แอบอาศัยในพุ่มไม้ใต้คอนโด ด้วยตัวแม่เป็นเพียงจรจึงกอดลูกเอาไว้แน่นข้างกาย กลัวว่าใครเขาจะมาพรากไปจากอก
ในบางครั้งชีวิตของเรานั้นก็เลือกไม่ได้จึงต้องก้มหน้าก้มตายอมรับกรรมที่ได้เกิดมาพบเจอ เพราะด้วยชีวิตนั้นไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเกิดมามีเงินทองมากมายหรือสุขสบายเพียงใด ทำให้สิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆต้องเกิดมาพบเจอกับความยากลำบากเพียงเพราะแม่นั้นเป็นจร แต่ถ้าหากพวกเขานั้นพูดได้
ตัวของแม่เองก็คงอยากที่จะทำให้ลูกอยู่ได้ด้วยสุขสบายไม่ต้องมาอดทนลำบากเช่นนี้ เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า สิทธิชัย เเก้วมูล ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่น้องนั้นมาขอแอบอาศัยที่ใต้คอนโด ซึ่งผู้คนที่ได้อยู่ในคอนโดนั้นก็จะคอยเอาข้าวเอาน้ำมาผลัดกันให้อยู่เป็นประจำ
จนมาในวันนี้นางได้ให้กำเนิดลูกออกมาเป็นลูกแมวเหมียวตัวน้อยๆทั้งหมด 2 ตัวด้วยมีอายุไม่น่าจะเกินประมาณ 2 สัปดาห์และอยู่ในวัยที่กำลังซนหรือหัดเรียนรู้ แต่ด้วยตัวแม่นั้นก็นิสัยดีน่ารักและห่วงลูกทุกครั้งๆที่เข้าใกล้นางก็จะอยู่กับลูกเอาลูกมากอดอย่างไม่ห่าง
แต่โดยรวมแล้วก็นิสัยดีน่ารักเสมอมา จะมีก็แต่ตัวลูกเองที่ไม่ยอมให้เข้าใกล้เหมือนกับว่าแม่สั่งเอาไว้ให้ขู่อยู่ตลอด และตรงคอนโดเองก็มีรถผ่านเข้าออกอยู่ตลอดผู้โพสต์จึงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องจึงอยากที่จะช่วยให้หาบ้านและโพสต์ลงในแฟนเพจ มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร
และได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ คอนโดเดอะสกาย สุขุมวิท 103/4 หรือเรียกว่าสี่แยกบางนา โดยเขาเองยังได้บอกอีกด้วยว่าเขานั้นไม่ทราบเพศของน้องเพราะด้วยน้องๆนั้นไม่ให้จับ แต่ก็อยากที่จะหาบ้านที่จะพร้อมดูแลทั้งครอบครั้วพวกเด็กๆจะได้ไม่ต้องถูกพรากออกไปจากอก โดยทั้งนี้เองหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สิทธิชัย เเก้วมูล
ถูกเขาชนเข้าให้นอนแน่นิ่งหายใจโรยรินริมถนน ด้วยตัวเป็นเพียงจรจึงไร้แม้ผู้ใดที่จะสนใจชีวิตนี้
เพราะยังมีอีกหลายๆชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้ต้องอดทนใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในแต่ละวัน อีกทั้งเกิดมาเป็นเพียงจรโดยที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตในโลกใบใหญ่ ทำให้ไม่รู้ว่าสิ่งไหนอันตรายต่อตัวเองและด้วยการที่มนุษย์บางคนนั้นมองชีวิตเพียงน้อยๆนั้นไร้ค่า
จึงไม่คิดแม้จะลงมาดูและสนใจ เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Berd Saitingtack ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่ได้พบน้องนอนแน่นิ่งอยู่ที่ริมข้างถนน ซึ่งน้องถูกชนเข้าให้อย่างจังแถมอีกทั้งตัวก็ยังเด็กคงจะไม่รู้ว่าอันตรายจากถนนนั้นมากแค่ไหน
แต่ทว่าเขาเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามสู้สุดใจเพื่อที่จะช่วยเหลือน้อง โดยหลังจากที่เขาได้พบน้องแล้วเขาก็นำน้องใส่ตระกร้าหน้ารถเพื่อที่จะนำส่งไปยังคลีนิคหรือรพ.เพื่อทื่จะให้ช่วยตรวจดูอาการให้กับน้อง ซึ่งในเวลาต่อมาผู้โพสต์ก็ได้ทำการอัพเดทเรื่องราวของน้อง
ภายหลังจากที่เขานั้นได้นำน้องส่งตัวไปรักษาต่อ โดยน้องนั้นมีอาการที่ปลอดภัยดีแล้วอาการเบื้องต้นทางคุณหมอนั้นได้บอกว่าอาการของน้องนั้นดีขึ้นมากตามลำดับ และทางผู้โพสต์เองก็ได้ตั้งชื่อให้กับน้องว่าเจ้าบุญรอด และจะรับน้องเอาไว้ในความดูแลเอง
โดยทั้งนี้ทางผู้โพสต์ยังได้บอกอีกด้วยว่าจะดูแลน้องด้วยสุดกำลังที่ตัวเองมีให้ดีที่สุด และขอขอบคุณเพื่อนๆที่เป็นกำลังใจให้จนน้องปลอดภัยและแข็งแรงขึ้น และก็อยากจะฝากไปถึงเพื่อนๆที่ใช้รถใช้ถนนกันด้วยว่าเข้าใจว่าด้วยบนถนนนั้นเป็นที่ที่รถวิ่งแต่ก็อยากจะให้เห็นถึงชีวิตน้อยๆที่มีค่าหากเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นก็อยากที่จะให้ช่วยลงมาดูสักนิดเพราะบางทีเพียงแค่เสี่ยววิเราอาจจะช่วยชีวิตพวกเขาได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Berd Saitingtack
สาวรู้สึกถูกชะตาหมาทะเล หลังโดนน้องเข้ามาเบียดๆคิดเอากลับบ้าน แต่ก็หนักใจเพราะน้องเป็นหมาที่มีแฟนแล้ว
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Mintt Palita ได้เผยเรื่องราวของน้องหมาริมทะเลตัวหนึ่ง น้องเป็นหมาที่โผล่มาแถวทะเลในช่วงโควิด น้องน่าจะถูกนำมาเทไว้ให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว จนกระทั่งจู่ๆนางก็เดินเข้ามาออดอ้อนสาวผู้โพสต์เหมือนน้องอยากช่วยเธอลงทะเลไปเล่นน้ำด้วยกัน จนเธอนั้นเกิดรู้สึกประทับใจ แต่ทว่า....
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พอดีไปเที่ยวทะเล แล้วเรานั่งอยู่ริมทะเลตรงบริเวณนี้ มีน้องหมาเดินมาเบียดๆที่ตัวเราแล้วก็เดินลงน้ำทะเลไป แล้วก็หันมาเหมือนประมาณว่าให้มาเล่นด้วยกันสิอะไรแบบนี้ น้องน่ารักมากค่ะ น้องสวัสดีเป็นทั้ง 2 ข้างเลย สะกิดเรียกก็เป็นนะคะ จึงลองเดินตามน้องไปได้พบกับแม่บ้านที่ให้ข้าวน้องเวลานางหิวค่ะ
แม่บ้านบอกว่าเวลาน้องหิวจะมาขอข้าวกินที่บ้านเป็นประจำ แต่พอกลางคืนก็ไม่ทราบว่าน้องนอนอยู่ที่ไหน แม่บ้านเขาก็ไม่กล้าจับน้องนะคะ (คล้ายๆจะเป็นเพื่อนต่างแดนนะ พูดภาษาไทยได้แต่ไม่ชัดค่ะ) เราจึงอยากจะเอาน้องกลับมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน แต่ป้าแม่บ้านแจ้งว่าน้องมีแฟนแล้ว ไม่อยากให้แยกน้องออกจากแฟนของน้อง เลยได้แลกไลน์กับป้าแม่บ้านเอาไว้
ป้าแม่บ้านบอกว่าถ้าแฟนน้องมาจะถ่ายรูปให้ดู เผื่อมารับน้องไปทั้ง 2 ตัวค่ะ อยากสอบถามพี่ๆทุกคนว่าถ้าเราเอาน้องมาตัวเดียวจะเป็นอะไรไหม เพราะตอนนี้กลับมายังกรุงเทพแล้วป้าก็ยังไม่ส่งรูปแฟนน้องมาให้นะคะ แต่ใจอยากได้น้องตัวเดียวค่ะ หรือว่าเราไม่ควรแยกน้องออกจากกัน ถูกชะตาน้องมากๆเลยจ้า (ส่วนภาพด้านล่างก็คือเวลาเอาอาหารให้น้องกิน น้องจะเอาอาหารมาขุดหลุมฝังเอาไว้เพราะนางเคยเป็นหมาจรมาก่อน ยามหิวนางจะได้มาขุดเพื่อกินที่เหลือ)
ในตอนแรกนั้นพอจะเอาน้องขึ้นรถ ป้าแม่บ้านรีบเดินออกมาบอกให้รอแฟนของน้องก่อน อย่าพึ่งเอาน้องไปเลย แต่ตอนเอาน้องขึ้นรถน้องดูกลัวๆนะคะ พอขึ้นมานั่งแล้วกอดน้องไว้แน่น น้องก็ดูตื่นเต้นกับวิวบนรถมากเลยค่ะ แต่ป้าแม่บ้านเขาจะร้องไห้เลย ป้าแม่บ้านเขาเป็นคนดูแลคนแก่นะคะ
เหมือนไปพักตากอากาศช่วงโควิด ป้าบอกน้องพึ่งมาช่วงโควิด จริงๆคนแก่เขาอยู่สาทร ตอนนี้ก็กระวนกระวายคิดถึงแต่น้องค่ะ แต่ใจจริงๆจะไปรับเขามาค่ะ อย่างน้อยเขาก็กินอิ่มนอนหลับ สบายกว่า แต่กำลังกังวลอยู่ว่าถ้าเอาน้องมาอยู่เราจะมีเวลาให้น้องแค่หลังเลิกงานค่ะ ถ้าระหว่างวันน้องต้องอยู่คนเดียว น้องจะเหงาไปไหมคะ
และนี่คือภาพล่าสุดของแฟนของนาง มาซะดึกเลยป้าแม่บ้านถ่ายรูปมาให้ดูแล้วค่าาา เขารูปหล่อนะคะ แต่ทำไมมาไม่ตรงเวลากันเลยน๊า หรือน้องจะเป็นเพื่อนกันคะ...
กระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่ในถุงปุ๋ย3ชั้น ขอให้ลูกหลุดพ้นส่วนตัวแม่นั้นจะนอนรอให้สิ้นใจอยู่ในถุงที่ไร้ทางออก
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Jirawan Akarachat ได้เผยเรื่องราวของครอบครัวแม่น้องหมา ถูกคนใจยักษ์ใจมารนำน้องๆมาเท จับยัดใส่กระสอบไร้ซึ่งเรียวแรงและอากาศหายใจ ดิ้นรนหาทางออกจากกระสอบแม้ตนจะขาดอากาศหายใจไปอย่างช้าๆ และนอนรอความหวังแม้ข้างในนั้นจะมืดมน
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ไม่รู้จะพูดอะไรพูดไม่ออกเจอแบบนี้น้ำตาไหลระหว่างทางที่รับลูกกลับบ้าน ได้ขี่รถไปเจอแม่หมาและลูกหมาที่แม้แต่จะลืมตาอ้าปากก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นแม้แสงสว่าง ถูกมัดใส่กระสอบปุ๋ยหนา3ชั้น มาโยนไว้ข้างถนนล้อมรอบด้วยป่าเขา เราไปลากกระสอบออกมาจากในป่า
น้องคงได้ยินเสียงเพราะสัญชาตญาณของแม่หมาที่จะช่วยลูกน้องดิ้นอย่างสุดกำลังที่มี และร้องขอความช่วยเหลือแม้ตัวนั้นจะกำลังขาดใจ นอนรอความหวังไม่มีแม้แต่ใครจะผ่านมาทางนั้น เพราะถนนเส้นดังกล่าวที่เรากลับเป็นถนนเส้นปิด ไม่มีมีแม้ผู้คนผ่านเข้ามามันคงเป็นโชคของเอ็งนะเจ้าหมาลูกหมาก็ใช่ว่าจะไม่น่ารัก
น่ารักทุกตัวน้องหิวมากพยายามงับกระสอบเพื่อให้ลูกได้กิน โอ้ยจะร้องไห้เราก็ช่วยน้องๆได้เท่านี้กลับบ้านไปเอาข้าวมาให้กับน้ำแล้วก็นม2กล่อง ถ้าพรุ่งนี้ยังเจอ จะเอาข้าวไปให้นะถ้าที่บ้านหมาไม่เยอะจะเอามาเลี้ยง ..ขอให้มีคนผ่านไปเอาน้องไปเลี้ยงด้วยนะ สงสารนะจิตใจทำด้วยอะไรทำไมใจร้ายขนาดนี้ คุณไม่ได้จงใจเอาไปเทไว้แต่คุณจงใจให้เค้าสิ้นใจ
ที่มา Jirawan Akarachat
จากที่เคยหอบลูกหอบเต้ามาขอข้าวประทังความหิว มาในวันนี้กลายเป็นแมวตาสองสีที่ส่องสว่าง
ด้วยหัวอกคนเป็นแม่แล้วไม่ว่าอย่างไรก็ตามแต่ก็อยากที่จะเสียสละหรือพยายามที่จะหาความอิ่มท้องให้กับลูกตัวน้อยๆ แม้ว่าตัวจะยากลำบากมากเพียงใดก็ตาม แต่ก็ขอเพียงแค่ให้ได้สุขใจเมื่อลูกได้อยู่ใกล้ๆและยังได้อิ่มท้อง ซึ่งไม่ว่าแม่คนไหนก็คงจะต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกๆของตัวเอง
และก็ไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์อย่างเราๆเท่านั้นแม้แต่สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแมวเองก็มีความเป็นแม่อยู่เต็มอก เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ดวงกมล เลือดแดง ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวเหล่านี้หลังจากที่ก่อนหน้านี้แม่แมวได้พาลูกๆเดินมาเพื่อที่จะขอกินข้าวที่บ้านของเธอ
ซึ่งผู้เป็นแม่แมวก็ได้หอบลูกหอบเต้ามาเป็นแบบนี้อยู่เป็นประจำ โดยเมื่อได้กินข้าวเสร็จแล้วก็จะเดินกลับไปบ้านของตนเอง จนในวันนึงเจ้าของแมวเค้าเดินมาบอกกับเธอว่าจะเอาลูกแมวทั้ง 3 ตัวนั้นให้แฟนของเธอไปเลี้ยงในเรือซึ่งแฟนของผู้เป็นเจ้าของแมวนั้นทำงานในเรือหาปลา
โดยผู้โพสต์นั้นก็ได้ขอเอาไว้ว่าเธอจะเลี้ยงพวกเด็กๆเอง จนมาในวันนี้พวกเด็กๆได้เติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว ซึ่งเธอได้ตั้งชื่อทั้งสองตัวว่าเจ้าเผือกและเจ้าสองด้วยเด็กๆทั้งคู่ได้เติบใหญ่มาเป็นแมวที่สวยสง่าและสบายดี ส่วนผู้เป็นแม่นั้นก็เป็นจรสามสีที่มักจะเดินมาขอข้าวกินอยู่ทุกวัน
ด้วยเธอได้ออกค่าทำหมันให้กับผู้เป็นเจ้าของน้องเก่าเพราะไม่อยากที่จะให้มีแม่สามสีนั้นมีลูกออกมาและถูกเจ้าของพาไปลงเริอเพราะสงสารเด็กๆ แต่ทว่าทั้งนี้พวกน้องๆนั้นได้ถูกเลี้ยงดูมาดีซึ่งจากแมวไทยที่มีสีขาวสวยกลับเป็นแมวที่ดูดีมีราคาเพราะว่าความรักและการดูแลเอาใจใส่ของเธอทำให้พวกน้องนั้นได้อยู่กันอย่างมีความสุข
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ดวงกมล เลือดแดง
ถูกเขาพรากแม่ไปจากอก หลังเอามาเทไว้กลางป่าไร้แม้จะมีปัญญาจะป้องกันตัว ด้วยตัวเพียงน้อยนิด
ด้วยชีวิตที่ได้เกิดมาแม้ตัวจะมีสายพันธุ์ดีเพียงใดแต่เมื่อไม่เป็นที่ต้องการหรือเลี้ยงไม่ไหวก็กลับเอาชีวิตน้อยๆไปเทไว้อย่างไม่เห็นแม้คุณค่า ด้วยไม่รู้หรือจะสนใจว่าพวกเขานั้นจะใช้ชีวิตหรือมีชีวิตอยู่ต่อไปกันอย่างไร เพราะด้วยปัญหาที่เกิดมาเพียงแค่เลี้ยงไม่ใส่ใจให้ตั้งท้องแล้วจึงนำมาเทไว้พรากลูกเขาไปอย่างไร้เรี่ยวแรง
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ดวงกมล เลือดแดง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยๆเหล่านี้หลังจากที่เธอได้พบน้องตอนเวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่งซึ่งเธอก็ได้พบน้องอยู่ที่หน้าบ้านของเธอแล้ว ด้วยสภาพของเด็กที่มีอายุเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์
จึงได้นอนกกกันกลัวจนตัวสั่นไม่รู้ว่าผู้เป็นแม่นั้นอยู่ที่ไหน จะคิดถึงก็สุดหัวใจไม่รู้จะตามหาอย่างไรไม่รู้เลย ด้วยยิ่งเด็กยิ่งเล็กก็ไร้จะปกป้องกันตัวเพราะไม่เคยได้ออกห่างจากอกผู้เป็นแม่ แต่ที่นี้แม่นั้นไม่ได้อยู่กับพวกหนูแล้วจะใช้ชีวิตกันอยู่ต่อไปอย่างไร ด้วยทำได้เกาะกันไว้เป็นกลัวบรรเทาความหนาวและความกลัวได้บ้าง
แต่ในใจลึกก็ยังร้องเรียกหาไม่รู้ว่าแม่อยู่หนไหน ด้วยเธอยังได้เล่าอีกว่าเธอเองก็ไม่สามารถที่จะรับน้องได้เพราะที่บ้านของเธอก็มีทั้งสุนัขและแมวเต็มที่แล้วแต่จิตใจคนที่ทำนั้นคิดอย่างไรเอามาเทไว้ไม่คิดถึงพวกเขาเลย และน้องแต่ละตัวก็มีปัญหาทางโรคผิวหนังด้วยนิดหน่อย
ซึ่งน้องๆก็เป็นแมวพันธุ์สีสวาทตัวน้อยๆด้วยทั้งหมด จึงอยากจะหาบ้านที่จะสามารถเลี้ยงดูแลพวกเด็กๆได้และขอเป็นเพียงหลังสุดท้ายจะได้ไม่ต้องถูกเอามาไว้แบบนี้อีก อีกทั้งพวกเด็กๆก็คงจะคิดถึงผู้เป็นแม่อย่างมากแล้วซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nonglak Kuhoulee
เหวี่ยงเบอร์สุด หลังพลัดหลงมาตามหาผู้เป็นเจ้าของไม่เจอ ได้แต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนโกรธใครมา
หากเพื่อนๆที่ได้เป็นทาสแมวหรือได้เลี้ยงแมวแล้วก็จะเข้าใจดีว่า แมวนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่พวกเขานั้นจะคิดไม่เหมือนกับหมาที่มักจะคิดว่าตัวของพวกเขาเองเป็นเจ้านายของเราและคิดว่าเราเป็นทาสของพวกเขา ซึ่งหากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงหรือเคยได้สัมผัสก็จะเข้าใจดีด้วยอุปลักษณะนิสัยแล้วก็ไม่มีอะไรจะเถียงไปได้เลย
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้โดยเมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Charin Tawatchayakun ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวแสบรายนี้ลงยังโลกออนไลน์หลังจากที่เขาได้พบเจ้าเหมียวรายนี้ตกลงมาจากรถเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.- 1 ก.ค ซึ่งเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นช่วงเวลาไหน
โดยพิกัดที่พบน้องอยู่แถวรังสิตคลอง 1 ธัญญะ ซึ่งน้องมีท่าทางที่เป็นมิตรและไม่ดุแถมยังมีปลอกคอติดมาด้วย และด้วยตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าน้องมีอาการบาดเจ็บจากการตกจากรถหรือไม่ แต่ที่แน่ๆน้องดูว่ามีผู้เป็นเจ้าของเป็นแน่แท้เพราะจากสีหน้าทึ่เฝ้ารอผู้เป็นทาสนั้นได้บ่งบอก
ความเป็นนายในตัวสูงอีกทั้งที่เจ้าของโพสต์ได้เล่าว่าน้องดูเป็นมิตรก็อาจจะเป็นเรื่องจริงแต่ทว่าสีหน้าและแววตาที่เฝ้่ารอผู้เป็นเจ้าของอาจจะดูเหวี่ยงไปนิดหน่อยเพียงเท่านั้น เนื่องจากน้องได้รอมาเป็นเวลานานแถมยังหาผู้เป็นเจ้าของไม่พบแต่อย่างใด
จนในที่สุดทางผู้โพสต์เองก็ต้องประกาศหาบ้านให้กับน้องเนื่องจากตามหาผู้เป็นเจ้าของไม่พบ ซึ่งหาเพื่อนๆพอจะรู้จักกับแมวตัวนี้หรือว่ารู้จักผู้เป็นเจ้าของของน้องก็สามารถติดต่อไปที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ก่อนที่เจ้าของโพสต์จะถูกยึดบ้านและตกเป็นทาสแมวเพราะดูแววสี่หน้าก็ไม่ใช่เล่น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Charin Tawatchayakun
ยืนนิ่งๆอยู่ในน้ำไม่ยอมขยับไปไหน ด้วยขาที่ไร้เรี่ยวแรงจะขยับต้องทนให้ยุงกัดไม่รู้ต้องทนนานเท่าไหร่
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Sunesa Bunsuk ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นกำลังขี่รถไปซื้ออาหารหมาและได้พบเจอกับน้องหมาตัวหนึ่ง ในตอนแรกเธอก็คิดว่าน้องหมาตัวนั้นน่าจะร้อนเลยลงไปเล่นน้ำข้างล่าง แต่พอลองโยนกิ่งไม้ลงไปน้องกลับนิ่งไม่ขยับไปไหน....
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรากับแฟนขี่รถไปซื้ออาหารให้น้องหมาที่บ้าน ในระหว่างทางอยู่นั้นเองก็ได้เจอหมาตัวนึงสีขาวตอนแรกคิดว่าน้องคงลงไปเล่นน้ำสงสัยจะร้อน แต่เห็นตัวน้องมันสั่นๆ และด้วยความสงสัยเลยแกล้งลองเอากิ่งไม้แห้งๆโยนใส่น้องดูน้องก็นิ่งๆไม่ขยับ
คิดว่าน้องคงขึ้นฝั่งมาไม่ไหวเพราะมันสูง เรากับแฟนก็ว่ายน้ำไม่เป็นและไม่รู้ว่าน้ำมันลึกแค่ไหน เราก็เลยหาทางข้ามไปอีกฝั่งนึ่งเพี่อช่วยน้องขึ้นมา ตอนแรกน้องก็ทำท่าจะงับแฟนเรา แต่พอค่อยๆลูบหัวน้อง น้องก็เลยไม่งับ ผลสุดท้ายก็ต้องแบ่งอาหารที่ซื้อมานั่นแหละไห้น้องกิน555
คนที่ขี่รถผ่านไปผ่านมามีแต่คนจอดรถแล้วมองดูเรา2คนกำลังช่วยน้องอยู่ ความสุขเล็กๆที่ได้ช่วยเหลือน้องหมาตกน้ำขึ้นฝั่งไม่ได้ จนเรื่องราวดังกล่าวสร้างรอยยิ้มและความปลาบปลื้มให้กับชาวรักหมาเป็นอย่างมาก ที่ได้ช่วยเหลือน้องหมาที่กำลังตกทุกข์ หากไม่มีใครช่วยน้องคงต้องนอนอยู่ในน้ำทั้งคืน
ที่มา Sunesa Bunsuk
แมวก็ตรอมใจได้ หลังเจ้าของมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จนแมวเกิดเครียดและซึมเศร้าไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Ti Theraphosath ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยก่อนหน้านี้เธอนั้นได้รับแมวตัวใหม่เข้ามาในบ้าน และเธอก็ดันไปสนใจแมวตัวใหม่มากจนเกินไป การสนใจแมวตัวเก่าก็ลดน้อยลง จนกระทั่งจู่ๆแมวตัวเก่าก็เกิดอาการซึมเซ้า และเริ่มตรอมใจลง จนกระทั่ง....
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวเป็นโรคเครียดและตรอมใจได้จริงๆนะคะ เรื่องมันมีอยู่ว่าเราเพิ่งรับแมวมาใหม่ (เลี้ยงได้เกือบสองเดือนแล้วค่ะ) แล้วก็ละเลยแมวตัวเก่าไป (ในรูปแมวตัวเก่าอายุ5ขวบ) คือนิสัยของตัวเก่านั้นเป็นแมวที่ไม่วุ่นวายกับคนสักเท่าไหร่ แต่น้องจะชอบมาขอนอนกับเราอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งมีน้องแมวตัวใหม่มา ตัวใหม่จะชอบ
กระโดดเข้ามานอนกับเรา นิสัยติดคนขี้อ้อนมากๆ พอตัวเก่าเห็นเข้าก็จะเสียสละที่นอนข้างๆเราให้น้องตลอดเลย เวลาผ่านไป แมวใหม่ก็เริ่มโตขึ้นและวัยที่กำลังซนตามขึ้นด้วย น้องตัวเก่าก็เริ่มมีอาการสุขุมมากขึ้น เราก็เข้าใจว่ามันอาจจะเป็นผู้ใหญ่แล้วเมื่ออยู่กับเด็กๆ แต่สองสามวันมานี้ แมวตัวเก่านิ่งไป ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ ไม่ยอมเข้าห้องน้ำไม่ขยับอะไรเลย พร้อมกับมีไข้ขึ้น
เราเลยเข้าใจว่าน้องอาจเป็นโรคไตเพราะเคยรักษาแกมาก่อน รวมไปถึงเราจะดุตัวเก่าอยู่บ่อยๆด้วย เพราะไปกินอาหารน้องแมวใหม่ ซึ่งหมอเองเขาห้ามให้ตัวเก่ากินเพราะอาการไตจะกำเริบได้ เราเลยเข้าใจว่าน้องคงเป็นไตอีกรอบเลยพาไปเช็คกับคุณหมอ และไข้น้องก็สูงขึ้นค่ะ แต่ผลตรวจปกติ หมอให้นอนดูอาการหนึ่งคืน
วันนี้เองไปรับน้องตัวเก่ากลับมาบ้านหมอบอกว่า น่าจะเกิดจากความเครียด เพราะให้ทานยาแก้เครียดแล้วหายดี มีอาการร่าเริง ให้ยาลดไข้ ไข้ลดลง กินข้าวได้ตามปกติ ถ้าหลักวิทยาศาสตร์ก็คือ แมวใหม่มีกลิ่นฮอร์โมนสร้างอาณาเขตเพราะเริ่มเป็นหนุ่มแล้ว แต่แมวเก่าทำหมันแล้ว จิตใจน้องเลยเปราะบางมาก จะไปฉี่ในกะบะทรายร่วมกับอีกตัวก็ฉี่ไม่ลง
แม่ก็มาดุอีกเรื่องกินอาหารของน้อง อะไรที่เคยใส่ใจเค้าก็ลดน้อยลง แมวตัวเก่าจึงเริ่มมีอาการลักษณะนี้คล้ายๆซึมเศร้า ตอนนี้น้องกินยาแก้เครียดเสร็จกลับบ้านมา น้องมีอาการร่าเริงมากขึ้น เราพูดคุยกับน้องมากยิ่งขึ้น ตอนนี้น้องเหมือนแมวเด็ก อยู่ใกล้เราตลอดเวลา ร้องอ้อนไม่ยอมหยุด มานั่งเฝ้าอยู่ตลอด
ต่างจากก่อนหน้านั้นที่วางตัวเป็นผู้ใหญ่สุขุม อันนี้ก็คือข้อสันนิษฐานส่วนตัวกับทางคุณหมอนะคะ...
ยังคงเฝ้าไม่ยอมห่างหลังหลงมาคิดว่าเจ้าของอยู่ในเซเว่น จึงเฝ้าคอยด้วยใจหวังว่าจะพบกันอีกครั้ง
ด้วยสุนัขนั้นขึ้นชื่อของเรื่องของความซื่อสัตย์เป็นที่หนึ่ง ซึ่งหากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงหรือเคยได้สัมผัสนั้นก็จะเข้าใจดี ด้วยพวกเขานั้นจะไม่มีวันลืมผู้เป็นนายไม่ว่าวันเวลานั้นจะผ่านไปนานสักแค่ไหนก็ตาม เพราะด้วยความรักและความผูกพันที่มีต่อผู้เป็นเจ้าของทำให้สุนัขในบางตัวนั้นสามารถที่จะมีนายเพียงแค่คนเดียวได้ตลอดชีวิต
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า บ้านหมายิ้ม หาดใหญ่ : Smiledog Home Hatyai ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้หลังจากที่ได้พบน้องพลัดหลงมาจากแถววัดฉือฉางได้ประมาณ 2-3 วันแล้ว ซึ่งน้องก็ยังคงเฝ้าคอยมองดูคนผ่านไปมาหน้า 7-11 เพราะคิดว่าผู้เป็นนายเข้าไปในนั้น
โดยทางแฟนเพจเองก็ได้ประกาศตามหาผู้เป็นเจ้าของน้อง เพราะเนื่องด้วยในตอนนี้น้องได้เริ่มที่จะสร้างปัญหาโดยการที่เข้าไปนอนในเซเว่นแล้วไม่ยอมออกมา จึงจำเป็นต้องประกาศหาผู้เป็นเจ้าของหรือหาบ้านให้กับน้องโดยด่วน ก่อนที่เทศบาลนั้นจะมารับตัวไป
ซึ่งลักษณะนิสัยของน้องนั้นเป็นสุนัขที่น่ารักและขี้กลัว น้องเป็นเพศเมียโดยทางแฟนเพจยังได้บอกอีกด้วยว่ายินดีที่จะทำวัคซีนและทำหมันให้ก่อนที่จะหาบ้านให้เรียบร้อยหรือก่อนที่จะส่งตัว โดยทั้งนี้ก็ขอความเมตตาตามหาผู้เป็นเจ้าของเพราะด้วยน้องน่าจะคิดถึงผู้เป็นเจ้าของแย่แล้วและหากเพื่อนๆคนไหนพอที่จะรู้จักกับเจ้าของน้องก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก บ้านหมายิ้ม หาดใหญ่ : Smiledog Home Hatyai