มานั่งเฝ้ารอขอข้าวอยู่หน้าบ้านทุกวัน แต่กลับไม่ยอมกินเพราะจะให้เมียกับลูกได้กินอิ่มก่อนเสมอ
หากเราจะพูดถึงกับคำว่ารักสิ่งหนึ่งทื่เราจะรู้ได้เลยว่าคนไหนรักเราหรือไม่นั่นก็คือการแสดงออกมาเช่นความเสียสละแม้แต่สัตว์ตัวเล็กๆอย่างแมวเองก็ตาม เราก็มักจะเห็นพวกเค้ายอมเสียสละให้ลูกของตนได้กินอิ่มก่อนเสมอ แม้ตัวจะหิวแค่ไหนก็เฝ้ารออยู่ได้ไม่ห่าง
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Natnarin JA ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวเจ้าเหมียวครอบครัวนี้ โดยครอบครัวของเขานั้นจะมี พ่อกุด(ตัวที่นั่งเฝ้ารอดูตัวอื่นๆกิน) แม่พวงและน้องแพรว ซึ่งเจ้าเหมียวเหล่านี้จะเป็นแมวจรมาขออาหารกินอยู่เสมอ
โดยจะมีพ่อกุดแมวหน้าอึนๆที่พูดน้อยหรือแทบจะไม่พูดอะไรเลย จะชอบมานั่งรอที่หน้าบ้านขอข้าวที่หน้าบ้านอยู่เป็นประจำ โดยหลังๆนั้นได้มีการพัฒนาพาลูกและเมียมากินข้าวด้วย และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นพ่อกุดจะให้เมียกับลูกน้อยกินก่อนเสมอและเมื่อเมียกับลูกอิ่มท้องเมื่อไหร่ก็ตาม
พ่อกุดก็จะค่อยๆกินอาหารต่อที่เหลือจากเมียและลูก และนี่คือความน่ารักของพ่อสุภาพบุรุษของพ่อกุดเขาแหละ ซึ่งถือว่าทำหน้าที่ผู้เป็นพ่อและคนรักได้ดีมากๆ เพราะต่อเมื่อให้มีอาหารท้งหมด 3 จานก็ตามพ่อกุดก็จะไม่ยอมที่จะกินแต่อย่างใด
จะเลือกที่จะนั่งรอให้เมียและลูกของตนนั้นได้กินอิ่มก่อนในทุกๆวันและเมื่อเหลืออาหารเท่าไหร่พ่อกุดก็จะกินแค่นั้นไม่เคยที่แม้แต่คิดจะร้องขอ เพราะด้วยเป็นแมวที่ไม่ค่อยส่งเสียงหรือเอะอะโวยวายอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุภาพบุรุษรายนี้ที่น่ารักมากๆเลยอยากให้น้องได้มีบ้านที่อบอุ่นขึ้นมาเลยแหละ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Natnarin JA
เป็นเด็กกำพร้าถูกเขานำมาปล่อย ต้องนอนหนาวสั่นอยู่ข้างถนน ตาก็หวิดบอดต้องอยู่ในความมืดไร้แม้แสงสว่าง
เพราะชีวิตต้องเกิดมาดิ้นรนและไม่เป็นที่ต้องการของชีวิต ทำให้หลายๆชีวิตต้องดิ้นรนต่อสู้กับสิ่งที่ตนนั้นต้องเผชิญแล้วยิ่งถ้าเกิดมาไม่เป็นที่ต้องการของใครๆทำให้ถูกเขานั้นเอามาปล่อยไว้เหมือนชีวิตนั้นไร้ค่า ต้องดิ้นรนต่อสู้กับทั้งความหนาวและความกลัว
เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แคท แคท ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยหลังจากที่เธอได้ช่วยเหลือน้องไว้ ซึ่งน้องเป็นแมวที่กำพร้า มีน้ำหนักเพียงแค่ 3.5 ขีด แถมยังป่วยเป็นหวัดและตาอักเสบรุนแรงโดยในตอนแรกเธอคิดว่าน้องน่าจะต้องตาบอดแน่ๆ
เพราะต้องอยู่ในความมืดมิดมาหลายวันเพราะผู้เป็นเจ้าของเก่านั้นเอาน้องมาปล่อยไว้ ต้องทนทุกข์ทั้งความหนาวความหิวและความเจ็บปวด น้องกลัวมากจนผู้โพสต์นั้นช่วยหนูเอาไว้และนำมารักษาและในตอนนี้ก็เกือบที่จะหายดีแล้ว น้ำหนัก ขึ้นมาแล้ว 6 ขีด
ตอนนี้น้องรอดแล้ว วันนี้จึงมาขอบคุณพี่ๆในกลุ่ม ชมรมคนรักแมวเหมียว ทุกคนที่ส่งกำลังใจมาช่วยเหลือน้อง ซึ่งทั้งนี้น้องมีชื่อว่า อบอุ่น และน้องก็ได้บ้านที่อบอุ่นจริงๆเพราะมีผู้เป็นเจ้าของอันเป็นที่รักและอยู่อย่างไม่ต้องหวาดกลัวใดๆไม่ต้องแม้จะมาทนทุกข์
กับความหนาวเหน็บที่อยู่ภายใน จึงอยากจะฝากเพื่อนๆทั้งหลายที่ได้พบเจอกับเจ้าเหมียวตัวน้อยๆ ก็อยากที่จะให้ช่วยน้องเอาไว้เพราะถ้าเราเลือกที่จะเมินเฉยไปอีกหนึ่งชีวิตนั้นต้องสิ้นใจเพราะ และก็ขอให้น้องเติบโตมาเป็นแมวที่น่ารักและมีสุขภาพที่แข็งแรงนะจ๊ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก แคท แคท
เมื่อคอนโดเขาห้ามเลี้ยงสัตว์ แต่จำต้องพาแมวไปหาหมอเธอจึงพูดกับแมวให้เชื่อฟังและนางก็ทำตามซะด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Lisa Lestari Keenan ได้เผยเรื่องราวสุดน่ารักของสาวทาสแมว ที่กำลังพยายามจะพาน้องไปหาหมอที่คลีนิค แต่ด้วยทางคอนโดเขาไม่ให้เลี้ยงสัตว์ การจะเดินไปตัวปลิวมันก็ทำไม่ได้ เธอจึงสั่งแมวของเธอว่า อย่าเพิ่งโผล่หัวออกมานะลูกถ้ายังไม่อยากโดนเนรเทศไปอยู่ที่อื่น
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ทางคอนโดที่พักเขาห้ามเลี้ยงสัตว์ นี่ก็จะพาเจ้าลูกชายตัวน้อยไปหาหมอที่คลินิค ก็จะต้องลำบากกระเตงไปแบบหลบๆซ่อนๆอย่างนี้ แบบนี้ตลอด ก่อนจะออกจากห้องก็จะต้องคุยกันก่อน ว่าห้ามโผล่หัวออกจากระเป๋านะลูกนะ ถ้ายังไม่อยากโดนเนรเทศไปอยู่ที่อื่นทั้งแม่ทั้งลูก
แต่ถ้ารู้สึกอึดอัดก็ค่อยโผล่หัวออกมาได้นิดหน่อยตอนไม่มีใครนะ เข้าใจไหม ? คิดว่าลูกคงฟังเข้าใจบ้างแหละเนาะ เพราะพอเข้าลิฟต์ปุ๊ป นางก็โผล่หัวมาแบบนี้ปั๊ปเลย ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวได้กล่าวว่า เจ้าของคอนโดบอก ส่องเจ้าของโพสแปบ ใช่ลูกบ้านฉันหรือเปล่าหน้าตาคุ้นๆนะเนี่ย ฮ่าฮ่า
บ้างก็บอกว่า แนะนำตำกร้าหวายแบบมีฝาปิดค่ะ น้องหายใจได้สะดวกแล้วยังมองพอเห็นนะคะ เป็นทรงแข็งแรง ไม่ยวบ ไม่โป๊ะคนที่คอนโด บ้างก็บอกว่าทาสแมวจะทําหน้าเลิ่กลั่กมั้ยเวลาน้องร้องเหมียวๆอยู่ในกระเป๋า ฮ่าฮ่าฮ่า หลายท่านก็เคยผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มากันบ้างแล้วทาสแมวที่เลี้ยงเขาในคอนโดคงจะเข้าใจกันดี แต่ระวังกล้องในลิฟต์ด้วยนะ
ที่มา Lisa Lestari Keenan
ลูกแมวตัวน้อยนั่งแอบอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ไร้ผู้เป็นแม่คอยดูแล กลัวทั้งรถกลัวทั้งคนหวังลึกๆจะมีบ้านสักครั้งในชีวิต
เพราะชีวิตที่ไม่มีใครต้องการท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมามากมายแต่กลับไร้แม้แต่คนจะสนใจหรือไถ่ถามว่าอยู่ดีมีสุขไหม จะเป็นอย่างไรถ้าไร้แม่และต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวลำพังในโลกภายนอกที่กว้างใหญ่และอันตราย ยิ่งเป็นสัตว์ตัวน้อยๆไร้แม้แต่เสียงที่จะไปร้องบอกใครเค้าได้
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ning Ning Pornlaphat ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ลงในกลุ่ม หาบ้านให้น้องแมว พูดคุยเรื่องแมว หลังจากพี่สาวของเธอนั้นได้พบน้องอยู่ที่หลังป้ายรถเมล์และก็ดูเหมือนกับว่าน้องจะตื่นเสียง
และสงสารน้องมากคงอดไม่ได้ที่จะเอากลับมาเพื่อที่จะช่วยเหลือก่อน พี่สาวเธอจึงกะว่าเอาน้องมาดูแลหนึ่งเดือนแล้วค่อยเอาไปแถวออฟฟิศที่ทำงาน เพราะน้องก็ยังคงเด็กมากจึงไม่อยากที่จะให้อยู่ตัวคนเดียว ซึ่งพี่สาวของเธอเองก็อยู่หอเขาก็ไม่ให้เลี้ยงสัตว์
และที่บ้านพ่อแม่เองก็เลี้ยงสุนัขอยู่แล้วถึง 4 ตัวจึงไม่สามารถที่จะรับน้องมาเลี้ยงได้ถาวร จึงอยากขอความเมตตาเพื่อที่จะหาบ้านให้กับน้อง โดยเธอนั้นได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ เดอะมอลล์บางแค กรุงเทพมหานคร และอยากขอคนที่พร้อมจะรักน้องจริงๆเท่านั้น
ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์เพียงไม่นาน เธอก็ได้มาอัพเดทเพิ่มเติมว่าน้องได้บ้านแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยทั้งนี้ก็อยากจะฝากไปถึงเพื่อนๆเอาไว้ว่าถ้าพบเจอน้องแมวหรือสุนัขที่ต้องการความช่วยเหลือก็อยากจะให้เพื่อนๆถ่ายรูปมาและลงในโซเชียลเพราะถ้าหากเราปล่อยน้องเอาไว้แบบนั้นเราไม่รู้เลยว่าพวกเขานั้นจะมีชีวิตต่อไปกันได้อีกนานเท่าไหร่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Ning Ning Pornlaphat
นอนแออัดกันในที่แคบๆ ถูกเขาแย่งอาหารต้องอดมื้อกินมื้อแต่ชีวิตเปลี่ยนเมื่อทาสแมวยื่นมือช่วยเหลือ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Thanee Yimyong ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เขานั้นได้รับน้องมาเลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้ามารุโกะตัวนี้ เคยเป็นแมวที่อาศัยอยู่ในบ้านที่แออัด สภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างย่ำแย่ แต่พอทางเจ้าของคนใหม่เข้าไปช่วยเหลือน้องมา 1 ปีผ่านน้องเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า วันนี้มารุโกะ จะมาเล่าให้ทาสทุกคนได้รับรู้ วันนี้มาอยู่กับทาสคนใหม่ได้ครบ1ปีแลัว เมื่อก่อนเราผอม มีเชื่อราเต็มตัวไปหมด เราโดนแย่งอาหาร ต้องอดมื้อกินมื้อ เราไม่เคยนอนหลับเต็มอิ่มเลย เพราะเราถูกเลี้ยงรวมกับแมวจำนวนมากในบ้านหลังแคบๆ
เราถูกแมวตัวผู้ไล่ฟัดตามตัวมีแต่แผลเต็มไปหมด จนวันนึง ทาสเจอเราขอเรากับเจ้าของคนเดิม ช่วงแรกๆเราไม่ไว้ใจใคร แต่ทาสก็ให้ความรักดูแลเราอย่างดี เราทำวัคซีน เราทำหมันแล้ว เราตรวจสุขภาพ เราได้กินอิ่มนอนหลับในบ้านที่อบอุ่น เราได้อาบน้ำแปรงขน ขอบคุณทาสคนนี้นะ รักหนูนะลูก มารุโกะ ขอบคุณทาสทุกคนที่เอ็นดูมารุโกะด้วยนะ
ด้านชาวเน็ตได้เข้ามาสอบถามว่าน้องกินอาหารอะไรทำไมถึงขนสวย ตัวอ้วนสุขภาพดีขนาดนี้ ทางเจ้าของโพสต์จึงเข้ามาตอบว่า น้องกินอาหารเปียกมื้อเช้า ส่วนอาหารเม็ดจะเป็นแม๊กซีม่าผสมกับเพียวริน่าวัน นี่อาจเป็นเคล็ดลับขนสวยตัวอ้วนก็ได้เลยน้า
และนี่คือสภาพตอนที่เข้าไปเจอมารุโกะ ภาพที่เห็นทำน้ำตาไหล สงสารจับใจเลย แมวในรูปนี้แค่บางกลุ่มที่อยุ่ในบ้านนั้น ผมกับพี่อีกหลายๆคน ช่วยน้องออกมา ทำหมันทำวัคซีน หาบ้าน ขอบคุณพี่ที่เข้ามาช่วยด้วยนะครับ และอีกหลายๆคนที่มาช่วยเด็กๆ นะครับ
ขอขอบคุณ : Thanee Yimyong
หัวอกแม่ยอมให้ลูกแมวกำพร้าดูดนม รักและดูแลเหมือนกับลูกแท้ๆ หลังแม่แมวคลอดลูกแต่ยังไม่ทันลืมตาก็มาสิ้นใจ
เพราะด้วยสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกใบนี้ล้วนเกิดมามีหัวใจด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป้นสัตว์ตัวเล็กหรือตัวใหญ่หรือมนุษย์อย่างเราก็ตามล้วนแต่มีความรู้สึกกันทั้งนั้น และด้วยสิ่งมีชีวิตที่ตัวเล็กกว่าเราอย่างเช่นสุนัขหรือแมวแล้วพวกเขาเองก็มีหัวใจที่เมตตาไม่ต่างจากเราเลย
และผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า ข่าวชาวบ้าน - Thai TV Social ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของแม่สุนัขตัวนี้ที่กำลังให้นมลูกแมวตัวน้อยจากเจ้าและเฝ้าดูแลลูกแมวน้อยเหมือนกับว่าเป็นลูกของตัวเอง โดยแฟนเพจดังกล่าวได้เล่าว่า
แม่แมวนั้นได้คลอดลูกออกมา 3 ตัวแต่ไม่ถึง 3 วันผ่านมาลูกแมวตัวน้อยก็ยังไม่ทันจะได้ลืมตา แม่แมวก็มาสิ้นใจจากไป โดยถัดมาอีกหนึ่งอาทิตย์ สุนัขก็ได้คลอดลูกใต้ถุนบ้าน 1 ตัวเลยนำลูกแมวกำพร้าทั้ง 3 ตัวนั้นมาฝากให้แม่สุนัขช่วยเลี้ยง
และได้พูดกับแม่สุนัขว่าสงสารแม่แมวเขาสิ้นใจไปแล้ว แบ่งน้ำนมให้ลูกแมวกินด้วยนะ ถ้าไม่แบ่งลูกแมวน้อยก็คงจะต้องสิ้นใจเหมือนกัน แม่สุนัขได้ยินเช่นนั้นก็เลยดูแลเจ้าเหมียวตัวน้อยโดยไม่เคยแม้แต่จะทำร้าย และปล่อยให้ลูกแมวดูดนมโดยไม่เคยห่วงแต่อย่างใด
แม่สุนัขจะไปหาอาหารตามหมู่บ้าน แล้วก็กลับมาร้องเรียกหาลูกแมวเพื่อให้ลูกแมวตัวน้อยๆมากินนมของตนเอง โดยแม่สุนัขก็จะทำอย่างนี้อยู่เป็นประจำช่างเป็นภาพที่สุดจะประทับใจเพราะแม้แต่สุนัขเองก็ยังมีหัวใจที่โอบอ้อมอารีย์แบ่งปันสิ่งที่ตนมีเพื่อให้อีกหลายๆชีวิตได้อยู่รอดแม้ตนนั้นจะไม่ได้มีมากแต่ก็ทำสุดกำลังเพราะคำว่าน้ำใจคำเดียว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวชาวบ้าน - Thai TV Social
วันพระก็ไม่เว้นถูกนำมาปล่อย นั่งตากฝนกันสองพี่น้อง โหยหาความรักความเมตตาหวังมีที่ให้หลบฝนอยู่รอดปลอดภัย
ด้วยชีวิตที่เกิดมาไม่มีใครต้องการจึงต้องรหกระเหินเร่ร่อนเพราะต้นทุนชีวิตนั้นไม่เท่ากัน ยิ่งถ้าเกิดมาเป็นสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตตัวเล็กแล้วใครกันเล่าเค้าจะมาเห็นอกเห็นใจ อีกทั้งไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่เป็นพันธุ์น่ารักๆแล้วก็ต้องทุกข์ทนอยู่ตามมีตามเกิด
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ซาย' น์. ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยสองตัวนี้หลังเธอนั้นได้ขี่รถไปเจอน้องเข้า นั่งตากฝนเนื้อตัวเปียกโซกอยู่ข้างถนน โดยน้องเป็นตัวเมียและคาดว่าน่าจะถูกนำมาปล่อยเอาไว้
ซึ่งเธอยังได้บอกอีกว่าวันนี้เป็นวันพระด้วยแต่ก็ไม่ได้กลัวบาปกรรมกันเลย และเธอก็ยังได้สอบถามมายังเพื่อนๆในกลุ่มอีกด้วยว่าที่ก้นน้องนั้นมีอะไรแดงๆไม่รู้ว่าเป็นอะไร โดยทั้งนี้เธอเองก็ได้นำน้องๆกลับมาบ้านเอาไว้ก่อนเพราะหากปล่อยเอาไว้คงจะไม่รอดแน่ๆ
และในตอนแรกเธอก็กะว่าจะแค่เอาน้องกลับมาเพื่อเลี้ยงดูแลรักษาแค่ชั่วคราวเพียงเท่านั้น แต่ทำไปทำมาเธอก็กลับแพ้ให้กับความน่ารักของเด็กๆจนในที่สุดก็เลยเลือกที่จะรับเด็กๆทั้งหมดเอาไว้ดูแลเอง เราจึงอยากที่จะขอบคุณในความมีเมตตากับน้องๆที่เธอเลือกที่จะช่วยเหลือเด็กๆและรับเลี้ยงเอาไว้เองในที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ซาย' น์.
สาวโพสต์เตือนภัยหลังเสียแมวสุดที่รัก เพราะอากาศร้อน ควรเช็คอาการเหล่านี้ก่อนที่จะเสียเขาไปตลอดกาล
หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงสุนัขหรือแมวแล้วก็จะเข้าใจดีว่าเมื่อเราเลี้ยงพวกเขาสิ่งที่เราจะได้มานั้นก็คือความรักและความผูกพัน แต่ทว่าเมื่อมีพบก็จะต้องมีจากเป็นเรื่องธรรมดาเพราะสัตว์เหล่านี้จะมีอายุที่สั้นกว่ามนุษย์อย่างเราๆ เราจึงควรที่จะต้องทำใจถ้าวันนึงเขาจากไปอย่างกะทันหัน
แต่ทว่าการจากไปในครั้งนี้ไม่ใช่การที่พวกเขาแก่ชราเพียงอย่างเดียว หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sichittra K. Suwanwong ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดที่รักหลังจากที่เจ้าเหมียวนั้นได้จากไปอย่างกะทันหันเพราะด้วยสภาพอากาศในบ้านเรา
โดยเธอได้เล่าว่าเธอนั้นเพิ่งจะเสียแมวสุดที่รักไปจากอาการฮีทสโตรกจนส่งผลให้เกิดสภาวะโลหิตจางอย่างเฉียบพลัน บวกกับความชราจึงเป็นสาเหตุหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 วันน้องยังมีอาการเป็นปกติดี แต่ทว่าก็มีสัญญาณเล็กๆบางอย่างที่เธอเองก็เพิ่งจะทราบมาจากคุณหมอ
ว่านั่นเป็นอาการเตือนเกี่ยวกับโรคดังกล่าว ซึ่งมองผ่านๆอาจจะดูว่าปกติดีแต่ร้ายแรงกว่าที่คิดเอาไว้มาก ซึ่งในช่วงสัปดาห์นี้ประเทศเรานั้นมีอากาศที่ร้อนจัดมากกว่าปกติ จึงอยากจะเตือนให้เฝ้าระวังอาการดังต่อไปนี้ หากว่าพบว่าน้องแมวของเพื่อนๆมีอาการก็ควรจะรีบพาไปพบแพทย์ด้วยด่วน
โดยอาการที่เธอได้กล่าวไว้ข้างต้นคือ 1.น้องชอบคาบลิ้นบ่อยๆครั้งละนานๆไม่หอบอาการเหมือนเลียตัวแล้วลืมเก็บลิ้นทั่วๆไปและถ้าหากมีอาการหอบร่วมด้วยถือว่าอันตรายมาก 2.นอนมากขึ้นทั้งวัน 3.กินน้อยลงจนถึงกับไม่กินเลยในที่สุด 4.เกรี้ยวกราดกว่าที่เคยหงุดหงิดแบบไม่มีสาเหตุ ซึ่งน้องแมวของเธอนั้นมีอาการมาราวๆ 4 วันก่อน ล่าสุดเมื่อวานที่เป็นหนักจนปากและเหงือกซีด จนต้องไปหาหมอและกลับมาเสียที่บ้านของเธอเอง ซึ่งหากแมวของเพื่อนๆมีอาการดังกล่าวก็อย่าลืมรีบพาไปหาหมอโดยเร็วที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sichittra K. Suwanwong
แอบอาศัยในโขดหิน เดินเลาะชายหาดตามหาแม่ ส่งเสียงร้องขอความเมตตาด้วยใจหวังอยากจะมีบ้านสักครั้งในชีวิต
เพราะชีวิตนั้นเลือกเกิดไม่ได้จึงต้องดิ้นรนสู้ชีวิตเพราะเกิดมาไร้บ้านไร้ที่จะหลับนอน แม่ก็มาคลอดเอาไว้ในโขดหิน และออกไปหากินจึงปล่อยให้อยู่กันเพียงลำพัง อีกทั้งยังคงเล็กไม่รู้เรื่องรู้ราวก็เดินเร่ออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้คนที่เดินผ่านไปมา
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Areena Salaeree ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยสองตัวนี้หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องเข้าโดยบังเอิญ ซึ่งในตอนนั้นเธอกำลังไปออกกำลังกาย ณ ริมหาด จึงได้พบกับน้องเข้าเพราะน้องออกมาจากโขดหินที่บังคลื่น
ซึ่งเธอก็พยายามที่จะตามหาผู้เป็นแม่ของเด็กๆแต่ก็ไร้วี่แว่ว โดยจากที่เธอนั้นจะไปออกกำลังกายกลับต้องรีบเอาลูกแมวกลับบ้านก่อน เพราะถ้าปล่อยเอาไว้ต่อน้องๆคงไม่รอดแน่ และหลังจากที่เธอนำน้องกลับมาบ้านแล้วเธอก็ได้ทำการป้อนนมแพะให้กับน้อง
และคงจะต้องพาเจ้าเหมียวตัวน้อยๆไปหาคุณหมอเพื่อที่จะตรวจร่างกายในวันต่อไป ซึ่งทางตัวเธอเองนั้นได้รับเลี้ยงน้องเอาไว้เองเพราะด้วยความน่ารักของเด็กๆ ซึ่งถ้าใครเจอแบบนี้จริงๆก็คงจะอดใจไม่ไหวที่จะไม่เอากลับบ้านหรอกจริงไหมก็ดูสีหน้าของเจ้าเหมียวตัวน้อยดูสิ
ทำไมหนูน่ารักอะไรขนาดนั้นลูกเอ่ยเป็นบุญของหนูแล้วที่พี่เขามาเจอและช่วยเอาไว้พอดี เพราะถึงแม้เนื้อตัวจะมอมแมมแต่ก็ยังคงน่ารักเอามากๆ ถ้าสะอาดสะอ้านจะน่ารักขนาดไหนเนี่ย ซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากพบเจอเจ้าเหมียวตัวน้อยๆแบบนี้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือแล้วละก็อยากให้เพื่อนๆรีบเอากลับบ้านให้เร็วที่สุดเพราะอาจจะมีคนแย่งไป ด้วยความน่ารักที่อดใจไม่ไหวยังไงละ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Areena Salaeree และชมคลิป
https://www.facebook.com/showclip3/videos/662401301209131
สาวตระเวนให้ข้าวหมาจร แต่ดันไปสะดุดตากับหมาลูกครึ่งเกิดหลงรักพากลับบ้านไปอยู่ด้วยกัน
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kanokpon Onjunprasert ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้ขี่รถพ่วงข้างคอยตระเวนให้อาหารหมาจรตามข้างถนน ในวันนั้นเองเธอก็ได้พบเจอกับลูกหมาจรตัวหนึ่ง น้องเป็นลูกหมาจรที่มีแม่หมาคอยดูแล แต่สาวใจดีก็รู้สึกแปลกใจเพราะหน้าตาของน้องไม่เหมือนกับหมาจรทั่วๆไปเลย
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า วันนี้ไล่จับหมาป่าได้หนึ่งตัวค่ะ แม่หมากลัวคนไม่ให้จับตัวเลย บ้านน้องอยู่ในป่าในโพรงดิน
น้องตัวที่จับมาเพศผู้ อายุประมาณ 1 เดือน น้องมีพี่น้องหลายตัวกลัวคน ไม่ให้จับตัวเช่นกัน เราไม่ได้หาบ้าน แต่เราขอเพิ่มสมาชิกเพิ่มอีก 1 ตัว
และเธอยังอัพเดทเพิ่มเติมอีกว่า น้องหมาโพรงที่จับมาเมื่อวาน แม่ของน้องเป็นหมาจรขนเกรียนตัวสีดำ ส่วนพ่อน้องเป็นหมาจรเช่นกันสีขาวขนยาวน่าจะพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ทั้งคอกมีน้องสีแปลกอยู่ตัวเดียว น้องหมาตัวนี้ได้เชื้อพ่อไปเต็มๆจึงเหมือนลูกครึ่งไซบีเรียน ส่วนพี่น้องจะพยายามช่วยหาบ้านให้พวกเขาต่อไป เราขอตั้งชื่อให้น้องว่า รถถัง นะคะ
ส่วนรูปด้านบนเป็นรูปของแม่หมาจร แม่หมามีอายุมากแล้วฟันหน้าก็เริ่มหดหาย ถึงตอนแรกแม่หมาจะกลัวคนไม่ให้จับตัว แต่พอแม่หมารู้ว่าลูกของตนกำลังจะได้มีบ้านเป็นครั้งแรกแม่หมาก็ส่งยิ้มหวานออกมา เราได้แต่หวังว่าลูกๆของเธอจะได้บ้านครบทุกตัวนะ
ขอขอบคุณ : Kanokpon Onjunprasert