หน้าแรก บล็อก หน้า 482

ได้แต่นั่งเหม่อเพ้อคิดว่าจะอยากมีบ้าน ด้วยตัวนั้นเป็นแค่เพียงจรแอบอาศัยในช่องรูปูนแตกของสถานี

หากมีในบางมุมที่เรามักจะนั่งเหม่อลอยกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ เพราะด้วยก็อยากจะมีสุขในชีวิตเหมือนคนอื่นเขา ด้วยเป็นจรจะหาเช้ากินค่ำเพื่อทุเราจะมีใครเขามาสนใจในชีวิตที่ไร้คนเหลียวแล ก็ชีวิตเลือกเกิดมาไม่ได้จึงได้แต่นั่งเฝ้าฝันหาถึงความสุขที่ให้อยากจะมาไม่รู้วันไหน หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Saranon Boonsakdaporn ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ เมื่อในวันนั้นเขาได้นั่งรถไฟฟ้า Bts ไปแถวยังสถานีเพลินจิต ซึ่งก็ได้พบกับเจ้าเหมียวนั่งอยู่ใกล้ๆกับช่องที่มีปูนแตกเป็นรูขนาดใหญ่ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะอาศัยอยู่ในนั้น ด้วยน้องเป็นแมวจรที่คุ้นคนง่าย ส่งเสียงร้องขออาหารแต่เมื่อชีวิตที่ไม่ได้มีความสุขจึงได้แต่นั่งเหม่อคิดถึงฝันว่าตัวนั้นอยากจะมีบ้านเหมือนคนอื่นๆเขา โดยผู้โพสต์ก็ได้พบน้องเข้าจึงนำอาหารและน้ำดื่มเพื่อให้น้องประทังความหิว แต่ทว่าเขาเองก็ไม่สามารถที่จะนำน้องกลับไปเลี้ยงได้ เพราะด้วยตัวของผู้โพสต์เองก็อาศัยอยู่ในคอนโดที่ไม่สามารถที่จะเลี้ยงสัตว์ได้ จึงทำได้เพียงแค่นำเรื่องราวมาโพสต์ลงยังกลุ่ม หาบ้าน ให้น้องหมา น้องแมว เพื่อหากเพื่อนๆคนไหนไปในสถานีเพลินจิตก็หวังเพียงแค่จะนำอาหารและน้ำติดไม้ติดมือไปให้น้องเพื่อที่จะประทังชีวิตให้มีชีวิตอยู่ต่อ แต่ในใจลึกๆของเขาเองแล้วเขาก็อยากที่จะหาบ้านให้กับน้องจะได้ไม่ต้องทุกข์ทนใช้ชีวิตนั่งเหม่อลอยในแบบนั้นอีกต่อไป โดยน้องจะชอบอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้าทางออกประตู 1 ฝั่งโรเบิ้ลเพลินจิต ซึ่งหากเพื่อนๆท่านไหนผ่านไปก็อย่าลืมแวะไปหาน้องได้หรือหากอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็ลองเข้าไปหาและสอบถามคนในบริเวณดังกล่าว ขอขอบคุณข้อมูลจาก Saranon Boonsakdaporn

ต้องเจ็บปวดนั่งหน้าเศร้าด้วยทนทุกข์ ไม่มีสุขมีสันเหมือนใครเขา ด้วยเป็นจรที่เจ็บก็ต้องอดทนเอา

เพราะด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ให้หลายๆชีวตต้องเกิดมาทนทุกข์ยากกับความลำบาก แม้หากว่าใครก็อยากที่จะเกิดมาสุขสบาย แต่ในเมื่อชีวิตเลือกเกิดมาไม่ได้ก็ต้องจำทน เพราะด้วยตนนั้นเป็นจรจึงไร้แม้ใครจะเมตตาได้แต่นั่งเฝ้านอนเฝ้าอดทนกับความเจ็บ ด้วยก็เจ็บแต่จะไปบอกใครเขาถึงช่วยหา แค่ได้มีชีวิตมีลมหายใจอยู่ต่อก็เกินอุราจะเรียกหาบอกใครเขาจะมาฟัง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า คัมภีร์ เพ่งผล ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เขาได้พบน้องนั่งหน้าเศร้าตาละห้อยอยู่เพียงลำพัง ด้วยตัวนั้นเป็นเพียงจรที่ต้องเจ็บ แต่ก็ไร้แม้ใครเขาจะมาสนใจ โดยเขาเองก็อยากจะเข้าช่วยเหลือน้องแต่ก็ขาดทุนทรัพย์ซึ่งดูจากภายนอกน้องน่าจะเป็นเนื้องอกที่หน้าอก แต่ก็ต้องอดทนอยู่กับความเจ็บปวดและแสนจะยากลำบากเพราะด้วยตนเป็นเพียงจรที่ไม่มีบ้านหรือเจ้าของ จึงได้แต่นั่งมองว่าเมื่อไหร่จะถึงวันสิ้นลม   ซึ่งเขาจึงได้นำเรื่องราวของน้องมาลงในกลุ่ม ทาสแมวจร หาบ้าน ช่วยเหลือแมวจรเจ็บป่วยด้อยโอกาส เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในกลุ่ม เพราะหากปล่อยเอาไว้น้องก็คงจะต้องสิ้นใจในเร็ววัน โดยเขาเองก็ได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่เอาไว้ที่ แถวๆบางแค และหากว่าเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะเมตตากับชีวิตน้อยๆที่ใกล้จะหมดลมนี้ ก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ ด้วยทั้งนี้เขาเองก็ได้อัพเดทเพิ่มเติมเอาไว้ว่าน้องไม่ได้อยู่กับเขาน้องน่าจะอยู่ในสถานที่ที่น้องได้อยู่ และเขาเองก็ได้พบเห็นน้องเขาจึงได้มาขอความช่วยเหลือ ขอเพียงแค่ความเมตตาที่จะได้ไม่ต้องมานั่งทนกับความเจ็บปวดก็เกินพอ ขอขอบคุณข้อมูลจาก คัมภีร์ เพ่งผล 

แอบอาศัยในท่อระบายน้ำด้วยตัวเป็นแมวพันธ์ที่เคยมีเจ้าของ ไร้แม้อะไรจะตกถึงท้องเพราะไม่รู้จักวิธีหากิน

เพราะด้วยการเลี้ยงแมวในระบบที่ปิดแล้ว เป็นสิ่งที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขามากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะด้วยอันตรายจากโลกภายนอกนั้นมากมายกว่าที่เราคิด เราจึงมักจะบอกกับเพื่อนๆเสมอว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสัตว์อะไรก็ตามก็ควรที่จะเลี้ยงในรั้วรอบขอบชิดเพื่อที่จะเป็นสิ่งที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขามากที่สุด เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Aloha Hu Hu ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยหลังจากที่เขานั้นได้พบน้องแอบอาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำด้วยความกลัว ในบริเวณแถมที่ทำงานของแฟนของเขามาร่วม 2 อาทิตย์ได้แล้ว ซึ่งด้วยจากลักษณะของน้องเองคาดว่าน่าจะเคยมีเจ้าของแต่อาจจะพลัดหลงมา จึงต้องทนหลบๆซ่อนแอบใช้ชีวิตให้รอดอยู่ในท่อระบายน้ำ ด้วยการเป็นแมวที่ถูกเลี้ยงดูมาทำให้ไม่สามารถที่จะหากินเองได้ตากปกติ แต่ทว่าน้องก็หาอาหารจับกบประทังความหิวเพราะไม่เคยได้ใช้ชีวิตในโลกใบใหญ่ โดยผู้โพสต์เองได้ระบุพิกัดที่ได้พบเจอน้องเอาไว้ที่ พบน้องแถวแยกแม่คาวสะอาดใส่ บริเวณโรงพิมพ์ AIPP ในจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้นำมาโพสต์ลงยังกลุ่ม กลุ่ม "จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com" เพื่อที่จะตามหาผู้เป็นเจ้าของเพราะตัวของน้องเองก็คงจะคิดถึงผู้เป็นเจ้าของแย่แล้ว และทางเจ้าของก็น่าจะตามหาน้องเช่นเดียวกันซึ่งตัวน้องก็ได้มีปลอกคอพร้อมกับกระดิ่งติดตัวอยู่ตลอดเวลา โดยทั้งนี้หากเพื่อนๆท่านไหนพอจะรู้จักผู้เป็นเจ้าของหรือพอจะคุ้นหน้าคุ้นตาของน้องก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ และก็อยากจะให้น้องได้กลับบ้านไวๆเพราะโลกใบใหญ่ภายนอกอันตรายสำหรับแมวที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตเพียงลำพัง ขอขอบคุณข้อมูลจาก Aloha Hu Hu

มานั่งเฝ้านอนเฝ้าเพียงขอแค่ได้เข้าไปอยู่ในบ้าน ด้วยแค่อยากจะมีบ้านให้หลับพักพิงนอนเหมือนอย่างเคย

ในทุกๆครั้งที่เราย้ำบอกกับเพื่อนๆเอาไว้ว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นเท่ากับการที่เรานั้นจะต้องแบกรับภาระต่อหนึ่งชีวิตที่จะต้องเพิ่มเข้ามา เราจึงบอกกับเพื่อนๆทุกครั้งในเรื่องของการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะรับพวกเขามาดูแลเลี้ยงดู ซึ่งด้วยอย่าได้ลืมกันไปว่าพวกเขานั้นก็มีจิตใจไม่ได้ต่างจากมนุษย์อย่างเราเลย เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wiphawee Kesorn ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ที่มีชื่อว่า เจ้าไทเกอร์ ด้วยประวัติของเจ้าไทเกอร์นั้นก็เป็นแมวข้างร้านข้างๆบ้าน ซึ่งร้านข้างๆบ้านของเธอได้ปิดกิจการไป แต่ทว่าพี่ไทเกอร์ก็มานั่งที่หน้าบ้านของเธอเพื่อที่จะขอเข้าไปในบ้านทุกๆวัน ซึ่งในแต่ละวันเจ้าเหมียวก็จะทำแบบนี้อยู่เป็นประจำ เธอจึงได้ตัดสินใจเอาเจ้าเหมียวไทเกอร์นั้นมาเลี้ยงเอาไว้ โดยที่เจ้าไทเกอร์เองเมื่อในตอนแรกที่ได้มาเริ่มอยู่กับเธอนั้นมีน้ำหนักเพียงแค่ ไม่ถึง 2 กิโลเพียงเท่านั้น แต่เมื่อได้อยู่ไปอยู่มาในตอนนี้เจ้าไทเกอร์ได้มีน้ำหนักมาแล้วร่วม 3 กิโลกว่า ซึ่งเจ้าไทเกอร์นั้นมักจะชอบนั่งขาชิดและส่งแววตาอันบ๋องแบ๋ว อ้อนวอนอยู่อย่างนี้เป็นประจำจนทำให้เธอนั้นหลงรักจนทนไม่ไหวและยอมให้เจ้าไทเกอร์เข้าบ้านและนำมาเลี้ยงในเวลาต่อมา โดยก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆหลายๆคนเอาไว้ว่าหากคิดจะนำพวกเขามาเลี้ยงแล้วก็อยากจะให้ดูแลพวกเขาให้ดี เพราะด้วยพวกเขาก็มีชีวิตและจิดใจสามารถรักได้และเจ็บได้ไม่ได้ต่างจากพวกเราเลย ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wiphawee Kesorn

เพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน ก็ถูกคนที่ไม่ชอบแมวเขาเอาที่ตักขยะมาโกยนำมาเทไว้บ้านคนอื่นทำเหมือนน้องไม่มีชีวิตจิตใจ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Cat Kin Okane ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับลูกแมวตัวน้อย ที่เพิ่งจะเกิดมาได้ไม่นาน ลูกแมวเหล่านี้ต้องถูกคนที่ไม่ชอบแมวบ้านข้างๆเขาเอาไม้กวาดขยะมากวาดแล้วเอาที่ตักขยะมาโกยและนำมาเทไว้ที่บ้านของคนอื่น จนมีคุณยายท่านหนึ่งมาพบมาเจอเข้า . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แม่เราเจอลูกแมวเพิ่งจะให้กำเนิดลูกมาหมาดๆตัวยังเปียกๆแม่อยู่เลยตกอยู่กลางถนนหน้าบ้าน คุณยายก็เลยเก็บมาเช็ดตัวเอาผ้านุ่มๆมารองที่กล่องเอาน้องมาวางไว้ เผื่อว่าแม่เขาจะย้ายลูกแล้วทำตก แต่..มันไม่ใช่ บ้านคนใจร้ายเดินมาบอกว่าแม่แมวมาให้กำเนิดลูกที่บ้านเค้า เค้าไม่ชอบแมว ผัวเค้าก็กวาดเอาอีก 2 ตัวใส่ที่โกยขยะมากระแทกลูกแมวในกล่องไว้อีก 2 ตัว (คือเอ็งค่อยๆวางก็ไม่ได้นะ) คุณยาย(แม่เรา) ก็เลยเอาน้องมาเช็ดตัวแล้ววางในกล่องรอแม่เขา เพราะคิดว่าคงมา ยันเช้าคุณยายมาดูก็ไม่มีแม่มา น้องก็หลับมีแต่พี่เพราแมวจรนอนเฝ้า มีร่องรอยพี่เพราเข้าไปนอนในกล่องคงให้น้องนอนซุก (ขอบคุณพี่เพรา) ซ้ำร้ายแม่แมวก็ไม่มา คุณยายกับเพื่อนบ้านสันนิษฐานว่าทั้งผัวทั้งเมียถือเหล็กแป๊บตอนเอาน้องมาเทไว้ ก็ไม่ได้ว่าหรือกล่าวหาเวรกรรมมีจริง เกิดมาก็ไม่เคยได้กินนมจากแม่ ตอนนี้คุณยายเลยเอามาป้อนนมให้อยู่แต่ในบ้าน พอโตแล้วแข็งแรงแล้วค่อยหาบ้านให้นะ ที่มา Cat Kin Okane

ชิวาวาน้อยอายุก็มากแล้ว แถมตัวอ้วนเคลื่อนที่ช้ายอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องหมาในบ้าน

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎Jeabkabpub พลศรี‎ ได้เผยเรื่องราวของเจ้าชิวาวาตัวอ้วน ที่ปกป้องเจ้าของตอนไม่อยู่บ้านจนตัวเองนั้นต้องสิ้นลม แม้น้องจะเป็นหมาพันธุ์เล็กและมีขนาดรูปร่างที่ค่อนข้างอ้วน แต่น้องกลับแลกชีวิตของตนเองเพื่อปลิดชีพเจ้างูที่เข้ามารุกราน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ปกป้องเจ้านายสุดที่รักด้วยชีวิต ถ้าพ่อกลับมาเร็วกว่านี้สักนิด ผมคงช่วยชีวิตเขาได้ทัน เสียใจมากๆที่น้องต้องจากไป RIP โดยฝอยทองนั้นเป็นลูกสาวสุดที่รัก เราเลี้ยงน้องเขาไว้ในบ้านเพราะเขามีอายุเยอะแล้ว น้องเป็นหมาที่เรียบร้อย ไม่ดื้อมีนิสัยดีมากๆๆ ชอบกินปลาหมึกย่างมาก เวลาที่เจอรถขายปลาหมึกย่างทีไรน้องจะร้องเรียกให้จอดซื้อมาฝากเขาทุกครั้ง..มีน้องหมาอยู่ในบ้านหลายตัว แต่เขาเลือกที่จะปกป้องตัวอื่นๆด้วย ฝอยทองเขาโดนฉกเข้าที่ปาก มีรอยเขี้ยวเราเข้ามาตอนลมหายใจเขาเฮือกสุดท้ายพอดี ในตอนนั้นเราตกใจมาก แต่มันก็ทำอะไรไม่ทันเสียแล้ว หัวใจเขาหยุดเต้นแล้ว น้องทำดีที่สุดแล้วน้องปกป้องหมาในบ้านอีกหลายชีวิต ถ้าไม่มีฝอยทองก็ไม่รู้เลยว่าตัวอื่นๆจะเป็นอย่างไร จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวไว้อาลัยให้กับการจากไปของเจ้าฝอยทอง แม้ฝอยทองจะมีอายุที่มากแถมเป็นหมาพันธุ์เล็กมีรูปร่างที่อ้วนเคลื่อนที่ได้ช้า แต่น้องก็เลือกที่จะปกป้องหมาในบ้านรวมทั้งเจ้านายอันเป็นที่รัก ที่มา ‎Jeabkabpub พลศรี‎

ไซตัวเดียวทำป่วนกันทั้งบ้าน หลังแอบเปิดประตูแง้มให้เหล่าแก๊งหมาออกไปวิ่งเล่นในตอนที่เจ้าของกำลังอาบน้ำ

เมื่อไม่นานมานี้แฟนเพจเฟสบุ๊ก : Peakpoon Siberian Husky ได้เผยคลิปวิดีโอสุดปวดหัว ของแก๊งเจ้าหมาที่เขานั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยก่อนหน้านี้เจ้าไซบีเรียนฮัสกี้สุดแสบดันก่อวีรกรรม ทำเอาวุ่นทั้งบ้านเพราะเจ้าตัวนั้นดันพาเพื่อนๆแก๊งสี่ขาหนีออกจากบ้านกันทั้งคอก . โดยทางแฟนเพจได้เล่าว่า วันนี้อิแม่กำลังจะอาบน้ำอยู่ พออาบน้ำเสร็จกำลังจะนั่งแต่งตัวเท่านั้นแหละสักพักมีสายจากนิติหมู่บ้านโทรมา บอกว่าคุณจูนคะ หมาคุณจูนหลุดนะคะ มีเพื่อนบ้านเขาโทรมาบอกว่าไปกดกริ่งหน้าบ้านก็แล้วไม่มีใครออกมาดู อิแม่มันก็ยังไม่ทันได้แต่งตัว เสื้อผ้ายังไม่ได้ใส่เลยไปแง้มม่านดู ก็เห็นเผือกนั่งอยู่นี่หว่า เลยรีบตอบกลับนิติไปว่า “หมาไม่หลุดนะคะ ยังนั่งอยู่เลย” แล้วคือสายตาเหลือบไปเห็นประตูรั้วมันแง้มเอาไว้ เอ้าชิบหาไม่เจอแล้วหมาหลุดยกบ้าน รีบบอกนิติว่าหลุดจริงๆค่ะ เดี๋ยวไปดูหมาก่อนนะคะ จากนั้นคือรีบแต่งตัวแล้วใส่เสื้อผ้า วิ่งไปตามเก็บหมา ดีนะที่เพื่อนบ้านเค้ามาล่ออีเผือกเข้าบ้านให้(ไซบีเรียน) ขอบคุณคุณลุงบ้านตรงข้ามด้วยนะคะ ไปจ่ะ โน่นอิแม่วิ่งเก็บหมาอีกสามตัว ฮ่าฮ่าฮ่า ชมคลิป https://www.facebook.com/4dogstppk/videos/311645056554059/ จนคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ และชาวเน็ตเองต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมยิ้มไม่หุบกับความแสบดังกล่าวของเจ้าไซตัวนี้ แต่ที่ฮาก็คือเพื่อนๆเขาออกไปวิ่งเล่นกันหมด เหลือเพียงเจ้าขนุนตัวอ้วนที่นอนแหมะไม่ยอมไปไหนเพราะด้วยขนาดของน้องขนุนก็ต้องเรียกได้ว่าแทบจะกลิ้งตามไม่ทันแล้ว 555 ที่มา Peakpoon Siberian Husky

แก๊งแมวอ้วนทำงานยามค่ำคืน กับคุณลุงเก็บขวดขายเพราะไม่อยากให้น้องอยู่บ้านเพียงลำพัง

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Manee'Jha Kaewwiset ได้เผยเรื่องราวของแก๊งแมวเหมียวและคุณลุงที่ต้องเก็บเศษขวด เศษขยะเพื่อเอาไปขายประทังชีวิตให้กับแมวของเขา โดยคุณลุงท่านนี้นั้นไม่อยากให้แมวอยู่ที่บ้านเพียงลำพังจึงต้องใช้ผ้าเก่าๆเพื่อจูงน้องเอาไว้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขออนุญาติแอดมินเพจนะคะ ขอรับบริจาคเชือกจูงให้กับน้องแมว ที่ไม่ใช้แล้วให้กับเด็กๆกลุ่มนี้ด้วยนะคะ พี่คนเลี้ยงใช้เศษผ้ามาตัดทำเป็นสายจูงแทนให้กับน้องๆ เห็นแล้วก็น่ารักดีค่ะ แต่จะดีกว่านี้ถ้าเป็นสายจูงโดยเฉพาะสำหรับน้องแมว หรือใครอยากจะมาเล่นกับเด็กๆกลุ่มนี้ก็สามารถมาได้นะคะ พิกัดแถวแยกพิชัย เวลาประมาณ 1 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม ค่ะ ไม่ดราม่านะคะ เด็กๆเขาอ้วนทุกตัวเลย พี่เค้าบอกน้องฉีดยาทุกตัวแล้ว บ้างตัวก็ทำหมันแล้ว ที่เค้าเอาออกมาด้วย เพราะเป็นห่วงไม่อยากให้น้องอยู่ที่บ้านกันเพียงลำพังค่ะ สนใจบริจาคสายเชือกจูง อินบล็อคเฟสส่วนตัวเราได้เลยนะคะ ส่วนอาหารแมว ของใช้แมวที่ไม่ใช้แล้ว ก็รับบริจาคนะคะ เช็คอินไว้แล้วนะคะ ใครผ่านแถวนี้ก็ลองมองๆดูข้างทางนะคะ เผื่อจะเจอกับเด็กๆนอนเล่นกันอยู่ จนเรื่องราวนี้ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวอยากจะช่วยเหลือน้องๆ ทั้งในเรื่องของเชือกจูงสำหรับแมวโดยเฉพาะ และในเรื่องของอาหารแมวก็อยากจะช่วยกัน เพราะดูแล้วน้องแมวสุขภาพแข็งแรงตัวอ้วนกันทุกตัวเลย คุณลุงท่านนี้สงสัยจะเลี้ยงดูน้องๆเป็นอย่างดี อยากให้พวกเราชาวทาสแมวช่วยกันนะ หากใครพบเจอคุณลุงกับน้องแมวก็สามารถเข้าไปทักทายเข้าไปเล่นด้วยกันได้น้า ที่มา Manee'Jha Kaewwiset 

เดินมาอ้อนพันแข้งพันขาขอบ้านอยู่อาศัย ด้วยเป็นจรนอนในพุ่มไม้ยุ่งก็ฟัด แต่ก็ต้องจำจากเดินไปแม้น้ำตาตก

ด้วยชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นเพียงจรจึงไร้บ้านไร้ที่อยู่อาศัยเพราะด้วยใครเขาจะมาเมตตา จึงได้แต่ออกหาประทังความหิวแอบหลบนอนในพุ่มไม้แม้จะถูกยุงกันจนตัวลายก็ต้องจำทนด้วยเพราะตนเกิดมาไม่มีเหมือนใคร และด้วยในชีวิตที่เกิดมาพูดไม่ได้จะไปร้องบอกเรียกให้ใครเขาช่วยก็คงจะทำไม่ได้ จึงได้แต่อาศัยเดินอ้อนขอบ้านเพื่ออยากจะอยู่อย่างมีสุขเหมือนกับแมวตัวอื่นๆเขา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Por Pooklook ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้หลังจากเขาได้พบน้อง ซึ่งน้องเป็นแมวจรลายสลดที่อาศัยอยู่ในแถวบริเวณป้ายรถเมล์ป้ายแรก ภจากแยกบางนาฝั่งมุ่งหน้าอุดมสุข ด้วยไม่รู้ว่ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรแต่ค่อยข้างที่จะติดคนและเชื่องกับทุกคนที่ได้ผ่านไปผ่านมา โดยในที่แรกน้องได้มุ่งตรงเข้ามาหาเธอและออดอ้อนขอบ้านลงไปกลิ้งนอนกับพื้นคาดว่าน้องน่าจะหิวด้วยส่วนหนึ่ง เพราะดูจากการเดินร้องหาตามผู้คนตลอดเวลา แต่ทว่าสิ่งที่เธอได้กลัวมากที่สุดก็คือกลัวว่าน้องจะวิ่งออกไปข้างนอกถนนเพราะด้วยบริเวณดังกล่าวนั้นมีรถสรจรไปมาอย่างมาก แถมน้องก็ยังคงอยู่ในวัยที่กำลังซุกซน ด้วยอายุน่าจะประมาณเพียงแค่ 2-3 เดือน เพศก็ไม่ทราบแน่ชัด และด้วยเธอเองก็ต้องจำใจเดินจากมาเพราะต้องไปทำงานต่อ โดยเธอเองก็ไม่สามารถที่จะเอาน้องกลับมาดูแลได้เพราะด้วยตัวเองก็นั่งรถเมล์ไปทำงานเลยไม่รู้จะช่วยน้องได้ยังไงเลยต้องปล่อยและปาดน้ำใจตัวเองแถมที่บ้านก็ยังมีแมวเยอะแล้ว จึงอยากให้น้องได้บ้านได้ที่อยู่ที่ปลอดภัย จะได้ไม่ต้องมาอาศัยบริเวณท้องถนน ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับไปก็สามารถสอบถามติดตามเพิ่มเติมได้ที่ต้นโพสต์ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Por Pooklook

กระเสือกกระสนดิ้นรนร้องเรียกหา ด้วยทว่ายังอยากจะมีลมหายใจอยู่ ด้วยน้ำมือมนุษย์ที่เป็นผู้กระทำ

เพราะชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ ทำให้หลายๆชีวิตต้องเกิดมาดิ้นรนกับสิ่งที่ตัวเองต้องพบเจอ ด้วยเป็นเพียงจรที่ไม่มีใครต้องการเมื่อยามเดือดร้อนหรือตกทุกข์ได้ยากจะไปร้องบอกใครให้เค้าช่วยก็คงจะไร้ผู้คนจะสนใจ จึงต้องยอมรับและทนอยู่กับสิ่งที่เป็นไปตามยฐากรรม เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kingkarn Siriwatpan ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่ได้พบน้องมาร้องขอความเมตตาด้วยยังอยากที่จะมีชีวิตมีลมหายมใจอยู่ต่อ ในสภาพที่ยับเยินเดินแทบจะไม่ไหวด้วยอาหารจะตกถึงท้องก็ยากลำบากเพราะเจ็บจนไร้เรี่ยวแรง ซึ่งผู้โพสต์ได้เล่าว่าน้องเดินมาร้องขอด้วยความเจ็บเนื่องจากถภูกรถไฟเฉี่ยว ได้รับบาดเจ็บทั้งเนื้อตัวจนส่งกลิ่น จะเดินไปหาใครเขาก็รังเกี้ยจดูแคลนเพราะตนที่เป็นจรจึงถูกมาองว่าไม่มีค่า จึงต้องก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตให้หลุดรอดพ้นแม้ว่าจะเจ็บเพียงใดแต่ก็ต้องอดทนเพื่อที่จะได้มีชีวิตมีลมหายใจอยู่ต่อ โดยผู้โพสต์เองยังได้ระบุพิกัดที่น้องอาศัยอยู่ไว้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย ตึกแดง เลขที่ 1 ถ.รองเมือง แขวงรองเมือง ปทุมวัน กทม.10330 และทั้งนี้เองผู้โพสต์ก็ยังได้อัพเดทด้วยว่าเธอไม่สามารถที่จะจับน้องได้เนื่องจากน้องหวาดระแวงผู้คนและไม่ให้ใครเข้าใกล้เลย ซึ่งในตอนนี้น้องได้แอบปีนขึ้นหลังขาไปแล้ว แต่ก็จะพยายามที่จะจับน้องมให้ได้จะได้นำส่งโรงพยาบาลสัตว์เพื่อที่จะส่งตัวและรักษาดูอาการก่อนที่จะต้องทนเจ็บและใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทนมากกว่านี้ ซึ่งทั้งนี้เองหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปดูแลหรืออยากจะให้ความช่วยเหลือก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kingkarn Siriwatpan