เจ้าจิ้งเหลน แมวน้องเล็กสุดในบ้านผู้กินไม่เคยอิ่ม หิวตลอดเวลาจนชาวเน็ตรู้สึกเป็นห่วง
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Anne Paveena ได้เผยเรื่องราวของลูกแมวตัวน้อยที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยลูกแมวตัวนี้มีชื่อว่าจิ้งเหลน จิ้งเหลนเป็นแมวน้องเล็กสุดภายในบ้าน ด้วยตัวยังเล็กและยังไม่รู้ภาษาตอนนี้น้องกินไม่หยุด น้องกินไม่รู้จักอิ่มจนตัวน้องเริ่มพองโต จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า หนูจะขอกินไม่หยุด กินไม่อิ่มไม่ได้นะลูกเอ้ย พุงหนูจะระเบิดอยู่แล้ว เป็นลูกแมวตัวอื่นนี่พออิ่มก็จะหยุดกินเหมือนกับแมวทั่วๆไป งอแงเอามือดันหรือส่ายหน้าหนี แต่สำหรับจิ้งเหลนนางไม่หยุดจ้า ขอกินตลอดเหมือนหิวตลอดเวลาเลย หนูจะกินแบบนั้นไม่ได้นะลูกกกกก
ดูพุงหนูสิคะลูก เวลาขึ้นกระบะทราย กองมหึมามหาศาลทู้กกกกทีเลยลูกกกกก ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า ถ่ายพยาธิยังคะ เคยเลี้ยง อาการคือหิวโหยหนักมาก กินแบบท้องกลมไม่ยอมหยุดกิน พอ กินเยอะๆ ก็เอาออกมาเป็นตัวๆเลย
บ้างก็บอกว่าน้องต้องได้รับการถ่ายพยาธิ ดูจากทรงแล้วดูจากพุงของน้องแล้วน้องน่าจะถูกพยาธิแย่งกินอาหารไปจนหมด น้องก็เลยไม่รู้สึกอิ่มสักทีเวลาได้กินอาหาร และอีกหลายท่านเองก็เข้ามาบอกว่าแบบนี้ลองควรเอาไปให้หมอตรวจเช็คหน่อยนะ เพื่อสุขภาพร่างกายของน้องเอง เพราะดูจากพุงแล้วน้องไม่ปกติอย่างแรงเลยจ้า
ที่มา Anne Paveena
สาวโมโหหนัก แฟนบอกทำไมต้องเลี้ยงแมวมันเป็นภาระ จนกระทั่งแมวของเธอก็ทำประโยชน์ให้ดื้อๆ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Tarxx Tarxx ได้เผยเรื่องราวของสาวทาสแมวท่านหนึ่งที่เถียงกับแฟน เกี่ยวกับแมวที่เธอเลี้ยงเอาไว้ โดยแฟนหนุ่มของเธอได้กล่าวกับเธอว่า ทำไมต้องเลี้ยงแมวด้วย แมวมันเป็นภาระ ทุกครั้งที่เธอได้ยินแฟนของเธอพูดแบบนี้เธอก็จะรู้สึกโมโหทุกครั้ง และก็จะทะเราะกันทุกทีเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เธอจึงได้โพสต์ระบายเรื่องราวนี้ลงในกลุ่มทาสแมว4.0
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มีเรื่องมาเล่าสดๆร้อนๆ เมื่อกี้พึ่งเถียงกับแฟนมาเรื่องแมว แฟนว่าแมวเลี้ยงทำไมเยอะมันเป็นภาระทั้งนั้น ทุกครั้งที่เราได้ยินคำว่าภาระกับแมวเราจะรู้สึกโมโหทุกครั้งเพราะว่าเราไม่เข้าใจทำไม ฉันก็เลี้ยงของฉันข้าวฉันก็ซื้อของฉันเอง ขี้แมวฉันก็เป็นคนเก็บทำไมต้องมาเดือดร้อนกับแมวของเราด้วย เลี้ยงตั้งแต่ตัวเท่าฝาหอย จนตัวเท่า
รถ10ล้อ 555 โมโห หลังจากวางสายปิดไฟกำลังจะนอน แมวทั้ง7ตัวในห้องวิ่งออกจากเตียงนอนเรา ตรงไปที่มุมห้อง รุมกันฟัดตะขาบ สบัดกันแรงไม่ใช่ปฏิกิริยาของการเล่นอย่างแน่นอน แต่กำลังสู้กับตะขาบแม่เจ้า ใจจะวาย ฟัดกันจนตะขาบหมดแรงไป แรกกับห้องพังเหมือนหนังยังไงอย่างงั้น ตะขาบยัก สิ้นใจ เครียพื้นที่เก็บไป จัดห้องใหม่ตอน5ทุ่ม
ข้างบ้านแอบด่าในใจเบาๆ นังทาสยืนกริ๊ดอย่างเดียววิ่งไปทางไหนตะขาบก็วิ่งตามมา 555 แมวช่วยชีวิตคนสายตาไม่ดีอย่างฉันหลายครั้งแล้ว ฝากไว้ให้คิดอย่าคิดว่าแมวเป็นภาระถ้าไม่ได้เดือดร้อนใคร เาพูดอะไรก็ปล่อยเพราะเรามีความรับผิดชอบดี ไม่ได้ไปขอเงินเขาให้เดือดร้อนใคร
ที่มา Tarxx Tarxx
มีเจ้าของแต่กลับปล่อยให้อยู่อดๆอยากๆ ทั้งที่ย้ายบ้านไปก็ไม่ไกลนักแต่กลับเลือกที่จะไม่แม้เอาข้าวเอาน้ำมาให้น้องได้อิ่ม
เพราะด้วยชีวิตที่ถูกลิขิตมาให้เลือกที่จะมาเกิดไม่ได้ ลำพังเกิดมาโชคดีมีวาสนาก็ได้อยู่ดีกินดีมิต้องดิ้นรนสู้ชีวิตที่หนักแสนจะเข็น ลำบากเกิดมามีแต่เวรแต่กรรมต้องชดใช้สิ่งที่ต้องพบเจอก็ทำเอาปวดร้าวไปทั้งตัวและหัวใจ ไม่วายแค่คนเพียงเท่านั้นแม้แต่สัตว์ก็เลือกไม่ได้หรอกว่าจะเกิดมาเป็นอย่างไรมีเจ้าของดูแลรักใคร่อย่างใครๆเขา
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ฝน ฝน วินเทจ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้ลงในกลุ่ม กลุ่มรักหมาจัง หลังจากที่เธอนั้นได้โพสต์เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในกลุ่มหลังจากที่ได้พบเจ้าตูบแม่ลูกอ่อนตัวนี้ต้องอยู่อาศัยด้วยความทุกข์ยากไร้แม้แต่แหล่งอาหารจะให้ได้อิ่มในแต่ละวัน
ด้วยแม่ตูบตัวนี้เคยมีผู้เป็นเจ้าของที่รักแต่วันนี้กลับย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นซึ่งไม่ไกลนักเพราะด้วยพายุที่เข้ามาทำให้บ้านได้รับความเสียหายแต่ทว่าก็กลับไม่เลือกที่จะเอาน้องไปอยู่ด้วยไม่แม้จะนำอาหารมาให้กินให้ได้อิ่มท้อง โดยปล่อยให้น้องต้องอยู่อย่างอดๆอยากๆไม่มีแม้อาหารจะให้ได้อิ่ม
ซึ่งทางผู้เป็นเจ้าของเองก็ได้ย้ายไปอยู่กับญาติในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกันกับที่น้องได้อยู่ ไม่ห่างกันมากเลยแต่ก็ไม่เรียกน้องหมาไปด้วยและไม่มีกระจิตกระใจคิดจะเอาข้าวมาให้น้องเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ยังโชคดีที่บ้านของเจ้าตูบตัวนี้อยู่ติดกับวัดซึ่งน้องก็จะเดินไปขอข้าววัดกิน แต่ที่โชคร้ายก็คือสุนัขภายในวัดนั้นเยอะเช่นกัน
ทำให้บางวันน้องก็ได้อิ่มบางวันน้องก็ต้องอดเพราะไปแย่งสู้กับใครเขาไม่ไหวอีกทั้งแรงก็ไม่ค่อยจะมีเพราะตนนั้นเพิ่งจะคลอดลูกไหนจะต้องให้นมไหนจะต้องไปแย่งข้าวกับเขาอีก ทำให้ลูกของน้องนั้นต้องสิ้นใจไปบ้างเพราะขาดสารอาหารด้วยแม่นั้นก็ไม่มีน้ำนม จึงอยากจะวอนขอเพื่อนๆในกลุ่มช่วยเหลือน้องทีซึ่งใครที่พอจะมีที่ทางหรืออยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงดูแลก็สามารถที่จะติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ ขอเพียงแค่บ้านให้ลูกของหนูได้เติบโตไม่ต้องมาอดทนหิวยากลำบากด้วยหัวอกคนเป็นแม่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ฝน ฝน วินเทจ
แม่แมวท้องแก่ เดินมาขอข้าวกินกว่า2ปีลูกที่เคยมีก็ต้องมาสิ้นใจ ไม่รู้คอกนี้จะเหลือรอดมั้ยเพราะใครๆเขาก็ไม่ต้องการ
เพราะด้วยชีวิตนั้นเกิดมาไม่มีใครเขาต้องการจึงต้องดิ้นรนหาทางสู้ชีวิต ลำพังชีวิตตัวคนเดียวก็ยากแล้วยิ่งถ้าเกิดตั้งท้องแล้วเป็นแมวจรแล้วยิ่งแล้วใหญ่จะเดินไปไหนได้ถ้าอยู่ใน ระแวกที่ใครๆเขาก็ไม่ชอบแมว ด้วยเสียงร้องอันน้อยนิดที่ไม่คิดว่าจะมีใครเขานั้นได้ยินจะไปร้องบอกใครเขาว่าหิวก็ยากเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ย
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Moo Mas ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวลงในกลุ่ม ชมรมคนรักแมวเหมียวแห่งประเทศไทย หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องเหมียวตัวนี้มาขอข้าวกินซึ่งน้องเป็นแมวจรที่ไม่มีบ้าน แต่เธอก็ให้อาหารน้องกินอยู่เป็นประจำจนเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว
ให้กินทั้งเช้าและเย็นและตอนนี้บางวันก็ต้องให้รอบดึกด้วยอาจจะเพราะน้องตั้งท้องแก่ใกล้คลอดจึงหิวมากกว่าปกติ ซึ่งตัวน้องแมวเองก็เคยคลอดลูกมาแล้วรอบนึงมาคอกแรกๆก็ยังพอที่จะหาบ้านให้กับน้องๆได้บ้าง แต่บางตัวก็หายบางตัวก็ถูกรถทับไป หลังๆมาก็ไม่เห็นลูกของน้องอีกเลยคงจะถูกคนใจร้ายเอาไปปล่อยหมดแล้ว
เพราะด้วยต้องอยู่อย่างเร่ร่อนทำให้คนแถวนั้นที่ไม่ชอบแมวเขาก็ขับไล่ และก็ไม่รู้ว่าคอกนี้จะเป็นอย่างไรจะเหลือบ้างไหมก็ไม่รู้ ซึ่งเธอเองก็พยายามที่จะหาที่คลอดลูกที่ปลอดภัยให้กับน้องเพื่อว่าลูกๆจะได้อยู่กับแม่บ้าง และเธอเองก็ยังบอกถึงสาเหตุที่ตัวเธอนั้นไม่สามารถที่จะรับน้องมาเลี้ยงได้ เพราะในตอนนี้เธอก็มีแมวที่เธอเลี้ยงเอาไว้ถึง 11 ตัวแล้ว
จึงไม่สามารถที่จะรับน้องมาเลี้ยงเพิ่มภายในบ้านได้อีก และโดยส่วนตัวเธอก็สงสารน้องมากๆเพราะเมื่อวันไหนที่เธอนั้นออกมาให้อาหารน้องช้าน้องก็จะมานั่งอยู่ที่หน้าบ้านเพื่อเฝ้ารอขอข้าวแบบนี้เลย จึงอยากวอนที่จะหาบ้านที่อบอุ่นที่อยากจะรับน้องไปเลี้ยงจะได้ไม่ต้องมานั่งทนตากแดดตากฝนเช่นนี้อีกต่อไป และหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Moo Mas
เผยคลิปพี่เตี้ยเมื่อ6ปีก่อนในตอนยังวัยเยาว์ สมัยยังไม่มีปลอกคอดูแล้วคิดถึงสุดหัวใจ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Narumon Thongthammachat ได้เผยคลิปวิดีโอของพี่เตี้ยมช. สมัยที่พี่เตี้ยนั้นเพิ่งเข้ามาในมหาลัยเชียงใหม่ ในตอนนั้นหน้าตาของพี่เตี้ยยังดูอ่อนวัยมาก แถมในตอนนั้นพี่เตี้ยเองก็ยังเป็นที่รักของนักศึกษาแล้ว ขอมือได้มือ ขอมือซ้ายได้มือซ้าย ขอมือขวาได้มือขวา
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า คลิปเตี้ยน้อย ตอนปี 2014 สมัยพี่แกเข้า มช ใหม่ๆ ตอนนั้นยังละอ่อนมาก ปลอกคอไม่มี เขาเป็นหมาติดคนมาก ชอบไปที่ๆมีคน มีกิจกรรม ต้นโพสต์ 26 กันยายน 2014 ค่ะ คือดูแล้วยิ้มตามเลย คนที่ไม่ยิ้มคือไม่เอ็นดูเขา ไม่เมตตาเขา หรือไม่วางอคติในใจลง อ่านแล้วงดด่าที่นี่ เจ้าของเฟสเอาความน่ารักมาให้ชมแค่นั้น
ส่วนภาพแรกเป็นภาพของพี่เตี้ยสมัยเมื่อปี พ.ศ.2555 หน้าเซเว่นส์แถวเจ็ดยอด บ้านมีแต่ชอบที่มีคนมากมายชอบพบปะคนแปลกหน้าที่ใจดี แววตาของพี่เตี้ยแลซื่อๆแค่มีคนลูบหัวแบ่งของกินให้หนูบ้าง ชีวิตผกผันเดินตามเขาเข้าสู่รั้วลูกช้างสีม่วงบ้านหลังใหญ่ชื่อ มช.ช้างน้อยมีความสุขเติบโตท่ามกลางความรักในนาม"เตี้ยมช
ส่วนในเรื่องของคดีที่เกิดขึ้นกับพี้เตี้ยเราขอไม่พูดถึงนะครับ โพสต์นี้ขอเป็นคลิปและเรื่องราวในสมัยที่พี่ยังเป็นเด็ก โดยส่วนตัวแอดแล้วเมื่อได้เห็นคลิปของพี่เตี้ยก็ยังคงคิดถึงพี่เตี้ยเสมอ ความน่ารักสดใสของพี่เตี้ยจะอยู่ในใจชาวรักหมาตลอดไป
https://www.facebook.com/sherbet.treser/videos/535920350413536/
ที่มา Narumon Thongthammachat
หญิงใจบุญให้อาหารสุนัขจร แต่แม่ตูบวิ่งนำหวังช่วยลูกตัวน้อยๆที่หลบอยู่ในโพรงหญ้า
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดประทับใจต่อโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก หลังแม่สุนัขตัวหนึ่งที่วิ่งนำทางพาสาวใจบุญรายนี้ไปพาลูกๆตัวน้อยของเขาที่กำลังหลบอยู่ในโพรงหญ้า โดยผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kanokpon Onjuprasert ที่ได้เผยแพร่เรื่องราวนี้ลงในโลกออนไลน์
โดยผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ว่าหลายคนคงพอจำกันได้ สองแม่ลูกที่เขารอเรารอข้าวตอนเย็นทุกวัน ครั้งเมื่อเราลง คลิปสร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น โดยน้องวิ่งนำหน้านำทางไปหาลูกตัวน้อย ด้วยความดีอกดีใจที่มีข้าวมื้อนี้ให้ลูกได้อิ่มท้องแล้ว
ซึ่งคนดูคลิปก็ทั้งดีใจและเศร้าใจน้ำตาไหลกันไปตามๆกัน เพราะต่างซาบซึ้งต่อความรักของแม่สุนัขรายนี้ที่มีต่อลูกตัวน้อยของเขา ซึ่งก่อนหน้าแม่หมามีลูก 5 ตัวแต่หายหมดและไม่อยากจะคิดตามว่าเหล่าน้องๆนั้นเป็นอย่างไรเพราะสงสารน้องมาก ปกติน้องก็จะกินนอนในป่ารกนี้ซึ่งอันตรายมากๆ
ซึ่งหลังจากนั้นเธอก็ได้เคยโพสต์หาบ้านให้กับแม่หมาและะลูกแต่ทว่าก็ไม่มีใครสนใจที่จะรับเลี้ยงเอาไว้เลย วันนี้เลยลองต้อนจับลูกหมาดูปรากฏว่าจับน้องได้เราก็รีบจับใส่กระเป๋าดำในทันที ส่วนแม่หมานั้นก็ยังไม่สามารถเอาไปด้วยได้เพราะยังให้อาหารหมาจรไม่เสร็จ
เธอจึงบอกกับแม่สุนัขตัวนั้นว่า "รออยู่นี่นะ เดี๋ยวแม่มารับนะลูก" เราก็ขี่รถวนให้ข้าวหมาจรจนครบทุกจุด และย้อนกลับมารับแม่หมาอุ้มน้องซ้อนรถให้เข้าเอาขาเหยียบไว้ ลูกตัวน้อยก็อยู่ในกระเป๋าแขวนที่แฮนด์รถอยู่ข้างๆ ก่อนที่จะขี่รถกลับเราก็ยกมือไหว้ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพนับถือ
ขอให้เอาน้องซ้อนรถกลับได้ ขอให้หมาไม่ดิ้นและเดินทางปลอดภัย พอมาถึงบ้านสมาชิกที่บ้านก็มารุมล้อมดมกันใหญ่ แม่หมาก็เดินวนสำรวจแป๊ปนึง ก่อนที่เราจะเอาผ้าปูให้เขานอนกันในกรง (ไม่ได้ขังเปิดประตูไว้) กลางคืนให้นอนในนี้เดี๋ยวจุดยากันยุงเปิดพัดลมตัวจิ๋วให้
ซึ่งก่อนหน้าสมาชิกทีบ้านป่วยจนต้องจากไป สมาชิกที่มาใหม่ไม่เพิ่มขึ้นจำนวนเท่าเดิม หนูสิ้นสุดแล้วนะความลำบาก ทุกข์ยาก เคยอดเคยนอนยุงกัด ฝนตกก็ต้องเปียก ยามนอนก็ต้องคอยระแวงอันตรายจากรอบตัวเพราะรอบตัวนั้นมีแต่ป่า ต่อจากนี้หนูจะมีบ้านที่อยู่ถาวร
มีบ้านที่ปลอดภัยบ้านที่มีแต่ความรักความอบอุ่น มีแม่ใจดีมีเพื่อนเยอะแยะ ถึงครอบครัวเราจะหลายชีวิต หนูอยู่กันแบบแบ่งปันมีน้ำใจกันและกัน บั้นปลายชีวิตหนูกับลูกจะมีความสุขตลอดไปนะลูก วันนี้เราทำบุญทำทานเราให้โอกาสเขา เราให้ชีวิตใหม่กับ 2 ชีวิตแม่ลูกเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่เสมอ หัวใจพองโตยิ้มทั้งน้ำตาปลิ้มปริ่มติ้นตันใจมากเรานี้มีความสุขที่สุดเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก tnews Kanokpon Onjunprasert และชมคลิป
https://www.facebook.com/100009314155466/videos/2303867963266986/
มาทำความรู้จักกับน้อง”ไข่เค็ม” ตูบในร่างหมีกับอดีตที่ไม่มีวันลืมหลังถูกช่วยเหลือชีวิตน้องก็เปลี่ยนไป
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Borrimat Brm ได้เผยรูปของน้องไข่เค็มกับแคปชั่นสุดกวนอย่าง ''ลดน้ำหนักด้วย อย่าเอาแต่ฉีดหน้า'' จนรูปภาพของน้องโด่งดังในโลกออนไลน์และในกลุ่มรักหมาเองก็อยากทำความรู้จักกับน้องไข่เค็มให้มากขึ้น ว่าอดีตของน้องเคยผ่านอะไรมาบ้าง
โดยเจ้าของโพสต์และเจ้าของน้องไข่เค็มก็ได้บอกเล่าเรื่องราวผ่านรูปภาพ จากอดีตของน้องไข่เค็มและฝาแฝดอย่างน้องไข่หวานที่ถูกเจ้าของคนใหม่เข้าไปช่วยเหลือหลังเจ้าของเก่าของน้องไข่เค็มและไข่หวานไม่ดูแล จนเธอนั้นทนไม่ไหว
หลังทราบข่าวทางเจ้าของคนใหม่รีบเข้ามาหาน้องในทันที และพาทั้งไข่เค็มและไข่หวานไปอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังใหม่
ไข่หวานและไข่เค็มหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะเพราะเป็นพี่น้องกัน แต่พอโตมาคุณจะต้องไม่เชื่อแน่ๆเพราะว่าหุ่นของทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
คืนแรกนอนในห้องไปก่อนนะลูก เดี๋ยวเข้าที่เข้าทางแล้วไปอยู่ด้วยกันที่บ้านน้า
สองพี่น้องกำลังจะได้อยู่ในบ้านหลังใหม่แล้ว และมีเจ้าของที่รักพวกเขาจริง โชคดีของทั้งคู่เลย
อันดับแรกเลยก็ต้องกินเอาแรงก่อนนะ ดูซิตัวผอมกันเชียว แต่พอถูกเลี้ยงไปได้ไม่นานนักทั้งคู่ก็ค่อยๆเปลี่ยนไป หมายถึงรูปร่างนะที่เปลี่ยนไป
ความสุขของทั้งคู่กำลังจะเริ่มต้นแล้ว เพราะมีเจ้าของที่รักพวกเขาจริงๆ
รูปปัจจุบันของพี่ไข่หวานรูปร่างกำลังงามเลยผิดกับน้องไข่เค็มที่กลายร่างขั้นสุด เพราะถูกทำหมันมาและน้ำหนักของไข่เค็มก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆผิดจากพี่ไข่หวานที่ยังหุ่นดีอยู่เสมอๆ
ไข่เค็มตอนนี้เหมือนวัวน้อยเลยครับ เหตุเพราะถูกทำหมันจะตัวอวบอ้วน แต่ชาวเน็ตเห็นน้องก็อ้วนเกินไปแหละเนอะ ชาวรักหมาเองก็เป็นห่วงอยากให้เจ้าของช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินไม่อยากให้น้องอ้วนไปกว่านี้ เพราะหมายิ่งอ้วนโรคภัยต่างๆมันจะเข้ามาหาไม่ช้าก็เร็ว อยากให้น้องอยู่กับชาวรักหมาไปนานๆและหวังว่าน้องจะค่อยๆลดน้ำหนักได้ในที่สุดนะ
ขอขอบคุณ : Borrimat Brm
เพื่อนซี้ต่างสายพันธุ์ ระหว่างเจ้าเหมียวน้อยกับกิ้งก่า ความสัมพันธุ์สุดแปลกที่ไม่เคยแบ่งแยกเผ่าพันธุ์
ในมิตรภาพนั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยแบ่งแยกเพศสีหรือประเภทของสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกแต่อย่างใด ซึ่งเพื่อนๆหลายๆคนก็คงจะได้เคยเห็นมิตรภาพระหว่างสุนัขและแมวที่เป็นสัตว์ที่มักจะเข้ากันไม่ได้ แต่ในบางบ้านพวกเขาก็สามารถเข้ากันได้และใช้ชีวิตร่วมกันได้ปกติ แต่ทว่ายิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธุ์ที่เราจะนำมาให้ดูในวันนี้
ยิ่งแปลกไปมากกว่าเดิม นั้นก็คือเจ้าเหมียวตัวอ้วนและเจ้ากิ้งก่าคู่นี้ที่พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและรักกันราวกับเป็นพี่เป็นน้องที่เกิดมาท้องเดียวกันเลยก็ว่าได้ ซึ่งเจ้าเหมียวตัวอ้วนสีขาวขนปุยตัวนี้มีชื่อว่าเจ้า Baby ส่วนกิ่งก่าผู้อ่อนโยนตัวนี้มีชื่อว่าเจ้า Charles
และนอกจากทั้งคู่นั้นไม่เคยที่จะทะเลาะกันเลยสักครั้งพวกเขายังชอบนอนกอดกันมากๆอีกด้วย ซึ่งความเป็นเพื่อนของทั้งคู่นั้นถือเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาไม่ได้เพียงแค่เล่นด้วยกันกอดกันหรือนอนด้วยกันเพียงแค่นั้น แต่พวกเขายังรู้ใจกันมากๆอีกด้วย
เช่นเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าเหมียว Baby นั้นหวาดกลัวเสียงฟ้าร้องเวลาที่ฝนตกหรือมาพายุเข้าแล้ว เจ้า Charles นั้นก็จะเข้าไปกอดและปลอบจนกว่าเพื่อนจะสงบลง ซึ่งในแต่ละวันแล้วพวกเขานั้นก็จะใช้ชีวิตและเวลาอยู่ร่วมกันเป็นส่วนใหญ่เรียกได้ว่าตัวติดกันตลอดเลยก็ว่าได้
ทั้งการนั่งกินลมชมวิวจากมุมหน้าต่างภายนอกด้วยกัน หรือการหาเรื่องสนุกๆทำด้วยกันและช่วยกันดูแลบ้านให้กับเจ้าของบ้านนั่นเอง
ดูนกด้วยกันน่าร๊ากกก
งื้อออมีจุ๊ฟกันด้วยหวานไปอีกเชื่อแล้วว่ารักกันจริงๆ
ขนาดแม้แต่ตอนกินข้าวก็ไม่เคยห่างกันด้วยนะ น่ารักจริงๆซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนติดใจในความน่ารักของน้องๆก็สามารถไปติดตามน้องๆกันต่อได้ที่ อินสตราแกรม charles_the_dragon กันได้เลยนะจ๊ะ เรียกได้ว่าเป็นคู่สัตว์สุดแปลกที่รักกันมากๆเหมือนพี่น้องเลยก็ว่าได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก animal.catdumb
นักวิจัยเผย “แมว” มีความสุขเมื่อตัวเองได้อยู่ใน “กล่อง” แถมยังช่วยลดระดับความเครียดได้อีกด้วย
หากเพื่อนๆคนไหนที่ได้เลี้ยงแมวหรือเป็นทาสแมวอยู่แล้ว ก็คงจะรู้จักกับนิสัยของเหล่าเจ้าเหมียวกันดีว่าพวกเขานั้นชอบสิงห์สถิดอยู่ในที่แคบๆอย่างเช่น "กล่อง" หรือลังกระดาษซึ่งไม่ว่ากล่องใบนั้นๆจะมีขนาดเล็กมากเพียงใดพวกเขาก็พยายามที่จะลงไปให้ได้แบบสุดความสามารถ
ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงแค่ลังหรือกล่องกระดาษเพียงเท่านั้นหรอกนะเพราะไม่ว่าเป็นสิ่งของอย่างเช่นตะกร้าซักผ้า ลิ้นชักหรือแม้แต่ช่องว่างครีบรอด์ใต้โต๊ะคอมพวกเขาก็พยายามที่จะเข้าไปอยู่ให้ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งทาสหลายๆคนก็คงจะไม่เข้าใจแต่ทว่าพวกเขานั้นก็มีเหตุผลส่วนตัวที่ทำลงไปเหมือนกันนะ
โดยในปี 2014 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Utrecht ได้ตัดสินใจทำการศึกษาวิจัยพฤติกรรมเหล่านี้ของเหล่าเจ้าเหมียว และก็ได้ทราบถึงเหตุผลของพวกเขาโดยพบว่าการที่แมวนั้นพอใจกับการที่ได้อยู่ในกล่อง เพราะมันสามารถช่วยลดความเครียดของพวกเขาได้นั่นเอง
โดยการศึกษาดังกล่าวนี้ นักวิจัยได้เลือกกลุ่มตัวอย่างจากแมวที่อยู่ในศูนย์พักพิง 19 ตัว ซึ่งให้เจ้าเหมียว 10 ตัวอยู่กับกล่องแล้วคอยเฝ้าสังเกตอาการและพฤติกรรมต่างๆของเจ้าเหมียวทั้ง 2 กลุ่ม และหลังจากที่ผ่านไปประมาณ 2-3 วันก็ได้พบว่า แมวที่อยู่กับกล่องนั้น
มีระดับความเครียดต่ำกว่าพวกเจ้าเหมียวที่ไม่ได้อยู่กับกล่อง ซึ่งนักวิจัยได้สรุปว่า "ดูเหมือนกล่องจะมีความสำคัญกับเจ้าเหมียวที่ต้องรับมือกับความเครียด ในช่วงที่ต้องเผชิญกับสิ่งแวดล้อมใหม่ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกๆ" ทั้งนี้นักวิจัยนั้นยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยว่า
"ความเครียดนั้นมีผลต่อสุขภาพของเหล่าเจ้าเหมียวเป็นอย่างมาก ซึ่งในบางตัวได้รับผลกระทบร้ายแรงถึงขั้นเป็นโรคติดเชื้อ เนื่องจากระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น จนทำให้ภูมิคุ้มกันของพวกเขาบกพร่องเลยก็ว่าได้" และอย่างไรก็ตามยังไม่มีงานวิจัยใดๆที่ระบุอย่างแน่ชัดว่า
กล่องหรือลังกระดาษที่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเจ้าเหมียวนั้นสามารถช่วยป้องกันโรคเหล่านี้ได้ แต่ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีการศึกษาและวิจัยเพิ่มเติม เพื่อหาผลสรุปว่ากล่องนั้นมีผลต่อสภาพจิตใจของเจ้าเหมียวในระยะยาวหรือไม่ และมันมีความสัมพันธ์กับโรคที่เกิดจากความเครียดของแมวได้อย่างไร แต่ทว่าการวิจัยยังไม่บอกอะไรเราแน่ชัดแต่พวกเราเหล่าทาสแมวก็คงจะรู้ดีกันอยู่แล้วว่ากล่องนั้นสามารถลดความเครียดให้กับพวกเจ้าเหมียวได้จริงๆ เพราะพวกมันชื่นชอบเป็นอย่างมาก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก catdumb
จากแมวจรชีวิตเร่ร่อนข้างถนน สู่ชีวิตคุณชายนอนตากแอร์เติบใหญ่ก้าวกระโดด ทุกวันนี้ใหญ่กว่าพี่ๆที่บ้านเสียอีก
ในบางครั้งชีวิตของคนเรานั้นก็ไม่สามารถที่จะกำหนดได้ หรือเรียกอีกอย่างนึงว่าโชคชะตาฟ้าลิขิตเอาไว้ให้เราต้องมาพบเจอ ซึ่งเพื่อนๆเองก็คงจะเข้าใจกับคำว่าชะตาฟ้าลิขิตกันดีเพราะในบางทีการที่เรานั้นจะรับแมวมาเลี้ยงสักตัวนึงนั้นก็เป็นเรื่องยากมากมาย ซึ่งบางคนก็เลือกแล้วเลือกอีกหรือบางทีก็มาแบบมึนๆ
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Papapin Deosurin ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรตัวนี้ที่มีชื่อว่า พี่บรูซ(ขวา) ซึ่งน้องเป็นแมวจรตัวน้อยที่มาเร่ร่อนอยู่ที่ริมถนนใหญ่ จากชีวิตที่ต้องระหกระเหินเร่ร่อนมาในวันนี้กลับได้อยู่อย่างสุขสบายเป็นคุณชายนอนตากแอร์
แถมเรื่องราวไม่ได้เป็นแค่นั้นเพราะจากที่เป็นแมวจรมาเดินเร่ร่อนอยู่ริมถนนซึ่งมาในตอนแรกก็ตัวเพียงกำมือ มาในวันนี้ ตัวกลับใหญ่กว่าพี่ๆในบ้านตัวอื่นๆหมดแล้ว โดยน้องก็ได้โตวันโตคือเพราะอาจจะด้วยความกินเก่งและน่ารักแม้ถึงจะเป็นแมวจรไม่ใช่แมวพันธุ์อย่างพี่ๆเขาแต่น้องก็รู้เรื่องและขี้อ้อนไม่แพ้กันเลย
และในวันนี้พี่บรูซก็ไม่ต้องมาเดินเร่ร่อนตากแดดตากฝนอีกต่อไป เพราะทุกวันนี้พี่บรูซนอนตากแอร์สบายใจไม่สนโลกอีกต่อไปแล้ว โดยผู้เป็นเจ้าของรายนี้เองก็รักน้องมากๆไม่แพ้ตัวอื่นๆเลยและยังได้เขียนข้อความรณรงค์ที่ใครสามารถที่จะรับแมวจรมาเลี้ยงได้ก็อยากที่จะให้รับมาเลี้ยงเพราะถือว่าช่วยหนึ่งชีวิตคนละไม้คนละมือ
แบบที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงมากนัก ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็ได้มีแมวจรเอาไว้ในครอบครองถึง 2 ตัวมีชื่อว่าน้องไรอันและพี่บรูซตัวอ้วนตัวกลมนี่เอง โดยผู้โพสต์ยังได้ลงท้ายข้อความเอาไว้อีกด้วยว่าช่วยกันคนละไม้คนละมือคนละตัวสองคัวเอาพวกเค้ามาอาบน้ำดูแลหาหมอปรับตัว รับรองว่าชีวิตของพวกคุณจะมีความสุขล้านเท่าพันเท่าซึ่งเงินก็หาซื้อไม่ได้เลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Papapin Deosurin