หน้าแรก บล็อก หน้า 486

ต้องทนอยู่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ไร้แม้แรงจะรุกขึ้นยืนหรือจะกินเพื่อมีอยู่ต่อ เพราะด้วยน้ำมือมนุษย์ล้วนๆ

หากเราจะเอ่ยถึงสัตว์ที่เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก ก็คงจะหนีจากไหนไปไม่ได้นอกจากมนุษย์เพราะด้วยมนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์ที่มีสมองและฉลาดจึงมีความเป็นสัตว์ที่เห็นแก่ตัวมากที่ โดยมักจะคำนึงถึงสิ่งที่มีผลประโยชน์กับตัวเองเพียงเท่านั้นโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ตามมาหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสัตว์ชนิดอื่นจะมีมากน้อยเพียงใด แต่ก็ไม่ใช่กับมนุษย์ทุกคนเสมอไปที่มีแต่ความเห็นแก่ตัวหรือไม่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า มูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัขและแมวจรจัด ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนอลาสก้าเหล่านี้ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 48 ชีวิต จากฟาร์มผสมพันธุ์เพื่อที่จะจัดจำหน่าย โดยทิ้งไว้เพียงความปวดร้าวทั้งกายและจิตใจที่ถูกเขาขังเอาไว้เพื่อสนองความอยากได้และความโลภเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินตรา ตามเท่าที่มนุษย์นั้นต้องการกับเสียงร้องที่ไม่มีใครได้ยิน ซึ่งในวันนี้ ป๊อปคอน เป็นสุนัขพ่อพันธุ์ที่หมดสภาพตัวนี้ ที่วันนี้พอจะมีแรงที่จะลุกเดินมีแรงที่จะกินอาหาร จากอาการเจ็บป่วยที่ต้องขาดน้ำขาดอาหารขากการรักษาพยาบาล เพราะด้วยในยามที่เจ็บป่วยก็กลายมาเป็นปัญหาหรือภาระที่ไร้แม้แต่ความเมตตาจะรักษาหรือเยียวยาดูแล โดยในวันนี้น้องก็ได้ฟื้นตัวขึ้นจากอาการเจ็บปวดทั้งกายและใจและเข้มแข็งเพื่อที่จะมีกำลังใจมีชีวิตต่อ เขาจึงอยากที่จะมาแชร์เรื่องราวของมนุษย์ผู้ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเห็นแก่ตัวที่สุดในโลก เพราะแค่เราเห็นสุนัขหรือแมวพันธุ์สวยๆที่ได้มาจากฟารม์ต่างๆแต่ใครเล่าจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังหรือแม้แต่ความเป็นมาว่าพวกเขานั้นต้องผ่านและต้องพบเจอกับอะไรมา จึงอยากจะฝากเอาไว้สำหรับใครๆที่เห็นสุนัขหรือแมวพันธุ์ดีๆและอยากได้ด้วยเบื้องหลังของพวกเขาอาจจะต้องพบเจอกับเรื่องร้ายๆมากมายเลย ขอขอบคุณข้อมูลจาก มูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัขและแมวจรจัด

ลูกแมวพี่น้องที่ถูกเขาเทไม่เห็นค่า จ้องมองคนที่ผ่านไปมาทำสายตาละห้อยกับความหวังที่อยากจะมีคนที่รักจริง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Awika Eye ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้ขี่รถไปยังตลาดแห่งหนึ่ง ด้วยตัวเธอนั้นผ่านยังเส้นทางนี้แทบทุกวันอยู่แล้ว แต่มาวันนี้เองสายตาของเธอดันไปเห็นลูกแมวจรตัวน้อยกำลังนั่งมองเธอด้วยสายตาเจี๋ยมเจี้ยม . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เริ่มต้นเดือนใหม่มาดวงดีจริงๆเลยจ้า เราขับรถไปยังตลาดทุกวันอยู่แล้ว แต่มาวันนี้เองสายตาเราดันไปพบเจอลูกแมว ใครหนอชั่งใจดำชั่งเอามาเทได้ลงคอ เฮ้อออออ.. เอายังไงดีนะ มองหน้าแฟนเลิ่กลั่ก แฟนบอกเอางี้แล้วกันเอากลับบ้านมาไว้ที่บ้านก่อน ค่อยหาบ้านให้ น้องทีหลัง พิกัดเมืองกระบี่นะ น้องเป็นแมวพี่น้องเพศผู้ทั้งคู่ จากการสอบถามเบื้องต้นจากแม่ค้าในตลาด แม่ค้าได้เล่าว่าแถวตลาดไม่มีแมวจรอาศัยอยู่เลยน้องน่าจะถูกนำมาเทไว้สดๆร้อนๆ ด้วยความที่ผู้โพสต์เองก็เป็นทาสแมวอยู่ทุนเดิม เธอจึงเอากลับบ้านมาไว้ที่บ้านก่อนส่วนในเรื่องของการหาบ้านค่อยว่ากันอีกที จนเรื่องราวนี้ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตหลายรายต่างแสดงความจำนงอยากจะรับน้องไปเลี้ยงไปดูแล เพราะดูจากสีและลวดลายของน้องแล้วน่าจะเป็นแมวพันธุ์ผสมเสียด้วย ยินดีด้วยน้าแกได้ไปอยู่บ้านของทาสแล้ว   ที่มา Awika Eye

แอบอาศัยอยู่ที่ใต้บันไดทางเข้า mrt ด้วยวันนี้ยังมีที่อยู่เพราะยังสร้างไม่เสร็จ หิวโซทั้งแม่ลูกแต่ก็ทนอยู่เพราะไม่มีที่ให้ไป

หากในวันนี้ในใจคุณกำลังท้ออยากให้คุณมองออกไปได้เห็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆที่อาศัยอยู่ในรอบๆตัวของคุณ ว่าพวกเขานั้นต้องทนทุกข์ทนลำบากที่จะต้องดิ้นรนเพื่อที่จะให้ตนนั้นมีทางสู้ชีวิตมากมายเพียงใด เพราะด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thunyaporn Chotsiripatch ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวหลังจากที่เขานั้นได้พบเจ้าเหมียวครอบครัวนี้ที่เป็นแมวสีสวาด(แม่แมว) และลูกแมวอีก 2 ตัวสีวิเชียรมาศ 1 ตัวและสีดำขาสีขาวใส่ถุงเท้าทั้ง 4 ข้าง โดยเธอเองก็ไม่ทราบเพศของพวกน้องๆอยากแน่ชัดนัก เพราะไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้ๆได้เนื่องจากมีกรวยล้อมรอบอยู่ ด้วยน้องทั้งสามนั้นน่ารักและสวย แต่ก็น่าจะเพิ่งจะเกิดมาได้ไม่นานนักเพราะเธอก็ไม่เคยได้เห็นน้องๆมาก่อนเลย น้องอาศัยอยู่ที่ใต้บันใดทางเข้า MRT พหลโยธิน ประตูที่ 4 ซึ่งเป็นทางผ่านที่เธอนั้นได้ไปทำงานอยู่เป็นประจำ อยู่แถวห้างยูเนี่ยนมอล ลาดพร้าว กทม โดยที่บันไดนี้เป็นบันไดชั่วคราวที่ MRT นั้นกำลังก่อสร้างทางเชื่อมขึ้นกับสกายวอร์ค โดยแถวนั้นเป็นอันตรายต่อลูกแมวเป็นอย่างมากเพราะด้วยอยู่ในเขตก่อสร้าง ซึ่งคิดว่าถ้าสร้างเสร็จน้องน่าจะไม่ม่มีที่อยู่หรือที่หลบภัยอีกต่อไปแล้ว โดยในวันแรกที่เธอได้เจอกับพวกน้องๆพวกน้องๆนั้นก็หิวโซเนื่องจากในสถานที่ดังกล่าวนั้นไร้แม้แต่อาหารที่แม่แมวจะสามารถหาให้ลูกๆได้คงจะได้แต่หวังรอด้วยความหิวจากผู้คนใจดีที่ได้ผ่านมาเพียงเท่านั้น เธอจึงอยากที่จะหาบ้านให้กับน้องๆจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์เพื่อที่จะหาบ้านให้กับครอบครัวนี้ซึ่งหากเพื่อนคนไหนสนใจก็สามารถที่จะติดต่อกับต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Thunyaporn Chotsiripatch

ถูกเขาเอามาปล่อยไว้พร้อมกับถ้วยใส่น้ำเปล่า หวาดกลัวจนตัวสั่นได้แต่กอดเสาไฟ ด้วยหวังว่าแม่จ๋าจะกลับมาหาหนูที

เพราะด้วยชีวิตของคนเรานั้นเลือกที่จะเกิดไม่ได้ ซึ่งแม้แต่สัตว์ตัวน้อยๆเองก็เช่นเดียวกันแม้ว่าจะต้องเกิดมาพบเจอแต่ความทุกข์แต่สิ่งที่จะทำได้ก็เพียงแค่ก้มหน้าก้มตารับกรรมกับผลกรรมที่มนุษย์นั้นได้กระทำกับพวกเขา โดยแม้แต่เพิ่งจะเกิดมาลืมตาดูโลกไม่นานก็ตาม เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Eve Panida ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยทั้งสองตัวนี้หลังจากที่เธอได้พบน้องถูกคนใจร้ายนำมาปล่อยเอาไว้แม้จะมีอายุเพียงแค่ 3 สัปดาห์ก็ตามแต่ก็ถูกเขาพรากแม่ไปจากอกแม้นมยังไม่ทันได้หย่า แต่ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ก็ต้องอยู่กันอย่างรับกรรมที่มนุษย์ได้กระทำแก่ตัวนั้น ด้วยความกลัวก็ต้องอดทนกอดเสาไฟไว้ด้วยโลกใบใหญ่ที่ไร้แม้แม่จะเรียกหา ด้วยความระแวงจึงกอดกันด้วยน้ำตาจะเรียกหาแม่ผู้ปกป้องนั้นอยู่หนใด ซึ่งผู้โพสต์ยังได้เล่าอีกด้วยว่า น้องนั้นเป็นตัวเมียถูกนำมาปล่อยเอาไว้พร้อมกับถ้วยพลาสติกใส่น้ำเปล่าเพียงแค่ 1 ใบทั้งตัวก็ยังคงเล็กมากๆ ฟันก็กำลังเพิ่งจะขึ้น เธอจึงอยากให้น้องๆได้บ้านได้ที่อยู่อาศัย อยากให้มีอาหารกินได้ประทังความหิวมีบ้านที่อบอุ่นที่สามารถจะดูแลน้องๆได้ในระบบที่ปิด ซึ่งเธอก็ได้นำเรื่องราวมาโพสต์ในแฟนเพจ มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร และด้วยเธอเองก็ไม่สามารถที่จะรับน้องไว้เองได้เพราะเธอก็รักแมวและเคยแอบเลี้ยงจนมีปัญหากับเจ้าของบ้านและต้องย้ายออกมาภายใน 7 วัน โดยได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่เอาไง้ที่ sena fest เจริญนคร โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ยังต้นโพสต์และน้องทั้งสองก็เป็นแมวพันธุ์วิเชียรมาศ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Eve Panida‎ 

สาวไปกินก๋วยเตี๋ยวจอดรถไว้ ตอนกลับเจอเจ้าตัวนี้อยู่ในตะกร้าหน้ารถ ถามเอากลับบ้านเลยดีมั้ย

หากเพื่อนๆที่ได้เป็นทาสแมวแล้ว เมื่อเวลาที่เราได้ไปไหนมาไหนแล้วเจอกับเจ้าเหมียวแล้วก็คงจะอดไม่ได้ถ้าหากจะเอื้อมมือเพื่อที่จะเข้าไปเล่น ซึ่งถ้าหากว่าเพื่อนๆเป็นอย่างที่กล่าวมาแสดงความเพื่อนๆตกเป็นเหยื่อของเจ้าเหมียวหรือตกเป็นทาสไปแล้วโดยปริยาย เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า JaAye Konghin ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เธอนั้นได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอได้ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์มาและจอดเอาไว้แถวๆหน้าร้านดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่เธอนั้นได้กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จก็ไม่ได้พบความผิดปกติแต่อย่างใด จนเมื่อได้เดินมายันรถที่เธอได้จอดเอาไว้ก็ได้พบกับเจ้าเหมียวตัวอ้วนตัวกลมตัวนึงกำลังนั่งมองเหม่ออยู่ที่หน้าตะกร้ารถอย่างสบายใจเฉิบ ด้วยความที่เป็นนายในตัวก็ไม่ได้สนโลกหรือแคร์สิ่งใด ยังคงนั่งนิ่งนอนใจไม่สนใจว่ารถคันนี้กำลังจะออกหรือไม่ ซึ่งเธอจึงได้ถ่ายทั้งคลิปและรูปเอาไว้พร้อมกับมาลงในกลุ่ม รักหมา ทาสแมว ซึ่งก็เป็นที่สนใจกับเพื่อนๆในกลุ่มเป็นจำนวนมากโดยเธอนั้นยังได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า ไปกินก๋วยเตี๋ยว จอดรถไว้ตอนกลับเจอเจ้าตัวนี้อยู่ที่หน้าตะกร้าหน้ารถ เอากลับบ้านเลยดีมั้ยนะ ซึ่งเพื่อนๆในกลุ่มเองก็ต่างพากันบอกว่าให้เอาน้องกลับบ้านไปเลยแบบไม่ต้องสนโลก แต่ทว่าเธอเองก็ได้มาเฉลยที่หลังไว้ว่าเอากลับไม่ได้เพราะน้องเป็นลูกของแม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวที่เธอได้ไปกิน ซึ่งถ้าเอากลับไปเลยก็คงจะกลับไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านเดิมอีกไม่ได้แล้วเพราะก๋วยเตี๋ยวก็อยากกินเพราะอร่อยส่วนแมวก็อยากจะได้เพราะน่ารักตัวอ้วนซะขนาดเนี้ย ขอขอบคุณข้อมูลจาก JaAye Konghin

ชีวิตพลิกผันของพี่เหลือง จำใจต้องกลายเป็นจรแถมถูกแมวหนุ่มไล่บี้ไล่ฟัดระหกระเหินต้องวิ่งหนี

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kitchanan Payomyong ได้เผยเรื่องราวของพี่เหลืองแมวหมอ ที่ตัวน้องนั้นต้องจำใจกลายเป็นแมวจร ระหกระเหินไปขอข้าวเขากินตามบ้านนู้นบ้านนี้ จากแมวที่ร่างกายกำยำแต่กลับต้องซูบผอมลงแถมต้องหนีแมวหนุ่มๆที่จ้องจะเข้ามากระทำ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พี่เหลืองแมวหมอ พี่เหลืองเป็นอดีตแมวจำใจจรเมื่อพ่อต้องจากไป น้องเป็นแมวรูปหล่อตัวใหญ่ที่เดินวางก้ามไปทั่วทั้งหมู่บ้านกว่าจะรู้ว่าพี่คือแกแมวที่ถูกเทให้เดียวดาย เวลาก็ล่วงเลยไปหลายเดือนแล้ว ที่เริ่มแปลกใจเพราะสงสัยว่าเจ้าเหลืองร่างยักษ์เริมตัวผอม จากร่างกายที่เคยกำยำล่ำสันก็เริ่มซูบ สอบถามคนในหมู่บ้านถึงรู้ว่าพ่อพี่เหลืองนั้นจากไปแบบกะทันหัน จากวันที่มีบ้านอยู่สุขสบายพี่เหลืองกลายเป็นแมวจรแบบไม่ทันตั้งตัว พี่เหลืองวิ่งเข้าออกบ้านนั้นบ้านนี้ไปทั่ว แต่โชคยังดีที่มีแต่คนเมตตา พี่เหลืองมีที่อยู่ตามบ้านต่างๆ มีที่กินแบบไม่เป็นเวลาไม่ถึงกับอดๆอยากๆ แต่ทุกๆวันต้องคอยระวังจากแมวหนุ่มๆแถวนั้น แม้พี่เหลืองจะเก๋าพอตัว แต่อายุที่มากขึ้นแล้วก็ทำให้พลาดพลั้งอยู่หลายครั้งไป เราตัดสินใจปฏิบัติการหาบ้านให้โดยไม่ถามความเห็นพี่เหลืองเลยสักคำ เริ่มจากการสร้างความคุ้นเคย ให้อาหารสม่ำเสมอก่อน พี่เหลืองเริ่มมารอเราหน้าบ้านในทุกๆวัน เราก็เริ่มประกาศหาบ้าน จนมีคนใจบุญขอรับพี่เหลืองไปเลี้ยงไปดูแล เราพาพี่เหลืองไปหาหมอทิฟ ตรวจร่างกาย ทำวัคซีน ถึงรู้ว่าพี่เหลืองมีอายุมากกว่า 5 ปี อาจจะ 7 - 8 ปี ในที่สุดก็พร้อมส่งมอบให้เจ้าของใหม่ พี่เหลืองกำลังจะมีบ้านใหม่แล้ว แต่เคราะห์กรรมของพี่เหลืองยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะผู้อุปการะไม่แจ้งเราว่าแกตั้งท้อง เมื่อไปถึงก็เกิดปัญหามีปากเสียงกันในบ้านยกใหญ่ แม่น้องไม่ให้เลี้ยงแมว เราต้องหอบหิ้วพี่เหลืองกลับ โกยแน่บออกจากบ้านหลังนั้นแทบไม่ทัน สุดท้ายคืนนั้นพี่เหลืองก็กลับมาอยู่ในความอุปการะของคุณหมอเหมือนเช่นเคย และอยู่ยาวอย่างถาวรด้วยถ้อยคำสั้นๆ แต่ยิ่งใหญ่สำหรับแมวจำใจจรตัวนี้ ที่แก่ตัวลงไปทุกที “ถ้าไม่มีที่ไปก็อยู่กับหมอที่นี่เถอะพี่เหลือง”และโศกนาฏกรรมของพี่เหลืองก็จบลงตั้งแต่วันนั้นมา ขอให้คุณหมอทิฟผู้งดงามทั้งกายใจเจริญยิ่งๆขึ้นไปเลยนะ ปล.ถึงพี่เหลืองจะกลายเป็นลูกหมอไปแล้วแต่เรายังไปเยี่ยมแกอยู่บ่อยๆ นะ พร้อมอาหารสูตรแมวสูงอายุถุงยักษ์ทุกๆ 3 เดือน เพราะพี่เหลืองกินเก่งมากๆเลยจ้า ที่มา Kitchanan Payomyong

แม่แมวคาบลูกน้อยหนีหัวซุกหัวซุนทั่วทั้งโรงงาน โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวลูกนั้นได้จากโลกนี้ไปแล้ว

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Bundhit Taweesuk ได้เผยเรื่องราวของแม่แมวที่โรงงานที่ต้องระหกระเหิน เดินวนไปทั่วไม่รู้จุดหมาย โดยที่ปากของตัวแม่นั้นก็คาบลูกน้อยที่สิ้นใจไปแล้ว โดยที่ตัวแม่แมวเองยังไม่รู้เลยว่าลูกน้อยของเธอจะไม่มีวันกลับมาอีก . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า น้องเป็นแมวจรมาอาศัยอยู่ที่โรงงาน แต่ลูกแมวของเธอโชคร้ายถูกโฟล์คลิฟเหยียบจนสิ้นใจไป1ตัว แถมมีลูกแมวอีกตัวที่ถูกเครื่องจักรหนีบที่ขาอีกหนึ่งตัว (แต่โชคยังดีน้องแมวพิการขาตัวนี้มีคนรับไปเลี้ยงแล้ว) เหลือตัวแม่แมวอีก2ตัว มีใครสนใจนำไปอุปการะเลี้ยงดูมั้ยผมจะจับให้ พิกัดที่ ระยอง ปลวกแดง เขาคันทรง เหมราช2 จากในคลิปที่หนุ่มผู้โพสต์ได้ถ่ายไว้แสดงให้เห็นถึงความรักของแม่ ที่มีแต่ความระแวงมองซ้ายมองขวาอยู่ตลอดเวลา โดยที่ปากก็ต้องคาบลูกตัวน้อยเอาไว้ แถมอุปสรรคของแม่แมวก็สุดแสนลำบาก แถมมีลูกตัวน้อยที่ต้องดูแลอีกหลายชีวิต การที่แม่จะดูแลลูกๆได้อย่างทั่วถึงในแถบพื้นที่ของโรงงานก็ยากยิ่ง ทั้งเครื่องจักร ทั้งรถที่วิ่งเข้าออกก็อีกส่วนหนึ่งจนตัวแม่นั้นหลงเหลือลูกเพียงแค่ตัวเดียว แต่ลูกน้อยตัวนั้นก็มีคนรับไปเลี้ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากท่านใดสนใจช่วยเหลืออยากจะรับเลี้ยงแม่แมวตัวดังกล่าว คุณสามารถติดต่อไปยังที่ต้นโพสต์ได้เลยนะ เพราะตอนนี้น้องเหลือเพียงแค่ตัวเดียวในโรงงานแห่งนี้แล้ว เพราะแม่แมวอีกตัวก็ดันมาสิ้นใจโดยไม่ทราบสาเหตุ ฝากช่วยเหลือกันด้วยน้า 24 กรกฎาคม 2563 https://www.facebook.com/showclip3/videos/381126032904163/   ที่มา Bundhit Taweesuk

มารำฉุยฉายโชว์ขอบ้านหวังเพียงว่าจะมีใครจะรับหนูบ้าง ด้วยรู้ตัวว่าตนสีนั้นไม่สวยเหมือนอย่างใครเขา

เพราะเพียงชีวิตที่เกิดมาเป็นแมวจรที่ต้องอดทนอยู่แอบตามอาศัย โดยซึ่งไร้แม้ที่จะหลับนอนยามดึกและด้วยชีวิตที่เลือกไม่ได้จึงทำได้เพียงแค่เข้ามาอ้อนวอนเข้าหาผู้คน ด้วยรู้ตัวว่าตนนั้นกำลังตั้งท้องจึงต้องการเพียงที่อยู่เอาไว้ให้ลูกๆได้อยู่อย่างสุขสบาย เพราะแม้หัวอกแม่นั้นจะลำบากมาตลอด แต่ก็ยังมีความเป็นแม่อยู่เต็มอกด้วยรู้ว่าลูกของตนนั้นกำลังจะได้เกิดมา เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Blue Suchada ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องรางของเจ้าเหมียวสามสีตัวนี้ ที่เธอนั้นได้พบน้องเข้ามาอ้อนซึ่งน้องนั้นเป็นแมวจรที่ไร้บ้านและก็ไม่แน่ใจว่าน้องตั้งท้องอยู่ด้วยหรือป่าว แต่ที่แน่ๆบริเวณที่นอนได้อยู่อาศัยนั้นมีตัวเงินตัวทองค่อนข้างมาก เธอจึงกลัวว่าน้องจะได้รับอันตรายและหากเมื่อได้ให้กำเนิดลูกออกมาแล้ว โดยเมื่อเธอได้เจอกับน้องน้องก็ลงล้มตัวมานอนตุ๊บและพยายามที่จะอ้อนด้วยการนวดมือโชว์ ด้วยเธอเองก็ได้บอกเอาไว้ด้วยว่าน้องอ้อนเก่งมากๆใจดีสุดๆเป็นมิตรกับคน ด้วยรู้ตัวว่าตนกำลังจะให้กำเนิดลูกน้อยและต้องการบ้าน โดยเธอได้ระบุพิกัดที่น้องได้อยู่เอาไว้ที่ แถวฝั่งธน กรุงเทพมหานคร เพราะสัญชาติญาณของหัวอกคนเป็นแม่แล้วรู้ว่าตนต้องการสิ่งไหนเพื่อที่จะให้ลูกของตนนั้นได้อยู่อย่างปลอดภัย อีกทั้งน้องเองก็คงจะรู้ตัวดีว่าสนของตนนั้นไม่ได้สวยเหมือนอย่างใครเขา จึงได้เฝ้าตามหาและอ้อนมนุษย์เพื่อที่จะขออยู่อาศัย แต่ในทางกลับกันแล้วถ้าเป็นต่างประเทศสีของน้องนั้นจะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากและแอดมินเองก็มองว่าสีของน้องสวยมากๆด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนพอจะมีพื้นที่เหลือให้เหมียวสามสีตัวนี้ได้คลอดลูกอย่างปลอดภัยก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Blue Suchada

ถูกเขาพรากแม่ไปจากอก แม้นมยังไม่ทันหย่าตายังไม่ทันลืม ก็นำมาใส่กล่องเอาไว้ด้วยใจที่เรียกหาว่าแม่จ๋านั้นอยู่ไหน

เพราะมนุษย์เรานั้นล้วนแต่มีจิตใจที่แตกต่างกันออกไป ด้วยสภาพวะของการเติบโตเลี้ยงดูหรือแม้แต่ครอบครัวเองซึ่งหากได้เลี้ยงดูหรือได้เติบโตมาร่วมกับสัตว์เลี้ยงแล้วสภา่พของจิตใจที่มีเมตตาต่อสัตว์ของพวกเขานั้นก็จะยิ่งดีมากขึ้นไป แต่หากในบางบ้านที่ปลูกฝังลูกมาแบบผิดๆ ตั้งแต่เล็กแต่น้อยความมีเมตตาหรือหัวใจที่อ่อนโยนก็ย่อมที่จะเห็นสัตว์เหล่านี้ไร้ค่า เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Narongdech Wongsankworasak ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยสองตัวนี้หลังจากที่เธอได้พบน้องถูกคนใจร้ายนำมาเทเอาไว้ ที่ข้างบ้านซึ่งตั้งอยู่ที่ ถนนประชาอุทิศ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ซึ่งน้อยทั้งสองตัวนั้นมีอายุเพียงแค่ไม่เกินสองสัปดาห์เท่านั้นและยังไม่สามารถที่ระบุเพศของน้องได้แต่อย่างใด แต่จากการสนิษฐานของผู้โพสต์ได้ระบุว่าคาดว่าน้องทั้งคู่น่าจะเป็นเพศผู้ และด้วยสภาพขาที่อ่อนแรงยืนยังไม่ทันจะแข็งไร้แม้เรี่ยวแรงจะคลานไหว นมก็ยังไม่สามารถที่จะกินเองได้ แต่ก็ต้องถูกนำมาเทเอาไว้ไร้แม้เยื้อใยหรือหัวใจจะเมตตา ด้วยทว่าคิดถึงแม่จ๋าสุดหัวใจแต่ก็ทำได้เพียงนอนกกกันไว้ให้ความอบอุ่น และด้วยทางผู้โพสต์เองก็ไม่สามารถที่จะรับน้องไว้เลี้ยงเองได้เนื่องจากตัวเขานั้นแพ้ขนแมวและที่บ้านก็ยังเลี้ยงแมวอีกด้วย เขาจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่จะตามหาบ้านให้กับน้องเพราะเนื่องด้วยพวกน้องนั้นยังเล็กมากๆถ้าหากปล่อยเอาไว้แล้วมีหมาจรหรือใครที่ใจร้ายไปเจอก็คงจะไม่รอด ประกอบกับแมวที่มีอายุเพียงแค่นี้หากร่างกายขาดความอบอุ่นหรือต้องอดนมแม่แล้วก็คงจะอยู่ได้แค่ไม่กี่วันเพียงเท่านั้น จึงอยากฝากไปถึงเพื่อนๆด้วยว่าหากคิดจะนำไปปล่อยไว้แบบนี้ให้คำนึงถึงการมีชีวิตรอดของพวกเขาด้วย เพราะถ้าเป็นแบบนี้เท่ากับคุณเองนั้นแหละที่เป็นคนเลือกจะปิดชีพของพวกเขา ขอขอบคุณข้อมูลจาก Narongdech Wongsankworasak

เดินลากขาแบกสังขารมาแอบขดอยู่กับสายไฟ ด้วยความกลัวตัวยังสั่นเพียงตัวนั้นเป็นเพียงจรจึงไรใครจะรักษา

ด้วยชีวิตที่เกิดมาไร้ซึ่งผู้คนจะต้องการจึงต้องเกิดมารับกับสภาพวะที่ได้เป็นอยู่ ด้วยว่าเลือกเกิดไม่ได้จึงไม่สามารถที่จะเกิดมามีที่กินที่อยู่อย่างสุขสบายอย่างใครเขา ด้วยตัวเราเป็นเพียงจรตัวน้อยๆที่คอยหาจะมีแม้ชีวิตต่อในแต่ละวันต่อๆมา ใครจะหาพาช่วยเหลือหรือคอยบรรเทา เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nuttaporn Satheawsavat ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่ทำให้เธอนั้นต้องน้ำตาตกหลังจากที่เธอได้พบน้องนั่งพิงอยู่กับขดของสายไฟ ซึ่งเมื่อพอน้องได้เห็นเธอน้องก็วิ่งหนีเธอ เธอตกใจมากเพราะขาหลังของน้องนั้นไปโดนอะไรไม่รู้มา ได้แต่นั่งลากขาไปกับพื้นเพื่อที่จะวิ่งหนีด้วยความกลัว เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีเธอเครียดมากเครียดแต่เช้าเลย ซึ่งน้องนั้นได้แอบอาศัยอยู่ที่แถวเจริญนคร 37-39 เธอเองก็ติดหยุดยาวและจะต้องกลับไปต่างจังหวัดหลายวัน แต่ในสิ่งที่เธอทำได้ในตอนนั้นก็คือหาลังมาหนึ่งใบและใส่น้องเอาไว้ด้วยเพราะที่เธอจะต้องรีบไปทำงาน ประกอบกับการที่เธอต้องปาดน้ำตาและเลือกที่จะต้องปล่อยน้องเอาไว้แบบนั้นเพราะด้วยไม่มีเวลาจะเลือกเลย เธอจึงตัดสินใจรอให้คลีนิกเปิดตอน 10 โมงเพื่อที่จะพาน้องไปรักษายังคลีนิค เธอกลับไปหาน้องอีกครั้งเมื่อคลีนิกได้เปิดแล้ว แต่เมื่อเธอได้ไปถึงกลับไม่พบน้องอีกต่อไปแล้วเธอเดินหาพร้อมกับการกลัวในใจด้วยสั่นคลอน กลัวว่าจะไม่ได้พบน้องอีกต่อไป จนในที่สุดเธอก็เดินหาน้องอยู่ประมาณร่วมชั่วโมงได้เธอรู้สึกผิดจากใจ ด้วยการที่เธอเลือกจะปล่อยน้องเอาไว้แบบนั้น และเธอก็ได้พบน้องและนำน้องส่งไปรักษาตัวกับทางคลีนิคในเวลาต่อมา เธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือเพราะด้วยสภาพอาการของน้องนั้นก็ค่อนข้างที่จะหนักทำให้เธอเป็นกังวลใจอีกทั้งประกอบกับเหตุการณ์์ที่เธอได้พบเจอจึงอยากให้เพื่อนๆในกลุ่มช่วย ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะติดตามเรื่องราวของน้องเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nuttaporn Satheawsavat