เคยมีเจ้าของแต่ถูกนำมาเทไว้ จึงต้องแอบอาศัยในศูนย์เด็กเล็ก ไม่วายยังโดนมนุษย์แอบเอาน้ำร้อนราดทุกวี่วัน
เพราะด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้ต้องต่อสู้และดิ้นรนเพื่อที่จะสู้ชีวิตให้มีชีวิตรอดไปในแต่ละวัน ซ้ำเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถจะพูดหรือบอกใครเขาได้ว่าตนโดนอะไรมา จึงได้แต่ก้มหน้ารับกรรมที่โดนกระทำจากน้ำมือของมนุษย์ เพราะหนูไม่สามารถจะไปฟ้องหรือบอกใครเขา
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้โดยเมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ฐานิตย์ บุญณะ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เดิมทีแมวตัวนี้อาศัยอยู่ที่ศูนย์เด็กเล็กที่มีคนนำมาเทไว้ เธอจึงได้นำอาหารไปให้กับน้องในทุกวันซึ่งบางทีก็ฝากเพื่อนเอาไปให้
ด้วยที่ได้พาน้องไปทำหมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าเจ้าเหมียวกลับหายตัวไปจนเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วจนมาในวันนี้โรงเรียนแห่งนี้ได้เปิดเทอมเป็นวันแรก ซึ่งพอน้องได้ยินเสียงรถของเธอน้องๆก็ออกมาให้เห็นด้วยความหวาดระแวงอยู่แค่แว๊บเดียว ด้วยสภาพที่เธอได้เห็นน้องเหมือนกับโดนเอาน้ำร้อนราดใส่มา
เพราะเพื่อนของเธอนั้นได้บอกว่า ก่อนหน้านี้ก็ได้เอาอาหารมาให้กับน้องๆและเห็นน้องตัวเปียกทุกวันเลย จึงคิดว่าน่าจะถูกคนใจร้ายแอบกระทำน้องเข้าแน่นอน ซึ่งในตอนนี้น้องก็มีแผลและเริ่มส่งกลิ่น ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าใครได้แอบมาทำน้องเขาเพราะด้วยน้องไม่ได้มีบ้านอยู่เป็นหลักแหล่ง
จึงอยากที่จะหาบ้านที่อบอุ่นให้กับน้องได้อยู่ซึ่งพวกเด็กๆนั้นมีกันอยู่หลายตัวและสภาพแต่ละตัวก็น่ารักๆทั้งนั้นแต่ด้วยการหาบ้านที่ยากเย็นจึงไม่มีใครรับน้องไปเลี้ยงอย่างเป็นจิจะลักษณะ โดยทั้งนี้เองหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์เลยนะคะ และก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ว่าหากไม่รักไม่ชอบพวกเขาก็อย่าไปรังแกพวกเขาเลยพวกเขาก็มีหัวใจและเจ็บได้ไม่ต่างจากคนและยิ่งการทำแบบนี้เวรกรรมมันจะตามทันเอานะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ฐานิตย์ บุญณะ และชมคลิป
https://www.facebook.com/100009074856576/videos/2536179233361214/
เจ้าเพนกวินแมวขาเป๋อดีตแมววัด ที่ขาดความรักมาตลอดทั้งชีวิตกับความฝันที่เป็นจริงที่มีบ้านเหมือนใครๆ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Paravatee Seango ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเพนกวิน อดีตแมววัดขาเป๋ที่ทางสาวผู้โพสต์รับเลี้ยงน้องมา มาดูแลรักเหมือนกับลูกเจ้าเพนกวินเองผ่านโลกมาเยอะมากด้วยร่างกายที่บอบช้ำ และไม่ไว้ใจผู้ใดนอกจากทางเจ้าของคนใหม่ที่รับน้องมาเพียงแค่คนเดียว
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ชีวิตน้องน่าสงสารเอามากๆและคงผ่านเรื่องราวอะไรมาเยอะจริงๆ..เวลานางกินก็คำราม เวลามีแมวตัวอื่นเข้ามาใกล้ๆนางจะแปลงร่างเป็นคางคกขู่คำรามพร้อมสู้ และนางขาดความรัก พยามออดอ้อนขอความรักอยู่ตลอดเวลา
นางจะสีทุกสิ่งที่ขวางหน้ากะมังหม้อไหนางสีหมดเมื่อเจอหน้าคน เริ่มต้นชีวิตใหม่กะพวกเรานะเพนกวิน และเธอยังได้อัพเดทเพิ่มเติมอีกว่าแมวขาเป๋จากแมววัดสู่แมวบ้านตัดสินใจเลี้ยงเองกลัวน้องไปอยู่แบบถูกกักกลัวเค้าไม่มีเวลาหอมกอดจูบเค้าแบบเรา น้องชอบขอความรักชอบให้หอมให้จูบหน้าผาก พยามจะเลี้ยงให้ดูที่สุดที่ทำให้เค้าได้คะ
และล่าสุดความบันเทิงเกิดขึ้นแล้วจ้า เจ้าแมวขาเป๋ดันไปคลอดลูกในตู้เสื้อผ้า ได้ลูกแมวมาเพิ่มอีก 4 เพราะแม่แมวขาเป๋คงหาพื่นที่ที่อบอุ่นให้กับลูกน้อย แต่อย่างว่าแหละเนอะทางสาวผู้โพสต์ที่รับเลี้ยงน้องมาก็คงไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับลูกในท้องด้วยแหละ รับตัวแม่แมวมาแต่กลับได้ลูกของนางมาเพิ่มถึง 4 ตัว เป็นบุญของแกและลูกๆนะลูกเอ้ย
ที่มา Paravatee Seango
เป็นแมวตัวอ้วนอายุก็มากแล้ว แต่จู่ๆก็ต้องกลายเป็นแมวไร้บ้านเพราะเจ้าของจำต้องปล่อยน้องไป
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Warin Tongjumrus ได้เผยเรื่องราว ของเจ้าแมวอ้วนทั้งสอง ทั้งสองเป็นแมวของชาวต่างชาติอายุ 7 กับ 14 ขวบ แต่ด้วยความจำเป็นที่เจ้าของต้องกลับต่างประเทศทำให้ทั้งสองต้องไร้บ้าน
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เด็กๆกำลังจะกำพร้าผู้เป็นเจ้าของน้องเป็นแมววัย 7ขวบ กับ 15 ขวบ เจ้าของเขาเป็นชาวต่างชาติที่กำลังจะต้องกลับบ้าน เลยจำต้องปล่อยเด็กๆไป ด้วยน้องแมวทั้งสองถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีเพราะเจ้าของคนรักน้องทั้งสองมาก
แต่ด้วยความจำเป็นที่ตัวเขานั้นจะต้องกลับบ้านกลับต่างประเทศ แมวทั้งสองจึงต้องไร้เจ้าของไปโดยปริยาย และทางผู้โพสต์ยังช่วยประกาศตามหาบ้านให้กับเจ้าแมวอ้วนทั้งสอง หวังลึกๆว่าทั้งสองจะได้บ้านในเร็ววันเพราะเจ้าของเองก็คงเจ็บไม่น้อยที่ต้องลาจากน้องไปกะทันหันแบบนี้
และทางผู้โพสต์ยังได้มาอัพเดทเพิ่มเติมอีกว่า ตอนนี้มีคนสนใจเด็กๆเยอะมากเลย การคัดบ้านเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเราไม่รู้ใครเป็นใครเลยตอนนี้ เรารู้ว่าทุกคนรักแมว แต่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครจะสามารถดูแลน้องได้ตลอด ขอเวลาเราคัดบ้านแป๊บนะขอบคุณทุกคนที่สนใจในตัวเด็กๆ ที่ทักมามากๆค่ะ
เราหวังว่าน้องจะได้บ้านในเร็ววันนะ เพราะทั้งสองก็เป็นแมวมีอายุค่อนข้างมากแล้วด้วย แถมน้ำหนักตัวก็ไม่ธรรมดาเลย หากท่านใดอยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามไปยังต้นโพสต์ได้เลยนะ ขอบ้านที่อบอุ่นให้กับน้องทั้งสองด้วย ไม่อยากให้น้องทั้งสองต้องแยกจากกัน
ที่มา Warin Tongjumrus
ยอมอดให้ลูกอิ่มแม้ตนจะผอมแห้งไร้แม้เรี่ยวแรงจะเดิน แต่ก็ยังคงหาอาหารมาให้ลูกไม่ขาด
หากจะบอกหรือพูดถึงหัวอกคนเป็นแม่แล้วเชื่อว่าทุกคนนั้นก็จะเข้าใจความหมายของคำๆนี้กันดีแน่ เพราะด้วยมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตทุกๆอย่างบนโลกใบนี้ล้วนแต่เกิดมามีผู้เป็นแม่ที่คอยดูแลและปกป้องยามที่ลูกต้องการความช่วยเหลือ และด้วยความรักความห่วงใยนี้แม้ตัวจะต้องยากลำบากแค่ไหนแม่ก็ยอมได้
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Aek Tanathon ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบแม่ลูกอ่อนตัวนี้หลังจากที่เขานั้นได้พบน้องอยู่ในระหว่างทางที่เขาจะต้องำแทำงานในเวลา 8.00น. ซึ่งน้องได้กำลังเดินหาอาหารด้วยสภาพร่างกายที่หิวโหย
บนถนนสายบายพาสหลังโรงงานห้องเย็นควนปริง จังหวัดตรัง ซึ่งแม่ตูบนั้นก็ได้เดินตามหาอาหารให้กับลูกน้อยที่กำลังหิว ซึ่งในบริเวณถนนดังกล่าวนั้นก็มีรถสัญจรไปมาเป็นอย่างมาก เขาจึงได้จอดรถและนำอาหารเม็ดที่ติดมาด้วยในรถลงไปให้กับแม่หมา
โดยเขาได้เล่าอีกว่าเป็นภาพที่น่าจดจำมากๆ เพราะเมื่อเขาได้เอาอาหารไปให้กับแม่หมาแล้วเจ้าตูบตัวน้อยก็ดูดนมแม่อย่างไม่ห่าง และที่น่าจดจำมากกว่านั้นคือสภาพของเจ้าสุนัขตัวน้อยไม่ได้ผอมลงเลยมีแต่เพียงผู้เป็นแม่เท่านั้นที่ผอมแห้งไร้แม้เรียวแรงจะยืน
เพราะด้วยหัวอกแม่ก็คงจะหาอาหารและให้ลูกได้กินอิ่มตลอด แม้ว่าตัวจะอดก็คงจะไม่เป็นอะไรแต่ก็ขอเพียงแค่ให้ลูกได้กินอิ่มนอนหลับเพียงเท่านั้น ซึ่งหลังจากเรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไปยังกลุ่ม ชมรมคนเลี้ยงหมาแมวจังหวัดตรัง ก็ได้มีผู้คนใจดีรับอาสารับน้องไปเลี้ยงแล้วแต่ทว่าก็น่าเสียใจที่แม่ลูกไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะด้วยคนที่รับเลี้ยงไม่สามารถที่จะดูแลได้ทั้งคู่ แต่ทั้งนี้พวกน้องๆก็จะได้อยู่กับแบบไม่ต้องอดอีกต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Aek Tanathon
ผูกถุงปุ๋ยมัดปากนำมาเทไว้ คนงานโยนเข้าเครื่องอัดขยะ ได้ยินเสียงร้องหวิดไม่รอดยกครัว
เพราะยังมีอีกหลายๆชีวิตนั้นต้องดิ้นรนเพื่อที่จะต่อสู้ชีวิตจริงๆ เรียกได้ว่าต่อสู้ยิ่งกว่ามนุษย์อย่างเราๆเสียอีกเพราะพวกสัตว์ตัวน้อยๆเหล่านี้ต้องต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตรอดในแต่ละวันไม่ใช่เพียงแค่ปากท้องให้ได้อิ่ม แต่นี่หมายถึงชีวิต ด้วยไม่มีปากมีเสียงเหมือนใครๆ
จึงต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมต่อสิ่งที่ได้เจอ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Aroonrung Jaiklom ได้นำเรื่องราวมาโพสต์บอกเล่าหลังจากที่เขาได้พบน้องถูกนำมาเทเอาไว้ด้วยการนำใส่ถุงปุ๋ยและมัดปากมาวางกองไว้รวมกับขยะ
โดยที่คนงานที่โรงงานนั้นก็ไม่รู้ว่าในนั้นคืออะไรจึงคิดว่าเป็นขยะปกติ และเมื่อคนงานกำลังจะจับโยนใส่เครื่องอัดขยะกลับได้ยินเสียงร้อง จึงได้เปิดดูกลับพบเป็นแมวตัวน้อยๆยกครอบครัว โดยในนั้นมีแม่ 1 ลูกอีก 2 อายุเพียงแค่ประมาณ 1.5 เดือน ซึ่งในตอนนี้ทางคนงานเองก็ได้ทำการเลี้ยงน้องไว้ชั่วคราวแล้ว
เธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในแฟนเพจ มูลนิธิรักษ์แมวปันน้ำใจให้แมวจร เพื่อที่ต้องการจะหาบ้านที่อยู่เป็นหลักแหล่งให้กับน้องๆ โดยพิกัดที่ได้ลงเอาไว้คือที่ สุขุมวิท 101 กรุงเทพมหานคร ซึ่งตอนนี้ก็ได้ทำการหาบ้านให้กับน้องๆมาเป็นรอบที่ 6 แล้วแต่ก็ยังไร้แม้วี่แวว
ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับครอบครัวเจ้าเหมียวนี้มาเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ยังที่ต้นโพสต์ได้เลยะนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นให้กับเด็กๆจะได้ไม่ต้องถูกคนใจร้ายทำแบบนี้กับพวกน้องๆอีก เพราะชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้เขาเห็นว่ามีลูกออกมาก็คงจะไม่ต้องการอีกต่อไปด้วยอาจจะเลี้ยงไม่ไหวหรือเหตุผลอะไรทำไมถึงต้องขนาดพรากชีวิต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Aroonrung Jaiklom
สาวทักแชทผิด หลังแมวมีอาการผิดปกติจะแชทไปหาโรงพยาบาลสัตว์ปากเกร็ดแต่ดั้นทักไปหาโรงพยาบาลปากเกร็ด
ทาสแมวอย่างเราๆหรือคนเลี้ยงสัตว์คงจะรู้กันดีอยู่แล้ว หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการผิดปกติแปลกไป เราจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้น้องกลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งก็เหมือนกับสาวทาสแมวรายนี้ที่พยายามทักแชทไปถามยังโรงพยาบาลสัตว์เพื่อหาทางช่วยน้อง
.
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : An Domicat ได้เผยเรื่องราวของสาวทาสแมวที่มีต่อเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวของเธอเกิดมีอาการผิดปกติในช่องหู ซึ่งเธอรู้สึกเป็นกังวลใจเป็นอย่างมากจึงได้ส่งแชทไปถามที่โรงพยาบาลสัตว์
แต่ด้วยความรีบร้อนเธอจึงรีบทักไปหายังโรงพยาบาลสัตว์ แต่ด้วยความเบลอหนักมาก จะทักโรงพยาบาลสัตว์ปากเกร็ด เเต่ดันไปทักโรงพยาบาลปากเกร็ดเท่านั้นแหละ ความฮาจึงเกิดขึ้นในกลุ่มทาสแมว แต่ด้วยความที่เป็นแอดมินของโรงพยาบาลปากเกร็ด
แม้จะไม่ใช่โรงพยาบาลสัตว์แต่ทางแอดมินก็ตอบข้อความที่เป็นประโยชน์ให้แก่สาวทาสแมวรายดังกล่าวด้วยนะ จนเรื่องราวของเธอและแมวของเขาถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ และเหล่าบรรดาทาสแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมยิ้มไม่หุบกับเรื่องราวดังกล่าว
ที่มา An Domicat
ผิดที่วิ่งตัดหน้ารถ แต่ชนที่ท่ายางกลับเอาไปปล่อยให้สิ้นใจข้างถังขยะที่ชะอำ เพราะเห็นว่าเป็นแค่หมาจร
เพราะชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้หลายๆชีวีตต้องเกิดมาดิ้นรนต่อสิ่งที่ตนนั้นได้เจอ ยิ่งถ้าเกิดมาเป็นสุนัขจรที่บางคนเห็นว่าเป็นเพราะสัตว์ตัวหนึ่งที่ไร้ค่าไร้ราคาทำเหมือนแม้กับไร้ชีวิต จึงไม่มองเห็นคุณค่าในการมีชีวิตที่ยากลำบากหรือผ่านไปได้ในแต่ละวัน
โดยเมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Oranuch Nuch Banyam ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบจรตัวนี้หลังจากที่พบน้องถูกนำไปปล่อยเอาไว้ให้สิ้นลม โดยผู้โพสต์รายหนึ่งได้บอกว่าตนได้ชนสุนัขตัวนี้หลังจากที่เขานั้นตั้งใจไปทำบุญให้อาหารสัตว์
แต่ทว่าสุนัขตัวนี้กลับวิ่งตัดหน้ารถ แต่คนนั้นกลับไม่เป็นอะไรแต่สุนัขนั้นไม่น่ารอด แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับมีผู้ใช้เฟสบุ๊คอีกรายพบน้องถูกนำมาไปปล่อยไว้อีกอำเภอซึ่งน้องก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ด้วยสภาพหายใจรวยรินราวกับกำลังจะสิ้นใจ เหมือนกับว่าน้องจะถูกนำมาปล่อยให้สิ้นใจไปเอง
โดยผู้โพสต์รายนี้จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์เพื่อเตือนเพื่อนๆที่ได้ใช้รถใช้ถนนให้มีสติให้มาก อีกทั้งการทำบุญแล้วมาพบเจอสุนัขถูกชนแบบนี้ก็ควรที่จะพาน้องไปหาหมอ ไม่ใช่นำมาปล่อยไว้อีกที่แบบนี้ ซึ่งน้องก็ได้แต่นอนรอด้วยหวังว่าจะมีใครสักคนช่วยเหลือ
ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวได้เผยแพร่ออกไปผู้โพสต์ก็ได้ตัดสินใจนำน้องไปหาหมอเพื่อที่จะรักษา และก็ยังคงโชคดีที่ยังทันเวลาแต่ทว่าหลังจากการรักษาคุณหมอก็ได้แจ้งข่าวร้ายว่าน้องอาจจะต้องพิการไปตลอดชีวิต เนื่องจากบาดแผลที่น้องได้รับนั้นสาหัสเกินที่จะเยียวยา โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะติดตามเรื่องราวเพิ่มเติมก็สามารถติดตามไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Oranuch Nuch Banyam
ติดอยู่ในท่อระบายน้ำวิ่งหาทางออกเอาชีวิตรอด ด้วยสภาพเนื้อตัวผอมแห้งไร้เรี่ยวแรงเพราะไม่มีอะไรตกถึงท้อง
เพราะด้วยชีวิตที่เกิดมาเป็นสัตว์จรนั้นแสนจะยากลำบาก จะมีใครเขาเห็นค่าในเมื่อเกิดมาเป็นเพียงแค่สุนัขตัวหนึ่งที่ต้องทนอยู่ข้างถนน ยิ่งเวลาที่ตกทุกข์ได้ยากยิ่งแสนยากเย็นไหนจะต้องพบเจอกับคนที่เขาไม่ชอบหรือถูกเขาขับไล่ไสส่งต้องทนใช้ชีวิตอยู่อย่างไร
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ทวน มานพ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบสองตัวนี้ลงในกลุ่ม ชมรมคนรักสุนัขจังหวัดระยอง หลังจากที่เขาได้พบน้องติดอยู่ในท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ที่มีความสูงกว่า 2 เมตรและแน่นอนว่าน้องๆไม่สามารถที่จะขึ้นมาได้ด้วยตัวเองแน่ๆ
ด้วยการคาดการณ์ว่าน้องน่าจะติดมาแล้วหลายวันเพราะด้วยสภาพที่ผอมโซแถมสภาพอาการในบ้านเราในตอนนี้นั้นก็มีฝนตกหนักและน้ำที่ไหลแรงมากๆและก็ไม่รู้ว่าน้องๆทนอยู่กันได้อย่างไรแถมผอมแบบนี้จะมีชีวิตหรือลมหายใจต่อไปได้อีกกี่วัน
โดยทางผู้โพสต์เองจึงได้นำเรื่องราวนี้มาขอความช่วยเหลือลงในกลุ่มดังกล่าวเพื่อว่าจะมีใครที่พอจะสามารถช่วยน้องๆขึ้นมาได้บ้างและได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ นิคมพัฒนา ในจัวหวัดระยอง เพราะหากปล่อยเอาไว้ไม่รู้ว่าพวกเขานั้นต้องเจอกับอะไรบ้างถ้าฝนตกหนัก
ด้วยสภาพที่ท่อระบายน้ำแห่งนี้ค่อนข้างจะลึกและเมื่อฝนตกเยอะน้ำก็คงจะขึ้นมาสูงจนพวกน้องๆคงจะต้องลอยคอขึ้นมา ไหนจะการที่ต้องอยู่ในน้ำเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้ผิวหนังของน้องเกิดการอักเสบเพราะน้ำกัดได้อีกด้วย จึงอยากวอนหน่วยงานใดๆที่พอจะช่วยน้องได้ช่วยเหลือน้องที
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ทวน มานพ
ตูบขี้สงสาร คาบลูกแมวจรจากในป่าแถวบ้านเอามาให้พ่อเลี้ยงเพราะอยากให้น้องมีบ้านที่อบอุ่น
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Gaf Tawinee ได้เผยเรื่องราวของเจ้าตูบที่เขานั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าตูบตัวดังกล่าวได้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้คนในโลกออนไลน์ หลังน้องนั้นไปคาบลูกแมวถึงสองตัวในสองวันจากที่ไหนก็ไม่รู้เอามาให้เลี้ยง เหมือนน้องหมาสงสารลูกแมวอยากให้มีบ้านอยากให้มีคนคอยดูแล
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ไอ้ตูบบบ...เอ็งคาบมาทำไมพ่อได้กล่าว เมื่อประมาณ2อาทิตย์ก่อน พ่อเก็บลูกแมวมา1ตัวอยู่บนท้องถนนมันคลานออกมาจากป่าข้างทาง น้องยังไม่ทันหย่านมพึ่งจะลืมตาดูโลกเอง พอเช้าอีกวันไอ้ตูบเอาอีกแล้ว
คาบแมวอีกตัวมาจากไหนก็ไม่รู้ มาไว้หน้าบ้านละเห่า (เหมือนเรียกพ่อมาดู) ดูแล้วน่าจะคอกเดียวกับตัวแรกเลยแหละ อิพ่อก็เลี้ยงไว้ป้อนนมให้ด้วยความสงสาร และไอ้ตูบก็เหมือนจะช่วยพ่อเลี้ยงด้วยนะเพราะมันจะชอบเข้าไปแอบดูอยู่ใกล้ๆเฝ้าหน้าห้องพ่อมีเลียทำความสะอาดให้น้องด้วยนะ
และล่าสุดวันนี้มันเอาอีกแล้วจ้า ไปคาบลูกแมวมาจากไหนอีกก็ไม่รู้ รอบนี้ลูกแมวเหมือนจะยังไม่ลืมตาเลย และปะป๊าก็ต้องรับเลี้ยงต่อไป ฮ่าฮ่าฮ่า 3ตัวป้อนนมกันให้วุ่นแน่ๆเลย ไหนจะเสียงร้องแมวอีกโอ้โหเอาใจช่วยพ่อให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้นะ ปล.ทั้ง3ตัวยังไม่มีชื่อช่วยตั้งให้หน่อยก็ดีนะคะ
ชมคลิป
https://www.facebook.com/tawinee.yuedman.7/videos/pcb.676202786259533/676202749592870/
จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีเหล่าคนรักหมารักแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวชื่นชมกับเจ้าตูบตัวดังกล่าว ที่เห็นลูกแมวกำลังตกทุกข์คาบเอามาจากไหนไม่รู้ เอามาให้พ่อเอามาให้แม่เลี้ยง ถึงน้องจะเป็นตัวผู้แต่น้องก็มีความเป็นแม่อยู่เต็มอกกันเลยทีเดียว เก่งมากเจ้าตูบ
ที่มา Gaf Tawinee
ถูกล่ามไว้ตลอด ไม่เคยได้เดินไปไหนแถมจำทนต้องกินผัดพริกประทัวหิวเพราะนายจ๋าเอาให้กิน
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Thaweeporn Chongplapolkul ได้เผยเรื่องราวของหมาตัวหนึ่ง หมาตัวนี้มีเจ้าของที่มีจิตใจที่ไม่ปกติ เขาจะใช้เชือกตรึงน้องเอาไว้อยู่อย่างนี้ตลอด 24 ชั่วโมง น้องไม่เคยไดไปไหนนอกจากถูกตรึงอยู่อย่างนี้ แถมต้องกินข้าวผัดพริกถั่วประทังความหิว
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ใครพอจะช่วยรับเลี้ยงน้องหมาตัวนี้ได้บ้างคะ (น้องชื่อบุญรอด เคยเป็นหมาของคนไม่ดีคนหนึ่งที่ปัจจุบันไปช่วยมาให้รอดพ้นจากน้ำมือของมันแล้ว) บุญรอดมาอยู่กับคนงานคนใหม่ เลี้ยงกันแบบนี้เห็นมาทุกวันแล้วเครียด
รู้สึกผิดในใจมาโดยตลอด น้องไม่มีอิสระ แถมโดนเชือกตรึงอยู่ตลอดเวลา แถมเห็นอาหารที่คนเอามาเลี้ยงเทให้กินแล้ว รับไม่ได้ ถ้ามีคนเมตตาให้บ้านจะไปขอหมามาให้ น้องเป็นตัวผู้อายุประมาณ3ปี พิกัดรามอินทรา14
นิสัยน้องร่าเริงขี้เล่นติดคนมากๆ ถ้าไม่มีคนช่วยน้องหมาก็คงต้องให้เป็นไปตามเวรตามกรรมแบบนี้ หากท่านใดอยากช่วยเหลือหรือรับน้องไปเลี้ยงไปดูแลก็ลองติดต่อไปยังผู้โพสต์ได้เลยนะ ขอบ้านที่แสนอบอุ่นด้วย น้องจะได้ไม่ต้องทนทุกข์อยู่อย่างที่เป็นอยู่
ที่มา Thaweeporn Chongplapolkul