หวิดถูกทับหลังถูกจับมาปล่อยไว้กลางสี่แยก ด้วยยังเล็กไม่รู้ประสีประสาไร้หาหนทางเอาชีวิตรอด
เพราะด้วยชีวิตนั้นเกิดมาไร้ผู้คนต้องการ เมื่อได้เกิดมาแล้วจึงเป็นภาระแก่คนอื่นๆด้วยมนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เห็นแก่ตัวจึงเลือกที่จะผลักภาระทั้งหมดที่ตนมีให้ไปเสี่ยงต่อหลายชีวิตที่เพิ่งจะได้ลืมตาดูโลก ซึ่งเด็กๆเหล่านั้นก็คือสุนัขจรที่ไม่รู้อิโหน่อิแหน่
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า หมาจรชะอำ Stray dogs Cha am ได้โพสต์คลิปเรื่องราวเป็นคลิปสั้นๆของเจ้าลูกสุนัขทั้งหมด 5 ตัวที่ถูกจับมาปล่อยเอาวไว้ที่กลางสี่แยกบายพาสชะอำ ฝั่งตรงข้ามโรงแรมฝันดี โดยที่น้องๆทั้งหมดมี 5 ตัวเป็นเพศผู้ 2 เมีย 3
และในคลิปน้องๆก็ออกมาวิ่งเล่นกันกลางถนนด้วยความที่ยังเล็กและเป็นเด็กจึงไม่รู้เรื่องรู้ราวจนมีรถเก๋งคันนึงได้ขับผ่านมาและได้ชะลอเพื่อที่จะให้น้องๆหลบไปจากกลางถนน จึงอยากวอนให้เพื่อนๆหรือหน่วยงานใดที่อยู่ใกล้เข้าช่วยเหลือเพราะถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้
เด็กตัวน้อยๆที่เพิ่งจะได้ลืมตาดูโลกนั้นก็คงจะไม่รอด และก็ไม่รู้ว่าจิตใจคนที่นำมาปล่อยเอาไว้ทำด้วยอะไรเพราะพวกน้องๆนั้นยังเด็กมากอีกทั้งยังเด็กมากๆ แถมยังไร้ผู้เป็นแม่ที่จะคอยอาหารหรือได้สอนให้เรียนรู้ว่าสิ่งไหนอันตรายควรหลีกเลี่ยงที่ไหนที่ปลอดภัย
ทั้งนี้จึงอยากฝากเอาไว้ให้รีบเข้าช่วยเหลือและหากเพื่อนๆคนไหนสนใจที่จะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ หรือหากมีเพื่อนๆคนไหนพอที่จะมีพื้นที่เล็กที่สามารถจะรับน้องๆไปเลี้ยงได้ก็วอนให้เข้าช่วยเหลือน้องๆที เพราะถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้คงอยู่รอดได้ไม่นาน
ขอขอบคุณมูลจาก หมาจรชะอำ Stray dogs Cha am และชมคลิป
https://www.facebook.com/681290428663006/videos/978899035888685/
เศร้าจนพูดไม่ออก หลังพาแมวที่แข็งแรงมาโดยตลอดไปหาหมอ แต่หมอกลับทำให้สิ้นใจจนตัวแข็ง
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ลั๊นล๊าตัวพ่อ ตามหาใจหญ๊ง ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พาน้องแมวไปทำหมันที่คลีนิคแห่งหนึ่ง ผ่านไปไม่นานนักคุณหมอก็โทรมาบอกอีกครั้งว่า ผ่าเสร็จแล้วรอน้องฟื้น และสักพักหมอก็โทรมาบอกอีกทีพร้อมกล่าวว่า ตอนนี้น้องเสียแล้วเพราะแพ้ยาสลบ
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า สอบถามหน่อยครับ ผมพาแมวไปทำหมัน คุณหมอทักมาบอกตอน1ทุ่ม ว่าผ่าเสร็จแล้วรอฟื้น พอผ่านไป30กว่านาที หมอโทร. มาบอกว่าน้อง แพ้ยาสลบ แล้วสิ้นไป ผมรีบไปคลีนิคเดินทางไปไม่ถึง10นาที แต่น้องตัวแข็งแล้ว
แบบนี้คือสิ้นเพราะเกินขนาดยาหรือป่าวครับ แมวเลี้ยงมารักเหมือนกับลูกแท้ๆ แต่พอพาไปทำหมันแล้วสิ้นใจ โดยไม่มีการตรวจสุขภาพใดๆเลยครับ แล้วมีแค่คำพูดสั่นๆเดิมๆคือ.... "ขอโทษเจ้าของด้วยนะคะ" นี่หรอครับของการเป็นหมอ แฮปปี้เป็นแมวที่แข็งแรงมากไม่แพ้วัคชีนใดๆแต่มาแพ้ยาสลบ และสิ้นใจไปแบบผมยังงง
หากท่านใดอยากอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมสามารถกดลิ้งด้านล่างได้เลยนะ ด้านชาวเน็คหลังได้รับชมเรื่องราวนี้ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า ตอนหมอโทรมาแจ้งว่ารอฟื้นตอนนั้นน้องน่าจะสิ้นใจไปแล้วแหละเพราะเจ้าของไปถึงตัวน้องแข็งแล้วแต่หมอไม่กล้าแจ้งเจ้าของแมวมากกว่าค่ะ เสียใจด้วยที่สุดค่ะใจสลาย เรื่องที่ค้างคาใจไปตลอด
ที่มา ลั๊นล๊าตัวพ่อ ตามหาใจหญ๊ง
แมวตัวน้อยฮึดสู้ชีวิตอีกครั้ง หลังป่วยตั้งแต่เกิดตาก็มองไม่เห็นแถมชีวิตนี้ก็เข้ากับเพื่อนไม่ได้
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Malinee Saithong ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้มีโรคประจำตัวมาตั้งแต่เกิด ขนาดหมอเองยังบอกกับเธอว่าแมวของเธอจะมีอายุที่สั้น แถมป่วยตั้งแต่อายุไม่ถึงเดือนเข้ากับเพื่อนแมวตัวอื่นๆก็ทำไม่ได้
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรามีประสบการณ์ที่เขาเจอมาเล่าให้ฟังเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่อยู่ในสถานการณ์แบบเรา กว่าจะเลี้ยงแมวตัวนี้ให้โตมันไม่ง่ายเลย น้องป่วยตั้งแต่เกิด เป็นเด็กหัวแตงโม หมอบอกอายุน้องจะสั้น น้องได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเกิด อายุยังไม่ถึงเดือน
ตาน้องมองไม่เห็นน้องไม่อาจเข้ากับพี่น้องตัวอื่นได้ไม่สามารกินนมแม่ได้เพราะตามองไม่ค่อยเห็น โรงน้องต้องกินยากดภูมิไม่ให้หัวโต และก็กินยาบำรุงสมอง น้องอายุยังไม่ถึงเดือนก็มาเป็นเชื้อราหนักมากรักษาไม่ได้เพราะน้องยังเด็กน้ำหนักตัวยังน้อยมากๆ
น้องก็อยู่สภาพนี้ไปจนถึง 2 เดือน แมวที่เลี้ยงไว้ที่บ้านก็ติดไข้หัดจนสิ้นใจ แต่โชคดีน้องไม่ติด อยู่มาเรื่อยๆจนอายุ 3 เดือน น้องก็ยังทำวัคซีนไม่ได้เพราะ น้ำหนักตัวน้องมากเท่าที่จำได้คือน้องหนักแค่ 4 ขีด น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์ แต่น้องก็ได้รับการรักษาเชื้อรามาเรื่อยๆ จนอาการดีขึ้น และก็หาย น้องได้รับวัคซีนเข็มแรกตอนอายุ 5 เดือน
ตอนนั้นน้ำหนักน้องแค่ 8 ขีด จากวันนั้นที่หมอและทุกคนคิดว่าน้องจะไม่รอดแต่น้องก็อยู่มาจนถึงปัญจุบัน กัดฟันสู้กันมาก เราไม่ได้เลี้ยงน้องแค่ความหลง เราเลี้ยงเขา เพราะความรักเวลาเขาเกิดมาแล้วไม่สมบูรณ์เราก็ต้องรับผิดชอบในชีวิตเขา เราไม่เคยขอระดุมทุนหรือใดๆเรารักษาเขาเอง ปัจจุบันน้องอายุได้2ขวบแล้ว และเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นแล
ที่มา Malinee Saithong
ลูกแมวยังไม่ทันลืมตา ร้องเสียงดังสนั่นใจกลางเมืองหวังคนที่ผ่านมานั้นโปรดช่วยชีวิตหนูที
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Marina Gianna ได้เผยเรื่องราว ของลูกแมวน้อยยังไม่ทันได้ลืมตาตัวหนึ่ง น้องเป็นลูกแมวที่อาศัยอยู่กลางเมืองใหญ่ย่านเอกมัย โดยสาวเจ้าของโพสต์รายนี้ไปพบเข้าเพราะได้ยินเสียงน้องร้องเสียงดังสนั่นแม้จะมีขนาดตัวแค่นิดเดียวก็ตาม
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เจอลูกแมวน้อย(ยังไม่ลืมตา) ที่เอกมัยไอ้เราก็ได้ยินเสียงร้องของลูกแมวดังมากดังลั่นเลย ก็เลยเดินไปตามหาเสียงนั้น ปรากฎว่าเจอลูกแมวอยู่หนึ่งตัวคลานร้องเมี๊ยวอยู่ตรงบันได คลานตากแดดเปรี้ยงๆอยู่อย่างนั้น
ซึ่งคนก็เดินผ่านไปผ่านมาเหมือนปกติ เราก็งงว่าเห้ยไม่เห็นกันหรือไงวะ ใจดำชิบหายเลยว่ะแม่ง! และคือด้วยความที่บ้านเราเลี้ยงแมวไง เออรักแมวนั้นแหละ เห็นแบบนี้ใครจะทนเฉยได้วะ เลยอุ้มขึ้นมานอนบนผ้าถุงและป้อนน้ำป้อนนม น้องหายใจแรงมาก
ลิ้นแลบออกมาเหมือนน้องตากแดดมานาน (แดดแรงซะขนาดนั้น) ล่าสุดเอากลับศรีราชาด้วยซะเลย ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่จ้า โดยทางผู้โพสต์เองก็เป็นคนรับเลี้ยงในที่สุด เพราะอดที่จะสงสารไม่ได้ จนชาวเน็ตในกลุ่มทาสแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวชื่นชมที่ช่วยชีวิตน้องไว้พร้อมรับเลี้ยงในที่สุด
ที่มา Marina Gianna
หยุดทุกมิติของการอาบน้ำแมว หลังสาวทักถามเพจจะพาแมวไปอาบน้ำกลับบอกว่าน้องไม่ดุ แต่เมื่อไปถึงกลับดุแบบไม่มีอะไรกั้น
หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นแมวหรือสุนัขก็คงจะเข้าใจดี ถึงความรักหรือการดูแลอย่างเช่นพาพวกเขาไปอาบน้ำหรือตัดขนที่ร้าน แต่ทว่าสิ่งเหล่านี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แมวหรือสุนัขของเราอาจะไม่สบอารมณ์อย่างที่พวกเราคิด เพราะเรามักจะเห็นว่าการอาบน้ำนั้นเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้พวกเขานั้นสะอาด
แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของร้านนั้นต้องพบเจอกับลูกค้าหน้าขนที่มีหลากหลายอารมณ์มากขนาดไหน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Rayda Lee ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวสุดฮาหลังจากที่เธอนั้นจะพาเจ้าเหมียวสุดที่รักไปอาบน้ำให้ตัวหอมชื่นใจ
ซึ่งเธอก็ได้ทักไปถามยังแฟนเพจที่เป็นร้านอาบน้ำสัตว์โดยเฉพาะ และสิ่งที่ทางแฟนเพจดังกล่าวได้ถามกลับมาก็คือ แมวหนักเท่าไหร่ น้องดุหรือไม่ซึ่งเธอเองก็ได้ตอบด้วยความมั่นใจว่าน้องน้ำหนัก 4 โลกับ 5.4 โล ตัวเล็กไม่ดุชอบแกล้งนอนแน่นิ่ง โดยทางร้านเองก็ได้ประเมินราคาให้แบบเสร็จสรรพ
แต่ทว่าเมื่อน้องได้ไปถึงร้านเรื่องราวกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะทางร้านเองได้ส่งรูปกลับมาให้เธอได้รับชมว่าสภาพของน้องที่บอกว่าไม่ดุและชอบแกล้งนอนนิ่งนั้นมันช่างผิดกันเเหลือเกิน โดยเธอเองก็ได้มาโพสต์บอกอีกด้วยว่าทางร้านดังกล่าวคนอาบน้ำให้น้องนิ้วยังอยู่ครบโดยสมบรูณ์แบบ
และที่บอกว่าไม่ดุก็คือตัวเล็กคือเจ้าฉุนที่ว่าไม่ดุ แต่ด้วยจากสถานการณ์ที่คับขันมันประชั้นชิดมากเกินไปทำให้เจ้าฉุนเครียดมากไปหน่อยจนทำให้เกิดแบบในภาพ ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวนี้ได้เผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ไม่นานก็ได้มีผู้คนจำนวนมากเข้ามากดไลค์และแสดงความคิดเห็นกับความฮาของเจ้าส้มฉุน ซึ่งทั้งนี้เองก็อยากจะฝากทางเจ้าของร้านเอาไว้ด้วยว่าให้ระวังนิ้วและตรวจสอบนิ้วให้ดีว่ายังอยู่ครบโดยสมบรูณ์มั้ย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Rayda Lee
โดนเขาไล่โดนเขาฟาดต้องวิ่งหนีมาเป็นเดือน ทนอยู่ด้วยความหวาดระแวงแม้ยามจะหลับ เพราะเป็นหมาจรไร้ค่าไร้ราคา
ด้วยความมีเมตตาในจิตใจของมนุษย์เราไม่เท่ากัน ทำให้หลายๆที่เกิดมาพร้อมกับสุนัขหรือแมวนั้นจะมีหัวใจที่อ่อนโยนต่อสัตว์โลกมากกว่าคนที่ได้เกิดมาแต่ไม่เคยได้สัมผัสคิดว่าเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉาน อีกทั้งสังคมและสภาพแววล้อมก็เป็นตัวแปลหลักทำให้หลายๆคนที่ไม่ชอบก็จะไม่ชอบพวกเขาไปเลย
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nampueng Deekandok ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่พบน้องถูกคนใจร้ายไล่ฟาดทุกวัน ทั้งครั้งที่คนใจร้ายได้เห็นน้องก็จะไล่ฟาดน้องทั้งเอาก้อนหินขว้างใส่
ซึ่งคนใจร้ายก็ได้ตามหาน้องแบบนี้มาเป็นเดือนๆแล้ว น้องก็จะคอยแอบไปหลบอยู่ตามใต้ถุนบ้าน และก็ต้องทนอยู่ด้วยความหวาดระแวง โดยตัวผู้โพสต์เองก็ได้กลัวว่าน้องจะได้รับอันตราย จึงอยากจะขอวอนผู้ใดที่ใจบุญพอจะช่วยเหลือหรืออุปการะน้องได้ช่วยน้องที
โดยตัวน้องเองเป็นสุนัขจรไม่มีเจ้าของอาศัยคนใจดีให้ข้าวให้อาหารน้องบ้างตามโอกาส น้องอาศัยนอนตามใต้ถุนบ้านเช่าซึ่งด้านล่างเป็นน้ำคลำ ไม่ว่าฝนจะตกหรือฟ้าจะร้องแดดออกก็จะแอบนอนอยู่ตรงนั้นเพราะกลัวว่าเขาเห็นเข้าก็จะถูกขับไล่อย่างที่เคยทำ
และนิสัยส่วนตัวของน้องก็เป็นหมาจรที่น่ารักมากๆไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครๆ เพียงแค่ชอบมาขอข้าวขอน้ำให้ได้กินเพื่ออยู่รอดไปวันๆเพียงเท่านั้น และหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้คนใจดีเข้ามารับอุปการะน้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แค่หนึ่งชีวิตที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงถ้าไม่รักไม่ชอบก็อย่าไปทำเขาแบบนี้เลย เพราะพวกเค้าก็มีชีวิตมีความคิดมีความรู้สึกไม่ต่างจากพวกคุณหรอก และก็ขอให้หนูมีความสุขกับบ้านหลังใหม่นะลูกนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nampueng Deekandok
หมาถูกคนขับรถตั้งใจชนจนสิ้นใจ เจ้าของแช่งหนักผ่านไปไม่นานคนขับคนนั้นกลับนอนรพ.ไม่ได้สติ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ยังมีวันพรุ่งนี้ เสมอ ได้เผยเรื่องราวที่เขานั้นไม่มีวันลืม โดยเรื่องราวนี้เกิดกับหมาสุดที่รักของเขาเอง โดยก่อนหน้านี้หมาของเขาถูกรถที่ขับผ่านมาตั้งใจชนน้องจนสิ้นใจไม่คิดหันมาดู จนหนุ่มผู้โพสต์ได้ดูดออกมาว่า ขอให้กรรมตามมันไม่ช้าก็เร็วด้วยเถิดจนกระทั่ง....
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ผมมีเรื่องเล่าให้ฟังกันครับ และเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เรื่องมีอยู่ว่า ลูกผมตัวนี้ถูกรถชนหน้าบ้านของตัวเองจนสิ้นใจ โดยน้องนั้นยืนอยู่ข้างถนน ถูกคนตั้งใจชน และผมใด้เอ่ยปากเอาไว้ว่า ขอให้กรรมตามมันไม่ช่าก็เร็วนี้ด้วยเถิด
และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปหนึ่งเดือน ไอ้รถคันเดิม คนขับคนเดิม มันขับรถชนเสาไฟหน้าบ้านของผม ที่เดียวกันที่มันชนลูกชายผม โดยไม่รู้สาเหตุ คนขับอาการสาหัต ไม่รู้สึกตัว เพื่อนๆคิดว่าไงครับ จนเรื่องราวนี้ถูกโพสต์ในกลุ่มคนรักหมา
และชาวเน็ตในกลุ่มได้กล่าวว่า สมควรแล้วแหละกรรมสมัยนี้มันตามมาไวไม่ต้องรอชาติหน้าแล้ว บ้างก็บอกว่าเคยเจอแบบนี้มาเหมือนกันและคนกระทำตอนนี้อยู่โรงพยาบาล บ้างก็บอกว่า กรรมทีจริงค่ะ กฎอื่นอาจไม่ยุติธรรม กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ และทางแอดเองก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้เป็นเจ้าของด้วยนะครับ
ที่มา ยังมีวันพรุ่งนี้ เสมอ
แอบอาศัยในบ้านร้างเก็บเศษอาหารประทังความหิว แต่ถ้าเขาเห็นหนูเมื่อไหร่ก็จะถูกไล่ออกมาหมดทั้งแม่ลูก
หากวันนี้เราเกิดความท้อแท้ในใจอยากให้ลองมองดูรอบตัวเราว่าในบางครั้งคนที่จะต้องดิ้นรนต่อสู้กับสิ่งต่างๆรอบตัวในแต่ละวันและแย่กว่าเรานั้นมีอีกมากมาย โชคดีแค่ไหนที่เกิดมาเป็นมนุษย์ที่สามารถพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดได้โชคดีแค่ไหนที่ได้เกิดมามีกินมีใช้ให้อิ่มท้องในแต่ละวัน
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เพราะด้วยชีวิตที่ไร้ผู้คนต้องการ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ปราณี บ้านภูล้อมสวน ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของแม่เหมียวลูกอ่อนตัวนี้และครอบครัวลงในกลุ่มทาสแมว V2 เพื่อที่จะทำการหาบ้านให้กับน้องๆ ซึ่งน้องเป็นแมวจรที่ไม่มีเจ้าของแอบอาศัยในบ้านที่ไม่มีผู้คนอยู่
เก็บหาเศษอาหารที่บางครั้งมีผู้ใจบุญนำมาให้เทให้บ้างเพื่อประทังชีวิต พอจะได้อิ่มบ้างไม่อิ่มบ้างไปในแต่ละวัน อีกทั้งยังมีลูกหลายตัวต้องแยกแบ่งปันกันกิน ซึ่งน้องเพิ่งจะคลอดลูกออกมามีสีขาว 2 ตัวสีขาวปนดำอีก 1 ตัว เด็กๆผอมมากๆเพราะไร้แม้อาหาร อีกทั้งบ้านที่แอบอาศัยก็เป็นหมู่บ้านจัดสรร
แต่เมื่อออกไปขออาหารบ้านไหนก็มักจะถูกขับไล่ออกมาเสมอเห็นแล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้ ซึ่งตัวเธอเองก็ไม่สามารถที่จะรับน้องไปเลี้ยงได้เนื่องจากที่บ้านของเธอเองเลี้ยงหมา 6 ตัวและแมวอีก 2 และก็เกรงใจข้างบ้านซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าตัวเธอเองจะโดนตำหนิเมื่อไหร่ ทุกวันนี้จึงทำได้แค่แอบเอาอาหารไปให้น้องๆ
ในตอนตี 5 ของทุกๆวันจึงอยากจะสอบถามเพื่อนๆว่าจะมีหน่วยงานใดๆที่สามารถจะรับน้องๆไปเลี้ยงหรือช่วยดูแลได้บ้าง จะขอขอบพระคุณเป็นอย่างมากโดยพิกัดที่เธอได้ระบุเอาไว้คือที่หมู่บ้านฟ้าใส ซอย 3 อ.แก่งคอย ต.ตาลเดียว จ.สระบุรี ซึ่งหากเพื่อนคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นและอาหารวันละมื้อสองมื้อให้พวกหนูได้อิ่ม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ปราณี บ้านภูล้อมสวน
เป็นแมวพันธุ์ที่ถูกเลี้ยงแต่อาจหลุด ใช้ชีวิตหนีหัวซุกหัวซุนด้วยฝูงหมา เอาตัวรอดและตามหาผู้ที่เคยเมตตาไม่รู้ว่าตอนนี้ตนอยู่หนใด
ทุกครั้งที่เรามักจะย้ำบอกกับเพื่อนๆให้เลี้ยงสัตว์ในระบบปิด ที่สามารถมีรั้วรอบขอบชิดมิให้พวกเขานั้นได้ออกมาจากบริเวณบ้านหรือบริเวณที่ปลอดภัยได้ เพราะโลกอันกว้างใหญ่ภายนอกนั้นอันตรายมากกว่าที่มนุษย์อย่างเราๆจะเข้าใจ ยิ่งด้วยถ้าเป็นแมวหรือสุนัขที่ถูกเลี้ยงดูมายิ่งแล้วใหญ่
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Bukae Nopparat ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสก็อตติชโฟลด์ ตัวนี้ลงในกลุ่ม รวมหมา-แมวหาย หมา-แมวหลง (เท่านั้น) หลังจากเขาได้พบน้องหลงมาด้วยเนื้อตัวสะบักสะบอม หนีหัวซุกหัวซุนด้วยความหวาดกลัว
เพราะด้วยน้องนั้นเป็นแมวพันธุ์ที่เคยถูกเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก และก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อต้องอยู่กับโลกภายนอกเพียงลำพัง จึงถูกสุนัขจรเจ้าถิ่นรุมฟัดจนแผลเต็มตัว โดยผู้โพสต์ก็เป็นห่วงว่าผู้เป็นเจ้าของของน้องนั้นคงจะเป็นห่วงแย่แล้ว จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่จะตามหาผู้เป็นเจ้าของลงในกลุ่ม
โดยผู้โพสต์นั้นได้ระบุรายละเอียดเอาไว้ว่า น้องเป็นแมวเพศผู้ ตาสีฟ้าหูพับ สะบักสะบอมเพราะโดนฟัดมาทั้งตัว และพิกัดที่ได้พบน้องนั้นอยู่ที่สวนสยาม และล่าสุดผู้โพสต์เองก็ได้มาอัพเดทเพิ่มเติมเมื่อเวลา 22.00น. ด้วยว่าตอนนี้น้องได้ทะลุกรงพังออกไปแล้ว
ซึ่งถ้าน้องยังไม่ได้กลับบ้านแล้วใครพบเห็นเข้าก็รบกวนช่วยเหลือน้องด้วย หรือหากจะนำมาส่งที่บ้านของเธอเองเธอก็ยินดีที่จะพาน้องไปหาหมอและรักษาเพื่อที่จะตามหาผู้เป็นเจ้าของต่อไป โดยหากเพื่อนๆคนไหนอยู่ในระแวกดังกล่าวก็สามารถที่ติดต่อทางผู้โพสต์ได้เลยนะคะ เพราะดูแล้วน้องคงจะแตกตื่นด้วยความหวาดกลัว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bukae Nopparat
2เดือนที่ผ่านมาไม่เคยยินดียินชอบที่รับแมวใหม่มา แต่พอเขาเดินจากไปแทบตรอมใจส่งเสียงร้องช่วยกลับมาที
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Khunchay Bird ได้เผยเรื่อวราวของเจ้าเหมียวที่เขานั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่าพี่หมอก พี่หมอกเป็นแมววัย5ขวบ และช่วงที่ผ่านมามีแมวที่เข้ามาอยู่ในบ้านเป็นการชั่วคราว และพี่หมอกเองก็ไม่ยินดีกับแมวตัวใหม่เลยตลอด2เดือนที่เขาเข้ามา จนกระทั่วในวันที่แมวชั่วคราวต้องออกจากบ้านไป
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรื่องเศร้าของพี่หมอกแมววัย 5ขวบ ผู้เย่อหยิ่งที่ตลอดมาทำเหมือนกับทุกสิ่งบนโลกไม่อยู่ในสายตาของนางเลย ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น วันนี้เป็นวันที่พี่แสดงอาการมากที่สุด กระวนกระวาย ร้องเสียงดังทั่วบ้าน
เหตุเกิดจาก ช่วงโควิดทางบ้านได้รับดูแลแมวชั่วคราว ด้วยระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันกับแมวฝากน้องใหม่ เกือบสองเดือน ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน พี่หมอกไม่ยินดียินร้ายอะไรกับน้อง กิจวัตรคือ กินและนอนเป็นปกติเช่นทุกวัน ไม่ได้เล่นด้วย ไม่ตบ ไม่ขู่
เป็นปกติของพี่หมอก จนวันนี้มาถึง วันที่ส่งน้องแมว กลับคืนให้เจ้าของ หลังจากอุ้มน้องออกไปจากบ้านเพื่อส่งคืน วันนี้เป็นวันที่พี่หมอกมานั่งรอผม หลังเห็นแสงไฟรถถอยเข้าบ้าน พอไม่เห็นน้อง ก็เดินดมทั่วบ้าน พลันวิ่งสลับไปทุกห้องในบ้าน ไม่เว้นห้องน้ำ ดมๆและร้องตลอดเวลา จนต้องมาลูบหัวแล้วบอกว่าน้องกลับบ้านแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าพี่หมอกเข้าใจหรือไม่
แต่พี่หมอกก็ค่อยๆเดินเข้าบ้าน ด้วยสายตาน่าสงสาร หน้าตาดูไม่สดใส พร้อมเสียงร้องเรียกอ่อยๆ ทำเอาตัวทาส น้ำตาเอ่อได้เหมือนกัน ไม่รู้จะบอกจะปลอบพี่ยังไง มีเพียงความสงสารเท่านั้นอ ปล.คอมเม้นกันมาเยอะ ขอแจ้งว่าพี่หมอกมีน้องอยู่ด้วย อีก 1 ตัวนะครับ น้องขุมทองก็เหมือนมาปลอบใจ พี่หมอกอยู่ครับ
ที่มา Khunchay Bird