หน้าแรก บล็อก หน้า 487

เหล่าทาสรีบไปเช็คอิน เกาะไข่แมวที่มีแมวอยู่เต็มเกาะกับประสบการณ์จกพุงฟินๆที่หาได้ง่ายๆใกล้แค่เอื้อม

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Sittidech Mahapo ได้เผยเรื่องราวและแหล่งท่องเที่ยวที่เหล่าทาสแมวพอได้รู้แล้วต่างเช็คอินกันรัวๆ ใครหลายคนอาจรู้จักเกาะแมวที่ประเทศญี่ปุ่นที่มีแมวอยู่เต็มเกาะ แต่ที่ไทยของเราก็มีเกาะแมวเหมือนกับที่ญี่ปุ่นด้วย แถมการเดินทางไปยังเกาะก็ง่ายนิดเดียวเพียง 20 นาทีจากท่าเรือ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มาแล้วจ้า "เกาะไข่แมว" สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน ที่หาได้ง่ายไม่ห่างจาก ภูเก็ต ที่เหมาะกับทาสแมวตัวจริง เอาจริงๆเจ้าเกาะแห่งนี้คือเกาะไข่นอก ซึ่งอยู่ในเขตปกครองของจังหวัดพังงา แต่เจ้าเกาะนี้มันห่างจากจังหวัดภูเก็ต หากเดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ทก็จะใช้เวลาแค่ 20 นาทีเท่านั้นเอง แรกเริ่มเดิมแล้ว หมู่เกาะไข่ จะมีสามเกาะครับ คือเกาะไข่ใน เกาะไข่นอก และเกาะไข่นุ้ย ส่วนประวัติความเป็นมา ที่เรียกไข่ๆ อันนี้ผมจำไม่ได้หรอก แต่ได้ข้อมูลมาสมัยเป็นไกด์ป้ายแดงและได้มาทำงานที่นี่ด้วย ลืมไปแล้วแหละ นานโขเอามากๆ เกาะไข่นี้เป็นเกาะเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตและพังงาก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นเกาะที่ชาวจีนเขานิยมเป็นอย่างมากซึ่งเป็นที่นิยมอย่างล้นหลาม เหมาะแก่การดำน้ำตื้น พักผ่อนในหลายๆรูปแบบ ซึ่งก่อนจะมีเจ้าโควิดก็คึกคักกันมากมายเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจริงๆ เกาะแห่งนี้นี้เรียกว่าเกาะไข่ใน เพราะระยะใกล้กับเกาะยาวใหญ่ที่สุดเลยเรียกกันตามระยะห่าง(มั้งนะ) ถ้าถามว่าทำไมถึงมีแมวอยู่บนเกาะ อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้เกาะนี้เต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารต่างๆ ทำให้พวกหนูขึ้นมาบนเกาะและสร้างความสกปรก คาดว่ามีคนเขาเอาแมวมาไล่จับหนูบนเกาะนี่แหละครับ อีกอย่างแมวก็ยังเป็นสัตว์ที่จะครองโลกด้วยแหละจริงมั้ย เนื่องจากโควิด19 ทำให้การท่องเที่ยวต้องหยุดชะงักเกาะนี้ก็ต้องปิดตัวลงไปด้วยเลย ทุกร้านค้าทุกแผนธุรกิจก็พลอยหยุดกิจการชั่วคราวกันไปด้วย ไม่มีการค้าขายอะไรเกิดขึ้น ..น้องแมวที่อยู่บนเกาะก็คงจะหยุดทำงานเช่นเดียวกันเพราะไม่มีเศษอาหารประทังหิวก็คงไม่มีหนูมาให้จับแล้วสิเนี่ย แต่ทำยังไงในเมื่อประชากรแมวของเกาะนี้ ที่มีมากเกือบ 100 ตัวบนเกาะนี้จะกลับไปบนบก ก็คงเป็นไปได้มันคงยากเพราะแมวหลายๆตัวพวกเขาให้จับได้แต่ให้ขึ้นเรือครบก็คงลำบากสินะ น้องแมวทั้งหลายก็เลยต้องอยู่ประจำเกาะรอให้ไวรัสมันหายไปจากโลกซะก่อน แต่นานเลยเป็นเดือนๆนู่นแหละ น้องคงเหงาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หิวตั้งแต่ต้นปี ไม่ค่อยมีคนแวะมาหาน้องเลยครับ จนมีโครงการดีดี จากพี่ปูและพี่ปลา และผู้ใหญ่ใจดี ชวนมาให้อาหารแมวกันที่เกาะไข่ใน...

มนุษย์ป้าลั่น ที่ต้องให้แมวแออัดกันอยู่แต่ในกรงนาน1ปีท่ามกลางกองขยะก็เพราะว่ารัก

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Namfon Hilgers ได้เผยเรื่องราวการช่วยชีวิตของแมวพ่อแม่ลูกที่ต้องอยู่ในกรงมาตั้งแต่เกิด ไม่เคยได้เดินไปไหนมาไหนแม่แมวก็ต้องให้กำเนิดลูกในกรงที่ไร้ทางออก พอลูกเกิดมาก็ต้องทนอยู่แต่ข้างในจะกระทั่งมีคนเข้าไปช่วย...แต่ป้าเจ้าของกลับอ้างว่ารักพวกเขามากๆ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พ่อแม่ลูกสามชีวิต มีผู้แจ้งเข้ามาว่า น้องแมวสามตัวที่ต้องอยู่แต่ในกรงตามรูป พิกัดหลังกาดต้นพยอม เชียงใหม่ ทางเราจึงขอเวลา2-3วันเพื่อเข้าไปตรวจสอบช่วยแมว จนเมื่อวานนี้เราจึงลงตรวจสอบ พบคุณป้า ผู้เป็นเจ้าของบ้าน และเป็นเจ้าของแมว จึงพูดคุยกันใช้เวลา10นาทีในการพูดขอแมวออกมา จากการพูดคุยเบื้องต้นป้าไม่ยอมให้แมว ป้าบอกว่ารักพวกเขามากๆ คิดถึงพวกเขา แมวต้องใช้ชีวิตอยู่ในกรงมาตลอด1ปี จากที่มีไว้ทั้งหมด8ตัวสองกรง และสิ้นใจไปจนเหลือ3ตัว แมวจะผสมกันในนั้นและก็ให้กำเนิดลูกในนั้น โอกาสที่จะรอดโตมาน้อยมากๆ เราจึงพยายามอธิบายให้ป้าเขาเข้าใจ แต่เขาไม่ยอมท่าเดียวจน สุดท้ายยอมให้เอาน้องแมวออกมา โดยน้องนั้นเป็นหวัดแมว และเป็นเชื้อราตามผิวหนัง ตัวลูกอาการไม่ดีนัก แต่วันนี้เขาปลอดภัยแล้ว ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดกัน ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับป้าเลย เพราะไม่ใช่เรื่องของเขา แต่อยากจะรบกวนหน่อยว่า หากใครก็ตามมีเพื่อนบ้านประเภทนี้ อย่าคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตนเองเลย อย่าได้นิ่งเฉย ดูดาย พบเห็นการเหล่านี้โปรด แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด่วน เพราะพวกเขา ร้องขอไม่ได้เหมือนกับคน https://www.facebook.com/namfon.hilgers.1/videos/pcb.991734454591936/991722851259763 ขอบคุณผู้แจ้ง ที่ไม่นิ่งดูดายด้วยนะคะ ทุกชีวิตมีความรู้สึก เหมือนมนุษย์เช่นกัน ตอนนี้ทั้งสามตัวปลอดภัยดีแล้ว พักอยู่ที่บ้านแมวสันติสุขดอยสะเก็ด ฝากทุกท่านด้วย ที่มา Namfon Hilgers

แอบอาศัยนอนตามใต้ท้องรถด้วยเพียงเป็นจร อดมื้อกินมื้อประทังความหิว ไม่วายเขายังบอกไว้ถ้าเจอ

เพราะด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้หลายๆชีวิตต้องเกิดมาทนทุกข์ อีกทั้งในบางครั้งสีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆไม่สามารถที่จะมีบ้านหรือเจ้าของที่ตนรักเป็นของตัวเองได้ เพราะด้วยความเชื่อหรือหลักที่เป็นมา จึงต้องอดทนทุกข์ยากลำบากต่อชีวิตที่ได้มี เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวตัวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Napassanan Kulrach ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ที่เธอได้เรียกน้องว่าเจ้าดำน้อย หลังจากที่ได้พบน้องแอบอาศัยอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่งด้วยคำสั่งล่าสุด จากนิติของทางคอนโด โดยเขาได้สั่งมาว่าให้เอาน้องไปปล่อย โดยล่าสุดก็ได้มีคนใจร้ายเอ่ยปากว่าถ้าเจอหรือพบน้องเมื่อไหร่ก็ตาม จะปลิดชีพให้สิ้นใจคามือ เธอจึงได้บอกว่าแค่เป็นเพียงจรนั้นก็น่าสงสารมากเพียงพอแล้ว ถ้ายังจะต้องมาพบเจอกับชะตากรรมเช่นนี้อีกก็ช่างจะเกินบรรณยาย ด้วยชีวิตนึงที่ได้เกิดมาเป็นเพียงแค่จรที่มีสีดำก็ว่ายากยิ่งถ้าต้องพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้จะหาทางเอาชีวิตรอดได้อย่างไรหากไร้แม้ใครจะช่ว่ยเหลือ ด้วยดำน้อยนั้นเป็นจรที่อาศัยนอนตามใต้ท้องรถที่อยู่แถวใต้คอนโด เสี่ยงแม้รถจะทับหรือเฉี่ยวชนเอาได้แถมยังอันตรายรอบๆด้าน เธอจึงอยากจะหาบ้านที่ปลอดภัยให้กับเจ้าดำน้อย ด้วยน้องดำน้อยนั้นมีอายุเพียงแค่ 3-4 เดือน นิสัยเชื่องขี้อ้อนพูดเก่งและน่ารักมากเห็นในภาพหรือคลิปก็คือการที่เธอนั้นเข้าไปหาน้องในครั้งแรกซึ่งน้องเป็นมิตรกับทุกๆคน จึงอยากจะฝากเพื่อนๆคนไหนที่มีจิตรใจเมตตาสามารถจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ระบุพิกัด D condo รัตนาธิเบศร์ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Napassanan Kulrach  

อิเเหววเจ๊ใหญ่คุมซอย นอนกระดิกหางเฝ้ารถมอเตอร์ไซค์ ทุกคนที่มาจอดเป็นค่าผ่านทาง

ด้วยชีวิตที่เลือกไม่ได้หากโชคดีมีใครเขานำมาเลี้ยงก็ถือเป็นบุญที่ได้ทำเอาไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว แต่ถ้าหากเกิดไม่ได้มีใครรับเลี้ยงเขาก็ต้องอดทนใช้ชีวิต เพราะด้วยเป็นเพียงจรที่ไร้ใครแม้จะสนใจหรือไม่สามารถที่จะเลือกได้ แต่ถ้าเกิดถูกเลี้ยงดูมาแต่กลับถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพังเพราะเขาไม่ต้องการ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Karin Nakngoen ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ที่เขานั้นได้ไปพบน้องเข้าหลังจากที่เขากำลังจะไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในจังหวัดลำบาง โดยก่อนหน้านี้เขาก็ได้แปลกใจกับน้องไปแล้วรอบนึง เพราะด้วยสภาพของน้องที่เกาะนอนตัวติดอยู่กับเบาะของรถมอเตอร์ไซค์ไม่กระดิกไปไหน หรือไม่แม้แต่จะกลัวผู้คนที่ได้ผ่านไปมา ซึ่งทางผู้โพสต์จึงได้ไปสอบถามกับชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวว่าน้องเป็นแมวของใครทำไมถึงมานอนไม่สนใจโลกหรือสนใจใครเช่นนี้ ซึ่งเขาก็ได้สืบสาวราวเรื่องและได้พบว่าน้องนั้นชื่อว่า แหวว โดยคุณลุงยามได้เป็นคนเล่าให้ฟังว่าน้องเป็นแมวที่เคยมีเจ้าของแต่เขาไม่สนใจและปล่อยให้แหววนั้นเผชิญชีวิตลำพังหลังย้ายไปแล้ว และก็ได้มีชาวบ้านและคุณลุงยามคอยให้อาหารกับแหววอยู่เป็นประจำ ด้วยผู้คนในบริเวณนั้นก็เอ็นดูรักใคร่แหววเป็นอย่างมากและก็ไม่มีใครเดือดร้อนเลยที่แหววชอบมานอนคุมรถมอเตอร์ไซค์แบบนี้ เพราะแหววนั้นเป็นแมวที่ดีที่สามารถจะอุ้มหรือจับได้ทุกส่วน อีกทั้งแหววก็ยังเป็นเจ๊นังเลงคุมซอยอยู่ที่นี่อีกด้วย ซึ่งหากใครที่ได้มาจอดรถหรือผ่านไปมาในสวนสาธารณะแห่งนี้แล้วก็คงจะต้องรู้จักและรักแหววเป็นอย่างดี โดยทั้งนี้่เราก็มีคลิปวิดีโอที่ทางผู้โพสต์ได้ไลฟ์สดถ่ายแหววไว้ให้ดูอีกด้วย ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยากจะดูเรื่องราวของแหววต่อก็สามารถรับชมได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Karin Nakngoen และชมคลิป https://www.facebook.com/surat.nak.5/videos/1604497853059569/

เดินขากระเผลกมาส่งเสียงร้องขอให้ช่วย ด้วยเนื้อตัวที่เปียกปอน ด้วยเป็นเพียงจรจึงไร้ใครเขาจะสนใจ

ด้วยยังมีอีกหลายๆชีวิตที่เลือกที่จะเกิดมาไม่ได้ จึงต้องก้มหน้ารับกับสิ่งที่ต้นได้พบเจอไม่ว่าอุปสรรค์นั้นจะยากเย็นแสนเข็นมากเพียงใด แต่ก็จะต้องต่อสู้เพื่อที่จะให้มีกินมีอยู่ได้ใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้ เพราะชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้จึงทำได้เพียงแค่รับกับสภาพที่ต้องพบเจอ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คทีใช้ชื่อว่า แพรสุวรรณ เนตรนรินทร์ ได้พบเจอเจ้าเหมียวพันธุ์วิเชียรมาศรายนี้เดินขากระเผลกมาร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะเป็นแมวจรที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นหรืออาจจะเคยมีเจ้าของมาก่อน เพราะจากสภาพของน้องเป็นแมวพันธุ์ แต่กลับมีสภาพที่ยับเยินแถมเดินขากระเผลกไร้แม้เรี่ยวแรงจะยืนหรือเดินต่อไหว ด้วยเพราะไม่มีใครเขานั้นจะสนใจเพราะชีวิตนั้นไซต์ใครเขาจะมาเหลียวแล เธอจึงได้นำมาโพสต์ลงยังในกลุ่ม ทาสแมว เพื่อที่จะหาคนใจดีที่มีเมตตาเข้าช่วยเหลือน้อง เพราะหากปล่อยเอาไว้น้องก็คงจะต้องตกอยู่ในสภาพเดิมอีก หากว่าเพียงแค่นำมารักษาแล้วปล่อยให้อยู่ในที่เดิมๆ อีกทั้งเธอก็ยังเคยโพสต์เพื่อที่จะหาบ้านให้กับน้องมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็กลับถูกเขายกเลิก มาตลอดจนต้องนี้น้องขาเจ็บจนเดิมแทบไม่ไหวแล้ว เธอจึงได้ถ่ายคลิปและมาลงซ้ำอีกรอบเพื่อว่ารอบนี้จะมีใครที่อยากจะได้หรือต้องการน้องจริงๆ ซึ่งเธอก็ได้บอกเอาไว้ว่าถ้าใครอยากที่จะรับน้องไปจริงๆก็สามารถติดต่อไปได้ที่เธอเลยเพราะเธอสงสารน้องมากๆ ด้วยพิกัดที่น้องได้อยู่นั้นอยู่ที่ อ่อนนุช กรุงเทพ และอีกทั้งเธอเองก็ไม่สามารถที่จะรับน้องไว้ดูแลเองได้เพราะเธอนั้นอยู่หอพักและทางหอพักก็ไม่อนุญาติให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขอขอบคุณข้อมูลจาก แพรสุวรรณ เนตรนรินทร์

ถูกเขาขังมานานแรมปี ไม่เคยได้ออกไปวิ่งเล่นมาตั้งแต่เกิด แต่ก็ต้องอดแม้นอนเลอะอึเลอะฉี่ของตัวเอง

เพราะด้วยความอยากจะได้อยากจะมีของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับหนึ่งชีวิตน้อยๆ ซึ่งนั่นก็คือความอยากจะเลี้ยงในตอนแรกที่อยากจะได้มา แต่ไม่นึกถึงว่าชีวิตนี้นั้นจะอยู่ต่อไปอย่างไร เพราะการไม่เตรียมความพร้อมมาในตั้งแต่ตอนแรกหรือการอยากที่จะนำมาเลี้ยงด้วยไม่คำนึงถึงสิ่งใด ทำให้ชีวิตนี้ต้องอดทนอยู่ต่อสู้กับสิ่งที่เรียกความไร้อิสระ เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เยล' ลี่ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องรางของเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้ตัวนี้ หลังจากที่เธอนั้นได้ขับรถผ่านในบริเวณดังกล่าวอยู่ในทุกวันและได้พบกับน้องไซตัวนี้ที่ต้องอยู่แต่ในกรงแบบนี้มานานหลายแรมปี ด้วยไม่เคยจะมีโอกาสแม้สักครั้งที่ได้ออกมาวิ่งเล่น หนำซ้ำยังต้องทนนั่งกินนอนกินอยู่กับอึกับฉี่ของตัวเอง เพราะด้วยทางผู้เป้นเจ้าของนั้นนำมาเลี้ยงตั้งแต่แรกแต่กลับไม่มีเวลาแม้จะดูแลหรือพาไปไหนมาไหน จึงได้เฝ้าดูเฝ้ามองเขาไปไป ชีวิตนี้จะทำอย่างไรถ้ามีค่าเพียงเท่านี้ เธอจึงได้พยายามที่จะเข้าช่วยเหลือน้องโดยที่ในวันนั้นเธอตัดสินใจที่จะลงไปคุบกับทางผู้เป็นเจ้าของ โดยทางเธอเองได้ไปขอเพื่อที่จะนำน้องมาเลี้ยงแต่ทางผู้เป็นเจ้าของกลับไม่ยอมและได้บอกกับเธอว่าเขาจะขายให้เธอในราคา 5 พันบาท ซึ่งเธอก็ไม่มีทุนพอและก็อยากที่จะช่วยให้น้องได้อยู่อย่างอิสระ เธอจึงได้นำเรื่องราวมาลงยังกลุ่ม Husky Family Gang : แกงค์คนรักไซบีเรียนฮัสกี้ เพื่อที่จะหาคนใจดีเข้าช่วยเหลือ ด้วยหนึ่งชีวิตที่ต้องอดทนอยู่แต่ในที่แคบไม่เคยได้มีแม้แต่สิ่งที่เรียกว่าการวิ่งเล่น จึงอยากหาคนไหนพอจะมีใครอยากจะไถ่ชีวิตนี้ให้เป็นอิสระได้เธอก็พร้อมยินดีจะนำส่งหรือติดต่อให้ ซึ่งเธอเองก็ได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่เอาไว้ที่ โรงพยาบาลอ.ศรีธาตุ จังหวัดอุดาธานี ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยากติดต่อเรื่องราวของน้องต่อก็สามารถติดตามได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก เยล' ลี่

หนุ่มขอขมายกใหญ่ หลังเหมียวสุดป่วนแอบย่องตะบปหน้าหมาไซบีเรียน หยามถึงหน้าบ้าน

หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงแมวหรือได้สัมผัสกับพวกเขาจริงๆก็จะเข้าใจดี ว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเขานั้นฉลาดมากกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้เยอะมาก เพราะด้วยสมองอันหลักแหล่มและด้วยความฉลาดที่พวกเขานั้นมีในแมวบางตัวนั้นก็เรียกได้ว่ามากกว่าสุนัขหลากหลายเท่าเลยก็ได้ แต่ก็อาจจะขึ้นอยู่กับว่าพวกเขานั้นเลือกที่จะแสดงออกมาให้กับพวกเราได้เห็นมากน้อยเพียงใดเท่านั้นเอง เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า ส่งรัก แมวพันธ์x ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดแซบซึ่งเป็นแฟนเพจของเจ้าเหมียวเอง โดยได้เล่าว่าเขาผู้เป็นเจ้าของเจ้าเหมียวรายนี้ที่มีชื่อว่า ส่งรัก แมวพันธ์x ต้องขอโทษเพื่อนบ้านของเขาในไลน์กลุ่มอย่างยกใหญ่ ที่แมวของตนนั้นได้แอบย่องไปตะปบหน้าเจ้าตูบสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ถึงหน้าบ้าน ซึ่งเจ้าเหมียวส่งรักนั้นได้แอบหนีออกไปเที่ยวและไปป่วนไปหยามถึงหน้าบ้านเขาถึงที่ เขาจึงได้ออกมาขอโทษลงในไลน์กลุ่มที่รวมลูกบ้านเอาไว้ด้วยกัน และได้มาโพสต์เพื่อที่จะขอโทษกับทางเพื่อนบ้านลงในเฟสอีกช่องทางหนึ่ง เพราะด้วยเจ้าเหมียวสุดป่วนนี้ไม่สนไม่แคร์โลกใดๆ แม้จะเป็นไซถ้าไม่สงบก็ล่อไปตบเขาถึงที่แถมยังไปส่องบ้านเขาอีกทำให้ผู้เป็นเจ้าของนั้นปวดหัวเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ผู้เป็นเจ้าของเองก็สัญญาว่าจะอบรมตัวเองให้ดีกว่านี้ เพื่อที่เจ้าส่งรักจะได้ไม่แอบย่องไปตบหน้าไซบี้แบบนี้ถึงหน้าบ้านอีก เพราะด้วยจะอบรมแมวนั้นคงจะยากกว่าเลยเลือกว่าน่าจะอบรมตัวเองน่าจะเป็นการดีที่สุด ซึ่งเราก็เห็นใจผู้เป็นเจ้าของรายนี้แต่เจ้าไซเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดด้วยอาจจะเป็นแค่การตักเตือนเพียงชั่วขณะเพียงเท่านั้น และก็อยากจะฝากเอาไว้ให้ดูแลเจ้าเหมียวของตัวเองให้ดีเพราะหากเพื่อนๆเลี้ยงพวกเขาแล้วไซข้างบ้านก็อาจจะต้องโดนแบบนี้บ้างก็เป็นได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก ส่งรัก แมวพันธ์x

หนุ่มคิดการใหญ่อยากจีบแมวหัวหน้าแก๊ง ด้วยรูปร่างที่ดูอวบแน่นอยากได้หัวใจเธอมาครอง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Oat Pakkawat ได้เผยเรื่องราวของหนุ่มทาสแมวที่คิดการใหญ่ อยากจะจีบแมวแมวรูปร่างอวบแน่น และคงผ่านศึกมาอย่างโชกโชน เขาก็คิดแล้วคิดอีกจะทำอย่างไรกับน้องดีใจก็กลัวว่าจะจีบไม่ติด แต่จะต้องเอาใจเธอมาครองให้จงได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า น้องเป็นแมวแถวที่ทำงานครับอยากจะพาน้องกลับบ้านมาอยู่ด้วยกันมากๆ แต่จะต้องจีบยังไงให้ติดดี เดี๋ยวนี้นางจะรู้เวลามากๆเลย เวลาไปนั่งกินข้าวกันนางจะชอบมาแจมอยู่เป็นประจำเลยครับจับตัวได้ไม่หวงตัว แต่อุ้มยังไม่ได้เพราะยังไม่ได้สนิทกันถึงขนาดนั้น ตั้งแต่รู้จักกับน้องมา ก็เริ่มมีเนื้อมีหนังขึ้นมาเยอะอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ จากเมื่อก่อนนี้ ตัวผอมแห้งมากเลย ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ แต่ถ้าดูจากสภาพของน้องแล้วน่าจะผ่านศึกมาหนักพอสมควร จนเรื่องราวนี้ถูกโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว Offcial ชาวเน็ตเองจึงได้เข้ามาแนะนำกันว่าลองอ่อยเหยื่อให้กับน้องบ่อยๆ ลองให้น้องได้กินหนมแมวเลียเดี๋ยวน้องก็จะติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น บ้างก็บอกว่าน้องเป็นแมวล่ำหุ่นกำลังดีเลยถ้าได้รับการรักษาและดูแลอย่างใกล้ชิดน้องจะกลับมาน่ารักกว่านี้มากๆ บ้างก็บอกว่าจับตัวได้มีชัยไปกว่าครึ่งลองเอาขนมให้น้องกินบ่อยๆแล้วจัดเตรียมตะกร้าติดตัวเอาไว้ เชื่อว่าสักวันน้องจะเชื่อใจคุณและสามารถพาเข้าบ้านได้อย่างง่ายดายจ้า ที่มา Oat Pakkawat

นอนตัวสั่นหายใจรวยรินท่ามกลางสายฝนอยู่ที่ข้างถนน ไร้คนเหลียวแลแม้แต่จะหันมามอง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : สรสิช ลูกพรหมปัญโญ ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอลูกแมวจรตัวน้อย ที่กำลังจะสิ้นใจอยู่ที่ริมถนน โดยขณะที่ช่วยน้องนั้นน้องกำลังหายใจรวยรินใกล้สิ้นใจ แต่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็ไม่มีใครคิดช่วยน้องเลยสักคน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้เปลี่ยนมายังเส้นทางนี้ มาพบเจอกับเเมวน้อยนอนตัวสั่นหายใจรวยระรินท่ามกลางสายฝนอยู่ที่ข้างถนนโดยคนที่ผ่านมาแถนวนั้นก็ไร้คนเมตตา พอเดินผ่านมาเห็นแล้วก็เดินผ่านไป เจ้าศีรนิลเอ๋ย ไปอยู่กับพ่อนะลูก โดยเบื้องต้นเขานั้นได้พาน้องไปยังคลีนิคเพื่อรักษาน้อง โดยเขานั้นได้อัพเดทเพิ่มเติมว่า พาน้องไปหาหมอแล้วครับ ดูแลอย่างใกล้ชิด หมอให้ยาแก้ไข้หวัดแมวและให้นมขอบคุณทุกๆกำลังใจ ผมได้รับถึงพลังอันบริสุทธิ ขอบคุณมากมาย จากใจพ่อศีรนิล ตอนนี้น้องศีรนิลมาอยู่มาอาศัยที่คอนโด ก่อนและจะไปอยู่กับบ้านอีกหลังครับไปๆมาๆอยู่ที่คอนโดใกล้หมอครับ ให้น้องกินนมและกินยาที่หมอให้มาต้อนนี้น้องกำลังนอนครับ ล่าสุดอาการของน้องดีขึ้นตามลำดับและในเร็ววันนี้น้องคงกลับมาแข็งแรงได้เหมือนดังเดิม ต้องขอขอบคุณหนุ่มผู้โพสต์ท่านนี้จริงๆที่ได้ช่วยชีวิตน้องเอาไว้   ที่มา สรสิช ลูกพรหมปัญโญ

ติดอยู่บนเกาะทางแยก ไร้แม้ผู้คนจะช่วยเหลือด้วยตัวเป็นเพียงจร ได้แต่นอนมอบในพุ่มไม้

ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างตามมีตามเกิดเพราะเป็นเพียงแค่จร ใครเค้าจึงมองว่าไม่มีค่าในสายตาของผู้อื่น ซึ่งหากว่าในวันนี้เราท้อถอยกับปัญหาที่ได้พบอยากให้ลองมองย้อนดูหลายๆชีวิตที่ได้เกิดมาไม่มีผู้คนที่จะมานั่งสนใจเพราะเพียงไม่รู้จะทำยังไงหากต้องเจอกับปัญหา เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pakpoom Noppakun ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่มีคนพบน้องติดอยู่ตรงเกาะกลางถนนซึ่งตรงกับทางแยกจะหันซ้ายหันขวาก็เจอแต่รถโดยไม่รู้ว่าน้องนั้นถูกนำมาปล่อยหรือเป็นจรที่พลัดหลงมา แต่ทว่าน้องก็ทำได้เพียงแค่นอนหมอบในพุ่มไม้ด้วยไม่มีทางไหนที่ตนจะไปได้เลย ซึ่งก็ได้มีผู้คนใจดีพยายามที่จะเข้าช่วยเหลือแต่ทว่าน้องก็หวาดกลัวและไม่ยอมให้ช่วย อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บโดยผู้โพสต์ได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่ไว้ที่ เกาะทางแยกถนนบรมราชนนี ใกล้ๆกับปั้มปตท ตลิ่งชัน และก็ไม่รู้ว่าต้องทนใช้ชีวิตแบบนั้นมานานมากเพียงใด แต่ที่แน่ๆคงจะไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเพราะด้วยถนนหลายเลนส์ในบริเวณดังกล่าวจึงไม่สามารถทำให้น้องไปไหนได้เลยเพราะถนนดังกล่าวมีรถสัญจรไปมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทางผู้โพสต์เองจึงได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ยังโลกออนไลน์เพื่อที่จะหาคนเข้าช่วยเหลืออีกแรง และในภายหลังจากที่ได้โพสต์เรื่องราวไปแล้วก็ได้มีผู้คนใจดีมาอัพเดทเพิ่มเติมว่าในตอนนี้น้องได้หายตัวไปแล้วไม่รู้ว่ามีคนมาช่วยเหลือแอบหลบไปที่ไหน แต่จากสภาพน้องไม่น่าจะเป็นแมวจรที่คล่องแควว่องไว้หรือคุ้นชินกับสถานที่ดังกล่าวจึงอยากฝากเพื่อนๆเอาไว้ว่าหากมีใครที่อยู่ใกล้ๆกับพิกัดดังกล่าวรบกวนช่วยสอดส่องดูแลเพื่อที่ว่าจะได้พบน้องและเข้าช่วยเหลือ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pakpoom Noppakun