อดทนใช้ชีวิตด้วยตาที่มืดบอดทั้งสองข้าง ต้องหากบหาอึ่งกินประทังความหิว ด้วยเป็นเพียงจรจึงต้องทนให้ชีวิตรอดพ้นไปในแต่ละวัน
ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทน ซึ่งในบางครั้งชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้ต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมกับสิ่งที่ตนต้องเผชิญ ยิ่งด้วยถ้าเกิดเป็นจรไร้แม้ผู้คนจะต้องการอีกทั้งยังได้เกิดมาตามืดบอดไร้แม้การมองเห็น แล้วชีวิตนั้นจะต้องอยู่อย่างไรเล่า
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Apinan Khammee ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เธอได้พบน้องใช้ชีวิตระหกระเหิน ด้วยตาที่มืดบอดสนิททั้งสองข้างไร้แม้การมองเห็นแสงสว่างหรือดวงอาทิตย์ แต่ก็อดทนอยู่เพื่อให้ชีวิตรอดหลุดพ้นมาได้ในแต่ละวัน
ผู้โพสต์จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ยังโลกออนไลน์เพื่อที่จะหาบ้านให้กับน้อง โดยที่น้องนั้นเป็นแมวเพศผู้อายุประมาณ 1-2 ปี เป็นแมวที่เชื่องพิกัด กรุงเทพมหานคร และอยากที่จะขอบ้านที่สามารถเลี้ยงน้องได้ในระบบที่ปิดและมีเวลาที่จะสามารถดูแลน้องอย่างใกล้ชิดได้
เพราะด้วยชีวิตที่น้องนั้นได้พบเจอมาก็ว่าแย่และลำบากมาเพียงพอแล้ว จึงไม่อยากที่จะให้น้องนั้นต้องมาอดทนลำบากหรืออยู่อย่างระหกระเหินแบบนี้อีกต่อไป โดยก็ขอสงวนไว้ที่เป็นบ้านสวนบ้านเช่าห้องแถว ชุมชนแออัดที่พักราชการไม่สามารถให้น้องไปอยู่ด้วยได้
บ้านที่พักพิงสัตว์ บ้านอาสามูลนิธิหรือบ้านที่มีแมวเยอะๆก็ขอผ่านไว้ก่อน ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจที่อยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถที่จะติดต่อสอบถามไปยังต้นโพสต์ได้นะคะ แต่ทว่าก็ขอคนที่สามารถจะดูแลและเลี้ยงดูน้องอย่างมีเวลาได้เพราะน้องต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะด้วยน้องนั้นมองไม่เห็นทั้งสองข้าง
ขอขอบคุณมูลจาก Apinan Khammee
เกิดมาก็ไร้แม่ ไร้อาหารไร้เรี่ยวแรงจะคลานต่อหวังลึกๆว่าชีวิตนี้จะไม่ต้องจบลงที่ข้างถนน
การเลี้ยงสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหมาหรือแมวไม่ใช่นึกว่าอยากจะเลี้ยงก็เลี้ยง พอคิดว่าเบื่อแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจเพราะอย่าลืมว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความรู้สึกนึกคิด ถึงแม้จะพูดภาษามนุษย์ออกมาไม่ได้ แต่จิดใจของน้องก็คล้ายๆมนุษย์นั่นแหละ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Jay Wachira ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอกับลูกแมวตัวน้อย แต่ด้วยที่เขานั้นติดปัญหาในเรื่องงานไม่สามารถเลี้ยงน้องได้ในทันที แต่ด้วยตัวลูกชายของเขาอยากที่จะเลี้ยงน้องมากๆเพราะน้องเป็นคนรักสัตว์จนกระทั่ง...
ขอเล่าหน่อยนะครับตัดใจไม่ลงเลยครับ ผมสงสารลูกชายมาก แกอยากเลี้ยงน้องแมวแต่ติดปัญหาที่ว่าผมหาแม่นมให้น้องแมวไม่ได้และน้องคงไม่ได้รับความอบอุ่นจากแม่เลย น้องยังเป็นทารกอยู่เลยครับยังกินอะไรไม่ได้ ผมคิดว่าน้องน่าจะพรากจากแม่แต่แรกเกิด
เพราะก่อนหน้านั้นผมไม่ทราบเหตุการณ์เหมือนกันเราไปเจอน้องที่กลางถนน โดยลูกชายเห็นเข้าเลยขอผมให้อุ้มน้องขึ้นรถกลับบ้านมาด้วย ตอนนี้ผมต้องการแม่นมมาก ขอหาแม่นมแทนให้น้องหน่อยสัก1-2เดือน แล้วผมจะรับกลับมาดูแลเอง
ใจอยากจะเอาไปเลี้ยงด้วยแต่ติดขัดมีปัญหากับการทำงานเพราะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย โรงแรมที่พักส่วนใหญ่ไม่ให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักด้วย ลูกชายเลิกเรียนถึงจะได้มีเวลามาดูแลน้องต่อได้ ดังนั้นจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆชาวเน็ต ช่วยแมวทารกผู้น่าสงสารด้วย ให้น้องได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
ที่มา Jay Wachira
แมวหลงทางนอนขดตัวอยู่กลางถนน กับชีวิตที่โดดเดี่ยวหากทำเป็นไม่สนใจคงสิ้นลมอยู่ตรงนั้น
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kitiya Sroksri ได้เผยเรื่องราวของหนุ่มรายหนึ่งขี่รถท่องเที่ยวที่แม่กำปอง และเขานั้นก็ได้พบเจอกับน้องแมวลายสลิดตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวน่าจะหลงทางมาเพราะดูจากสภาพขนและสภาพของน้องแล้วตัวยังอวบอ้วนสุขภาพดี
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า โรคแมวงอกรักษายังไงดีคะ” เรื่องมันมีอยู่ว่า พี่ที่รู้จักเขาไปเที่ยวที่แม่กำปองมา และในขณะกำลังเดินทางกลับไปยังเพชรบูรณ์ เจอน้องแมวนอนขดอยู่ที่กลางถนนเพราะกลัวเสียงรถและรถที่ผ่านไปมา
เลยจอดเก็บน้องมาแล้วเอาใส่กระเป๋าหน้ามาด้วย และทั้งคู่ก็กลับถึงจังหวัดเพชรบูรณ์อย่างปลอดภัยโดยเขาและเธอตั้งชื่อให้ว่า “แม่กำปอง” รายงานตัวค่าาาา ปล. พี่เขาอุ้มไปถามคนแถวนั้นแล้วนะคะ ไม่มีใครแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของของน้องค่ะ
และล่าสุดน้องก็กลับถึงบ้านของผู้ใจดีท่านนี้และเอามาเลี้ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้องนอนนิ่งมากเมื่ออยู่บนรถไม่มีอาการตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย เป็นบุญของน้องเหลือเกินที่พบเจอคนใจดีหากน้องยังอยู่บนท้องถนนอยู่อย่างนั้น เราเองก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าน้องจะอยู่รอดปลอดภัยได้อีกกี่ชั่วโมง
ที่มา Kitiya Sroksri
ช่วยได้แล้วน้องหมาตัวผอมหลังต้องทนอยู่กับชายพิการ พร้อมคำสารภาพที่ทำลงไปจนจุกในอก
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : เอ้ สหายบาว ได้เผยเรื่องราวของชายพิการผู้หนึ่งที่เดินจูงหมาตัวผอมอยู่ที่ข้างถนน จนมีคนใจดีเข้าไปพบเจอและให้การช่วยเหลือ จนกระทั่งมีชาวเน็ตหลายรายได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าชายพิการคนดังกล่าวเขาเอาหมาตัวผอมมาเดินข้างถนนเพื่อเรียกความสงสาร และเขาก็ทำอยู่แบบนี้กับน้องหมาหลายตัวแล้ว
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พบน้องแล้วครับ พบแล้วครับ น้องหมากับชายพิการที่เดินร่อนข้างถนน ขณะนี้พบน้องแล้วนะครับโดยมีผู้ใจดี ได้ช่วยน้องออกมาจากชายพิการผู้นี้แล้ว เพราะชายพิการผู้นี้ใด้นำเอาน้องหมาจูงที่คอแล้วออกมาเดินตามท้องถนนเหมือนในข่าวก่อนหน้านี้
เพื่อสร้างจุดสนใจและเป็นภาพที่น่าสงสารแก่คนที่พบเจอจนทำให้เขาใด้รับเงินสิ่งของและอาหาร ตามที่เห็นในภาพของผมก่อนหน้านี้ โดยชายพิการผู้นี้ใด้นำเงินจากการที่เขาได้รับมานั้นเพื่อไปซื้อแอลกอฮอล์กินสนองความต้องการส่วนตนเอาไปใช้ส่วนตัว
แต่ไม่ยอมมาดูแลน้องจนตัวน้องผอมแห้งจนตกเป็นเครื่องมือของเขาตลอดมานั้น ในขนาดนี้ใด้มีผู้ใจดีได้นำเขาออกมาจากขุมนรกจากชายพิการผู้นี้แล้วนะครับ และในตอนนี้เขาอยู่สุขสบายและมีความสุขขึ้นมากหลังน้องได้รับการช่วยเหลือ
และนี่คงเป็นบ้านที่แท้จริงของเขาตลอดไป เพราะเขาได้มีเจ้าของที่มอบทั้งความรัก ความมอบอุ่น บ้านที่แสนสบายให้แก่น้องอย่างดีที่สุด พวกเราเองคงหมดห่วงตรงนี้กับน้องแล้วนะครับ ส่วนตัวผมเองขอกราบขอบพระคุณท่านที่อยู่ในพื้นที่ ที่ได้มาถามและบอกกล่าวถึงชายพิการผู้นี้นะ ผมแค่ทำตามหน้าที่ของผมคือได้ช่วยเหลือน้องหมาจรตามข้างทางที่ผมไป เพื่อสร้างความสุข ความอิ่ม ความรักให้แก่พวกเขาต่อไป
ส่วนในภาพด้านบนนี้คือภาพของน้องหมาที่มีชาวเน็ตส่งมาให้กับทางผู้โพสต์ว่า ชายพิการคนดังกล่าวได้นำน้องหมาตัวนี้เดินจูงเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง จนเขาได้พบเข้าแล้วได้ช่วยน้องในที่สุด แต่พอช่วยน้องได้ไม่นานนักเขาก็กลับมาทำพฤติกรรมแบบเดิม เขาก็ไปหาหมาตัวผอมตัวใหม่เพื่อจูงตามข้างถนนกลางอากาศร้อนเพื่อเรียกความสงสาร เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าครั้งหน้าจะต้องเป็นหมาตัวไหนอีก เพราะดูแล้วเขาก็คงกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมๆคือหาหมอเพื่อเดินจูงตามข้างถนน
ที่มา เอ้ สหายบาว
เกิดเป็นจรเดินเร่ร่อนริมหาด ไปตามร้านหาเศษอาหารประทังความหิว อาศัยขอนอนบนตักด้วยอยากได้อบอุ่น
ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้จึงทำได้เพียงแค่ต้องอดทนใช้ชีวิตเพื่อที่จะให้มีชีวิตรอดพ้นในแต่ละวัน ด้วยหากในวันนี้เราเกิดความท้ออยากให้ลองมองอีกหลายๆชีวิตที่ได้เกิดมาแล้วต้องอดทนต่อสู้เพื่อให้ได้มีลมหายใจต่อในวันพรุ่งนี้ เพราะด้วยเพียงแค่ชีวิตที่เกิดมาแล้วไม่มีใครต้องการ
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Anunt Thitapura ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรตัวนี้หลังจากที่เธอได้พบน้อง ซึ่งน้องนั้นเป็นแมวจรที่เดินเร่ร่อนอยู่ที่ริมหาดวอน โดยในแต่ละวันน้องจะเดินหาเศษอาหารที่ผู้คนไม่ต้องการเพื่อที่จะประทังความหิว
และน้องก็จะมานอนนิ่งที่ร้าน ซังหมูกะทะ ตรงนี้ซึ่งเธอได้เล่าว่าเธอนั้นเห็นน้องตั้งแต่ยังสาวอ่อนๆ โดยน้องก็จะทำแบบนี้และมาขออาศัยนอนอยู่แบบนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งหากมีลูกค้าคนไหนที่เป็นทาสแมวหรือเอ็นดูน้องน้องก็มักจะขึ้นไปนอนซบตัก เหมือนกับว่าอยากที่จะขอไปอยู่ด้วย
เพราะด้วยการใช้ชีวิตจากโลกภายนอกนั้นมันแสนจะยากเย็น อีกทั้งกว่าจะหาอาหารจากเศษอาหารจากคนที่เขาไม่ได้ต้องการแล้วนั้นก็แสนจะยากลำบากซึ่งกว่าจะได้อิ่ม โดยทางผู้โพสต์ก็ได้สอบถามกับคนในร้านซึ่งเขาก็ได้บอกว่าน้องเป็นเพียงแค่แมวจรที่มาขออาศัยไม่ได้มีผู้เป็นเจ้าของของใคร
โดยถ้าอยากจะได้ก็ให้เอาไปได้เลยเพราะไม่ใช่แมวของที่นี้ ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์จึงอยากจะช่วยหาบ้านให้กับน้อง น้องจะได้ไม่ต้องมาทนใช้ชีวิตอยู่อย่างทุกข์ยากแบบนี้อีกต่อไป โดยทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ ขอเพียงแค่บ้านหลังไม่ต้องใหญ่มีที่ให้หนูได้ซุกหัวนอนมีเพียงตักให้นอนให้ความอบอุ่นบ้างเป็นบางคราว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Anunt Thitapura
ส่งเสียงร้องจนสุดแรง หลังถูกคนใจร้ายเอามาปล่อยไว้ในโอ่งกลางป่ากะให้สิ้นใจไปเอง
หากด้วยชีวิตที่เกิดมานั้นมีคุณค่าในตัวของทุกชีวิต แต่ก็ยังมีมนุษย์บางคนที่มีจิตใจผิดปกติมองไม่เห็นชีวิตน้อยๆนี้มีคุณค่า เพราะด้วยความชอบหรือความเมตตาที่แตกต่างกันจึงทำให้มองคุณค่าในชีวิตน้อยๆนี่แตกต่างไป จนทำให้สิ่งที่ชีวิตน้อยๆนั้นต้องเจอพบกับความยากลำบากถึงขนาดว่าจะเอาชีวิตไม่รอด
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ส้ม เช้ง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยรายนี้หลังจากที่เธอนั้นได้เข้าไปถ่ายหนังในป่า แต่กลับพบน้องถูกคนใจร้ายนำเอามาปล่อยใส่โอ่งเอาไว้กะให้สิ้นใจไปเอง โดยในบริเวณพื้นที่นั้นไร้แม้ผู้คนและห่างไกล
ซึ่งในตอนแรกเธอก็ได้ยินเสียงของลูกแมวส่งเสียงร้องเธอจึงได้ค่อยๆตามที่มาของเสียงดังกล่าวไปอย่างช้าๆ จนในที่สุดก็ได้พบเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ร้องอย่างมีหวังว่าจะมีใครมาช่วยเหลือ โดยน้องนั้นอยู่กันทั้งหมด 3 ตัวซึ่งอีก 2 ตัวนั้นได้สิ้นใจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนที่เธอจะมาถึง
เหลือเพียงเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ยังสู้อย่างสุดแรงส่งเสียงร้องเพื่อที่จะให้ช่วยชีวิต ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำน้องมาไว้แบบนี้แต่ที่แน่ๆคือคนคนนั้นต้องเป็นคนที่ใจร้ายเอามากๆ เพราะด้วยความสูงของโอ่งดังกล่าวลูกแมวที่ได้เกิดมาไม่นานไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองและขึ้นมาได้เป็นอย่างแน่นอน
ซึ่งทั้งนี้เองเธอก็ได้นำน้องขึ้นมาและได้นำน้ำและอาหารให้ในเบื่องต้นและพากลับไปยังบ้านอีกต่อไป แต่ทว่าเธอก็อยากที่จะหาบ้านให้กับน้องเพราะตัวเธอเองนั้นไม่สามารถที่จะรับเลี้ยงน้องได้ เนื่องจากที่บ้านของเธอก็มีแมวอยู่แล้วเยอะจำนวนนึง โดยหากเพื่อนๆคนไหนอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ยังต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ส้ม เช้ง และชมคลิป
https://www.facebook.com/SomchangeDesign/videos/3728351830525386/
https://www.facebook.com/SomchangeDesign/videos/3728352037192032/
ติดอยู่บนหลังคาไร้แม้น้ำหรืออาหารจะตกถึงท้อง ด้วยตัวเป็นเพียงจรเขาจึงปิดทางเข้าออกไม่ยอมให้ลง
ด้วยมนุษย์เรานั้นมีความอ่อนโยนในหัวใจที่แตกต่างกัน อาจจะด้วยสภาวะทางสังคมหรือครอบครัวที่ได้เติบโตมา ทำให้มีความมีเมตตาในหัวใจที่แตกต่างกันออกไป เพราะด้วยการได้เติบโตมากับสัตว์เลี้ยงตั้งแต่เล็กๆทำให้ในบางคนนั้นมีหัวใจที่มีเมตตาต่อสัตว์แต่กลับในบางคนกลับมองว่าพวกเขานั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ค่า
ไร้แม้ราคาจึงไม่ต้องไปห่วงใย เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า คำหล้า บ้านทุ่ง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสามตัวแม่ลูกลงในกลุ่ม หาบ้านน้องแมว จังหวัดภูเก็ต หลังจากที่ได้พบน้องติดอยู่บนดาดฟ้าาของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว
ซึ่งพวกน้องนั้นมีอยู่กัน 3 ตัวแม่ลูกแม่แมวนั้นไปคลอดลูกเอาไว้บนนั้นเพราะคิดว่าจะปลอดภัยจากอันตรายด้านล่าง ด้วยปกติแล้วแม่แมวจะขึ้นๆลงๆเพื่อที่จะลงมาหาอาหารให้กับลูกน้อย ส่วนตัวลูกๆของน้องก็จะเฝ้ารออาหารจากผู้เป็นแม่อยู่ด้านบนเพียงเท่านั้น แต่ทว่าครั้งนี้กลับไม่เป็นอย่างเหมือนก่อน
เพราะด้วยทางผู้ดูแลอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวเขาไม่ชอบแมวเขาจึงได้ปิดทางเข้าออกเพื่อที่จะไม่ให้น้องได้ลงมา โดยพวกน้องๆก็ต้องทนอยู่เพียงด้านบนแบบนั้นมาร่วม 3 วันแล้วซึ่งน้องๆไม่มีแม้แต่น้ำหรืออาหารจะตกถึงท้องเลยแม้แต่น้อย โดยเธอเองก็มักจะนำอาหารให้กับน้องอยู่เป็นประจำในทุกวัน
แต่มาวันนี้แม่แมวกลับไม่มาขอข้าวแบบนี้มาหลายวันแล้วเธอจึงได้ตามหาน้องและพบว่าน้องติดอยู่บนดาดฟ้าของ อพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว ซึ่งพิกัดที่เธอได้บอกว่าน้องอยู่น้องอยู่ในซอยธนิต อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต โดยทั้งนี้เองเธอจึงอยากให้ใครเข้าช่วยเหลือน้องเพราะหากปล่อยเอาไว้น้องคงจะต้องอดกันจนสิ้นลม และเบื้องต้นเธอได้นำอาหารเม็ดใส่ถุงและโยนขึ้นไปให้กับพวกน้องๆเพื่อที่จะประทังความหิวแล้ว ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนพอจะเข้าช่วยเหลือน้องได้ก็ช่วยเข้าช่วยเหลือที
ขอขอบคุณข้อมูลจาก คำหล้า บ้านทุ่ง
ถึงหิวก็ต้องทนต้องแอบอยู่ในซอกแคบๆ ไร้คนดูแลไร้คนสนใจเพราะเป็นแค่แมวจร
พวกเรามักจะเคยเห็นและรับรู้ว่าสัตว์เลี้ยงจำนวนมากถูกนำมาเทไว้ โดยที่เขาไม่รู้ประสีประสาอะไร และในตอนนี้ไม่ว่าจะหมาหรือแมวกลายเป็นสัตว์จรเต็มไปหมด และมีอยู่ทุกสถานที่แต่ละที่เป็นอะไรที่น่าสงสารเป็นอย่างมาก ยิ่งด้วยคนเหล่านั้นที่เป็นทาสของน้องๆแล้ว
ก็ตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายไม่น้อยไปกว่าสัตว์จรทั้งหลาย ทั้งที่เห็นและรู้อยู่เต็มอกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากประกาศหาบ้านให้พวกเขาหรือด้วยวิธีอื่นๆตามความสามารถที่จะทำได้ เพราะเราไม่สามารถช่วยทุกชีวิตที่เร่ร่อนได้หมดเลยจริงๆ มันคือวัฎจักรที่ถูกกำหนดมาแล้ว
เหมือนกับในเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ไม่รู้ว่ามีคนเอาน้องแมวมาเทไว้หรือเป็นแมวหลงทางมา โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า (ชั่วคราวหรือถาวรก็ได้ เอาออกมาก่อนจะโดนหมาลากออกมารุมฟัดซะก่อน) น้องหลบอยู่ในซอกกำแพงโดยไม่รู้เลยว่าน้องได้ติดอยู่ในซอกนานแค่ไหนแล้ว คงจะขาดน้ำขาดอาหารไม่รู้นานวันเท่าไหร่
บริเวณตึกมีหมาอยู่4-5ตัว คิดว่าที่น้องไม่ยอมออกมาจากซอกคงกลัวเจ้าตูบฟัดแน่ๆ น้องเลยตัดสินใจยอมอดเพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ อยู่ในซอกต่อไปเพราะหวังว่าจะมีคนใจบุญผ่านมาเจอและใช้เสียงร้องตะโกนออกมาอย่างสุดแรงยามได้ยินเสียงรถและผู้คนผ่านมา เพราะเสียงน้องแมวนั้นเป็นเอกลักษณ์มาก
โชคดีที่ทาสแมวอย่างเราได้ผ่านมาทางนี้และได้ยินเสียงน้อง จึงจอดรถและรีบไปตามเสียง ได้เห็นน้องติดอยู่ในซอกและได้เอาอาหารมาล่อน้องออกมาใกล้ๆกับรูทางออก เพื่อจะได้จับตัวน้องออกมาได้ง่าย น้องแสนรู้มากค่ะ ไม่วิ่งหนี ไม่แสดงอาการกลัวหรือขู่ ที่บ้านเราพื้นที่เต็มมากๆไม่สามารถรับเลี้ยงเพิ่มได้อีก หากบ้านไหนพอมีพื้นที่พอจะแบ่งปันให้อยู่ชั่วคราวระหว่างรอหาบ้านจะดีมากๆเลยค่ะ กลัวน้องได้รับอันตรายไปซะก่อน หากท่านใดสนใจติดตามเรื่องราวเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูที่ต้นโพสต์ได้เลยนะ
ที่มา Nok Nutchar
จะรอจนกว่าจะกลับมา เหมียวนั่งรอพ่อที่หน้าประตูกว่า2อาทิตย์ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำแต่ไม่รู้เลยว่าเขาจะไม่มีวันกลับมาหาอีก
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Noo'Ning Sasitorn Wongchai ของเจ้าเหมียวที่เธอได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้นั่งรอแฟนเก่าของเธออยู่อย่างนี้มา 2 สัปดาห์แล้ว น้องไม่ยอมกินข้าวไม่ยอมกินน้ำและจะนั่งรอจนกว่าแฟนเก่าของเธอจะกลับมา (แต่น้องไม่รู้เลยว่าแฟนเก่าของเธอจะไม่มีวันกลับมาอีก)
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า น้องนั่งอยู่แบบนี้มาตลอด 2 อาทิตย์แล้วค่ะ น้องรอแฟนเก่าเราค่ะ เนื่องจากเราเลิกเขาแล้ว แต่น้องติดแฟนเก่าเรามากๆ น้องจะนั่งรออยู่แบบนี้ทุกวัน ไม่ยอมกินข้าวและไม่ยอมกินน้ำใดๆเลยค่ะ เราควรจะทำยังไงดีคะ
เราเข้าใจความรู้สึกของน้องนะคะ เพราะอารมณ์เดียวกัน เวลามีเสียงรถผ่านไปผ่านมาน้องจะชะเง้อคอรอดูค่ะ(เหมือนกับในคลิป) บางวันเราไปทำธุระ น้องก็จะนั่งคอยอยู่ตรงหน้าต่างรอแฟนเก่าเราเสมอมาค่ะ คือตอนนี้เราเป็นห่วงน้องแมวมากๆค่ะ แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี
ลองซื้อขนมแมวเลียให้แต่น้องก็ไม่ยอมทาน จะพาไปข้างนอกน้องก็ไม่ยอมลุกไปไหน จะทำยังไงดี คือตอนที่เรายังคบกันอยู่เขาจะมาหาน้องทุกเย็นแบบนี้ค่ะ พอมาก็จะบอกทุกวันว่าจะมาหาใหม่นะอะไรแบบนี้ เราบอกความจริงน้องไปไม่รู้ว่าจะส่งผลอะไรหรือเปล่า ในบางครั้งน้องก็จะมีน้ำตาคลอออกมาด้วยค่ะ
https://www.facebook.com/showclip3/videos/746660076080443
จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตในกลุ่มชมรมแมวสายดาร์ก ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า อยากให้ทางสาวเจ้าของพยายามกอดน้องบ่องๆ พยายามพูดคุยกับเขา พยายามบอกกับเขาเรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา พอเวลาผ่านไปสักพักน้องก็จะเริ่มกลับมาเหมือนเดิมได้ในเร็ววัน ส่วนเรื่องอาหารการกินถ้าน้องไม่ทานต้องให้คุณหมอช่วยแล้ว คอยหยอดน้ำเกลือบ้างจนกว่าน้องจะกลับมากินเหมือนเดิม
ที่มา Noo'Ning Sasitorn Wongchai
เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ หลังแม่เอาตุ๊กตาเน่าตัวโปรดไปซัก ได้แต่นั่งเฝ้าไม่ยอมห่าง
หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างเช่นแมวแล้ว เพื่อนๆเองก็คงจะเข้าใจดีว่าแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยจะแสดงออกหรือมีโมเม้นที่น่ารักๆเหมือนกับการได้เลี้ยงสุนัข เพราะด้วยแมวนั้นคิดว่าเรานั้นเป็นทาสส่วนตัวของเขาเป็นเจ้านายของเราอยู่เสมอ
ซึ่งจะว่าด้วยบางคนที่บอกว่าแมวนั้นไม่รู้เรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องที่ผิด เพราะในความจริงแล้วพวกเขานั้นฉลาดมากกว่าสุนัขอีกด้วยซ้ำแต่ขึ้นอยู่กับอารมณ์และสถานการในตอนนั้นว่าอยากจะทำด้วยมากแค่ไหนหรือสนใจกับสิ่งที่เรากำลังพูดมากเพียงใด เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wanwalee Meeshue ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดน่ารักของเขาลงยังโลกออนไลน์หลังจากที่เขานั้นได้แอบเอาตุ๊กตาเน่าตัวโปรดของเจ้าเหมียวมาซัก เขาก็ได้เห็นภาพสุดน่ารักที่เจ้าเหมียวได้ทำ เพราะเมื่อเจ้าเหมียวได้รู้ว่าตุ๊กตาเน่าของตนได้อยู่ในเครื่องซักผ้า
เจ้าเหมียวก็มาคอยนั่งเฝ้าและเป็นกำลังใจให้เครื่องซักผ้าแบบไม่ยอมห่าง โดยผู้เป็นเจ้าของเองก็ได้เล่าว่า "เอาตุ๊กตามาซัก หนึ่งในนั้นมีตุ๊กตาของเด็กๆด้วย เจ้าตัวเล็กก็มานั่งจุมปุ๊กไม่ยอมไปไหนเลย" และหลังจากที่เธอได้โพสต์รูปนี้ลงไปยังโลกออนไลน์ก็ได้มีเพื่อนๆเข้ามาถามเรื่องราวเกี่ยวกับน้องมากมาย
จนเธอต้องมาอธิบายและเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับตัวน้องเป็นข้อๆ โดยอันแรกน้องนั้นเป็นผู้หญิง น้องมีชื่อว่า ทูน่า น้องเป็นแมวสายพันธุ์ Persian น้องเป็นแมวตาสองสี ฟารม์ที่รับน้องมาเป็นฟารม์บ้านเล็กๆ และอีกทั้งมีคนทักมาเพื่อที่จะขอซื้อน้องอีกด้วย ซึ่งเธอเองก็บอกไว้ตรงนี้เลยว่ารักและห่วงมากๆ
และนี่ก็คือสีหน้าแล้วแววตาของน้องทูน่าหลังจากที่ได้ตุ๊กตาเน่าคือเมื่อแม่เอาตุ๊กตาไปซักจนสะอาดแล้ว โอ้ย..เรียกได้ว่าใครเห็นใครก็อยากได้ กับโมเม้นต์ที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยๆในแมว โดยทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากคิดจะเลี้ยงพวกเขาก็ควรที่จะดูแลรักและเอาใจใส่พวกเขาให้เหมือนกับในวันแรกที่เราอยากจะได้พวกเขามา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wanwalee Meeshue