หน้าแรก บล็อก หน้า 488

เป็นแมวจากฟาร์มที่ถูกเขาเทไม่เห็นค่า พอไร้ราคาก็ให้กินแค่อาหารไก่ประทังหิวไปวันๆ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Clouseau Puttiporn ได้เผยเรื่องราวของแมวพันธุ์จากฟาร์มที่ถูกเจ้าของเทแบบไม่เห็นค่า ถึงน้องจะเป็นแมวพันธุ์ที่ดูสง่างามแต่ทางฟาร์มนั้นกลับให้อาหารไก่เพื่อประทังความหิว สภาพที่ทำกับน้องคือจิตใจทำด้วยอะไร . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ตั้งแต่ช่วยน้องแมวมาสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้ เจอแมวฟาร์มถูกเทสภาพนี้บ่อยมากๆ และแก๊งนี้ก็ช่วยออกมาได้ถึง 6 ชีวิต สภาพแต่ละตัวผอมทุกตัวแถมน้ำหนักของน้องมีเพียงแค่โลกว่า ถึงแม้น้องจะเป็นแมวเลี้ยงจากฟาร์ม แต่ต้องอดทนกินอาหารไก่ประทังหิวไปวันๆ ถ่ายเป็นน้ำใสมีผงแดงๆปนมาด้วย สภาพคือดูไม่ได้เลย ภาพแรกคือวันที่ออกจากฟาร์มมาได้ ส่วนภาพขวาคือภาพปัจจุบันของนาง เรารับออกมาหาหมอและตรวจอย่างระเอียด ให้ยา อยู่ที่คลีนิคเกือบเดือน พอออกมาแล้วก็มีคนช่วยอนุบาล จนไปบ้านหลังใหม่ เคสนี้มีคนสวยตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์รับอุปการะเลี้ยงดูไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องขอขอบคุณเธอมากที่ช่วยรับน้องไปเลี้ยงไปดูแลเอาไว้ด้วยนะครับ ขอขอบคุณผู้ดูแลน้อง : คุณ Melisa Mahapol ที่มา Clouseau Puttiporn

สาวจำต้องรีบขับรถเพื่อหนีแมว หลังแมวของเธอนั้นเกิดคลั่งเหมือนกับหมาแบบไม่ทราบสาเหตุ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Naipaphat Thepthein‎ ได้เผยเรื่องราวของสาวทาสแมวรายนี้ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้เป็นแมวที่แฟนเก่าของเธอและแฟนคนปัจจุบันและตัวเธอนั้นก็เป็นคนเลี้ยง แต่จู่ๆเจ้าเหมียวตัวนี้ก็มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะช่วงนี้นางจะเข้ามากระโดดเข้ามาฟัดเข้ามางับเธออย่างแรง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เหตุการณ์หลังจากถ่ายรูปนี้ เรื่องมันมีอยู่ว่า เจ้าแมวตัวนี้ถ้าใครจำได้...แมวตัวนี้เป็นแมวของแฟนปัจจุบันกับแฟนคนเก่าที่เขาเอามาเลี้ยง แล้วเราซึ่งเป็นแฟนคนปัจจุบัน ช่วงแรกๆที่เข้ามาอยู่ที่นี่ แมวตัวนี้จะชอบฉี่ใส่ตามตัวเรามาตลอด ฉี่ใส่ของใช้ของเราแทบทุกอย่าง ใส่ขาของเราเวลาเราเผลอ และมันเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด จนเมื่อคืนวานเราก็เนาะด้วยความคิดว่าแมวก็คือแมว กอดหอมตามปกติ พอเราเดินกลับมานั่งที่โซฟาเท่านั้นแหละ เจ้าเหมียวก็ไม่รู้วิ่งมาจากที่แห่งหนไหน งับเราอย่างแรงแถมฟัดเราเหมือนหมางับคน ทั้งงับทั้งข่วนรุนแรง เรานี่ตกใจมากยืนขึ้นแล้วเอาผ้ามาห่มมาคลุมตัวขณะที่แมวกำลังโมโหเลย แมวก็ยังมีท่าทีที่ไม่ยอม กระโดดใส่เราอย่างหนัก เราโดนงับไปทั้งตัวจนเหตุการณ์นี้จบคือพ่อของนางตะโกนใส่ แต่นางก็ยังไม่ยอมหยุด โมโหหนักพ่อวิ่งชนโต๊ะชนตู้อย่างแรง เหตุการณ์ดังกล่าวสงบลงได้ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที นางก็วิ่งไปแอบหลังผ้าม่าน พ่อนางก็เดินกลับไปอีกห้อง นางวิ่งมาอีกครั้งเพื่อจู่โจมเราเหมือนเดิมอีกแล้ว เราตะโกนเรียกที่รักๆ! แมวที่รักมาแล้ว....นางไม่หยุดนะ ตอนนั้นคือกำลังซอยขามาถึงตัวเราแล้วอะ เรายืนขึ้นเตรียมตัวเผ่นหนีเต็มตัว พ่อนางตะโกนออกมาหยุดนะ !! นางหยุดเว้ยแล้วก็วิ่งไปแอบ จนสุดท้ายอะ นอนที่นี่ไม่ได้ละ ต้องรีบขับรถกลับเพื่อหนีแมว ! เราไม่รู้สาเหตุจริงๆที่แมวเป็นแบบนี้เพราะอะไร โดยทั้งๆที่แมวตัวนี้ไม่เคยกระทำอะไรกับเราเลย และเราก็เป็นคนรักแมวมากๆคนหนึ่ง และนี่คือเรื่องราวของคุณนายแฮปปี้และแม่เลี้ยงของเค้า ที่มา Naipaphat Thepthein‎

3พี่น้องต้องคอยปกป้องกันและกัน ทำได้เพียงปีนต้นไม้หวังให้รอดชีวิตเพราะคิดว่าต้นไม้คือที่ๆปลอดภัยที่สุด

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : NiNar Channsivanart ได้เผยเรื่องราวของลูกแมวตัวน้อย ที่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนเพื่อให้ตนนั้นรอดชีวิต...โดยลูกแมวเหล่านี้ต้องดิ้นรนปีนต้นไม้สูงเพื่อหนีหมา ส่วนแม่แมวนั้นก็คอยปกป้องลูกอยู่ไม่ห่างกายนัก . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มิ้วน้อยมาขอบ้านนะคะ น้องแมวมีทั้งหมด 3ตัว เป็นเพศเมียล้วน สีน้ำตาลทั้งตัวไล่สีตั้งแต่น้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลเข้ม อายุ1เดือน24วัน(เกิด1มิย63)เด็กๆเหล่านี้ต้องคอยหนีพี่หมาขึ้นต้นไม้ วันไหนฝนตกก็ต้องทนอยู่อย่างนั้น แถวนี้ก็มีงูด้วยค่ะ (เจ้าของบ้านรับเลี้ยงแม่แมวได้ตัวเดียว เพราะเธอเองก็เลี้ยงหมาไว้ด้วยค่ะ) ขอบ้านระบบปิด พิกัด สาทร กทม. ขออนุญาตงด นักเรียน นักศึกษา หอพัก อพาร์ทเม้น ห้องเช่า คอนโดเช่า เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาภายหลัง ด้วยตัวของแม่แมวนั้นดันไปให้กำเนิดลูกน้อยที่บ้านของคนอื่น แต่ทางเจ้าของบ้านเองก็รับเลี้ยงแค่แม่แมวเพียงตัวเดียว ด้วยทางเจ้าของบ้านเขาเลี้ยงหมาไว้อาจไม่สะดวกที่จะรับเลี้ยงแมวเด็ก ส่วนท่านไหนสนใจอยากจะรับเด็กๆไปดูแลก็ลองติดต่อไปยังผู้โพสต์ได้เลยนะ   ที่มา NiNar Channsivanart

ได้แต่แอบในตอไม้จนตัวสั่น ด้วยแม่นั้นออกไปหาอาหารให้ประทังหิว ซ้ำก็กลัวข้างบ้านจะปล่อยหมาให้มาฟัด

หากจะเอ่ยถึงการเลี้ยงสัตว์ที่เราจะคอยบอกกับเพื่อนๆว่าให้เตรียมเรื่องความพร้อมในการดูแลชีวิตน้อยๆ ด้วยพวกเขาก็ไม่ต่างจากเด็กซึ่งถ้ายิ่งเลี้ยงในระบบเปิดโอกาสที่พวกเขานั้นจะได้รับอันตรายหรือเกิดการสูญหายก็ยิ่งมาก และยิ่งถ้าตั้งท้องขึ้นมาปัญหาเหล่านี้ก็จะยิ่งเกิดขึ้นมาอีก เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Bor Narak ได้โพสต์ถึงเจ้าเหมียวตัวน้อยๆหลังจากที่เขาได้พบน้องถูกนำมาปล่อยเอาไว้ ด้วยความกลัวนอนกกตัวกันตัวสั่นในซอกต้นไม้ใหญ่เพราะแม่นั้นออกไปหาอาหารให้กินประทังความหิว จะหาที่หลบภัยให้พ้นอันตรายกันได้อย่างไรด้วยความกลัว อีกทั้งชีวิตที่เพิ่งจะได้เกิดมาลืมตาดูโลก จะเอาตัวรอดกันเป็นได้อย่างไรหากไร้แม้แม่ผู้คอยสอนหรือนำทาง อีกทั้งทางผู้โพสต์เองก็ได้แจ้งว่าข้างบ้านของเธอนั้นเลี้ยงสุนัขและทางเจ้าของบ้านที่น้องได้ถูกมาปล่อยเอาไว้ก็ไม่ชอบแมวกลัวว่าถ้าเขากลับมาแล้วจะปล่อยให้สุนัขออกมาฟัดน้องๆ โดยน้องมีกันทั้งหมด 3 ตัวกับแม่แมวอีก 1 ตัวซึ่งทางตอนนี้อาศัยอยู่ที่บ้านข้างวัดที่ไม่มีคนอยู่ทั้งไม่มีคนให้อาหารน้องๆ เจ้าของบ้านก็ไม่ค่อยจะอยู่บ้านและไม่ชอบแมวเอามากๆ กลัวว่าเขาจะกลับมาเจอและปล่อยสุนัขออกมา จะทำให้พวกหนูๆนั้นได้รับอันตราย จึงอยากที่จะตามหาบ้านให้กับน้องๆ เพื่อว่าจะมีใครที่พอจะมีใจที่เมตตามารับพวกหนูๆกลับไปเลี้ยงด้วยได้ระบุพิกัดที่ตั้งเอาไว้ว่า ข้างวัดหนองหว้า ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งหากเพื่อนคนไหนอยากที่จะรับเด็กไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ยังที่ต้นโพสต์แต่ก็อยากจะหาบ้านที่สามารถเลี้ยงน้องๆได้ทั้งครอบครัว 4 ชีวิตเพราะคงไม่มีใครอยากที่จะโดนเขาพรากลูกของตนไปจากอก ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bor Narak

ติดอยู่บนทางด่วนมาแรมวัน ด้วยชีวิตน้อยๆที่ไร้ค่าจึงไร้คนเมตตาจะสนใจ แต่ก็ไม่วายต้องส่งกลับไปอยู่ที่เดิม

หากด้วยเกิดมาว่าเลือกได้หลายๆคนก็คงอยากจะเกิดมาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไม่ต้องมานั่งทนทุกข์ และก็ไม่ใช่แค่เพียงมนุษย์อย่างเราๆเพียงเท่านั้น แม้แต่สัตว์ตัวน้อยๆเองพวกเขาก็อยากจะเกิดมามีชีวิตที่สุขสบายหรือเกิดมาได้มีค่าในสายตาของใครสักคน เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Warutmek Treesuwan ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยรายนี้หลังจากที่ได้พบน้องติดอยู่บนทางด่วนท่าเรือ 1 มาแรมวันโดยเฝ้าอยู่แบบนั้นไปไหนไม่ได้ เพราะด้วยชีวิตน้อยๆที่ไร้ค่าเหมือนใครเขาจะมีใครเฝ้ามาคอยนั่งเห็นใจ ซึ่งในบริเวณดังกล่าวก็ได้มีรถผ่านไปมาเป็นอย่างมาก อีกทั้งประกอบกับไม่ทราบว่าน้องขึ้นไปอยู่แบบนั้นได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆเลยถ้าน้องก้าวผิดเพียงแค่ก้าวเดียวแล้วก็อาจจะถึงขั้นสิ้นชีวิตได้เลย โดยในเวลาต่อมาก็ได้ประสานให้กับทางเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ซึ่งก็ได้เข้าช่วยเหลือน้องได้สำเร็จ แต่ด้วยเคราะห์ซ้ำกรรมซัดทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่มีพื้นที่รองรับให้กับน้องจึงต้องอดทนอยู่ในกรงแคบๆเก่าๆใบนี้อีกทั้งที่หนักยิ่งไปกว่าคือ เมื่อมีคนเขาจะเข้ามารับไปเลี้ยงแต่เมื่อถึงเวลาก็กลับโดนเทไม่มีใครจะสนเพราะด้วยตนนั้นเป็นเพียงแค่จร จนท้ายที่สุดหากไม่มีใครรับไปเลี้ยงจริงๆทางเจ้าหน้าที่เองก็จะนำน้องกลับไปไว้ที่เดิมที่ได้ช่วยเหลือน้อง ซึ่งตรงใต้จุดที่พบน้องนั้นก็มีแมวจรอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังคงโชคดีที่มีคนใจดีแวะเวียนมาให้อาหารอยู่เสมอๆ แต่ก็จะต้องใช้ชีวิตต่อไปอย่างเร่รอนเหมือนเดิม ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมุลจาก Warutmek Treesuwan และชมคลิป https://www.facebook.com/warutmek/posts/3605977452765131

ใช้เสียงสุดท้ายที่มีส่งเสียงร้องดังสนั่น หวังให้ใครสักคนช่วยหนูออกจากถังขยะใบนี้ที

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Maruwan Mueraheng ได้เผยเรื่องราวของน้องแมวตัวหนึ่ง น้องเป็นลูกแมวตัวน้อยที่ถูกคนเขาเทไว้ที่ถังขยะ โดยที่ตัวของน้องนั้นอาจจะยังไม่รู้ตัวเลยว่าน้องนั้นทำผิดอะไร...แต่ที่น่าสลดก็คือภายในถังขยะแห่งนั้นพบร่างของพี่น้องของลูกแมวตัวนี้อีกถึง 2 ตัวด้วยกัน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อตะกี้นี้ไปทิ้งขยะมา แล้วเจอกับน้องเข้าที่กำลังร้องอยู่ในกองขยะดังกล่าว ทั้งหมดพวกเขามี 3 พี่น้อง แต่ที่รอดมีอยู่แค่ตัวเดียว ส่วนอีกสองตัวคือน้องเสียแล้ว เลยพาน้องกลับมาฝังเอาไว้หลังบ้าน แว๊บแรกที่เห็นก็คือ ใครกันที่เอาน้องมาเทไว้ที่ถังขยะแบบนี้ น้องแค่จะยืนยังแทบทำไม่ไหว สภาพน้องตอนนั้นคือโทรมมาก ผมเลยอยากจะฝากว่า ถ้าเลี้ยงไม่ไหวจริงๆอย่างน้อยก็ให้น้องโตกว่านี้หน่อยก็ได้ แล้วค่อยหาทางอีกทีนึง ไม่ก็ให้มีแม่อยู่ด้วย ก็ยังดี เพราะตัวเท่านี้น้องคงหากินเองไม่ได้หรอกนะ หรือไม่ก็เลี้ยงน้องให้โตกว่านี้อีกหน่อยแล้วค่อยประกาศตามหาบ้านให้กับน้องต่อไปไม่ใช่ทำแบบนี้ (ตอนนี้รับลูกมาอยู่ด้วยแล้ว แต่น้องยังไม่มีชื่อเลย รบกวนพี่ๆช่วยตั้งชื่อให้น้องหน่อยนะครับ) https://www.facebook.com/showclip3/videos/311113710042222/   ที่มา Maruwan Mueraheng

เขาปิดกิจการแต่กลับไม่ต้องการ ปล่อยพวกหนูไว้ไม่มีแม้ที่หลบแดดหลบฝนใดๆ ด้วยชีวิตที่ใครจะเมตตา

ด้วยการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นก็เหมือนการที่เรานำเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยงดู ซึ่งจะทำให้เกิดผลที่ตามมานอกจากเราจะได้ความรักและความสุขกับพวกเขานั่นก็คือภาระที่จะต้องเลี้ยงดูพวกเขาไปจนกว่าจะสิ้นลม ซึ่งหากเราไม่เตรียมซึ่งความพร้อมแล้วผลที่จะตามมาก็คือปัญหาของการที่พวกเขาต้องอยู่อย่างเร่ร่อน เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Karanchida Ketchutr ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวเหล่านี้เมื่อเขานั้นได้ไปพบกับพวกเจ้าเหมียวถูกเจ้าของเก่าเทเนื่องจากปิดกิจการ โดยพวกน้องๆมีแมวท้องแก้ใกล้คลอดอยู่สองตัว และไม่มีแม้ที่หลบแดดหลบฝนใดๆเพราะสถานที่น้องๆได้เคยอยู่นั้นปิดกิจการไปและถูกทุบรื้อถอน ทำให้พวกน้องๆต้องทนอยู่กันตามยถากรรมที่เป็นมา โดยบางวันวันไหนโชคดีก็ได้อิ่มวันไหนไม่มีใครผ่านไปผ่านมามาเห็นก็จำต้องอด และด้วยตัวของเธอเองนั้นก็สามารถนำอาหารไปให้น้องแค่เพียงบางวันเพียงเท่านั้น แถมยังนานๆครั้งเพราะเธอเองก็ไม่สะดวกที่จะนำอาหารมาให้กับน้องๆแต่ก็ด้วยความสงสารจึงยากเย็นมากแค่ไหนก็ต้องทนมา ซึ่งเธอก็ได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ รามอินทรา ซึ่งเธอเองก็ได้ย้ำว่าถ้าใครอยากที่จะรู้จักเส้นทางก็ให้ติดต่อกลับเธอได้เลย อีกทั้งเธอยังบอกเอาไว้ว่าในแถวบริเวณนั้นมีคนใจร้ายที่คอยจ้องจะเอาชีวิตพวกน้องๆอีกด้วย จึงอยากจะรีบหาบ้านให้กับพวกน้องๆอย่างเร็วที่สุด โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์น้องๆต้องอยู่กันอย่างอดๆอยากเพราะด้วยมีกันหลายตัว ขอขอบคุณข้อมลจาก Karanchida Ketchutr

หนุ่มโพสต์ภาพแรกกับภาพสุดท้าย ของเจ้าเหมียวพันธุ์ไทยวิเชียรมาศที่เขาได้รับมาเลี้ยง

หากเพื่อนๆที่ได้เป็นทาสแมวแล้วก็จะรู้จักกันดีกับเจ้าเหมียวสายพันธุ์ไทยอย่างแมว วิเชียรมาศ ที่เป็นแมวไทยชนิดแรกๆที่ชาวต่างชาตินั้นรู้จักและตั้งชื่อให้กับน้องว่า Siamese Cat หรือว่าแมวสยาม ซึ่งเป็นแมวไทยต้นตระกูลที่ได้นำไปปรับปรุงพันธุ์แมวไทยอีกหลายสายพันธุ์ โดยที่เจ้า่เหมียวพันธุ์วิเชียรมาศนั้นเป้นแมวไทยที่ถูกจารึกลงในสมุดข่อยและถูกยกย่องให้เป็นแมวที่ให้โชคลาภ ด้วยเชื่อว่าถ้าใครเลี้ยงไว้จะได้เป็นขุนนางใหญ่โต ซึ่งชื่อของแมววิเชียรมาศนั้นก็มีความหมายอีกด้วยว่า เพชรแห่งดวงจันทร์หรือ Moon Diamond หรือในบางตำราเองก็เรียกว่าแมวแก้ว แต่ทว่าบางคนนั้นก็อาจจะไม่รู้ความลับของเจ้าเหมียวสายพันธุ์นี้เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้แฟนเพจรายหนึ่งได้โพสต์รูปเจ้าเหมียวพันธุ์วิเชียรมาศ ที่ได้มีสีอ่อนและน่ารักเมื่อยามเด็กแต่เมื่อแฟนเพจดังกล่าวบอกให้กลับไปดูรูปสุดท้ายสิ่งที่ได้ก็ทำให้หลายๆคนงง ด้วยแมวสายพันธุ์นี้อาจจะเปลี่ยนสีได้เพราะเมื่อในตอนเด็กสีที่หน้าของน้องก็มีสีอ่อนที่สดใสดูแล้วก็ออกจากน่ารัก แต่เมื่อโตมาเจ้าเหมียวตัวนี้ก็กลับมีสีหน้าที่เข้มดำปิ๊ดราวกับว่าน้องนั้นไปตากแดดเมืองไทยมามากไปจนทำให้หน้าดำเพราะโดยรังสียูวี หรือว่าจะลืมทากันแดด โดยทางแฟนเพจเองก็ยังได้ระบุข้อความข้างต้นเอาไว้ด้วยว่า ภาพแรกและภาพสุดท้ายตัวเดียวกัน ซึ่งเมื่อหลายๆคนได้เห็นเช่นนั้นก็งงกันหมด แต่เพื่อนๆหลายๆคนเองก็ได้มายืนยันนอนยันเป็นเสียงเดียวกันอีกด้วยว่าแมวที่บ้านของเขาเองก็เป็นพันธุ์วิเชียรมาศและเมื่อได้โตขึ้นสีของพวกเขาก็เข้มขึ้น เหมือนกับเจ้าเหมียวรายนี้ไม่มีผิด โดยทั้งนี้เองก็ยังเคยมีข่าวจากเว็บต่างประเทศอีกด้วยว่ามีหนุ่มรายหนึ่งพาแมวของเขาเองไปพบแพทย์ซึ่งเป็นแมวพันธุ์วิเชียรมาศ เพราะด้วยน้องนั้นมีสีหน้าที่เข้มขึ้นจนทำให้ผู้เป็นเจ้าของรายนั้นคิดว่าน้องแมวของเขาป่วย เขาจึงตัดสินใจพาน้องไปหาหมอและด้วยคำตอบที่ได้มาคุณหมอเองก็ได้บอกว่าแมวพันธุ์นี้สามารถเปลี่ยนสีได้ตามความอบอุ่นของสภาพอากาศเมื่อเข้าหน้าหนาวสีขนของพวกเขาก็จะเข้มขึ้นเป็นเรื่องปกติ ด้วยทั้งนี้เองก็ถือเป็นความรู้ใหม่สำหรับทาสแมวมือใหม่อย่างเราๆ ขอขอบคุณข้อมูลจาก JolieTwins

ถูกเขาเอามาเทกลางป่ารกยกครัวไม่รู้ตัวว่าตนอยู่หนไหน แต่หน้าที่แม่ก็ปกป้องลูกสุดใจจะอยู่ไหนแม่ก็ยอมพร้อมดูแล

เพราะทุกๆครั้งที่เราคอยบอกกับเพื่อนๆว่าการนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงก็เหมือนกับการรับเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยง เพราะสิ่งที่จะตามมาคือหน้าที่ที่เราจะต้องรักและดูแลพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะสิ้นใจ ซึ่งหากว่าเพื่อนๆไม่เตรียมความพร้อมกันแล้วปัญหาเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ก็จะเกิดขึ้น เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pandaa Diiz ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยๆสีส้มครอบครัวนี้หลังจากที่น้องถูกเจ้าของเก่านำมาเทเอาไว้ยกครอบครัว โดยที่ไม่กลัวหรือไม่ห่วงเรื่องความเป็นอยู่หรือการมีชีวิตรอด ซึ่งในบริเวณดังกล่าวนั้นก็เป็นถนนที่มีแต่ป่าค่อนข้างรก ซึ่งเธอเองก็กลัวว่าจะโดนไอ้เหลือมแถวนั้นซัดจนไม่เหลือ อีกด้วยน้องๆก็ยังคงเล็กกันมากๆโดยน้องๆทั้งหมดมีกัน 7 ชีวิตซึ่งมีผู้เป็นแม่แมวที่คอยเฝ้าอยู่กับเด็กๆไม่ห่างและซึ่งในใจแม่เองก็คงจะรู้ดีว่าถูกเขาเอามาเทไว้เสียแล้วแต่ก็ยังต้องทำตัวเข้มแข็งเพื่อที่จะปกป้องดวงใจดวงน้อยๆของแม่นี้ โดยทั้งนี้เองเธอจึงได้นำเรื่องราวของครอบครัวตัวส้มนี้มาลงยังโลกออนไลน์เพื่อที่จะรีบหาบ้านให้กับน้องๆ ด้วยกลัวว่าน้องๆจะไม่รอดพ้นไปได้ไม่กี่วัน ซึ่งเธอยังได้ถ่ายรูปบริเวณที่น้องอยู่ว่าด้วยมีสัตว์เลื้อยคลานมากมายอาศัย และความเป็นห่วงน้องๆอย่างสุดใจมีบ้านไหนพอจะรับน้องได้ที ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นที่จะสามารถดูแลพวกเขาให้เติบใหญ่และขอเป็นหลังสุดท้ายที่จะใช้ชีวิตไม่ต้องมาถูกเอามาไว้ให้อดทนใช้ชีวิตเร่ร่อนอย่างนี้อีก และหากเป็นไปได้ก็อยากจะให้บ้านที่สามารถรับได้ทั้งครอบครัวเพราะคงจะไม่มีแม่คนไหนน้ำตาไม่ตกในหากลูกต้องจากไปจากอ้อมอกตัวแม่เอง ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pandaa Diiz และชมคลิป https://www.facebook.com/pandaa.diiz/videos/954996074965951/

สาวได้แต่โทษตัวเอง หลังแมวที่เลี้ยงไว้จำยอมให้ถูกมดงับทั้งวันเพราะไม่สามารถลุกหนีไปไหนได้

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Napaporn Jitbanjong‎ ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ ในวันดังกล่าวนั้นเองเธอเองรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก และเธอก็ได้แต่โทษตัวเองที่ปล่อยให้มดงับน้องแมวของเธอ เพราะน้องแมวของเธอไม่สามารถขยับไปไหนได้ด้วยน้องเป็นแมวที่ขยับไปไหนมาไหนไม่ได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า กลับมาจากที่ทำงานอิแม่ลมแทบจับ แม่ขอโทษที่นะลูกเอ้ยที่แม่ดูแลหนูไม่ดีพอ โกรธตัวเองเป็นที่สุด วันนี้มดงับลูกสาวทั้งๆที่ลูกไม่สามารถลุกหนีไปไหนได้ น้องนอนให้มดมันงับโดยที่น้องได้แต่นอนนิ่งเฉยๆ หนูคงเจ็บมากใช่มั้ยลูกเอ้ย แม่ก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าหนูเลยนะมาลีเอ้ย... เวรกรรมอะไรของหนูนะถึงได้เป็นแบบนี้ด้วย แม่ขอโทษจริงๆรู้สึกผิด มากๆ สงสารมาลีที่สุดเลยลูก เพิ่มเติมนะคะน้องเป็นไรเข้าหูเข้าถึงระบบประสาทและสมองค่ะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นอัมพาตค่ะนอนเป็นผักไม่สามารถลุกไปไหนมาไหนได้ แม่หมดปัญญารักษาน้องแล้วค่ะ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในกลุ่มทาสแมว ชาวเน็ตในกลุ่มต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวให้กำลังใจกับสาวทาสแมวรายดังกล่าวพร้อมส่งกำลังใจให้กับเธอ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยเธอทำเต็มที่แล้ว แค่การดูแลรักษาน้องก็ยากยิ่งแล้ว ชาวเน็ตต่างให้คำแนะนำเกี่ยวกับมดและแมลงต่างๆ ลองใช้ผงไล่มดโรยตรงบริเวณที่น้องนอนอยู่ก็อาจช่วยได้นะเพราะมดจะไม่กล้าเดินเข้ามาใกล้ บ้างก็บอกเกี่ยวกับการรักษาว่าลองใช้วิธีฝังเข็มดูมั้ยแมวที่บ้านก็เคยเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงก็สามารถช่วยให้น้องกลับมาเดินได้อีกครั้งนะ ส่วนตัวแอดมินเองก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้โพสต์ด้วยนะแอดเป็นกำลังใจให้อย่าโทษตัวเองเลยน้า คุณทำเต็มที่แล้ว ที่มา Napaporn Jitbanjong‎