หนุ่มพบแมวของตัวเองกำลังหนีเที่ยวจึงไล่เข้าบ้าน พอกลับถึงบ้านถึงกับต้องร้องเพราะแมวของตนเดินลงมาจากข้างบน
เพราะทุกๆครั้งที่เรามักจะย้ำเตือนกับเพื่อนๆเสมอในเรื่องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในระบบที่ปิดนั้น เพราะด้วยส่วนใหญ่แล้วปัญหาที่เกิดจากอันตรายภายนอกนั้นเป็นปัดใจหลักที่ทำให้สัตว์เลี้ยงแสนรักของเรานั้นได้รับอันตราย ซึ่งก็มีความจำเป็นมากๆที่เราเลือกให้เลี้ยงพวกเขาในระบบปิด
แต่ทว่าการเลี้ยงในระบบปิดนั้นก็อาจจะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นทำให้แมวของเรานั้นชอบหนีออกมาเที่ยวได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sundew Taksin ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวแสนรักของตนนั้นมาโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เมื่อเวลาตีหนึ่งที่ผ่านมาเขานั้นได้พบเจ้าเหมียวตัวนี้อยู่ที่หน้าบ้าน
ด้วยความที่เขานั้นเอาขยะไปทิ้งและเจอน้องซึ่งในทันใดนั้นเขาก็ได้ไล่ให้น้องเข้าบ้านเพราะเขานั้นคิดว่าเป็นแมวของตัวเองที่ชอบหนีออกมาเดินเล่นที่หน้าบ้านอยู่บ่อยๆ และพอไล่น้องเสร็จน้องก็เดินเข้ามาในบ้านของเขาและก้มหน้าก้มตากินอาหารในถ้วยจนหมด
และนอนตากพัดลมอย่างสบายใจเฉิบ ซึ่งเขานั้นก็ไม่ได้สังเกตอะไรมากนักเพราะน้องนั้นมีสีเดียวกับแมวของเขาเลย โดยเมื่อเขาได้นั่งเล่นเกมส์ไปสักพักก็พบว่าแมวของตนนั้นเดินลงมาจากบนบ้าน ซึ่งเมื่อเขาได้หันไปดูก็ถึงกับต้องร้องออกมาว่า อ้าวนี่แมวตรู แล้วมุงเป็นแมวใคร
สรุปว่าแมวใครไม่รู้หลงมาแถมยังมากินอาหารจนหมดจานแบบหน้าตาเฉย เท่านั้นยังไม่พอน้องยังมานั่งเฝ้านอนเฝ้าแมวตัวเมียของเขาเพราะเจ้าเหมียวของใครไม่รู้ตัวนี้เป็นแมวตัวผู้ ซึ่งก็ตีเนียนเหมือนกับเป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ว่าถ้าเจอแมวตัวอื่นอยู่ข้างนอกบ้านก็ควรที่จะเช็คดูให้ดีมิเช่นนั้นคุณอาจจะได้แมวเพิ่มก็ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sundew Taksin
ลูกแมวสามพี่น้อง ยืนเลียครอบครัวที่สินใจอยู่กลางถนนหวังลึกๆว่าน้องจะตื่นฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ต้นเอ้ย มึงต้องอดทนนะ เพราะมึงโตแล้วววว ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอลูกแมวตัวน้อย อยู่กลางถนน ลูกแมวทั้งสามกำลังยืนเลียพี่น้องของตัวเองที่ถูกรถชนจนสิ้นใจ จนหนุ่มผู้โพสต์เห็นเหตุการณ์เข้าและทนไม่ไหวต้องทำอะไรสักอย่าง
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เลิกงานเมื่อคืน 2ทุ่มหน่อยๆ ขับรถผ่านเรือนจำเขาพริก ภาพที่ผมเห็นตอนนั้น คือกลุ่มลูกแมวสามตัวกำลังยืนเลียพี่น้องตัวเองที่ถูกรถชนจนสิ้นใจอยู่บนถนน ท่ามกลางรถที่วิ่งผ่านไปมา รถผ่านทีก็วิ่งหลบลงข้างทางที
ผมขับรถผ่านไปมองกระจกหลังเห็นรถ วิ่งตามมา คร่อมพวกลูกแมวเหล่านี้ ถ้าปล่อยเอาไว้คงโดนรถชนกันหมดแน่ๆเลย เท่าที่เห็นตอนนั้น รอด3สิ้นใจไป1 และเขาเองก็ได้พาน้องกลับมายังที่บ้านพร้อมเอาสุ่มไก่ครอบเอาไว้ก่อน และเบื้องต้นทางผู้โพสต์จะเลี้ยงดูน้องเอาไว้ก่อน และอาจจะหาบ้านในโอกาสต่อไป
ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า ขอบคุณผู้โพสต์ที่ช่วยชีวิตเด็กๆ ถ้าหากปล่อยไว้น้องคงไม่รอดแน่ๆ เพราะเส้นทางตรงนั้นรถก็เยอะขับคล่อมไปมามันเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตของน้องๆมาก และชีวิตของน้องๆต่อจากนี้คงจะมีแต่ความสุขไม่ต้องทนทุกข์อีกต่อไป
ที่มา ต้นเอ้ย มึงต้องอดทนนะ เพราะมึงโตแล้วววว
แอบมานอนหลบหมาบนหลังคารถ ร่างกายผอมไร้แม้เรี่ยวแรงจะหนี เพราะชีวิตนั้นไม่เป็นที่ต้องการของใครๆ
เพราะชีวิตที่เกิดมาไม่เป็นที่ต้องการของใครๆ เลยทำให้คุณค่าของชีวิตในแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันยิ่งถ้าต้องเกิดมาไม่เป็นแมวหรือสุนัขที่ต้องไร้บ้านไร้แหล่งอาศัย ชีวิตจึงต้องดิ้นรนหาที่แอบซ่อนไร้แม้ที่จะให้นอนอย่างสุขสบายไร้ความระแวง
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Suriya Charoenphol ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ลงในกลุ่ม ชมรมคนรักแมวเหมียว หลังจากที่เขานั้นได้พบเจอน้องมาแอบนอนหลับบนหลังคารถของเขาเอง ซึ่งเขาเห็นก็สงสารเพราะเนื่องตัวของน้องผอมมากๆ
และคงจะหลบหนีสุนัขจรมาเลยมาแอบนอนบนหลังคารถของเขา เพราะมันคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดที่หนึ่งชีวิตน้อยๆนั้นจะหาได้ในตอนนั้น และเมื่อเขาได้เห็นแบบนั้นเขาก็ทนไม่ได้จึงได้นำอาหารไปให้กับน้องเพราะด้วยความสงสาร โดยในตอนแรกน้องก็จ้องหน้าเขาจึงคิดว่าน้องคงจะต้องหิวมากแน่ๆ
และเมื่อเขานั้นพยายามที่จะเข้าไปใกล้ๆเพื่อที่จะนำอาหารไปให้กับน้องแล้วน้องก็เกิดอาการกลัวอยู่บ้างและเหมือนจะกระโดดหนี แต่น้องก็ยอมกินแต่โดยดีเพราะดูแล้วน่าจะหิวมาก เขาจึงได้แอบมาดูน้องกินอาหารอยู่ห่างๆ โดยเขาได้บอกอีกว่าน้องมาหลายครั้งแล้วละขอมานอนแอบบนรถ
แต่เวล่าเจอเขาก็กระโดดหนีไปตลอด แต่รอบนี้คงจะหิวมากและเริ่มคุ้นชินแล้วเลยไม่หนี ซึ่งเขาก็ยังได้บอกอีกด้วยว่ารอให้คุ้นชินหรือสนิทกันให้มากกว่านี้ก็จะหาบ้านให้น้อง ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Suriya Charoenphol
น้ำตาตกใน มีเจ้าของแต่กลับถูกล่ามเชือกยาวแม้ไม่พอนอน ไร้น้ำไร้อาหารต้องอยู่ด้วยความทนทุกข์และเจ็บปวด
เพราะด้วยหัวใจของมนุษย์เรานั้นมีความอ่อนโยนแตกต่างกัน ด้วยการเลี้ยงดูหรือสิ่งที่ถูกปลูกฝังเมื่อที่ได้เติบโตมาทำให้หลายๆคนนั้นมีหัวใจที่มีความเมตตาต่อสัตว์ แต่ในบางรายกลับไร้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ด้วยทั้งนี้จึงทำให้สัตว์เลี้ยงบางตัวที่เกิดมาเป็นสุนัขหรือแมวพันธุ์นั้นต้องอยู่อย่างทนทุกข์
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Clouseau Puttiporn ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบสองรายนี้ที่ถูกจับล่ามเอาไว้ภายในบ้านหลังนี้ซึ่งน้องเองเป็นสุนัขพันธุ์แต่กลับเหมือนไม่ถูกเลี้ยงดูเลยสักนิด ด้วยความที่เชือกที่ล่ามน้องนั้นสั้นทำไม่ได้แม้แต่จะลงไปนอนกับพื้นจึงต้องนั่งอยู่แบบนั้นตลอด
โดยไม่รู้เลยว่าพวกน้องๆนั้นต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากมากมายชนาดไหน ซึ่งเมื่อผู้โพสต์นั้นได้ไปพบเข้าน้องมีอาการสั่นและหอบไม่มีน้ำไร้แม้อาหารที่ตัวได้รับบาดเจ็บและผอมเหลือแต่ผิวหนัง โดยผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นก็มักจะเอาข้าวเอาน้ำไปให้น้องกินอยู่บ่อยๆเพราะเห็นแล้วก็อดที่จะสงสารน้องไม่ได้
และในตอนแรกเองทางผู้เป็นเจ้าของสุนัขทั้งสองตัวก็ไม่ยอมที่จะมอบสุนัขทั้งสองตัวนี้ให้กับทางผู้โพสต์ ซึ่งผู้โพสต์ก็ได้พยายามที่จะอ้อนวอนเพื่อที่จะขอให้ได้น้องออกมา ด้วยเห็นว่าถ้าน้องต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปน้องๆคงจะอยู่รอดไปได้อีกไม่นอน
ด้วยชีวิตที่ต้องทนทุกข์เขาจึงพยายามที่จะเจรจาจนในที่สุดก็ได้สุนัขออกมาแค่ 1 ตัวและเลือกที่จะต่อรองจนเจ้าของยอมใจอ่อนและก็มอบสุนัขทั้งคู่ให้กับผู้โพสต์ ซึ่งเมื่อได้เข้าไปช่วยเหลือแล้วน้ำตาร่วงเลยจริงๆเพราะพวกเขานั้นทำผิดอะไรจึงได้เอาพวกเขามาทรมานเอาไว้แบบนี้ และก็อยากทีจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากคิดจะเลี้ยงต้องมั่นใจว่าจะรับผิดชอบกับชีวิตที่เลือกมาจนสุดสิ้นลมหายใจเพราะถ้าเอามาแล้วพวกเขาต้องอยู่อย่างยากลำบากก็ควรที่จะเลือกอย่าเอามาเลี้ยงเลยจะดีกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Clouseau Puttiporn และชมคลิปตอนเข้าช่วยเหลือน้อง
https://www.facebook.com/clouseau.clouseau.37/videos/900951340379401/
เผยร่องรอยกระดูกของพี่เตี้ย แม้ตัวจะจากแต่ยังคงทิ้งร่องรอยการกระทำของมนุษย์
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Pimabsorn Ruxnark ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้เข้าไปเยี่ยมพี่เตี้ยถึงที่พิพิธภัณฑ์ โดยก่อนหน้านี้พี้เตี้ยถูกคนปองร้ายเอาชีวิต และหลายคนตั้งข้อสังเกตต่างๆนาๆว่าน้องคงไม่ได้ถูกรถชน แต่พอตรวจสอบดูแล้วจากโครงกระดูกพบว่าน้องมีร่องรอยมากมายที่เขาหมายปองจะเอาชีวิต
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า สวัสดีค่า วันนี้เราได้ไปเยี่ยมพี่เตี้ยมาแล้วนะคะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดดีมากค่ะ พี่เตี้ยเด่นสง่าอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆสัตว์ต่างๆหลากหลายชนิดเลย เป็นเกียรติแก่พี่มากค่ะ ตอนอยู่ก็สร้างความน่ารักความสดใสให้กับคนอื่น
ตอนจากไปร่างของพี่ก็ยังให้ความรู้กับคนอื่นๆได้อีกด้วย สำหรับท่านใดอยากมาหาพี่เตี้ยแบบเรา มาหาได้ที่ พิพิธภัณฑ์กายวิภาคและพยาธิวิทยาทางสัตวแพทย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ ถ้าอยากเห็นพี่เตี้ยเราเองก็สามารถไปหาพี่เตี้ยได้นะ
ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า ตอนที่พี่เตี้ยยังมีชีวิตอยู่ พี่ก้อสร้างความสุขให้กับผู้คน ยามพี่เตี้ยจากไป พี่ก็ยังคงสร้างความทรงจำดีๆไว้อีก ในความคิดพี่ไม่ใช่สัตว์ หากแต่พี่คือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า"ความสุข
บ้างก็บอกว่าเกิดมาเป็นเคยเห็นโครงกระดูกหมาเป็นครั้งแรก และครั้งแรกก็คือพี่เตี้ยเองจากร่องรอยแสดงให้เห็นถึงจิตใจของมนุษย์ที่ต่ำลงไปทุกวัน แม้เขาจะเป็นสัตว์ตัวน้อยๆ แต่สัตว์ตัวน้อยๆนี้ก็มีหัวใจนะ ไม่มีสัตว์ชนิดไหนอีกแล้วที่ร้ายไปกว่ามนุษย์อย่างเราๆ
ที่มา Pimabsorn Ruxnark
สาววานบอกแมว หวังให้น้องช่วยจับตุ๊กแกให้ ถ้าจับได้จะให้กินปลาทู เช้าวันรุ่งขึ้นกลับต้องเสียค่าปลาทูให้น้อง
หากว่าเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงเจ้าเหมียวหรือน้องแมวแล้วก็คงจะรู้ดีว่าในความเป็นจริงแล้วแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดมากกว่าสุนัข แต่ด้วยโดยส่วนใหญ่แมวนั้นจะไม่ชอบแสดงออกมาว่าตนนั้นรู้เรื่องรู้ราวเหมือนกับสุนัขนั้นเอง ซึ่งที่น่าทึ่งยิ่งไปกว่านั้นคือแมวนั้นรู้ภาษาคนและฟังพวกเรารู้เรื่องด้วย
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thammaporn Phokhakul ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ หลังจากที่บ้านของเขานั้นได้มีตุ๊กแกมาอาศัยอยู่เมื่อนานมาแล้วแต่ทว่าเมื่อมันเติบโตขึ้นกลับสร้างความลำคานและน่ากลัวให้กับคนในบ้าน
เขาจึงได้เสาะหาวิธีเพื่อที่จะหาคนมาจับเจ้าตุ๊กแกตอนนี้ออกไป แต่ทว่าเมื่อเขานั้นได้ตามคนงานเพื่อที่จะให้มาช่วยจับตุ๊กแกแล้ว เจ้าตุ๊กแกเจ้ากรรมก็กลับหลบหนีเข้าไปอยู่ในซอกที่คนงานนั้นไม่สามารถที่จะจับได้ จนเขาได้ถอดใจและได้ให้คนงานนั้นกลับไป
แต่ทว่าก็ได้เดินผ่านเจ้าเหมียวพอดี ซึ่งน้องนั้นเป็นแมวที่อาศัยอยู่ที่โรงงานตรงกันข้ามของบ้านของผู้โพสต์ ผู้โพสต์จึงได้บอกกับน้องว่าให้ช่วยไปจับตุ๊กแกให้หน่อย ถ้าจับได้จะซื้อปลาทูมาให้กิน และเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปจนวันรุ่งขึ้นเขานั้นกลับมาบ้านในตอนตี 1
และก็ได้ยินเสียงของกระดิ่งที่ดังไปรอบๆบ้าน และยังนึกว่าแมวหรือป่าวนะแต่ปกติเจ้าเหมียวนั้นจะอาศัยอยู่แต่ในโรงงานน้อยมากที่น้องจะมาที่บ้าน ซึ่งพอตื่นเช้ามาวันนี้เขานั้นกลับได้พบซากตุ๊กแกนอนอยู่ที่หน้าประตูของสวน พร้อมร่องรอยของเจ้าเหมียวบนตัวของตุ๊กแกตัวนั้น ซึ่งที่แปลกใจก็คือตุ๊กแกตัวนี้จะอาศัยอยู่ที่หลังบ้านแต่นี่ซากของมันกลับโผล่มาอยู่ที่หน้าบ้านและนั่นก็คือคนละฝั่งกันเลยเหมือนว่าน้องจะพยายามที่จะเอามาโชว์ให้เห็นจนต้องเสียปลาทูไปตามสัญญา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Thammaporn Phokhakul
น้ำตาซึมหลังแม่เอาแมวใหม่มาเลี้ยง แอบไปนอนร้องหลบมุมห้อง เพราะด้วยความน้อยใจคิดว่าแม่รักน้องมากกว่า
เพราะสิ่งมีชีวิตต่างๆบนโลกใบนี้นั้นล้วนแต่มีหัวจิตหัวใจกันด้วยทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆหรือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ต่างก็ล้วนแต่มีความรู้สึกในขณะเดียวกัน ยิ่งสัตว์ที่เราคิดว่าพวกเขานั้นมักจะไม่ค่อยสนใจโลกนักอย่างเช่นเจ้าเหมียวเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน
เชกเช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Chiranan Suran ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดที่รักรายนี้มาโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เธอนั้นได้นำเจ้าเหมียวตัวใหม่มาเลี้ยงเพิ่ม แต่น้องกลับเข้ากันไม่ได้กับตัวเก่าที่อยู่มาก่อน
ซึ่งเจ้าเหมียวตัวนี้นั้นมีการขู่น้องตลอดเวลาเลย แล้วพอเมื่อเธอนั้นได้อุ้มแมวใหม่ขึ้นมา แล้วอุ้มผลัดกันอุ้มตัวเก่าขึ้นมานางก็จะโวยวายลั่นบ้านเหมือนกับว่าไม่พอใจและไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก แถมไม่เข้าหาผู้เป็นเจ้าของรายนี้อีกเลยด้วยซ้ำ และยังมีอาการซึมตามมาเป็นระยะ
และน้ำตาซึมหน่อยๆอีกด้วย เหมือนกับว่ากำลังน้อยใจที่แม่ไปเอาน้องใหม่มาเลี้ยงโดยที่ไม่บอกหรือไม่ก็อาจจะกลัวที่จะได้ความรักลดน้อยลงไปหรือจะเรียกว่างอนก็ว่าได้ เพราะมีอาการไปนอนแอบน้อยใจอยู่คนเดียว โดยผู้โพสต์จึงได้นำเรื่องราวนี้มาโพสต์ลงในกลุ่ม
เพื่อที่จะขอคำปรึกษากับเพื่อนๆว่าควรจะทำยังไงกับเจ้าเหมียวดีเพื่อที่จะให้เขานั้นได้อยู่ด้วยกันได้ โดยได้มีเพื่อนๆในโลกออนไลน์คนนึงได้โพสต์บอกอีกด้วยว่า ต้องสนใจและให้ความสำคัญกับเจ้าเหมียวตัวเก่าก่อนเพราะเค้ากำลังน้อยใจเมื่อได้เห็นน้องใหม่และอย่าเพิ่งไปเล่นกับเจ้าตัวใหม่มากเพื่อที่จะให้เขาได้รู้ว่าเรานั้นยังรักเขาเหมือนเดิม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Chiranan Suran
เกิดคำถามในใจเราควรจะทำยังไงดี เมื่อพบเจอน้องแมวที่เราไม่เคยเห็นมาแถวบ้านเรา ตัดสินใจพิสูจน์หาความจริง
เรามักจะย้ำเตือนบอกกับเพื่อนๆเสมอว่า การเลี้ยงแมวนั้นควรที่จะเลี้ยงแมวในระบบปิดเพราะด้วยอันตรายจากโลกภายนอกนั้นมากมายมากกว่าที่มนุษย์เราจะเข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ไม่ได้เคยเจอโลกกว้างใบใหญ่มาก่อนนั้นเป็นเช่นไร
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mayya Thana ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ หลังจากที่พบน้องไม่รู้ว่าหลงมาจากไหน จึงได้เกิดคำถามในใจมากมายว่าเขานั้นควรที่จะจับน้องเอาไว้ก่อนไหม ถ้าเป็นน้องแมวที่เค้าเลี้ยงระบบเปิดละจะทำยังไง
แต่ถ้าน้องเค้าหลุดออกมาจากบ้านตัวเอง โดยที่ผู้เป็นเจ้าของนั้นเข้าไม่รู้ตัวละจะเอายังไงดีวะ จับไว้หรือปล่อยน้องไปดี ซึ่งเขานั้นเกิดอาการลังเลอยู่พักใหญ่ เขาจึงนำอาหารแมวจรที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ทุกวันลองให้กับน้องได้กิน ซึ่งน้องนั้นมีอาการหอบและดูร้อน ลิ้นห้อย
เขาจึงตัดสินใจจับน้องเอาไว้ใส่ตะกร้าหิ้วไปถามเพื่อนบ้านหลังที่คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของ แต่ทว่าเพื่อนบ้านกลับไม่อยู่ จึงได้ถามเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามว่าเคยเห็นน้องแมวของบ้านหลังนี้ไหม ใช่เจ้าเหมียวตัวนี้หรือป่าว สุดท้ายเพื่อนบ้านก็บอกว่าใช่
เขาจึงได้นำน้องกลับเข้าไปในบ้านตรงที่หน้าต่างบ้านนั้นได้เปิดออกมา เพราะน้องออกมาจากทางนั้นและได้พยายามที่จะหาไม้มามาบังหน้าต่างเพื่อที่จะไม่ให้เปิดออกได้ และให้บ้านตรงข้ามอยู่เพื่อดูเป็นพยานว่าไม่ได้มีเจตนาจะบุกรุกแต่อย่างใด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mayya Thana
เป็นแมวฟาร์ม แต่เลี้ยงตามมีตามเกิดปล่อยให้อยู่ตามยถากรรมสภาพเยี่ยงแมวจร
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Pla Nonglak ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับแมวจากฟาร์มข้างบ้าน ในสภาพที่สุดจะทน น้องเดินมาต้อยๆเดินมาขอข้าวกิน สภาพไม่กับเหมือนแมวพันธุ์เลยเพราะต้องอดๆอยากๆ เพราะขายไม่ได้ก็ให้อยู่ตามยถากรรม ตามมีตามเกิด
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เราทำบ้านอยู่มีแมวเดินมาหาในสภาพหิวโซ (คาดว่าน่าจะมาจากบ้านหลังถัดไปเพราะเค้าเพาะหมาแมวขาย) ร้องไม่มีเสียงเลย แถมตัวผอมมากกกก ตามตัวมีแต่แผล พอดีมีอาหารเม็ดของแมว(เพราะมีแมวจรมาอยู่1ตัวแล้ว)
เอาอาหารเม็ดให้กิน พอตอนกินกินไม่หยุดเลยค่ะ ตอนนี้เราจะเดินไปบอกเจ้าของแล้วให้แมวกลับไปหรือเราจะเลี้ยงไว้ก่อนเองดีคะ เพิ่มเติม ตอนนี้เรารับน้องไว้เองนะคะ เดี๋ยวถ้าเจ้าของมาแล้วถามแล้วได้ความยังจะมาอัพเดตนะคะ
ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวต่างได้กล่าวว่า ถ้าตรวจสอบแน่ใจว่ามาจากฟาร์มใกล้บ้านแล้ว ควรแจ้งหน่วยงานมาตรวจสอบนะครับ เพราะนอกจากปล่อยแมวให้หิวโซ+ป่วยแล้ว ยังเพาะเลี้ยงเพื่อการค้าอีก ไม่มีคุณธรรมในสายงานตัวเอง ไม่ไหวนะครับแบบเนี่ย
หากใครพบเห็นบ้านไหนฟาร์มไหนเลี้ยงหมาแมวแล้วทำแบบนี้ สามารถแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบได้เลยนะครับ เราต้องช่วยกันสอดส่องดูแลนะครับ เพราะยังมีฟาร์มอีกมากมายที่ยังเป็นอย่างนี้อยู่
ที่มา Pla Nonglak
แม่แอบมาคลอดไว้ แอบอาศัยบนหลังคาบ้านคนที่ไม่ชอบ เป็นวิเชียรมาศทั้งหมดแต่โดนถีบตกตึกไปแล้ว 2
เพราะชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้ทำให้หลายๆชีวิตนั้นต้องเกิดมาดิ้นรนบนความทุกข์ยากที่ต้องเผชิญต่อโลกใบใหญ่ ซึ่งถ้ายิ่งเกิดมาเป็นแมวหรือสัตว์จรด้วยแล้วยิ่งใหญ่ เพราะชีวิตนั้นไม่เคยมีใครเขาต้องการจึงต้องทนอยู่แบบตามมีตามเกิด
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Keichi Jocho ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่แม่แมวจรนั้นแอบขึ้นไปคลอดลูกอยู่ที่บนหลังคาของตึกของคนที่เขาไม่ได้ชอบแมว ซึ่งทั้งหมดเป็นลูกแมวพันธุ์วิเชียรมาศทั้งหมด 5 ตัวแต่ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 3 ตัว
โดยเป็นแมวพันธุ์วิเชียรมาศ 9 แต้ม 2 ตัวและ 4 แต้ม 1 ตัวและไม่ทราบเพศเนื่องจากมีเพื่อนคนนึงมาบอกอีกที ซึ่งในตอนนี้น้องๆน่าจะอายุประมาณเกือบ 2 เดือนได้แล้ว เพื่อนคนนี้ได้เอาอาหารแอบไปให้ในทุกๆวัน ซึ่งเป็นข้าวคลุกไข่ต้มเพื่อที่จะให้เด็กๆได้ประทังชีวิต
โดยน้องๆนั้นอาศัยอยู่บนหลังคาตึกคนละอาคารกับที่เพื่อนของผู้โพสต์นั้นอาศัยอยู่ และน้องๆก็มีอาการหวาดระแวงกลัวผู้คนไม่ยอมให้เข้าใกล้หรือให้จับแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่า 2 ตัวที่หายไปโดนถีบตกตึกไปแล้วตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งผู้โพสต์จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อสอบถามว่า
พอจะมีเพื่อนๆท่านไหนสนใจอยากที่จะรับน้องๆไปเลี้ยงดูแลบ้างไหม โดยผู้โพสต์ได้แจ้งพิกัดเอาไว้ที่ มหาชัยสมุทรสาครบนหลังคาตึกของอาคารที่มีเหล็กดัดอีกทีนึงซึ่งเราจะเข้าไปไม่ได้เพราะอาจะโดนข้อหาบุกรุกเอาได้ น้องจากจะล่อให้น้องเดินมาแล้วจับน้องเองแต่น้องก็กลัวผู้คนเอามากๆซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Keichi Jocho