ไร้เรี่ยวแรงจะขยับตัว เพราะป่วยจนเดินไม่ไหวได้แต่นอนรอวันสิ้นใจ ชีวิตนี้จะพบไหมใครช่วยที
หากในวันนี้คุณท้อในสิ่งที่คุณได้พบเจออยากจะให้ลองมองดูอีกหลายๆชีวิตที่ได้เกิดมาและพบเจอกับสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคุณ เพราะด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ให้หลายๆชีวิตต้องเกิดมาพบเจอกับชะตากรรมที่โหดร้ายซึ่งทำให้บางรายเจ็บจนถึงขนาดที่เรียกได้ว่าลุกเดินไม่ไหวยิ่งด้วยเกิดมาเป็นสัตว์ที่ไร้แม้ใครจะเมตตา
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ponthe Jutatip Yoo ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องเข้า ในขณะที่น้องนั้นตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มากๆด้วยเนื้อตัวที่ผอมมาก แถมยังมีขี้ตาจนแทบมองไม่เห็นทางไร้แม้เรี่ยวแรงที่จะขยับตัวด้วยตัวที่ผอมแห้ง
ซึ่งตัวน้องเองก็ไม่สามารถที่จะขยับไปไหนได้เลย และด้วยตัวเธอเองก็ไม่สามารถที่จะพาน้องไปรักษาได้ในตอนนั้นเธอจึงเลือกที่จะถ่ายรูปน้องและนำมาลงยังโลกออนไลน์เพื่อที่จะหาคนเข้าช่วยเหลือน้อง โดยพิกัดที่เธอให้เอาไว้คือหน้าหอ เคทีเกสเฮ้าส์ ในซอยห้วยขวาง โดยช่วงเวลาที่เธอได้เจอน้องนั้น
เธอได้ลงเอาไว้เป็นเวลาที่ 9.35น. และเมื่อหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปแล้วก็ได้มีเพื่อนๆใจดีพยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือน้อง แต่ทว่าเมื่อไปยังสถานที่ดังกล่าวแล้วกลับไม่พบน้อง ซึ่งทางผู้ที่เข้าช่วยเหลือเองก็ได้พยายามที่จะเดินตามหาจนทั่วบริเวณดังกล่าวแล้ว
แต่ก็กลับไม่พบน้องแต่อย่างใด ซึ่งทั้งนี้ผู้เข้าช่วยเหลือเองก็ยังได้บอกอีกด้วยว่าในบริเวณดังกล่าวนั้นมีแมวจรเยอะมากๆด้วยแถมยังมีลูกแมวตัวเล็กๆอีกหลายตัว และเขาก็ได้นำอาหารที่ติดมือไปด้วยให้กับลูกแมวเด็กแต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ก็ยังไม่พบน้องเช่นเดียวกับซึ่งหากเพื่อนคนไหนอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว และมีจิตใจที่เมตตาก็อยากจะวอนเข้าไปช่วยกันตามหาและช่วยเหลือน้องทีเพราะถ้าปล่อยไว้น้องคงจะไม่รอดแน่ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Ponthe Jutatip Yoo
ถูกเขาพรากลูกไปจากอกหลังถูกปล่อยไว้นานสัปดาห์แม้ยุงจะกัดรถจะเยอะก็ไม่ห่างจากที่เดิม
หากจะพูดถึงเรื่องหัวอกของคนเป็นแม่แล้ว เชื่อว่าส่วนใหญ่ผู้หญิงอย่างเราๆทุกคนล้วนมีความเป็นแม่กันอยู่แล้วอย่างเต็มเปี่ยมซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องของการรักลูกของตัวเองแล้วคงไม่มีใครยอมที่จะถูกพรากลูกของตัวไปจากอกของผู้เป็นแม่อย่างแน่แท้ แล้วถ้าซึ่งเป็นสุนัขล่ะ
สัตว์ที่เกิดมาไม่สามารถที่จะพูดหรือร้องบอกใครเขาได้ ถ้าเกิดว่าถูกพรากลูกไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาจะสามารถเรียกร้องสิ่งใดได้ในเมื่อไม่มีเสียงเรียกร้องบอกใครเขา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้แฟนเพจเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thai Love Animal ช่วยสัตว์ สุนัขและแมวจรจัด
ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้หลังจากที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คได้แจ้งเรื่องราวเข้ามาหลังจากที่พบน้องซึ่งเป็นสุนัขแม่ลูกอ่อนที่ถูกนำมาปล่อยเอาไว้ข้างถนนอย่างเดียวดาย โดยน้องมีหน้าอกที่ยานโตงเตงด้วยเสมือนว่าเพิ่งจะมีลูกได้ไม่นานนัก แต่ทว่าก็ไม่เห็นลูกสุนัขแต่อย่างใด
โดยในตอนนี้ก็เป็นเวลาผ่านไปกว่า 6-7 วันแล้วซึ่งน้องก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิมด้วยใจหวังว่าผู้เป็นเจ้าของจะกลับมาพาไปหาลูกด้วยหัวอกแม่ที่คงจะคิดถึงลูกตัวน้อยๆของตนเอง ซึ่งน้องก็อาศัยหลบอยู่เอาตามป่าข้างถนน แต่ผู้พบเห็นก็กลัวว่าน้องจะถูกรถชนเพราะน้องจะออกมานอนหลบยุงอยู่ที่ข้างถนนในทุกวัน
อีกทั้งคงจะคิดว่าถ้าเจ้านายจะกลับมารับแล้วไม่เจอแถมยังคงหวาดกลัวผู้คนด้วยการตื่นตระหนกไม่รู้ตัวว่าตนนั้นอยู่ที่ไหนยังคงเฝ้าคอยทุกค่ำคืนไปหวังด้วยใจว่านายจะกลับมา ซึ่งผู้โพสต์นั้นได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ว่า ถนนสวนส้ม ตรงข้ามกับตำแซ่บสาขาบ้านเกาะ จ.สมุทรสาคร ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงหรือพอจะรู้จักผู้เป็นเจ้าของเผื่อว่าน้องจะหลงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Thai Love Animal ช่วยสัตว์ สุนัขและแมวจรจัด
เกิดเป็นจรอาศัยอยู่ในตลาด กลับถูกน้ำร้อนราดใส่เพราะเห็นว่าเป็นแค่แมวจรไร้ชีวิตจิตใจ
ด้วยการรักหรือการชอบสัตว์เลี้ยงนั้นก็ขึ้นอยู่กับบุคคลในสภาวะที่ได้เติบใหญ่และได้เติบโตมาว่าแต่ละคนนั้นได้เติบโตมาในสังคมแบบไหน อีกทั้งการเลี้ยงดูสั่งสอนของผู้เป็นพ่อเป็นแม่นั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าสิ่งใด ยิ่งถ้าบ้านไหนได้เลี้ยงสัตว์กับลูกๆและเติบโตมาด้วยกันก็จะยิ่งมีหัวใจที่มีจิตใจเมตตา
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Jaruwan Jarujit ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังเพื่อนของเธอได้ไปพบน้องเข้าตอนกำลังที่ถูกป้าคนนึงทำกับน้องที่ตลาดนัดในซอยสยาม ซึ่งเพื่อนของเธอนั้นได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า พบป้าคนนึงแกใช้น้ำร้อนที่กำลังเดือด
ราดเข้าไปใส่ที่หางของน้องแมวตัวนี้จนทำให้มีอาการที่เห็นตามในรูปภาพ ซึ่งขนของน้องนั้นหายไปหมดเหลือแต่เนื้อที่เห็นผิวหนัง แต่ก็ไม่รู้ได้เลยว่าป้ารายนี้นั้นมีเหตุผลอะไรทำไมถึงทำแบบนี้กับน้องลงไปได้ แต่ที่แน่ๆเลยคือป้ารายนี้ใจจิตใจแย่มากที่สามารถทำต่อสัตว์ร่วมโลก
หรือชีวิตเล็กๆหนึ่งชีวิตนี้ลงไปได้ ซึ่งเมื่อได้เห็นแบบนั้นเพื่อนของเธอก็อดที่จะสงสารน้องไม่ได้แต่ก็ไม่สามารถที่จะช่วยน้องได้เลยด้วยเหตุผลส่วนตัว จึงทำได้เพียงแค่ถ่ายรูปน้องมาลงในกลุ่มเพื่อที่จะหาคนเข้าช่วยเหลือเพราะจากสภาพการณ์แล้วน้องคงต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก
และอีกทั้งอยากจะให้ช่วยพาน้องไปรักษาและนำพาหาบ้านให้กับน้องจะได้ไม่ต้องถูกคนกระทำแบบนี้ได้อีก ซึ่งทั้งนี้หากมีเพื่อนๆคนไหนที่อยู่ที่ พิกัดตลาดนัดซ.สยามหรือบริเวณใกล้เคียงที่พอจะเข้าช่วยเหลือน้องได้ก็วอนเข้าไปช่วยเหลือน้องทีก่อนที่น้องจะถูกกระทำไปมากกว่านี้ ซึ่งหากเพื่อนๆต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Jaruwan Jarujit
แมวที่บ้านชอบหลุด แถวบ้านก็มักมีแมวจรมาดักซุ่มหวังมีเมีย จนกระทั่งจู่ๆแมวของเขาก็ตั้งท้อง
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nat Porramat ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้เลี้ยงแมวตัวเมียเอาไว้ในบ้านกว่า 3 ตัว แต่จู่ๆแมวที่บ้านกลับตั้งท้องปริศนา จนกระทั่งไม่นานมานี้เขาพบว่าแม่แมวของเธอให้กำเนิดลูกน้อยกว่า 3 ตัว แถมลายมีความคล้ายเสือปลาเพราะชาวบ้านเขาเล่าให้ฟัง....
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า รบกวนสอบถาม แบบนี้เรียกลายสลิดมั้ยครับ "พอดีกำลังรู้สึกสงสัย ในพ่อของมัน"
ผมต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าบ้านผมไม่ได้เลี้ยงแมวตัวผู้ ส่วนแมวผมนั้นจะมีตัวเมีย 5 ตัว แต่สิ้นใจไปโดนอะไรฟัดจากไป 2 ตัว แต่นานแล้ว
ที่เหลือ 3 ตัว เลยต้องเลี้ยงไว้ในกรง แต่มันชอบหลุดออกจากกรงอยู่บ่อยๆ พอวัน 2 วัน ผมก็เอาเข้ากรงเหมือนเดิม แถวๆบ้านจะเป็นป่าอ้อย และป่า ใกล้ๆกันจะชอบมีแมวตัวผู้ ลายสีขาวเหลือง และสีเทา-ขาว มาวนเวียนอยู่นานๆมาที และใกล้ๆกันนั้น จะมีแมวดาวหรือเสือปลานี่แหละครับ ชอบอาศัยอยู่ นานๆชาวบ้านจะเจอที
จนเรื่องราวของน้องและลูกๆถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ด้านชาวเน็ตได้กล่าวว่าทำไมเชื้อพ่อมันแรงขนาดนี้ ไม่ได้แม่เลยสักตัว บ้างก็บอกว่าชัดเลยคุณทาสมีโอกาสได้อุ้มเสือปลาตัวเป็นๆ บ้างก็บอกว่าแน่ใจนะว่าเสือปลาอิฉันคิดว่าน่าจะเป็นแมวสลิดมากกว่า แต่ติดใจตรงแม่แมวนี่แหละทำไมไม่ได้ลายแม่มาเลย ฮ่าฮ่าฮ่า
ที่มา Nat Porramat
นอนกอดกันกลม เหมือนรู้ว่าเจ้าของกำลังแย่ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มีหลังมีคำสั่งเด็ดขาดให้แมวออกภายใน3วัน
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Natna Amornkul ได้เผยเรื่องราว หลังเธอนั้นเป็นทาสแมวสุดหัวใจ เธอค่อยๆรับแมวมาทีละตัวๆ ทั้งแมวป่วย แมวท้อง และอีกมากมายจนกระทั่ง จู่ๆทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ก็มีคำสั่งเด็ดขาดว่าจะต้องจัดการเอาแมวออกไปภายใน 3 วัน
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขอระบายหน่อยนะคะทุกคน หากผิดกฎลบได้นะคะ คือเราอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์แถวพัฒนาการ เราช่วยแมวจรที่ป่วยบ้าง ท้องแก่บ้าง แล้วก็ที่โดนคนเอาใส่กระสอบมาไว้บ้าง รวมๆตอนนี้มี11ตัวแล้ว และช่วงนี้ตกงานเพราะโควิดด้วย
แต่ปัญหาคือตอนนี้ทางเจ้าของหอพักคนใหม่เขาไม่ให้เราเลี้ยงแมว เขาให้เราเอาออกภายใน3วันนี้ เครียดที่สุดในโลกเลยค่ะ จะให้เอาแมวไปปล่อยไว้ที่อื่นก็ทำไม่ลง เลี้ยงแล้วก็รัก รักมากด้วย เงินก้อนจะไปเช่าบ้านตอนนี้ก็ไม่มี (แต่เราไปทำเรื่องกู้ซื้อบ้านแล้วนะ แค่รอเขาอนุมัติมาอีกที)
อธิบายให้เจ้าของหอคนใหม่ฟัง ขอโอกาสสัก3เดือนแต่เขาก็ไม่ยอมไม่รู้จะทำไงดีแล้ว ส่วนแมวของเธอกอดกันกลมเหมือนรู้ว่ากำลังจะไม่ใช่ที่ต้องการ ส่วนทางด้านผู้โพสต์ก็อาการหนักเงินติดตัวแทบไม่มี เธอได้แต่หวังว่าทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์จะเข้าใจ แต่มันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย
ที่มา Natna Amornkul
คนที่รักหมดใจกลับมาทำเขา แถมยังปล่อยให้อยู่โดดเดี่ยว ให้สิ้นใจไม่มีแม้เหลือเยื่อใยที่เคยให้ความเมตตา
ด้วยการนำซึ่งสัตว์มาเลี้ยงนั้นสิ่งที่เรามักจะย้ำบอกกับเพื่อนๆทุกครั้งนั้นก็คือการรับผิดชอบต่อหนึ่งชีวิตที่พวกเขาจะต้องอยู่กับเราไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ ซึ่งถ้าหากว่าเพื่อนๆไม่เตรียมความพร้อมแล้วปัญหามากมายก็จะตามมา และอีกอย่างหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นก็คือจิตใจของสัตว์เลี้ยงที่วันนึงเขาจะต้องถูกละเลย
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า PetschPloys Benjaluck ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้สีน้ำตาลตัวนี้ หลังจากที่เขาได้พบน้องถูกเขากระทำ และนำมาไว้ให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในสภาพดังกล่าวซึ่งด้วยสภาพของน้องเหมือนกับว่าถูก ตัดหูออกไปเมื่อนานมาแล้ว
แถมขาก็ไร้เรี่ยวแรงจะเดินเหมือนกับว่าน้องถูกทำมาจนไม่สามารถที่จะลุกยืนด้วยตัวลำพังได้เลย โดยผู้โพสต์ได้เล่าว่ามีพี่ได้ไปพบเห็นน้องตั้งแต่เมื่อวานและทางพี่ที่พบก็รู้จักกันจึงได้พาน้องไปหาสัตวแพทย์แล้ว 1 ครั้ง และก็จะพาน้องไปอีกในวันพรุ่งนี้
ด้วยตัวน้องเองก็คงจะรู้ตัวว่าตนนั้นไม่ใช่ที่ต้องการแล้วด้วยจากสภาพที่โดนเขาทั้งด้านจิตใจและร่างกาย ไม่หลงเหลือแม้แต่เยื่อใยที่เคยรักเคยเลี้ยงดู ด้วยไหนจะหูไหนจะขาที่ผู้ที่เคยรักหมดใจทำกันได้ลงคอ มาในวันนี้เกิดหมดรักหมดอยากได้ไร้แม้ราคาให้นอนนิ่งเหมือนไร้ค่าใดๆ
โดยผู้โพสต์เองก็จะนำน้องไปรักษาต่อไปและก็ไม่ได้แจ้งเพิ่มเติมใดๆว่าจะหาผู้เลี้ยงดู แต่ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าไม่ว่าจะหมาพันธุ์หรือหรือหมาไทยพวกเขาล้วนแล้วแต่มีหัวจิตหัวใจไม่ต่างจากคน อีกทั้งพวกเขายังสามารถที่จะรักและไว้ใจได้เพียงแค่ไม่กี่ครั้งด้วยความซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียวที่พวกเขาได้พึงมี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก PetschPloys Benjaluck
ถูกเขาจับโยนลงพื้นแล้วเหยียบเข้าที่ขา แถมยังจับใส่ถังสีเพราะด้วยยังเป็นเด็กจึงจดจำมาจากผู้เป็นพ่อเป็นแม่
ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงควบคู่ไปกับลูกตัวน้อยสิ่งนึงที่เราจะได้เมื่อลูกเราได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้นก็คือจิตใจที่พวกเขาจะมีเมตตาต่อสัตว์และเพื่อนร่วมโลก ซึ่งในความอ่อนโยนนี้เราจะได้มาเองโดยอัตโนมัติไม่ต้องคอยสอนหรือคอยบอกเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาได้เห็นเพื่อนร่วมโลกตกทุกข์ได้ยากพวกเขาก็จะเกิดความสงสารขึ้นมาในทันที
แต่ทว่าถ้าเกิดผู้เป็นพ่อเป็นแม่ที่ได้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีได้ทำให้ลูกเห็น เด็กนั้นก็เหมือนกับผ้าขาวสะอาดที่จะจดจำสีเปรอะเปื้อนที่พ่อแม่คอยนำทางไปดูทำให้กลายเป็นเรื่องราวเช่นเดียวกับเรื่องนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Anongrak Namsai ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวเหล่านี้ลงในแฟนเพจ
มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร หลังจากที่เธอได้พบพวกน้องๆแม่ลูกแอบอาศัยอยู่แถวตึก โดยทางเจ้าของตึกเองก็ไม่ชอบแมวและเคยมีเหตุการณ์ทำร้ายน้องด้วย โดยน้องๆก็ได้แต่แอบอาศัยอยู่รอบๆกับบริเวณตึกหอพัก ย่านสำโรง ในจังหวัดสมุปราการใกล้กับ BTS แบริ่ง ซึ่งโดยส่วนมากพวกน้องๆเชื่องและยอมที่จะให้คนจับได้
แต่ส่วนทางคนในหอก็ไม่รักแมวเช่นกันและก็ชอบทำร้ายโดยน้องคนโพสต์จึงอยากวอนให้ช่วยหาบ้านให้และทางผู้โพสต์เองก็ได้เข้าไปช่วยเหลือน้องมาแล้วหนึ่งตัว เนื่องด้วยจากน้องแมวขาเจ็บเพราะถูกเด็กแถวนั้นจับโยนลงบนพื้นแล้วเหยียบซ้ำที่ขาหน้า จากนั้นก็เอาไปใส่ในถังสี อันนี้คือทางน้องอีกคนเล่าให้ทางผู้โพสต์ได้ฟัง
ซึ่งโดยส่วนตัวเด็กที่ทำก็คงจะเห้นว่าผู้ใหญ่ไม่รักแมวเลยมีพฤติกรรมที่ทำเลียนแบบ แต่ก็ยังมีน้องอีกหลายตัวที่ยังต้องการหาบ้านเธอจึงอยากที่จะประสานให้ใครสักคนเข้าช่วยเหลือ เพราะถ้าปล่อยเอาไว้ไม่รู้ว่าพวกน้องๆจะมีชะตากรรมเป็นอย่างไรหากต้องอาศัยอยู่กับคนที่ไม่ชอบหรือไม่รักแมว โดยทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Anongrak Namsai
ตอนแรกจะเอาหมาพันธุ์ แต่ตัดสินใจรับหมาจรมาเลี้ยงจนนางแสดงพฤติกรรมออกมาทำยิ้มไม่หุบ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Yeah Rossarin ได้เผยเรื่องราวของหมาจรที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าตูบตัวนี้มีชื่อว่าเอมิลี่ เอมิลี่เป็นอดีตหมาจรที่ใครๆเขาก็ไม่ต้องการ จนกระทั่งทางผู้โพสต์ตัดสินใจขอรับน้องมาเลี้ยง และเธอก็คิดไม่ผิดจริงๆที่รับน้องมา
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แค่อยากเอามุมเล็กๆที่มีต่อหมาจรที่รับมาเป็นสมาชิกในครอบครัวมาแบ่งปันค่ะ ทีแรกจะซื้อลูกหมาพันธุ์มาเลี้ยงแล้ว เพราะด้วยตัวลูกชายอยากเลี้ยงค่ะ แต่แฟนกลับบอกว่ารับเลี้ยงหมาจรดีกว่านะ เพราะพวกเขาไม่มีบ้านเหมือนใครๆเขา
แถมไม่มีที่นอนหลบแดดหลบฝน พวกเขาน่าสงสาร เลยพยายามไปหาตามเพจต่างๆ เข้าชิงกับหลายๆบ้านกว่าจะได้น้องมา นี่ก็เป็นปี แล้วในทุกๆวันทุกอิริยาบถของเค้าดูก็รู้เลยว่าเค้ารักเรามากแค่ไหน เอมิลี่คืออดีตลูกหมาจร ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราแล้วค่ะ
ดูท่านอนของคุณนางซะก่อน เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้เลย...ถ้าเป็นหมาพันธุ์แพงๆในหลายๆสายพันธุ์บอกได้เลยว่าไม่ได้เรียบร้อยแบบนี้ซะทุกตัวหรอกนะ คนเลี้ยงหมาคงจะรู้กันดีแหละเนอะ นี่แหละความรักที่มอบให้นางก็เลยนอบน้อมเรียบร้อยเกินเบอร์หมาไปเยอะเลย ฮ่าฮ่าฮ่า
ที่มา Yeah Rossarin
เป็นลูกแมวจรมีแม่เดินมาขออาหารประทังหิว แต่กลับถูกมนุษย์ป้าว่าอย่าเข้าใกล้มัน มันเป็นแมวดำ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : นิภารัตน์ เสียงล้ำ ได้เผยเรื่องราว หลังเธอนั้นได้พบเจอมนุษย์ป้าคนหนึ่ง ที่จู่ๆก็เดินมาทักเดินมาบอกกับเธอว่าอย่าเข้าใกล้มัน มันเป็นแมวดำ โดยที่แม่แมวและครอบครัวไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แม่แมวแค่เดินมาขออาหารกิน
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มีมนุษย์ป้าเดินผ่านมา..ทักบอกแมวดำๆ อย่าเข้าใกล้มัน....แมวดำมันผิดตรงไหนเหรอ..?ถ้าเลือกสีขนได้ น้องก็คงอยากเปนแมวสีสวยๆเหมือนใครๆเขา ใครเห็นใครก็รัก คงไม่อยากเกิดมามีสีขนสีดำหรอก
น้องเกิดมาไม่มีบ้านมันก็น่าสงสารพอแล้ว ถ้าไม่ช่วยก็ไม่ต้องซ้ำเติม ขอโทดที่หยาบคายนะคะ ฟังแล้วขึ้นจริงๆ แม่แมวจรเพียงแค่พาลูกมาขอที่อยู่ขออาหาร น้องไม่เคยสร้างความรำคานให้เลยสักครั้งเดียว แถมยังช่วยจับหนูให้อีกด้วย
ครอบครัวเราไม่ได้รวยหรอกแต่ก็ให้ข้าวให้ที่อยู่อาศัยพึ่งพากันและกัน และไม่เคยไปแบมือขอข้าวใครมาให้แมวด้วยกรุณาอย่าเดือดร้อนแทนเรา ไม่รู้ว่าความเชื่อแบบผิดๆแบบนี้จะมีอยู่อีกนานแค่ไหน แต่ในฐานะคนเลี้ยงแมวแล้วเราควรมาข้ามสีขนกันได้แล้ว แมวดำให้โชคมีเยอะไป ถึงจะดำก็ดำแค่สีขนเลิกเชื่อกับความคิดโบร่ำโบราณได้แล้ว
ที่มา นิภารัตน์ เสียงล้ำ
เจ้าของเก่าย้ายไปปล่อยไว้ให้แม่ผัวเลี้ยง แต่ข้าวสักเม็ดก็ไม่เคยได้ตกถึงท้อง ฝนตกแดดออกก็เดินเตร็ดเตร่ตัวลำพัง
ในบางครั้งมนุษย์เรามักจะเรียกสิ่งต่างๆที่ได้พบเจอว่าโชคชะตาหรือชะตากรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่มนุษย์นั้นก็เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้มาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยเราจะต้องเกิดมาชดใช้หรือเผชิญกับชะตากรรมเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่เองก็ตามล้วนแต่มีคนกำหนดมาให้ได้พบเจอกับสิ่งต่างๆมากมาย
แม้แต่สุนัขที่มีสายพันธุ์ดีๆอย่างสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้รายนี้ก็ตาม หลังจากที่ผู้โพสต์ที่ใช้ชื่อว่า Jidapha Khiaosaart ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้หลังจากที่เธอนั้นได้ขับผ่านเห็นเจ้าตูบไซบีเรียนฮัสกี้รายนี้เดินอยู่ข้างถนนโดยที่ไม่ส่วมใส่ปลอกคอ เธอจึงได้จอดรถดูแต่น้องกลับกลัวคนเพราะไม่ไว้ใจผู้ใด
ซึ่งไม่กล้าที่จะให้ใครเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย เธอจึงลองถามคนที่อยู่ในระแวกนั้นดูเขาจึงได้บอกกับเธอว่าเจ้าของเก่าย้ายออกไปปล่อยเอาไว้ให้แม่ผัวเลี้ยง แต่เขากลับไม่ได้เลี้ยงเพราะแม้ฝนจะตกหรือแดดจะออกน้องก็ไม่ยอมเข้าบ้านแม้อาหารหรือน้ำก็ไม่เคยมีให้กินหรือตกถึงท้อง เดินทั่วบนถนนแถวบ้านไม่ไปไหน
แถมยังถูกปล่อยปละละเลยจนเป็นขี้เรื้อนอีกด้วย โดยสภาพก็ผอมแห้งมากๆเธอจีงอยากจะหาคนที่จะเมตตาน้องไปเลี้ยงดูเพราะการปล่อยไว้แบบนี้ก็ต้องหากินเองไปวันๆซึ่งถ้าเมื่อวันไหนไม่มีให้กินหนักๆเข้าก็คงจะสิ้นใจ และในตอนแรกนั้นเธอเองก็ไม่สามารถที่จะถ่ายรูปน้องมาลงได้เพราะน้องหนีตลอด
ด้วยการถูกปล่อยปละละเลยมาเป็นเวลานานทำให้กลัวผู้คนไม่กล้าให้ใครๆเขาเข้าใกล้ และพิกัดที่เธอได้แจ้งเอาไว้ก็คือพิกัดแถวห้วยยายพรม โดยหลังจากเรื่องราวของน้องได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้คนใจดีอาสาเข้ารับเลี้ยงน้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งเธอก็ทำหน้าที่นำพาไปรักษาและส่งมอบบ้านต่อไปโดยที่น้องจะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างเร่ร่อนเป็นหมาจรไร้บ้านไร้แม้ที่หลบแดดหลบฝน ซึ่งก็ขอขอบคุณทางผู้โพสต์ที่เลือกจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือน้องให้หลุดพ้นจากความทุกข์ที่เป็นอยู่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Jidapha Khiaosaart