สาวเล่าประสบการณ์โดนแมวแปลกหน้า อย่าได้คิดชะล่าใจภัยร้ายกว่าที่คิด
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Paeng Tharatchaya ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นถูกแมวแปลกหน้างับเข้า หลังโดนงับเธอก็ไปหาหมอหมดเงินไปหลายพันแต่แผลก็อาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอได้เปลี่ยนโรงพยาบาลเพื่อรักษาเพราะวันเวลาก็ผ่านไปหลายวันแล้วยังไม่หายปวดสักที
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวงับอย่าคิดว่าเรื่องนิดเดียว สวัสดีค่ะ วันนี้มาแชร์ประสบการณ์การโดนแมวงับค่ะ โดยปกติแล้วเราเลี้ยงแมวอยู่หลายตัว ไม่มีตัวไหนดุเลยค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่าเราไปช่วยเพื่อนทำร้านอาบน้ำตัดขนสัตว์ แล้วเราโดนแมวของลูกค้าเพื่อนงับมาค่ะ น้องเป็นแมวพันธุ์เปอร์เซียตัวผู้ตัวใหญ่
ซึ่งตอนนั้นเค้าน่าจะตื่นเต้น เราเลยเข้าไปอุ้มน้องเขากะว่าจะปลอบแต่แล้วนางก็เกิดตกใจอะไรก็ไม่รู้แว้งกลับมางับเรา ซึ่งในตอนนั้นกำลังอุ้มเค้าอยู่ด้วย แมวไม่ได้ผิดอะไร เราสิผิดที่ไม่ระวังตัวเอง พอหลังจากโดนงับแล้ว เราก็ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดในทันที บีบๆมีโลหิตไหลออก
จากนั้นก็ไป โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางนาเพื่อล้างแผล ที่โรงพยาบาลก็ล้างแผลให้แบบเอาน้ำเกลือเช็ดๆ เบตาดีนทาๆ แล้วพันแผลให้ พันใหญ่มากๆ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าแผลสะอาดขึ้นเลย และไม่ได้ให้ยาอะไรมากินเลย ไม่ได้บอกให้เรามาล้างแผลต่อด้วย วันนั้นเราหมดไปประมาณ 2000 กว่าค่ะ (มีประกันอุบัติเหตุ)
พอกลับมาก็เราปวดแผล ปวดอยู่3วัน สังเกตเห็นว่ารอบแผลมีรอยพกช้ำและยังมีอาการปวดมาก เลยตัดสินใจไปหาหมอที่ โรงพยาบาลเอกชน บนถนนวิภาวดีรังสิตค่ะ พอหมอดูแผลให้ หมอก็ยังบอกปกติอยู่ให้กลับไปประคบเพื่อลดอาการบวม พร้อมกับให้ยามากินเพิ่มเติม แล้วหมอก็ให้เราไปทำแผลกับพยาบาลเพื่อที่จะได้เบิกค่าประกันได้
พอเจอพยาบาลเค้าก็ถามเราว่าโดนอะไรมา พอเราบอกว่าแมวงับพี่พยาบาลเลยขอกรีด เปิดแผลดูเพราะมันมีร่องรอยอักเสบและแผลร้อน (สภาพแผลเราคือสมานกันไปแล้วแต่ปวดบวมร้อนค่ะ) ปรากฏว่าพอเปิดแผลปุ้บพุ่งออกมาเลย พยาบาลบอกแผลติดเชื้อค่ะ ต้องยัดเดรนเพื่อระบายออก และมาทำแผลทุกวันจนกว่าจะหาย
พี่พยาบาลบอกว่าถ้าแผลมีลักษณะจิ้มเข้าไปเป็นรูแบบในภาพ เช่นแมวงับ หมางับ ตะปูตำเป็นต้น การล้างแผลครั้งแรกจะสำคัญมากๆ ค่ะ ขอให้ทุกคนอย่าประมาทค่ะ ทั้งการเข้าหาแมวหมาที่เราไม่คุ้นเคย หรือการโดนงับแล้วไม่ทำความสะอาดแผลให้ดีๆ เรื่องมันอาจจะลุกลามไปจนถึงติดเชื้อในกระแสได้เลยนะต้องนอนโรงพยาบาล...
ไม่เคยคิดว่าจะเจอกับตัวเอง หลังได้รับของขวัญชิ้นใหญ่มาวางซบไว้ที่กลางหลังในตอนตื่น
เพื่อนๆหลายคนที่ไม่ได้เลี้ยงแมวนั้นก็อาจจะไม่เข้าใจคำจำกัดความของคำว่า ทาสแมว กันสักเท่าไหร่นักเพราะด้วยเหตุผลที่ว่าแมวนั้นจะคิดว่าพวกเขานั้นเป็นนายเราและมนุษย์อย่างเราๆเป็นทาสของพวกเขานั้นเอง พวกเขาจึงมักจะทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้องอยู่เสมอๆ
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ice'ice Yapha ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่ทราบซึ้งและสุดฮาจนน้ำตาแทบจะไหลหลังจากที่ในเช้าวันนึงเธอได้ตื่นขึ้นมา ซึ่งเป็นเช้าวันปกติทั่วๆไปแต่แล้วสิ่งที่เธอได้พบเธอกับได้เห็นของขวัญชิ้นใหญ่
ที่เจ้าเหมียวสุดที่รักนั้นได้นำมามอบให้ แต่ก็ไม่ได้มอบให้แบบธรรมดาเพราะน้องเล่นเอามาวางไว้ให้ถึงบนที่นอน ซึ่งเป็นจุดที่เธอนอนและเป็นกลางหลังของเธอ ใช่แล้วละเจ้าเหมียวสุดที่รักได้นำของขวัญชิ้นใหญ่มามอบให้กับเธอโดยการที่เอาซุกไว้ที่กลางหลัง
ซึ่งเธอถึงกับแทบจะร้องไห้ออกมาไม่ใช่เพราะความซาบซึ้งแต่อย่างใด แต่เพราะสิ่งที่เจ้าเหมียวนำมามอบให้นั้นเป็นหนูที่สิ้นใจ อาจจะเพราะด้วยน้องเห็นว่าช่วงนี้แม่ไม่ค่อยออกไปทำงานจึงกลัวว่าแม่จะไม่มีอะไรกินก็เป็นได้ น้องเลยจัดสรรหาอาหารมาให้แบบเสร็จสรรพ
และด้วยความตื้นตันใจของเธอเธอจึงได้นำเรื่องราวอันสุดซึ้งนี้มาโพสต์บอกเล่าให้กับเพื่อนในกลุ่มทาสแมวให้ได้ฟังกัน จนทำให้กลายเป็นเรื่องที่ชวนฮา เพราะสีหน้าและแววตาของน้องที่ดูอ่อนวอนว่าถ้าแม่ไม่กินให้หมดหนูคงจะเสียใจแย่เลย งานนี้ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ต่อไปนั้นจะเป็นอย่างไรแต่ถึงอย่างไรแม่ก็คงจะไม่กินแน่ๆฮ่าๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Ice'ice Yapha
อุทาหรณ์เตือนใจนอนร่วมกับแมวเด็ก หลังได้รับน้องมาเลี้ยงก็มีความสุขมากๆแต่พอตกดึกกลับต้องพบเจอเรื่องราวที่ทำให้ตกใจตื่น
เพราะการที่เราได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นทำให้เราได้อะไรหลายๆอย่างมากกว่าที่คิด ซึ่งหากใครที่ไม่เคยเลี้ยงก็จะไม่เข้าใจว่าเราจะเลี้ยงไปทำไมให้เป็นภาระ แต่ทว่าสิ่งที่แรกมานั้นมันมีค่ามากกว่านั้นเยอะมาก ทั้งเรื่องของความรักและความผูกพันทั้งในเรื่องของความเหงาเมื่อต้องอยู่ตัวคนเดียวพวกเขาก็จะคอยเป็นกำลังใจให้กับเราอยู่เสมอ
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า เค บางบอน ได้โพสต์เตือนเพื่อนๆในกลุ่มทาสแมว official เพื่อจะเตือนภัยเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงแมวเด็ก โดยเรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่เขานั้นได้รับเจ้าเหมียวตัวน้อยตัวนี้มาเลี้ยงเมื่อวาน ตลอดเวลาที่ได้มาอยู่กับน้อง 1 วัน 12 ชั่วโมง
เขานั้นก็โคตรที่จะมีความสุขเพราะน้องแข็งแรงดี ขี้เล่นกำลังซนเพราะด้วยความเป็นเด็ก แต่ทว่าเมื่อคืนที่ผ่านมานี้ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขานั้นแทบจะหลับไม่ลง เพราะด้วยความที่น้องยังตัวเล็กมากๆ เขาก็กลัวว่าเขานั้นจะนอนทับน้อง จึงให้น้องนอนที่หัวเตียงและก็เฝ้ารอดู
จนกระทั่งน้องหลับไปเขาถึงจะนอนหลับตาม ด้วยเวลาผ่านไปปกติจนถึงเวลาตี 3 เขานั้นก็ตกใจตื่นด้วยหัวใจที่แต้นแรงแบบสุดขีดราวกับเหมือนผีหลอก เขานั้นได้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดของห้องนอน เขานั้นได้สัมผัสถึงกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เท่าไหร่นัก เขาถึงกับต้องเปิดไฟที่หัวเตียง
และแล้วเขาก็ต้องตกใจสุดขีดอีกหนึ่งรอบ เพราะน้องอึใช่น้องอึ อึเหลวใส่ผ้านวม เขาจึงได้ฝากมาเตือนเพื่อนๆในกลุ่ม ก่อนนอนก็ควรจะพาน้องไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนด้วยจะได้ไม่ต้องตื่นมาตกใจกลางดึกแบบเขานั่นเอง โอ้ยยหลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะตกใจกันไม่น้อยใช่ไหมคะ แอดเองก็ตกใจไม่แพ้กันคิดว่าน้องจะเป็นอะไรไปที่ไหนได้น้องอึ แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ถือเป็นเรื่องราวที่น่ารักที่ได้เกิดขึ้นเมื่อได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทั้งนี้ก็ฝากอยากจะให้ดูแลพวกเขาให้ดีเหมือนกับในวันแรกที่พวกคุณนั้นอยากจะเลี้ยง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เค บางบอน
ที่ห้องเลี้ยงหมา2ตัวกับแมวอีก1ตัว แต่จู่ๆแมวกลับท้องปริศนาทั้งๆที่เลี้ยงระบบปิดอยู่บนคอนโดสูง12ชั้น
เพราะแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่พวกเราจะไม่มีวันเข้าใจพวกเขา ถ้าหากเราไม่ทำความรู้จักลักษณะนิสัยของแมวแต่ละตัวให้ดี อาจจะเป็นเพราะด้วยพวกเขานั้นมีการแสดงออกหรือความต้องการในการแสดงออกต่างๆไม่เหมือนกับสุนัข จึงทำให้มนุษย์อย่างเราๆนั้นเข้าใจเขายากมากยิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nonnaphat Nilkhamon ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้หลังจากที่วันนี้อยู่ๆน้องก็คลอดลูกออกมา ทั้งๆที่ผู้เป็นเจ้าของนั้นเลี้ยงน้องในระบบปิดและอยู่บนคอนโดสูงถึง 12 ชั้นโดยย้อนไปก่อนหน้านี้น้องมีอาการกินเยอะผิดปกติ
ซึ่งในตอนแรกผู้เป็นเจ้าของก็คิดว่าน้องคงจะอ้วนโดยเขาเองก็ดีใจถือว่าเขานั้นเลี้ยงน้องมาดี กะว่าในวันพรุ่งนี้ว่างจะพาน้องไปฉีดวัคซีนประจำปี แต่ในวันนี้จู่ๆน้องก็มีอาการหอบลิ้นห้อยซึ่งในตอนแรกเขาก็คิดว่าน้องคงจะร้อนเลยรีบเปิดแอร์ แต่พอเวลาผ่านไปก็เห็นน้ำใสๆบนเตียงนึกว่าฉี
ก็ทำความสะอาดซักพักมีอะไรโผล่มาซึ่งเขาก็ยังคิดว่านางป่วยเป็นอะไรซักอย่าง โดยในตอนนั้นเค้าก็เครียดมากเพราะมีเคอร์ฟิวและหาคลีนิคไม่ได้ด้วย แต่แล้วสักพักนึงผ่านไปเจ้าเหมียวตัวเล็กก็ออกมา เห้ยลูกแมว มาจากไหนมาได้ยังไงซึ่งเขานั้นถึงกับรนเพราะทำอะไรไม่ถูก
จนตั้งสติได้ก็โทรหาแม่และขอคำแนะนำจากพี่ๆในกลุ่มจนทั้งหมดก็ออกมาลืมตาดูโลกทั้ง 4 ตัว แต่ก็ยังคงงงอยู่ว่าน้องนั้นไปท้องมาตอนไหนเพราะเลี้ยงในระบบปิดอยู่บนคอนโดสูงถึง 12 ชั้นเลี้ยงร่วมกับสุนัขอีก 2 ตัวตัวผู้ 1 ตัวเมีย 1 ซึ่งตัวผู้ก็มีอายุเพียงแค่ 3 เดือนคงจะเป็นไปไม่ได้เพราะมันจะข้ามสายพันธุ์ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรู้ว่าน้องท้องได้ยังไงก็สามารถเข้าไปติดตามได้ในต้นโพสต์ได้เลยนะคะ หรือไม่ก็อาจจะต้องรอให้ตัวน้อยๆโตแล้วก็คงจะรู้ว่าใครเป็นพ่อของลูกฮ่าๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nonnaphat Nilkhamon และชมคลิป
https://www.facebook.com/showclip3/videos/974877376315555/
จากคนที่เคยบอกว่าไม่ให้เลี้ยง ถ้าเอามาจะนำไปปล่อย แต่ในวันนี้กลับมานั่งแกะก้างปลาจนเหลือแต่เนื้อเพื่อให้แมวกิน
เพราะคนเรานั้นมีความชอบไม่เหมือนกัน อาจจะเพราะด้วยการเลี้ยงดูหรือสภาวะของสังคมที่ได้พบเจอทำให้มีความชอบแตกต่างกันไป แต่ทว่ายิ่งถ้าเป็นผู้สู้งอายุหรือคนเป็นพ่อเป็นแม่ของเราแล้วยิ่งหนักเพราะส่วนมากพวกเขาก็จะไม่ค่อยอยากที่จะเลี้ยง
ซึ่งด้วยภาระที่จะตามมาและความผูกพันที่จะต้องเจอทำให้พวกเขานั้นไม่ค่อยอยากที่จะเลี้ยงสัตว์ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sirinuch Pothikan ที่ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของคุณแม่ของเขา ผู้ที่เคยบอกว่าไม่ให้เลี้ยงแมว เพราะขนของน้องเยอะและมันจะทำให้เข้าปอด
ซึ่งทางคุณแม่เองยังเคยพูดเอาไว้ด้วยว่าถ้าใครเอามาเลี้ยงจะเอาไปปล่อยเพราะไม่ชอบขนแมวมันเข้าปอด แต่เมื่อได้ยินคำพูดในวันนั้นกลับตัดภาพมาในวันนี้เห็นคุณแม่นั่งแกะปลานั่งหลังขดหลังแข็งเอาก้างปลาออกจนเหลือแต่เนื้อล้วนๆเพื่อเอาไว้ให้เหล่าเจ้าเหมียวได้กิน
เท่านั้นยังไม่พอเมื่อแมวร้อนก็จะเปิดแอร์ให้กับแมว แต่เมื่อลูกร้อนกลับไม่คิดแม้จะเปิด แถมใครกันที่เรียกลูกว่ามันเรียกแมวว่าลูก ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็ยังได้ย้ำบอกด้วยว่าในตอนนี้ที่บ้านของเธอนั้นมีแมวทั้งหมด 9 ตัวและก็ไม่เคยมีจริงๆกับคำว่าตัวสุดท้าย
เพราะมักจะมีแมวงอกออกมาเสมอ ซึ่งจากในวันแรกที่ไม่ยอมให้เลี้ยงแบบหัวเด็ดทีนขาดแต่ในวันนี้แม่กลับลืมคำพูดเหล่านั้นพร้อมกับรักแมวมากกว่าลูกไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวสุดฮาที่หลายๆคนเองก็คงจะได้รับรู้เมื่อคนเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเรานั้นได้เลี้ยงแมว อาจจะเพราะด้วยความผูกพันที่เลี้ยงมาและด้วยเจ้าเหมียวนั้นก็เหมือนกับเด็กเล็กๆทำให้พ่อแม่เรานั้นรักพวกเขาเหมือนกับลูก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sirinuch Pothikan
พบร่างพี่เตี้ยแล้ว ถูกพบในป่าข้างทางหลังตรวจสอบจากไมโครชิพพบว่าเป็นร่างของพี่เตี้ยจริง
ถือเป็นอีกหนึ่งชีวิตที่ทำเอาเหล่าคนรักหมาใจสลาย หลังทางแฟนเพจได้โพสต์อัพเดทลงในโลกออนไลน์ว่าพบพี้เตี้ยมช. ที่ไร้ลมหายใจจริง โดยมีคนพบพี่เตี้ยอยู่ที่ป่าข้างทาง และทางแอดมินก็ได้เข้าไปดูร่างของพี่เตี้ยแล้วและยืนยันว่าเป็นพี่เตี้ยจริง เพราะตรงกับไมโครชิพที่ติดอยู่กับพี่เตี้ย
.
โดยทางแฟนเพจได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า ขอแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องพี่เตี้ยนะคะ ทางเพจได้รับแจ้งว่าเจอร่างสุนัขที่ป่าข้างทาง มีลักษณะคล้ายพี่เตี้ย เราจึงให้ทางแอดมินไปตรวจสอบ ร่างสุนัขดังกล่าวคาดว่าได้เสียมาหลายวันแล้ว และมีลักษณะคล้ายพี่เตี้ยจริง
จึงให้ทางสัตวแพทย์นำเครื่องสแกนไมโครชิปมาตรวจสอบอีกครั้ง (ไมโครชิปใช้สำหรับยืนยันตัวตนของสัตว์เท่านั้น ไม่สามารถระบุพิกัดตำแหน่งของน้องได้) และยืนยันได้ว่าคือพี่เตี้ยจริง ตอนนี้ร่างของพี่เตี้ยได้ถูกส่งมอบให้ทางคณะสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุการจากไปต่อไป
หลังจากชันสูตรเสร็จแล้ว เรื่องการจัดการร่างของพี่เตี้ย ทางเพจจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามาด้วยนะ และขออภัยสำหรับความล่าช้าในการแจ้งข่าวนี้นะคะ ทางเราพึ่งจัดการเรื่องพี่เตี้ยกับทางคุณหมอเสร็จเรียบร้อยค่ะ หมายเหตุ: ร่างพี่เตี้ยไม่ได้ถูกถุงห่อหุ้มตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้แต่อย่างใดนะ
ที่มา เตี้ย มช.
พี่เตี้ยขอลากลับดาวหมา หลังแฟนเพจเตี้ยมช. ได้อัพเดทว่าพี่เตี้ยจากไปแบบไม่มีวันกลับมาแล้ว
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 แฟนเพจเฟสบุ๊กอย่าง : เตี้ย มช. ได้โพสต์ข้อความอัพเดทล่าสุดหลังพี่เตี้ยมช. หายตัวไปอย่างลึกลับ จนนักศึกษาต้องช่วยกันออกตามหาพี่เตี้ยด้วยความเป็นห่วง จนกระทั่งวันนี้ในช่วงเย็นทางแฟนเพจได้โพสต์เพิ่มเติมว่า พี่เตี้ยจากเราไปแบบไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว ได้รับการยืนยันจากไมโครชิพที่ติดตัวพี่เตี้ยอยู่
.
โดยทางแฟนเพจได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า ทางแอดมินขอแจ้งว่าพี่เตี้ยเดินทางไปยังดาวหมาแล้ว ได้รับการยืนยันจากไมโครชิปที่ติดตัว ของพี้เตี้ย ขอบคุณทีมตามหาทุกๆคนมากๆ นะคะ งดโทรหาแอดมินนะ หรือสอบถามทางข้อความ ทางแอดมินขอเวลาจัดการให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะแจ้งรายละเอียดให้ทุกคนทราบภายหลัง
จากการจากไปในครั้งนี้ทำให้เหล่า FC ของพี่เตี้ยต่างใจสลายเพราะพี่เตี้ยเหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของทางมหาลัยเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะทางมหาลัยแห่งนี้เลี้ยงดูหมาจรเหมือนกับลูก เวลาหมาในมหาลัยป่วยนักศึกษาและคณะอาจารย์ก็จะช่วยกันพาไปหาหมอ
ไม่ใช่แค่พี่เตี้ยนะ หมาทุกๆตัวของมหาลัยแห่งนี้จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แต่ต่อไปนี้จะไม่มีพี่เตี้ยมช.อีกแล้ว เราได้แต่หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ เพราะตอนนี้ทางแอดมินของเพจพี่เตี้ย มช. เองได้บอกว่าได้รับการยืนยันจากไมโครชิพ ซึ่งไมโครชิพเองอาจจะเกิดข้อผิดพลาดได้ แต่มันคงจะเป็นแค่ปาฏิหาริย์ลึกๆเพียงเท่านั้น
ทางแอดมินทาสแมวก็ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของพี่เตี้ยมช.ด้วยนะครับ ขอให้พี่เตี้ยเดินทางกลับไปยังดาวหมาอย่างปลอดภัย กลับไปหาเพื่อนๆของพี่เตี้ยนะ เพื่อนๆของพี่เตี้ยคงรอต้อนรับกันอยู่ RIP ใจสลายและจิตตกเลยเมื่อรู้ข่าวนี้ ลาก่อนนะพี่เตี้ย
ที่มา เตี้ย มช.
ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่หนุ่มอ้างเจอลูกแมว ก่อนจะโพสต์ลงเพื่อขอเงินค่านมแมวแต่ชาวเน็ตจับโป๊ะได้ซะก่อน
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ K... ได้เผยเรื่องราวลงบนเฟสบุ๊กของตัวเองก่อนที่เขานั้นจะนำเรื่องราวของตนโพสต์ลงตามกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ ในตอนแรกชาวเน็ตก็สงสารเห็นว่าเขาไปเจอแมวใส่ถุงเข้า หลายคนก็พร้อมช่วยเหลือทั้งเงินทั้งนมกล่องเพราะเห็นว่าเขาช่วยแมว แต่เขาบอกไม่ค่อยมีเงิน จนกระทั่งชาวเน็ตมาจับโป๊ะได้
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความว่า เจออีกแล้วเหรอไอ้ใครเอามาทิ้งวะ ไม่ยอมเจาะรูให้เขาด้วยนะ ใครมีนมบ้าง ตอนนี้ตัวผมเองก็แย่ เพื่อนๆใครอยากได้น้องก็ติดต่อมานะครับ ตอนนี้ต้องการให้ช่วยเรื่องแค่ค่านมแมวนะครับเพราะว่าตัวผมเองก็ถูกปิดร้านเงินก็น้อยลงไม่มีจะใช้แล้วด้วยครับช่วยสัตว์ก็ถือว่าได้บุญนะเพื่อนๆตอนนี้ผมก็แย่ครับ
จนเรื่องราวถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์ แต่ชาวเน็ตเริ่มสงสัยเหมือนเคยเห็นรูปแมวเหล่านี้ในอินเตอร์เน็ตเขาจึงเอารูปไปกดค้นหาดูและพบว่า รูปที่เขาหามามันเป็นรูปเก่าเขาใช้รูปลูกแมวเหล่านี้เพื่อหากินหวังหลอกให้โอนเงินค่านมแมว เขาเป็นมิจฉาชีพ ใช้รูปแมวหลอกล่อให้คนโอนเงิน
ไปก๊อปรูปมาจากเว็บของเมืองนอกมา เอาความสงสารของคนรักสัตว์มาหลอกเอาเงินเข้ากระเป๋า เงินก็หายากในช่วงวิกฤติแบบนี้ แต่คุณต้องไม่หามาด้วยวิธีหลอกลวงคนที่มีหัวใจที่เมตตา จนกระทั่งเขารู้ตัวและลบโพสต์ลงในที่สุด แต่ชาวเน็ตในกลุ่มทาสแมวต่างๆเขาไม่จบเรื่องด้วยหรอกนะ
ชาวเน็ตก็ได้เข้าไปสอบถามทำไมต้องมาพิมพ์ขอค่านมแมวด้วย แต่เขาก็ได้มาตอบกลับว่าอย่าเข้าใจผิดกันสิ ผมยังไม่ได้ส่งเลขบัญชีอะไรให้เลย ไม่เคยคิดหากินกับสัตว์เลยมันบาป แต่สิ่งที่เขาตอบกลับกับสิ่งที่เขาได้โพสต์ก่อนหน้านี้มันค่อนข้างย้อนแย้งกันมากเลยทีเดียว ชาวเน็ตอย่างเราๆถ้าจะช่วยเหลือใครก็ลองตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้นะครับ
หมดรักจึงถูกปล่อย อายุก็มากต้องวิ่งหนีหมาเจ้าถิ่นจนเท้าบวมวิ่งโหยหวนขอความเมตตาหวังให้ใครสักคนช่วย
ยามอยากได้ก็หามาเลี้ยงยามยังดีก็ยังรักวันนี้แก่ตัวกลับหมดความหมายไร้แม้จิตใจจะเมตตา ซึ่งเราก็มักจะบอกเพื่อนๆเสมอว่าถ้าหากคิดเอาสุนัขหรือแมวมาเลี้ยงสิ่งที่เพื่อนๆควรจะมีเป็นอย่างแรกก็คือความรักผิดชอบที่เพื่อนๆนั้นจะต้องดูแลพวกเขาไปตลอดชีวิต
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า มันแน่น อก จิง จิง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบตัวนี้หลังจากที่เธอนั้นพบน้องถูกนำมาปล่อยเอาไว้เพราะด้วยความที่น้องแก่มากแล้ว ซึ่งก็หากินเองก็ยังลำบากวิ่งไปทางไหนก็เจอแต่เจ้าถิ่นรุมไล่ แต่ก็ต้องอดทนทรหดวิ่งจนเท้าบวมอักเสบ
ง่ามเท้าแทบจะติดกันหมด เมื่อวานก็นอนร้องโอดครวญเสียงโหยหวนเพราะเจ็บจนลุกไปไหนไม่ได้ นอนตัวแข็งทื้อ เธอจึงเอายารักษามาใส่เท้าให้กับน้อง วันนี้มาก็ยังดีขึ้นหน่อยลุกขึ้นนั่งได้ยิ้มออกเพราะยังมีคนคอยช่วยเหลือห่วงใย ซึ่งเธอก็จะรักษาให้น้องหายดีและอยากจะให้น้องได้บ้านที่อบอุ่น
ซึ่งในตอนนี้เธอก็ทำได้เพียงแค่ป้อนข้าวป้อนน้ำและให้คุณหมอมาช่วยฉีดยาลดอาการอักเสบที่เท้า เพราะจากการที่น้องต้องวิ่งหนีสุนัขเจ้าถิ่นแบบหยุดไม่ได้จึงต้องเอาตัวรอดจนถึงที่สุด โดยเธอเองก็ได้ระบุพิกัดเอาไว้ด้วยที่ ตลาดนัดดอนจุฬา จ.เพชรบุรี
ซึ่งทั้งนี้หากน้องดีขึ้นก็จะทำการหาบ้านให้กับน้องต่อไป โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นมีพื้นที่ให้ซุกหัวนอนไม่ต้องตากแดดตากฝนวิ่งหลบสุนัขตัวอื่นแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก มันแน่น อก จิง จิง
จิตใจทำด้วยอะไร เอาก้อนหินมาโยนใส่แล้วตะโกนว่าไอ้แมวผี เจ้าของจึงตอกกลับปกป้องแมวสุดชีวิต
เพราะชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้ ทำให้หลายๆชีวิตนั้นต้องเกิดมาพบเจอแต่สิ่งที่ต้องดิ้นรนให้รอดพ้นในแต่ละวัน ซึ่งในบางคนนั้นถึงกับต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อที่จะให้ชีวิตนั้นอยู่รอด แต่ทว่าก็ไม่ได้มีเพียงมนุษย์เราเท่านั้นที่ไม่สามารถที่จะเลือกเกิดมาได้แม้แต่แมวเองก็เช่นกัน
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า จันตรา ดีงาม ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดที่รักมาโพสต์เล่าลงในกลุ่ม ชมรมแมวสายดาร์ก หลังจากที่เธอนั้นปล่อยให้เจ้าเหมียวไปนอนเล่นที่หน้าบ้านแต่กลับถูกเพื่อนบ้านเอาหินปาใส่น้องพร้อมกับไล่ว่าไอ้แมวผี
ซึ่งทั้งนี้น้องก็ไม่ได้ทำผิดอะไรน้องแค่เดินเล่นอยู่ดีๆ แต่กลับถูกเพื่อนบ้านที่มีจิตใจไม่ดีทำเอาได้ลงและด้วยเธอก็ได้เห็นเหตุการณ์เข้าพอดีจึงได้เดินเข้าไปอุ้มน้องและต่อว่าไปหนึ่งทีบอกจะตบมั้ยจะได้จบ แต่ทางเพื่อนบ้านกลับเงียบสนิทซึ่งน่าจะรู้ตัวว่าคงทำผิดแต่ก็ไม่ควรที่จะมาทำกับแมวแบบนี้
เพราะด้วยแมวก็มีชีวิตจิตใจไม่ต่างกับคนอย่างเราๆพวกเขานั้นไม่สามารถที่จะเลือกเกิดมาได้ว่าจะมีสีอะไร หรืออยากที่จะเกิดมาเป็นแมว จึงอยากให้หลายๆคนคิดถึงหัวอกเขาหัวอกเราถ้าลองเปลี่ยนหรือกลับความคิดกับเราอาจจะได้มองในหลายๆมุมมากขึ้นว่าไม่มีใครอยากที่จะเกิดมาเป็นแบบนี้หรอก
ซึ่งทั้งนี้ทางเพื่อนๆในกลุ่มเองก็เป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้าเหมียวเพราะเนื่องด้วยแมวนั้นเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถจะไปตอบโต้กับมนุษย์ได้ เกิดหากวันดีคืนดีเพื่อนบ้านคิดร้ายก็กลัวและเป็นห่วงน้องว่าจะได้รับอันตรายจึงไม่อยากจะให้ผู้โพสต์นั้นไปตอบโต้อะไรมากนัก และด้วยไม่ว่าจะสีใดๆก็ตามพวกเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรารักมากๆ เท่านั้นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก จันตรา ดีงาม