หน้าแรก บล็อก หน้า 501

วินาทีชีวิตลูกแมวหลงทางเดินเตร็ดเตร่ ไร้ทิศไร้ทางเดินหาแม่เพียงลำพังจนเกือบต้องสิ้นใจ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ไม่เป็นไรครับ ผมชินแล้ว‎ ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอลูกแมวตัวหนึ่ง น้องเป็นลูกแมวตัวน้อยที่เกือบต้องสิ้นใจไป เพราะน้องดันมาเดินชิดติดกับถนนใหญ่เหมือนกำลังเดินตามหาแม่อยู่ ถ้าหนุ่มผู้โพสต์มองไม่เห็นน้องอาจต้องจบชีวิตลงก็ได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เกือบไปแล้วมั้ยลูกเอ้ย แต่โชคยังดีนะหักรถคร่อมน้องได้ทัน ถ้าจะเอากลับไปเลี้ยงที่บ้านไม่รู้ว่าจะเข้ากับตัวอื่นๆได้มั้ย โดยทางผู้โพสต์ได้พบเจอน้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในตอนที่เขานั้นกำลังกลับกรุงเทพฯ ถ้าเขาไม่มีสติในการขับรถ หรือไม่ทันได้มองว่าน้องกำลังเดินอยู่ที่กลางถนนตอนนี้น้องคงสิ้นใจไปแล้ว แต่เบื้องต้นทางผู้โพสต์จะพาน้องกลับบ้านไปอยู่ด้วยกันก่อนที่กรุงเทพ คงจะได้เลี้ยงน้องจริงๆ เพราะด้วยที่เขาก็เป็นทาสแมวคนนึงด้วย จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีเหล่าทาสแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวชื่นชมกับสัตว์ตัวน้อยๆ ที่ใครหลายคนอาจไม่เห็นค่าแต่สำหรับตัวเขาแล้วน้องก็หนึ่งชีวิต ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนั้นน้องคงไม่รอดอย่างแน่นอน เพราะเส้นทางนี้รถที่ผ่านไปมาก็มีจำนวนมาก ที่มา ไม่เป็นไรครับ ผมชินแล้ว‎

ถูกไล่ให้อยู่นอกห้องตั้งแต่เย็น ไม่มีแม้ข้าวหรือน้ำจะตกถึงท้องส่งเสียงร้องอ้อนวอนขอเพียงน้ำสักอึก

ด้วยการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสิ่งหนึ่งที่เรามักจะย้ำบอกทุกครั้งว่าการที่จะนำแมวหรือสุนัขมาเลี้ยงสิ่งที่เราควรจะมีคือการเตรียมความพร้อมเพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นก็เหมือนกับการที่เรานำเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยงซึ่งพวกเขาจะค่อยๆที่จะเรียนรู้และเติบโตในเวลาต่อมาจนเข้าสู้ช่วงโตเต็มทีพวกเขาถึงจะพูดรู้เรื่อง ซึ่งหากเพื่อนๆไม่เตรียมความพร้อมหรือไม่ใส่ใจในรายละเอียดในการเลี้ยงดูสั่งสอนพวกเขาก็จะเติบโตมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดื้อแล้วไม่ฟังแล้วซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mix Amonthep Sangkul ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ลงในกลุ่ม ชมรมคนรักแมวเหมียว หลังจากที่เขานั้นได้พบน้องร้องเรียกส่งเสียงดังตั้งแต่ตอนเย็นๆ ซึ่งเจ้าของของน้องนั้นไม่ยอมให้เข้าห้องหรือว่าอย่างไรเขาก็ไม่แน่ใจแต่น้องส่งเสียงร้องดังมากๆจนเขานั้นต้องเปิดประตูออกมาดู และด้วยเขาเองก็เคยเห็นว่าเจ้าของแมวรายนี้ก็เคยทำร้ายเจ้าเหมียวให้เขาได้เห็นแบบต่อหน้าต่อตา ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยน้องยังไงดี เพราะตัวน้องเองก็ได้แต่ส่งเสียงร้องอ้อนวอนผู้เป็นเจ้าของให้เปิดประตูให้ไม่รู้ว่าน้องได้ไปทำอะไรมาผิด แต่ที่แน่ๆเลยคือน้องไม่มีแม้น้ำหรืออาหารที่จะตกถึงท้องเพราะน้องถูกปล่อยไว้แบบนี้ตั้งแต่เย็นจนในตอนนี้ก็เป็นเวลาตี 3 เข้าไปแล้วแต่น้องก็ยังไม่ได้เข้าห้องแต่อย่างใดเลย เขาจึงได้ตัดขวดน้ำเทใส่ให้น้องประทังความหิวไปก่อน ซึ่งเขาก็ได้นำไปวางไว้ให้กับน้องแต่ทว่าเมื่อเขาได้เดินกลับมายังห้องตัวเองแล้ว น้องกลับเดินตามเขากลับมาด้วยและพยายามที่จะเอาอุ้งมือมาขวางประตูเอาไว้ราวกับว่าจะขอเข้าห้องตามไปด้วย ซึ่งตัวเขาเองก็เลยเปิดประตูให้น้องเข้ามาเล่นในห้องสักพักแต่ก็ไม่สามารถที่จะให้น้องนอนด้วยได้เพราะกลัวว่าเดี๋ยวทางผู้เป็นเจ้าของเขาจะหาว่าไปขโมยแมวของเขา โดยเมื่อเล่นพักใหญ่ๆเขาก็ได้นำน้องออกไปไว้ที่เดิมซึ่งก็สงสารแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จึงได้อยากนำเรื่องราวมาโพสต์บอกเล่าในฐานะคนรักแมว โดยหากคิดจะเลี้ยงแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรที่จะทำแบบนี้กับสัตว์เลี้ยงเพราะอย่าได้ลืมไปว่าพวกเขานั้นมีสมองเทียงเท่ากับเด็กเพียงอายุ 2 ขวบเพียงเท่านั้นเขาจะรู้เรื่องได้อย่างไรว่าตัวของเขาเองได้ทำอะไรผิด ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mix Amonthep Sangkul

หอบลูกแอบอาศัยนอนหลังคา เจ้าของบ้านเขาเอาหนังสติ๊กไล่ ด้วยไร้ที่อยู่อาศัยจะทำยังไงให้ลูกได้อยู่สุขสบาย

ด้วยรักของคำว่าแม่นั้นยิ่งใหญ่นักซึ่งเราคงจะหาอะไรมาเปรียบกับความรักที่แม่มีให้ต่อลูกน้อยไม่ได้ และเชื่อว่าทุกๆคนเองก็คงจะเข้าใจกับคำว่าหัวอกของคนเป็นแม่ดีอยู่แล้วซึ่งทุกคนที่ได้เกิดมาจากผู้เป็นแม่ที่ให้กำเนิดคงจะรู้ว่าบนโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดที่ผู้เป็นแม่ยอมทำให้ลูกอย่างเราๆไม่ได้อย่างแน่นอน และก็ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์อย่างเราๆเพียงเท่านั้นแม้แต่สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กก็ยังมีความเป็นแม่ไม่ต่างกันเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nart Isara ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวเหล่านี้ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เขาได้พบพวกน้องถูกแม่แมวพาแอบขึ้นไปอาศัยอยู่บนหลังคาบ้านคนอื่นเขา ด้วยน้องๆเป็นแมวจรแต่ทว่าเจ้าของบ้านเขากลับไม่ชอบแมวเพราะพวกน้องๆไปนอนบนบ้านของเขา เขาจึงเอาไม้ไล่พวกน้องๆแถมยังถูกเขาจ้องเล่นงานถึงขนาดลงไม้ลงมือเลยก็มีและเมื่อไม่นานมานี้แม่ของพวกน้องๆก็ถูกหนังสติ๊กที่เอาไว้ไล่นกเอามาดีดใส่แม่แมวเมื่อ 3-4 วันก่อนอีกด้วย โดยหลังจากนั้นแม่แมวก็หายไปเลย ทำให้พวกเด็กๆที่เหลือจำต้องอดด้วยยังเล็กจึงไม่สามารถที่จะลงไปหาอาหารกินกันเองได้และต้องติดอยู่บนนั้น ซึ่งตัวผู้โพสต์เองก็ไม่สามารถที่จะออกตัวไปช่วยเหลือเด็กๆได้เพราะอาจจะมีปัญหาตามมาได้เพราะด้วยบ้านใกล้เรือนเคียง อีกทั้งยังเคยมีประเด็นเมื่อปีก่อนก็มีพี่คนนึงมาให้อาหารน้องแมวซึ่งบ้านดังกล่าวก็เขาว่าห้ามไม่ให้ให้ข้าวน้อง จึงอยากให้เพื่อนๆหรือหน่วยงานใดเข้าช่วยเหลือน้องทีเพราะในระแวกบ้านก็ยังมีแมวจรอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเธอได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ แถมเทอดไท ธนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งหากเพื่อนๆท่านไหนสนใจอยากจะรับพวกเด็กๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nart Isara

แอบอาศัยในโรงงาน แต่ถูกเขาเอาเท้าเขี่ยเอาเท้าเตะเพราะไม่ชอบ แต่ด้วยเกิดมาเป็นจรเลยต้องจำใจทน

เพราะมนุษย์อย่างเราๆนั้นเกิดมามีหัวใจที่แตกต่างกันด้วยการเลี้ยงดูการศึกษาหรือสภาวะทางสังคมที่เติบโตมา ทำให้มนุษย์บางคนนั้นมีจิตใจที่เมตตาต่อสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ แต่กลับกันในบางคนนั้นกลับไม่มีจิตใจที่เมตตากับสัตว์เหล่านี้เลยแม้แต่น้อย เพราะด้วยสภาพวะทางจิตใจที่ถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เด็ก เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Winai Yudee ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ลงในกลุ่ม คนเลี้ยงแมว หลังจากที่เธอนั้นพบน้องถูกคนจิตใจร้ายรังแกด้วยเพราะเกิดมาเป็นแมวจร ซึ่งน้องนั้นอาศัยแอบนอนอยู่ในโรงงานที่เธอได้อยู่ แต่ทว่าก็มากผู้หลายคนและในหลายๆคนก็ไม่มีใครเขาชอบแมว จึงเอาเท้าเขี่ยเอาเท้าเตะเพื่อที่จะไล่น้อง โดยเธอยังได้บอกอีกด้วยว่าในบางวันนั้นถึงขนาดเห็นคนงานเข็นรถเพื่อทับหางจนน้องกระโดดตัวลอย ซึ่งด้วยตัวเธอเองก็อยากที่จะช่วยเหลือน้องแต่ทว่า เธอก็กลัวว่าจะเข้ากับแมวที่บ้านของเธอไม่ได้จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ยังกลุ่มดังกล่าวเพื่อหวังว่าจะมีใครที่พอจะมีพื้นที่และความเมตตาในหัวใจให้กับน้องเหมียวรายนี้ เพราะหากปล่อยน้องเอาไว้แบบนี้น้องก็คงจะได้รับบาดเจ็บเข้าสักวัน อีกทั้งชีวิตนั้นเลือกไม่ได้เพราะถ้าออกไปอยู่ที่อื่น ก็จะต้องพบเจอกับอันตรายจากโลกภายนอกจึงจำต้องอยู่ในนี้แม้ตัวจะโดนรังแกหรือรังเกียจมากเพียงไหน เพราะชีวิตที่เลือกไม่ได้ ซึ่งเมื่อหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ทางผู้โพสต์ก็ได้มาอัพเดทเพิ่มเติมด้วยว่าน้องได้บ้านหลังใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้วไม่ต้องมาทนอยู่ในโรงงานดังกล่าวอีกต่อไป ซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆเอาไว้สำหรับคนที่ไม่ชอบหรือไม่รักสัตว์อยากจะให้มองว่าพวกเขาคือสิ่งมีชีวิตเหมือนกับเราพวกเขาสามารถเจ็บร้องได้เหมือนกับเด็กถ้าไม่รักไม่ชอบพวกเขาก็อย่าไปทำพวกเขาเลย ขอขอบคุณข้อมูลจาก Winai Yudee

แอบหลบในป่าอ้อย พอเจอคนรีบวิ่งมาหาด้วยความดีใจกับความหวังที่จะมีบ้านสักครั้ง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Benyatip Simjaroen ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่ง ที่มีคนพบเจอเข้าอยู่ในป่าอ้อยข้างทาง น้องตัวยังเล็กและต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว พอน้องเจอคนเข้าน้องรีบวิ่งมาหาด้วยความเอ็นดูจนกระทั่งเรื่องราวนี้ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า หาบ้านค่ะ! ให้เจ้าตัวเล็ก พอดีมีคนเก็บมาได้จากป่าอ้อย นางรีบวิ่งมาหาม๊าเลย บอกเก็บมาน่าจะมีคนเอามาปล่อยเอาไว้ แต่ม๊าเลี้ยงไม่ได้แล้วจริงๆ ม๊าเป็นภูมิแพ้คันตา แต่ไม่สามารถเลี้ยงได้ และที่เลี้ยงค่อนข้างจำกัด สงสารน้องมาก ถ้าไม่เอาน้องมาหาพี่ๆใจดีในกลุ่ม คนที่เอามาให้เค้าจะเอาไปปล่อยที่วัด เราสามารถส่งให้ได้ฟรี เขตปริมณฑล ท่ามะกา นครปฐม ราชบุรีค่ะ น้องเป็นตัวเมียนะคะ และล่าสุดหลังโพสต์นี้ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์น้องได้บ้านแล้วนะคะ ขอบคุณพี่ใจดีด้วยค่ะถ้าพี่เค้าไม่รับยังไง เดี๋ยวมาแจ้งอีกทีนะคะ น้องเป็นแมวสามสี่ที่เหล่าทาสแมวต่างเห็นเข้าในโลกออนไลน์ และโพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์ไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงน้องก็ได้บ้านในที่สุด ต้องขอขอบคุณเหล่าทาสแมวด้วยนะครับที่เอ็นดูในตัวน้อง ต่อไปนี้น้องจะได้ไม่ต้องนอนในป่าอ้อยข้างทางอีกแล้ว   ที่มา Benyatip Simjaroen

หอบลูกหอบเต้ามาหลบฝนข้างในซอย คลอกก่อนนั้นก็ถูกรถทับจนไม่เหลือ เพราะด้วยเกิดมาเป็นแมวจรในโลกใบใหญ่

ด้วยชีวิตที่เกิดมาไร้ที่พึงพาพึ่งอาศัยทำได้แค่ขอให้รอดพ้นไปในแต่ละวัน ยิ่งซ้ำเกิดมาเป็นแมวจรที่ต้องมีลูกตัวน้อยๆจะไปไหนมาไหนก็ต้องหอบกระเตงลูกตัวน้อยด้วยปกป้องให้ปลอดภัย ด้วยชีวิตที่ไร้คนต้องการเพราะเกิดมาไม่ได้เป็นที่ต้องการเหมือนอย่างใครๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Worakarn Yuii ได้นำเรื่องราวของแม่แมวตัวนี้มาโพสต์ลงยังในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เขาได้พบน้องมาขอแอบอาศัยหอบกระเตงลูกเข้ามาอยู่ในซอยเพื่อที่จะหลบฝน ซึ่งน้องเคยมีลูกมาก่อนหน้านี้แล้วแต่น่าจะถูกรถทับจนสิ้นใจ โดยคอกนี้ก็เพิ่งจะได้เริ่มโตไม่เท่าไหร่จึงพาลูกๆมาหลบฝนไว้ในซอยบ้านซึงซอยดังกล่าวก็เป้นหน้าบ้านของเจ้าของโพสต์และเจ้าของโพสต์เองก็กลัวว่าถ้าลูกของน้องโตกว่านี้กลัวว่าแม่ของน้องๆจะพาลูกออกไปอยู่นอกซอยด้วยนอกซอยนั้นก็มีรถเยอะกลัวว่ารถจะทับจนสิ้นใจเหมือนกับคอกที่แล้ว จึงอยากหาบ้านให้พวกน้องๆในระบบที่ปิดแค่พอจะมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นบ้างภายในบ้าน อีกทั้งก็อยากจะให้พวกน้องๆหย่านมกันก่อนจึงพร้อมที่จะนำส่งและสามารถอัพเดทความเป็นอยู่ของน้องให้ดูได้เรื่อยๆ โดยพิกัดที่พวกน้องๆได้อยู่นั้นทางผู้โพสต์ได้แจ้งว่าอยู่แถว เดอะมอท่าพระ ตลาดพลู โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับพวกหนูๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ยังเจ้าของโพสต์ ขอเพียงแค่ความเมตตาที่แม่มีให้ลูกๆให้ได้อยู่อยากมีความสุขไม่ต้องมาหอบกระเตงกันไปมาเพราะไหนจะหมาไหนจะคน และผู้โพสต์ยังแจ้งอีกด้วยว่าสามารถนำส่งให้ได้ภายในเขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ขอขอบคุณข้อมูลจาก Worakarn Yuii

พากันหนีหมาขึ้นต้นไม้หลังสวน เพราะเกิดมาเป็นแมวจรแม่พามาขออาศัย ด้วยชีวิตที่เลือกจะเกิดไม่ได้

ด้วยชีวิตที่เลือกจะเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมาพบเจอกับชะตากรรมที่ฟ้าลิขิตเอาไว้ ยิ่งถ้าเกิดเป็นสัตว์ที่ตัวเล็กไม่สามา่รถที่จะไปพูดหรือร้องบอกใครเขาได้ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะตัวก็ยังน้อยไม่รู้ประสีประสาเหมือนใครๆ ด้วยชีวิตที่เกิดมาเป็นแค่สัตว์จรไร้แม้ที่จะให้หลบฝนหรือพักพิง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mookmix Thaweepong ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวเหล่านี้ลงในกลุ่ม ชมรมแมวสายดาร์ก หลังจากที่พบน้องมาแอบขออาศัยอยู่ที่บนเล้าข้าวของเขา ซึ่งเธอยังได้เล่าอีกว่าในทุกๆปีจะมีแม่แมวจรพาลูกมาขออาศัยอยู่แบบนี้ตลอด แต่ทว่าด้วยบ้านของเธอเองก็ได้เลี้ยงสุนัขซึ่งเป็นในระบบที่เปิดทำให้ลูกเหมียวตัวน้อยๆต้องคอยหลบคอยซ่อนจากเจ้าสุนัขตัวใหญ่ที่มักจะมาคอยแกล้ง เธอจึงอยากที่จะให้พวกน้องๆมีบ้านอยู่อย่างปลอดภัยไร้ที่ต้องกังวลใจเช่นนี้อีก เพราะในแต่ละทีที่พวกน้องๆต้องคอยวิ่งหลบขึ้นต้นไม้ เมื่อได้เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารจับใจอีกทั้งเธอก็ยังคงสงสารเด็กๆ เพราะด้วยเหตุผลที่เธอก็มีหมาจึงทำได้เพียงแค่คอยเทข้าวเทอาหารวางไว้ให้พวกนางได้กิน ซึ่งน้องๆก็ยังคงที่จะกลัวผู้คนและหวาดระแวงจึงไม่ให้จับด้วยแม้แต่แค่จะถ่ายรูปพวกนางก็หนีกระเจิงไปหมดแล้ว ซึ่งทั้งนี้เธอจึงได้นำเรื่องราวนี้มาโพสต์ลงในกลุ่มเพื่อหวังว่าจะมีเพื่อนๆใจดีที่พอจะมีพื้นที่และความเมตตรับพวกหนูน้อยน่ารักเหล่านี้ไปเลี้ยงด้วยความเอ็นดูโดยเธอได้ระบุพิกัดที่น้องได้อยู่เอาไว้ที่ บ้านดุง จังหวัดอุดรธานี และหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอบคุณข้อมูลจาก Mookmix Thaweepong

สุนัขที่เขาไม่ต้องการ ถูกเขาใส่กระสอบนำมาวางไว้ที่ตีนเขา แม้จะแสนรู้แต่ก็ไม่ใช่ที่ต้องการของใครๆ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Rak Sujinda ได้เผยเรื่องราว ของเจ้าบูลี่ เจ้าบูลี่เป็นหมาจรที่ทางผู้โพสต์เล่นด้วยกันทุกวัน ตั้งแต่น้องอายุไม่ถึง 2 เดือน แต่จู่ๆน้องกลับถูกเขาใส่กระสอบแล้วเอาไปปล่อยไว้ แม้ว่าน้องจะไม่ใช่หมาของเธอก็ตาม แต่เธอก็พยายามตามหาหวังลึกๆว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง ถ้าเจอกันจะตั้งใจเลี้ยงอย่างดี . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มองทีไรก็ชื่นใจ ที่ต่อชีวิตให้ 1 ชีวิต น้องหมาตัวนี้มีชื่อว่าบูลี่ เราเจอตอนไปออกกำลังกายที่สถานที่ราชการแห่งหนึ่ง เจอน้องตั้งแต่น้องอายุได้ประมาณ 2 เดือนเล่นด้วยกันทุกวัน เรามีหมาที่บ้านเยอะแล้วเลยพยายามหาบ้านให้แต่ไม่มีคนสนใจ พอไปอีกทีมีคนบอกเขาเอาน้องใส่กระสอบไปปล่อยที่ตีนภูเขา เราพยายามออกตามหาแต่ไม่เจอเพราะไปผิดฝั่ง ไม่ชินกับพื้นที่ จนประกาศให้ชาวบ้านช่วยกันตามหา พอผ่านไป 2 วันชาวบ้านพบน้องนั่งสภาพอิดโรย บริเวณตีนภูเขา น้องนั่งเหม่อลอยข้างถุงกระสอบที่เขาเอามาปล่อย โดยตัวน้องนั้นสภา​พแย่มากเพราะขาดข้าวและน้ำ ทันทีที่ชาวบ้านเจอตัวเขารีบตามเราไปดู น้องหมาเจอเราก็ร้องไห้น้ำตาไหลเหมือนกับเด็กน้อยเจอแม่เพราะจำเราได้ ปัจจุบันน้องอยู่ด้วยกันมา 1 ปีครึ่ง รักมาก ทำหมัน อาบน้ำ นอนในบ้านเป่าพัดลม ทั้งรักทั้งสงสารเลยค่ะ จนเรื่องราวของเจ้าบูลี่ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมกล่าวว่าขอบคุณทางสาวผู้โพสต์ที่ช่วยเหลือน้อง บ้างก็บอกว่าอ่านไปลุ้นไปนางโชคดีเหลือเกินที่เจอคนใจดี บ้างก็บอกว่าเป็นบุญของน้องและตื้นตันอย่างบอกไม่ถูกแม้เราจะไม่รู้จักกันแต่สิ่งที่คุณทำมันยิ่งใหญ่เหลือเกิน ที่มา Rak Sujinda

เป็นลูกแมวจรต้องปีนต้นไม้เพื่อรักษาชีวิต ตัวยังเล็กจะวิ่งหนีเขาก็ทำไม่ได้ ต้องดูแลกันและกันไร้แม่ค่อยดูแล

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Mookmix Thaweepong ได้เผยเรื่องราวของเหล่าลูกแมวจรตัวน้อย ที่ต้องปีนต้นไม้ขึ้นไปนอนอยู่ข้างบนเพราะรักษาชีวิตของตัวเอง เพราะน้องๆเหล่านี้ต้องหนีหมาขึ้นไป ถ้าหากนอนข้างล่างก็จะโดนหมาไล่ ตัวก็ยังเล็กจะวิ่งหนีใครๆเขาก็ทำไม่ได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวจรพากันหนีหมาที่มาจากสวนขึ้นต้นไม้ สงสารพวกนางมากๆ คือเราช่วยอะไรไม่ได้เลย มีหมา 3 ตัว อีก 2 ตัวจะเอาไปนา แต่อยู่บ้านอีกตัวนึง น้องต้องปีนต้นไม้เพื่อหนีหมาเพราะตัวยังเล็ก และดูเหมือนน้องๆจะเป็นพี่น้องคลานตามกันมา และล่าสุด : ทางสาวผู้โพสต์ได้กลับไปเดินดูยังที่ต้นมะม่วงและพื้นที่รอบๆอีกครั้ง และพบว่าน้องๆพากันหนีไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้น้องนั้นอยู่ที่ไหน เพราะน้องๆเองคงรู้ดีว่าพื้นที่ตรงนี้ไม่ปลอดภัยแถวนี้ก็มีแต่หมาใหญ่ พิกัด บ้านดุง อุดร จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมยื่นมือเข้ามาช่วย หลายท่านก็อยากรับเหล่าลูกแมวไปเลี้ยงเพราะสงสาร ส่วนแม่แมวก็ต้องวิ่งหนีเพราะถูกเขาไล่ แถมลูกแมวเองก็ไม่ไว้ใจผู้ใดถ้าอยากจะรับน้องไปเลี้ยงจะต้องจับตัวน้องให้ได้ก่อนแหละเนอะ   ที่มา Mookmix Thaweepong

ที่สุดของความซื่อสัตย์ เจ้าทอมๆหมาในซอยบ้านช่วยชีวิตที่ไม่คิดว่าหมาตัวนึงจะทำให้ได้

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Starcute Ratthaphongwarakorn ได้เผยเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าตูบตัวหนึ่ง น้องเป็นหมาแถวบ้านที่มีเจ้าของ แต่นางรักอิสระไม่ชอบอยู่บ้าน และดูเหมือนนางจะชอบทางสาวผู้โพสต์เป็นพิเศษ จนกระทั่งกระเป๋าของสาวผู้โพสต์หายไป.... โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เราประทับใจหมาตัวนี้มากเลย เราเคยโชว์รูปที่กะละมังข้าวน้องแตกแล้วน้องเสียใจ จริง แล้วน้องมีเจ้าของ แต่นางอินดี้ นางรักสันโดด ชอบใช้ชีวิตในโลกกว้าง....แต่นางหนีออกจากบ้านมาอยู่ซอยบ้านเรา นางได้รับการดูแลจากเรา ข้าวปลา อาหาร น้ำขนม อาบน้ำ ได้รับวัคซีนตามที่ควรจะได้รับเหมือนกับหมาบ้านทั่วๆไป เจ็บป่วยได้รับการรักษาดูแลอย่างดี พอเมื่อวาน เราทำกระเป๋าเงินหายตกในซอยบ้าน เป็นเงินกินทั้งสัปดาห์ของเรา นางคาบมาแล้วมาล้อมหน้าล้อมหลัง เราประทับใจนางมากๆเลย ความประทับใจที่สองคือ เวลาเราพาหมาบ้านเราไปเดินเล่น นางก็จะคอยวิ่งนำหน้าเราเสมอ เพื่อคอยกันไม่ให้หมาตัวอื่นเข้ามาใกล้เรา นางจะกันให้ตลอด ดูแลความปลอดภัยให้ตลอด และเย็นนี้เองเราจะไปตบรางวัลให้กับนางเป็นไก่ย่าง 5 ดาวสัก ลืมบอกไปเลยนางมีชื่อว่าทอมๆ   ที่มา Starcute Ratthaphongwarakorn