หน้าแรก บล็อก หน้า 518

อดีตหมาจรเห็นนางวนเวียนนานนับเดือน ตัดสินใจเอาเข้าบ้านพอเจอความรักเข้านางก็อ้อนไม่ยอมหยุด

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎อวยพร แปลกโฉม ได้เผยเรื่องราวของหมาหลงทางตัวหนึ่ง น้องเป็นหมาจรที่ทางสาวผู้โพสต์เก็บน้องมาเลี้ยงเอาไว้ ด้วยความที่เคยเป็นหมาจรมาก่อนสกิลการออดอ้อนของนางก็ไม่เป็นรองใคร จนทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์ต่างพากันยิ้มไม่หุบ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า นางเป็นน้องหมาที่หลงมาหรือโดนเขาเอามาปล่อยอันนี้ก็ไม่แน่ใจ เห็นนางมาหลายเดือนแล้ว ไม่กล้าเอาปลอกคอออก กลัวเจ้าของเดิมเขาจะจำนางไม่ได้ นางมีความออดอ้อนสูงและน่าเอ็นดูมากๆ ล่าสุดนี้อาบน้ำให้นาง พานางไปทำหมันตัดไข่อย่างง่ายดาย เอ็นดูนางสุดๆเลยไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ที่ทำให้นางมาเป็นหมาจรแถวนี้ไปแล้วก็ตาม ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมยิ้มไม่หุบกับคลิปดังกล่าว กับการออดอ้อนที่หมาบ้านยังทำไม่เป็นกันเลย นี่แหละเนอะชีวิตที่เคยเป็นหมาจรมาก่อน แต่พอได้เข้ามาอยู่ในบ้านนางรับรู้ได้ถึงความรักที่มีให้กัน ตอนนี้ทางสาวผู้โพสต์เองก็หลงรักนางเข้าแล้ว เพราะอุตส่าห์พานางไปทำหมันอาบน้ำให้จนตัวหอม อยากให้หมาที่บ้านออดอ้อนได้เหมือนนางจังเลย เข้ามาคลอเคลียแบบนี้เป็นใครก็ต้องตกหลุมรัก ชมคลิปได้ที่ด้านล่างได้เลยนะ ชมคลิป https://www.facebook.com/showclip3/videos/244617436740598   ขอขอบคุณ : ‎อวยพร แปลกโฉม

ถูกเอามาปล่อยไว้ที่วัด ตัวก็ยังเล็กจะไปวิ่งหนีใครเขาก็ทำไม่ได้ หมาแถวนี้ก็เยอะหากปล่อยเอาไว้น้องคงไม่รอด

เพราะยังมีอีกหลายๆชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ จึงทำให้หลายๆชีวิตนั้นต้องเกิดมาดิ้นรนต่อสิ่งที่ต้องพบเจอ โดยในบางครั้งโลกก็ช่างใจร้ายเพราะแม้แต่สิ่งมีชีวิตที่เป็นชีวิตเล็กๆที่เพิ่งจะเกิดมาลืมตาดูโลกก็กลับต้องมาถูกปล่อยเอาไว้ให้ใช้ชีวิตตามยถากรรมแบบไร้เยื่อใย เพราะมนุษย์ที่ไร้ความรับผิดชอบ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Bongkotnit Song ที่ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยๆลงในโลกออนไลน์หลังจากที่พบน้องถูกมนุษย์ใจร้ายนำมาปล่อยเอาไว้ที่วัดให้อยู่กันเพียงลำพัง แถมน้องยังไม่ทันหย่านม ออกหาอาหารกินเองก็ไม่ได้ ซึ่งในวัดดังกล่าวนั้นก็มีหมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เธอเลยคิดเอาไว้ว่าถ้าปล่อยพวกน้องๆเอาไว้คงจะไม่พ้นสุนัขในวัดจึงเอาพวกน้องๆทั้ง 6 ตัวกลับมาบ้านก่อนแล้วค่อยว่ากันว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป โดยทั้งนี้เธอเองก็ได้บอกว่าที่บ้านตอนนี้วุ่นวายกันเจี๊ยวจ๊าวมาก เพราะเด็กๆกำลังซนและส่งเสียงร้อง แต่พี่ของเธอเองก็คงจะรับเลี้ยงน้องทั้งหมดไว้ไม่ไหวเพราะมีตั้ง 6 ตัว ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยากที่จะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปยังต้นโพสต์ได้เลย ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นและพร้อมจะดูแลพวกเขาไปแบบตลอดชีวิตพวกเขาจะได้ไม่ต้องถูกนำมาปล่อยเอาไว้แบบนี้อีก แต่ทั้งนั้นก็อยากจะให้น้องๆโตกว่านี้หรือหย่านมก่อนเพราะการดูแลแมวเด็กเล็กนั้นต้องใช้เวลาและความเอาใจใส่เป็นอย่างมาก จึงอยากจะฝากคนที่คิดว่าการเอาหมาหรือแมวไปปล่อยเอาไว้ตามวัดต่างๆ ที่คิดว่าสุนัขหรือแมวเหล่านั้นจะรอดพ้นเพราะอย่าได้ลืมว่าที่วัดเองก็มีหมาหรือแมวอยู่แล้วจำนวนนึงถ้าเกิดเป็นแมวเด็กๆแบบนี้ถ้าเอาไปปล่อยไว้แล้วไม่เจอคนโชคดีมาเจอเอาไว้พวกน้องๆเองก็คงไม่รอดพ้นจากสุนัขในวัดเป็นอย่างแน่นอน จึงอยากจะฝากเอาไว้ให้คิดกันนิดนึง ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bongkotnit Song

อยากตัดใจจากแมวที่เลี้ยงไว้ ร้องไห้ทุกครั้งเมื่อรู้ถึงอนาคตเพราะต้องเลิกกับแฟนแล้วเราต้องจากกัน

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Narun Nee ได้เผยเรื่องราว หลังเธอนั้นได้รับน้องมาเลี้ยงร่วมกับแฟน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปเธอนั้นต้องเลิกกับแฟน แต่แฟนของเธอก็ไม่ยอมให้เธอเอาแมวไปเลี้ยง เธอจึงโพสต์ระบายลงในกลุ่มเพื่อหาวิธีตัดใจออกจากแมวให้ได้ เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งร้องไห้เมื่อรู้ว่าเราต้องจากกันไป . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ คือว่าเรามีแฟน แล้วเค้าเคยซื้อแมวมาเลี้ยงด้วยกัน เลี้ยงตั้งแต่น้องเล็กๆจนตอนนี้ได้10เดือนแล้วค่ะ แต่กำลังจะเลิกกันกับแฟนแล้ว เราจะกลับบ้านเรา เราร้องไห้ทุกครั้งที่ต้องคิดว่าอนาคตเราจะต้องคิดถึงแมวมากเพียงใด เค้าต้องรอเราหน้าประตูทุกวันแน่ๆเลย เค้าจะสงสัยมั้ยว่าจู่ๆเราหายไปไหน เค้าจะรอเราแบบที่เค้าไม่รู้ไหมว่าเราจะไม่กลับมาหาอีกแล้ว ผูกพันมากจริงๆค่ะ ใครพอมีวิธีที่ทำให้เราตัดใจจากแมวได้บ้าวมั้ยคะ จนเรื่องราวนี้ถูกโพวต์ในกลุ่มชมรมทาสแมวสายดาร์ก ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวให้คำลังใจ อยากจะให้ทาสสาวผู้โพสต์ลองคุยกับแฟนดูว่าขอเอาแมวมาเลี้ยงได้มั้ย เพราะยังทำใจไม่ได้ที่ต้องจากน้องไป ขอแฟนแล้วพยายามพูดกับแฟนแล้วแต่เขาก็ไม่ยอม จนกระทั่ง เธอพยายามพูดกับแฟนเป็นครั้งสุดท้ายอยากจะขอน้องมาเลี้ยงที่บ้าน จนแฟนของเขาเริ่มใจอ่อนและเธอนั้นก็รับน้องมาดูแลที่บ้านได้สำเร็จ ชาวทาสแมวมากมายต่างโล่งอกที่ทั้งคู่จะได้มาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอได้อุ้มน้องกลับบ้านมาอยู่ด้วยกันแล้ว แอดเองก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะที่แฟนของคุณยอมให้คุณเอามาเลี้ยง ที่มา Narun Nee

มิติใหม่ของการขายหมูแดด หลังแฟนเพจเอารูปแมวเป็นโลโก้ถึงขั้นประกาศปิดรับออเดอร์เพราะหมูโตไม่ทัน

ในยุคที่เกิดโรคระบาดหนักทำให้หลายๆคนนั้นประสบปัญหาในเรื่องของหน้าที่การงานและการเงิน เพราะทางรัฐบาลนั้นได้ประกาศให้ประชาชนนั้นหยุดอยู่บ้านในช่วงโควิด - 19 ระบาดหนัก ซึ่งก็อาจจะทำให้ส่งผลกระทบไปถึงหลายๆอาชีพที่จะต้องหยุดพักเพื่อหยุดเชื้อเพื่อชาติ แต่ทว่าก็ไม่อาจจะทำอะไรกับการขายของของแฟนเพจนี้ หลังจากที่เจ้าของทาสแมวหัวใสได้เริ่มทำอาชีพใหม่เพื่อหารายได้ด้วยการขายหมูแดดเดียว แต่ความพีคนั้นอยู่ตรงที่ว่าเจ้าของแฟนเพจรายนี้เกิดเป็นทาสแมวขึ้นมาและนำรูปของเจ้าเหมียวสุดที่รักมาทำเป็นปก แถมยังตั้งชื่อแบรด์ของตัวเองอีกว่า "เนื้อหมูแดดเดียวตรา อีกเหมียวปีนตู้กับข้าว อร่อยจนต้องปีนตู้กับข้าว" ซึ่งทั้งนี้เองแฟนเพจดังกล่าวนั้นได้เริ่มที่จะสร้างเพจนี้ขึ้นมาในวันที่ 18 เมษายน 2563 ซึ่งภายในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ทำให้มีผู้คนเข้ามากดไลค์แฟนเพจรายดังกล่าวมากถึง 7,280 คนและล่าสุดในตอนนี้ทางแฟนเพจเองก็ได้ออกมาปิดรับออเดอร์แล้วเพราะเนื่องด้วยจำนวนคนที่เข้ามาสั่งนั้นทำให้หมูของเขาโตไม่ทันเลยทีเดียว เพราะในช่วงเวลาเพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ทำให้มีผู้คนมากมายเข้ามาสั่งซื้อก็เพราะโลโก้และคำหัวข้อในโปรไฟล์แบรนด์ของเขานั่นเอง ซึ่งทาสแมวทั้งหลายก็พากันกระหน่ำสั่งกันแบบไม่บันยะบันยังจนขายไม่ทันต้องให้เจ้าเหมียวมาช่วยเลี้ยงหมูกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็นับถือไอเดียหัวใสของทางเจ้าของแฟนเพจรายนี้เป็นอย่างมาก ที่สามารถเอาเจ้าเหมียวมาช่วยขายแถมยังได้ยอดขายจนล้นมือ แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากเพื่อนๆคนไหนอยากจะลองชิมเนื้อหมูแดดเดียวของอีเหมียวปีนตู้กับข้าวก็ลองทักไปถามดูว่าเค้าจะเปิดขายให้อีกทีเมื่อไหร่ ซึ่งทั้งนี้เองก็อยากจะบอกและให้กำลังใจกับทุกคนว่าถึงช่วงนี้อาจจะประสบปัญหาเพราะถูกสั่งหยุดแต่ถ้าเรามีความคิดหรือไอเดียดีๆเชื่อว่าเราก็จะสามารถหาช่องทางหาเงินได้แบบเจ้าของแฟนเพจรายนี้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก เนื้อหมูแดดเดียว ตรา อีเหมียวปีนตู้กับข้าว

ถูกคนใกล้ชิดโทรมาต่อว่า เอาเงินไปรักษาหมาไปทำไมไร้สาระลั่นแรงมันก็แค่หมา

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ปาน ธัญภา เข็มทอง ได้เผยเรื่องราวลงบนเฟสบุ๊กเกี่ยวกับการพาหมาไปหาหมอหมดเงินไปประมาณ 1660 บาท และหลังจากโพสต์นั้นถูกเผยแพร่ลงบนเฟสบุ๊กของตัวเอง คนใกล้ชิดที่รู้จักก็โทรมาต่อกับเธอว่า จะรักษามันไปทำไมไร้สาระ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ถ้าพูดเรื่องรักหมาในเพจทาสหมาคงมีคนเข้าใจเรามากที่สุดแล้ว แต่เราพูดเรื่องหมาในเฟสบุ๊คส่วนตัว โพสเรื่องที่เรานำหมาไปรักษากับคุณหมอค่าใช้จ่ายหมดไปตั้ง1660บาท เพียงเพราะเราอยากแชร์ประสบการณ์ให้คนเลี้ยงหมามือใหม่อย่างเราได้รับรู้ แต่ก็มีคนใกล้ชิดเราโทรมาต่อว่ากับเราว่ามันแพงมากรักษาหมาไปได้ไง ไร้สาระมาก มันก็แค่หมา สำหรับเราเค้าไม่ใช่แค่หมานะ เค้าคือความรักของเรา ความรักของเรามันตีค่าเป็นราคาไม่ได้ เราไม่ได้จะอะไรนะคะ ก็แค่รู้สึกนอยด์ แค่อยากระบายความในใจเท่านั้นเอง ด้านชาวเน็ตในกลุ่มทาสหมาต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมกล่าวว่าอย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลยคุณทำถูกแล้ว คนไม่รักสัตว์จำพวกนี้พวกเขาไม่มีวันเห็นคุณค่านอกจากชีวิตของตัวเอง เขาจะมองสัตว์เป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่งที่ไม่เหมือนกับเราที่เห็นหมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว บ้างก็บอกว่าเคยโดนเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกันกับคนใกล้ชิดนี่แหละ แค่เรื่องอาหารหมาที่ซื้อให้ยังโดนพวกไม่รักสัตว์ต่อว่าเลยว่าจะซื้ออาหารแพงๆให้มันทำไม อาหารอะไรก็ช่างพวกมันก็กินได้ทั้งนั้นแหละ บ้างก็บอกว่าทุกชีวิตย่อมมีความสำคัญเพราะพวกเขาก็ถือเป็นครอบครัวของเรา ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ไร้สาระนะคะคุณอย่าไปสนใจคำพูดของเขาเลย ขอขอบคุณ : ปาน ธัญภา เข็มทอง

แมวตัวน้อยที่ไม่มีใครต้องการ

เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่เกิดมาไร้คนต้องการ แม้แต่จะเหลียวแลหรือให้ความช่วยเหลือ ซึ่งถ้าเกิดวันนี้เพื่อนๆเกิดท้อแท้อยากให้เพื่อนๆลองนึกถึงอีกหลายๆชีวิตที่ต้องเกิดมาดิ้นรนต่อสู้ทั้งๆที่เพิ่งจะลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่วัน เพียงเพราะไม่น่ารักอย่างใครเขาหรือไร้ผู้คนต้องการเพราะเกิดมามีร่างกายที่อ่อนแอ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Piiz A GGiiz ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยรายนี้ หลังจากที่น้องนั้นถูกแม่แมวปล่อยเอาไว้เพราะน้องนั้นไม่แข็งแรงเหมือนกับพี่ๆ แถมไม่วายยังโดนผู้คนไม่ชอบเพราะเนื้อตัวที่มอมแมมสภาพไม่น่ารักเหมือนแมวทั่วๆไป ซึ่งผู้โพสต์นั้นก็ได้พบน้องเข้าที่ตกอยู่ในสภาพที่ผอมโซ เดินไร้แม้แต่เรี่ยวแรงแต่ก็ไม่มีใครจะคิดแยแซกับชีวิตน้อยๆตัวนี้ โดยทางผู้โพสต์นั้นก็อดใจไม่ไหวที่จะเข้าช่วยเหลือเพราะสงสารจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์บอกเล่ายังในโลกออนไลน์เพื่อที่จะหาบ้านให้กับน้อง แต่ทว่าความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ เพราะในที่สุดผู้โพสต์เองก็อดทนไม่ไหวรับเลี้ยงน้องเองด้วยความที่น้องขี้อ่อนและสงสาร ซึ่งในตอนแรกนั้นผู้โพสต์เองก็ได้บอกเอาไว้ด้วยว่าอยากที่จะรับเลี้ยงน้องแต่ตัวของผู้โพสต์ก็ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนแถมยังกลัวแมวอีกด้วย อีกทั้งยังกลัวแม่ของเธอเองจะว่าเอา แต่ในที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความออดอ้อนและความน่ารักของน้องนี่เอง โดยทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนเจอแมวจรหรือแมวตัวน้อยๆก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ว่า ให้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือชีวิตน้อยๆเหล่านี้เพราะถ้าเกิดว่าเป็นคนอย่างเราๆ เรายังสามารถที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ แต่ทว่าถ้าเกิดเป็นแมวหรือสัตว์อื่นๆนั้นพวกเขาไม่สามารถที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นๆได้เหมือนกับเรา ขอขอบคุณข้อมูลจาก Piiz A GGiiz

สาวเดินเข้าไปถาม ทำไมถึงเอาไม้มากวาดน้องนอนกลิ้งบนถนนแต่เขากลับตอบว่าโอ้ยไม่ไหวแล้วมันเยอะแยะไปหมด

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎Supermom Jum ได้เผยเรื่องราว หลังเธอได้พบเจอกับลูกหมาตัวน้อยถูกหญิงสาวคนหนึ่งกำลังใช้ที่กวาดเศษขยะกวาดน้องกลิ้งไปตามถนน จนเธอนั้นต้องรีบเข้าไปช่วยและเข้าไปถามว่าทำไมถึงทำกับน้องแบบนี้ นี่ขนาดน้องหมายังไม่ทันหย่านมแม่เลยนะ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรื่องเศร้าค่ะ พอดีวันนี้เรายืนขายอาหารอยู่สักพักเราได้ยินเสียงลูกหมาร้องๆแบบโหยหวนอ่ะ เราก็วางตะหลิวเลย พอไปตามเสียงร้องก็ได้เห็นภาพที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น มีผู้หญิงคนนึงสงสัยเป็นเมียคนขับรถพนักงาน กำลังใช้คราดที่เค้าใช้สำหรับแยกเศษใบไม้ ที่มีลักษณะเป็นซี่เหล็ก ผู้หญิงคนนั้นมันใช้คราดลูกหมาที่ยังไม่ทันได้หย่านมกลิ้งไปบนหินลูกรังร้อนๆ เราก็เลยเดินไปถามว่า ทำไมถึงทำอย่างนั้นกับลูกหมาล่ะ? มันตอบมาว่าไม่ไหวแล้วเยอะแยะไปหมด แค่นั้นแล้วมันก็เดินไป ในตอนนั้นเราตัวสั่นไปทั้งตัวสงสารน้องก็สงสาร พอเราขายของเสร็จเราก็ให้ลูกชายเรามุดรวดหนามไปเอาน้องตัวนั้นกลับมาที่บ้าน เราไม่ชอบคนใจต่ำคนนั้นจัง เราต้องเลี้ยงน้องอีกตัวแล้วเพิ่มมาเป็นตัวที่แปดแล้ว แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ ก็อดสงสารไม่ได้ ล่าสุดน้องได้ชื่อแล้วนะเราตั้งชื่อให้น้องว่า ด.ช.ถังเงินครับ เสียดายหยิบโทรศัพท์ถ่ายคลิปไม่ทัน เราอาบน้ำทาแป้งกันหมัดให้ แล้วหลับปุ๋ ที่มา ‎Supermom Jum

เดินมาขอซื้ออาหารหน้าเซเว่น แต่ดันเลยเวลาขายเพราะติดเคอร์ฟิว ได้แต่ทำหน้าหงอยพร้อมเดินคอตกเพราะมาผิดเวลา

หลายๆคนก็มักจะเข้าใจว่าแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยจะสนใจโลก หรือไม่ค่อยจะรู้ประสีประสาใดๆ ซึ่งในความจริงแล้วถ้าคนที่เลี้ยงแมวหรือเคยได้สัมผัสแมวจริงๆก็จะเข้าใจว่าแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดและแสนรู้ไม่ได้ต่างอะไรจากหมาเลย แต่ทว่าเพราะพวกเขานั้นชอบคิดว่าเป็นเจ้านายของเราจึงมักจะไม่ค่อยแสดงออกมากเท่าไหร่ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ไอ หมูอ้วน ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ลงในกลุ่ม ทาสแมวหลังจากที่เขานั้นได้พบน้องมาขอซื้ออาหารในกลางดึกที่เซเว่น แห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าเหมียวนั้นก็เดินมาด้วยสายตาละห้อยเมื่อได้รู้ว่าเซเว่น นั้นปิดทำการเพราะเป็นเวลาเคอร์ฟิวแล้ว โดยพนักงานเซเว่น ก็ได้บอกเจ้าเหมียวว่า น้องเหมียวค้าบร้านปิดแล้วนะค้าบ ขายให้ไม่ได้แล้วค้าบ ซึ่งเมื่อเจ้าเหมียวนั้นได้ยินแบบนั้นก็กลับหันหลังและทำคอตกเพราะอดกิน จากด้วยที่มาทำสายตาที่บ้องแบ๊วกลับต้องเดินจากไปแบบผิดหวังจนคอตกเพราะเซเว่น เค้ามีเวลาทำการใหม่   โดยทั้งนี้หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้เพื่อนๆในกลุ่มทาสแมว มาแสดงความคิดเห็นว่าสงสารและเป็นห่วงน้อง ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็ได้มาโพสต์อัพเดทเพิ่มเติมด้วยว่า น้องได้กินไปแล้วซึ่งน้องก็มักจะมาขอกินแบบนี้อยู่เป็นประจำในทุกวัน แถมน้องยังมีบ้านและเจ้าของเป็นของตัวเองอีกด้วย ซึ่งด้วยทั้งนี้น้องนั้นชอบแอบหนีออกมาเที่ยวในตอนกลางคืนอยู่เป็นประจำ แต่ทว่าในตอนนี้คงจะลืมไปว่าเซเว่น นั้นปิดเคอร์ฟิวให้ขายได้ไม่เกินเวลา 4 ทุ่มเพียงเท่านั้นจึงทำให้น้องผิดหวังและอดกินในตอนนั้น แต่ถึงยังไงทางพนักงานเซเว่นเองก็คงจะต้องบอกกับน้องว่าให้มาก่อน 4 ทุ่มและควรจะทำความเข้าใจกับน้องใหม่ไม่งั้นน้องคงจะมาผิดเวลาแบบนี้แล้วผิดหวังกลับไปอีกแบบเดิมอีก ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไอ หมูอ้วน

วิ่งหน้าตาตื่นหนีภัยอันตรายเข้ามาหลบในบ้าน มาหาที่พึ่งพักพิงหลังถูกเอามาปล่อยแบบไร้เยื่อใย

เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นเท่ากับการเพิ่มภาระเราจึงมักจะบอกกับเพื่อนๆเสมอว่าให้เพื่อนๆนั้นเตรียมพร้อมกับสิ่งที่จะตามมา เพราะถ้าเกิดเราไม่มีความเตรียมพร้อมปัญหาการปล่อยปละละเลยของสัตว์เลี้ยงก็จะเพิ่มมากขึ้นและปัญหาของการที่สัตว์ทีลูกโดยที่ไม่มีคนดูแลหรือไม่เป็นที่ต้องการก็จะตามมามากยิ่งขึ้นไป เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ปิยธิดา ชื่นแดง ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่วันนั้นเป็นเวลากว่า 3 ทุ่มแล้ว เจ้าตัวน้อยก็วิ่งมาจากไหนไม่รู้วิ่งเข้ามาแอบภายในบ้านคงจะถูกสุนัขไล่มา น้องน่าสงสารมากๆวิ่งมาหาที่พึ่งที่พักพิงให้แอบจากสุนัขให้หลุดพ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกคนใจร้ายเอามาปล่อยเอาไว้แบบไร้เยื่อใย และในระแวกที่เธอนั้นได้อาศัยอยู่ก็มีสุนัขจรเยอะจึงทำให้น้องต้องเอาตัวรอดด้วยการหลบหนี แต่คนทำหรือคนเอามาปล่อยก็ช่างใจร้ายมากเหลือเกินทำไมถึงไม่คิดบ้างว่าชีวิตน้อยๆแบบนี้จะมีชีวิตรอดอยู่ไปได้อีกกี่วัน โดยทั้งนี้เธอเองกับแฟนก็ตัดสินใจที่จะรับน้องมาเลี้ยงเอาไว้เพราะตัวเธอเองก็ชอบแมวมากอยู่แล้ว แถมที่บ้านก็มีอยู่แล้ว 4 ตัวกำลังตั้งท้องอีกก็คงจะเป็นครอบครัวใหญ่เลยทีเดียว โดยพ่อเลยตั้งชื่อให้น้องว่า เจ้าชิฟฟ่อน และน้องจะได้ไม่ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป และเราก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าในตอนนั้นน้องวิ่งหนีไม่ทันหรือถ้าเกิดบ้านหลังนี้ปิดแล้วน้องไม่สามารถจะหนีได้ อะไรจะเกิดขึ้นกับน้องจึงอยากจะบอกกับเพื่อนๆถูกคนไว้ว่าถ้าคิดจะเอาน้องแมวหรือน้องหมาไปปล่อยอยากจะให้ลองหาวิธีที่ดีกว่านั่นคือการโพสต์หาบ้านให้กับตัวน้อยๆเหล่านี้ พวกเขาจะได้ไม่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดเหมือนกับเจ้าเหมียวน้อยที่น่าสงสารตัวนี้อีก ขอขอบคุณข้อมูลจาก ปิยธิดา ชื่นแดง

กอดกันไม่ห่างหลังถูกนำมาปล่อยเอาไว้ ต้องใช้ชีวิตเป็นแมวจรระหกระเหินเดินขอเศษอาหารตามบ้านประทังชีวิต

เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่เลือกที่จะเกิดมาไม่ได้จึงต้องดิ้นรนสู้ชีวิต เพราะการเกิดมาไร้ผู้คนต้องการจึงถูกเอามาปล่อยให้ชีวิตเป็นแมวจร ซึ่งหากในวันนี้เราท้อหรือเหนื่อยกับชีวิตแล้วอยากให้ลองมองว่าอีกหลายชีวิตเล็กๆนั้นก็ต้องดิ้นรนสู้ชีวิตและเหนื่อยมากกว่าเรา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tatung Tar ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสองตัวนี้หลังจากที่น้องนั้นถูกนำมาปล่อยเอาไว้และต้องใช้ชีวิตเป็นแมวจรเพราะไม่มีใครเขาต้องการ แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันไม่ห่างซึ่งทางผู้โพสต์นั้นได้ บอกว่าพวกเขานั้นเป็นพี่น้องกัน และวันนั้นพวกเขาก็มาขอข้าวกินที่บ้าน มาพร้อมกันทั้งคู่โดยสภาพที่ผอมโซเพราะไม่มีใครแถวนั้นเมตตาที่จะให้อาหาร ซึ่งตอนนั้นเองเธอก็ตัดสินใจจะให้อาหารกับน้องๆและรับน้องๆเลี้ยงไว้ในที่สุด โดยทั้งคู่ก็ได้เติบโตภายในบ้านหลังนี้และสิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดก็คือ พวกเขาทั้งคู่ก็ยังได้ใช้ชีวิตร่วมกันและรักกันไม่ห่าง โดยในทุกๆวันพวกเขาก็จะนอนกอดกันอยู่แบบนี้เสมอ ด้วยความรักของพี่และตัวน้องที่แทบจะไม่เคยทะเลาะกันเลยอีกทั้งเจ้าของโพสต์ก็ยังได้บอกอีกว่าพวกเขาเป็นแมวที่น่ารักและนิสัยดีสุดๆไม่เคยแม้แต่จะขู่หรือกางเล็บใส่เธอเลยแม้แต่น้อย อาจจะเพราะด้วยชีวิตที่พวกเขานั้นได้ผ่านช่วงที่ยากลำบากมากที่สุดมาแล้วจึงทำให้พวกเขานั้นรู้และเข้าใจมากกว่าแมวทั่วๆไป ซึ่งหากเพื่อนๆได้เลี้ยงแมวจรเองแล้วก็คงจะเข้าใจดีว่าพวกเขานั้นพูดรู้เรื่องมากกว่าแมวทั่วๆไปที่ไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาเลยสักครั้ง ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์นั้นยังได้บอกไว้อีกด้วยว่า พี่น้องคู่นี้มีชื่อว่า น้องหยินและพี่หยาง ถือเป็นชื่อที่เหมาะสมและน่ารักมากๆเลยใช่มั้ยละ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tatung Tar