เจ้าของร้านซ่อมรองเท้าเลี้ยงแมวจร แต่ด้วยโควิดจึงต้องปิดร้านแต่แมวตัวนี้จะต้องมีกินไม่อยากให้น้องอด
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nomnoey NnByp ได้เผยเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าของร้านซ่อมรองเท้าท่านหนึ่ง ที่เลี้ยงแมวและคอยให้อาหารน้องอยู่ที่หน้าตึกแห่งหนึ่ง แต่ด้วยโควิด19ที่กำลังระบาด ทำให้ทางร้านไม่สามารถเปิดร้านได้ แต่เขาก็ห่วงแมวจรที่คอยให้กลัวว่าน้องจะไม่มีกิน
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เมื่อร้านซ่อมรองเท้าต้องปิดร้านเพราะโควิด แต่ร้านเลี้ยงแมวจรไว้1ตัว จึงเกิดภาพนี้ขึ้น ส่วนน้ำเราเป็นคนเอาไปให้ซื้อมาให้น้องเอง เดี๋ยวจะแวะมาเทอาหารให้และน้ำทุกเช้าเลยน้า ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องกลัวนะแถวนี้ไม่มีหมา ส่วนน้องเป็นเจ้าถิ่นก็จะเดินไปเดินมาแค่แถวนี้แหละ
ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวได้กล่าวว่า ถ้าน้องเริ่มลำบากแล้วอยากให้ทางเจ้าของโพสต์รับน้องไปดูแลเป็นการชั่วคราว รอโควิดหายดีค่อยเอากลับไปส่งคืนเจ้าของ แต่ก็กลัวว่าถ้าอุ้มน้องไปเหล่าแฟนคลับในระแวกคงเป็นห่วงน้องแน่ๆ เพราะนางเป็นที่รักของคนในชุมชน
ส่วนนิสัยใจคอของน้อง น้องเป็นแมวขี้อ้อนเข้ากับคนได้ง่าย ทางเจ้าของก็เลี้ยงดูอย่างดีนะเพราะน้องตัวอ้วนมากแถมให้จกพุงเล่นได้ด้วย ไม่หวงตัวเลยแม้แต่น้อย ส่วนตัวน้องนั้นชื่อว่ามุ้ย ถ้าฝนตกก็ไม่ต้องกลัวเปียกนะเพราะว่าน้องเดินอ้อมไปนอนด้านหลังร้านได้จ้า ส่วนอาหารการกินไม่ต้องกลัวหมดนะ ถ้าอาหารหมดทางสาวผู้โพสต์จะเติมให้ไม่อั้นจ้า
กลายเป็นอีกเรื่องราวสุดน่ารักของคนที่คอยดูแลแมว ด้วยโควิดที่กำลังเกิดขึ้นด้วยทางเจ้าของเองก็คงคิดถึงน้องแหละเนอะ และต้องขอขอบคุณสาวใจดีด้วยนะ ที่คอยดูแลน้องอย่างห่วงๆ อาหารการกินก็มีพร้อม คนแถวนั้นก็รักนางมีคนคอยเอ็นดู ถ้าว่างๆแอดจะไปเติมอาหารให้นะ พิกัดของน้องอยู่ที่กรุงเทพ จ้า
ขอขอบคุณ : Nomnoey NnByp
นอนหอบลิ้นห้อยอยู่ในถุง หลังถูกเอามาปล่อยอากาศก็ร้อนทั้งๆที่เพิ่งจะลืมตาแต่กลับไม่เป็นที่ต้องการ
อาจเป็นเพราะความเมตตาที่มนุษย์เรามีในแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน การนึกถึงใจเค้าใจเราหรือสิ่งมีชีวิตร่วมโลกนั้นจึงแตกต่างกันเพราะด้วยเหตุผลต่างๆมากมายเช่นการที่ถูกเลี้ยงดูหรือการที่ได้เติบโตมาในแต่ละครอบครัวนั้นแตกต่างกันออกไปทำให้หัวใจที่มีความเมตตาและอ่อนโยนก็แตกต่างกันไปด้วย
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Muay Arraya Srisuwan ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวหลังจากที่เขานั้นได้พบเจ้าเหมียวน้องถูกนำใส่ถุงมาปล่อยเอาไว้หน้าอเมซอน ที่ปั้มน้ำมันปตท. พระศรี ซึ่งน้องแมวนั้นเป็นแมวที่ยังเด็กและเพิ่งจะลืมตามาดูโลกได้ไม่นานนัก
แถมอากาศในวันนั้นก็ร้อนเอามากๆจึงทำให้น้องแมวนั้นหอบไม่หยุดเห็นแล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้ แต่ก็ยังดีที่มีพี่พนักงาน อเมซอนช่วยเอาน้ำมาให้น้องได้ดื่มเพื่อที่จะคลายความหิว แต่ก็ไม่รู้ว่าจิตใจคนที่เอาน้องมาปล่อยนั้นทำด้วยอะไรทำไมไม่นึกถึงแมวน้อยเหล่านี้เลย
ว่าพวกเขานั้นจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไรซ้ำไปกว่านั้นคือพวกน้องนั้นยังคงเล็กมากๆถ้าหากไม่มีใครไปเจอเข้าคงจะถูกสุนัขหรือโดนแดดร้อนจนสิ้นใจในที่สุด ซึ่งทั้งนี้ในเวลาต่อมาก็ได้มีพี่พยาบาลคนนึงรับน้องไปดูแลต่อเพราะด้วยความที่อดจะสงสารน้องไม่ได้
เธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงยังแฟนเพจ มีสัตว์หายบอกด้วยอุบลราชธานี และก็ได้ย้ำเตือนกับเพื่อนๆว่าการนะสัตว์ต่างมาปล่อยแบบนี้ก็อยากจะให้เพื่อนๆคำนึงถึงความเป็นอยู่หรือการที่น้องๆนั้นจะมีชีวิตรอดต่อไป ซึ่งหากนำมาปล่อยแบบนี้ถ้าไม่เจอคนดีหรือคนที่ช่วยเหลือเข้าคุณจะคิดกันบ้างไหมว่าเค้าจะมีชีวิตรอดต่อไปอีกกี่วัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Muay Arraya Srisuwan และชมคลิป
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=695796217629194&id=280270785848408
นอนหมอบอยู่ริมถนน จะเข้าไปหาก็หวาดระแวงผู้คนเอาแต่หนี สภาพยับเยินเพราะต้องใช้ชีวิตเยี่ยงแมวจร
เพราะการนำมาซึ่งการเลี้ยงสัตว์นั้นเท่ากับเราจะต้องแบกรับภาระต่อหนึ่งชีวิตที่เราคิดจะเอาพวกเขามาเลี้ยง ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆไม่คิดหรือไม่เตรียมความพร้อมให้ดีแล้ว ปัญหาการปล่อยปละละเลยสัตว์เหล่านี้ก็จะตามมาทำให้น้องแมวน้องหมาต้องใช้ชีวิตอย่างหมาแมวจร
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Opor Hds ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องเข้าซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นแมวที่หลงมาหรือถูกปล่อยปละละเลยจนต้องใช้ชีวิตเยี่ยงแมวจรเช่นนี้
ซึ่งเธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงยังกลุ่ม พัทยาทอล์ค และได้มาถามกับเพื่อนๆในกลุ่มว่าน้องแมวของใครหายหรือป่าวคะสงสารมากๆ แถมน้องก็นอนหมอบอยู่ที่ริมถนนจะเข้าไปหาน้องก็กลัวด้วยความหวาดระแวงโดยน้องน่าจะหลุดหรือถูกนำมาปล่อยจึงต้องใช้ชีวิตอยู่แบบนี้
แถมตายังมืดบอดไปหนึ่งข้างซึ่งน่าจะเกิดมาจากการถูกทำร้ายหรืออาจจะด้วยต้องดิ้นรนใช้ชีวิต และที่สำคัญบริเวณที่น้องนั้นอาศัยอยู่ก็มีสุนัขจรเยอะมาก จึงกลัวว่าน้องจะได้รับอันตรายจะอยากวอนเพื่อนๆช่วยกันตามหาเจ้าของหรือใครที่พอจะช่วยเหลือน้องได้
ก็อยากให้รีบเข้าช่วยเหลือน้องที ซึ่งทั้งนี้ทางผู้โพสต์นั้นได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่เขาพระตำหนัก ซอย 5 หรือหากเพื่อนๆท่านไหนพอที่จะรู้จักเจ้าเหมียวตัวดังกล่าวก็สามารถติดต่อไปที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ทั้งนี้ก็อยากจะให้น้องได้บ้านที่อบอุ่นที่ไม่ต้องมาดิ้นรนสู้ชีวิตแบบนี้อีก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Opor Hds
แมวจรที่ถูกเก็บมาเลี้ยง นอนเฝ้าเจ้าของไม่ยอมห่างกายนอนผิงกันไม่ไปไหนหลังเจ้าของประสบอุบัติเหตุ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Somporn Kingsawat ได้เผยเรื่องราวสุดอบอุ่นหัวใจของแมวของเธอที่เก็บมาเลี้ยงทั้งหมด น้องแมวเหล่านี้ในอดีตเป็นแมวจรนอนข้างถนน แต่ถูกสามีของเธอชุบเลี้ยงจนเติบใหญ่มีร่างกายที่อวบอ้วนกินดีอยู่ดี จนกระทั่งสามีของเธอประสบอุบัติเหตุ แต่น้องแมวเหล่านี้ก็คอยเป็นห่วงเป็นใยนอนเฝ้าเจ้าของไม่ยอมห่างกาย
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ถึงเวลาเจ็บป่วยขึ้นมาคนที่ดูแลเราอยู่กับเรามาตลอด นอนเฝ้าเราทั้งวันทั้งคืนคือใครให้ดูเอาตามภาพนะคะ เป็นภาพที่เราซาบซึ้งประทับใจมากๆเลยค่ะ แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ไม่ว่าตอนลำบากหรือตอนเรามีความสุข ก็มีแต่พวกเขานี่แหละที่คอยอยู่กับเรา
ที่เราเรียกได้เต็มปากว่าเขาคือลูกของพวกเรา แมวจรทุกตัวเก็บมาจากหลายที่ต่างต่างกันออกไป แต่มาอยู่รวมกันได้ด้วยดีลูกๆของเราทุกตัวเรารักมากที่สุดเลย มีคนมาขอไปเลี้ยงแต่เราก็ไม่ให้เพราะเราคิดว่าเราจะดูแลเขาให้ดีที่สุด และลูกเราเขาก็ไม่อยากจากเราไปอยู่กับคนอื่นๆแน่ๆ
ถึงตอนนี้ครอบครัวเราและสามีประสบอุบัติเหตุขาหักทั้งสองคนลำบากมากแค่ไหนมีกินอิ่มบ้างไม่อิ่มบ้าง บางวันเด็กๆพวกนี้ก็ไม่เคยทิ้งเราไปไหน หากท่านใดอยากจะช่วยเหลือในค่าอาหารของเด็กๆ หรือจะเป็นข้าวสารอาหารเม็ดก็สามารถช่วยเหลือครอบครัวนี้ได้นะครับ สามารถติดตามเรื่องราวเพิ่มเติมที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยนะ
ที่มา Somporn Kingsawat
หนุ่มเจอแมวสฟิงซ์ เดินอยู่ข้างถนนหลายคนอาจคิดว่าเป็นแมวจรเพราะไม่มีขนจึงเกิดความสงสาร
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nangyang Cheeze ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอน้องอยู่ข้างถนนในหมู่บ้าน โดยเจ้าแมวตัวนี้เป็นแมวสายพันธุ์สฟิงซ์เดินอยู่ข้างถนน หนุ่มรายดังกล่าวก็สงสารกลัวว่าน้องจะหลุดมาก็เลยประกาศโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว Official
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ผมเจอน้องเดินอยู่ข้างถนนในหมู่บ้าน ไม่รู้ว่าน้องแมวเป็นของใคร พิกัดหมู่บ้านพรธิสาร7ธัญบุรีคลอง8 ไม่ต้องทักมานะครับ ผมกลับรถไปหาให้หาไม่เจอแล้ว ขอให้เจ้าของได้คืนไวๆนะ ขอให้แมวไม่เป็นไร แต่เอาจริงๆเดี๋ยวผมจะวนรถไปดูให้อีกรอบ
จนชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า โอ้โห! นี่ไม่ใช่แมวธรรมดานะเห็นแบบเนี่ยน้องเป็นแมวพันธุ์สฟิงซ์เลยนะ เคยเห็นในรายการนึงน้องมีค่าตัวสูงถึง 450,000 บาท เลยนะเออ จนกระทั่งเขาได้มาอัพเดตเพิ่มเติมว่า สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือน้องแค่ออกมาเดินเล่นข้างนอกบ้าน โดยป้าเจ้าของเขาชอบปล่อยน้องให้เดินเล่นอยู่อย่างนี้
โดยระยะห่างที่เจอน้องแมวกับบ้านของเจ้าของก็ใกล้กันเท่านี้เอง โดยหนุ่มผู้โพสต์ก็ต้องขอโทษกับเจ้าของด้วยนะว่าไม่รู้จักแมวพันธุ์นี้จริงๆ เห็นเจอน้องเข้าก็เลยประกาสตามหาเจ้าของ คราวนี้จำฝังใจไม่รู้ลืมเลยว่าแมวพันธุ์นี้มีชื่อว่าสฟิงซ์
ที่มา Nangyang Cheeze
อยู่อย่างโดดเดี่ยวร่วม2เดือน หลังเจ้าของไม่อยู่ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือจากข้างห้อง เพราไม่มีอะไรตกถึงท้อง
การนำแมวหรือสัตว์อื่นๆมาเลี้ยงนั้นเราก็มักจะย้ำบอกกับเพื่อนๆเสมอว่าการนำสัตว์มาเลี้ยงนั้นก็ไม่ต่างจากที่เพื่อนๆรับเด็กที่มีอายุเพียงสองขวบมาเลี้ยง เพราะสมองของพวกเขานั้นทำงานได้เพียงเทียบเท่ากับเด็กสองขวบ ซึ่งถ้าเราเลี้ยงพวกเขาตั้งแต่ยังเล็กพวกเขาจะไม่สามารถที่จะดูแลตัวเองได้
และถ้าเกิดว่าเราไม่เตรียมความพร้อมแล้วปัญหาการปล่อยปละละเลยก็จะตามมาเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Immaimjai Por ที่ได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมวหลังจากที่เธอนั้นพบน้องอยู่ในห้องเพียงลำพังในบ้านหลังนี้ซึ่งน้องนั้นอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานร่วมสองเดือนแล้ว
ซึ่งผู้เป็นเจ้าของก็ไม่ได้อยู่บ้านทำให้เจ้าเหมียวนั้นต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังอยู่แต่ภายในบ้าน ซึ่งน้องก็ร้องขอข้าวขออาหาร ผู้โพสต์ได้เห็นก็อดที่จะเข้าช่วยเหลือไม่ได้ ได้แต่แอบเข้าบ้านเขาแล้วแอบเปิดหน้าต่างและโรยอาหารลงไปให้ในทุกๆวัน ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็กลัวว่าทางเจ้าของบ้านกลับมาจะต่อว่ากับเธอ
แต่ถ้าจะให้เมินเฉยต่อหนึ่งชีวิตที่ต้องหิวและอดอยากรอวันสิ้นลมหรือสิ้นใจก็คงจะทำไม่ลง จึงเลือกที่จะลงมือทำแม้จะผิดกฏหมายก็ตาม ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์เองก็ยังได้บอกเอาไว้ด้วยอีกว่าไม่รู้ว่าเจ้าของกลับมาจะแจ้งจับเขาหรือป่าวที่แอบมาลักลอบเอาอาหารให้น้องแมวแบบนี้
แต่อย่างน้อยๆก็คงขอให้ว่ากันอีกทีเพราะเราก็ต้องเลือกที่จะช่วยเหลือหนึ่งชีวิตที่เราจะทำได้ อีกอย่างถ้าปล่อยเอาไว้แบบนั้นน้องคงต้องอดจนสิ้นใจอย่างแน่นอน และก็ไม่รู้ว่าผู้เป็นเจ้าของน้องนั้นจะกลับมารับน้องวันไหน เพราะนี่ก็เข้าเดือนที่สองแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Immaimjai Por
นอนแน่นิ่งไม่ขยับ ไร้เรี่ยวแรงจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ได้แต่ลืมตาขึ้นมาหวังให้ใครสักคนช่วยชีวิต
เพราะชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้ ทำให้โลกของเรานั้นมีสัตว์เร่ร่อนอยู่เป็นจำนวนมาก ไหนจะเพราะการไม่ยอมทำหมันตั้งแต่เริ่มต้น พอมีลูกมีหลานออกมาก็ไม่สามารถเลี้ยงดูน้องให้ดีได้ ปัญหาหมาแมวจึงยังไม่สามารถแก้ไขได้จนถึงปัจจุบัน เหมือนกับเรื่องราวนี้ที่หนุ่มรายหนึ่งไปพบน้องเข้า
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เจ้าชาย ทลายซิง ได้นำเรี่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้มาโพสต์ลงยังกลุ่ม กลุ่มรักหมาจัง หลังจากที่เขานั้นกำลังจะออกไปวิ่งแต่ทว่าเขากลับเห็นเจ้าตูบยืนมองอะไรกันอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปดูและพบว่าเป็นลูกแมวจรตัวน้อย
ซึ่งหมานั้นก็ยังไม่ได้ทันได้ทำอะไรน้องแต่อย่างใดเพราะน้องนอนนิ่งมาก โดยหมาที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คงจะคิดว่าน้องคงจะไม่รอดไปแล้ว แต่สภาพของน้องนั้นก็อย่างที่เห็นน้องเนื้อตัวผอมมาก ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะเดินไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะส่งเสียงร้อง
จนเขาตัดสินใจเอามือลูบหัวน้องอย่างแผ่วเบา และทันใดนั้นเองน้องก็ลืมตาขึ้นมามองและก็พร้อมจะลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองแต่ทว่าด้วยความที่ไม่มีแรงเลย ก็ล้มลงนอนอีกครั้ง ซึ่งถ้าเอาไว้อยู่อย่างนี้น้องคงจะไม่รอด เขาจึงต้องอุ้มน้องกลับมายังที่บ้าน ซึ่งเขาได้บอกว่านี่เป็นแมวตัวแรกเลยที่กล้าจับกล้าอุ้มกลับบ้านแบบนี้
เพราะปกติแล้วไม่ค่อยจะถูกกับแมวสักเท่าไหร่นัก แต่ถ้าไม่ช่วยเอาไว้คงไม่รอดแน่ๆโดยหลังจากที่เขานำน้องกลับมาบ้านแล้วเขาก็เอานมแพะมาป้อมให้กับน้องได้อิ่มและสัญญากับเพื่อนๆในกลุ่มว่าจะช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ ขอเพียงแค่ให้น้องรอดชีวิต ซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ว่าทุกชีวิตนั้นมีค่าหากพบเจอสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือก็อยากจะให้เพื่อนๆนั้นลงมือช่วยเพราะถ้าเราเลือกที่จะเมินพวกเขานั้นอาจจะเป็นเสียงสุดท้ายที่พวกเขารวบรวมเพื่อร้องขอชีวิตจากเราก็เป็นได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เจ้าชาย ทลายซิง
หัวอกแม่แอบอาศัยอยู่หลังกำแพงออกมาขอเศษอาหาร คาบอาหารเอาไปให้ลูกแม้ตัวจะกลัวแต่ลูกจะต้องอิ่มท้อง
ถ้าหากเราจะพูดถึงหัวอกคนเป็นแม่ เชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนนั้นคงจะเข้าใจความหมายของคำว่า "แม่" กันเป็นอย่างดีเพราะคนเรานั้นเกิดมาก็จะต้องมีแม่กันทุกคน แต่ทว่าความหมายของคำว่าแม่นี้ยิ่งใหญ่มากมายเกินกว่าจะบรรยายได้นัก เพราะด้วยความรักและความหวังดีที่ไม่เคยจะหวังผลตอบแทนใดๆ และก็ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์เพียงเท่านั้น
แม้แต่สัตว์ต่างๆก็มีหัวอกคนเป็นแม่ไม่แพ้มนุษย์ใดๆเลย เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เหมียว เหมียว ที่ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวแม่ลูกอ่อนตัวนี้มาโพสต์ลงในกลุ่ม โครงการรวมพลคนช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ด้อยโอกาส หลังที่เธอได้ไปพบน้องเข้าซึ่งน้องเป็นแมวตาสีฟ้า พันธุ์วิเชียรมาศ
โดยน้องนั้นอาศัยอยู่ด้านหลังของแม็คเวลู่ สาขาสุขุมวิท 71 ด้านข้างของกำแพงนั้นมีลูกของน้องด้วยซึ่งลูกของน้องก็ยังคงตัวเล็กมากๆ และน้องก็ซ่อนเอาไว้ข้างหลังกำแพงเพราะด้วยความเป็นห่วงลูก พอเช้าๆมาน้องก็มักจะมาขอเศษอาหารกับคนที่ผ่านไปผ่านมาในบริเวณ ลานจอดรถ ซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีใครให้น้องกินเลย
แต่ทว่าด้วยความที่เป็นแม่ก็ต้องพยายามเพื่อที่จะนำอาหารไปฝากลูกน้อยให้ได้อิ่มท้อง แม้ว่าแม่นั้นจะต้องเสี่ยงอันตรายต่อรถหรือต่อคนแม้แต่หมาก็ตาม แต่แม่ก็ต้องทำเพราะมันเป็นหนทางที่จะให้ลูกของฉันนั้นรอดชีวิตและเติบใหญ่ แม้จะไม่มีบ้านที่อยู่อาศัยเหมือนกับแมวอื่นๆ แต่ก็อดทนหาเลี้ยงลูกด้วยความยากลำบาก
ทั้งนี้ทางผู้โพสต์จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่มดังกล่าว เพื่อหวังให้คนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นนำอาหารติดไม้ติดมือไปให้น้องด้วย หรือหากมีใครอยากจะนำน้องไปเลี้ยงก็ลองเข้าไปติดต่อกับทางต้นโพสต์ดูเอานะคะ ขอบ้านที่สามารถจะรับทั้งแม่และลูกได้เพราะพวกเขานั้นก็มีหัวใจเหมือนกับเรา ถ้าเป็นเราเองเราก็คงไม่อยากที่จะพรากจากลูกตัวเองเช่นกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เหมียว เหมียว
เคยมีเจ้าของแต่กลับต้องใช้ชีวิตเยี่ยงแมวจร สภาพผอมโซไร้เรี่ยวแรงจะยืนไม่รู้ต้องทนอยู่อย่างเร่ร่อนมานานเท่าไหร่
เพราะการนำสัตว์มาเลี้ยงแล้วก็จะเกิดภาระในระยะยาว ที่ถ้าหากเราเกิดถอดใจหรือไม่อยากที่จะเลี้ยงพวกเขาต่อไปในกลางคัน ก็จะเกิดเหตุการณ์แมวถูกนำมาปล่อยเอาไว้ในที่ต่างๆซึ่งบางครั้งก็จะต้องกลายเป็นสัตว์จรที่เร่ร่อนแม้ว่าจะเป็นแมวพันธุ์ก็ตาม เราจึงมักจำย้ำบอกกับเพื่อนๆว่าให้คิดดีๆก่อนที่อยากจะนำพวกเขามาเลี้ยงเพราะนั่นคือหนึ่งชีวิตที่เพื่อนๆจะต้องดูแลพวกเขาตลอดไป
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Utiga Penjumras ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้มาโพสต์ลงในกลุ่ม คนรักแมวหาดใหญ่ หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องมาขออาหารกิน ซึ่งเธอได้คาดว่าน้องน่าจะเคยมีเจ้าของมาก่อนแต่อาจจะหลุดหรือถูกทิ้ง แต่ดูจากโครงสร้างแล้วน้องน่าจะเป็นแมวพันธุ์ดี
สีก็สวยหน้าก็หักแต่คาดว่าน่าจะจรมานานเลยทำให้สภาพมอมแมมพอสมควร แถมยังผอมมากขนก็ยาวรุงรังเพราะขาดการดูแลและสารอาหาร แต่น้องเชื่องมากๆ ซึ่งทางตัวเธอเองก็ไม่สามารถที่จะเลี้ยงน้องได้เนื่องจากที่บ้านมีแมวอยู่แล้ว 3 ตัว แถมด้านล่างยังมีหมาอีก โดยน้องต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆอดๆอยากๆ
ซึ่งเธอเองก็ได้แต่เพียงแอบเอาอาหารไปให้น้อง แล้วเธอก็ออกมาทำงานเช้ากลับค่ำวันไหนไม่ไดเจอน้องก็จะต้องอด ซึ่งเธอเองก็เจอน้องอาทิตย์ละแค่ครั้งสองครั้งเพียงเท่านั้น และน้องก็จะได้กินอิ่มแค่เวลาที่เจอเธอจึงอยากหาคนที่อยากจะรับน้องไปเลี้ยงด้วยความเมตตาโดยเธอยินดีที่จะทำหมันให้ก่อนส่งมอบอีกด้วย
ซึ่งทั้งนี้เธอได้ระบุพิกัดเอาไว้ด้วยที่ จังหวัดสงขนา อ.ระโนด ซึ่งถ้าใครสนใจจริงๆเธอก็ยินดีส่งให้ในพื้นที่สงขลาหรือหาดใหญ่ เพราะถ้าปล่อยเอาไว้น้องคงไม่รอดแน่ๆไหนจะด้วยเรื่องของการกินอยู่ที่ตัวผอมโซ ไหนจะเรื่องหมาไหนจะคนที่ไม่ชอบ ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจก็สามารถติดต่อได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเอาไว้ก่อนจะนำแมวหรือสัตว์ต่างๆมาเลี้ยงให้คิดให้ดีๆก่อน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Utiga Penjumras
แม่ใจสลาย หลังน้องมีอาการผิดปกติกินข้าวน้อยลง แต่เธอเลี้ยงระบบปิดอย่างดีแต่กลับป่วยเหมือนแมวจร
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Pensakaw Somtip ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวมีอาการแปลกไปกินข้าวได้น้อยผิดปกติ เธอจึงเกิดความเป็นห่วงและพาน้องไปตรวจกับคุณหมอที่คลีนิค และวันที่ผลตรวจออกมาก็มาถึงที่ทำเอาผู้เป็นเจ้าของใจสลาย
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า วันนี้คือวันที่เสียใจที่สุดค่ะ พาน้องไปตรวจกับคุณมาเนื่องด้วยน้องทานน้อยผิดปกติไป แต่ร่าเริงแจ่มใสขับถ่ายปกติทุกอย่างนะ ตรวจภายนอกคุณหมอแจ้งว่าน้องปกติไม่ได้เป็นอะไร ไม่มีไข้ เลยตัดสินใจตรวจโลหิต
และผลออกมาว่า น้องเป็นเอดส์แมวค่ะ มือสั่นหน้าตึงๆ น้ำตาไหลอาบแก้มเลยค่ะ เราเลี้ยงระบบปิดตัวเดียวพาออกไปเดินเล่นข้างนอกก็อยู่กับน้องตลอดเลย แถมน้องไม่เคยโดนแมวจรงับ อันตรายมากมั้ยคะกับโรคนี้ น้องหนัก 7.7 อายุ 4 ปีเกือบ 5 ปีแล้ว
จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ เพราะเจ้าของเลี้ยงระบบปิดอย่างดีไม่เคยยุ่งกับแมวจร แต่น้องกลับกลายต้องป่วยด้วยเอดส์แมว ด้านชาวเน็ตมากมายในกลุ่มต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า โรคนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ ถ้าดูแลน้องดีน้องก็ร่าเริงปกตินะ พยายามอย่าให้น้องป่วยเป็นพอจ้า
ชาวเน็ตได้สันนิษฐานว่าน้องน่าจะไปติดกับแม่ของน้องมา โอกาสติดอาจจะน้อยมากๆแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นถ้าเลี้ยงระบบปิดแล้วไม่ได้โดนแมวจรตัวอื่นฟัดมาน้องก็น่าจะติดมาจากแม่ของตนเอง เพราะน้องเลี้ยงระบบปิดแต่ก็มีเชื้อตัวนี้อยู่ด้วย ขอให้น้องแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วยนะลูก
ที่มา Pensakaw Somtip