ทาสแมว

หากจะพูดบอกถึงความซื่อสัตย์ที่ตนมีคงจะหนีไม่พ้นสุนัขที่ถูกเลี้ยง เมื่อตัวถูกเขาเทถูกปล่อยให้ลำพังเพียง จะหาเคียงวิ่งตามหาผู้รักตน เมื่อได้เลี้ยงก็ได้รักมักผูกพันจึงเฝ้าถูกติดตามหาผู้เลี้ยงมา จะอยู่ไหนวิ่งสุดใจคิดด้วยความหวังลำพังเพียงเฝ้ารอคงไม่พบเจอ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า กัญติชา ศรีรอด ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าตูบที่เขาได้พบเข้าในระหว่างทาง โดยน้องวิ่งตามรถด้วยสุดแรงแม้จะเจ็บเท้ามากก็ยังทน ไม่กลัวรถกลัวคนจะเป็นอันตราย ด้วยคิดว่าหากเฝ้ารอคงไม่พบด้วยตัวหายจะหานายคนที่เดิมรักเสมอมา ด้วยน้องก็วิ่งตามรถที่ผ่านไปมาคิดว่าเป็นนายเก่า ไม่กลัวว่ารถจะชนเข้าหรือห่วงตัวแม้จะสนหาจะร้องเรียกวิ่งตามคงไม่ตามมา จะหานายคนเดิมได้ที่ใด ซึ่งทางผู้โพสต์ได้บอกเอาไว้ว่าเธอก็เห็นน้องวิ่งมาเป็นระยะทางกว่าร่วมกิโลจึงขับตามดู โดยบริเวณแยกไฟแดงธารทิพย์ ซึ่งเมื่อเธอได้ขับตามน้องไปสักระยะนึงก็พบรถเก๋งคันสีขาวมาขับตามน้องอยู่เช่นกัน จึงพยายามที่จะจอดรถและลงไปดูเพราะในระยะทางที่น้องได้วิ่งมาเป็นถนนหลายเลนส์ซึ่งก็อาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับน้องได้ ด้วยเมื่อได้ลงไปในตอนแรกก็คิดว่าเป็นผู้เป็นเจ้าของน้องได้เจอกันแล้ว แต่พอได้ลงไปสอบถามก็พบว่ารถคันสีขาวอีกคันก็มาช่วยน้องและบอกกับน้องว่าไปอยู่บ้านกับเราไหม เห็นวิ่งตามหาเจ้าของมานานแล้วซึ่งเขาก็ขับตามดูน้องมาเหมือนกับเธอ จึงเกิดความสงสารและอุ้มน้องขึ้นรถไปพร้อมกับการได้บ้านหลังใหม่ที่อบอุ่น ที่มา กัญติชา ศรีรอด https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1249936162004857&id=100009654543129

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : เก๋ ธัญญะ ได้เผยเรื่องราวหลังแมวของเธอหายตัวออกไปจากบ้าน เธอทำได้เพียงเดินตามหาลูกและร้องตะโกนไปด้วยน้ำตาหวังว่าเสียงเล็กๆที่เปร่งเสียงออกมาจะทำให้แมวของเธอได้ยิน แต่นี่ก็หลายค่ำคืนแล้วแต่เธอก็ยังไม่ย่อท้อ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า สิ่งที่แม่จะทำได้ในตอนนี้ก็คือตะโกนเรียกหนูไปกับสายลม หวังเพียงแค่เสียงของแม่คงลอยไปตามลมแล้วหนูคงจะได้ยิน แต่แม่ก็สัญญากับตัวเองไว้แล้วแหละ ต่อให้แม่ต้องเดินไปไกลสักแค่ไหนก็ตาม อีก10หรือ20กิโล ถ้ามันไปถึงขนาดนั้นแล้วเจอหนูแม่ก็จะเดินไป แม่จะเดินตามหาหนูจนกว่าแม่จะเหนื่อย หรือจนกว่าขาแม่จะไร้เรี่ยวแรงหรือจะให้แม่ตามหาจนเหนื่อยแล้ว หนูจะนอนสิ้นใจตรงไหนก็ได้ แม่ไม่อยากมานั่งพิมพ์ไปร้องไห้ไปเหมือนตอนนี้ ตลอดเวลาที่เลี้ยงหนูมาแม่ไม่เคยเห็นว่าหนูเป็นสัตว์เลี้ยง แต่แม่เห็นหนูเป็นลูกแม่คนนึง เป็นลูกที่แม่ป้อนนมมาตั้งแต่ตัวเท่าฝ่ามือ อย่าได้จากแม่ไปไหนเลยนะลูก กลับมาบ้านเราเถอะ ทุกคนที่บ้านเป็นห่วงหนูมากๆ ข้างนอกมันอันตรายมากนะไหนจะคนใจร้ายก็เยอะ กลับมานอนให้แม่กอดเถอะไข่ต้มลูกแม่ แล้วพรุ่งนี้แม่จะเอาแรงเอากำลังใจที่ไหนไปทำงานล่ะ เพราะเธอตามหาลูกของเธอทุกวัน ตกกลางคืนก็นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงลูก ไหนจะตอนกลางวันก็ต้องทำงาน พอวันหยุดก็ไม่ได้พักต้องเดินร้องตามหาลูกอยู่ตลอด เราได้แต่หวังว่าเธอจะพบลูกของเธอในเร็ววัน พิกัด คลอง6ธัญบุรี ที่มา เก๋ ธัญญะ

ในความรักของการได้เลี้ยงสัตว์ซึ่งผู้สู้งอายุส่วนใหญ่ที่เขาบอกเอาไว้ว่าไม่อยากที่จะเลี้ยง เพราะสิ่งหนึ่งที่พวกเขาหรือคนที่ได้เลี้ยงจะต้องแบกรับนั้นคือการจากลา เมื่อวันที่จะต้องจากกันไปไกลแสนไกล จึงไม่อยากแม้จะได้ความสุขหรือความรักในระหว่างที่เอ็นดู เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ทราย'ต่อ สอง คนพออ. ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวของเธอลงยังกลุ่มคนเลี้ยงแมว เมื่อก่อนเธอนั้นกอดน้องเอาไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับลูบทั้งตัวทั้งหัวน้ำตาไหลนองหน้าเมื่อต้องจากลากันไปไกลแสนไกลไม่มีวันกลับมาแม่ขอลาลูกรักสุดดวงใจ พร้อมกับบอกไปเถอะนะคนดีแม่ขอโทษไปเกินเป็นมนุษย์เป็นคนบนพ้นทุกข์ และน้องก็เสียไปด้วยในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ด้วยน้องนั้นเสียจากอาการน้ำท่วมปอด ต้องหายใจทางปากตลอด เธอจึงพาน้องไปหาหมอตั้งแต่น้องยังหายใจไม่ปกติ ต้องใช้ช่วงท้องช่วยหายใจด้วย ซึ่งคลีนิกไม่ใช่โรงพยาบาลใหญ่ใกล้บ้าน เพราะไม่มีกำลังทรัพย์หมอจึงบอกว่าอาหารแบบนี้เกิดจากน้ำท่วมปอด เค้าก็ฉีดยาให้กับน้อง 3 เข็มพร้อมกับให้น้ำเกลือช่วยลดน้ำในปอดแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ให้ยามาป้อมด้วยได้แค่ 3 วันหลังจากนั้นถึงเมื่อคืนน้องก็มทีอาการอ่อนแรงเดินไม่ไหว ถึงขนาดนั่งฉี่ตรงที่น้องนั่งแล้วพักใหญ่ก็หายใจไม่ออกไปอย่างหนักจนขาดใจต่อหน้าเธอ โอ๋ลูกน้อยหายทรมารแล้วไปอยู่ดาวแมวขอให้ชาติหน้ากลับมาเกิดเป็นลูกคน จึงอยากฝากเอาไว้ว่าถ้าพบอาการของแมวตัวเองผิดแปลกไปก็อย่าไว้ใจคิดว่าไม่เป็นไรเดียวหายเอง ที่มา ทราย'ต่อ สอง คนพออ. 

ในมนุษย์แม้ไร้หนทางจะเดินต่อก็ยังมีพ่อแม่คอยเป็นห่วง แม้ไร้ที่พึ่งพิงก็ยังมีพี่มีน้องมีญาติคอยห่วงใย แต่ถ้าหากเกิดมาเป็นสัตว์จรไร้ที่อยู่อาศัยจะทำเยี่ยงไรหากไร้ใครจะช่วยเหลือ ได้แต่นอนกกกันเอาไว้จนตัวสั่น ด้วยตัวนั้นก็กลัวแสนจะกลัวแต่ก็ปกป้องกอดเอาไว้ร้องไห้แม้เสียใจหนัก ที่ตัวทำได้เพียงแค่นี้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า P Pheraphon NoriNkym ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวลงยังโลกออนไลน์เมื่อเขาได้พบน้องนอนกอดพี่เอาไว้ข้างกายแน่น เมื่อพี่ถูกสุนัขงับเข้าให้ที่คอจนเจ็บหนัก นอนนิ่งไร้แม้เรี่ยวแรงจะหนี ตัวรอดได้พี่ถูกฟัดนอนแน่นิ่ง จึงเข้ามากอดเอาไว้ให้กำลังใจด้วยกลัวเสียพี่ไปเพราะพี่เป็นคนสุดท้ายที่เหลือกันอยู่และใช้ชีวิตเพียงลำพังด้วยเป็นจร โดยผู้โพสต์เองก็ได้เล่าว่าเขาได้มาพบเข้าซึ่งน้องมาอาการบวมที่หน้าและบาดเจ็บที่คอ เขาจึงได้พาน้องไปหาหมอและหมอก็ได้บอกว่าน้องอาจจะมีปัญหาที่ระบบประสาท เพราะถูกสุนัขงับเข้าให้ที่คอจนไม่สามารถที่จะลุกขึ้นยืนหรือเดินต่อไปได้ ซึ่งค่ารักษาก็ไม่ได้แพงมากนักแต่ด้วยกำลังทรัพย์ของเขาก็ไม่มีเพียงพอ จึงอยากหาคนช่วยเหลือหรือรับน้องไปดูแลและไม่อยากจะให้แยกพี่กับน้องเขาไปจากกัน โดยทั้งนี้เองคลีนิคที่ตั้งที่เขาได้พาน้องไปนั้นชื่อ คลีนิคช่อผกา เชียงคำ พะเยาชื่อน้องที่เขาได้ตั้งให้น้องในตอนนี้คือชื่อว่า ตังๆ ส่วนผู้โพสต์นั้นชื่อจิรายุส ซึ่งสามารถสอบถามทางคลีนิคก่อนได้ในส่วนของเรื่องรายละเอียดของการรักษา และหากว่าเพื่อนๆคนไหนอยากจะรับก็ติดต่อไปได้เลย ที่มา P Pheraphon NoriNkym

ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสิ่งนึงที่เราจะได้นอกจากความรักและความสุขคือการเสียใจ เมื่อวันใดต้องจำจากลาไปไม่มีวันกลับ จะหวนคืนเหลียวหลังก็ทั้งสายน้ำตาไหลร้องไห้เสียใจเมื่อจากกัน แต่ทว่าสิ่งนึงที่เราควรที่จะมีคือการเตรียมความพร้อมเมื่อถ้าอยู่บ้านไม่เดือดร้อนก็เลี้ยงได้แต่ถ้าเช่าอยู่ก็ควรจะเผื่อใจ หากวันใดเขาไม่ให้เช่าไม่ให้เลี้ยงก็เลิกลา แต่สิ่งนึงอยากให้คำนึงคือจิตใจพวกเขาเพราะก็เหมือนเราที่ร้องไห้เสียใจได้เช่นกัน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Puii Panisara ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เป็นแมวของเพื่อนของเธอหลังจากที่เพื่อนของเธอมีความจำเป็นเรื่องที่พักอาศัยและไม่สามารถที่จะเลี้ยงน้องต่อไปได้ ด้วยน้องแมวมีอายุประมาณ 3 ปีซึ่งทางที่พักให้นำน้องออกภายในวันพรุ่งนี้ แต่เพื่อนของเธอเองก็บอกว่าพ่อแฟนจะนำแมวไปและจัดการให้ แต่ก็ไม่รู้เลยว่าแมวจะไปอยู่อย่างไรเลี้ยงอย่างไรตอนนี้ไม่มีคำตอบ ซึ่งเพื่อนของเธอก็เครียดและเสียใจมากเพราะเธอก็เลี้ยงพวกน้องๆมาด้วยความรักและผูกพัน อีกทั้งก็ยังเป็นสุดดวงใจเหมือนดั่งแก้วตา จะให้มาหาบ้านให้คนอื่นเขาก็ยากจะทำใจได้ลง เธอจึงพยายามที่จะหาทางออกด้วยการหาบ้านในระบบปิดให้กับน้องทั้งน้ำตาแม้ว่าจะไม่อยากที่จะจากกันเลยแม้แต่น้อยก็ตาม ซึ่งภายหลังจากที่ได้มาโพสต์เพื่อหาบ้านให้กับเด็กๆ เธอก็ได้มาอัพเดทเพิ่มเติมว่าในตอนนี้ได้วิธีแก้ปัญหาหรือทางออกแล้วก็ด้วยพ่อแฟนของเธอจะเป็นคนนำน้องไปเลี้ยงและน้องสาวของแฟนก็จะเป็นคนนำไปดูแลเอง ด้วยอย่างน้อยเธอเองก็ยังมีโอกาสที่จะได้พบเจอกับน้องและยังได้ไปหามาหาอยู่เป็นประจำบ้าน ซึ่งมันก็คงจะเป็นทางออกทีดีที่สุดสำหรับตัวเธอและเจ้าเหมียวทั้งคู่เอง เหล่าทาสแมวก็โล่งอกที่ทางออกทางออกนี้คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ที่มา Puii Panisara

หากทุกครั้งที่เราย้ำบอกว่าการเลี้ยงน้องแมวในระบบปิด นั้นส่งผลให้พวกเขาได้อยู่อย่างปลอดภัยแต่เมื่อไหร่ที่เราหละหลวมและพวกเขาได้หลุดออกมา จะทำให้พวกเขานั้นอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เมื่อตัวเป็นแมวพันธ์ที่ถูกเลี้ยงด้วยรักอยู่แต่ในบ้านวันนี้ต้องออกมาเผชิญต่อโลกกว้างใบใหญ่ ทั้งอันตรายไหนจะหมาก็ต้องทนไปร้องหาใครให้ช่วยก็ไร้ไม่มี เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Siriwan Saelee ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวลงในโลกออนไลน์ด้วยตัวน้องหลุดมาเป็นแมวพันธ์เปอร์เซียทั้งเชือก ทั้งถูกเขารุมจนเกือบไม่รอด แต่ก็ยังเฝ้าเดินออกตามหาเจ้าของไม่รู้อยู่หนไหน ด้วยตัวเขาก็ได้พบน้องเข้าจึงรีบเข้าช่วยเหลือเอาไว้ทันดีไม่งั้นอาจจะถูกฟัดไม่เหลือแน่ โดยผู้โพสต์ก็ได้ระบุพิกัดที่น้องได้อยู่เอาไว้ที่ หมู่บ้านวงทองเลคได์ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยเพื่อนๆก็ได้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นแมวของคนในหมู่บ้านแต่น่าจะพลัดหลุดออกมา แต่ทว่าในตอนนี้ก็ยังไม่ได้พบเจอเจ้าของแต่อย่างใด จึงอยากฝากเอาไว้ใครพอรู้จักก็ช่วยติดต่อเจ้าของน้องที เพราะน้องน่าจะคิดถึงผู้เป็นเจ้าของแย่แล้ว อีกทั้งตัวก็ยังเจ็บแถมตื่นตระหนกด้วยกลัวเพราะถูกเขารุมฟัด จะร้องเรียกหาเจ้าของเหมือนที่เคยทำก็ไร้ซึ่งเงาเจ้าของที่เคยแล โดยเพื่อนๆในโลกออนไลน์เองก็ได้เข้ามาถามว่าในตอนนี้ได้พาน้องไปหาหมอแล้วหรือยังซึ่งก็ยังไม่มีการอัพเดทเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่ก็มีคนช่วยกันหาเจ้าของในน้องโดยมีผู้โพสต์ได้บอกว่า ได้ไปถามทั้งซอย 7-8 หลังที่เลี้ยงแมวก็ไม่มีใครเคยเห็นน้องตัวนี้หรือเป็นเจ้าของพรุ่งนี้จึงจะออกไปตามหาใหม่ ที่มา Siriwan Saelee

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nutthawut Kunsuntorn ได้เผยเรื่องราวของหนุ่มเจ้าของสวนทุเรียนกับแก๊งลูกแมวที่จู่ๆก็โผล่เข้ามาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว โดยแถวนั้นก็เป็นสวนทุเรียนที่ไม่เคยมีแมวมาอาศัยมาก่อน จนกระทั่งก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับเขา . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังนะครับ คือที่บ้านของผมทำสวนทุเรียน แล้วบ้านแต่ละหลังห่างกันเป็นกิโลๆเลย ในระยะทางเกือบ 3 กิโลไม่มีใครเขาเลี้ยงแมวเลยสักคน จนเมื่อสองเดือนที่แล้วจู่ๆก็เกิดมีเหตุการณ์สุนัขที่บ้านไล่ฟัดแมวจนแมวต้องวิ่งขึ้นต้นทุเรียน ผมก็งงว่ามานางจากไหนตอนแรกก็ไปถามบ้านที่อยู่ในระแวกกันเขาก็ไม่ได้เลี้ยง ต่อมาก็มารื้อของกินในบ้านกลางสวนตอนดึก บ้านกลางสวนช่วงดึกจะไม่มีใครแถวนี้อยู่ เป็นแบบนี้ประมาณ 2-3 วันแล้ว แม่ผมเลยนำข้าวไปวางไว้ให้ พอเช้ามาข้าวถูกกินจนหมด นำข้าววางไว้แบบนี้อยู่เป็นอาทิตย์ๆก็ถูกกินจนหมด แต่ไม่เคยเจอตัวแมวเลย ตั้งแต่ที่สุนัขไล่คราวก่อน พอผ่านมาซักระยะผมก็เจอตัวแมวแล้วครับ นางแอบอยู่ในป่า(พอดีมีที่ดินที่ยังเป็นป่ารกอยู่ประมาณ 4 ไร่ได้) ซึ่งผมคาดว่าแมวน่าจะอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ได้ซักพักแล้ว มีอยู่คืนนึงผมออกมาเข้าสวนทุเรียนตอนตี 3 ซึ่งผมจะเข้าสวนตี 3 ในทุกๆคืน แต่คืนนี้เราเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดเจอแมวฟัดกระต่าย ผมก็รีบจอดรถลงไปไล่แมวแต่ก็ช่วยเจ้ากระต่ายไม่ทัน กระต่ายสิ้นใจคามือของผมเลย ต่อมาอีกไม่กี่วันก็เจอเหตุการณ์ ที่ยิ่งกว่าไม่คาดฝันอีกแล้วจ้า คือบ้านกลางสวนอยู่ๆก็มีลูกแมว ลูกแมวในตะกร้าที่ไว้ใส่ทุเรียนช่วงเก็บเกี่ยวนั่นแหละจำนวน 4 ตัว ตอนแรกผมตกใจมากมาย คือที่บ้านก็ชอบเลี้ยงสัตว์นะครับ ชอบแมว แต่ไม่ค่อยชอบเลี้ยงแมวสักเท่าไหร่ ตอนแรกก็คิดหนักกันมากจะทำยังไงดี จะเอาไปเทดีไหม หาคนเลี้ยงดีไหม คิดหาวิธีอยู่หลายวันเลยครับ ทุกเช้าจะมาเจอลูกแมวในตะกร้าแต่ไม่เจอแม่มันสักที เช้าวันถัดมาจู่ๆลูกแมวทั้งหมดก็หายไป หายไปเลย ทีนี้แหละดีใจมากจ้า มันหายไปแล้วไม่ต้องเลี้ยงแล้ววววว วันต่อมาเกิดอาการคิดมันจะอยู่ไหนอยู่ยังไง กินอะไร ถ้ามันอยู่ในป่า งูจะทำอะไรลูกมันไหมสุดท้ายออกตามหาจนทั่วสวนหาทุกซอกทุกมุมที่มี ในสวนทุเรียนประมาณ 30...

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Jane Mavi ได้เผยเรื่องราวของน้องเฮงๆ หลายคนอาจสงสัยน้องเฮงๆคือใคร แต่พอได้เห็นรูปน้องเท่านั้นแหละใครหลายคนเห็นเป็นต้องร้องอ๋อ...เพราะน้องเฮงๆก็คือลูกมวจรตัวน้อยที่ไปแอบนอนที่กอกล้วย จนมีผู้คนนับหมื่นเพื่อขอรับไปเลี้ยง . และล่าสุดเปิดเผยแล้ว จากทางเจ้าของใหม่ของน้องที่ต้องแย่งชิงกับคนเป็นหมื่นเพราะล่าสุดของล่าสุดอีกทีน้องเฮงๆแมวกอกล้วยมีแฟนเพจแล้ว โดยเพจของน้องมีชื่อว่า ไอ่ต้าวอ้วน โดยเพจๆนี้เพิ่งเปิดมาได้ไม่กี่ชั่วโมงแต่มีเหล่าทาสแมวต่างเข้าไปกดติดตามชีวิตของน้องแล้ว เพราะด้วยความน่ารักที่สุดจะบรรยายและสีลายบนตัวของน้อง ที่ทำเอาเหล่าทาสแมวตกหลุมรักแทบถอนตัวไม่ขึ้น และเราต้องมาติดตามชีวิตของน้องกันต่อไป เพราะอะไรกันทำไมผู้คนถึงหลงรักเฮงๆได้ถึงขนาดนี้ คุณเองก็อย่าลืมไปติดตามน้องเฮงๆได้นะที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/massi.argentina.7/videos/pcb.2781977675236793/2781977248570169 ส่วนในเรื่องของการเลี้ยงดูทางเจ้าของคนใหม่เขาได้บอกว่าน้องเลี้ยงง่ายมาก ไม่งอแงเลยแถมยังน่ารักน่าฟัดสุดๆ ส่วนในเรื่องของตัวแม่แมวของน้อง เดี๋ยวทางเจ้าของต้นโพสต์เขาจะนัดสถานที่เพื่อรับแม่แมวของเจ้าเฮงๆต่อไป ทั้งคู่ไม่ได้ถูกพรากจากกันนะ ทั้งแม่ทั้งลูกจะได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นจนกว่าชีวิตนี้สิ้นจากกันไป ที่มา ไอ่ต้าวอ้วน

ด้วยความซื่อสัตย์ที่ตนมีแค่ได้ทำดีด้วยเพียงเล็กน้อย ก็เลือกจะตอบแทบคุณด้วยสุดตัวจะทำได้ แม้ไม่คิดว่าตัวจะวิ่งจนเจ็บเท้าแต่ในเมื่อเขาดีกับตนคงจะหาคนมาดูแลแทนไม่ได้ หากในสมัยก่อนอาจจะมีคนเคยได้พูดหรือบอกเอาไว้ว่าทำดีกับสุนัขเพียงหนึ่งครั้งหรือแม้แค่ให้ข้าวให้น้ำ พวกเขาก็จะจดจำเราได้ไปตลอดชีวิตและนั้นก็คงจะเป็นเรื่องที่จริงเมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า รัตนา มูสิกา ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าตูบสามรายนี้ลงในกลุ่มรักหมา หลังจากที่เธอนั้นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีจึงได้มาขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆ เมื่อตัวได้ให้ข้าวให้น้ำน้องๆอยู่เป็นประจำ จนน้องอยากที่จะมาอยู่ด้วย แต่เธอเองก็ไม่สะดวกในเรื่องของสถานที่ แต่ก็รักพวกเด็กๆมากๆโดยในทุกๆวันเธอก็จะต้องทนกับการที่ได้เห็นภาพพวกน้องๆวิ่งตามรถจนสุดแรงที่มี แม้ขาจะต้องเจ็บจนเธอต้องเลือกที่จะขับหนีและปาดน้ำตา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหาวิธีไหนจะให้คนอื่นก็ดันรักหมดหัวใจ เลยไม่รู้จะทำไงกันดี แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากจะให้มีที่หลบแดดฝนไม่อยากให้ต้องทนเฝ้ารอคอยทุกวันเช่นนี้ รักก็รักไม่ใช่ไม่ใยดีจะให้มีบ้านอยู่แสนสุขก็ต้องจากกัน มาให้ข้าวให้น้ำปาดน้ำตาแทบทุกวันเมื่อต้องทนเห็นกันวิ่งตามรถไม่ยอมถอยอนาถใจ แต่ก็ยังเลือกไม่ได้ว่าจะให้ใครเพราะใจก็รัก แต่ก็จะมาเห็นแก่ตัวหนักเพราะรักพวกหนูก็ทำไม่ได้ จึงต้องทนทำใจแม้จากกันไปก็ตามแต่ เธอจึงได้มาขอคำปรึกษาอย่างที่ได้ว่าลงในกลุ่ม เพื่อหากใครพอจะมีบ้านหรือพื้นที่เธอก็ต้องยอมที่จะปาดน้ำตาไหล และหากใครสนใจก็ลองติดต่อเธอไปได้เลย ที่มา รัตนา มูสิกา และชมคลิปที่ต้นโพสต์

หากเราจะคิดว่าพวกเขานั้นไม่มีความรู้สึกและถ้ายิ่งเป็นแมวแล้วก็คงจะผิด เพราะหากถ้าได้เลี้ยงหรือสัมผัสอย่างใกล้ชิดก็จะรู้ว่าพวกเขามีจิตใจที่อ่อนโยนทั้งบริสุทธิ์มากแค่ไหน แต่ด้วยตัวที่พูดออกมาไม่ได้จึงคิดว่าไร้ไม่สนใจหรือต้องจองทน ด้วยวันนี้ยามตกยากชีวิตลำบากก็พร้อมสู้ทน จะให้ไม่รู้ใจคนในเมื่อเติบใหญ่มาด้วยกัน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pa S. Wanlapa ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ลงในโลกออนไลน์ หลังจากที่เมื่อคืนได้เกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ที่เธอนั้นรับผิดชอบ เช้าเธอจึงได้รีบไปที่เกิดเหตุพบภาพที่น่าสงสารใจ บ้านและทรัพย์สินถูกไฟไหม้จนหมด รวมทั้งน้องหมาอีกสามตัวที่หนีออกมาไม่ทันต้องสินชีวี ซึ่งในขณะที่เธอได้กำลังสอบถามรายละเอียด เหตุการณ์ที่เกิดกับเจ้าของบ้าน และบันทึกความเสียหายเพื่อทำรายงานเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ เธอก็ได้มองไปเห็นแมวตัวนึงนอนนิ่งทำหน้าเศร้าสภาพมอมแมมจากแมวสีขาวเป็นสีเทา ซึ่งทางเจ้าของบ้านก็เล่าว่าน้องเหมียวหนีออกมาจากกองไฟได้จึงรอดชีวิต พอเดินเข้าไปหาถามเหมียวเป็นไงบ้าง เหมียวก็เงยหน้าขึ้นมองร้องดเมี๊ยวเสียงแผ่วเบา ทำตาเศร้าๆคงอยากที่จะเล่าให้ฟังว่าบ้านเหมียวไฟไหม้หมดเลย ร่วมทั้งเพื่อนของเหมียวก็สิ้นใจไปด้วย ถามว่าเหมียวหิวไหมร้องเมี๊ยวตอบเบาๆ เลยรีบเดินออกไปซื้ออาหารแมวให้ที่เซเว่นแถวนั้นกับจานพลาสติก มาเทอาหารให้น้อง เหมียวรีบกินคงจะหิวมากและเพิ่งรู้ว่ามีลูกหมาอีกหนึ่งตัวที่รอดจากกองไฟ เลยให้กินอาหารแมวด้วยกันไปก่อน ซึ่งตอนเย็นเลิกงานเธอก็แวะเอาของไปให้ถามหาแมวเหมียวก็รีบวิ่งออกมาสภาพมอมแมมเหมือนเดิม เขาก็มีหนึ่งชีวิตเหมือนกับเราถ้าเขาพูดได้บอกเราได้เขาก็คงจะเสียใจไม่น้อยกว่าเราที่ต้องเสียทั้งบ้านเสียทั้งเพื่อนคนในครอบครัวของเขาไป จึงอยากฝากเอาไว้จะทำอะไรก็อยากที่จะให้นึกถึงจิตใจของพวกเขาด้วย ที่มา Pa S. Wanlapa