให้เกิดภาระ เราจึงมักจะพูดบอกกันคนที่คิดจะเลี้ยงเสมอว่าการนำสัตว์มาเลี้ยงนั้นก็เท่ากับเราเอาเด็กตัวน้อยๆที่มีอายุเพียงแค่สองขวบมาเลี้ยง ซึ่งเมื่อเราเอาพวกเขามาเลี้ยงแล้วพวกเขาก็จะคิดว่าเรานั้นเปรียบเสมือนผู้เป็นพ่อเป็นแม่ที่จะต้องคอยดูแลพวกเขาตลอดไป เพราะมิเช่นนั้นปัญหาการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงก็จะเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า อำพล เฟซใหม่ ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้มาโพสต์ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่พบน้องเดินร้องด้วยเสียงออดอ้อนตามหาเจ้าของเพียงลำพัง ซึ่งน้องก็ตามืดบอดสนิทไปหนึ่งข้างแต่ก็ยังเฝ้าคอยผู้เป็นเจ้าของกลับมารับที่หน้าบ้านอยู่ทุกวันทุกคืน ซึ่งในแต่ละคืนน้องก็จะเดินร้องเรียกหาผู้เป็นเจ้าของ และเมื่อมีคนใหม่ที่มาดูบ้านซึ่งเป็นบ้านเช่าน้องก็จะกลัวและวิ่งหนีหายไป แต่เมื่อผู้คนไปแล้วน้องก็จะกลับมารอที่เดิม อาจจะด้วยความหวังว่าเดี๋ยวเจ้าของจะกลับมารับแล้วไม่เจอหนู จึงกลับมาเฝ้ารอผู้เป็นเจ้าของต่อ ซึ่งทางผู้โพสต์นั้นได้กล่าวเอาไว้ด้วยว่า เฮ้ออมนุษย์ทำไมใจร้ายเหลือเกินช่วงเวลาสถานการณ์แบบนี้คุณยังเลือกที่จะปล่อยเขา 1 ชีวิตได้ลงคอ เพียงเพราะตาบอด 1 ข้างใช่ไหมเขาเลยหมดความหมาย ซึ่งทั้งนี้ทางผู้โพสต์เองจึงได้รับน้องมาเลี้ยงและดูแลเอาไว้เพียงแค่ชั่วคราวเพราะทางผู้โพสต์นั้นเลี้ยงหมาและไม่สามารถจะดูแลน้องตลอดไปได้ จึงอยากฝากเพื่อนๆคนไหนที่สนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปยังผู้โพสต์ได้ และเบื้องต้นคาดว่าน้องน่าจะเป็นแมวพันธุ์และที่ถูกปล่อยไม่ยอมเอาไปด้วยเนื่องมาจากสาเหตุที่ตานั้นมองเห็นเพียงแค่ข้างเดียว ขอขอบคุณข้อมูลจาก อำพล เฟซใหม่ 

ลูกหมาที่เขานำมาปล่อย คอยเดินตามไม่ยอมหยุดหวังให้ช่วยเพราะชีวิตน้องไม่เหลือใครอีกแล้ว

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : รจนา ตามหาสังข์ทอง ได้เผยเรื่องราวของลูกหมาตัวหนึ่ง น้องเป็นลูกหมาจรตัวน้อยที่คอยเดินตามสาวใจดีที่ไปพบเข้า ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะถูกนำมาปล่อยที่กองขยะตรงบริเวณนี้ ด้วยความที่จะปล่อยให้น้องอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ถ้าไม่มีใครช่วยน้องต้องแย่แน่ๆ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เมื่อวานนี้ดิฉันเอาขยะไปทิ้งตรงบริเวณนี้ แต่ในตอนขากลับออกมาเจอลูกหมาวิ่งตามรถ เรากับพี่สาวเลยหยุดรถในทันที น้องหมาก็นั่งลงหน้าตาหน้าสงสารมากๆ ตามหาเจ้าของก็ไม่เจอ เราสืบทราบมาว่าลูกหมาถูกปล่อยที่กองขยะ เราไม่รู้ว่าน้องถูกนำมาไว้ที่กองขยะนานเท่าไหร่แล้ว เนื้อตัวของน้องมอมแมม ดิฉันจึงนำน้องขึ้นรถมาด้วยกัน ดิฉันตัดสินใจรับดูแลน้องในทันที เอาน้องมาทำความสะอาด นำไปฉีดวัคซีน ดิฉันจึงอยากเผยเรื่องราวของน้องครั้งแรกที่พวกเราเจอกัน สัตว์มันก็รักชีวิตของมันอ่ะนะเนอะ และเธอก็รับน้องมาดูแลให้อย่างดีในที่สุด หลังจากเอาน้องมาทำความสะอาดและดูแลรักษาอย่างดี สภาพของน้องก็กลับมาน่ารักอีกครั้ง หน้าตาของน้องหมาดูยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะรู้ดีกว่าใครว่าตัวน้องเองได้รับการช่วยเหลืออยู่ในบ้านที่แสนอบอุ่น จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในกลุ่มรักหมาจนกลายเป็นไวรัลที่ผู้คนพูดถึงมาก ณ เวลานี้ ดีใจด้วยนะลูกเอ้ยที่หนูอยู่ในบ้านที่รักหนูจริง ถ้าหนูไม่เจอพี่สาวใจดีชีวิตของหนูต่อจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ขอบคุณนะที่ช่วยชีวิตน้องเอาไว้ ชาตินี้น้องคงไม่มีวันลืมเจ้าของที่น่ารักๆแบบนี้ได้อีกแล้ว   ขอขอบคุณ : รจนา ตามหาสังข์ทอง

สาวไม่เคยคิดจับแมวมาก่อนในชีวิต แต่กลับต้องมานั่งร้องไห้เพราะแมว

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎Ploy Jung‎  ได้เผยเรื่องราวจากอดีตที่เธอนั้นไม่เคยคิดที่จะจับแมว ไม่เคยเลี้ยงไม่เคยคิดจะไปยุ่งอะไรกับแมวมาก่อน แต่เมื่อเธอได้สัมผัสแมวเป็นครั้งแรกเธอกลับตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น และวันที่เธอต้องเสียใจมากที่สุดก็มาถึงก็เพราะแมวที่เธอไม่เคยคิดจะจับมาก่อน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ชีวิตนี้ไม่เคยเล่นไม่เคยจับแมว ไม่ได้เกลียดแต่ไม่เล่นไม่ยุ่งกับแมว แต่จู่ๆ ก็มีแม่แมวมาคลอดลูกที่หน้าออฟฟิตจำนวน 4 ตัว มีคนช่วยน้องเอาตัวอื่นไปเลี้ยง แต่ตัวนี้น่ารักที่สุด แต่กลับไม่มีไครรับไปดูแลเลย ด้วยความสงสารเราเลยหาบ้านตามเฟสบุ๊ก มีคนจะรับน้องเยอะมากๆแต่พอหันไปเจอเวลาเขาเล่นเขานอนกอดแม่เขาก็อดสงสารไม่ได้ ตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มดูแลเขาตลอดมา 1-2 เดือน เราชอบอุ้มน้อง น้องตัวเล็กชอบมาเล่นด้วยนั่งทำงานด้วยที่โต๊ะ น้องน่ารักมากๆแม่เขาก็น่ารักไม่ดุแถมขี้อ่อน เรียกก็มาตลอด แต่น้องชอบไปนอนที่ล้อรถใหญ่ เรากับพี่ๆจะคอยดูอุ้มน้องออกตลอด จนมาถึงวันนี้งานเยอะจนไม่ได้มองเลยทำให้น้องโดนรถชน เราร้องไห้ไม่หยุด ยิ่งเลี้ยงยิ่งรัก กระดูกน้องไม่หัก แต่น้องบาดเจ็บจากข้างใน น้องสมควรเดินได้ แต่น้องกลับนอนแน่นิ่ง หมอบอกน้องอาจจะพิการได้ หรือกลับมาไม่สมบูรณ์ เห้อ...คิดถึงน้องเลยแวะมาระบายค่ะ แม่ร้องเรียกหาไม่หยุดตั้งแต่น้องหายไป (น้องอยู่โรงพยาบาล) ถึงน้องจะพิการแต่เราก็จะดูแลไม่ทิ้งน้อง ทางแอดมินเองก็ขอให้น้องกลับมาแข็งแรงเหมือนดังเดิมนะ และขอเป็นกำลังใจให้กับผู้เป็นเจ้าของด้วย ขอให้น้องหายไวๆน้า ที่มา : ‎Ploy Jung‎ 

เจ้าของกลัวแมวหายเพราะแมวชอบหนีไปเที่ยวนอกบ้าน แต่ชาตินี้จะไม่มีวันเสียน้องไปด้วยรูปสุดขลังที่ห้อยคอน้องอยู่

หากเพื่อนๆที่เป็นทาสแมวแล้วก็คงจะรู้หรือเข้าใจกันดีในการที่แมวของเรานั้นชอบหนีหรือแอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน และด้วยไม่ว่าเราจะทำการเลี้ยงในระบบปิดมากแค่ไหนน้องก็ยังคงออกไปนอกบ้านได้อยู่ดี ซึ่งด้วยการที่เป็นแมวตัวผู้ส่วนมากก็จะชอบเที่ยวออกไปหาสาวๆข้างบ้าน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ชะ ม้อย ได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่ม ทาสแมว Official หลังจากที่น้องของเขานั้นกลัวแมวหาย เพราะด้วยแมวของน้องของเธอนั้นชอบแอบออกไปเที่ยวนอกบ้านเป็นประจำ ซึ่งผู้เป็นเจ้าของอย่างเราๆก็กลัวว่าแมวนั้นจะหายหรือมีคนอุ้มไป เพราะด้วยความรักและการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีก็อาจจะทำให้ผู้ที่พบเห็นแมวนั้นคิดว่าน้องไม่มีเจ้าของหรือหลุดออกมาหรือพลัดพรากจากผู้เป็นเจ้าของ จึงนำเก็บไปเลี้ยงที่บ้านได้ เจ้าของจึงต้องพกรูปถ่ายติดตัวและห้อยคอแถมยังมีประวัติของผู้เป็นเจ้าของรายนี้อีกด้วย ซึ่งหลังรูปที่ห้อยคอของเจ้าเหมียวนั้นได้เขียนเอาไว้ว่า "ผมชื่อ 'กะโปก' ลูกพ่อเนี๊ยบ ซอย 10 ใครเจอผมเดินเที่ยวให้โทรฟ้องพ่อผมที ขอบคุณครับ" ด้วยการดูจากรูปและข้อความแล้วคาดว่าเจ้าเหมียวคงจะชอบแอบหนีเที่ยวเป็นอย่างมากพ่อถึงขนาดต้องติดป้ายติดรูปห้อยคอแบบนี้เลย และหลังจากที่ผู้โพสต์รายดังกล่าวได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์เพื่อนๆที่ได้รักแมวก็ต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นทั้งขำชื่อของน้องแมวแถมยังมีไอเดียในการแขวนประวัติแบบเจ้าเหมียวรายนี้ ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนกลัวว่าเจ้าเหมียวจะหายก็ลองนำวิธีนี้ไปใช้ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก ชะ ม้อย

หนุ่มพาแมวจรที่ช่วยชีวิตไว้ไปหาหมอ แต่ตอนหมอประกาศชื่อแมวคนกลับมองมาหาเขาทั้งคลีนิค

เพราะจิตใจของมนุษย์นั้นต่างกัน ความเมตตาที่มีเลยแตกต่างกันออกไปอาจจะด้วยการถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเล็กทั้งทางครอบครัวและสังคมคนรอบข้างที่ได้เติบโตมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีมนุษย์ที่มีจิตใจดีๆมากมายที่ยังคอยช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้เพราะมันแลกมาด้วยความสุข เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ค  Athipatai Sooksai  ได้พบเจ้าเหมียวสองตัวมาติดอยู่บนหลังคาบ้านที่เขานั้นได้อาศัยอยู่ โดยในวันนั้นเขารู้สึกว่ามีบางสิ่งมากระทบที่หน้าต่างบ้านจึงได้เปิดออกไปดูและพบเจ้าเหมียวทั้งสองตัวนี้ แต่ทว่าเรื่องราวหลังจากนี้กลับทำให้ทั้งโลกโซเชียลนั้นต่างพากันยิ้มไม่หุบ เพราะหลังจากการช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวน้อยสองตัวนี้เขานั้นได้ตัดสินใจที่จะพาน้องไปหาหมอทีคลีนิคเพื่อที่จะทำการตรวจสุขภาพ ว่าน้องทั้งคู่ปลอดภัยและมีโรคภัยอะไรมั้ย ซึ่งในขั้นตอนการจะพาเจ้าเหมียวไปหาหมอนั้นก็จะต้องกรอกประวัติว่าน้องชื่ออะไรอายุเท่าไหร่และเพศอะไร ซึ่งด้วยเมื่อเขาได้กรอกประวัติเสร็จก็ได้ไปนั่งรอคุณหมอตามคิวเพื่อที่จะทำการตรวจ แต่เมื่อถึงคิวเขาและพยาบาลผู้ช่วยก็ได้ประกาศออกมาทำให้คนทั้งคลีนิคนั้นต้องหยุดชะงักและหันหน้ามามองที่เขาเป็นสายตาเดียว เพราะด้วยชื่อของเจ้าเหมียวที่เขาได้ตั้งนั้น โดยเจ้าเหมียวตัวแรกมีชื่อว่า "พรณประภาศรีสัจจาคุณาเดชอุดม" ส่วนน้องอีกตัวนั้นมีชื่อว่า "ศรีศักดากรนฤบดินอินทิลาลัย" และลงท้ายด้วยคำว่ามาพบคุณหมอด้วยค่ะ แบบนี้คนจะไม่มองได้อย่างไรกันละเจ้าคะ ทั้งนี้หลังจากการหาหมอและตรวจน้องๆเสร็จแม้แต่ทางคุณหมอเองก็ยังคงต้องแอบถามว่าอะไรคือแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อน้องๆ ซึ่งทางผู้เป้นเจ้าของเองก็ได้ตอบอย่างภาคภูมิใจด้วยว่าอยากให้แมวของเขานั้นดูมีชาติตระกูลซึ่งเรื่องราวนี้ได้สร้างความเฮฮาในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก และหากเพื่อนๆคนไหนอยากให้แมวดูมีชาติตระกูลก็ลองตั้งชื่อแบบนี้ดูก็แล้วกันนะ แต่ตอนนี้ทางผู้โพสต์ได้ออกมาบ่นว่ากำลังซ้อมเรียกชื่อน้องอยู่เพราะจำชื่อน้องไม่ได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Athipatai Sooksai 

น้ำตาไหลพราก หลังสาวเห็นแม่หมาตัวผอมกำลังจะเอาอาหารให้ แต่ผู้คนกลับสั่งห้ามว่าอย่าให้หมามันได้กิน

เพราะด้วยหัวใจของมนุษย์เรานั้นมีความอ่อนโยนไม่เท่ากันอาจจะด้วยการเลี้ยงดูจากทางครอบครัวและสังคมที่ได้เติบโตขึ้นมา ทำให้มนุษย์เรานั้นมีหัวใจที่มีความเมตตาต่อสัตว์ร่วมโลกแตกต่างกันไป ซึ่งถ้าพวกคุณเลี้ยงลูกให้อยู่กับสัตว์ต่างๆมาตั้งแต่ยังเล็กพวกเขาก็จะมีจิตใจที่เมตตาและอ่อนโยนมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งแน่นอนว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับการปลูกฝังของครอบครัวและพ่อแม่ที่มีต่อลูก เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Poompooy Dekza ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของตนลงในกลุ่ม รักหมา หลังจากที่เธอนั้นได้เคยให้อาหารเจ้าตูบแม่ลูกอ่อนรายนี้กินเพื่อประทังความหิว ซึ่งด้วยความสงสารเค้าจึงซื้อไก่และลูกชิ้นไปให้น้องกินเพราะเห็นว่าน้องเป็นหมาแม่ลูกอ่อนที่ผอมและหิวโซ ซึ่งทางผู้โพสต์นั้นเธอเป็นแม่ค้าขายของอยู่แล้วก็จะนำอาหารไปให้น้องในวันถัดมาเสมอ โดยเธอได้เตรียมโครงไก่สับกับข้าวสวยมาให้น้องแต่ทว่าเธอกลับเจอลุงคนนึงได้เดินมาบอกกลับเธอว่าอย่าไปให้มัน เพราะเนื่องด้วยหมาตัวนี้ไม่มีเจ้าของและไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหากไปงับใครเข้าเขาจะทำให้เดือดร้อน ลุงจึงได้สั่งว่าห้ามให้อย่าได้ไปให้เด็ดขาด เพราะด้วยเหตุผลที่ลุงว่าคือถ้าหมาไม่มีอาหารพวกมันก็จะไปอยู่ที่อื่นเอง เพราะถ้าเดือดร้อนงับคนขึ้นมาจะหาคนรับผิดชอบไม่ได้ เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็ทำเอาน้ำตาไหลพราก ซึ่งเธอก็ได้บอกว่าเธอเสียใจและผิดหวังมาก แม่สุนัขแอบมองมาที่เธอเดินจนละสายตาเธอก็เลยได้แต่แอบเอาไปวางไว้ใต้รถ และนางก็วิ่งมากินอย่างเวทนา เหตุใดกันหนอมนุษย์ถึงได้ใจดำขนาดนี้ โดยเธอเองก็ได้บอกอีกว่าเธอนั้นก็ช่วยได้แค่นี้เพราะเธอเป็นแม่ค้าขายของคาราวานพรุ่งนี้ก็จะต้องกลับไปแล้ว โดยหลังจากที่เรื่องราวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาต่อว่าคุณลุงรายดังกล่าวในโลกออนไลน์ และในที่สุดน้องๆทั้งหมดก็ได้ถูกรับเลี้ยงยกทั้งครอบครัวแบบที่ไม่ต้องเร่ร่อนหาอาหารกินและใช้ชีวิตอยู่ตามยถากรรมอีกต่อไป ทั้งนี้ก็เป็นผลพวงมาจากที่สาวรายนี้ได้นำเรื่องราวของน้องๆมาลงในกลุ่มก็ขอให้พวกน้องๆได้มีความสุขกับชีวิตและครอบครัวใหม่ที่ไม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อแบบนี้อีก ขอขอบคุณข้อมูลจาก Poompooy Dekza

สุดจะเป็นห่วงหลังเห็นมนุษย์กักตัวอยู่แต่ในบ้าน กลัวว่าจะอดไม่มีอะไรกินจึงคาบอาหารมาให้ทุกวี่วัน

เพราะในช่วงนี้ที่เรานั้นต้องอยู่ในช่วงกักตัวเพราะโรคโควิด19 ซึ่งด้วยการที่เราจะต้องอยู่แต่ในบ้านนั้นก็อาจจะทำให้เจ้านายเหมียวของเรานั้นเข้าใจผิด คิดว่ามนุษย์นั้นไม่สามารถที่จะออกไปหาอาหารมาประทังชีวิตให้กับพวกเขาได้ พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวแทนทาสที่ไม่ยอมไปทำงาน เพื่อที่จะออกไปหาอาหารมาให้กับเหล่ามนุษย์อย่างเราๆเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Khawfang Jinwara ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวแสนรู้ลงในกลุ่ม ทาสแมว Official หลังจากที่เจ้าเหมียวนั้นชอบคาบอาหารมาให้ไม่เว้นในแต่ละวัน ซึ่งสิ่งที่เค้าเอามาเซอร์ไพรส์แม่นั้นก็อาจจะทำให้หัวใจเต้นเร็วไปหน่อย เพราะแต่ละวันมีทั้งจิ้งจกมีทั้งกระปอม และล่าสุดนางไปคาบเอาเจ้าอ๊บๆน้อยมาให้แม่ แถมยังมีชีวิตและลมหายใจส่วนอิแม่ก็หัวใจจะวายเพราะแต่ละอย่างที่หามาให้ แถมยังมีการเอามาใส่ในจานคุกอาหารเม็ดมาให้แบบเสร็จสรรพ เธอจึงเกิดความสงสัยว่าทำไมน้องถึงชอบคาบอาหารมาให้ตั้งแต่เริ่มกักตัวอยู่บ้าน จนต้องเอามาลงในโลกออนไลน์เพื่อถามเพื่อนๆในกลุ่มทาสแมวดังกล่าวว่า คาบมาให้ทุกวันเต็มบ้านไปหมด น้องเอามาให้เรากินหรือป่าวคะบางวันก็มีคลุกอาหารเม็ดมาให้ด้วย เราต้องกินเพื่อที่จะรักษาน้ำใจของลูกไหมลูกอุตส่าห์หามาให้ทุกวี่ทุกวัน ช่วงเคอร์ฟิวกักตุนอาหารออกหาอาหารเลี้ยงมนุษย์แทน ซึ่งทั้งนี้ก็ได้มีเพื่อนๆในกลุ่มจำนวนมากต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นและชื่นชมน้องเพราะด้วยน้องอาจจะคิดว่าแม่ไม่ได้ออกไปไหนกลัวว่าแม่จะอด และถึงอย่างไรก็ตามก็อยากจะให้เพื่อนๆอธิบายให้ลูกๆฟังด้วยว่าพวกเรานั้นอาหารเองได้ไม่ต้องออกไปหาแทนเพราะเห็นแล้วหัวใจมันเต้นรัวสุดๆเลย ขอขอบคุณข้อมูลจาก Khawfang Jinwara

นิติเปิดกล้องเช็คเห็นสาวห้องนี้แอบเลี้ยงหมา แต่สรุปน้องเป็นแมว

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : เรื่องของ วันพรุ่งนี้ ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่าน้องหมีควาย ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โตมโหฬารทำให้นิติบุคคลของห้องพักเข้าใจผิดคิดว่าเลี้ยงหมา เพราะที่นี่ห้ามเลี้ยงหมาแต่สามารถเลี้ยงแมวได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรื่องมันมีอยู่ว่าทางตึกเขาห้ามเลี้ยงน้องหมาเด็ดขาด แต่เลี้ยงได้แค่น้องแมวนะเช้านี้เราอุ้มฟ่าเดินเล่นไปเล่นมาตรงส่วนกลาง ทางนิติบุคคลเขาก็ดูในกล้องวงจรปิดและโทรมาคุยเลยค่ะว่า ที่ตึกห้ามเลี้ยงน้องหมานะคะ โถๆๆๆหมีควายตัวน้อยๆของแม่กลายเป็นหมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทันใดนั้นอิแม่ก็หลุดขำออกมายกใหญ่เพราะเขาหาว่าน้องเป็นหมา ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกับอดที่จะขำไม่ได้กับเรื่องราวนี้ บ้างก็บอกว่าน้องเหมือนหมาจริงๆนั่นแหละ ถ้าให้ดูจากกล้องยังไงแล้วน้องหมีควายก็ดูเหมือนน้องหมา ส่วนเคล็ดลับความไซต์บิ๊กของน้องทางเจ้าของก็ได้บอกว่าไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรเลยนะ อาหารก็กินเหมือนกับอาหารแมวทั่วๆไป ดูขนาดของน้องสิตัวเท่าถังแก๊สเลย ข้อดีคือเวลานางหายจะตามตัวง่ายนะใหญ่ขนาดนี้ แต่ข้อเสียคือตอนนี้อิแม่แทบจะอุ้มน้องไม่ไหวแล้วคร๊าบบบบบ ฮ่าฮ่าฮ่า   ขอขอบคุณ : เรื่องของ วันพรุ่งนี้

เฝ้าดูทั้งน้ำตา หลังกลับบ้านไม่ได้1เดือนทำได้แต่เปิดกล้องดูลูกที่กำลังนั่งอยู่หน้าประตูเฝ้ารอแม้กลับมาหา

เพราะด้วยพรก.ฉุกเฉินทำให้หลายๆคนนั้นไม่กล้าที่จะออกเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดหรือกลับไปยังต่างจังหวัด เพราะด้วยโรคระบาดที่เกิดขึ้นด้วย นั่นทำให้พวกเราต้องช่วยเหลือกันคือการงดเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดจนทำให้หลายๆคนนั้นถึงกับเข้าใจผิดเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า สวยใส สวยไม่จำกัดวัย ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเธอหลังจากที่เธอนั้นได้เดินทางกลับบ้านเป็นเวลา 1 เดือนซึ่งทำให้เธอนั้นได้แต่เฝ้าดูเจ้าเหมียวน้อยที่เธอได้เลี้ยงเอาไว้ผ่านกล้องวงจรปิดเพียงเท่านั้น ซึ่งเมื่อเธอเรียกเจ้าเหมียวเจ้าเหมียวก็มาที่หน้ากล้อง และก็ไปเฝ้านั่งรออยู่หน้าประตูเพราะคิดว่าผู้เป็นเจ้าของนั้นอยู่ในห้อง ซึ่งก่อนที่จะออกมาเธอก็ได้ให้อาหารน้องเอาไว้เพียงพอสำหรับหนึ่งเดือน และก็ทำได้เพียงแต่เฝ้าดูน้องอยู่แบบนั้นทั้งน้ำตา โดยเธอเองก็ได้ให้คนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ๆไปช่วยดูแลน้องแทน 3 วันครั้ง และหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีเพื่อนๆหลายคนเข้ามาบอกเธอด้วยว่าเธอนั้นกำลังเข้าใจผิด เขาไม่ได้มีประกาศที่ห้ามกลับบ้านต่างจังหวัดแต่เพียงอยากให้ทุกคนที่กลับต่างจังหวัดนั้นกักกันตัวเองไม่ให้ออกไปเจอผู้คนภายนอกเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งเธอเองก็ได้ออกมาบอกว่าเธอนั้นเข้าใจผิดกับข่าวที่ออกมาเพราะข่าวปลอมเยอะมากจนเธอไม่รู้ว่าจะต้องเชื่ออันไหน แต่ถึงอย่างไรเธอก็จะกลับไปดูแลเจ้าเหมียวสุดที่รักและกักกันตัวเองให้ดีที่สุด เพราะถ้าปล่อยน้องเอาไว้ลำพังหรือนานกว่านี้น้องก็จะต้องทนอยู่ด้วยความคิดถึงเธอไปตลอด ขอขอบคุณข้อมูลจาก สวยใส สวยไม่จำกัดวัย

แอบมานั่งร้องไห้นำตาคลอเบ้า แถมงอนแม่เรียกไม่หันหลังถูกดุเพราะจะออกไปเล่นที่ระเบียงในตอนฝนตก

หากเรามองจากมุมของคนที่ไม่ได้เลี้ยงแมวแล้วเพื่อนๆหลายๆคนก็อาจจะคิดว่าแมวนั้นเป็นสัตว์ที่หยิ่ง และไม่ค่อยมีความรู้สึก แต่ทว่าแท้ที่จริงแล้วถ้าใครเลี้ยงพวกเขาและรักเหมือนกับลูกนั้นจะเข้าใจดีว่า พวกเขาก็มีหัวจิตหัวใจไม่ต่างอะไรจากมนุษย์หรือสัตว์อื่นๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Lisa Lestari Keenan ได้มาโพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เธอนั้นได้บอกเล่าใครว่าแมวเสียใจไม่เป็น ซึ่งเรื่องเกิดขึ้นในวันที่ฝนนั้นตกหนักแต่เช้า ซึ่งเจ้าลูกชายก็ดื้ออยากที่จะออกไปเล่นตรงระเบียงบ้านเหมือนทุกๆวัน แต่ด้วยความที่ฝนนั้นตกไงเธอก็กลัวว่าลูกจะโดนฝนแล้วเป็นหวัด ก็เลยดุเสียงดังไปยกใหญ่และบอกให้รีบเข้าไปในบ้าน ซึ่งเมื่อเห็นลูกชายวิ่งเข้าบ้านแล้วแม่ก็ทำอย่างอื่นต่อโดยที่ไม่ได้สังเกตุ จนสักพักก็เอาขนมแมวเลียมาให้กินเหมือนในทุกๆเช้าที่ต้องให้เป็นกิจวัตร แต่ทว่า... เมื่อได้เรียกหาเจ้าเหมียวนั้นเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมา หาตัวเจออีกทีก็มานั่งทำหน้าทำตาจุ้มปุ๊กอยู่แบบนี้ แถมยังเรียกก็ไม่ยอมหัน ซึ่งนางงอนแม่หนักมากที่ไม่ให้ออกไปเล่นนอกบ้านแถมยังโดนดุเลยมานั่งงอนดราม่ามีน้ำตาไหลอยู่แบบนี้ งานนี้เลยทำให้ทาสนั้นรู้สึกผิดไปตามๆกัน เธอจึงต้องขอโทษเจ้าเหมียวแบบยกใหญ่จนกว่าจะหายงอนได้เล่นเอาเหนื่อย ซึ่งทั้งนี้ใครที่ชอบหาว่าแมวนั้นเสียใจหรือร้องไห้ไม่เป็นก็อยากให้ดูเอาไว้ว่าในความจริงแล้วพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับเราซึ่งพวกเขาก็มีหัวใจไม่ต่างกัน และใครที่บอกว่าแมวร้องไห้เพราะเจ็บมดลูกก็อยากให้ดูว่าน้องตัวนี้เป็นแมวตัวผู้ไม่มีมดลูกนะจ๊ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa Lestari Keenan