หน้าแรก บล็อก หน้า 511

เมื่อลูกสาวของฉันกลายเป็นแมวหนุ่มภายใน6เดือน

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : พันธมนัส เด็บบี้ โมเรโร่‎ ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวของเธอถูกรับมาเลี้ยงตั้งแต่ยังตัวน้อยๆ เพราะคิดว่าเป็นแมวตัวเมียมาโดยตลอด แต่พอเลี้ยงได้ประมาณ 6 เดือนน้องกลับกลายเป็นแมวตัวผู้ซะอย่างงั้น . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ดีใจมากเลยค่ะ “ ลูกสาวโตเป็นหนุ่มแล้ว “ เลี้ยงน้องมาได้ 5-6 เดือนแล้วค่ะ เลี้ยงมาเป็นผู้หญิงมาโดยตลอด แต่วันนี้อยู่ดีๆ ก็สังเกตเห็นน้องมีสิ่งแปลกๆโผล่ขึ้นออกมา และจากการสอบถามเพื่อนๆในกลุ่ม ก็คือ เราได้ลูกชาย ค่ะ ตอนนี้ยังงงๆอยู่ อยู่ในระยะปรับตัว ตอนนี้คืองงปนตลกมากๆเลย ไม่เคยรู้ไม่เคยเอะใจเลยเพราะไม่เห็นไข่ของน้องมาก่อนเลย ฮืออออ ล่าสุดพอพ่อรู้ว่าเป็นผู้ชาย พ่อก็พาดูผู้หญิงเลยค่ะ ก็ว่าอยู่ทำไมชอบดูบอล ฮ่าฮ่าฮ่า จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตในกลุ่มต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าน้องเป็นหนุ่มหน้าหวาน และอย่าได้น้อยใจไปเลยนะว่าของเรามีแค่อันนิดเดียว ถึงขนาดผู้เป็นเจ้าของยังแยกไม่ออกเลยว่าน้องเป็นเพศอะไรกันแน่เพราะคิดว่าเป็นตัวเมียมาโดยตลอด อย่าน้องใจไปเลยนะลูกยังมีแมวอีกมากมายที่มีขนาดเล็กเหมือนกับหนูนี่แหละ ฮ่าาา   ที่มา พันธมนัส เด็บบี้ โมเรโร่‎

วินาทีชีวิต ดับเพลิงรีบเข้าช่วยหลังพบสุนัขโดนมัดขาโยนลงน้ำ ก่อนลอยคอติดบ้านคนเกือบไม่รอด

เพราะด้วยชีวิตที่ต้องเกิดมาเป็นสัตว์จรก็ว่าแย่แล้วยิ่งถ้าเกิดมาพบเจอกับมนุษย์ที่จิตใจไม่ดีที่ไม่ชอบยิ่งแย่กว่า ไหนว่าจะหวังเอาชีวิตคิดให้สิ้นใจก็ยิ่งซ้ำแค่ข้าวปลาในแต่ละวันจะหากินก็ยากที่จะไร้ตกถึงท้อง ไฉนต้องทำกันได้ลงขนาดนี้ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า พิศัลย์ ธนะวัย ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้หลังจากที่เขานั้นได้พบน้องถูกมัดขาด้วยเชือกฟางและโยนลงน้ำกะให้สิ้นใจแต่ทว่าก็ยังโชคดีที่น้ำนั้นตื้นเลยทำให้น้องรอดมาได้ น้องจึงลอยน้ำมาติดที่หลังบ้านของผู้ชายรายดังกล่าว เขาจึงได้ประสานงานให้ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย นครแหลมฉบัง อีกครั้งในรอบที่ 3 ของปีนี้แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์แต่เคสนี้ต่างกันตรงที่สุนัขนั้นไม่ได้ตกลงมาเอง แต่กลับถูกคนนี้คิดไม่ดีมัดขาด้วยเชือกฝางแล้วโยนลงน้ำ กะเอาให้สิ้นใจโดยน้องนั้นไหลมาไกลมากจนมาติดที่คลองหลังบ้านของผู้โพสต์รายดังกล่าว เลยประสานงานให้หน่วยงานเข้าช่วยเหลือพร้อมกับอุปกรณ์ที่เหมาะสม ซึ่งทั้งนี้เมื่อหน่วยงานมาถึงก็เร่งเข้าช่วยเหลือจนทำให้น้องขึ้นมาจากน้ำได้อย่างปลอดภัย โดยจากรายงานก็ไม่ได้ระบุว่าหลังจากนั้นน้องเป็นอย่างไรหรือมีใครรับไปเลี้ยง แต่อย่างไรก็ตามน้องได้ปลอดภัยแล้วซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก พิศัลย์ ธนะวัย

หมาจรวิ่งหน้าตาตื่นมุดรั้วเข้ามาในบ้าน ไม่เกรงกลัวหมาบ้าน5ตัวที่กำลังจ้องอยู่เพราะนางกำลังขอความช่วยเหลือ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Panaya Herb ได้เผยเรื่องราวของหมาจรตัวหนึ่ง น้องเป็นหมาจรวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามานอนแอบนอนหมอบอยู่ภายในบ้าน โดยน้องนั้นได้มุดรั้วเข้ามาขอความช่วยเหลือ แต่สิ่งที่เจ้าของโพสต์กลัวก็คือ หมาจรวิ่งเข้ามาในบ้านโดยมีหมาประจำบ้านกำลังจ้องมองอยู่อีกถึง 5 ตัว . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มีเรื่องมาเล่าค่ะ พอดีนางหนีใครมาไม่รู้ เนื้อตัวมีแต่แผล ตามตัวเปื้อนโคลนวิ่งมุดรั้วเข้ามาแอบในบ้าน ตกใจกันทั้งบ้านเพราะกลัวว่าหมาในบ้านอีก5ตัว ที่กำลังยืนจ้องมองจะฟัด แต่หมาในบ้านกลับไม่ทำไรนางเลย นางเข้ามาถึงก็นอนหมอบด้วยท่าทีอ่อนโยน และหิวโซ เลยถามนางว่า...ถามจริงๆเถอะมีใครชี้บอกทางหรือปล่าวว่าให้เข้ามาบ้านหลังนี้ (ช่างมาถูกบ้านแท้ๆเลยนะ) พอถามนางว่าอยากอยู่ด้วยหรอ นางมองหน้าแววตาบาดหัวใจจริงๆ เลยต้อง WELL COME กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดน่ารักของหมาจรที่กำลังหนีอะไรบางอย่าง เข้ามานอนหมอบนอนแอบอยู่ในบ้านโดยที่หมาในบ้านอีก 5 ตัวกลับไม่ทำอะไรน้องเลย น้องหมาทั้ง 5 คงจะรู้ดีว่าหมาตัวนี้กำลังหนีมาต้องการความช่วยเหลือ และด้วยจิตใจที่อ่อนโยนและการถูกเลี้ยงมาอย่างดีทำให้หมาจรที่เข้ามาแอบนั้นปลอดภัย แถมยังได้กำลังใจจากพี่หมาตัวอื่นๆด้วยนะ ที่มา Panaya Herb

เหมียวจอมขยันทำงานสู้โควิท หลังร้านอาหารเปิดให้บริการก็มีแต่แมวนี่แหละคอยนอนเรียกลูกค้าเข้าร้าน

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Llamkate Adam ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวของทางร้านอาหารตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวเฝ้าร้าน แต่ด้วยสถานการณ์โควิทในประเทศไทยก่อนหา้านี้เริ่มก่อตัวทำให้ร้านอาหารต้องปิดร้านลง แต่พอร้านเปิดพนักงานแมวกลับไม่ยอมทำงานเอาแต่นอนเพราะชินกับร้านที่ปิดเพราะโควิทก่อนหน้านี้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า หลังสถานการณ์โควิทที่เกิดขึ้น ทางร้านก็เพิ่งเปิดทำการ แต่แมวที่ร้านกลับไม่ยอมทำงาน น้องเคยชินกับการนอนพักช่วงโควิทมากจนเกินไป ไม่ยอมทำมาหากิน ไม่รู้จะจ้างมาทำไมดีคะ โตแล้วจะนอนตรงไหนก็ได้แต่เอ็งจะนอนกลางร้านอาหารไม่ได้นะ ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวต่างกล่าวว่า นี่ไง คำอธิบาย คำว่า " นอนให้พัดลมโกรกเย็นๆดีกว่า ไม่ต้องมีสามีก็ได้ บ้างก็บอกว่า ขอความกรุณาเข้าใจด้วยว่าแมวต้องใช้เวลานอนเยอะ ตามงานที่ทำ บ้างก็บอกว่าน้องอาจจะกำลังนอนเรียกแขกอยู่ก็เป็นได้น้องไม่ได้อู้งานนะคะอย่าเข้าใจผิด ฮ่าฮ่าฮ่า   ที่มา Llamkate Adam

อ้างพี่เตี้ยกระโดดลงรถเองจนล้อหลังทับ พร้อมโยนทิ้งโกยใบไม้ปกปิดขอโทษต่อสังคมขอให้จบเพียงเท่านี้

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ หลัง มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้ติดตามรับหน้าที่ในการประสานงานและเป็นผู้เสียหายในคดีของพี่เตี้ยมช. ทางแฟนเพจได้เผยและอัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับผู้กระทำความผิดที่พาพี่เตี้ยออกนอกมหาลัย และล่าสุดเองคนที่พาพี่เตี้ยออกไปก็ยอมรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . โดยทางแฟนเพจได้โพสต์ในเพจระบุว่า หลังกล้องวงจรปิดได้เผยภาพที่ชัดเจน สืบซักตัวพบต้องสงสัยที่นำพี่เตี้ย ออกจากมหาลัย เมื่อเวลา 20.34 ของคืนวันที่ 3 พฤษภาคม 2563อ้างว่า สงสาร ที่เตี้ยไม่ได้ออกไปไหนมาไหนเลย จึงคิดจะพาไปเที่ยวข้างนอก WDT แจ้ง ต่อให้ไม่สามารถพิสูจน์เจตนาได้ ก็ต้องเจอข้อหาลักทรัพย์ เป็นอันดับแรก เพราะหลังจากที่พี่เตี้ยหายไปนั้น ผู้ต้องสงสัยทราบดีว่า แอดมิน และประชาชนทั่วประเทศประกาศตามหาตัวพี่เตี้ยพร้อมรางวัลตลอดเวลา และในสื่อต่างๆที่ช่วยกันตามหา จนในที่สุด…เพราะจำนนต่อหลักฐาน จากฝีมือการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ช้างเผือก ผู้ต้องสงสัยจึงติดต่อเข้ามารับสารภาพว่าเป็นผู้นำพี่เตี้ยออกไปจริง เพราะกังวลว่าจะมีผลกระทบกับหน้าที่ราชการ วอน! ขอความเห็นใจขอให้เรื่องจบลงแค่นี้ พร้อมขอโทษประชาชน ผู้ต้องสงสัยยืนยันชัด ! ไม่เคยเจตนาทำร้ายพี่ อ้างพี่เตี้ยกระโดดลงจากรถขณะขับขี่ ทำให้ล้อหลังทับพี่เตี้ยจนสิ้นลมคาที่ จึงนำไปโยนทิ้งพร้อมโกยใบไม้กลบเพื่อหลบหนีความผิดและการติดตามจากสังคม และความยุติธรรมที่จะเกิดขึ้นนี้เหล่าคนรักหมาต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า คำให้การของผู้ที่กระทำค่อนข้างมีพิรุธหลายจุด 1.เลยพี่เตี้ยคุ้นชินกับการขึ้นรถมอเตอร์ไซค์พี่เตี้ยคงไม่กระโดดลงจากรถเอง 2.ผู้กระทำเลี้ยวรถเข้าไปในซอยเปลี่ยวถามว่าเข้าไปทำไม?ข้างในซอยนั้นมีอะไรเหรอ 3.ผู้กระทำไม่ได้คิดสำนึกแต่อย่างใดเขามอบตัวเพียงแค่กลัวผลกระทบในเรื่องงานอย่างงั้นเหรอ 4.พี่เตี้ยกระโดดออกนอกรถมอเตอร์ไซค์แล้วล้อหลังทับ ฟังแล้วดูแปลกๆล้อหลังจะทับได้อย่างไรละจริงมั้ย? ที่มา : Amarin News , มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์

จากปากผู้เป็นแม่หลังมนุษย์ลูกออกไปซื้อขนมที่เซเว่นในช่วงเวลาก่อนเคอร์ฟิว แต่ขากลับกับได้แมวกลับมาแทน

ในขณะที่ช่วงนี้ไวรัสโควิท-19 ได้ระบาดหนักในประเทศทำให้ส่งผลกระทบถึงสิ่งต่างๆมากมายที่ได้เกิดขึ้นมาในหลายเดือนนี้ แต่สิ่งที่กระทบมากที่สุดก็น่าจะเป็นสัตว์ตัวน้อยๆหรือสุนัขหรือแมวจรที่ต้องทนอยู่ในช่วงที่ไร้ผู้คนไร้แม้แหล่งอาหารหรือจะไปขอความช่วยเหลือจากใครเขาได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kattreya Somboon หลังจากที่ลูกของเธอนั้นได้ไปซื้อขนมที่เซเว่น ในช่วงก่อนที่จะถึงเวลาเคอร์ฟิว ซึ่งลูกของเธอก็ได้ยินเสียงเจ้ามิ้วน้อยร้องและลองหาดูก็ได้พบว่าน้องติดอยู่ในรถที่จอดอยู่ข้างทาง ลูกของเธอจึงเข้าไปช่วยเหลือ และได้นำน้องออกไปจากเครื่องยนต์รถ ซึ่งลูกของเธอก็ได้ถามชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวว่าเคยพบเห็นน้องมาก่อนไหมหรือว่าเป็นแมวของใคร แต่ป้าก็กลับบอกว่าไม่รู้ว่าแมวใครเอามาโยนไว้แถวนั้นแหละ ลูกของเธอจึงได้อุ้มน้องกลับมายังบ้านเลยจ้า และได้ตั้งชื่อให้กับน้องว่า น้องเคอร์ฟิว ละกัน ซึ่งเธอก็ได้นำเรื่องราวสุดน่ารักนี้มา่โพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว และก็ต่างมีผู้เข้ามาชื่นชมในความช่วยเหลือที่เธอได้ช่วยเหลือน้องเอาไว้เป็นอย่างมาก แถมเมื่อไปซื้อขนมที่เซเว่น แต่ยังได้แมวกลับมาด้วยอีกต่างหาก โดยทั้งนี้ก็อยากที่จะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่า หากพบเจอสัตว์ต้วเล็กๆต้องการความช่วยเหลือก็อยากที่จะให้ยื่นมือเข้าไปช่วยเพราะถ้าเราเลือกที่จะเมินพวกเขาไปในวันนั้น เราก็ไม่รู้ได้เลยว่าพวกเขานั้นจะมีชีวิตอยู่ต่อกันไปได้อีกนานเท่าไหร่ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kattreya Somboon

ถูกทิ้งซ้ำซ้อนร้องจนเสียงแหบเสียงแห้ง ได้แต่แอบอยู่ใต้ท้องรถทั้งร้อนทั้งว้าเหว่เพราะใครๆเขาก็ไม่ต้องการ

เพราะชีวิตนั้นเลือกเกิดไม่ได้ ทำให้หลายๆคนนั้นต้องเกิดมาดิ้นรนต่อความยากลำบากที่ต้องเจอในชีวิต และก็ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์อย่างเราๆเพียงเท่านั้น แม้แต่สัตว์ตัวน้อยๆอย่างเจ้าเหมียวเองก็ไม่ต่างกัน ยิ่งแล้วเกิดมาไร้บ้านหรือไม่เป็นที่ต้องการของใครๆเขา เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pinta SP ที่ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ ลงในกลุ่มคนอวดแมว หลังจากที่ได้พบน้องถูกเอามาปล่อยที่หน้าโรงเรียน และร้านโจ๊กที่หน้าโรงเรียนก็รับไปเลี้ยงภายในวันเดียวกันนั้น แต่ก็กลับเอามาปล่อยไว้ที่เดิม คุณครูที่โรงเรียนเห็นเข้าจึงได้จับน้องขังเอาไว้กะว่าจะเอาไปให้หลวงตาช่วยเหลือ แต่ก็มีคนเอาไปอาบน้ำให้ข้าวกินร้านโจ็กมาดูรอบ 2 เอาไปเลี้ยงแต่ก็เอาไปปล่อยที่เดิมอีก หนูร้องจนเสียงแหบเสียงแห้งอยู่ใต้ท้องรถคุณลุงคนนี้ ทั้งร้อนและหวาดกลัว จนกระทั่งคุณลุงออกรถไปตลาด 30 กิโลเมตร หนูทั้งเหนื่อยและกลัวจนตัวสั่น เพราะ 5 วัน 5 คืนกับการที่ถูกคนโน้นคนนี้เขาจับไปและเอามาปล่อยเอาไว้ที่เดิมจนติดอยู่ที่ใต้ท้องรถไปหลายสิบกิโลเมตร ช่างเป็นอะไรที่อาภัพเสียเหลือเกินสำหรับชีวิตหนู ซึ่งทั้งนี้ทางผู้โพสต์จึงได้รับน้องมาเลี้ยงเอาไว้โดยตั้งชื่อให้น้องว่า มีสุข เพราะตั้งแต่นี้ไปน้องจะมีแต่ความสุขและไม่ต้องพบเจอกับชะตากรรมที่โหดร้ายแบบที่ผ่านมาอีกต่อไป โดยทั้งนี้ก็อยากที่จะขอบคุณทางผู้โพสต์ที่รับน้องไปดูแลให้ความรักความอบอุ่นและขอให้น้องเติบโตขึ้นมาเป็นแมวที่น่ารักและมีความสุขเหมือนกับชื่อของหนูนะลูกนะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pinta SP

เผยคลิปสุดท้ายของพี่เตี้ย ถูกหนุ่มปริศนาเรียกให้ขึ้นรถก่อนขับหายไปไม่มีวันได้กลับมาอีก

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 แฟนเพจเฟสบุ๊ก เตี้ย มช. ได้เผยการอัพเดทล่าสุดข่าวของพี่เตี้ยมช. หมาเซเลปของมหาลัยเชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้พี่เตี้ยถูกพบในร่างที่ไร้ลมหายใจ แต่วันนี้ทางแฟนเพจได้เผยคลิปสุดท้ายที่พบเจอพี่เตี้ย พี่เตี้ยถูกหนุ่มคนหนึ่งเรียกให้ขึ้นรถก่อนจะขับออกไป และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้พี่เตี้ยต้องจากไปหรือไม่ ? . โดยทางแฟนเพจได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า เหตุการณ์ของคืนวันที่ 3 พ.ค.63 - พี่เตี้ยนั่งเล่นกับน้องผู้หญิง 2 คนจนถึงประมาณ 20.30 น. - หลังจากน้อง ๆ กลับไป พี่ก็มานอนแถวที่จอดรถ - มีรถมอเตอร์ไซด์คันนึง เข้ามาจอด และเรียกพี่ขึ้นรถ (พี่ขึ้นรถ ไม่ใช่แค่กับคนที่รู้จัก และยิ่งในวันที่ปรับพฤติกรรม เค้าไม่ได้ขึ้นรถเลย ทำให้ไม่แปลกที่พอใครชวนก็รีบไป) - ถ้าถามว่าทำไมต้องโพสคลิป ทุกคนที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ในวันนั้น แสดงตัวกันหมดแล้ว ทั้งน้องที่ถ่ายคลิปช่วงประมาณ 1 ทุ่มกว่า ๆ และน้องที่นั่งเล่นกับพี่เตี้ยที่อ่างแก้ว - ใครพอรู้จัก หรือคุ้นๆกับ คนในคลิป ติดต่อมาด้วยนะครับ นี่คือเบาะแสสุดท้ายที่เรามีในมหาลัย - หากไม่ใช่คุณ แจ้งมาได้ครับ เราจะได้ติดตามต่อจากนี้ (คนในคลิปไม่มีการแสดงตัวมาก่อนนะครับ) *สำหรับใครที่ให้ดูกล้องในมอ ตามที่ตำรวจแจ้งในเพจไปนะครับ ว่ามีการติดตั้งระบบใหม่ในหลายจุด และพวกเราหลงวัน ทำให้ติดตามแค่กล้องวันที่ 4 มาได้ก่อน ซึ่งเราจะติดตามกล้องด้านนอกมอต่อไป และอัพเดทล่าสุดจากทางแฟนเพจตอนนี้พบตัวหนุ่มคนที่พาพี่เตี้ยออกนอกมหาลัยแล้วนะครับ...

นอนตัวแข็งทื่อ ลองเอาหูแนบดูคิดว่าสิ้นใจจนเตรียมฝัง พอเอามือลูบดูกลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง

เพราะชีวิตนั้นเลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้หลายๆชีวิตนั้นต้องเกิดมาดิ้นรนกับชะตากรรมที่ต้องพบเจอ ซึ่งในบางรายเช่นสัตว์ตัวน้อยๆก็ต้องเกิดมาไร้บ้านอันอบอุ่นยิ่งถ้าเป็นในต่างประเทศแล้วโอกาสที่จะรอดนั้นยากมาก ด้วยสภาพอาการที่หนาวถึง 5 องศา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Namfon Classic ได้โพสตบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้หลังจากที่เธอนั้นได้ไปพบน้องเข้าเมื่อ 3 วันก่อนซึ่งน้องได้นอนตัวแข็งกลางอากาศหนาวเย็นถึง 5 องศา ในประเทศเกาหลีใต้ เธอจึงได้เอาหูแนบฟังเสียงชีพจรของน้องๆก็ไม่มีวี่แวว เธอจึงได้คิดว่าน้องคงจะสิ้นลมไปแล้วแน่ๆ นอนแน่นิ่งตัวแข็งเย็นเจี๊ยบอ้าปากค้างแบบนี้ เธอจึงเอานิดปากน้องและเตรียมที่จะเอาไปฝังดิน ด้วยความสงสารนั้นเองเธอก็ค่อยๆลูบๆน้องส่วนแฟนของเธอก็พยายามที่ขุดหลุมดินเพื่อทีจะเตรียมฝัง พร้อมกับบ่นว่าน่าสงสารมากๆเลยลูกเอ่ยน่าจะเจอกันเร็วกว่านี้ โดยเธอสังเกตุเหมือนขาของน้องดิ้นแฟนเราก็ว่ามือเรานั้นสั่นไปเอง เธอจึงได้รีบวิ่งเข้ามาในห้อง และรีบวิ่งเข้าไปเปิดฮีตเตอร์เพื่อให้พื้นอุ่นขึ้น และสักพักเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ก็เกิดขึ้นเมื่อเด็กๆเริ่มทีจะหายใจ เธอดีใจมากๆที่น้องได้กลับมาหายใจปกติอีกครั้ง และก็ได้พยายามดูแลน้องอย่างใกล้ชิด โดยเรื่องราวดังกล่าวนั้นได้เกิดในขึ้นประเทศเกาหลีใต้และเธอจึงได้นำเรื่องราวมากบอกเล่าลงในกลุ่ม ทาสแมว Offcial เพื่อที่จะเตือนเพื่อนๆว่าถ้าเจอลุกแมวตัวน้อยๆต้องการความช่วยเหลือก็อยากที่จะให้ยื่นมือเข้าไปช่วยเพราะหนึ่งชีวิตนั้นมีค่ามากมายกว่าที่เราคิด และในประเทศเราเป็นเขตที่ร้อนและก็ยังโชคดีมิเช่นนั้นลูกแมวจรที่ได้เกิดมาอาจจะต้องพบเจอกับปัญหาแบบเจ้าเหมียวตัวนี้ก็เป็นได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Namfon Classic

ลูกแมวกำพร้าแม่เดินเร่ร่อนอยู่กลางถนน รถคล่อมไปคล่อมมาหวิดทับหนุ่มที่พบเจอรีบหยุดรถเข้าช่วย

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : เอ ซิวะ‎ ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นกำลังขับรถออกไปทำงานและได้พบเจอสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆที่กำลังดื้นไปดิ้นมาอยู่กลางถนน น้องเป็นแมวตัวน้อยไร้แม่ต้องร่อนเร่พเนจร ประสบการณ์ชีวิตก็ยังน้อยเกือบจะถูกรถเขาชนเอา แต่ก็ยังโชคดีที่เจอทาสแมวในระหว่างออกไปทำงาน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มาได้ไง อีเหมียวเกือบไปแล้ว กำลังเข้าออฟฟิตเจอน้องข้างอยู่ถนน รีบจอดรถวิ่งไปเก็บ มีรถตามหลังมาเสียวโดนทับมาก พอถามคนแถวนั้นก็บอกไม่มีแม่แมวแถวนี้อยู่เลย เขาจึงได้สอบถามเหล่าทาสแมวว่า  ถ้าเป็นแมวเด็กต้องป้อนแต่นมแพะใช่มั้ย เพราะตัวยังน้อยยังไม่ทันหย่านมเลย และเขายังกล่าวอีกว่าตอนจอดรถไปเก็บน้อง ใจคอไม่ดีเลยกลัวว่าน้องจะโดนทับเพราะรถแถวนั้นเยอะผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่เจอหนุ่มทาสแมวเข้าก็ไม่รู้ได้เลยว่าตอนนี้น้องจะเป็นยังไง น้องอาจจะต้องสิ้นใจในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็เป็นได้ หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปชาวเน็ตในกลุ่มทาสแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมกล่าวว่าขอขอบคุณจริงๆที่ช่วยชีวิตน้องไว้ บ้างก็บอกว่าน้องสีสวยมากถ้าเลี้ยงให้ดีน้องจะกลายเป็นแมวที่น่ารักได้อย่างแน่นอน บ้างก็บอกว่าอยากเจอแบบนี้จังถ้าเจอเข้าสัญญาว่าจะรับเลี้ยงและชุบเลี้ยงให้เติบใหญ่อย่างดี   ที่มา เอ ซิวะ‎