หน้าแรก บล็อก หน้า 480

สาวโวย ถามแมวชอบเล่นถุงมากแต่แฟนบอกรำคาญ เลยกะว่าจะเอาไปปล่อยที่ไหนดี

ในบางครั้งการเลี้ยงแมวก็เป็นมากกว่าที่คนไม่ได้เลี้ยงจะเข้าใจ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่สรรหามาให้เจ้าเหมียวเขาก็ไม่ต้องการแต่ทว่าการเลี้ยงพวกเขาก็เหมือนกับเราได้เลี้ยงลูก จนบางคนก็แยกไม่ออกระหว่างรักลูกหรือว่าแมว ยกตัวอย่างได้จากคนเป็นแม่ของเราเอง หากจะเอ่ยถามว่าแม่รักใครมากกว่ากันระหว่างเรากับแมว แม่นั่นก็คงจะตอบมาด้วยความรวดเร็วว่าแมว เพราะฉะนั้นอย่าได้ไปถามเป็นอันขาดเช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Auraiwan Ksm ได้โพสต์ถามเพื่อนๆในกลุ่มทาสแมวด้วยแมวของเธอนั้นชอบเล่นถุงเอามากๆ แต่ทว่าแฟนของเธอกลับบอกว่ารำคาญ เธอจึงได้มาถามเพื่อนๆในกลุ่มว่าควรจะเอาแฟนไปปล่อยที่ไหนดี ใช่แล้วฟังไม่ผิดหรอกเป็นแฟนไม่ใช่แมว นั่นคือคำตอบสำคัญที่เราไม่ควรจะมีเรื่องกับทาสแมวเพราะเราจะถูกลดความสำคัญลงมาในทีทัน ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะรู้กันแล้วว่าควรที่จะทำตัวยังไงกัน โดยเรื่องนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในกลุ่มทาสแมว 4.0 และต่างมีแต่เพื่อนๆมาแสดงความคิดเห็นเห็นด้วยกับเจ้าของโพสต์ บ้างก็ว่าวัดบ้างก็ว่าให้เอาเงินและกุญแจรถให้แล้วบอกจะไปไหนก็ไปตามสบาย เพราะสิ่งที่สำคัญมากยิ่งกว่าคือเจ้าเหมียวที่เราได้เลี้ยงและรัก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็ลงคะแนนเสียงกันว่าวัด ซึ่งทั้งนี้ก็อยากที่จะฝากเอาไว้ให้เพื่อนๆได้คิดกันว่าหากเราเป็นแฟนทาสแมวแล้วจะมีเรื่องหรือหาเรื่องอะไรก็ได้แต่ต้องไม่ใช่กับเจ้าเหมียวที่แฟนของคุณเป็นทาสจำเอาไว้ ซึ่งเรื่องนี้เองก็ได้สร้างรอยยิ้มมากมายให้กับเพื่อนๆในกลุ่มทาสแมวเป็นอย่างมาก ที่มา Auraiwan Ksm 

มาดักรอคอยเฝ้าเข้าหาริมถนนทุก 5 โมง เพียงเพื่ออยากจะได้รับสิ่งที่เคยได้มาตลอด

ในวันนี้มีแค่อยากได้ไม่ได้หมายถึงว่าเขาจะถวินหา ด้วยวันนั้นเคยรักเคยเมตตาวันนี้มาปล่อยปละละเลยไม่เคยแม้สนใจ ยอมต้องการนำมาอยากจะเลี้ยงต้องหาได้วันนี้หายไม่คิดถึงเหมือนวันไหน วันนี้เคยรักเคยมักสุดหัวใจวันนี้ใยไม่คิดเอาไปไม่เคยแยแส เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า คลินิกบ้านสีฟ้ารักษาสัตว์ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสามสีรายนี้ที่น้องเป็นแมวจรอาศัยอยู่ที่ปากซอยหมู่บ้านในซอย บางนา-ตราด27 โดยคาดว่าน้องน่าจะถูกเจ้าของเทเอาไว้หลังจากที่ย้ายออกไป น้องอาศัยหลบนอนหลบฝนตากบ้านที่ไม่มีคนอยู่ ซึ่งมีคนผ่านไปผ่านมาคอยให้อาหารบ้างแต่ก็ไม่ได้สม่าเสมอ โดยในแต่ละวันสามสีจะคอยมาดักรอคนที่ริมถนนของหมู่บ้านราว 5 โมงเย็นของทุกวัน เผื่อว่าคนที่ผ่านไปมาจะเมตตาให้อาหารประทังความหิวบ้างลูบตัวเล่นบ้าง บางทีมืดค่ำแล้วก็ยังทนอยู่แม้ยุงจะฟัด เพียงเพื่อที่จะได้รับความรักจากคนอย่างที่เคยได้มา นั้นก็คือความรักความเอาใจใส่จากผู้คนที่ผ่านไปมา เพราะสามสีนิสัยดีขี้อ้อนชอบให้คนอุ้มมากชอบคนมากๆเรียบร้อยและเจียมเนื้อเจียมตัวตลอด ไม่เคยแม้แต่จะส่งเสียงดัง เธอจึงอยากจะให้น้องได้รับชีวิตใหม่ที่ดีไม่ต้องมาทนนอนตากให้ยุ่งฟัดเช่นนี้อีก ซึ่งตัวเธอเองก็ได้ถามคุณป้าที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว และได้ทราบว่าน้องได้ทำหมันแล้วทำวัคซีนแล้วเสร็จสรรพ จึงอยากมาฝากในแฟนเพจดังกล่าวเพื่อที่จะหาบ้านให้กับน้องสามสี เพราะความน่ารักและคอยเฝ้าหาเข้าหาผู้คนของน้องคนที่นี้ก็รักและเมตตาแต่ก็อยากจะให้มีบ้านที่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ที่มา คลินิกบ้านสีฟ้ารักษาสัตว์

สาวโวย 2 ปีก่อนเป็นเพียงเด็กกล่องตาดำๆ เดี๋ยวนี้เลื่อนขั้นเป็นเจ้าของทุกอย่างแม้กระทังฝาชี

ด้วยเพราะเป็นจรจึงเห็นว่าคงทุกข์ไม่มีสุขเหมือนดังแมวพันธ์อย่างใครเขา จะไม่เลือกช่วยก็คงไม่พ้นความทุเลาจะมีใครเขามาเห็นใจเพียงเป็นจร แต่ทว่าเมื่อยามช่วยมาแล้วกลับแปลเปลี่ยนไม่เหมือนที่เคยเรียนรู้มาแต่ก่อนจากคนรักกลายเป็นคนสร้างทุกข์ให้อาทรไม่มีใครสอนเป็นเองด้วยตัวเรา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ppreaw Thng ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดที่รักของเธอหลังจากที่เมื่อสองปีก่อน เธอได้นำน้องมาเลี้ยงเอาไว้ในกล่องเพราะด้วยเห็นเป็นจรที่ไร้ที่ไปที่อาศัย แต่มาในวันนี้แมวของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยข้อความที่เธอได้เล่าเอาไว้ เมื่อได้เห็นสายตาที่นังตัวร้ายมองมาหา เธอต้องจึงได้มาถามว่าต้องไปหลบอยู่มุมไหนของบ้าน ด้วยถ้าหากว่าเป็นแบบนี้เธอคงจะต้องเก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับหลวงตาที่วัด แม้จะเห็นและอยู่ในกลุ่มมานานวันนี้ได้อัดอั้นตันใจก็ขอซักโพสต์ก็แล้วกัน เพราะในตอนมาใหม่ๆก็รักใคร่ปรองดอง แต่พออยู่ไปอยู่มาแววตาคู่นั้นก็เปลี่ยนไปไม่รู้ว่าทำไมถึงมาทำกันเช่นนี้ ด้วยจากที่เคยรักนอนกอดนอนฟัดทุกชีวิต มาวันนี้เธอเปลี่ยนไปหาแต่ฝาชีของเธอ จนเธอเองได้บอกกับเพื่อนๆในกลุ่มอีกว่าไม่ว่าจะโดนเฉดหัวออกไปจากบ้านวันไหน ด้วยแมวของเธอเฝ้าและจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลาที่เธอเข้าใกล้ฝาชีของตัวเธอเอง จนเธอเริ่มที่จะทำตัวไม่ถูกและอาจจะต้องเก็บเสื้อผ้าหอบเสื้อผ้าที่มีหนีไปบวชชีอยู่กับหลวงตาที่วัดในเร็ววัน จึงอยากจะฝากกับเพื่อนๆเอาไว้ใครที่คิดจะเลี้ยงก็ควรระวังและอบรมแมวของตัวเองให้ดีมิเช่นนั้นอาจจะต้องตกที่นั่งลำบากอย่างเช่นเดียวกับเธอเอง ที่มา Ppreaw Thng

ชอบไปตากฝนจนคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจร ชอบไปยืนเรียกร้องความสงสารหาค่าขนมชิคๆคูลๆไปวันๆ

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 แฟนเพจเฟสบุ๊ก : Captain Quint Paradise ได้เผยเรื่องราวของน้องหมาตัวหนึ่ง น้องดูเหมือนจะเป็นหมาที่พลัดหลงกับเจ้าของ ด้วยความที่เขานั้นเห็นน้องนั่งตัวเปียกอยู่จึงเกิดความสงสาร แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะช่วยเหลือน้องนักเพราะกลัวว่าน้องจะมีเจ้าของอยู่แล้ว จนกระทั่ง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า วันนี้น้องกลับมาน้่งรอที่เดิมในสภาพตัวเปียกปอน ด้วยความที่เมื่อวานผมถามพี่ รปภ. พี่เค้าบอกว่าน้องมีเจ้าของอยู่ซอยข้างๆนี้แหละ แต่ผมก็ไม่มั่นใจมากนัก วันนี้เลยเอาปลอกคอที่ร้านใส่ให้ไปก่อนพร้อมข้อความว่า ถ้ามีเจ้าของให้น้องติดต่อกลับมาด้วย ถ้าวันสองวันนี้ไม่มีคนติดต่อเข้ามา ผมจะมีสิทธิ์หาบ้านให้น้องมั้ยครับ? ฝากแนะนำหน่อยน้า เป็นห่วงน้องจริงๆ แต่เล็บก็ดูตัดมาเรียบร้อย ขนก็ดูสะอาดเลยยิ่งไม่มั่นใจเลย ถ้ารู้ว่ามีเจ้าของจริงๆก็จะได้สบายใจครับผม จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและมีชาวเน็ตรู้จักกับน้องหมาพร้อมกล่าวว่า เจ้าของน้องเขาอยู่ซอย30 ตรงข้างหลังตลาด แต่เจ้าถุงเงินชอบหนีเที่ยว ถ้าใครให้ของกิน น้องจะจำได้ แล้วจะไปหาอีก วันนี้เห็นบ้านปิดไฟ คงยังไม่กลับค่ะ และสาวชาวเน็ตท่านนี้ยังได้บอกอีกว่า เช้านี้น้องแวะมานอนที่ที่พักค่ะ น้องจะมาทุกวันเหมือนเช่นเคย เราจะซื้ออาหารเม็ดเตรียมไว้ให้กิน บางทีนางก็นอนทั้งวัน โดยตัวเธอนั้นไม่ใช่เจ้าของแต่ก้อรักน้องนะ น้องชอบมาอ้อนที่ที่พัก เห็นเป็นไม่ได้ต้องวิ่งเข้ามาหา น้องฉลาดมาก เดี๋ยวน้องก็จะกลับไปนอนบ้านเอง ชาวเน็ตหลายท่านก็รู้สึกโล่งอกโล่งใจ ที่แท้น้องนั้นเป็นหมาที่มีเจ้าของแต่ด้วยความรักสันโดษ นางจะชอบไปอยู่ที่มีผู้คนเยอะๆ ไปนอนบ้านคนอื่นบ้าง กลับไปนอนที่บ้านบ้าง แต่โดยรวมแล้วน้องมีคนที่คอยช่วยเหลืออยู่ เหล่าเราชาวคนรักหมาไม่ต้องเป็นกังวัลกันน้า ที่มา Captain Quint Paradise

แบกสังขารคลานมาขออาหารประทังความหิว ด้วยขาหลังใช้การไม่ได้ หากไม่พบเจอคงไม่รอดเกินอาทิตย์

หากวันนี้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์แต่ไม่เหลือใครสิ่งหนึ่งที่เรายังทำได้คือการร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองหรือแม้แต่ญาติพี่น้องก็ยังคอยอยู่เคียงข้างในวันที่ล้ม แต่ถ้าเกิดมาเป็นแมวจรที่ไร้แม้จะมีใครมาเหลียวแลจะหันหน้าไปร้องบอกใครหรือญาติพี่น้องก็คงจะไม่มี เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thanaporn Jiamtong ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เธอได้พบน้องกระเสือกกระสนคลานมาร้องขออาหารเพื่อที่จะประทังความหิว ด้วยขาหลังทั้งสองนั้นหักและใช้การไม่ได้จึงไร้แม้แต่วิธีที่จะหาอาหารเหมือนดังใครเขา เลยได้แต่เฝ้าร้องขอความเมตตา โดยเธอได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงยังในกลุ่มชมรมแมวสายดาร์กและเล่าว่าในครั้งแรกที่เธอนั้นได้เห็นน้องแมวตัวนี้คือน้องนั้นผอมมากๆก็แลยกะจะไปซื้ออาหารแบบในสภาพมาไว้ให้น้องเพื่อที่จะประทังชีวิต แต่พอกลับมาน้องก็หายไป ประมาณ 3-4 วันแล้ว มาวันนี้น้องขาหักต้องเดินลากขาประทังมาร้องขออาหาร เธอก็อยากจะช่วยเหลือเลี้ยงดูน้องแต่ก็ทำได้เพียงเท่านี้ จึงอยากจะฝากถามเพื่อนๆในกลุ่มคนใดพอจะรับน้องไปดูแลได้ เพราะด้วยการเป็นแมวจรที่ต้องลากแบกสังขารตัวเองเช่นนี้    อาจจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่เกินหนึ่งอาทิตย์เพราะไหนจะรถที่วิ่งผ่านไปมาไหนจะหมาหรือสุนัขเจ้าถิ่นที่เป็นจร ไหนจะคนที่ไม่ชอบแมว โดยพิกัดที่เธอได้ลงเอาไว้ที่สุรินทร์ อ.เมือง และหากเพื่อนๆคนใดอยู่ในบริเวณพื้นที่และได้พบน้องก็ช่วยกันแจ้งให้เธอทราบทีเพราะหากปล่อยเอาไว้แบบนี้ก็คงไม่รอดต้องสิ้นใจ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Thanaporn Jiamtong

ถูกเขาเทไว้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ในทุ่งนากว้างใหญ่กับเจ้าของที่ดินหน้าดุแต่กลับมีจิตใจที่ตรงกันข้าม

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kanokpon Onjunprasert ได้เผยเรื่องราวของน้องหมาคู่หนึ่ง น้องเหมือนจะเป็นหมาพี่น้องที่ถูกคนเขาเอามาเทไว้ที่ทุ่งนาอันกว้างใหญ่ และน้องก็จะชอบวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งนาแห่งนี้ จนกระทั่งทางเจ้าของทุ่งนาเขาได้มาเห็นเข้า . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า น้องหมาในภาพถูกคนใจร้ายเขาเอามาเทตั้งแต่ยังเล็กจนตอนนี้โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว ( น้องเขากลัวคนและมีหลายตัว ) เราเองเอาข้าวไปให้พวกเขาทุกวันเลย โดยแถวนี้จุดที่น้องอยู่ไม่มีหลังคาไม่มีที่ให้หลบฝนหลบแดด น้องต้องอาศัยหลบฝนหลบร้อนตามป่าตามหญ้าตามพุ่มไม้ บ่อยครั้งน้องชอบเดินลุยเดินเล่นในท้องนา ซึ่งบางทีเราเห็นก็อดใจหายไม่ได้เลย กลัวน้องเขาจะโดนทำโทษ เราก็กลัวเจ้าของที่นาเขาจะมาเห็น มีอยู่วันหนึ่งมีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าของที่นาผืนนี้ เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดุๆแต่จิตใจโคตรดีโคตรน่ารักเลย พูดคุยสนทนากันหลายเรื่องมีเรื่องหมาจรแถวนี้ด้วยแหละ เขาก็พูดขึ้นมาว่าไอ้คนเอามาเทก็รักก็เลี้ยงไม่จริง และอีกอย่างเขาก็รู้ว่าหมามันชอบเดินชอบย่ำที่นาของเขาอยู่เป็นประจำ เขาก็พูดอีกว่าถ้าเป็นที่อื่นอาจโกรธมากอาจถึงขั้นลงไม้ลงมือกันไปแล้ว แต่เขาเองกลับปล่อย เพราะมันไม่ได้เสียหายอะไรเยอะแยะ อีกทั้งมันเป็นหมามันไม่รู้เรื่องกับเขาหลอก..,ช่างมันเถอะ เราเองก็โล่งใจแทนหมาอมยิ้มเลย และขอบคุณเจ้าที่นาแทนน้องหมาด้วยนะ สังคมน่าอยู่ถ้าเรารู้จักอยู่กันแบบแบ่งปัน และเรื่องราวดีๆน่ารักๆ แบบนี้ที่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ค่ะ ที่มา Kanokpon Onjunprasert

ถูกเขาปล่อยลอยแพให้หากินตามยถากรรม หนีเตลิดไปหลายวันไม่เคยเจอโลกภายนอก ใยมาเทกันไม่เอาไปด้วย

เคยมีคนบอกเอาไว้ว่าแมวนั้นไม่สามารถร้องไห้หรือมีความรู้สึกได้เหมือนกับมนุษย์ เพราะเพียงแค่เชื่อว่าการที่เขามีน้ำตาออกมาเพียงเพราะพวกเขาแสดงความเจ็บปวดจากบริเวณท้องเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงว่าพวกเขาจะมีความรู้สึกหรือมีจิตใจเช่นเดียวกับมนุษย์เรา แต่ทว่าก็ได้มีหลายๆเรื่องราวที่เรามักจะได้เห็นว่าในความจริงแล้วพวกเขาก็มีจิตใจและความรู้สึกและจิตใต้สำนึกเหมือนกับคนเรา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใข้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ศุภมน แก้วจวนตา ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสองรายนี้มีชื่อว่าเจ้า สีทองและตาโต โดยเขาได้เล่าเรื่องราวผ่านลงกลุ่มชมรมคนรักแมวเหมียวแห่งประเทศไทย เอาไว้ว่า ถ้าช่วยไม่ได้ก็คงจะต้องนำกลับไปปล่อยไว้ที่เดิม ใครทีคิดว่าแมวไม่มีหัวใจ...น้ำตาแมวคงไม่ใช่เพราะคิดถึงเจ้าของ 2 เหมียวถูกเจ้าของย้ายบ้าน ปล่อยไว้ไม่แลเหลียว สีทองเป็นแมวเพศชายอายุประมาณ 2 ปี สีทองหนีออกจากบ้านไปเกือบปี กลับมาด้วยการต่างๆนาๆนอนซมไม่กินข้าวกินนมจนผู้โพสต์ต้องพาไปหาหมอและในวันรุ่งขึ้นเจ้าของเก่าก็ย้ายบ้านไป ตาโตเป็นเพศเมียอายุประมาณ 3 ปีเจ้าของบอกเอาไว้ว่าจะเอาไปด้วยแต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่เอาไปถูกปล่อยลอยแพให้หากินตามยถากรรม ตาโตไม่เคยได้พบเจอกับโลกภายนอกก็เลยหนีเตลิดไปหลายวัน เพิ่งจะกลับมาเมื่อวานค่ำด้วยจากการที่คงจะเสียใจที่ถูกปล่อยเอาไว้ให้อยู่เพียงลำพัง ผู้โพสต์จึงอยากจะหาบ้านให้กับเด็กๆในระบบที่ปิด เพราะพวกเขาก็บอกช้ำทางด้านจิตใจมาพอสมควรแล้วจึงอยากจะขอบ้านที่จะเป็นหลังสุดท้ายจะได้ไม่ต้องมาถูกทำร้ายจิตใจเช่นนี้อีกต่อไป และทั้งนี้ก็อยากจะฝากเอาไว้สำหรับใครที่คิดจะปล่อยพวกเขาอยากจะให้นึกถึงจิตใจที่พวกเขาจะได้พบเจอและอย่าคิดว่าพวกเขานั้นไม่มีจิตใจหรือความรู้สึกเช่นเดียวกันกับคุณ ที่มา ศุภมน แก้วจวนตา

หลงทิศหลงทางเดินเร่ร่อนใช้ชีวิตหิวโซ แอบหลบนอนใต้ท้องรถ ด้วยเนื้อตัวที่ผอมมากมั้ง

ทุกๆครั้งที่เราย้ำบอกกับเพื่อนๆไว้ ในการเลี้ยงสัตว์ในระบบปิดเพราะจากการสูญหายของสัตว์เลี้ยงมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นมาจากการที่เราได้เลี้ยงพวกเขาในระบบเปิด ทำให้มีโอกาสที่พวกเขาจะหายไปได้มากกว่า เพราะสิ่งอันตรายจากภายนอกทำให้พวกเขานั้นไม่สามารถที่จะกลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัย เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nana Hana ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวอ้วนนี้ลงในกลุ่ม ประกาศหมาแมวหายในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลังจากที่เขาได้พบน้องเดินเร่ร่อนหาอาหารประทังความหิวอยู่แถวหน้าธนาคารออมสิน วิชิต โดยน้องมีลักษณะหน้าตาหน้ารัก และตัวอ้วนกลมโดยเขาได้เห็นน้องมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นแมวใครและคาดว่าน่าจะพลัดหลงมาจากผู้เป็นเจ้าของจึงได้มาโพสต์ช่วยตามหา เพราะคาดว่าแมวจรในระแวกนั้นก็คงจะต้องอดเพราะน้องน่าจะกินเก่งด้วยดูจากลักษณะตัวของน้อง และด้วยชีวิตที่ต้องแอบนอนใต้ท้องรถเมื่อรถออกตัวก็ต้องหลบไปนอนอีกคัน ทั้งเป็นแมวที่เคยได้ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีจึงอยากในการทีจะอาหารประทังความหิวของตน แต่ด้วยลักษณะของน้องค่อนข้างจะเชื่องและไม่กลัวผู้คน แต่ผู้โพสต์ก็กลัวว่าน้องจะได้รับอันตรายจากสุนัข ด้วยตัวไม่รู้ว่าสุนัขจะสามารถทำอันตรายให้กับตนได้จึงได้นอนอย่างนิ่งนอนใจไม่ได้มีความกระวนกระวายแต่อย่างใด จึงอยากฝากเอาไว้หากใครรู้จักกับเจ้าของหรือคุ้นหน้าคุ้นตา หรืออยู่ในบริเวณดังกล่าวก็อยากจะให้ช่วยตามหาผู้เป็นเจ้าของให้น้องทีเพราะอ้วนกลมแบบนี้เจ้าของคงจะคิดถึงแย่แล้ว ที่มา Nana Hana

หอบลูกหอบหลัวมาขออาหาร อิหลัวก็นอบน้อมที่สุดไม่กล้าแม้จะเหยียบเข้าบ้านก้มหน้าก้มตาด้วยความหิว

หากมีคำโบราณได้กล่าวไว้ว่าถ้ามีภรรยาให้เชื่อฟังหรือให้ภรรยาเป็นคนจัดการจะเจริญ นั่นอาจจะเป็นเรื่องที่จริงและก็ไม่ใช่เพียงแค่กับมนุษย์แม้แต่แมวเองในบางครอบครัวก็อาจจะให้ภรรยาเป็นหัวหน้า เพราะคำที่ว่าเชื่อภรรยาแล้วจะเจริญ เช่นเดียวเจ้าเหมียวครอบครัวนี้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sunti Tiemwan ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหเมียวพ่อแม่ลูกครอบครัวนี้ หลังจากที่น้องได้หอบลูกหอบหลัวมาขออาหารกินประทังความหิว ซึ่งการมาของพวกเขานั้นก็ไม่ใช่แค่ธรรมดาเพราะเมียมาร้องขออาหารส่วนหลัวของนางก็ก้มหน้าก้มตาทำเจียมเนื้อเจียมตัว อย่างสุดๆเหมือนกับเมียสั่งเอาไว้ให้ก้มหน้าเข้าไว้เดี๋ยวมนุษย์ก็จะให้ข้าวและเมตตากับเราเอง ส่วนลูกก็เดินเล่นตามประสาเด็ก ซ้ำยังไม่กล้าแม้จะเหยียบเข้าบ้านจึงได้ก้มหน้าก้มตาประทังความหิว แต่ทว่าผู้โพสต์เองก็เป็นทาสแมวงานนี้ก็เลยเสร็จตามที่ครอบครัวนี้วางแผนการเอาไว้ เพราะในที่สุดผู้โพสต์ก็รับเด็กๆมาเลี้ยงทั้งครอบครัว จนทำให้ตกเป็นทาสแมวสมใจและไปไหนไม่ได้ แม้แต่เรื่องราวที่เราได้เขียนไปเมื่อวันก่อน ที่มีหนุ่มรายหนึ่งได้แขวนอาหารเอาไว้หน้าบ้านเพราะต้องไปธุระต่างจังหวัด 2 วันก็เป็นเจ้าเหมียวพวกนี้แหละที่เป็นต้นเหตุ โดยทั้งนี้เองก็อยากจะฝากเอาไว้ถึงความใจอ่อนของมนุษย์และเร่เหลี่ยมของพวกเจ้าเหมียว ด้วยในตอนแรกพวกเขาก็จะมาทำให้เหมือนกับว่าน่าสงสารมากที่สุดแต่เมื่อได้ยึดและเข้าบ้านมาอาศัยอยู่แล้วพวกเขาก็จะทำตัวเป็นนายของเราและเราก็จะต้องตกไปเป็นทาสของพวกเขาโดยปริยาย ที่มา Sunti Tiemwan

ลาก่อนนะเจ้าโค้ก ขนาดถนนในหมู่บ้านเขายังไม่เว้น จิตใจทำด้วยอะไรทั้งๆที่น้องไม่ได้ทำอะไรผิด

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ธัญรัต กิตติชยาภัทร ได้เผยเรื่องราวสุดเศร้าของน้องหมาที่เธอได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าตูบของเธอ ถูกรถที่ขับมายังเส้นทางหมู่บ้านขับมาด้วยความเร็วและชนน้องเข้าอย่างจัง จนน้องนอนแน่นิ่งไป แถมคนที่กระทำยังไม่คิดลงมาดูเลยแม้แต่น้อย . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า RIP นะลูกโค๊ก น้องถูกรถชนเป็นรถฟอร์จูนเนอร์ขับมาเร็วมากๆทั้งๆที่มีน้องหมา 4-5 ตัวเดินอยู่กลางถนน เป็นถนนในหมู่บ้านไม่ใช่ถนนเส้นหลักถนน 2 เลน มันไม่น่าจะขับรถเร็วขนาดนั้นเลย แถมชนแล้วหนี ไม่จอด ไม่ลงมาดู ไม่แตะเบรค มีคนเห็นว่ามันตั้งใจชน "โค๊กเป็นหมาพันธ์ไทยหลังอาน ตัวใหญ่" น้องโดนชนทีเดียวน้องนอนแน่นิ่งไปเลย ชนแรงมาก ไม่รู้คนที่ขับเขามีจิตสำนึกถึงน้องหมาบ้างไหม ถ้าเป็นเราหรือเพื่อนๆที่มีจิตใจที่รักน้องหมา คงจะต้องบีบแตรไล่ใช่ไหม หรือขับรถช้าๆเห็นน้องหมามาแต่ไกล แต่คันนี้ไม่คะ เขาขับมาเร็วมาก รถฟอร์จูนเนอร์คันนี้ไม่มีจิตใจเมตตาเลย มีคนเห็นว่าเขาตั้งใจจะเข้ามาชน สงสารน้องหมาที่ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย เจอคนจิตใจแบบนี้เข้าไป วันนี้เป็นวันแม่ เขาได้ทำบาปกับน้องหมา แม่ขอให้โค๊กไปเกิดใหม่นะลูกเอ้ย จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวขอให้น้องเกิดในภพภูมิที่ดี ส่วนตัวแอดเองก็ขอแสดงความเสียใจกับน้องหมาและผู้เป็นเจ้าของของน้องด้วยนะครับ เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ ที่มา ธัญรัต กิตติชยาภัทร