หน้าแรก บล็อก หน้า 24

สาวโพสต์ปสก.เตือนอุทาหรณ์ป้อนยาติดคอ จนตาค้างเกือบจะขิตด้วยน้ำมือตัว

แม้แต่การเลี้ยงดูแลมาในความรักอย่างเดียวก็อาจจะยังก็อาจจะยังคงไม่เพียงพอ เพราะน้องจากความรักที่มอบให้หรือการเอาใจใส่พวกเขาเราเองก็จะต้องทำการศึกษาแม้บางคนเลี้ยงถูกวิธีก็ดีมา แต่ถ้าบางคนไม่ชำนาญก็อาจจะส่งผลให้พวกเขาเป็นภัยเพราะตัวเราเอง เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kratae Kratae Tonbun ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวด้วยน้ำตาโพสต์เตือนเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าอย่าหาทำเหมือนกับเธอ แม้ตัวเธอเองก็จะจำเรื่องราวนี้เอาไว้เป็นบทเรียน เพราะเด็กๆไม่สบายในเมื่อคืนเธอก็ลุกมาป้อนยาให้กับน้อง และน้องก็ทำท่้าจะอ้วกยาออกแล้วด้วยความที่เป็นยาแคปซูลตัวยาก็คงจะดันออกมาจนทำให้ยานั้นติดคอน้อง น้องมีอาการตาค้างน้ำมูกไหลซึ่งพอผ่านไปสักพักน้องก็ตัวอ่อนลงและนิ่งไปเลย เธอคนเป็นแม่ตกใจเป็นอย่างมากทำอะไรไม่ถูกเลย คิดว่าน้องต้องสิ้นใจแล้วแน่ๆ เธอเลยพยายามจับน้องห้อยหัวและตบหลังน้องพร้อมกับเขย่าตัวน้องแรงๆ สักพักน้องก็กลับมา พอน้องอาการดีขึ้นก็มานั่งมองหน้าคงอยากจะบอกกับแม่ว่า ที่หลังอย่าหาทำอีกนะแม่หนูเกือบได้ไปอยู่กับเพื่อนๆที่ดาวแมวแล้ว เธอก็เฝ้าขอโทษนะลูกนะมันเป็นที่ความสะเพราของแม่เอง ที่ไม่ทันได้ติดให้รอบคอบเกือบทำให้ลูกต้องมาสิ้นใจด้วยน้ำมือของแม่เอง และขอบคุณมากๆที่หนูกลับมาอยู่กับแม่เหมือนเดิมแม้ในตอนนี้น้องปลอดภัยดีแล้วนะคะ เมื่อคืนแม่เอาน้องมานอนกอดทั้งคืนเลยเพราะกลัวว่าจะมีอาการอะไรอีก และตอนนี้น้องก็กินและเล่นได้ปกติแล้ว ซึ่งหลังจากการโพสต์ลงไปก็ได้มีหลายคนเข้ามาแนะนำว่าถ้าเป็นยาเม็ดแล้วเกิดเราไม่ชำนาญหรือไม่เคยป้อนมาก่อนก็ให้หาละลายในน้ำหรือถามกับทางคุณหมอจะทำให้น้องนั้นปลอดภัยกว่า ไม่ต้องมาเสี่ยงติดคอแบบนี้สงสารน้องแต่ก็ขอบคุณที่มาโพสต์เตือนคนอื่นๆเห็นแล้วจะได้ระวัง ที่มา Kratae Kratae Tonbun

เดินมาร้องขอให้ช่วยประทังน้ำลายฟูมปาก น้ำตาไหลพรากคงพลัดหลงมาแสนเนินนาน

เพราะในคำว่าโลกทั้งใบที่หลายคนพยายามจะย้ำบอกว่าพวกเขานั้นมีเราเป็นอ้อมกอดหรือเป็นโลกทั้งใบเพียงเท่านั้น เลยพยายามจะบอกเล่าให้เลี้ยงในระบบปิดหรือให้ดูความพร้อม เพราะน้องชีวิตนั้นจะต้องเร่ร่อนแม้ไร้ที่ให้นอนหรืออาจจะเจ็บป่วยไข้เลยพยายามจะเดินมาร้องขอความช่วยเหลืออยู่ร่ำไป แม้ตัวคงจะหวังในใจว่าจะได้กลับหวนคืน เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Chanakan Niamhom ได้โพสต์เล่าเรื่องราวเพื่อที่จะตามหาเจ้าของให้กับน้อง เพราะน้องมีอาการน้ำลายไหลตลอดเวลาแม้ร้องตกใจเวลาเห็นคนเดินผ่าน และขาหน้าซ้ายก็เจ็บหนัก ซึ่งน่าจะเกิดมาจากอุบัติเหตุด้วยเขาเองก็เจอน้องที่บริษัทมหาจักร รามคำแหง 151/1 สะพานสูงคอนโดศรีราม แม้เขาเองก็เลยพยายามที่จะเอาอาหารเปียกให้กับน้องกินแต่น้องก็ไม่ค่อยจะกิน แม้จะพยายามฝืนกินอยู๋หลายครั้งเพราะน้องน่าจะเจ็บในปากมาก จนสุดท้ายน้องก็กินได้และอาการน้ำลายไหลก็ดีขึ้น เขาก็ยังไม่ได้พาน้องไปหาหมอเพราะต้องทำงานต่อเลยทำได้แค่เอาอาหารและน้ำวางไว้ให้น้องประทังชีวิต แม้ในภายหลังเขาก็ได้มาอัพเดทว่าตอนนี้นำส่งน้องหาหมอแล้วและจะมาอัพเดทอีกครั้ง ซึ่งถ้าใครคิดว่าเป็นแมวของตัวเองก็สามารถจะแสดงตัวหรือติดต่อหาเขาได้เลย ที่มา Chanakan Niamhom

ก่อนเคยรักมีบ้านเคยมีเจ้าของ วันนี้น้ำตานองมองไม่เห็นทิ้งทั้งเป็นอย่างไรเยื้อใย

เพราะในความรักที่คิดจะเลี้ยงหรืออาจจะเป็นเพราะในความสงสาร แต่เมื่อความไม่พร้อมหรือความไม่ตั้งใจจะเลี้ยงหรือรับมาตั้งแต่แรกเลยทำให้ต้องกลับกลายมาเป็นจรและต้องทนทุกข์เพราะแม้ก่อนจะเคยมีบ้านมีรักที่อบอุ่นแม้เฝ้าถนอมดูแลมาตลอดแต่พอวันนี้กลับไม่ต้องการเลยต้องพลันเป็นจรน้ำตาตกใน เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Saranya Kaewanan ได้โพสต์เล่าเรื่องราวเพื่อที่จะขอผู้ใจบุญให้กับน้องแมว 3 ชีวิตนี้เพราะน้องเคยมีบ้านแต่มาวันนี้กลับถูกเจ้าของเดิมนำมาปล่อยทิ้งอย่างไร้เยื้อใย เพราะน้องตาบอด 1 ข้างและจากที่ถูกเจ้าของเดิมทิ้ง น้องก็พยายามพาลูกทั้งสองตัวกลับมาบ้านแต่ก็กลับถูกเขาไล่ตีเพราะเหตุผลที่เจ้าของเดิมบอกว่าแพ้เห็บจากตัวน้อง จนตอนนี้น้องต้องมาอาศัยกลางกองไม้ริมถนนที่มีรถวิ่งเข้าออและผ่านตลอด และคนตรงนั้นก็ทำได้เพียงแค่เอาข้าวเอาอาหารให้กับน้อง แม้บางวันก็จะต้องอดมื้อกินมื้อ เธอเลยอยากจะวอนขอผู้ใจดีหาบ้านให้กับน้องเขาจะได้มีที่อยู่อาศัยที่พักพิงให้กับชีวิตลูกตัว และขอวอนถ้ารับลูกเขาก็อยากจะให้รับแม่เขาไปอยู่ด้วยเพราะเขาคงจะรักลูกมากๆถึงได้ยอมเดินกลับมาหาเจ้าของที่ทิ้งตัวไปก็ตาม แต่ไม่พ้นก็ยังถูกเขาไล่ตีซ้ำไม่ให้เข้าบ้านคนเป็นทาสเห็นแล้วก็แทบจะขาดใจ ซึ่งถ้าใครอยากจะรับก็สามารถจะติดต่อไปได้กับทางต้นโพสต์หรือถ้าใครเห็นเรื่องราวนี้ก็ขอวอนให้ช่วยกันแชร์เรื่องราวนี้เพื่อที่น้องจะได้มีโอกาสได้บ้าน ที่มา Saranya Kaewanan

จากแรกรับเข้ามาเป็นเห็ดออรินจิ เฝ้าถนอมดูแลเป็นอย่างดีตากแดดมากกลายเป็นเห็ดหูหนู

ถ้าพูดถึงแมวไทยหรือแมวสายพันธุ์ที่มีตาสีฟ้าหน้าดำแซมหลายจุดก็ทำให้เราคิดถึงน้องแมววิเชียรมาศที่หลายคนได้รู้จัก หรือในฝรั่งจะเรียกว่าสีบูลพ้อยซึ่งน้องจะมีสีเข้มตามจุดต่างๆ แม้บางครั้งสีของขนนั้นก็อาจจะเปลี่ยนได้ตามสภาพอากาศหรือความเครียดของพวกเขาอีกด้วย เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เบญญาพวย ฮาจิบวย ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดฮาเมื่อเธอนั้นได้รับเลี้ยงแมวพันธุ์วิเชียรมาศเข้ามาเลี้ยงหรือที่หลายคนเรียกว่าเจ้าเห็ดออรินจิ ซึ่งพอเวลาผ่านพ้นปีเธอก็ได้ดูแลถนอมน้องมาเป็นอย่างดีแต่น่าจะพาไปตากแดดเยอะเกิน แม้คงจะลืมทากันแดดเลยทำให้หน้าลูกไหม้หรือดำปี๊ดปี๋ เธอก็เลยนำมาโพสต์โถ่คนดี 1 ปีผ่านไปจากเห็ดออรินจิหน้าใสกลายมาเป็นเห็ดหูหนูดำซะแล้ว แม้ก่อนหน้าที่เธอจะได้รับน้องเข้ามาเลี้ยงก็ยังเคยได้ยินคำเตือนจากเพื่อนมาด้วยว่าพอ 5 ปีผ่านลูกจะมีสีเข้มขึ้นจากขาวๆจะกลายเป็นสีดำ ซึ่งเธอก็ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลยเพราะมันยังไม่ถึง 5 ปีพอมาวันนี้ แค่ 1 ปีเท่านั้นหรือลูกฉันตากแดดมากไป ซึ่งถ้าพูดกันถึงในส่วนวิชาการหรือตามหลักการของสายพันธุ์นี้น้องจะเป็นแมวที่เปลี่ยนสีได้ เพราะความเข้มของคนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เพราะเคยมีงานวิจัยเป็นสาวที่เลี้ยงแมวพันธุ์นี้ซึ่งได้นำน้องแมวจากเมืองไทยไปเลี้ยงยังเมืองนอกผลออกมาว่าน้องนั้นมีสามารถจะมีสีที่เข้มขึ้นตามสภาพอากาศที่หนาวเย็นและจะมีสีที่อ่อนตามสภาพอากาศที่ร้อนแต่ก็อย่าได้เอาลูกไปตากแดดกันละเพราะบางทีก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเช่นสภาพแวดล้อมหรือแม้แต่ความเครียดของน้องก็มีผล ที่มา เบญญาพวย ฮาจิบวย

หอบระหกตัวระหกเที่ยวออกหาถูกเขาชนมา กระเสือกกระสนคลานกลับมาให้นมลูกน้ำตาตกใน

แม้ในความเป็นแม่ที่หลายคนที่เลี้ยงแมวจะชอบบอกว่าพวกเขาไม่มีความรู้สึกหรือไม่รู้นึกรักเจ้าของเหมือนกับสุนัขหรือสัตว์อื่นๆอย่างใครเขา แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาก็มีความรักลูกและเป็นห่วงลูกตัวไม่ต่างจากเรา แม้วันหนึ่งตัวจะต้องเจ็บหรือเศร้ายังต้องหอบสังขารคลานกลับมาให้นมลูกตัว เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Suchana Toonny ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวด้วยน้ำตาในความเป็นแม่ของน้องแมวตัวนี้หลังจากที่เธอได้มาโพสต์เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือหรือขอคนเข้ามารับเคสช่วยเหลือแม่แมวแม่ลูกอ่อนตัวนี้ที่ถูกรถทับครึ่งตัวล่าง ซึ่งน้องเป็นแมวจรที่ไม่มีเจ้าของแล้วดันท้องเลยออกลูกมาแต่ทว่าวันหนึ่งเกิดถูกรถทับมาทำให้ต้องใช้ตัวถัดๆหรือแบกสังขารไปมาเห็นแล้วก็น่าเวทนาจิต เพราะแม้ตัวจะเจ็บหรือเดินไม่ได้น้องก็ยังพยายามจะดิ้นรนเพื่อที่จะแบกสังขารตัวกลับไปหากลับไปให้นมลูกตัวเอง เขาเห็นแล้วก็เกิดความสงสารน้องเป็นอย่างมากเลยอยากที่จะหาบ้านให้กับน้องอยู่เพราะถ้าปล่อยเอาไว้น้องคงจะต้องอยู่กับความทุกข์ทรมาน แม้ในวันนี้ก็ยังโชคดีที่มีคนทำที่พักพิงเอาไว้ให้เพราะน้องถูกรถทับมาจะครบอาทิตย์แล้วแต่ก็ยังฮึดสู้เพราะความเป็นห่วงลูกของตัวเองจะต้องอด ซึ่งเธอก็แจ้งพิก ัดเอาไว้ที่เพชรเกษม 110 แยก 21 หน้าวัดไผ่เลี้ยง แม้ในความโชคร้ายในโชคชะตาที่ตัวต้องประสบหรือพบเจอนั้นก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะในภายหลังเธอได้มาอัพเดทว่าในตอนนี้มีผู้ใจบุญรับน้องเข้ารักษาแล้วนะคะ ยังไงก็จะมาอัพเดทข้อมูลให้ทราบกันต่อไป ที่มา Suchana Toonny

อาศัยแต่บนหลังคาเท้าไม่เคยได้สัมผัสกับพื้นดิน แม้แดดร้อนต้องกล้ำกลืนไร้แม้ร่มเงากำบังฝน

เพราะในชีวิตจริงนั้นเป็นสิ่งที่เราจะกำหนดไม่ได้เพราะเกิดมาเป็นเพียงแค่แมวจรตัวหนึ่งไม่ดีร้าย ต้องทนอยู่จนกว่าจะมีใครสักคนมาช่วยตัว เพราะเกิดมาจากแม่ที่เป็นจรและไร้ผู้จะให้มาปกป้องตัวต้องนอนทนแดดร้อนๆไร้แม้ร่มเงากำบังฝน เช้าสายบ่ายเย็นยังต้องเฝ้าทุกข์ทนเห็นแล้วตนก็อยากจะให้เขาไม่ต้องมาทนกับอะไรแบบนี้เลย เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Chananya Thanasansurapong ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่แสนจะน่าสงสารเพื่อที่จะมาขอบ้านให้กับน้องส้ม เพราะน้องเขาอายุประมาณ 9 เดือนได้ซึ่งน้องจะมาอาศัยบนหลังคาตลอดแม้เดิมทีมีพี่น้องอีกตัวแต่ในตอนนี้ได้หายไป 1 แล้ว สงสารเขาอยากจะให้เขามีบ้านที่อบอุ่นจนวาระสุดท้ายของชีวิต ไม่ต้องมาหลบๆซ่อนๆเป็นแมวส้มเพศผู้ ถ้ามีคนรับเธอก็จะพาไปให้วัคซีนเข็มแรกให้ ถ้าต้องการทำหมันก็จะทำให้ขอเพียงรักเขาด้วยใจอย่าเอาเขาไปทรมาน แม้ก่อนหน้านี้เธอก็พยายามจะหาบ้านให้เขาตั้งแต่ 3 เดือน จนในตอนนี้ 9 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้บ้าน ชีวิตนี้ต้องทนทุกข์ทรมานดินพื้นข้างล่างก็ไม่เคยได้สัมผัสเลยเพราะถ้าลงไปก็คงจะไม่รอด พิกัดดาวคะนองขอสแกนบ้านนะคะพร้อมเซ็นสัญญาพร้อมส่งให้ ถ้าอยู่ใกล้ๆพระประแดงฝั่งธนบางบองทองน้องเชื่องนะคะ ยอมให้จับต้องตัวตลอดแต่ก็ไม่มีบ้านจะให้เขาอยู่ ที่มา Chananya Thanasansurapong

ก่อนเป็นพันธุ์มีบ้านเคยถูกรักวันนี้ตัวต้องกลับ ไร้ที่ซุกหัวนอนกินน้ำในกระถางต้นไม้ประทังหิว

แม้ในความพร้อมที่เราอยากจะรับที่เราเคยพยายามย้ำหรือบอกกล่าวว่าให้มีความพร้อมก่อนที่จะนำชีวิตหนึ่งเข้ามาไว้ เพราะถ้ามิเช่นนั้นวันหนึ่งเกิดเราไม่อยากที่จะเลี้ยงหรืออยากจะได้หนึ่งชีวิตต้องทนใช้อยู่ไม่ต่างอะไรกับการเป็นจรเลย เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Panadda Suwanwat ได้โพสต์เล่าเรื่องราวด้วยน้ำตาหลังพาเจอน้องแมวพันธุ์มาเป็นอเมริกันช็อตแฮร์ ซึ่งน้องถูกทิ้งให้เร่ร่อนแม้ตอนนี้ก็ตกอยู่ในสภาพที่ผอมมากๆ ต้องเที่ยวเดินขอข้าวขอปลาคนแถวนั้นประทังชีวิตเพราะจากเคยมีบ้านอยู่แม้ไม่หรูหราแต่น้องคงอยากจะได้ความรักที่มีที่ให้ซุกหัวนอนและอิ่มท้อง แต่มาวันนี้ตัวกลับต้องมาเร่ร่อนหิวโหยแม้ยุงก็ฟัดแถมยังต้องระหวังหมาฟัดเอาอีก เขาเธอเองก็ได้รับแจ้งมาจากพิกัด ซ.ประชาอุทิศ 90 มบ.พีเคการ์เดนท์ คลองสวนสมุทรปราการ ซึ่งถ้าท่านใดสนใจเป็นผู้อุปาการะดูแลจนน้องสิ้นอายุไขด้วยความสามารถเรื่องอาหารที่อยู่รักษาน้องยามเจ็บป่วยได้ หรือแม้แตค่การพาไปทำวัคซีนป้องกันโรคต่างๆได้ก็สามารถที่จะแจ้งเข้าไปหาเธอได้เลย ปล.เธอจะทำการคัดบ้านที่มีความพร้อมจริงๆและสามารถที่จะอัพเดทความเป็นอยู่ของน้องได้เป็นระยะยินดีที่จะส่งให้ถึงบ้านเลยคะ ขอคนที่พร้อมจะดูแลเขาไปตลอดชีวิตจริงๆนะ เพราะในคำที่บอกเอาไว้ว่าการเลี้ยงแมวหนึ่งชีวิตนั้นก็เหมือนกับการเลี้ยงเด็กหนึ่งคน เราเองจะต้องรับภาระและทนกับเวลาที่เขาเจ็บป่วยหรือติดสัตว์ เพราะถ้าวันหนึ่งเกิดเรายากลำบากและเลือกจะทิ้งเขาชีวิตนี้จะต้องทนอยู่กับโลกกว้างและนี้ก็อาจจะเป็นที่มาของคำว่าเราคือโลกทั้งใบ ที่มา Panadda Suwanwat

ระหกเร่เป็นจรขออาศัยเช้าได้ยันเสียงตะโกนให้ ดังลั่นกัดมันให้สิ้นใจให้หมดเลย

แม้ความอ่อนโยนในจิตใจของคนเรานั้นแต่ต่างแต่ก็อาจจะเถียงไม่ได้ว่าอาจจะไปสร้างความลำบากหรือเดือดร้อน แม้ก่อนหน้านี้เราก็ยังเห็นโพสต์ที่คนมาต่อว่าแมวใครเขามาอึใต้ท้องรถแต่กลับกลายเป็นอึหมาเพราะแมวนั้นเป็นสัตว์รักสะอาดและแน่นอนว่าแมวจะไม่อึใส่ที่นอนตัวเอง แต่ก็ยังมีคนมาโพ้ยหาความผิดให้กับแมวจรอยู่ดี เพราะชั่วดีตัวเกิดมาเป็นจรไร้ที่นอนหรือคนจะปกป้องก็คงจะเหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่าแงซาย จอมจักรา ได้โพสต์เล่าถึงเรื่องราวน่าสงสารเพราะเห็นแล้วยังจะกล้าให้หมามางับกันจนถึงกับสิ้นใจเชียวหรือ แค่เขาเป็นจรก็น่าสงสารอยู่แล้ว จิตใจทำด้วยอะไรเพราะในเมื่อเช้าเขาได้ยินเสียงคนตะโกนดังลั่นบอกให้งับมันให้สิ้นใจให้หมดเลย เพราะเป็นคนแถวในระแวกบ้านที่เขาไม่ชอบแมว แล้วน้องๆก็เป็นแมวจรที่เขานั้นได้เคยให้อาหารมาตั้งแต่เด็กๆแม้พยายามจะโพสต์หาบ้านให้ตั้งแต่ตอนพวกเขาเด็กจนในตอนนี้น้องโตแล้ว ก็มีแต่คนเข้ามาให้กำลังใจเขาเองก็ยังบอกว่ายังพอไหวเลยให้ข้าวให้น้ำไปช่วยได้แค่ประทังชีวิต แม้ภายหลังจากการนำมาโพสต์ลงเขาก็ได้เข้ามาอัพเดทว่า ขอกราบขอบพระคุณทุกๆกำลังใจที่เป็นห่วงเป็นใยน้องเหมียวนะครับ และตอนนี้น้องก็ยังสบายดีครับดูแลได้เท่าที่กำลังมี แม้เขาก็ยังเข้ามาอัพเดทอีกว่าความเป็นอยู๋ของน้องเหมียวยังอยู่กันที่เดิมและปลอดภัยดีและในเช้าวันนี้เขาก็ได้คลุกปลาทูไปชามใหญ่ให้ไปหนึ่งชามอิ่มแล้วบอกให้กลับเข้าลังข้างบ้านเหมือนเดิมเพราะถ้าเพ่นพ่านเดียวจะโดนหมางับเอาเพราะคนแถวนั้นเขาก็ไม่ชอบแมว พวกน้องๆก็เลยต้องทนอยู่กันอย่างตามมีตามเกิดซึ่งถ้าใครสนใจอยากจะอุปการะพวกเขาก็สามารถจะทักหาเขาได้เลย ที่มาแงซาย จอมจักรา

สาวหัวจะปวดขอคำปรึกษาหลังฉ้มตัวแสบ ชอบมูลี่เรียนแบบน้องแกล้งตาบอด

แม้แต่การเป็นแมวที่เราคิดว่าพวกเขานั้นไม่มีความรู้สึก แต่ในความเป็นจริงพวกเขารู้สึกแต่ทว่ามันจะไปทางดีหรือทางร้ายมากกว่ากัน เหมือนกับในเคสนี้ที่หลายคนเข้ามาแสดงความรู้สึกกันที่บางก็ว่าเจ้าฉ้มนั้นก็มีความรักน้องเหมือนกันแต่บางคนก็บอกว่าน้องอาจจะร้ายกาจมากกว่า เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟ๊สบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า น้ำ' แข็ง- ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่เธอนั้นไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี เลยมาขอคำปรึกษาลงในกลุ่มทาสแมวหลังเจ้าฉ้มหรือแมวส้มของเธอนั้นชอบแกล้งมูลี่น้องตัว ซึ่งเป็นรูปที่เธอลงมาให้ชมคือเป็นแมวสองตัวและเธอได้ก็บอกว่าน้องแมวตัวหลังนั้นตาบอดจริงๆ ส่วนไอเจ้าส้มตัวหน้านั้นไม่ได้เป็นอะไรเลยแค่แกล้งทำตาบอดเหมือนกับน้องหรือเรียนแบบน้องแม้ในตอนแรกเธอก็ยังคิดว่าเขาตาเจ็บหรือเปล่าเลยพยายามจะดูแต่พอสักพักเจ้าส้มก็กลับมาทำตาปกติ เธอเลยคิดว่าน้องน่าจะแกล้งเรียนแบบเฉยๆ แม้หลังจากการโพสต์ลงไปนั้นก็มีเพื่อนๆเข้ามาคอมเม้นต์กันว่าน้องอาจจะไม่ได้มูลี่ก็ได้แค่เอาจะทำเป็นเพื่อนด้วยหรือเปล่า ซึ่งตัวเธอเองก็คิดว่าน้องน่าจะทำให้น้องของเขารู้ว่าพี่ก็เป็นเหมือนกันและให้กำลังใจน้องของตัวเอง หรือเป็นการให้กำลังใจน้องตัวเองว่านี่พี่ก็เป็นนะอย่าเฉร้าไปเลย ซึ่งแม้ในการทำแบบนี้อาจจะเป็นการให้กำลังใจของเขาแต่เราเองคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ไม่ควรจะนิ่งนอนใจและรีบพาน้องไปหาหมอเพื่อที่จะให้ตรวจเช็คดูเผื่อว่าถ้าพวกเขาเป็นอะไรขึ้นมาเราจะได้รีบทำการรักษาได้ทันเวลา แต่ในกรณีของเจ้าส้มนั้นก็อาจจะเป็นการให้กำลังใจจริงๆ ที่มา น้ำ' แข็ง-

สาวโพสต์เล่าประสบการณ์อุทาหรณ์ หลังน้องแมวสุดที่รักแอบกินตะขาบเข้าไป

เพราะการเลี้ยงหรือดูแลแมวหนึ่งชีวิตก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากการเลี้ยงเด็ก ด้วยบางครั้งเราก็ไม่ได้อยู๋ดูแลพวกเขาตลอดก็อาจจะทำให้พวกเขาบาดเจ็บเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ แม้แต่การที่เราเลี้ยงหรือดูแลพวกเขาในระบบปิดแล้วก็ตามแต่ก็อาจจะทำพวกเขาเจ็บตัวได้ เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า พี่พะโล้กับน้องพะแนง ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่เธอได้มาแชร์ประสบการณ์และถือเป็นอุทาหรณ์หลังจากน้องแมวของเธอนั้นได้กินตะขาบเข้าไป ในช่วง 3-4 วันนี้น้องพะแนงชื่อแมวของเธอไม่ยอมที่จะกินอาหารเลย เธอก็แปลกใจมากว่าน้องเป็นอะไรเพราะในตอนแรกก็คิดว่าน้องน่าจะเกิดจาอาการไม่สบาย แต่ทว่าน้องก็ยังเล่นสนุกได้เป็นปกติ เธอก็ไปปรึกษากับทางคุณหมอแล้วก็ว่าอาจจะเป็นเพราะในช่วงนี้เป็นวัยติดเล่นเลยไม่ยอมที่จะกินข้าว จนในเมื่อวานอยู่ดีๆเธอก็หันไปเห็นเหมือนผงอะไรหล่นเต็มพื้น สรุปว่ามันคือขาตะขาบ เป็นลูกตะขาบพอเห็นแล้วเธอก็ใจหาว๊าบเลย เพราะกลัวเด็กๆจะโดนงับเธอก็เดินหาตัวมันทั้งห้องแต่กหาไม่เจอ สักพกเห็นพะแนงงับอะไรเล่นสักอย่างหันไปก็คือร่างที่ไร้วิญญาณที่เธอตามหาอยู่ ใจหายว๊าบเธอเลยรีบโทรหาคุณหมอเพราะกลัวว่าลูกจะโดนงับ สรุปลูกเธอกินเข้าไปน้องแนงแดกตะขาบ เธอเลยเอ๊ะใจแล้วจับอ้าปากดูหึๆ ตามภาพเลยจ้าเหงือกแดงไปหมดเลยรีบพาไปหาหมอเลยโดนฉีดยาไป 2 เข็ม อาหารดีๆสรรหามาประเคนให้ลูกไม่กินจะะแดกตะขาบค่า ปล.พะแนงชอบเล่นแมลงกับสัตว์ทุกชนิดเล่นไม่พอกินน้องด้วย แม้เธอจะเลี้ยงในระบบปิดมิดชิดและในปกติก็จะปิดประตูหน้า่างมิดชิดมาก แต่ตะขาบน่าจะมาตามซอกช่วงนี้อากาศหนาสัตว์มีพ ิษอาจจะเข้ามาหลบอากาศหนาวในบ้านได้ก็ฝากทุกคนระวังตัวกันด้วย . ที่มา พี่พะโล้กับน้องพะแนง