ตกลงมาจากรถขณะกำลังวิ่งอยู่กลางถนนสามเลน กระเสือกกระสนหาที่หลบภัยเพื่อตัวรอด
ในทุกๆครั้งที่เรานั้นได้บอกย้ำกับเพื่อนๆเสมอในเรื่องของการให้เลี้ยงสัตว์ในระบบปิด เพราะด้วยความปลอดภัยในระบบที่ปิดนั้นสำคัญมากมายกับชีวิตของสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรา ด้วยอาจจะด้วยอันตรายจากภายนอกนั้นเป็นเรื่องที่เรามองไม่เห็นจนกว่าที่เรานั้นจะได้พบเจอกับตัวเราเอง
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใข้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nattakarn Prapatsorn ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้หลังจากที่ได้พบน้องติดอยู่บนหลังรถกะบะที่กำลังวิ่งแล่นอยู่ในบนถนนสามเลนด้วยความเร็ว ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็ได้ขับรถตามไปเมื่อได้พบเห็นเจ้าเหมียวรายนี้
จนกระทั่งเธอได้ขับตามไปสักระยะนึงน้องก็ได้พยายามเงยหน้าขึ้นมาด้วยความกลัว เพราะรถกระบะคันดังกล่าวนั้นวิ่งแล่นด้วยความเร็ว จนถึงช่วงเวลาที่น้องได้พยายามจะกระโดดลงมาจากรถ ซึ่งในตอนนั้นผู้โพสต์ก็ได้ขับตามมาเพื่อดูน้องพอดี จนได้ช่วยเหลือน้องเอาไว้
โดยในคลิปก็เป็นภาพที่เธอได้บันทึกเอาไว้เมื่อน้องตกลงมาจากรถด้วยความหวาดกลัวและพยายามกระเสือกกระสนเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด ด้วยไม่รู้ว่าตัวว่าตนนั้นอยู่ที่ไหนเพราะน้องเป็นแมวพันธุ์ซึ่งคาดว่าถามผู้เป็นเจ้าของเองก็น่าจะเลี้ยงด้วยในระบบปิด แต่คิดว่าน่าจะติดรถออกมา
และทางเจ้าของก็คงจะไม่ทราบว่าน้องนั้นติดมาด้วยอยู่ที่หลังรถ ผู้โพสต์จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่จะตามหาเจ้าของของน้อง เพราะคิดว่าน้องน่าจะคิดถึงเจ้าของมากแล้ว ทั้งนี้เองทางผู้โพสต์นั้นได้ก็ได้อัพเดทเพิ่มเติมเอาไว้ว่าน้องไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดด้วยหากเพื่อนๆในกลุ่มคนไหนพอจะรู้จักเจ้าของน้องก็ช่วยติดต่อกลับมาที่ตนได้ทันที
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nattakarn Prapatsorn
สาวโวยเมื่อปล่อยให้พ่อลูกไปตลาด เล่นหายนานเป็นชั่วโมงทักไปถามส่งรูปมาบอกยังกลับตอนนี้ไม่ได้
หากเพื่อนๆที่ได้เป็นทาสแมวแล้วก็คงจะเข้าใจกันดี เมื่อหากเราได้พบเจอเจ้าเหมียวจรภายนอกบ้านก็คงจะอดเล่นกับพวกเขานั้นไม่ไหว เพราะด้วยการเป็นทาสแมวเองเมื่อได้เห็นหรือพบเจอกับแมวที่ใดๆ ก็เป็นต้องหันไปหาหรือสนใจเข้าไปทักทายแม้ว่าพวกน้องๆจะเมินหน้าใส่เราก็ตาม
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แคทรียา จำนงมี ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของลูกของเธอเมื่อเธอนั้นปล่อยให้ลูกและสามีของเธอไปตลาดกันเพียงลำพัง จนหายไปเป็นเวลานานนับชั่วโมงเธอจึงได้ไลน์ไปถามสามีของเธอว่าอยู่ที่ไหนกันทำไมถึงยังไม่กลับมาบ้านอีก
ซึ่งสามีของเธอก็ได้ส่งรูปภาพมาให้ และเมื่อเธอได้เห็นเธอก็รีบตอบกลับไปในทันทีว่าพอก่อนไหม ที่บ้านก็เยอะแล้วสีดำอีกแล้ว จนเวลาผ่านไปสักพักนึงก็ยังไม่มีวี่แววว่าสามีและลูกของเธอจะโผล่กลับมายังบ้าน จนเมือแฟนของเธอได้ไลน์มาตอบอีกว่าลูกไม่ยอมไป
เพราะด้วยความเป็นทาสแมวและที่บ้านก็ได้เลี้ยงแมวทำให้ลูกของเธอนั่งเล่นกับเจ้าเหมียวดำตัวน้อยเป็นเวลานาน จนเธอได้บอกว่าโอเครทาสแมวแบบเต็มตัวสีดำอีกแล้ว โดยเรื่องราวนี้ได้เล่าผ่านลงยังกลุ่ม ทาสแมว Offcial ซึ่งทำให้เพื่อนๆในกลุ่มต่างพากันชื่นชมในความน่ารักของเจ้าหนูตัวน้อย
และผู้เป็นแม่อย่างเธออีกด้วยที่ได้เลี้ยงลูกออกมาได้น่ารักและมีหัวใจที่โอบอ้อมอารี โดยทั้งนี้ก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆเอาไว้ว่าการเลี้ยงสัตว์ร่วมกับเด็กเล็กนั้นเป็นสิ่งที่คุณจะได้ถึงจิตใจที่เมตตาเมื่อเด็กคนนั้นได้เติบโตขึ้นมาเขาจะมีหัวใจที่คิดถึงผู้อื่นและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นแม้แต่สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆเหล่านี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก แคทรียา จำนงมี
แม่แมวต้องเสียลูกในท้องไปตลอดทั้งชีวิต เหตุเกิดจากความเข้าใจผิดคิดว่าน้องแค่อ้วน
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Bonut Hester ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พาแมวไปหาหมอที่คลีนิคและปรึกษากับคุณหมอในเรื่องของการทำหมันแมว และคุณหมอก็ลองจับๆท้องของน้องดูแล้วบอกแบบนี้ไม่ท้องนะน้องแค่อ้วน จนทางคลีนิคได้นัดวันมาทำหมันให้กับน้อง จนกระทั่งน้องเกิดแท้งลูกออกมา
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า สอบถามหน่อยค่ะ เราไปปรึกษากับคุณหมอทำหมันแมวและตรวจสุขภาพมาด้วย หมอเขาฉีดยาโรคหัดกับป้องกันพิษสุนัขไปให้ แต่คุณหมอบอกน้องยังไม่ท้องนะคะแต่พอผ่านมา10วันแมวเกิดแท้งลูกออกมา1ตัว
เลยกลับไปคุยกับทางคลีนิคแต่เค้าปัดความรับผิดชอบบอกว่าลูกค้า ไม่ได้บอกให้ตรวจให้ตรวจตั้งครรภ์ทั้งที่ตอนไปปรึกษานั้นเรื่องทำหมันเค้าคลำๆท้องแล้วบอกว่าไม่ท้องแมวแค่อ้วนเฉยๆและนัดทำหมันอีก2อาทิตย์ ก่อนทำหมันหมอต้องตรวจก่อนไหมค่ะว่าแมวตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์
จนเรื่องราวของเธอนั้นถูกโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว จนชาวเน็ตในกลุ่มต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่าถ้าอยากจะเช็คน้องเพื่อความแน่ใจต้องอัลตร้าซาวด์ดู แต่หลายท่านก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าอาจจะผิดพลาดเรื่องการสื่อสารนะ เพราะหมอเองก็คงไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
แต่อัพเดตล่าสุดจากทางผู้โพสต์ ตอนนี้ทางคลีนิคเขาได้รับผิดชอบทุกอย่างแล้วหลังเรื่องราวนี้เกิดขึ้นและถูกโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว แต่ชาวเน็ตหลายท่านต่างเป็นกังวลอยากให้ทางเจ้าของลองเช็คดูในท้องของน้องอีกสักครั้งเพื่อความแน่ใจว่าไม่มีลูกแมวหลงเหลืออยู่การอัลตร้าซาวด์คือคำตอบว่าลูกของแมวของเธอนั้นออกมาหมดแล้วหรือไม่
ที่มา Bonut Hester
ถูกเขาชนเข้าแล้วนำไปไว้ข้างทางให้รอวันสิ้นลม ด้วยเพียงเพราะตนเป็นเพียงจรที่ไร้ค่า
อาจจะเพราะด้วยบุญแต่กรรมที่ได้ทำมาทำให้หลายๆครั้งเราจึงต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่ต้องจำทน ด้วยชีวิตนั้นเลือกเกิดมาไม่ได้เพราะใครๆเขาก็อยากจะเกิดมามีชีวิตที่สุขสบายไม่ต้องทุกข์ยาก แต่ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะส่งเสียงร้องเรียกใครเล่าเค้าจะช่วยเหลือ เพราะด้วยตนเป็นเพียงแค่จร
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Akaranit Tanchai ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เธอได้พบน้องนอนหอบหายใจโรยรินอยู่ที่ริมข้างถนนหลังจากที่น้องถูกรถ ชน มาโดยคาดว่าน่าจะมีคนเอาน้องเข้ามาวางเอาไว้ข้างทางแทน ซึ่งจากที่จะพาไปรักษาหรือหาหมอ
เพียงเพราะตัวเป็นเพียงจรที่ไร้ใครเขาจะสน ด้วยชีวิตนั้นต้องต่อสู้ดิ้นรนเพราะเพียงคนเขาที่ไร้ใจเมตตา ผู้โพสต์จึงอยากจะหาคนช่วยเหลือ เพราะถ้าให้อยู่แบบนี้ไว้น้องคงจะไม่วายต้องสิ้นลม อีกทั้งในตอนที่เธอได้เจอน้องเธอเองก็ต้องรีบไปทำงานและไม่เวลาแต่ด้วยเธอก็กลับมาพาน้องขึ้นรถกลับไปไว้ที่บ้านก่อนด้วยแล้ว
จึงอยากหาใครที่พอจะมีใจเมตตาหรือมีทุนทรัพย์ช่วยเมตตารับน้องไปรักษาเพื่อต่อลมหายใจกับหนึ่งชีวิตที่กำลังจะหมดลม โดยเธอเองได้ระบุพิกัดที่ได้พบน้องเอาไว้ที่ วัดลาดปลาดุก นนทบุรี โดยหลังจากนั้นเธอก็ยังได้อัพเดทเพิ่มเติมด้วยว่าในตอนนี้เธอได้พาน้องไปหาคุณหมอที่คลีนิคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยทางคุณหมอเองก็ได้ตรวจอาการเบื้องต้นให้และได้แจ้งกับเธอว่าน้องน่าจะมีปัญหากับทางสะโพก และทางคลีนิคของคุณหมอเองก็ไม่ได้รับเคสกระดูกจึงได้นำแนะให้เธอพาน้องไปส่งตัวที่โรงพยาบาลสัตว์มหิดลในวันพรุ่งนี้ เพราะค่ารักษาของที่นั้นจะถูกเธอจึงต้องพาน้องกลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อน โดยจะให้อาหารและนำเป็นปกติและจะต้องตรวจเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป จึงอยากฝากเพื่อนๆเอาไว้ถ้าเกิดใช้รถใช้ถนนเองก็อย่าลืมระมัดระวังและอย่าได้ลืมไปว่าหนึ่งชีวิตก็มีค่าไม่ว่าจะเกิดมาเป็นอะไรก็ตามแต่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Akaranit Tanchai
นั่งตาละห้อยคอยเฝ้าหา เพราะเหลือตัวลำพังด้วยคิดถึง หลังจากที่พี่น้องของตนถูกเขาพรากจากไปดาวแมวหมดแล้ว
ด้วยชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นเพียงจรจึงไร้แม้ที่อาศัยที่จะอยู่อย่างหลบภัยหรือแม้จะปลอดภัยจากอันตรายยามหลับนอน เมื่อชีวิตเลือกเกิดมาไม่ได้จึงได้แต่ดิ้นรนต่อสู้กับภัยร้ายรอบตัวเอง ทั้งตัวก็ยังคงเล็กและไม่รู้จักวิธีป้องกันตัวจากโลกใบใหญ่หรือที่ที่ปลอดภัยต่างๆนาๆ
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Warisara Kingcha ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยหลังจากที่พบน้องนั่งตาละห้อยด้วยใจที่เฝ้าคอยหาเมื่อพี่น้องของตนนั้นหายไปหมด โดยในตอนแรกเธอได้เล่าว่า มีพี่น้องอยู่ทั้งหมด 4 ตัวแต่ตอนนี้เหลืออยู่เพียงตัวลำพังเพราะด้วยถูกเจ้างูร้ายพรากชีวิตจนสิ้นใจ
โดยตัวน้องเองก็มีอายุเพียงแค่ 1.5 เดือนเพียงเท่านั้นแต่ก็ต้องมาเหลือตัวลำพังเพียงเพราะไร้ที่อยู่อาศัย สุขภาพแข็งแรงกินอาหารได้แต่ก็ยังคงไว้ด้วยความคิดถึง เพราะชีวิตที่เลือกไม่ได้เกิดมาเป็นเพียงแค่จรที่ไร้แม้บ้านที่ปลอดภัยจะให้แม้พักพิงจึงต้องดิ้นรนต่อสู้กับสิ่งที่ตนต้องได้เจอ
และแม้ก็ยังไม่รู้ตัวว่าจะถึงคิวของตนวันไหน จึงอยากจะฝากหากเพื่อนๆคนได้อยากจะได้น้องไปรับเลี้ยงก็ให้ช่วยติดต่อมาให้ที่ โดยเธอได้ระบุพิกัดที่น้องได้อยู่เอาไว้ที่ นนทบุรี กทม ปทุมธานีหรือสถานที่ใกล้เคียงโดยเธอยินดีที่จะส่งให้ถึงที่เพราะน้องน่ารักและพูดรู้เรื่องมากๆ
ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเอาไว้สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่คิดจะเอาน้องแมวหรือสุนัขไปเทไว้ อยากให้ลองมองถึงสภาพความเป็นอยู่ในระแวกดังกล่าวเอาไว้ด้วยเพราะชีวิตที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตต่อโลกใบใหญ่ มันอาจจะมีอะไรอันตรายมากกว่าที่เพื่อนๆได้คิดเอาไว้เยอะแยะมากมาย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Warisara Kingcha
วิ่งหนีสุดกำลังที่มีปีนขึ้นต้นไม้ด้วยใจหา ส่งเสียงร้องเรียกหาว่าแม่จ๋าจะช่วยเหลือ หลังตัวถูกเขาเอามาเทไว้
ด้วยเพียงเพราะชีวิตเกิดมาเป็นแค่สัตว์จร เขาจึงไม่เคยมองว่าจะต้องอยู่อย่างเช่นไรหากถูกเอามาเทไว้ให้ไร้แม้ที่จะพึ่งพิง ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้ต้องก้มหน้าก้มตาชดใช้ตามที่เขากำหนด อีกทั้งยังคงเป็นเด็กที่ยังเล็กไร้เดียงสาไม่รู้ว่าสิ่งไหนๆเป็นอันตรายแก่ตัวเอง
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า North Nadhamann ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยหลังจากที่เธอได้ยินเสียงหมาเห่า ซึ่งในตอนแรกเธอก็ไม่รู้ว่าหมานั้นเห่าอะไรซ้ำอยู่ที่เดียว จนสงสัยเธอจึงได้ออกไปดูก็ได้พบเจ้าตัวเล็กตัวนี้เกาะอยู่บนตอต้นไม้ด้วยความกลัวจนตัวสั่น
ส่งเสียงร้องหาแม่จ๋านั้นว่าอยู่ไหน ด้วยตัวเองก็กลัวจนแทบขาดใจแต่ก็ไร้แรงจะปกป้องตนเอง ซึ่งคาดว่าน้องคงจะถูกนำมาเทเอาไว้และไร้หนทางจะไปเมื่อเจอหมาจึงวิ่งขึ้นหาที่หลบเอาชีวิตรอด เมื่อได้เห็นต้นไม้ที่คิดว่าหลุดพ้นจึงเกาะเอาไว้พร้อมกับส่งเสียงร้อง
เธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์บอกลงในกลุ่มหาบ้านน้องหมา น้องแมว เพื่อว่าใครจะอยากรับน้องไปดูแลเพราะเห็นภาพแล้วก็สุดแสนจะเวทนา โดยเธอได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่เอาไว้ที่โคราช ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก North Nadhamann
หนุ่มวิ่งแกร็บกลางสายฝน ได้ยินเสียงร้องเหมียวๆเข้าโสนประสาท จึงตามเสียงไปพบน้องติดอยู่ในท่อระบายน้ำ
เพราะในสมัยนี้อาชีพที่กำลังเป็นที่นิยมหรือคนกำลังเรียกใช้มากที่สุดนั่นก็คือ Grab หรือพนักงานวิ่งส่งของตามออเดอร์ของลูกค้า ซึ่งในปัจจุบันก็มีผู้คนให้ความสนใจทั้งเป็นลูกค้าและหันมาวิ่งแกร็บกันอย่างเป็นจำนวนมาก เพราะในสมัยนี้อะไรที่เป็นเรื่องของเวลาหรือความสะดวกรวดเร็วก็เป็นสำคัญ
แต่ทว่าในหว่างงานก็อาจจะเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นได้เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Fuangwicha Phacharoen ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวในระหว่างการทำงานของเขาซึ่งเมื่อในขณะที่เข้าได้วิ่งแกร็บท่ามกล่างสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงเวลา ประมาณ 23.30น.
เขาก็ได้จอดรถติดไฟแดงแยกราชภัฏในวังหวัดอุบลซึ่งเขาก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องเหมียวๆ เข้าที่หูเขาจึงได้ตามหาเสียงดูและย้อนกลับไปตามเสียงนั้น จนได้พบว่าที่มาของเสียงอยู่ในท่อระบายน้ำท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหน่วง โดยในสภาพที่เขาได้เห็นพบน้องกำลังถูกน้ำท่วมอยู่ในท่อระบายน้ำ
เจ้าเหมียวน้อยตัวนี้กำลังจะถูกน้ำท่วมด้วยสภาพที่เนื้อตัวที่เปียกปอนพร้อมกับกำลังสำลักน้ำและส่งเสียงร้องไม่หยุดด้วยความกลัว แต่ก็เผอิญมีพี่ใจดีขับแกร็บเหมือนกันมาช่วยกันเอาไม้เขี่ยเพื่อที่จะนำน้องได้ออกมาอีกแรง และสุดท้ายก็ช่วยเหลือน้องออกมาจากท่อที่น้ำกำลังท่วมได้สำเร็จ
ซึ่งทางผู้ขับแกร็บรายนี้เองก็ได้บอกอีกด้วยว่า โชคดีแล้วที่ในวันนี้เขาได้ผ่านมาทางนี้เพราะไม่วันนี้เข้าไม่ผ่านมาทางนี้เจ้าเหมียวน้อยก็คงจะต้องกลับดาวแมวไปแล้วแน่ๆ ด้วยเขาเองก็ต้องขอขอบคุณพี่แกร็บอีกคนที่ช่วยเขาช่วยเหลือเจ้าหนูน้อยตัวนี้อีกด้วย ด้วยในตอนนั้นเขาเองก็ยังไม่ทันได้ถามชื่อเลยเพราะด้วยยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือและปฐมพยาบาลน้องในเบื่องต้น โดยทั้งนี้เองเขาก็ตัดสินใจว่าจะรับน้องเอาไว้เลี้ยงเองเป็นที่เรียบร้อย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Fuangwicha Phacharoen และชมคลิป
https://www.facebook.com/100017373847260/videos/675291506393305/
สาวพาแมวไปเดินเล่น แต่กลับเจอคำพูดของคนเลี้ยงแมวมาว่าหน้าตาดีแต่เลี้ยงแมวพันธุ์ไทย
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Patumrat Jamfung ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้เจอกับประสบการณ์สุดย่ำแย่ หลังเธอนั้นได้พาแมวไปเดินเล่นยังสถานที่หนึ่ง และเธอนั้นก็ได้พบเจอกับคนเลี้ยงแมวที่พาน้องแมวมาเดินเล่นเช่นเดียวกัน และสาวคนนั้นก็ทักกับเธอมาว่า หน้าตาดีแต่เลี้ยงแมวพันธุ์ไทย?
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ไม่ชอบประโยคที่ว่า “หน้าตาดีแต่เลี้ยงแมวพันธุ์ไทย” ถ้าเลี้ยงให้ดีก็ควรเลี้ยงแมวพันธุ์ดีๆไปเลยเสียดีกว่า แล้วแมวตัวนี้ก็เอาไปให้คนอื่นเลี้ยงไป นี่เหรอคะความคิดของคนที่เลี้ยงแมวด้วยกัน เจอประโยคแบบนี้เข้าไปคืออึ้งไปสักพักเลยค่ะ
เลี้ยงแมวไทยแล้วผิดตรงไหนคะ คือผิดตรงที่เป็นแมวพันธุ์ไทยใช่ไหม? นี่คือพาไปเดินเล่นค่ะ แล้วเจอกันเขาก็พาแมวมาเดินเล่นเจอพูดประโยคแบบนี้สตั้นเลยไปเลยค่ะ คือเราเจอประโยคนั้นเข้าไปคือรีบเดินกลับบ้านเลยค่ะ แล้วก็คิดด้วยว่าจะไม่พาไปเดินเล่นแถวนั้นอีกเลย
และเธอยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แมวจรก็น่ารักนะคะ พอเวลาไปเดินตลาดไปทำบุญที่วัดแมวจรจะมาเล่นด้วยตลอด นางดูแบบเฟรนลี่กันทุกตัวอยากเก็บมาเลี้ยงที่บ้านมากๆเลยค่ะ ส่วนเจ้าตัวนี้เพิ่งจะเลี้ยงมาได้ประมาณ...
ยังคงคอยหลังพลัดหลงกับเจ้าของ นั่งเฝ้าท่านี้มานานหลายชม.ด้วยใจหวัง ว่าจะเจอเจ้าของกลับมารับตนอีกครั้ง
หากจะเอื้อนเอ่ยถึงความซื่อสัตย์จะคงจะหนีจากใครไปไม่ได้นอกจากสุนัข เพราะถ้าเพื่อนๆที่เคยได้เลี้ยงหรือเคยสัมผัสก็จะรู้จักกับความรักที่พวกเขานั้นมีให้กับเรา เพราะแม้เพียงแค่คุณเคยให้ข้าวให้น้ำเพื่อประทังความหิวพวกเขาก็จะจดจำพวกคุณไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ohm Phattaneeya ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้หลังจากที่เธอได้พบน้องเข้าที่หน้าเซเว่นแถวลาดกระบังในจังหวัดกรุงเทพ ด้วยเธอได้สังเกตเห็นว่าน้องเหมือนว่ากำลังคอยใครสักคนอยู่
เพราะด้วยน้องได้นั่งอยู่อย่างนี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว ซึ่งเธอก็ไม่เคยได้พบเห็นน้องมาก่อนเลยไม่รู้ว่าน้องจะหลุดมาหรือพลัดหลงกับผู้เป็นเจ้าของมา แต่ที่แน่ๆคือน้องไม่ยอมลุกไปไหนแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใดก็ตาม อีกทั้งเธอยังบอกไว้ว่าน้องนั้นมีปลอกคออยู่ด้วย
เธอจึงกลัวว่าจะมีใครทำสุนัขหายหรือหลงลืมน้องเอาไว้ เพราะไม่อยากจะคิดไกลว่าถูกใครเขาเอามาเทแล้ว เธอจึงได้มาโพสต์เรื่องราวเพื่อจะตามหาผู้เป็นเจ้าของของน้องเพราะน้องยังคงเฝ้ารอด้วยใจหวังว่าเจ้านายจะกลับมา ซึ่งหากใครที่นำไปเทเอาไว้ก็อยากจะให้เปลี่ยนใจได้เห็นความรักที่เฝ้ารอหาเพื่อว่าจะได้พบกันอีกสักครั้งหนึ่ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Ohm Phattaneeya
ประกาศหาบ้านรูปลักษณะดูน่ารัก เป็นแมวพันธ์เคยเป็นจรไร้ที่อยู่อาศัยแต่ก่อนรับไปช่วยดูสรรพคุณ
ในบางครั้งการที่ถูกเลี้ยงดูมาก็มีผลทำให้บุคคลหรือสัตว์ต่างๆนั้นได้เติบโตมาเป็นในแบบที่ถูกเลี้ยง ดังคำว่าหลายคนเปรียบว่าเด็กนั้นก็เหมือนดังผ้าขาวสะอาด ที่ครอบครัวหรือผู้เป็นพ่อเป็นแม่ได้ใส่เสริมเติมสีให้จนได้เติบใหญ่มาจากการปรุงแต่ง และก็มิใช้เพียงแค่มนุษย์เพียงเท่านั้นแม้แต่สัตว์ก็ไม่ต่าง
เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้เมื่อไม่นานมานี้ที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เพทาย ได้ประกาศหาบ้านให้กับน้องแต่ทว่าก็มีเงื่อนไขซึ่งเธอได้ย้ำและกำชับเอาไว้ว่าให้อ่านให้ละเอียด ทว่าน้องนั้นเป็นแมวจรในตอนแรกๆคนแถวนี้ก็เอ็นดูไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่ตามแต่ แต่ตอนนี้กลับมีนิสัยที่ไม่ดีและมีปัญหากับผู้คนแถวนี้ตลอด
ด้วยทางเธอเองไม่สามารถี่จะรับเลี้ยงไดเพราะบ้านเธอนั้นก็มีแมวอยู่แล้ว ซึ่งน้องมีชื่อว่า โดนัท อายุไม่ทราบแต่เป็นเพศชาย ไม่เคยไปตรวจโรคใดๆซึ่งเธอก็ขอบ้านที่สามารถจะรับมือกับแมวดุได้น้องเอาแต่ใจน้องขี้หงุดหงิด จับไม่ได้เลยอุ้มไม่ได้เกินเพียงแค่ 2 วิ และงับได้เจ็บมากๆ ถ้าจะจับต้องเกาให้น้อง
และขอเป็นบ้านที่ไม่มีแมวอื่นใดๆ เพราะด้วยน้องนั้นดุมากและฟัดแมวแถวนี้สิ้นใจไปหลายตัวแล้ว และนี่ก็คือเหตุผลหลักๆที่เริ่มมีปัญหา เพราะแมวที่น้องไปฟัดส่วนมากเป็นแมวมีเจ้าของและแม้แต่แมวตัวเมียน้องก็ไม่เว้น ฟัดตัวเมียสิ้นใจไปแล้ว 2 ล่าสุดเพิ่งจะไปฟัดกับลูกแมวของคุณลุงแถวนี้ไปอีกยกคอกอีก
ซึ่งคุณลุงเองก็โกรธและเสียใจมากๆ และด้วยปกติแล้วคุณลุงเองก็เป็นคนรักแมวมากๆแต่ในตอนนี้ก็ไม่ชอบเจ้าโดนัทมากๆไปแล้ว...