ผูกไว้นอกบ้านไร้ร่มเงาแดดก็ส่องแต่ก็ต้องทน ตัวก็เล็กเชือกก็สั้นบ้านก็หลังใหญ่แต่ใจเกินคน
เพราะชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้เกิดมาเป็นสัตว์สี่ขาจะไปพูดบอกใครก็คงไม่สามารถที่จะทำได้เหมือนกับคนอย่างเราๆ และไม่ว่าจะต้องเกิดมาพบเจอกับรูปแบบใดก็ตามสิ่งที่ทำได้ก็มีแค่เพียงก้มหน้าก้มตารับกรรมที่มนุษย์นั้นทำกับพวกเขา
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mali Prisana ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบตัวน้อยที่ถูกผู้เป็นเจ้าของบ้านอันใหญ่โตผูกไว้กับรั้วนอกบ้านในทุกวัน ซึ่งผู้โพสต์ก็ได้สังเกตุเห็นว่าเจ้าตูบน้อยนั้นถูกผูกเอาไว้แบบนี้อยู่เป็นประจำจึงถามไปยังยามของหมู่บ้าน
โดยยามหรือผู้รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านนี้ก็ได้บอกว่าน้องนั้นถูกผูกไว้นอกบ้านแบบนี้ในทุกวัน ซึ่งแดดก็ร้อนไร้ร่มเงา และทั้งนี้ผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "หมาของคนในหมู่บ้าน! หมาตัวนิดเดียวไม่กล้าเลี้ยงในบ้านรึไง? ขับรถผ่านเห็นอยู่ตรงนี้ทุกวัน"
"วันนี้เลยไปถาม รปภ.บอกผูกไว้นอกบ้านทุกวัน! ผูกประจำตอนบ่ายแดดก็ส่องร้อนต้องนอนตากแดด มีที่หลบนิดเดียวเชือกก็สั้นไม่เข้าใจคนพวกนี้จริงๆ จะเอาเขามาเลี้ยงแบบนี้ทำไม บ้านหลังก็ใหญ่แต่ไม่กล้าเอาหมาไว้ในบ้านเหรอ? เราชอบเผือกเรื่องชาวบ้าน"
ซึ่งทั้งนี้หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีผู้คนจำนวนมากต่างพากันมาแสดงความคิดเห็นกันว่าอยากวอนหน่วยงานใดที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือน้องได้ขอให้เข้าไปช่วยน้องทีเพราะน้องคงจะต้องทนแบบนี้ไปอีกนาน จนกว่าจะมีใครเข้าไปช่วยเหลือ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mali Prisana
ไม่มีใครต้องการ ตูบตัวน้อยต้องการบ้าน แต่กลัวไม่มีคนอยากจะรับไปเลี้ยงเพราะสีขนไม่สวยเหมือนตัวอื่นๆเค้า
ทุกๆครั้งที่มีสุนัขต้องการที่จะหาบ้านหากว่าเป็นสุนัขที่มีสีขนสวยเป็นสุนัขที่มีสายพันธุ์ก็มักจะได้บ้านก่อนสุนัขจรที่สีขนไม่สวยจึงไม่มีใครอยากจะได้หรือต้องการ แต่ทว่าไม่ว่าจะรูปร่างใหญ่หรือเล็กสีขนจะสีอะไรก็ตาม เจ้าตูบก็ยังคงเป็นเจ้าตูบอยู่วันยังค่ำสีจะขาวหรือสีจะดำก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความน่ารักที่มีต่อพวกเขาเลย
และเมื่อเทียบกับสุนัขทั่วๆไปแล้ว หากสุนัขตัวไหนมีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนใครแล้ว ยิ่งทำให้เป็นที่น่าสนใจและต้องการมากกว่าเสมอ และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีชาวเน็ตรายหนึ่งได้โพสต์รูปภาพของเจ้าตูบสุนัขจำนวนหนึ่ง โดยได้เปิดเผยว่าตอนที่เห็นลูกสุนัขนั้นก็แอบตกใจเล็กน้อย
หลังจากที่เขานั้นได้เห็นว่าลูกสุนัขสองตัวนั้นมีสีสันแตกต่างจากพี่น้องและแม่สุนัข ซึ่งมันเป็นสีเทาธรรมดาเขาจึงเรียกพวกมันว่า "สีถังแก๊ส" เพราะว่ามันมีสีคล้ายกับสีของถังแก๊สนั่นเอง แต่นั่นก็แอบทำให้เขานั้นกังวลใจไม่น้อย เนื่องจากกลัวว่าจะไม่มีใครอยากที่จะรับเลี้ยงพวกน้องๆทั้งสองตัว
แต่ทว่าสุดท้ายกลับคาดไม่ถึงว่าหลังจากที่เขานั้นได้โพสต์ภาพของพวกน้องๆทั้งคู่ออกไปเพียงไม่กี่นาที ก็ได้มีชาวเน็ตหลายรายได้ติดต่อมาเพื่อที่จะขอรับเลี้ยงพวกเด็กๆ ดังนั้นเขาจึงต้องคัดเลือกคนที่มีความเหมาะสมและพร้อมที่จะดูแลพวกเด็กๆจริงๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเจ้าตูบน้อยจะได้อยู่ในครอบครัวที่ดีและในที่สุดเจ้าตูบทุกตัวก็ได้บ้านใหม่
เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยความกังวลที่มีอยู่นั้นได้หายไปกลับกลายเป็นความยินดีที่ทุกคนต่างก็ยินดีที่จะรับเด็กไปเลี้ยงดู ก็น่ารักขนาดนี้แถมสีขนยังสวยแปลกตา เป็นธรรมดาที่หลายคนอยากจะได้เด็กๆไปเลี้ยง ซึ่งก็หวังว่าเพื่อนๆเองก็คงจะไม่มองเพียงเพราะรูปลักษณะภายนอกหรือค่านิยมเพราะสุนัขทุกตัวก็มีความน่ารักในตัวของพวกเขาไม่ได้ต่างอะไรจากคนเรานักเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก smilesmine
ถูกเพื่อนบ้านเดินมาต่อว่า หมาของเธอไม่หล่อเหมือนหมาฝรั่ง เป็นหมาก็น้อยใจเป็นนะ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Ploy Ssiriporn ได้เผยเรื่องราวของสุนัขพันธุ์ทางที่เธอนั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเธอนั้นได้โพสต์ในกลุ่มรักหมาในเรื่องที่เธอถูกเพื่อนบ้านเดินมาบอกว่า หมาตัวนี้ไม่หล่อแถมน่าเกลียด ทั้งๆที่ตนเองก็เลี้ยงหมาแต่เลี้ยงหมาพันธุ์ฝรั่ง
.
ถึงน้องจะเป็นหมาพันธุ์ทางแต่น้องก็น่ารักนะ คุณไปดูอิท่าไหนว่าน้องไม่หล่อ....ชาวเน็ตในกลุ่มรักหมาต่างพากันเดือดพร้อมระบุข้อความว่า ถ้าเขาจะมาพูดแบบนี้ก็อย่าได้สนใจเพื่อนบ้านเลย หากเขาเป็นคนรักหมาจริงเขาจะไม่พูดแบบนี้ สงสัยจะเลี้ยงหมาตามแฟชั่น
บ้างก็บอกว่าถ้าเป็นคนรักหมาจริง คนรักหมาไม่ว่าจะเห็นหมาสายพันธุ์ไหนๆพวกเขาก็จะมองว่า ไม่ว่าพันธุ์ไหนๆก็น่ารักแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีความน่ารักแตกต่างกันออกไปเพื่อนบ้านไม่สมควรที่จะมาพูดแบบนี้นะ ถ้าน้องฟังรู้เรื่องน้องคงเสียใจมาก
ขึ้นต้นคำว่าหมายังไงก็น่ารักอยู่แล้วเนอะ ถึงน้องจะเป็นพันธุ์ไทยแต่อย่าได้น้อยใจไปเลยนะ ไม่ว่าพันธุ์ไหนๆก็น่ารักแตกต่างกันออกไปแหละจ้า แถมหมาไทยฉลาดด้วยนะถ้าสอนดีๆน้องจะเรียนรู้ได้เร็วไม่แพ้หมาพันธุ์ต่างประเทศเลย ดูได้จากหมาหน้าเซเว่นส่วนใหญ่น้องจะเป็นมิตรและแสนรู้เป็นพิเศษ อย่าได้ต่อว่ากันเลยนะยังไงเราก็คนเลี้ยงหมาเหมือนกัน
ที่มา : Ploy Ssiriporn
รวบแล้วนั่งหน้าซึม หลังขโมยไอโฟนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดือดร้อนตำรวจไล่จับทันควัน
เพราะด้วยความที่เป็นสัตว์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเมื่อเห็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมาให้อาหารก็คิดว่าสิ่งของที่อยู่ในมือนั้นเป็นอาหารที่สามารถกินได้ หรืออาจจะด้วยรู้ว่ามันเป็นของสำคัญจึงขโมยไอโฟนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อจะนำไปขายก็อาจจะดูเกินความสามารถของเจ้าลิงตัวแสบตัวนี้เกินไปหน่อย
และเมื่อไม่กี่วันก่อน ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตได้ติดตามโทรศัพท์ไอโฟน X ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หลังได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยบเหลือ ว่าเจ้าลิงตัวแสบขโมยมือถือแล้วขึ้นไปบนเขาโต๊ะแซะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยติดตามอยู่นานจนสามารถนำกลับมาคือผู้เป็นเจ้าของชาวต่างชาตินี้ได้
จึงส่งคืนให้กับนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันรายดังกล่าวซึ่งนักท่องเที่ยวก็ดีใจมากๆและพร้อมกับบอกว่า "ผมชอบไทยแลนด์" ซึ่งภายหลังได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า Time&Expedition ได้นำเรื่องราวของเจ้าลิงตัวแสบนี้มาลงในโลกออนไลน์
โดยได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "ลิงขโมยไอโฟนชาวต่างชาติ!! ตำรวจท่องเที่ยวไล่ตามจนได้กลับคืน ที่มา Phuketandamannews (รูปสุดท้ายไม่เกี่ยวนะ)" ซึ่งภายหลังจากที่รูปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้คนจำนวนมากเข้ามากดไลค์และแชร์
เพราะด้วยรูปสุดท้ายที่ทางเพจนำมาลงนั้นเป็นรูปเจ้าลิงที่ไหนก็ไม่รู้ดันมานั่งหลังรถตำรวจพอดี ผู้คนจึงเข้าใจว่าเจ้าลิงตัวนั้นคือลิงตัวแสบที่แอบขโมยไอโฟนชาวต่างชาติและถูกจับขึ้นมา ซึ่งทั้งนี้จากเรื่องราวดังกล่าวนั้นก็ได้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้คนที่ได้ใช้โลกออนไลน์เป็นอย่างมาก และก็หวังว่าเจ้าลิงตัวแสบนั้นจะไม่ทำแบบนี้อีก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Time&Expedition...
อาหารมื้อสุดท้ายที่เจ้าของวางไว้ให้พร้อมมุ้งใบเก่า
เรามักจะย้ำเตือนกับเพื่อนๆเสมอว่าการนำสุนัขหรือแมวหนึ่งตัวมาเลี้ยงนั้นเท่ากับเป็นการเพิ่มภาระที่เพื่อนๆจะต้องรับผิดชอบต่อหนึ่งชีวิตตลอดไป จึงอยากให้คิดและทบทวนให้ดีหากคิดจะเลี้ยงพวกเขาเพราะมิเช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหามากมายที่ตามมาเช่นเดียวกับเจ้าตูบปอมตัวนี้
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แพรว เองนะได้นำเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้มาโพสต์ลงในกลุ่ม รักหมา ทาสแมว หลังจากที่เธอนั้นได้พบสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนที่ข้างถนนริมสวนกล้วย ซึ่งน้องหมาก็หน้าตาช่างน่ารักน่าชังไม่รู้ว่าเจ้าของนึกยังไงถึงทำกันได้ลง
ซึ่งผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ลงในกลุ่มด้วยว่า "ทำไงดีคะเจอน้องเหมือนโดนเทเลย อยู่ข้างถนนตรงสวนกล้วยหมู่ 13. ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร" เธอจึงช่วยและพาน้องไปหาหมอในเวลาต่อมาโดยเธอได้อัพเดทเพิ่มเติมด้วยว่า
อาการเบื้องต้นคุณหมอได้บอกว่าโดยรวมแล้วน้องโอเคดี แต่ว่าเหมือนน้องจะมีปัญหาเกี่ยวกับช่องท้องโดยคุณหมอเองก็ได้รักษาอาการเบื้องต้นด้วยการให้น้ำเกลือเนื่องจากน้องต้องอยู่ตัวคนเดียว ซึ่งน้องนั้นเป็นสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน
และเธอยังได้อัพเดทเพิ่มเติมอีกด้วยว่าในตอนนี้น้องมีคนมารับเคสน้องไปดูแลต่อแล้วและพาน้องไปหาหมอแล้วอีกด้วย ซึ่งทั้งนี้ก็หวังว่าน้องจะได้อยู่ในความดูแลความพี่รายนี้ต่อไป ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะติดตามเรื่องราวของน้องก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยจ้า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก แพรว เองนะ
สิ้นแล้วเจ้าหลงแมวแก่ในวัย18ปี หลังดํารงตําแหน่งผู้ช่วยขายตั๋วสถานีรถไฟลาดกระบังมาอย่างยาวนาน
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2563 แฟนเพจเฟสบุ๊กของคุณ : ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้เปิดเผยว่าเจ้าหลงในวัย 18ปี สิ้นแล้ว โดยคุณชัชชาติได้เห็นเจ้าหลงเป็นครั้งแรก ต้องย้อนไปถึงปี...
ปีใหม่นี้ไม่มีลืมกัน สาวขายล็อตเตอรี่ควักเงินจัดอาหารชุดใหญ่ให้กับหมาด้อยโอกาสสุขใจทั้งผู้ให้อิ่มใจทั้งผู้รับ
อาจจะด้วยเพราะชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้และจิตใจของคนเรานั้นย่อมแตกต่างกันบางคนเห็นสัตว์จรต้องอดแล้วก็สงสารบางคนเห็นบางก็บอกว่าเป็นเวรเป็นกรรมแต่ก็ไม่เคยยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งกับบางคนก็เลือกที่จะลงมือทำด้วยความเต็มใจต่อเพื่อนสี่ขาร่วมโลกที่ต้องทนหิวให้อิ่มท้องกินอิ่มนอนหลับไม่ต้องทนทุกข์
เช่นเดียวกับสาวใจบุญรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า หทัยรัตน์ ติ๊ดซี่ ธาราเสถียร ได้โพสต์เรื่องราวลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เธอนั้นได้นำไก่ย่างแสนอร่อยมาให้เหล่าสุนัขจรที่เธอนั้นเคยให้อาหารอยู่ทุกวัน ซึ่งเธอได้บอกว่าเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับน้องๆจะได้อิ่มท้องและไม่ต้องทนหิว ซึ่งสุนัขจรเหล่านี้ก็เป็นสุนัขจรที่เธอนั้นให้อาหารมาเป็นเวลา
นานกว่า 3 ปีแล้วโดยเธอนั้นก็จะให้อาหารน้องแบบนี้ทุกครั้งและก็จะอยู่ดูจนกว่าพวกน้องๆจะกินหมดโดยจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้แต่ละในพื้นที่แต่อย่างใด อีกทั้งเธอยังรู้ชื่อรู้ที่อยู่ของสุนัขจรทุกตัวอีกด้วย โดยเธอนั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า " มาแล้วจร้า ของขวัญปีใหม่สำหรับพวกนู๋ไม่ย่างแสนอร่อย น้องๆหมาจรของแม่ ปล.แกะไม้ออกก่อนให้ทุกไม้แล้วนะจร้า"
ซึ่งเรียกได้ว่าเธอนั้นเป็นนางฟ้าของเหล่าสุนัขจรก็ว่าได้เลยทีเดียว โดยเธอนั้นมักจะแบ่งปันรายได้จากการขายล็อตเตอรี่ทุกเดือน เพื่อนำมาซื้ออาหารให้แก่เหล่าสุนัขจรอยู่เป็นประจำ โดยพยายามให้กับสุนัขจรหลายสิบตัวอย่างเท่าเทียมกันเพื่อที่จะได้กินอิ่มและนอนหลับอย่างสบาย
และน้องหมาทุกๆตัวนั้นก็เชื่อฟังและเป็นมิตรกับเธอมากๆ เพราะสำหรับพวกเขาแล้วเธอคงไม่ต่างจากนางฟ้าที่คอยดูแลใส่ใจและให้ชีวิตต่อพวกเขาเพื่อที่พวกเขาจะได้มีชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น
และสุนัขหลายๆตัวก็มองด้วยความสงสัยเพราะในตลอดชีวิตของพวกเขานั้นแทบจะไม่ได้กินอะไรดีๆแบบนี้เลย เนื้อไก่เต็มๆคำ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วสุนัขจรก็ได้กินเพียงแค่เศษขยะหรือเศษอาหารที่เหลือทิ้งเอาไว้ตามถังขยะเพียงเท่านั้น
ซึ่งบางตัวก็เป็นสุนัขแม่ลูกอ่อนอีกด้วย...
ไอ้ป๋องหมาเหงา ชอบหนีออกจากบ้านมามุดรั้วหาไอ้เปี๊ยกเพื่อนซี้ พอเริ่มอ้วนป๋องมุดจนตัวติดต้องคอยเรียกให้ไอ้เปี๊ยกช่วย
การเลี้ยงสุนัขนั้นก็เหมือนกับการที่เรานำเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยง ซึ่งสมองและความคิดของพวกเขาเองก็มีเท่าเพียงเด็กอายุสองขวบเพียงเท่านั้น และหากเราจะพูดถึงเด็กเล็กก็คงจะหนีไม่พ้นการเล่นซุกซนด้วยความเป็นเด็ก แล้วยิ่งถ้าหากมีเพื่อนบ้านเป็นรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วก็ยิ่งเข้าไปกันใหญ่
เช่นเรื่องราวในวันนี้หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ป้า แป้ง ได้นำเรื่องราวของเจ้าป๋องสุนัขตัวน้อยของเพื่อนบ้านข้างๆ พันธุ์พื้นเมืองตัวแสบที่เป็นสุนัขสุดอินดิ้ที่รู้จักเอาตัวรอด เพราะเมื่อเวลาที่เจ้าป๋องหิวก็มักจะแอบรอดรั้วบ้านเพื่อที่จะเข้ามากินอาหารที่มีใส่ในถ้วยเอาไว้ให้ตลอดเวลาและป๋องนั้นมีนิสัยที่เจียมเนื้อเจียมตัวสุดๆ
ไม่สร้างความเดือดร้อนหรือความรำคาญใดๆป๋องเจียมตัวและอยู่เป็น แต่คือประเด็นนั้นอยู่ตรงที่ว่าเวลาที่ป๋องอยากจะไปไหนมาไหนป๋องก็จะไปตามทางของป๋องและไม่มีใครสามารถห้ามป๋องได้ แต่ทว่าป๋องมักจะตูดติดอยู่ที่หน้าประตูรั้วหน้าบ้านและไม่ว่าจะดึกเพียงใดผู้โพสต์ก็จะต้องมาดันเจ้าป๋องออกไปทุกที
ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ลงในกลุ่ม Gluta Story Club ด้วยว่า "อยากจะเล่าเรื่องไอ้ป๋อง...ไอ้ป๋องคือหมาน้อยสีดำข้างบ้านพันธุ์พื้นเมืองทั่วไปหรืออะไรก็ม่ายรู้...ป๋องเป็นหมาเด็กที่รู้จักเอาตัวรอด เวลาหิวป๋องจะลอดรั้วเข้ามาขออาหารกินซึ่งก็มีใส่ในถ้วยไว้ตลอด เวลาเหงาก็ลอดรั้วเข้ามาขอเล่นด้วย"
"ซึ่งบางทีก็ติดอยู่ตรงซี่รั้วต้องคอยดูมัน ป๋องไม่สร้างความรำคาญป๋องเจียมตัวป๋องอยู่เป็น...แต่ประเด็นคือป๋องอยากมาเวลาไหนก็มาป๋องคือหมาอินดิ้ ติดอยู่ตรงรั้วตอนกลางคืนดึกแค่ไหนก็ดันตูดมันออก....อ่อส่วนอีกตัวทีบ้านชื่อไอเปี๊ยก..ไอ้นี่ก็ตัวดีช่วยเรียกไอ้ป๋องเข้าบ้านเก่ง!!!"
จึงกลายเป็นเรื่องราวสุดน่ารักระหว่างไอ้ป๋องเจ้าตูบน้อยตัวแสบที่รู้จักการเอาตัวรอดและเพื่อนสุนัขของผู้เป็นเจ้าของรายนี้อย่างไอ้เปี๊ยก ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้คนจำนวนมากเข้ามากดไลค์และสร้างรอยยิ้มให้กับคนในกลุ่มเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทำให้สุนัขของเจ้าของรายนี้มีเพื่อนเล่นเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ป้า แป้ง
และนี่คือการเที่ยวครั้งแรกของผม กับช่วงเวลาที่แสนสั้นที่เหลือและอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต
ด้วยการที่ได้เกิดมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนั้นเป็นพรที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ และจะต้องทนทุกข์อยู่กับโรคนั้นๆ ซึ่งหากเพื่อนๆหรือสัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆได้เกิดมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้วก็คงจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะบางชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้และต้องป่วยทนอยู่กับโรคนั้นๆมันช่างทุกข์ใจเหลือเกิน
เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า อรพิน เหล่าลุมพุก ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดเศร้าใจลงในกลุ่มคนรักแมวอย่างกลุ่ม ทาสแมว หลังจากที่เขานั้นได้พาเจ้าเหมียวสุดที่รักไปเที่ยวครั้งแรกในชีวิตแต่ทว่าความน่าเศร้าใจนั้นคือมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของเจ้าเหมียวเช่นเดียวกัน
เพราะเจ้าเหมียวรายนี้ดันเป็นโรค FIV หรือที่รู้จักกันในโรคเอดส์แมวนั่นเอง ด้วยความดีใจของน้องที่ได้มาทะเลเป็นครั้งแรกแต่ก็ทำเอาเจ้าของนั้นสุดปวดใจเพราะด้วยโรคดังกล่าวนี้จะทำให้ภูมิคุ้มกันของเจ้าเหมียวนั้นอ่อนแอลงเรื่อยๆ แถมเจ้าเหมียวเองก็แก่มากแล้วคงจะเหลือเวลาอยู่ต่ออีกไม่มากนัก
และนี่ก็คือช่วงเวลาอันแสนสั้นของผมเองงับ เมื่อเจ้าของรายนี้ได้เห็นเจ้าเหมียวนั้นมีความสุขกับการได้ไปเที่ยวก็ทำให้สุขใจอยู่บ้าง แต่ทว่าการที่ได้รู้ว่าน้องมีเวลาเหลืออยู่น้อยนิดก็ทำให้ผู้เป็นเจ้าของรายนี้กังวัลในทุกคืนวันเพราะกลัวว่าจะตื่นมาแล้วไม่ได้ยินเสียงร้องของน้องอีกต่อไป
โดยผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "นี่คือการเที่ยวครั้งแรกในชีวิตผมครับดีใจมาก ผมแก่มากและเป็น FIV นี่คือช่วงเวลาแสนสั้นที่เหลือของผมครับ ผมมีลูก 3 ครับเป็น FIV ทั้งครอบครัวครับ"...
วิ่งหน้าตาตื่น มาหาด้วยความร้อนใจทำหน้าเหมือนให้ช่วยอะไร ที่ไหนได้มดกัดหูน้อง
เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นก็เหมือนกับการที่เรานำเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยง ซึ่งในบางครั้งพวกเขาเองก็คิดว่าพวกเรานั้นเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเขาจริงๆ และเมื่อเวลาเด็กน้อยนั้นมีเรื่องให้ช่วยเหลือหรือบาดเจ็บก็มักจะวิ่งมาหาคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราๆเสมอ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Khun K-t ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของลูกชายหรือก็คือเจ้าเหมียวตัวส้มสีอ่อนที่เห็นในรูปนั่นเอง ซึ่งเจ้าเหมียวนั้นได้วิ่งหน้าตาตื่นมาหาผู้เป็นแม่หรือผู้เป็นเจ้าของด้วยความร้อนใจและทำหน้าทำตาเหมือนกับจะร้องไห้เหมือนว่าถูกใครรังแกมา
ซึ่งในตอนแรกผู้เป็นเจ้าของเองก็ไม่ทราบว่าน้องเป็นอะไรเพราะด้วยความตกใจที่อยู่ๆน้องก็วิ่งมาหาเหมือนกับกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง โดยทันใดนั้นเจ้าของก็ได้เหลือบไปเห็นเจ้ามดแดงตัวหนึ่งกำลังงับหูน้องอยู่จึงได้รับรู้ว่าเจ้าเหมียวนั้นต้องการให้ช่วยเหลือและคงจะร้องไห้ด้วยความเจ็บ
ซึ่งผู้เป็นเจ้าของก็เลยได้เอามดตัวนั้นออกจากหูน้องแต่น้องก็ยังคงทำหน้าตาเศร้าด้วยความเจ็บแล้วคงอยากที่จะฟ้องแม่ว่าตัวเองนั้นถูกเจ้ามดรังแกมา ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "ลูกชายวิ่งมาหาเหมือนจะบอกอะไร ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ที่ไหนได้มดกัดหู โอ๋ๆๆๆแค่มดกัดนิดเดียงเอง เพี้ยง!!เดี๋ยวก็หายเนอะ พี่ขุนทอง" ซึ่งจริงๆน้องก็คงจะเจ็บมากเพราะหูของแมวนั้นมีเส้นประสาทอยู่เป็นจำนวนมาและไวต่อความรู้สึกมากๆด้วยเช่นเดียวกันก็อยากจะฝากเจ้าของให้ระวังเจ้ามดตัวแสบเอาไว้ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Khun K-t