ทาสแมว

หากเราจะเอื้อนเอ่ยถึงความเป็นแม่เชื่อได้ว่าทุกคนคงจะรู้จักกับคำคำนี้ดี ด้วยความรักที่แสนจะยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเขาจะมาเทียบได้ แม่ยอมสละเสียตัวเองแทนแม่ก็ยอมทำให้ได้เพื่อให้ลูกนั้นได้อยู่อย่างสุขสบาย ไม่ว่าแม้ตัวแม่เองนั้นจะต้องยากลำบากมากเพียงใดก็ตามแต่ เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Aon Ja ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของความเป็นแม่นี้ลงในกลุ่ม หาบ้านน้องหมาน้องแมว หลังจากที่เธอได้ผ่านในแถวนั้นก็ได้พบเห็นแม่แมวกับลูกแมวตัวน้อยๆ 4 ตัวนอนอยู่บนหลังคาซึ่งเป็นร้านค้าในซอยธนิยะสีลม กรุงเทพ ซึ่งน้องๆมักจะขึ้นๆลงๆอยู่ใต้หลังตาสีเขียว แต่ทว่าน้องแมวตัวน้อยก็น่าจะไม่สามารถลงไปหาอะไรกินเองได้ เพราะถ้ามองจากถนนขึ้นมาด้านล่างก็จะมองไม่เห็นน้องก็คงจะต้องอดด้วยเพราะไร้คนจะช่วยเหลือ แต่ทว่าการที่น้องๆได้ขึ้นไปอยู่แบบนั้นก็คาดว่าน่าจะเกิดจากแม่แมวเป็นผู้นำพาขึ้นไป ด้วยคำนึงถึงความปลอดภัยที่แม่แมวจรนั้นจะสามารถหาให้กับลูกได้จึงทำได้เพียงแค่ให้อยู่บนนี้หวังปลอดภัย ด้วยแม้ไร้จะหลบแดดหลบฝนก็ทนยอม ซึ่งเธอจึงอยากจะฝากถึงเพื่อนๆที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวที่ได้ผ่านไปมาหวังให้อาหารกับน้องหรือมีใครที่พอจะช่วยเหลือได้ก็วอนช่วยเหลือน้องที ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนอยากที่จะรับน้องไปดูแลก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์เพื่อที่จะสอบถามเพิ่มเติม ขอขอบคุณข้อมูลจาก Aon Ja

ด้วยชีวิตที่ไร้คนต้องการเหมือนอย่างใครๆ ทำให้หลายชีวิตนั้นต้องเกิดมาอย่างไร้ค่าใช้ชีวิตตามมีตามเกิดแต่ในบางครั้งมนุษย์นั้นก็เป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัวและมองเห็นชีวิตน้อยๆไม่มีค่าอะไร ทำให้หลายชีวิตอาจจะต้องจบชีวิตไปด้วยไม่มีใครเขาต้องการ เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Arannee Watanateerakul‎ ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวส้มตัวน้อยนี้มาโพสต์ลงยังแฟนเพจ มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร หลังจากที่เธอได้พบน้องเหมียวตัวส้มนี้ถูกผู้คนใจร้ายโยนออกมาจากไซต์งานก่อสร้างแบบไม่เหลียวแลว่ามีชีวิต ซึ่งน้องก็ได้เดินลากขาเนื้อตัวเปียกโคลนออกมาด้วยความเจ็บ และแอบมานอนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยไร้แม้สิ้นหวัง เพราะชีวิตที่เลือกจะเกิดไม่ได้เพียงแค่ขออยู่อาศัยเขาก็ไม่ให้แถมยังกระทำขับไล่ออกมา อาจจะด้วยเขตในพื้นที่ก่อสร้างทำให้ต้องมีเครื่องมือต่างๆ เขาจึงไล่มาได้ลง เธอจึงได้ถ่ายรูปพร้อมกับแนบเรื่องราวมาลงในแฟนเพจดังกล่าวเพื่อที่จะร้องขอความช่วยเหลือ เพราะในบริเวณดังกล่าวตั้งอยู่ที่ สีลมซอย 9 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งน้องได้แอบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมถนน หากมีสุนัขจรผ่านมาก็ไม่มีที่ให้หนีได้เลย จึงอยากจะให้ใครสักคนเข้าช่วยเหลือน้องที ด้วยชีวิตน้อยๆที่ยังเหลือรอดและแววตาที่น่าสงสารนี้พอจะมีใครมีที่ว่างที่บ้านเหลือบ้างขอให้ได้อยู่ได้อาศัยกินวันละมื้อสองมื้อไม่สร้างความลำบากใจก็รบกวนช่วยเหลือหน่อย โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะเข้าช่วยเหลือน้องอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Arannee Watanateerakul‎ 

หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงสุนัขแล้วก็คงจะทราบและเข้าใจกันดีถึงความแสนรู้แสนฉลาดของพวกเขา ว่าพวกเขานั้นฉลาดและรักผู้เป็นเจ้าของมากแค่ไหนเพราะด้วยความซื่อสัตย์ที่เขาได้มีทำให้สุนัขในบางตัวนั้นสามารถมีผู้เป็นเจ้าของได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เราจึงมักจะบอกกับเพื่อนๆว่าให้เลี้ยงพวกเขาในระบบปิด เพื่อที่จะไม่เป็นปัญหาเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thammawiset Normal ได้โพสต์เล่าเรื่องราวเจ้าตูบรายนี้ ด้วยตัวเขาเองนั้นเป็นพนักงานขับรถส่งของบริษัทสีชมพู แต่ทว่าเขาก็กลับได้พบเจ้าตูบรายนี้มากระโดดขึ้นรถของเขาและไม่ยอมที่จะลง เขาจึงต้องตัดสินใจเอาเจ้าตูบขับรถไปส่งของร่วมกับเขาด้วยทั่วเคหะยัน ซึ่งไม่ว่านานแค่ไหนก็ตามเจ้าตูบก็ยังไม่ยอมที่จะลงไปอยู่ดี โดยเจ้าตูบนั้นได้ขึ้นมาตั้งแต่จากกลางตลาดและในตอนนี้เขาก็ไปส่งน้องเอาไว้ตรงกลางตลาดเหมือนเดิม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของจึงอยากวอนให้กลับมารับน้อง เพราะด้วยจากน้องน่าจะเป็นสุนัขที่ถูกเลี้ยงดูมาเพราะพูดรู้เรื่องและขี้อ้อน อีกทั้งยังดูเหมือนกับว่าน้องกำลังตามหาผู้เป็นเจ้าของ แถมกว่าที่เขาจะเอาน้องลงจากรถมาได้ก็ต้องแอบวิ่งหนีขึ้นรถเหงื่อตกเลย แถมน้องยังได้รับบาดเจ็บที่เท้าอีกด้วย ซึ่งเขาจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ยังกลุ่ม เคหะร่มเกล้า เคหะชุมชนร่มเกล้า บ้านเอื้ออาทรร่มเกล้า ซื้อขายของเคหะร่มเกล้า เผื่อว่าใครที่พอจะรู้จักกับเจ้าตูบหรือผู้เป็นเจ้าของน้องก็อยากที่จะให้ไปรับน้องกลับที และไม่รู้ว่าป่านนี้น้องจะเป็นอย่างไรบ้างคงจะคิดถึงผู้เป็นเจ้าของแย่แล้ว และหากเพื่อนๆคนไหนรู้จักเจ้าตูบรายนี้ก็สามารถไปติดต่อได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Thammawiset Normal

หากเพื่อนๆบ้านไหนที่เคยอยากที่จะเลี้ยงแมวแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นไม่อยากที่จะให้เลี้ยง ก็คงจะเคยประสบกับปัญหาที่ว่าจะเอามาเลี้ยงทำไมให้เป็นภาระ หรือจะเอามาเลี้ยงทำไมให้ปวดหัวจะไปไหนมาไหนก็ไปไม่ได้เพราะต้องมานั่งดูแล หรือหนักที่สุดก็คือไม่ชอบและไม่รักสัตว์เลี้ยงก็มี เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ชื่อว่า กษมา ปัญโญนันท์ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของคุณแม่ของเธอหลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอเคยพูดบอกกับแม่ว่าเธอจะนำแมวมาเลี้ยง แต่ทว่าแม่ของเธอกลับบอกว่าจะเอามาเลี้ยงทำไมให้เป็นภาระเพราะด้วยการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงนั้นก็ไม่ต่างจากการที่เราจะต้องดูแลเด็ก ที่มีอายุเพียงแค่ 2 ขวบเพียงเท่านั้นซึ่งแม่ของเธอเองก็ไม่สนับสนุนหรือสนใจอยากที่จะให้เลี้ยงมากสักเท่าไหร่นัก เพราะอาจจะด้วยความเป็นผู้ใหญ่ที่มองว่าการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเล็กๆก็ไม่ได้ต่างจากการเลี้ยงเด็ก แต่เมื่อถึงเวลาที่เธอนั้นได้เอาเจ้าเหมียวตัวนี้เข้ามาเลี้ยงดูแล้ว ความเปลี่ยนแปลงก็ได้ค่อยๆเริ่มที่จะเกิดขึ้น เมื่อได้อยู่ร่วมกันในระยะเวลานานแม่ของเธอก็ค่อยๆที่จะเปิดใจและยอมรับกับสิ่งที่เธอได้เป็นคนเอาเข้ามาในวันนั้น นั่นก็คือชีวิตเล็กที่สร้างทั้งความรักและความผูกพันแม้กระทั่งรอยยิ้มหรือความเสียใจ เธอเองจึงได้มาเล่าเรื่องราวนี้ลงในกลุ่ม แมว เพื่อที่จะบอกเล่าให้กับเพื่อนๆในกลุ่มได้รับชมและเป็นเคสตัวอย่าง โดยภาพที่เธอได้โพสต์ก็เป็นภาพที่คุณแม่ของเธอนั้นกำลังกอดเจ้าเหมียวและอุ้มเจ้าเหมียวเหมือนกับลูกตัวน้อยๆของเธอเอง และได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า แม่ผู้ที่บอกว่าแมวคือภาระ และนี่คือสิ่งที่แม่ของเธอได้กระทำทั้งกอดทั้งหอมข้าวสวยลูกรักของยาย ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเอาไว้ด้วยว่าแมวนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของคนเราได้หากเราได้อยู่กับพวกเขาเพราะหัวใจของพวกเขานั้นเป็นหัวใจที่สุดแสนจะบริสุทธิ์ ขอขอบคุณข้อมูลจาก กษมา ปัญโญนันท์

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Thanakorn Keawchoowong ได้เผยเรื่องราวของหนุ่มแกร๊บไบค์ท่านหนึ่ง โดยแกร๊บไบค์ท่านนี้ได้ขี่รถส่งอาหารตามปกติเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา แต่ในวันนี้เองเขานั้นได้พบเจอกับลูกแมวตัวน้อยอยู่ที่ข้างถนน เขาเองจึงตัดสินใจต้องทำอะไรสักอย่าง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขออนุญาตินะครับ หาคนพาน้องไปเลี้ยงเอาไปดูแลที่บ้าน โดยตัวเขานั้นได้พบเจอน้องบนสะพานข้ามประตูน้ำ ใจก็กลัวน้องจะโดนรถชนผมเลยวิ่งไปเก็บมา ถ้ามีใครสนใจจะรับน้องไปเลี้ยงบอกได้นะครับผมยินดีไปส่งให้ถึงหน้าบ้านท่านเลยแต่ขอดูแลน้องจริงๆนะครับ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในกลุ่ม คนขับ grabfood ชาวเน็ตในกลุ่มต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวชื่นชมกับหนุ่มแกร๊บฟู๊ดคนดังกล่าว และชาวเน็ตหลายท่านเองนั้นต่างสนใจและยินดีรับน้องไปเลี้ยงที่บ้าน จนกระทั่ง เรื่องราวนี้ถูกโพสต์ไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ล่าสุดน้องก็มีบ้านหลังใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฟ้าหลังฝนย่อมดีกว่าเสมอ จากกลายเป็นจรเพียงไม่นอนต้องระหกระเหินจนเกือบถูกรถชน แต่พอมีคนใจดียื่นมือเข้ามาช่วยชีวิตของน้องก็เปลี่ยนแปลงไป ยินดีด้วยนะลูก และต้องขอขอบคุณพี่แกร๊บคนดังกล่าวด้วยนะที่ได้ช่วยชีวิตน้องเอาไว้   ที่มา Thanakorn Keawchoowong

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nartnapa Jane ได้เผยเรื่องราวของน้องหมาจรตัวหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว และตัวเธอเองนั้นได้ไปพบเจอน้องเข้าตัวเธอนั้นจะทำเป็นไม่สนใจก็ทำไม่ได้ เพราะน้องก็แก่แล้วไม่รู้ต้องทนตากฝนอยู่อย่างนี้นานเท่าไหร่ จนกระทั่ง.... . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ช่วงนี้มีข่าวหมาโดนเทเยอะมากเลย อ่านแล้วก็รู้สึกสงสารน้องเหนื่อยใจ เห้อออ พอวันนี้เจนขับรถไปที่ตลาด เจอหมาแก่ๆตัวนึงนอนอยู่ในป่ารกข้างทาง สภาพผอมมากแถมมีหมัดแดงเต็มตัวจนไม่มีที่ว่าง ขนน้องก็เป็นก้อนๆทั้งตัว น้องน่าจะโดนเขาเทมาแล้วเกือบๆ 2 อาทิตย์ ตรงที่น้องนอนอยู่รอดมาได้เพราะมีพี่ที่เขาทำงานบริเวณนั้นให้ข้าวให้น้ำบ้างเวลาที่พบเห็น เจนจอดรถคิดอยู่สักพักนึงว่าจะเอายังไงดี จะทำเป็นไม่สนใจแล้วผ่านไป หรือจะยังไงต่อ เพราที่บ้านก็มีถึง4ตัวแล้วอ่ะ แต่...สุดท้ายทนเห็นสภาพแบบนี้ไม่ได้ ใจอ่อนเพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าเจนให้ไก่แกไป2ชิ้น น้องกินไป1ชิ้น แล้วเอาอีก1ชิ้นไปซ่อนไว้ โอ้ยย...ลูก คงเก็บไว้กินตอนหิวสินะ เราเลยตัดสินใจเอาน้องกลับมาบ้านในทันที อย่างน้อยๆก็ไม่ต้องโดนรถชน อย่างน้อยๆน้องจะได้ไม่ต้องตากทนฝน อย่างน้อยๆน้องจะได้มีข้าวกินทุกมื้อไม่ต้องทนหิว น้องแก่แล้วฟันร่วงเกือบหมดแล้ว ตาก็ไม่ดีถ้าจะสิ้นใจอย่างน้อยที่สุดก็ไม่ได้สิ้นใจอย่างโดดเดี่ยวแน่นอนค่ะ พิมพ์ไปก็สงสารไป เหนื่อยใจทำไมชอบเทหมาตอนเขาแก่ ไม่สวยไม่น่ารักเหมือนเก่าอย่างนั้นหรือ ทำไมชอบเทกันจังเลี้ยงแล้วทำไมไม่เลี้ยงจนหมดลมหายใจสุดท้ายของน้องนะ หมาเนี่ยอยู่ไม่ถึง20ปีหรอก อย่างเก่ง10กว่าปีก็เต็มที่แล้วค่ะ พิกัดอ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ถนนเส้นหลังเขาไปเขาสามสิบ ที่มา Nartnapa Jane

ด้วยสัตว์หรือสิ่งทีชีวิตตัวน้อยๆ เมื่อเพื่อนๆที่ได้เคยสัมผัสหรือได้เคยเลี้ยงพวกเขาก็จะรู้กันดีว่าพวกเขานั้นก็เหมือนกับเด็กตัวเล็กๆที่ไม่ต่างจากคนเลยแม้แต่น้อย ด้วยความคิดที่มีเทียบเท่ากับเด็กสองขวบเวลาที่ตัวได้เจอปัญหาหรือพบกับความยากลำบากก็มักจะนึกถึงผู้เป็นแม่อยู่เสมอ และก็ไม่ใช่เพียงแค่สุนัขเพียงเท่านั้นแม้แต่แมวเองก็ตามพวกเขาก็มีเหมือนเด็กเช่นเดียวกันอยู่ที่ว่าจะแสดงมุมที่เสียใจให้เราเห็นมากน้อยเพียงใดเท่านั้นเอง เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า น้าม น้าม ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องเข้า ซึ่งน้องนั้นเป็นแมวส้มเป็นแมวจรที่ได้พลัดหลงมา โดยเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าน้องตกรถหรือถูกนำมาเทไว้หรืออย่างใด โดยน้องนั้นหลงมาอยู่ที่บ้านของเธอ ด้วยข้อเท้าหน้าบาดเจ็บเห็นน้องมาอยู่ 2 วันแล้วแต่ก็ไม่สามารถที่จะรับน้องไว้เลี้ยงเองได้ แต่ด้วยการที่น้องเดินขากระเผลกมาขอความช่วยเหลือ พร้อมกับทำสีหน้าสุดอาลัย เธอก็เลยจำเป็นที่จะต้องดูแลน้องเอาไว้ เพราะเธออยู่บ้านแฟนและด้วยพ่อแม่ของแฟนเธอเองไม่ชอบ แมวเธอจึงอย่ากหาบ้านให้กับน้องก่อน เพราะกลัวว่าพ่อแม่แฟนมาเห็นจะนำน้องไปเทไว้ที่อื่น ซึ่งด้วยเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้เธอได้รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เพราะพ่อแม่ของแฟนเธอเคยนำลูกแมวไปเทไว้เช่นเดียวกันเพราะด้วยไม่ชอบพวกเขาเนื่องจากแม่แมวนั้นมาให้กำเนิดลูกจนสุดท้ายลูกแมวเหล่านั้นก็กลับถูกสุนัขเข้ามากระทำจนสิ้นใจ เธอจึงอยากที่จะรีบหาบ้านให้กับน้องก่อนที่พ่อแม่แฟนของเธอจะกลบมาบ้านในวันเสาร์อาทิตย์นี้ โดยน้องนั้นคุ้นกับคนมากและคาดว่าคงมีเจ้าของอย่างแน่นอนอีกทั้งยังอ้อนมากๆ ขอขอบคุณข้อมูลจาก น้าม น้าม และชมคลิป https://www.facebook.com/230495853992903/videos/596573231057724/

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Chachipha Phatsakonsirikun ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เธอได้เลี้ยงเอาไว้ โดยแมวของเธอเป็นแมวส้มอายุเพียงไม่กี่เดือน เจ้าแมวส้มของเธอมักถูกแมวตัวใหญ่แถวบ้านเข้ามาฟัด เข้ามาทำให้เจ็บอยู่เสมอ จนสาวเจ้าของโพสต์โกรธมากถ้าเจอกันครั้งหน้าอีกได้เจอดีแน่ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ปกติเราจะโพสต์แต่เรื่องขำขัน แต่พอตอนนี้เราขำไม่ออกเลย จากโพสต์ที่เราเคยโพสต์บอกว่าแมวส้มเราชอบไปนั่งดูแมวสลิดกินข้าวที่หน้าบ้าน แต่แมวเราโดนแมวตัวใหญ่ฟัดมาสองรอบ ครั้งแรกนั้นเราไปต่างจังหวัดเราให้แฟนเป็นคนดู ปกติเวลาเลี้ยงช่วงเช้ากับเย็น เราจะให้น้องเล่นกันหลังบ้านเพราะมีแมวแม่ลูกอ่อนกับลูกนางอีกสามตัวมาขอข้าวกิน เราจะให้นางเล่นด้วยกัน อันนี้น้องเล่นด้วยกันปกติไม่เคยฟัดกัน พอแมวตัวใหญ่เป็นตัวผู้มันไม่มาเห็นคนอยู่มันจะเข้ามาฟัดในทันที ผ่านไปประมาณอาทิตย์นึงน้องเป็นฝีเลยพาไปตรวจกับคุณหมอเอาฝีออก ทำแผลกินยาจนใกล้หายแล้วกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม แต่พอเช้านี้มันมาอีกแล้วเจ้าแมวตัวใหญ่มันมาฟัดอีกรอบ รอบนี้น้องถึงขั้นมีโลหิตออกตรงก้น แล้วก้อซึมไปเหมือนระบมไปทั้งตัวเลยเราสงสารลูกมากๆ ไปถามพี่บ้านข้างๆ เขาบอกแมวตัวนี้เป็นแมวอันธพาลชอบไล่ฟัด แล้วก็ขืนใจแมวตัวเล็กทุกตัวเลย เราเลี้ยงแมวมาไม่เคยเจอพบเคยเจอแมวประเภทนี้ มันมีด้วยเหรอ แมวขื่นใจแมวเด็กตอนนี้เราโกรธมากเลย ปกติเรารักสัตว์มากแต่ถ้าเจอเจ้าตัวนี้อีกเราจะทำให้มันเจ็บเลย โกรธจริงๆ ที่มา Chachipha Phatsakonsirikun

เมื่อไม่นานมานี้แฟนเพจเฟสบุ๊ก : Fourteen's Paw ได้เผยเรื่องราวสุดดราม่าสุดกรุ้มกริ่มหลังแมวอย่างบักโฟว์แมวหัวล้านดันไปเลียขนเพื่อนร่วมบ้านอย่างอีแหวมจนหัวเกือบเถิกยาวไปจนถึงใบหู โดยบักโฟว์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่บ้านกับคำยอดฮิตที่กล่าวไว้ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ข่าววันนี้กำลังร้อนแรงเป็นอย่างมากโดยคู่กรณีอย่างบักโฟร์ (นามสมมุติ) กล่าวขอโทษกับสังคมที่เลียหัวรุ่นน้องอย่างอีแหวม(นามสมมุติ) จนขนของอีแหวมแหว่งหัวเกือบเถิกตั้งแต่หางคิ้วเป็นทางยาวไปจนถึงใบหู โดยบักโฟร์ได้อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่เลียไปเพราะเห็นว่ารุ่นน้องแกเลียหัวตัวเองไม่ถึง เลยอยากช่วยทำความสะอาดให้ โดยอีปี๊ของบักโฟร์เปิดใจกับสื่อใหญ่จริงๆบักโฟร์เป็นคนดี แต่ลิ้นของนางสากเกินไปหน่อยทำให้ขนติดลิ้นมาจนแหว่งหมด จบการรายงานจากสื่อใหญ่อย่าง Fourteen'New ไม่ต้องบอกก็รู้กันเลยทีเดียวว่าตัวไหนชื่อบักโฟว์ ตัวไหนชื่ออีแหวม เพราะดูจากลักษณะความหัวเถิกและความหัวล้านแล้วละก็ภาพมันอยู่บนหัวอย่างชัดเจน จนเรื่องรางนี้ได้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์ โอ้ย ไม่รู้จะสงสารหรือขำอีแหวมก่อนดี ถูกเจ๊หัวล้านเลียหัวจนขนเถิกหมดเลย ฮ่าฮ่าฮ่า หากท่านใดสนใจอยากไปติดตามความฮาของบักโฟว์และอีแหวม ท่านสามารถเข้าไปติดตามได้ที่เพจที่ขึ้นให้ด้านล่างนี้ได้เลยนะ อีแหวมและบักโฟว์กำลังรอพวกคุณกันอยู่ ส่วนตัวแอดมินนั้นกดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โอ้ยยยย ขำทั้งสองหนักมากเลยพี่น้องเอ้ย ที่มา Fourteen's Paw

หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างเช่นแมวหรือเป็นทาสแมวแล้วก็คงจะรู้และเข้าใจกันดีว่า โมเม้นต์ที่เราได้เอ่ยมานั้นเห็นได้ยากมากๆสำหรับแมวแล้ว ซึ่งด้วยแมวนั้นคิดว่าพวกเราเป็นทาสและตัวเขาเองเป็นนายมาเสมอทำให้เราไม่ค่อยจะได้เห็นความน่ารักหรือความอ่อนโยนที่แท้จริงของพวกเขาสักเท่าไหร่นัก เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมา่นี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ‎Kanyanee Pui‎ ได้โพสต์เรื่องราวโมเม้นต์สุดน่ารักของเขาลงในกลุ่ม ชมรมแมวสายดาร์ก หลังจากที่เธอนั้นได้ไปเดินลุยทุ่งหญ้าในบริเวณบ้านซึ่งทำให้หนามโคกกระสุนติดมากับกางเกงจนเต็มไปหมด ซึ่งเพื่อนๆหลายๆคนก็คงจะรู้จักกับเจ้าหนามโคกกระสุนนี้ดีว่ามันน่ารำคาญมากเพียงใด โดยทั่วไปแล้วเจ้าหนามที่ว่านี้มีหลากหลายชื่อแล้วแต่ภูมิภาคจะเรียกกัน ด้วยชื่อทั้งหมดของมันนั้นมีหนามดิน หนามโคกกระสุนและหนามกระสุน และทั้งนี้เองก็ได้เป็นเรื่องราวที่ทำให้เราได้ยิน เพราะเมื่อผู้เป็นแม่นั้นได้เดินออกมาจากทุ่งหญ้าด้วยกางเกงของแม่นั้นเต็มไปด้วยหนามกระสุนดังกล่าว เจ้าเหมียวที่มีชื่อว่าเจ้ามีตังของเธอก็ได้มาช่วยเก็บออก อย่างไม่มีรีรอด้วยการที่น้องนั้นใช้ปากงับเจ้าหนามตัวการออกจากการเกงของแม่ด้วยความรักและความห่วงใยที่มี จนทำให้คลิปนี้กลายเป็นคลิปสุดน่ารักที่หลายๆคนได้พูดถึงในกลุ่มดังกล่าว เพราะด้วยแมวปกติแล้วไม่ค่อยจะมีมุมน่ารักหรือเป็นห่วงผู้เป็นเจ้าของแบบนี้เลย ซึ่งได้มีเพื่อนๆหลายคนได้เข้ามาบอกอีกด้วยว่าอยากจะได้น่ารักๆแบบนี้ไว้ที่บ้านบ้างหรือตัดภาพมาที่แมวที่บ้านไม่เห็นเหมือนแบบนี้บ้างเลย โดยทั้งนี้เองก็ถือว่าผู้โพสต์เลี้ยงน้องมาดีมากๆเพราะดูจากความรักที่น้องแสดงออกมาเหมือนกับสุนัขหรือหมาเลยไม่มีผิด ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kanyanee Pui‎ และชมคลิป https://www.facebook.com/230495853992903/videos/416577429299199