หน้าแรก บล็อก หน้า 433

ส่งเสียงร้องดังสนั่นจนต้องรีบวิ่งออกมาดู พบแมวคลานไปกับพื้นพร้อมส่งสายตาเศร้ากับชีวิตที่สิ้นหวังไร้คนช่วย

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : วชิรา เลียบทวี ได้เผยเรื่องราวแมวตัวแรกในชีวิต โดยเขานั้นได้พบเจอน้องแมวลายสลิดตนนี้เข้าด้วยสภาพที่ตัวน้องนั้นกำลังคลานไปกับพื้น เขาจึงตัดสินใจพาน้องไปรักษาเพราะถ้าไม่ช่วยไว้น้องคงไม่รอดแน่ๆ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวตัวแรกในชีวิตของผม วันนี้ก็ครบรอบ3ปีแล้วที่ผมได้เจอน้องเลม่อน ย้อนไปเมื่อ3ปีก่อน ผมทำงานที่เต้นท์ขายรถมือสองแห่งหนึ่งย่านเกษตรตัดใหม่ ผมได้พบเจอแมวลายสลิดตัวนึงวิ่งอยู่ในเต้นท์อยู่หลายวันแล้ว จนมาวันนึงผมได้ยินเสียงแมวร้องดังลั่นออกมา เห็นน้องนอนอยู่จึงนึกว่าน้องคงหิว เราเอาอาหารเปียกไปให้น้องกิน แต่น้องกลับไม่กินจนสังเกตว่าน้องนอนไม่ปกติ แล้วพยามลากขาไปกับพื้นแล้วก็ส่งเสียงร้องดังออกมา ผมสังเกตขาหลังของน้องผิดปกติ จึงนำใส่ลังที่สำหรับใส่แบตเตอรี่รถยนต์ แล้วพาน้องไปโรงพยาบาลสัตว์เกษตรที่อยู่ใกล้ๆ พอนำน้องไปถึงโรงบาลเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าแมวชื่ออะไร เอาหล่ะสิ ก็เลยนึกชื่อไปว่าเลม่อนก็แล้วกัน หมอเอกซเรย์ออกมาปรากฎว่า ขาหลังน้องหักทั้ง2ข้างคาดว่าเจ้าหน้าที่ในเต้นท์คงจะถอยรถไปโดนเข้า ถามเรื่องรักษาหมอบอกประมาณ 12,000 บาท ตอนนั้นผมพอมีเงินอยู่บ้างก็เลย นัดหมอไปว่าพรุ่งนี้จะนำน้องมาผ่าแต่เช้า โดนค่าต่างๆกับค่าเอกซเรย์ ไปเบื้องต้นเกือบพันบาท ผมนำเรื่องของน้องไปลงในโลกออนไลน์ ส่วนตัว ผลปรากฏว่า มีเพื่อนเริ่มทยอยช่วยในค่ารักษาจนครบจำนวน พอวันรุ่งขึ้นผมแวะซื้อตะกร้าใส่แมวจากเงินที่เพื่อนช่วยกัน ผมก็พาน้องมายังโรงพยาบาลสัตว์เกษตร และหลังจากที่ผ่าเสร็จ น้องก็รู้สึกตัว คิดว่ายาที่ใช้อย่างดีเลยนะเพราะน้องตื่นขึ้นมาไม่มีอาการใดๆเลย ผมคิดแต่เพียงว่าถ้าน้องหายดีถึงจะเดินกระเผลกใช้ชีวิตได้ดีกว่าเดิม ก็พอใจแล้วครับ แล้วจะนำไปให้เพื่อนๆ ที่บ้านเขาเลี้ยงแมว เลี้ยงดูต่อไป แต่ผลปรากฏว่าที่บ้านเขาไม่เอาเลยครับ เพราะที่บ้านมีแมวหลายตัวอยู่แล้ว สุดท้ายผมก็เลยต้องนำแมวมาเลี้ยงเองจนถึงปัจจุบันน้องเดินได้ปกติวิ่งได้ ฉลาด เหาะเหินเดินอากาศได้ ขอบคุณที่ทำให้เราได้เจอกันนะถ้าไม่มีวันนั้นก็จะไม่มีเขาในวันนี้จ้า ที่มา วชิรา เลียบทวี

แอบมานอนหลังบ้านตั้งแต่บ่ายถึงเย็น ไม่ยอมลุกไม่ยอมขยับไปไหนเหมือนต้องการให้ช่วยชีวิต

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Saowalak Yotket ได้เผยเรื่องหลังเธอนั้นได้พบเจอกับลูกแมวจรตัวน้อย ลูกแมวจรตัวนี้มานอนแอบอาศัยอยู่ที่หลังบ้านของเธอตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น และน้องไม่ยอมลุกไปไหนด้วยสภาพที่ใครเห็นต่างก็เบือนหน้าหนี โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มีลูกแมวจรมาแอบนอนอยู่หลังบ้าน ตั้งแต่บ่ายโมงแล้วค่ะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว น้องก็ยังไม่ยอมลุกไปไหนมาไหนเลย เราอยากช่วยน้องควรทำอย่างไรบ้างคะ เราต้องเอาไปหาหมอเลยไหม ต้องทำอะไรเป็นอย่างแรกคะ แถมที่บ้านก็มีเด็กขวบกว่าด้วย เราอยากช่วยน้องมากแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงก่อนดี งบในการพาน้องไปหาหมอก็มีไม่เยอะด้วย ในเบื้องต้นนี้เราได้เอาผ้าให้น้องกับเอาน้ำกับนมให้น้องกิน แต่น้องไม่กินเลยค่ะ ขอเอาตัวเล็กที่บ้านนอนก่อนนะคะ แล้วเราจะรีบพาน้องไปหาหมอเลยค่ะ ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น หลายท่านก็พร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยพาน้องไปหาหมอก่อน ส่วนในเรื่องของค่าใช้จ่ายชาวเน็ตจะช่วยกันระดมให้ นี่แหละหนาน้ำใจของเหล่าทาสแมว ยังไงแล้วแอดก็ขอให้น้องถึงมือหมอให้เร็วที่สุดและขอให้น้องหายดีในเร็ววันนะ ที่มา Saowalak Yotket

ไม่ยอมกินข้าวกินแต่น้ำประทังหิว หลังรอคอยใครสักคนอยู่บนสะพานลอยจนตัวผอมแห้งไร้ใครจะเหลียวแล

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : หมี สุดารัตน์ ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับแมวจรตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวจรอาศัยหลับนอนอยู่บนสะพานลอย และเธอก็เห็นน้องอยู่อย่างนี้ไม่ยอมไปไหน พอซื้ออาหารให้กินกลับไม่ยอมกินได้แต่กินน้ำประทัวหิวเพราะน้องน่าจะป่วย . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เห็นน้องแมวตัวนี้อยู่บนสะพานลอยมาประมาณ3วันแล้วค่ะ เราซื้อตับให้ก็ไม่ยอมกิน (โดยปกติแล้วแมวน่าจะชอบนะ) พออีกวันซื้ออาหารให้กินก็ไม่ยอมกิน น้องกินแค่น้ำเปล่าประทังหิวเพียงเท่านั้น ตัวก็ผอมมากๆ แต่น้องไม่ยอมกินอะไรเลยนอกจากน้ำ ใครสามารถรับน้องไปเลี้ยงได้จะเป็นบุญแก่น้องมากๆเลยค่ะ น้องไม่ดุ น้องเชื่องมาก น่ารัก แต่ผอมไปหน่อยค่ะคงไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว น้องอยู่มอแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ สะพานลอยโซนเหลืองค่ะ หากท่าใดสนใจสามารถติดต่อมาได้เลยนะคะ หรือจะแวะมาให้ข้าวให้น้ำน้องก็ยังดีค่ะ หลังเธอโพสต์เรื่องราวลงไปในโลกออนไลน์ สักพักเธอก็กลับมาหาน้องที่สะพานลอยอีกครั้งพร้อมกล่องลังทำเป็นบ้านให้ พร้อมอาหารเม็ดกองใหญ่ แต่ ณ ตอนนี้เธอเองก็ยังไม่พบเจอเลยว่าตอนนี้น้องอยู่ที่ไหนเธอช่วยได้เท่าที่ช่วยแล้วจริงๆ หากท่านใดพบเจอแถวๆมอแม่โจ้ก็อย่าลืมช่วยเหลือน้องด้วยนะ ฝากไว้ด้วยเนอะชาวเจียงใหม่ ที่มา หมี สุดารัตน์

โมโหจนหูร้อนหลังแมวสุดที่รักถูกหนังยางรัดขาจนบวมเป่ง โดยฝีมือลูกหัวแก้วหัวแหวนภายในบ้านของตัวเอง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ชัชชญา ขยันการ ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอได้เลี้ยงเอาไว้ โดยแมวของเธอถูกหนังยางมารัดขาจนบวมเป่ง ฝีมือก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกนะ นั่นก็คือลูกของตัวเธอเองที่ทำไปโดยไม่ได้คิดให้ดีก่อน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า โมโหจนหูร้อนกันเลยทีเดียว ลูกเราเอาหนังยางมารัดขาน้องแมวที่เลี้ยงเอาไว้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เลย เราเพึ่งจะเห็นว่าขาน้องบวม เราไม่ทันได้สังเกตเห็นยางเพราะขนแมวมันบัง ณ ตอนนี้ตีนบวมมากใจเต้นรัวๆเลย เราควรเอาลูกไปปล่อยวัดเลยใช่ไหม จนเธอนั้นรู้สึกโมโหลูกของเธอเป็นอย่างมาก แต่ที่บอกจะเอาไปเทไว้ที่วัดอันนี้เธอแค่ประชดนะ แต่ขาน้องก็บวมจริงๆนั่นแหละหนา ถ้าหากมาเห็นช้ากว่านี้คงไม่ดีแน่ๆ แต่ของแบบนี้ก็ต้องสอนกันแหละเนอะ เธอเองก็คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก หากบ้านไหนเลี้ยงลูกที่ยังเล็กๆเราก็ควรสอดส่องดูแลทั้งคนทั้งแมวเนอะ ยิ่งหนังยางตัวดีถ้าเก็บได้ควรเก็บเลย เพราะเด็กเขาก็ทำไปโดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง พอโตขึ้นน้องก็จะค่อยๆคิดได้กันเองไป อย่าลืมสอดส่องแมวของท่านด้วยนะ ถ้าหากเห็นช้ากว่านี้น้องก็ไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไรต่อ ที่มา ชัชชญา ขยันการ

เห็นช่างมาติดแอร์ตามหาลูกทั่วบ้านไม่เจอ เดินมาเจ๋อนอนเอาผ้าม่านปิดจะได้ไม่เห็นช่าง

ด้วยนิสัยลักษณะของแมวเองก็ทำให้มนุษย์อย่างเราไม่ค่อยจะเข้าใจ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้ทำ ซึ่งหากได้เลี้ยงดูหรือเคยสัมผัสมาก็จะหาคำอธิบายไม่ได้ แม้แต่ความฉลาดของพวกเขาได้แสดงออกมาให้พวกเราเห็นแต่พวกเขาก็ทำให้เรายิ้มได้เสมอ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tack Hongsala ได้โพสต์เรื่องราวเจ้าเหมียวตัวส้มแมวของเขาเอง ซึ่งเขาก็ได้เลี้ยงดูน้องมาแต่ยังเล็กและด้วยนิสัยกลัวของเขาก็เป็นเรื่องราวทำให้ยิ้ม เมื่อช่างแอร์ได้มาติดแอร์ยังคอนโดของเขาและน้องก็ถูกเลี้ยงดูมาในบ้านไม่เคยได้ออกไปไหน ทำให้มีความกลัวคนสูงและเมื่อเจอกับช่างแอร์น้องจึงกลัวและตกใจเข้าไปแอบไว้เขาก็หาทั่วบ้านแล้วก็ไม่เจอ แต่พอเขาก็ได้เห็นผ้าม่านขยับจึงได้ลองมองดูและเห็นว่าน้องแมวของตัวมาแอบหลบช่างอยู่ในผ้าม่าน ซึ่งเมื่อเป็นคอนโดจะมีพื้นที่ไม่มาก ทำให้น้องไม่สามารถหนีหรือหลบไปจากความกลัวของตัวเองได้ จึงต้องหาจุดปลอดภัยสำหรับตัวเองให้หายกลัวเลยเอาผ้าม่านบังหัวตัวเองไว้ไม่ให้เห็นช่างแอร์จะได้ไม่กลัวต่อไป เขาจึงได้มาโพสต์ลงยังกลุ่ม ชมรมแมวสายดาร์ก เพราะความเป็นเด็กของเจ้าส้มเอง ด้วยเมื่อเรายังเด็กถ้ากลัวแล้วไม่รู้ว่าจะหลบหรือแอบจุดใดก็คงจะต้องหลับตาน้องเองก็เลยไปหลบเอาหลังม่านให้บังจากสายตาจะได้ไม่กลัว ซึ่งตัวของเขาเองก็สงสารน้องเพราะจากการอยู่แต่ในห้องไม่เคยพาไปข้างนอกบ้านเลยเห็นคนแล้วก็เลยมีการตื่นกลัว ที่มา Tack Hongsala

ถูกเขาเทนำมาไว้ไร้ใครต้องการ สู่อกแม่แม้ตัวหารแต่จะรักเลี้ยงดูเป็นอย่างดี

ด้วยชีวิตยากไร้ต้องทนทุกข์ไม่มีสุขเกิดเป็นจรเหมือนใครเขา ต้องลำบากอดทนต่อให้ผ่านพ้นไป แต่หากเคยมีบ้านอยู่มีคนรักเฝ้าเลี้ยงดูมายามไม่หาเขานำมาเทไว้ไร้จิตสำนึก แต่ต้องทนนอนตากยุงด้วยตัวไร้พูดไม่ได้จะไปร้องเรียกบอกใครเขาให้ช่วยใครจะฟังตัว เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า มาลินี สังเวียนวงศ์ ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยหลังเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ได้มีคนนำน้องมาใส่ตระกร้าสีชมพูอ่อนมาวางไว้ตรงข้างถังขยะ ซึ่งเขาก็เห็นว่าเป็นตระกร้าจึงได้เดินไปหาและเปิดออกดู พบเป็นน้องแมวตัวน้อยลายสลิดสีขาวครึ่งนอนนิ่งตึงมีผ้าใส่ไว้ให้กันหนาวตัวคงยังไม่รู้ว่าตนถูกเขาเทแล้ว เขาจึงได้เอามาช่วยเหลือดูแลเอาไว้ก่อนเพื่อจะทำการหาบ้านให้น้องต่อ แต่ทว่าเขาก็ได้อัพเดทว่าครบ 7 วันอยู่ด้วยกันมาชื่อน้อง Lotto และเขาเองก็เลือกจะรับน้องเอาไว้ดูแลเข้าสู่ครอบครัวเป็นแมวงอกตัว 101 ด้วยเธอเองก็เลี้ยงแมวอยู่แล้วจึงได้เห็นความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องเลยรับเลี้ยงเอาไว้เองและจะดูแลน้องเป็นอย่างดีชดเชยให้น้องจากคนเลี้ยงเดิม โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในจัวหวัดนครนายก และตัวน้องก็คงจะถูกเจ้าของเก่าเทด้วยเหตุผลแต่ก็คงจะรักน้องเช่นกันเพราะจากการนำมาวางไว้พร้อมตระกร้ายังมีผ้าใส่มาให้ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยน้องเองก็คงจะคิดถึงเจ้าของเก่าไม่แพ้ใคร แต่เธอก็บอกไว้ว่าจะดูแลให้น้องเติบโตเป็นอย่างดี ที่มา มาลินี สังเวียนวงศ์

จากก่อนรักแม่ก็เฝ้าเลี้ยงดูมาคอยถนอม ยามบานจากผอมๆกายร่างเป็นหมู

เมื่อยามเด็กแม่ก็เฝ้าดูเจ้าคอยถนอมให้เติบโตโอ๋ตัวหนอแม่เป็นห่วงกลัวลูกจะอดหนา ยามไม่กินแม่ก็ห่วงเป็นห่วงทุกข์อุรายามตัวหนาแม่ก็ตรอมด้วยเสียใจเอง จากคืนวันผ่านพ้นเจ้าตัวเล็กยามเป็นเด็กตัวนิดนึงคนึงร้องหาแม่เสมอ แต่เติบโตแล้วแค่เรียกชื่อยังไม่เคยหัน ด้วยถ้าหากได้เลี้ยงแมวแล้วก็จะเข้าใจเมื่อพวกเขาได้เติบโตและเป็นผู้ใหญ่ก็จะมีความเป็นตัวเองไม่ค่อยจะสนใจทาสแล้วเหมือนตอนยังเล็กหรือเป็นเด็ก เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ฉัน มาทำอะไร ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวกำไรแมวของเขา ซึ่งด้วยความเปลี่ยนไปของน้องกำไรเองก็ทำให้แม่ท้อใจนิดหน่อย จากก่อนเคยเเป็นลูกสาวตัวเล็กตัวน้อยมาเป็นหมูตัวใหญ่เพราะกลายร่างเอง ด้วยเมื่อ่กอนเธอก็ได้นำน้องมาเลี้ยงดูแต่ยังเด็กด้วยความรักความเอาใจใส่ของผู้เป็นแม่มีให้กับตัวลูกน้อย ลูกก็ค่อยๆจะเติบใหญ่เกินตัวแม่จะอุ้มไหวและหน้าก็เปลี่ยนเป็นเหวี่ยงแรงเกินเบอร์ไป แม่เสียใจลูกรักไม่ใยดีเหมือนเคยมา ด้วยอุส่าเฝ้าเลี้ยงรักถนอมจิตไม่เคยคิดลูกจะไร้รักเมื่อโตแล้วไม่เข้าหา แม่ก็หมดค่าข้าวลูกไปต่างนาๆ ลูกไม่หาเรียกไม่มาเหมือนเคยเป็น ซึ่งหากเลี้ยงก็บอกไว้ให้ช่วยคิดใครมีสิทธิ์เป็นนายเป็นบ่าวให้รู้หา จากเป็นลูกเป็นแม่เรียกแล้วไร้ไม่เคยมายามต้องหาเรียกปากท้องนอนอ้วนผ่านพ้นวัน แต่ก็ยังรักเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนจากวันเคียงอยู่คู่เสมอมาก่อนเข้านอนก็ยังกอดแม้จะรู้ตัวว่าลูกตนได้เปลี่ยนไป ที่มา ฉัน มาทำอะไร

เครียดจนมือเท้าสั่นไม่หยุด รู้สึกผิดที่ทำอะไรไม่ได้ นั่งเหม่อลอยเป็นชั่วโมงหาวิธีทำให้น้องรอดชีวิต

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Patsamon Ni ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวขาวมณีแต่ต้องมาอยู่ในสภาพสุดจะบรรยาย หลังจากที่ผู้โพสต์ได้เจอน้องก็เลยสัญญาว่าถ้าได้พบเจอกันอีกเราจะพาน้องไปหาหมอ จนกระทั่งนั้นเอง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ช่วยเราด้วยน้องมีชื่อว่ามะลิ หรือ อาเหม๋ง (เพิ่งตั้งชื่อให้เมื่อเย็น) เป็นแมวไทยพันธุ์ขาวมณี ตาสวยสีฟ้าทั้ง 2 ข้าง มาวันนี้เราเจอน้องตั้งแต่กลางวัน น้องตัวผอมมากๆมีแต่กระดูกโผล่ตามภาพ (ตอนแรกคิดว่าโดนใครทำอะไรมา) เรารีบไปซื้ออาหารมาให้น้องกิน แต่พอกลับมาก็ไม่เจอน้องแล้ว คิดในใจว่าถ้าตอนเย็นเจอกันอีกจะพาน้องไปหาหมอ เราลองเดินถามคนงานแถวๆนั้นดู ว่าเห็นแมวขาวๆผอมๆบ้างมั้ย ถามไปหลายคนเขาก็ไม่มีใครเห็น จนคิดว่าจะกลับกันแล้ว จนมาเจอคนสุดท้ายเราถามว่า เหมี๊ยวๆขาวๆเค้าก็ชี้ไปที่ประตู เดินไปก็เจอน้องจริงๆ คนแถวนี้บอกว่า น้องเจ็บคอเลยกินอะไรไม่ค่อยได้ผอมมากๆ แล้วสุดท้ายเราก็กลับบ้านมาด้วยกันซะเลย เหม๋งเป็นแมวสุภาพ ไม่แย่งของกิน ไม่ตบ ไม่ฟัด เราก็ขึ้นรถมาด้วยกัน พูดคุยกันมาตลอดทางเลยจ้า จนมาถึงโรงพยาบาล คุณหมอบอกว่า กระดูกที่หลังไม่ได้โดนอะไร น้องแค่ผอมมาก จัดตรวจทุกอย่างที่ตรวจได้ในทันที จะได้รู้ว่าน้องเป็นอะไร ขั้นเกือบสุดท้าย หมอบอกว่าถ้าไม่รักษาน้องจะสิ้นใจภายใน 1 เดือน และไม่สามารถรับน้องไว้ที่โรงพยาบาลได้เพราะเป็นโรคติดต่อหลายอย่าง เราไม่อยากให้น้องอยู่เพียงลำพังจริงๆ เราเอาเข้าบ้านไม่ได้ เครียดจนมือสั่น ตัวสั่น เรานั่งอยู่โรงพยาบาล 1 ชั่วโมงแบบงงๆ จนสุดท้ายหมอเดินมาคุยด้วย แล้วยอมให้เคสนี้อยู่ที่โรงพยาบาได้ก่อน แต่แล้วยังไง ก็ต้องเอาน้องออกจากโรงพยาบาลอยู่ดี แต่จะไปอยู่ที่ไหนอะไรยังไง ตอนนี้เหม๋งอยู่โรงพยาบาล และรักษาทุกโรคไปพร้อมๆกัน...

ไม่เสียดายเวลาเลยกับหนึ่งปีที่ตามหา หลังแมวหายไปกว่า1ปีกับชีวิตนี้ที่ยังไงเราก็ต้องได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nuna Kaa ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเธอนั้นได้เล่าประสบการณ์ตามหาแมวหายกว่า 1 ปี และเธอเองก็ไม่มีวันท้อด้วยว่าสักวันเธอคงได้แมวกลับคืนมา และในวันนั้นก็มาถึงจนได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เราอยากเล่าประสบการณ์ที่เคยโพสต์ตามหาแมวหายเมื่อ กันยายน ปี 2562 เราได้โพสต์ไว้ที่หลายๆเพจ โพสต์เป็นระยะๆไปมีความหวังว่าจะได้น้องกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เราไม่เคยหมดความหวังเลย เห็นโพสต์ที่ไหนสงสัยว่าเหมือนหรือว่าใช่ เราก็ตามไปดูทุกที่ผิดหวังซ้ำๆหลายๆที่แต่ก็ไปให้สุด ผลสุดท้ายวันที่รอคอยก็มาถึง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านไป 1 ปีกับอีก 2 เดือน เพราะมีคนมาเม้นในโพสต์ที่เราโพสต์เอาไว้ เค้าสงสัยว่าอาจจะเป็นนินจาที่หายตัวไป รอบนี้เราตามไปดู แล้วก็ใช่จริงๆค่ะ เราเจอนินจาในสภาพที่บาดเจ็บ คุณหมอเขาบอกต้องรักษากันอีกยาวๆเลยร่วมๆเดือนกว่าจะดีขึ้น ผลสุดท้ายจะกลับมาสภาพไหนก็ดีใจหมดขอแค่น้องได้กลับบ้าน ทาสทั้งหลายอย่าเพิ่งท้อนะคะขอให้คุณโชคดีเหมือนกับเรา และที่นางหายไปเป็นปีไม่ใช่อะไรหรอกนะนางไปติดสาวอีกหมู่บ้านมา ที่มา Nuna Kaa

เป็นแมวพันธุ์หลงทาง พยายามคลานเข้าฝั่งถนนด้วยแรงใจที่มีเพราะถูกรถเขาชนจนตัวนั้นทนไม่ไหว

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : สายลม กระทบ เงา ได้เผยเรื่องราวหลังน้องสาวส่งข้อความมาหาว่า ได้ยินเสียงรถชนอะไรบางอย่างตอนแรกคิดว่ารถชนกัน แต่เมื่อเธอลองไปดูกลับพบว่าเป็นน้องแมวพันธุ์กำลังคลานไปกับพื้นเพื่อไปที่ริมถนน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ตามหาเจ้าของแมวค่ะ น้องถูกรถคนเขาชนจนตัวสิ้นใจเมื่อ 30 นาทีก่อน โดยน้องสาวส่งรูปมาให้ดูแล้วเล่าว่ากำลังนั่งกินสเต็กอยู่ แต่จู่ๆก็ได้ยินเสียงรถชนดังโครม (ตอนแรกเรานึกว่ารถชนกัน) เลยหันไปมอง แต่ภาพที่เห็นก็คือน้องแมวตัวนี้กำลังลากตัวเองออกจากกลางถนนออกมานอนริมถนน น้องกับหลานเลยรีบวิ่งออกมาดูเพื่อช่วยแมวเอาไว้ แต่ไม่ทันการค่ะ พอน้องสาวเราวิ่งมาถึงตัวน้องแมวแล้ว น้องแมวก็เสียแล้วค่ะ น้องแมวมีปลอกคอและน่าจะเป็นแมวพันธุ์หลงมาด้วย เจ้าของร้านสเต็กก็ไม่ทราบว่าน้องแมวเป็นของใครเหมือนกัน เราสงสารน้องแมวมาก เราก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกันต่อดี ตอนแรกคิดจะพาน้องแมวไปฝังค่ะ ไม่อยากให้นอนอยู่แบบนั้น แต่อีกใจก็ห่วงว่าเจ้าของน้องกำลังออกตามหาแล้วจะไม่เจอเอา นี่น้องสาวเราจะเอารูปไปเดินถามๆบ้านคนในระแวกนั้น เผื่อจะมีคนเคยเห็นน้องแมวว่าเป็นของบ้านไหนจะได้แจ้งให้เจ้าของเขาทราบ เราเลยเอามาลงในกลุ่มอีกทางค่ะ เพื่อตามหาเจ้าของน้องแมวให้มาเห็นด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ น้องแมวไปวิ่งเล่นบนดาวแมวแล้ว ลาก่อนนะลูก พิกัดถนนนวลแก้ว คลอง ร.5 ที่มา สายลม กระทบ เงา