ทาสแมว

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Jeab Pimmalin ได้เผยเรื่องราวของน้องหมาที่เธอนั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเจ้าตูบตัวนี้มีชื่อว่าชายจิ เจ้าชายดิดันไปหน้าคลายกับหมาของพ่อเมื่อสมัยปี 90 หรือเมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา แถมน้องหมาทั้งสองยังรักเจ้าของอย่างคุณพ่อของเธออย่างสุดหัวใจ . ด้วยรูปร่างหน้าตาและรักเจ้าของอย่างคุณพ่อของเธอมากแม้วันเวลาจะผ่านมา 30กว่าปีแล้วก็ตาม ในรูปดังกล่าวน้องหมาตัวนี้มีชื่อว่าพี่ปุ๊กกี้ ถูกถ่ายไว้นานจากกล้องฟิลม์​ยุค90 ด้วยเค้าโครงหน้าที่เหมือนกับก๊อปแล้ววางทำให้ผู้เป็นเจ้าของปักใจเชื่อว่าเป็นพี่ปุ๊กกี้ที่กลับชาติมาเกิดเป็นชายจิ โดยพี่ปุ๊กกี้นั้นเป็นน้องหมาตั้งแต่สมัยที่คุณพ่อของเธอเป็นวัยรุ่นเลยทีเดียว 30 ปีผ่านไปก็ได้หมาหน้าตาเหมือนกับพี่ปุ๊กกี้มาเลี้ยง ด้านชาวเน็ตได้กล่าวว่าเหมือนกันอย่างกับแกะเลย หน้าตาของชายจิกับพี่ปุ๊กกี้เหมือนกันมาก บ้างก็บอกว่าสิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้ไม่ใช่ว่าจะเป็นจริงไม่ได้ หลายคนมีความเชื่ออย่างงั้นว่าสัตว์เลี้ยงของเราเมื่อเกิดความรักความผูกพัน พวกเขาก็อาจขอกับใครสักคนขอมาเกิดมาเป็นเพื่อนคู่คิดอีกสักชาติภพนึงก็เป็นได้ แต่เรื่องนี้ถือเป็นความเชื่อน้า โปรดใช้วิจารณญาณในการชมกันด้วยจ้า   ที่มา Jeab Pimmalin

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Fonwhi Mebius ได้เผยเรื่องราวและการตอบหาน้องแมวที่หายออกไปจากบ้าน โดยแมวของเธอนั้นหายออกไปตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2563 เธอก็หาจนทั่วซอยแล้วหายังไงก็หาไม่เจอ ทุกวันนี้เธอไม่เคยมีความสุขอีกเลยตั้งแต่น้องแมวได้หายออกจากบ้านไป . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขอพื้นที่ให้ระบายหน่อยนะคะ แมวของเราหายไปเดือนกว่าๆแล้วค่ะ หายังไงก็หาไม่เจอจริงๆ เราร้องไห้ทุกวัน เป็นห่วงเค้าที่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน แทบไม่มีความสุขกับชีวิตเลย หันไปทางไหนก็นึกถึงเค้าตลอดเวลา ไม่รู้ว่าความหวังและกำลังใจที่ตามหาเค้าจะใกล้หมดเมื่อไหร่ เบล ถ้าเบลยังมีชิวิตอยู่ เบลกลับบ้านเรานะ ถ้าใครเอ็นดูเลี้ยงเบลไว้ ก็ขอให้ติดต่อเรามาทีเถอะ ใจมันจะขาดอยู่แล้ว ไม่อยากให้เบลหายไปไหนอีกแล้วเลย ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะถูกคนอุ้มไปเพราะเห็นว่าเป็นแมวพันธุ์เพราะตัวเธอนั้นหาทั่วซอยแล้วหายังไงก็หาไม่เจอ หากใครพบเจอน้องแถวบริเวณบางกรวย จังหวัดนนทบุรี น้องชื่อเบลลายสลิด ขนฟู หางฟู น่าจะพันธ์ผสม จุดสังเกต เท้าเหลือง1 ดำ 3 เพศเมีย หากใครอุ้มไปหรือพอจะรู้จักแมวหน้าตาแบบนี้ โปรดติดต่อไปยังเจ้าของด่วนนะ ทาสแมวเองก็ขอเป็นอีกสื่อขอให้พบเจอน้องโดยเร็ววัน   ที่มา Fonwhi Mebius

เพราะด้วยการนำสัตว์มาเลี้ยงนั้นเพื่อนๆจะได้อะไรหลายๆอย่างกลับไป ทั้งความรักความสุขและภาระที่เราจะได้รับ และรอยยิ้มที่เตรียมเปรียมไปด้วยความผูกพันธุุ์ แม้ว่าจะต้องแลกมากับความทุกข์ในชั่วขณะแต่มันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่เราได้มานั้นก็คือความรักที่พวกเขานั้นไม่ค่อยจะแสดงออกมาให้เราเห็นมากเท่าไหร่นัก เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Prakaijan Chunprasert ได้นำเรื่องราวสุดฮาของเจ้าไฝหรือเจ๊ไฝ เจ้าเหมียวตัวแสบของเขามาโพสต์ลงบอกเล่าลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เจ้าไฝนั้นชอบทำให้เธอนั้นเผลอแล้วก็ทำเป็นตีเนียนแบบกินลมชมวิว แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักเจ๊ไฝก็ขุดหลุม ขุดจนรากต้นไม้ถึงกับขาด แล้วก็อึใส่กระถางต้นไม้แล้วหางก็จะชี้ตรง มีสั่นก้นดุ๊กดิ๊กเล็กน้อย ขนที่หางก็จะแตกแถว ชี้ฟูไปคนละทิศคนละทางประมาณขนลุก หย่อนก้นนิดหน่อยแล้วก็ปล่อยความทุกข์ที่มีออกมา และพออึเสร็จแล้วก็กลบแถมยังกลบไม่ค่อยมิดด้วย แค่เตะๆดินใส่ให้พอมันไม่เห็นอึตัวเอง เหลือไว้เพียงแค่กลิ่นที่ไม่เคยเลือนลาง เหม็นยังกับกลิ่นวัวเรอ สูดดมแล้วสลบได้เลยในทันที ซึ่งเจ๊ไฝมักชอบทำวีรกรรมแบบนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งเธอก็ได้นำเรื่องราวมาเล่าบอกกับเพื่อนๆ จนมันกลายเป็นเรื่องราวสุดฮาประจำวันประจำกลุ่มเลยทีเดียว เห็นไหมละทีนี้ว่าการเลี้ยงสัตว์นั้นได้อะไรมากกว่าภาระ เพราะเราจะได้ความสุขจากสิ่งที่พวกเขาทำและยังได้ดมอึเจ๊ไฝแบบนี้อีกด้วยฮาๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามผู้โพสต์นั้นก็รักเจ๊ไฝมากๆแหละดูทรงแล้วและหากเพื่อนๆอยากจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเราก็อยากที่จะให้เพื่อนๆเตรียมความพร้อมก่อนที่จะรับพวกเขามา ขอขอบคุณข้อมูลจาก Prakaijan Chunprasert

เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องเกิดมาดิ้นรนต่อโลกที่โหดร้าย ซึ่งถ้าหากในวันนี้คุณมองว่าชีวิตคุณดูไร้ค่าหรือหมดหนทางแล้วอยากจะให้ลองมองย้อนดูสิ่งมีชีวิตเล็กที่ต้องเกิดมาไม่เป็นที่ต้องการของใครๆต้องหลบอาศัยแอบไร้แม้จะที่ซุกหัวนอน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า MoBuay Tullathep ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เขานั้นกำลังขับรถส่งของช่วงข้ามแยกหลักสี่ขาออกฝั่งที่จะไปปากเกร็ด ซึ่งช่วงเนินทางขึ้น อยู่ๆตาเขาก็มองไปเห็นก้อนเล็กๆวิ่งดุ๊กดิ๊กอยู่ที่ริมทางขวา ซึ่งชิดกับขอบทางติดบาริเออร์วิ่งแบบหน้าตาตื่น เมื่อเขามองดูดีๆก็ได้พบว่ามันคือลูกแมวตัวน้อย โดยในใจก็คิดว่าจะโดนรถเหยียบเอาไหมลูกเอ้ย จะให้ทำยังไงได้ละก็ต้องจอดรถกลางถนนริมขึ้นสะพานตรงนั้นนั่นแหละ ดับเครื่องดึงเบรคมือเปิดไฟผ่าหมากแล้วกระโดดลงไปพรวดแบบไม่คิดอะไรแล้วในจังหวะนั้น ซึ่งออกจากรถทันทีวิ่งสวนกลับลงไปแบบไม่คิดชีวิตมา เพราะไม่งั้นเจ้าตัวน้อยกลายเป็นหมูแผ่นแน่นอน คว้าตัวมาได้ก็แทบจะไม่มีแม้แต่แรงที่คิดจะต่อสู้แล้ว ร้อนจัดลิ้นก็ห้อยจนหายใจทางปาก พื้นถนนก็ร้อนมากออกกาศก็ร้อนเหลือเกิน เจ้าเหมียวตัวน้อยนั้นถึงกับน้ำลายยืด แวะป้อนน้ำประทังดับกระหายได้ค่อยคิดแล้วกันว่าจะเอายังไงต่อ ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์ก็ช่วยเหลือชีวิตน้อยๆตัวนี้ออกมาได้ ซึ่งเจ้าเหมียวก็ได้พ้นขีดอันตรายและปลอดภัยแล้วแต่ทว่าก็อยากจะหาบ้านให้เด็กน้อยตัวนี้ที่รอดชีวิตมาได้แบบหวุดหวิด ซึ่งเป็นแมวสามสีและเป็นสาวน้อยและหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติตต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก MoBuay Tullathep 

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : น้องนุช สามงามพรม ได้เผยเรื่องราวของน้องน้ำเต๊ น้ำเต๊กลายเป็นหมา3ขาไปตลอดทั้งชีวิตเพราะเจ้าของเก่าหวังดี กะจะช่วยรักษาน้องให้หาย แต่นั่นกลับทำให้น้องต้องเหลือเพียง 3 ขาเพราะความไม่รู้ จากเจ้าของเก่าของน้ำเต๊ที่เป็นชาวพม่า . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า สวัสดีค่ะหนูชื่อน้ำเต๊ หนูมีเพียงสามขา ชีวิตหนูเริ่มขึ้นเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาในห้องเช่าแถวพม่า อยู่มาวันหนึ่งหนูมุดเข้าไปเล่นใต้ท้องรถส่งน้ำแข็ง โดยคนขับลูกน้องแม่เก่งคนหนึ่ง ลุงเขาไม่เห็นหนูหรอก เขาเลยขยับรถมาโดนหนูนิดนึง ตอนแรกหนูตกใจร้องลั่นเลยและวิ่งกะเผลกออกมา(หมอบอกว่าขาหนูไม่แตกร้าวอะไรเลย น่าจะโดนนิดเดียวจริงๆนั่นแหละ) เจ้าของชาวพม่าเขาก็หวังดีใส่ยาเอาผ้าพันขาให้แต่กลัวผ้าพันจะหลุด "เลยเอายางมัดจนแน่น" สามวันผ่านไปแม่อี๊ดถึงได้มาเจอหนูเลยชวนแม่เก่งพาหนูไปรักษาอีกครั้ง แต่หมอบอกว่าไม่ทันแล้วขาหนูต้องตัดออกแล้ว ทีแรกแม่ๆแค่จะรักษาหนูแล้วส่งคืนเจ้าของชาวพม่า แต่หนูดันน่ารัก ทางเจ้าของใหม่ที่เป็นสาวไทยใจดีที่พาน้องไปหาหมอก็เลยขอน้องไปเลี้ยง ที่จริงแม่ๆก็สงสารหนู ทั้งที่หมอก็ยืนยันว่าแค่โดนล้อเฉี่ยวกะเผลกสองวันเดี๋ยวก็หาย ที่ต้องตัดเพราะมัดยางล้วนๆเลย แต่สุดท้ายแม่ๆ ทนความน่ารักของหนูไม่ไหว รับหนูมาเลี้ยงจนถึงวันนี้ ทุกวันนี้หนูปรับตัวได้แล้วค่ะ เวลาเดินหรือทำอะไรจะลำบากนิดหน่อย หนูล้มง่ายค่ะ เวลาจะปีนเกาะแม่หรืออ้อนแม่หนูจะทำแบบพี่ลาเต้และน้ำเต้าไม่ได้เพราะยืนขาเดียวไม่ได้ แต่แม่ๆจะหันมาอุ้มหนูเสมอ หนูคิดว่าแม่ๆรักหนูมากค่ะ ก็หนูน่ารักนี่คะ ที่มา น้องนุช สามงามพรม

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ยุทธนา ทับทิมทอง ได้เผยเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อที่มีต่อแมว โดยตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมาเขานั้นคิดว่าแมวเป็นสัตว์แห่งเทพ เวลาเขาเจอแมวจรเขามักจะเอาขนมสุดโปรดของแมวให้กิน เมื่อให้น้องกินเสร็จเขาก็จะอธิฐานขอกับแมวในสิ่งต่างๆ และคุณเชื่อมั้ย 3 ปีมานี้เขาได้ตามดั่งคำขอมาโดยตลอด . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เป็นความเชื่อของผมนะครับ ผมใช้วิธีนี้มาตลอด3ปีที่ผ่านมา และมันก็เห็นผลเกือบทุกครั้ง ขอแสนได้แสน เจริญภาวนาอนิสงแรงยิ่งกว่าบนในศาลเจ้าเสียอีก เวลาผมเจอแมวจรข้างทาง ผมจะซื้อทาโร่ให้กิน(เพราะแมวทุกตัวกินทาโร่) ผมจะเอาไปล่อให้น้องมองขนม แล้วผมจะพูดกับน้องว่า เดือนนี้เราขอ...นะ(แล้วแต่คนจะอธิฐานเลย) จนมันร้องเหมี๊ยว...แล้วค่อยให้น้องกิน แล้วลูบหัวกับน้องแล้วพูดว่า "แกให้เราแล้วนะ แลกกันนะ" ผมเชื่อ(ความเชื่อส่วนตัว) ว่า "แมวเป็นสัตว์แห่งเทพ" ลองดูได้นะครับ ไม่เสียหายอะไรนะ อย่างน้อยเราก็ได้ยิ้ม เวลาน้องได้กินอาหาร (ผมลองมา3ปี เห็นผลเกือบทุกครั้งครับ ) ส่วนแมวตัวล่าสุดที่เขาได้ขอพรและอธิษฐานอยู่ที่จุดนี้นะครับเซเว่นในปั้มปตท. ตรงข้ามโลตัสสะพานใหม่ ด้านชาวเน็ตในกลุ่มชมรมทาสแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า เดี๋ยวจะลองดูนะ ปกติก็ชอบให้ขนมแมวให้ข้าวแมวอยู่แล้ว ครั้งต่อไปจะลองขอพรกับน้องดู น้องได้อิ่มส่วนเราสบายใจแถมได้พรจากแมวด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ลองไม่รู้นะ   ที่มา ยุทธนา ทับทิมทอง

ถ้าเกิดว่าวันนี้เพื่อนๆหลายคนที่กำลังท้อแท้ในชีวิตทั้งเรื่องงานเรื่องของชีวิตที่ไม่สมหวัง เราอยากจะให้เพื่อนๆได้อ่านเรื่องราวนี้เพราะไม่ใช่ทุกชีวิตที่จะเกิดมาแล้วเป็นที่ต้องการของใครเขา ยิ่งถ้าบอกว่าตนนั้นทุกข์เพราะไม่สมหวังหรือสมปราถนาแล้วลองมองย้อนจากเรื่องราวนี้ดูว่ายังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องดิ้นรนมากแค่ไหน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wasana Yodpetch  ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรมาโพสต์ลงในกลุ่ม ชมรมคนรักแมวเหมียวแห่งประเทศไทย หลังจากที่เธอได้พบน้องถูกเจ้าของตึกเอาน้ำมาเทใส่ทั้งๆที่แม่แมวตัวนี้กำลังคลอ ดเด็กในท้องแถมยังเอาไม้กระแทก น้องจนต้องเสียลูกไป จนต้องวิ่งหนีไปคลอดที่อื่น ซึ่งในตอนแรกนั้นแม่แมวได้คลอ ดออกมาได้แล้วสามตัวแต่ก็ถูกผู้เป็นเจ้าของตึกได้เอาน้ำเทใส่อีกจนลูกตัวที่ 4 สิ้นใจและด้วยความเป็นแม่ก็ต้องวิ่งหลบหนีและไปคลอ ดตัวที่ 5 อีกที่นึง เพราะด้วยความที่ตนนั้นเป็นแมวจรไร้แม้คนจะต้องการ ซึ่งทั้งนี้ภายหลังจากนั้นก็ได้มีผู้คนใจดีได้อาสารับน้องไปเลี้ยงเพราะทนเห็นไม่ไหว ซึ่งผู้โพสต์ก็ได้มาอัพเดทเพิ่มเติมแต่ทั้งนี้ทางผู้ที่อาสารับไปเลี้ยงนั้นก็สามารถที่จะดูแลน้องได้เพียงแค่ชั่วคราวเพียงเท่านั้นเนื่องจากว่า ทางผู้ที่รับไปเขาก็ตกงานจึงไม่สามารถที่จะดูแลน้องๆไปได้ตลอด เพราะชีวิตที่เกิดมาไม่เป็นที่ต้องการเหมือนใครๆเขา เพราะเราไม่ใช่แมวพันธุ์ดีๆทั้งๆที่กำลังคลอดเพราะหนูไม่น่ารักเหมือนใครเขาเหรอถึงต้องมาทำจนลูกต้องสิ้นใจ และหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ โดยขอความกรุณาอยากให้รับน้องๆไปทั้งครอบครัวเพราะถ้าเกิดเราเป็นแม่เราก็คงไม่อยากที่จะให้ใครมาพรากลูกของเราไปหรอกจริงมั้ย ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wasana Yodpetch

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎Weeraphat Lawyer‎ ได้เผยเรื่องราวของหมาจรตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในตลาด น้องหมาตัวนี้เป็นหมาที่ขี้อ้อนมากแถมเป็นกันเองสุดๆ ในวันที่ทางผู้โพสต์เจอน้องได้เข้าไปเล่นกับน้อง และสายตาที่น้องหมาจรมองเขาก็ทำเอาชาวเน็ตน้ำตาซึม เพราะทางผู้โพสต์ได้บอกว่าหลังจากกลับมาจากตลาดก็คิดถึงสายตาคู่นั้นอยู่ตลอดเวลา . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แววตาน้องหมาไม่มีเจ้าของนี่มันสุดเศร้าจริงๆนะครับ น้องเป็นหมาวัดมาเดินตลาดนัด น้องสวัสดีเก่งซะด้วยแถมเดินมาส่งถึงที่รถเลยครับ พอผมกลับมาถึงที่บ้านก็มานั่งคิดถึงแววตาคู่นั้นตลอดเวลาเลย เบื้องต้นน้องเป็นหมาพันธุ์ลาบาดอร์ แต่ต้องมาอาศัยนอนที่วัด พิกัด ตลาดนัด วันสันติบรมธาตุ กาญจนบุรี และทางผู้โพสต์ได้มากล่าวเพิ่มเติมอีกว่าอยากจะเอาน้องมานะครับ แต่ที่บ้านมีเยอะมากแล้วครับ ทั้งหมาทั้งแมว แถมมีวัวที่ไถ่ชีวิตเขาไว้อีก แถมแอบเอาไปปล่อยให้พี่สาวเลี้ยงอีกตั้งหลายตัวละครับ ตัวนี้แม่ค้าในตลาดเค้าก็เลี้ยงกันครับผม เพราะดูจากรูปร่างของน้องไม่ได้อดแต่อย่างใดนะ ดูจะอ้วนท้วนเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ขาดก็คือบ้านที่อบอุ่นสำหรับน้อง หลังจากถ่ายรูปน้องและทำความรู้จักกันอยู่นาน พอขากลับน้องก็มาเดินส่งทางผู้โพสต์ถึงที่รถเลย น้องน่ารักมากเป็นกันเองสุดๆ แต่สายตาคู่นั้นก็ยังตรึงหัวใจทางผู้โพสต์อยู่ตลอดเวลา ด้วยแววตาที่ดูเศร้าสุดหัวใจ ทำเอาผู้คนในโลกออนไลน์ต่างแสดงความคิดเห็นพร้อมรับเลี้ยงน้องกันอย่างยกใหญ่ เพราะน้องน่าจะแก่แล้วถ้ามีบ้านในช่วงนี้ นี่อาจเป็นความสุขสุดท้ายในบั้นปลายชีวิตเลยก็ได้นะ   ที่มา ‎Weeraphat Lawyer‎

เพราะชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้ทำให้หลายๆชีวิตนั้นต้องเกิดมาดิ้นรนต่อสู้ต่อสิ่งต่างๆที่ต้องเจอ ซึ่งถ้าหากว่าเรานั้นเลือกที่จะเกิดมาได้คงไม่ใครอยากที่จะเกิดมาต้องดิ้นรนใช้ชีวิตแบบอดมื้อกินมื้อไร้แม้ที่พักพิงพักอาศัยไร้แม้แต่บ้านหรือร่มเงาจะหลบฝนเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Yarada Sriphum ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่น้องเคยมาอ้อนที่บ้านซึ่งเป็นแมวจรแถวๆบ้านแต่เธอเองก็เคยบอกกับน้องไปแล้วว่าเลี้ยงไม่ได้จริงๆเพราะที่บ้านมีแมวอยู่แล้วถึง 4ตัว ซึ่งน้องเองก็ยังคงวนเวียนมาหามาเล่นด้วยอยู่บ่อยๆ และเมื่อเวลาผ่านไปในวันนี้น้องกลับมาพร้อมกับลูกตัวน้อย ๆอีก4 ตัว คาบเข้ามาหาที่หลังสวนที่บ้านของเธอ ซึ่งลุงข้างบ้านก็ได้ตะโกนมาบอกว่ามันย้ายคาบลูกไปบ้านหนูแล้วนะ โดยเธอก็ได้บอกว่ายังไงก็คือจะอยู่บ้านนี้ให้ได้ใช่มั้ย และด้วยลูกแมวตัวน้อยๆ 4 ตัวก็ยังไม่ทันจะลืมตาทั้งหมด โดยในตอนนี้น้องก็อาศัยนอนอยู่ในกระถางดิน ซึ่งเธอก็ใช้ผ้าใบคลุมให้กันฝน และเธอเองก็ไม่ว่าจะทำยังไงต่อไปดีเพราะเห็นแบบนี้แล้วก็สงสารพวกเด็กๆเป็นอย่างมากเพราะถ้ารับครอบครัวนี้มาอีกที่บ้านก็จะมีแมวทั้งหมด 9 ตัวและเธอก็กลัวว่าจะเลี้ยงไม่ไหวเพราะค่าใช้จ่ายแมวก็ไม่ใช่น้อยๆ เธอก็ตัดสินใจว่าจะเอายังไงดีเพราะไม่รู้ว่ารับมาแล้วน้องๆจะมีปัญหากันกับแมวที่บ้านด้วยอีกไหม ซึ่งเธอก็ได้นำเรื่องราวมาโพสต์ปรึกษากับเพื่อนๆในกลุ่ม ทาสแมว แต่ด้วยท่าทางที่ออดอ้อนของน้องแถมยังนวดมือที่หวังจะขอให้อยู่ด้วยแล้วแบบนี้เป็นใครก็คงจะอดใจไม่ไหวหรอกเนอะ https://www.facebook.com/showclip3/videos/626399927942518/   ขอขอบคุณข้อมูลจาก Yarada Sriphum

เพราะด้วยการเป็นทาสแมวนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ใครก็สามารถที่จะเป็นได้ เพราะต้องมีหัวใจที่รักแมวหรือเคยสัมผัสกับความน่ารักของพวกเขามาก่อนจึงจะเป็นทาสแมวได้ ซึ่งถ้าคุณเลือกที่จะเป็นทาสแมวแล้วคุณก็จะไม่สามารถหลีกหนีต่อความเป็นทาสไปได้ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Praew Kanjanapong ที่ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรที่เขาได้เจอมาหลังจากที่เธอนั้นได้ย้ายบ้านหลังใหม่ได้เพียงแค่ 2 อาทิตย์แต่ก็ได้สังเกตุเห็นเพื่อนๆบ้านตัวกลมๆขนฟูฟ่องมาด้อมๆมองๆ เธอจึงได้ตัดสินใจเอาน้ำกับอาหารมาวางไว้ให้หน้าบ้าน ซึ่งหลังจากนั้นวันถัดมาสิ่งที่คิดไม่ถึงก็ได้เกิดขึ้นเพราะเจ้าเหมียวที่มาในวันนั้นได้ชวนกันมาปาร์ติ้กันยกใหญ่ ซึ่งเธอได้บอกว่าน้องๆทั้งสามตัวนี้เป็นแมวจรอยู่ในระแวกบ้านที่เธอนั้นได้พักอาศัยอยู่ และน้องค่อนข้างที่จะกลัวผู้คนเลยยังไม่ยอมให้เธอได้เข้าใกล้ ซึ่งเธอก็ได้แต่แอบถ่ายรูปพวกน้องๆเก็บเอาไว้เพราะน้องๆนั้นทั้งตัวอ้วนและกลมน่าฟัดเอามากๆเลย โดยเธอได้บอกอีกด้วยว่าเธอนั้นอาศัยอยู่ รัสเวอร์จิเนีย ในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งไม่ได้อยู่ในประเทศไทยเราเพราะถ้าอยู่ในไทยพวกน้องๆสามตัวคงโดนเอาไปเป็นลูกเป็นที่เรียบร้อย และบ้านในบริเวณที่เธออยู่เธอก็ได้สังเกตเห็นว่าทุกๆบ้านก็จะมีอาหารแมวมาวางเอาไว้ให้น้องที่หน้าบ้านเสมอซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่ารักและสร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆในกลุ่มเป็นอย่างมาก ซึ่งหากเพื่อนๆพบเจอแมวต้องการความช่วยเหลือก็อยากจะให้ช่วยพวกน้องๆเพราะเราไม่รู้ว่าถ้าเราเลือกจะเมินเขาไปในวันนั้นพวกเขาจะมีลมหายใจอยู่ต่อกันได้ไปอีกกี่วัน ขอขอบคุณข้อมูลจาก Praew Kanjanapong