ช่วยจับคนร้าย หลังขวดน้ำหอมตกมาแตกไม่เป็นท่า สอบสวนแล้วไม่ได้ความแต่หนึ่งในนั้นมีพิรุธ

หากว่าเพื่อนๆหลายๆคนที่เป็นทาสแมวอยู่แล้วก็คงจะเข้าใจในความอินดิ้ ของพวกเขาที่ได้มีต่อเราเพราะเมื่อในบางครั้งพวกเขาก็ดูฉลาดมากเกินความสามารถที่เราจะมองเห็น แต่ในบางครั้งพวกเขาก็ทำเป็นรู้ไม่ชี้และไร้เดียงสาตลอด ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ในความจริงแล้วพวกเขานั้นฉลาดมากกว่าที่พวกเราคิดเสมอ โดยมีการวิจัยได้เผยไว้ว่าแมวนั้นมีความฉลาดและความรู้มากกว่าสุนัขแต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาพยายามที่จะปกปิดมันเอาไว้ไม่ให้พวกเราเห็น เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แฮปปี้ เอเวอรี่เดย์ ได้มาโพสต์ให้ช่วยตามหาคนร้ายที่ทำขวดน้ำหอมตกลงมาแตกไม่เป็นท่า ซึ่งเธอจึงได้มาโพสต์ลงยังกลุ่ม ทาสแมวชลบุรี หลังจากที่เธอพยายามที่จะสอบสวนหาคนผิดที่ได้ทำขวดน้ำหอมบุลการี่ของแม่ตกลงมา แต่ทว่าก็ยังโชคดีที่ขวดนั้นเป็นขวดเก่าทีไม่ได้มีน้ำหอมอยู่แล้ว แต่ก็ได้พยายามที่จะเอาผิดกับคำทำ โดยในคนแรกที่ได้มีการสอบสวน พบสีหน้าส่อพิรุธโดยที่ไม่กล้าสบตาของผู้เป็นแม่ในระหว่างการให้ปากคำ ส่วนอีกรายพยายามที่จะสู้หน้าจนไม่คิดว่าตัวเองผิดหรือไม่มีสามัญสำนึกงานนี้เลยไม่รู้ว่าตัวไหนเป็นคนทำได้แต่มึนงงในดงในน้ำ เพราะด้วยคิดได้ทั้งคู่ว่าตัวแรกอาจจะรู้สึกผิดที่พี่ใหญ่เป็นคนทำได้พี่สั่งเอาไว้ไม่ให้บอกแม่ ส่วนอีกรายก็อาจจะทำไปโดยที่ไม่ได้เกรงกลัวความผิดใดๆเนื่องจากกลิ่นน้ำหอมนั้นมันชั่งเย้ายวนใจเกินกว่ากลิ่นของตัวเอง จนกลัวว่าผู้เป็นแม่จะรักน้ำหอมมากกว่าตน งานนี้เลยไม่รู้ว่าใครเป็นคำทำจึงน่าจะต้องเอาไปวัดทั้งคู่ หรือหากเพื่อนๆคนไหนรู้ว่าตัวไหนมีพิรุธก็ช่วยแจ้งเธอได้เลย ส่วนคำว่าบุลการี่นั้นเป็นชื่อน้ำหอมแบรนด์ที่ขวดนึงราคาประมาณ 3-5 พันบาทเลยทีเดียว ที่มา แฮปปี้ เอเวอรี่เดย์

เพราะด้วยเป็นจรที่ไร้แม่ จึงไร้แม้จะปกป้องตัวเองไหว ได้แต่วิ่งหนีทุกข์ทนไปจะหาใครมาช่วยก็ไม่มี

หากถ้าเราเดือดร้อนหรือทุกข์ยากยังลำบากมีญาติมีพี่น้องคอยช่วยหา แต่ทว่าเมื่อเป็นสัตว์จรและได้เกิดมาจะร้องหาคนช่วยก็ไร้คนเหลียวแล ในวันนี้ได้กินดีอยู่มีสุขไม่ต้องทุกข์ลำบากใจหนักหนา เมื่อยากไร้ไร้แม้หาเยียวยาจะร้องไห้เรียกหาผู้เป็นแม่ก็ไม่มีแล เมื่อชีวิตเลือกเกิดมาไม่ได้จึงทำได้เพียงแต่แม้ต้องแสวง กระเสือกกระสนดิ้นรนมาร้องเรียกหาใครช่วยเหลือที เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Paintt Seulgi ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยลงในกลุ่ม ทาสแมว หลังจากที่เขาได้ช่วยน้องเอาไว้ซึ่งน้องวิ่งหนีแมวตัวผู้ตัวใหญ่ที่ไล่ฟัดมา จนเกือบที่จะเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งเขาก็ได้นำน้องพาไปหาหมอเพื่อที่จะรักษาอาการบาดเจ็บ เพราะด้วยเป็นจรตัวเล็กที่ไร้แม่จึงไร้แม้จะปกป้องตัวเองไหว จะร้องเรียกไปบอกใครในเมื่อใจตัวเราไม่มีค่าพอ เขาจึงอยากที่จะหาบ้านให้กับน้องเพราะด้วยเป็นเด็กอ่อนที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด จึงขอบ้านที่มีคนดูป้อนน้ำป้อมนมวันละ 3-4 ครั้ง ยังเดินไม่ได้ขนาดนั้นและไม่ได้ซนมากด้วยส่วนมากก็จะมีเพียงหลบอย่างเดียวเลย และตอนนี้ก็อาการดีขึ้นมากแล้วด้วยจากแผลที่ได้มาจากการถูกไล่ฟัด ซึ่งหากอยู่ในกรุงเทพก็ยินดีเจอกันครึ่งทางโดยเขาได้ระบุว่าอยู่ที่พิกัดอุดมสุข และน้องก็เป็นแมวเพศผู้และตั้งชื่อให้เบื้องต้นว่าน้องต๊อด ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนพอจะมีใจเมตตาก็อยากฝากเอาไว้ให้ช่วยหาบ้านให้กับน้องด้วย แม้ชีวิตน้อยๆที่ใครก็มองว่าไม่มีใจจึงแต่ก็ยังอยากจะมีลมหายใจไปต่ออีกครั้ง แค่ขอบ้านขอความอบอุ่นจากผู้คนที่รัก ที่มา Paintt...

หดหู่ใจแต่เช้าเห็นเป็นจร เดินมาอ้อนส่งเสียงร้องขอให้ช่วย ไม่นึกเลยว่าใจจะทำกันได้ลงคอ

อาจจะเพราะมนุษย์นั้นมองและตัดสินในสิ่งที่ได้เห็นเป็นครั้งแรก จึงทำให้หลายๆครั้งที่เราได้แต่งตัวกันดีๆเดินเข้าไปในห้องพนักงานก็เลือกที่จะต้อนรับแม้เราจะมีทรัพย์ในกระเป๋าเพียงน้อยนิด แต่หากวันไหนเราแต่งตัวไม่ดีเดินเข้าไปเราก็อาจจะไม่ได้การต้อนรับเหมือนอย่างที่เคยมา เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า นายสัณจร นอนดึก ได้โพสต์เรื่องราวที่หดหู่ใจแต่เช้า เมื่อเขาได้พบเห็นเจ้าเหมียวรายหนึ่งเดินมาแต่ที่ตัวของน้องมีอะไรติดมาด้วย โดยในตอนแรกเขาก็คิดว่าน้องน่าจะถูกมนุษย์ทำร้ายเข้าเลยเดินเข้ามาส่งเสียงร้องเพื่อที่จะขอให้ช่วยเหลือ แต่ทว่าเมื่อได้เดินเข้าไปใกล้ๆและแหวกดูก็ได้รู้ ว่าในความจริงแล้วน้องเพียงแค่หิวและมาส่งเสียงร้องขออาหารเพื่อที่จะประทังความหิวเพียงเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่ได้ติดอยู่บนตัวของน้องนั่นไม่ใช่ลูกศรหรือลูกธนูแต่อย่างใด แต่มันคือลูกอมใช่แล้วจ้าลูกอมจุ๊บเปอร์จุ๊บส์นั้นล่ะ เขาจึงต้องพยายามที่จะช่วยเหลือน้องอย่างสุดความสามารถ เพราะเจ้าเหมียวเองคงจะไปนอนทับเข้าให้โดยที่ไม่รู้ตัวว่าลูกอมจะติดตัวเดินไปไหนมาไหนเช่นนี้ เขาจึงพยายามที่จะดึงเจ้าลูกอมจุ๊บเปอจุ๊บนี้ออกเพราะเมื่อลูกอมแห้งตัวประกอบกับขนของน้องก็จะเหนียวและดึงยากเป็นพิเศษ งานนี้เลยต้องงมกันอยู่ยกใหญ่ จนสุดท้ายก็หลุดมาได้อย่างโดยดีแต่เขาก็นึกว่าแบบนี้คนที่ได้กินลูกอมนี้คงจะมีตัวการที่เป็นเปลือกของเจ้าลูกอมนี้อยู่ เขาก็ได้เดินไปตามหาเจ้าเปลือกดังกล่าวและนำมาถ่ายรูปคู่กับเจ้าลูกอมและเจ้าเหมียวตัวกลม แต่ก็ได้ผ่านพ้นไปด้วยดีและก็อยากจะฝากไว้ว่าคราวหน้าคราวหลังก็เทลูกเอาลงถังขยะให้น้อยส่วนน้องก็ควรจะเลือกที่นอนให้ดีกว่านี้ ที่มา นายสัณจร นอนดึก

หนุ่มขับรถผ่านเจอเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดจากการกระทำ ของผู้ที่ได้เรียกตัวเองว่ามนุษย์

หากในสิ่งที่ได้เรียกตัวเองว่าเป็นสัตว์ที่ประเสริฐหรือที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีความคิดความฉลาดมากกว่าสัตว์อื่นๆ ด้วยสติปัญญาและความก้าวหน้าทางความคิดล้วนแต่ทำให้มนุษย์เรามีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดกว่าสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตบนโลก แต่ทว่าในส่วนของเรื่องของจิตใจก็ย่อมแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pichet Thitiwatthanachai ได้โพสต์เล่าเรื่องหลังจากที่เขาได้ขับรถผ่านแล้วเจอเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ที่ได้เรียกตัวเองว่ามนุษย์หรือสัตว์ประเสริฐ เมื่อเขาได้เห็นหญิงสาวรายหนึ่งได้จับเจ้าเหมียวผูกเอาห้อยสายเชือก แต่ทว่ากลับเอาไปโยนไว้กับต้นไม้ ซึ่งไม่รู้ว่าเธอนั้นทำอย่างนี้ได้อย่างไรและไม่รู้ว่าแมวที่เธอนำมาผูกเอาไว้เป็นแมวของใคร ด้วยตัวผู้โพสต์เองก็ไม่ได้ลงไปต่อว่าหรือสอบถามจึงได้แต่นำเรื่องราวนี้มาลงในกลุ่มคนรักบูลลี่ เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเธอได้นำแมวสองตัวผูกและแขวนเอาไว้กับต้นไม้อย่างไร้ซึ่งความปราณี ทั้งนี้ตัวผู้โพสต์เองยังได้แจ้งพิกัดที่น้องแมวทั้งคู่โดนกระทำเอาไว้ที่ ตำแหน่งที่ตั้ง และหลังจากการที่ได้นำเรื่องมาลงยังในกลุ่มก็ได้มีเพื่อนๆเข้ามาบอกให้นำไปลงยังกลุ่มทาสแมวหรือกลุ่มรักแมวต่างๆเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ ซึ่งทางตัวของผู้โพสต์เองก็ได้มาอัพเดทเพิ่มเติมเอาไว้ว่าในตอนนี้ได้มีตำรวจเข้าไปแจ้งและตรวจสอบกับหญิงสาวรายนี้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังไม่ได้ทราบรายละเอียดหรือเรื่องราวเพิ่มเติมอย่างแน่ชัดก็ได้แต่หวังว่าน้องแมวทั้งคู่จะปลอดภัยและหลุดรอดพ้นจากน้ำมือของมนุษย์ใจร้ายรายนี้ ที่มา Pichet Thitiwatthanachai

กระเสือกกระสนเดินลากขา คลานมาพึ่งใบบุญหลวงตา ด้วยตัวที่เป็นจรมาขออาศัยข้าววัดไม่วายถูกเขาชน

หากวันนี้ยังมีสุขไม่มีทุกข์ก็ยังคงอยู่ได้ หากวันใดมีแต่ทุกข์ไม่มีสุขมนุษย์ก็มักจะเลือกที่จะเข้าวัดเพื่อที่จะไปทำบุญให้พ้นทุกข์หรือหากยากไร้อับจนหนทางไปต่อแม้แค่มาขอข้าววัดประทังความหิว และก็ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นหรอกแม้แต่สัตว์เองก็ยังคงต้องไปร้องขอพึ่งใบบุญวัดเลย เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kanitha Soodjairak ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่ได้รับทราบข่าวจากทางหลวงตาที่วัดแก้วไพทูลย์ มาร้องขอความช่วยเหลือ เพราะแมวที่วัดของหลวงตาถูกรถชนเข้าให้หลายวันแล้ว หลวงตาก็ได้แต่ให้ข้าวให้น้ำประทังความหิว เพราะก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือน้องยังไงและไม่มีทุนทรัพย์จะพาน้องไปหา จึงอยากจะมาขอให้ช่วยโดยพิกัดที่ตั้งเอาไว้คือที่วัดแก้วไพทูลย์ จอมทอง กทม. ซึ่งเมื่อเธอได้เข้าไปดูก็พบน้องแมวลายสลิดเดินลากขาแบกสังขาลไปมาด้วยความเจ็บและกลัว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำมาปล่อยเอาไว้ในวัดแต่หลวงตาก็ได้บอกว่าให้น้ำให้ข้าวประทังชีวิตมาได้สักพักก่อนที่จะถูกรถชนเข้าและก็ต้องเดินลากขาหลังแบบนี้มาหลายวันแล้ว แต่น้องก็ไม่ได้ร้องหรือส่งเสียงมากเท่าไหร่ เพราะก็คงจะรู้ตัวว่าคงไม่มีใครจะช่วยตัวได้ จึงได้ทนใช้ชีวิตไปให้หลุดพ้นไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะต้องสิ้นลมตามเวรตามกรรม โดยทั้งนี้เองหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีคนเข้ามารับเคสน้องเพื่อที่จะพาน้องไปรักษา แต่ก็ไม่ได้รับปากว่าจะรับเลี้ยงน้องเอาไว้ต่อซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนพอจะมีจิตใจเมตตาหรือที่บ้านพอจะมีพื้นที่ให้หนึ่งชีวิตนี้ได้อยู่อาศัยที่จะเป็นบ้านหลังสุดท้ายก็ช่วยที ที่มา Kanitha Soodjairak

สาวโพสต์ถามแฟนเอาแมวลวดลายผิดแผกมาเลี้ยง ถามเพื่อนในกลุ่มกลัวแฟนแอบไปซื้อมา

อาจจะมีหลายๆครั้งที่เมื่อเรามีแฟนแล้วเราก็มักจะไม่บอกในสิ่งที่พวกเขามักจะบ่นเราอยู่เป็นประจำ อย่างเช่นพ่อบ้านทั้งหลายที่ชอบซื้อของมาแต่ไม่บอกราคาตามจริงให้กับภรรยาได้รับรู้ เพราะหากเมื่อพูดออกไปอาจจะต้องอดข้าวเย็นกินมาม่าไปเป็นเดือนเลยก็ได้ เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า ศิริพร ประสานทรัพย์ ได้โพสต์ถามเพื่อนๆในกลุ่ม ทาสแมว V2 หลังจากที่แฟนของเธอนั้นได้นำเจ้าเหมียวรายนี้ที่มีลวดลายผิดแผกไปจากแมวปกติมาเลี้ยง เธอจึงเอ๊ะใจและได้มาถามว่าน้องเป็นแมวพันธุ์อะไรเพราะด้วยแฟนบอกเอาไว้ว่าเก็บน้องมาได้จากข้างถนน โดยเธอก็ไม่รู้ว่าน้องเป็นพันธุ์ผสมหรืออย่างไรแต่ที่แน่ๆนอนแมวนั้นลวดลายไม่เหมือนแมวสลิดทั่วไปที่ได้พบเห็นกัน เธอจึงได้มาย้ำว่าผู้ชายรักสัตว์มากกลัวว่าจะแอบไปซื้อมา เพราะด้วยตัวเธอเองนั้นตั้งใจอยากที่จะได้แมวจรจริงๆ เพื่อหาบ้าน เธอก็ได้ไลน์ไปถามยังแฟนของเธอ ว่าได้น้องมาจากที่ไหนซึ่งเมื่อเธอนั้นได้ย้ำถามไปแฟนของเธอก็ได้บอกกลับมาอย่างเร็วไวว่าเก็บมาจากข้างถนนจริงๆ แต่เมื่อเธอได้คำตอบจากเพื่อนๆในกลุ่มที่เธอได้โพสต์เอาไว้ว่ามีคนมาตอบไว้ว่าแมวตัวนี้อาจจะเป็นแมวพันธุ์ผสมเบงกอซึ่งจะมีราคาตั้งแต่ 17,000-170,000 เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอจึงได้ไลน์กลับไปหาแฟนของเธอและบอกว่านี่น้องเป็นแมวพันธ์แต่แฟนของเธอก็ยืนยันว่าเก็บมาจากข้างถนนจริงๆ ซึ่งอาจจะเจอแจ๊คพ๊อตเข้าให้เพราะน้องอาจจะเป็นแมวที่เป็นพันธ์ผสมที่เป็นแมวจรและเบงกอล งานนี้น้องเลยได้เป็นแมวตัวที่ 9 ของบ้านไปโดยปริยายและเธอก็ตั้งชื่อให้กับน้องเอาไว้ว่าเจ้าเตี๋ยวไก่ ที่มา ศิริพร ประสานทรัพย์

เคาระห์ซ้ำกรรมซัดติดซอกผนังกั้นกำแพงบ้าน นานแรมวันเมื่อชีวิตนั้นเป็นจรใครเล่าเขาจะเห็นค่า

ยามหากเราตกทุกข์เรายังร้องขอให้ญาติพี่น้องพ่อแม่ของเรานั้นช่วยได้ แต่ถ้าเกิดมาเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถจะไปร้องบอกใครเขาได้ละจะทำอย่างไร เพียงแค่ลำพังชีวิตต้องเกิดมาดิ้นรนให้หลุดรอดพ้นไปในแต่ละวันก็ยากแล้ว ยิ่งถ้าตัวตกอยู่ในอันตรายที่ไม่สามารถจะให้ใครมาเห็นหรือช่วยได้ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Taa Kanita ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่พบน้องติดอยู่ในซอกของกำแพงบ้านของเธอและเธอก็ได้ยินเสียงของแมวร้องอย่างแผ่วเบา แม้เคาระห์ซ้ำกรรมซัดก่อนหน้านี้น้องก็ดันไปติดกาวดักหนู จึงทำให้ตัวไปติดอยู่ในซอกปูนแน่นและไม่สามารถที่จะช่วยออกมาได้ น้องก็ได้แต่ร้องส่งเสียงเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ ซึ่งตัวของเธอเองก็พยายามที่จะช่วยน้องประกอบกับกาวที่ติดตัวของน้องเหนียวจึงทำให้ติดพนักปูนแน่นเข้าไปอีกเธอจึงไม่สามารถที่จะช่วยน้องออกมาได้ เธอก็เลยโทรไปหากู้ภัยเพื่อที่หวังจะให้เข้ามาช่วยชีวิตน้อยๆนี้ แต่ทว่าเมื่อโทรไปยังหน่วยกู้ภัยแล้วก็ดันติดภาระกิจช่วยเหลือน้ำท่วมกันหมด เพราะด้วยจังหวัดที่เธอได้อยู่นั้นได้เกิดภัยภิบัติน้ำท่วมจึงไม่มีคนเข้ามาช่วยเหลือเจ้าตัวน้อย ก็ได้แต่นั่งเฝ้านอนคอยด้วยความสงสารแม้เธอจะพยายามเอามือเข้าไปช่วยจนเจ็บมือแดงแล้วก็ตาม จนในที่สุดก็ได้มีเสียงสวรรค์ดังขึ้นมาเพราะหน่วยกู้ภัยรายหนึ่งได้ติดต่อกลับมาหาและแจ้งมาว่าจะสละเวลาเข้ามาช่วยชีวิตน้อยๆนี้ ซึ่งเธอเองก็ดีใจมากโดยก่อนที่กู้ภัยจะมาเธอก็ได้พยายามเอาน้ำมันพืชมาเทที่ตัวน้องเพื่อว่าจะออกได้บ้าง จนในที่สุดหน่วยกู้ภัยก็เข้ามาช่วยเหลือน้องออกมาได้อย่างปลอดภัยซึ่งเธอก็ได้อัพเดทเอาไว้ว่าช่วยเหลือน้องได้สำเร็จและกำลังล้างคราบกาวและน้ำมันพืชอยู่แต่ก็ไม่ได้แจ้งไว้ว่าจะรับน้องหรือมีคนรับแต่อย่างใด ที่มา Taa Kanita

ก่อนเคยเลี้ยงเคยรักเฝ้าคอยหา วันนี้ไมใยเธอถึงส่งสายตา แม้ตัวจะชราเป็นตุ่มน้ำที่เติมเต็ม

หากเพื่อนๆบ้านไหนที่ได้เลี้ยงแมวร่วมกับแฟนก็คงจะเข้าใจถึงความรู้สึก จากเมื่อก่อนที่อยู่กับเราเพียงลำพังและได้มีแฟนเข้ามาในชีวิต แมวของเพื่อนๆก็อาจจะเริ่มที่จะเปลี่ยนไปเพราะก่อนเคยรักเฝ้าคอยหาดูแลมาจนเติบใหญ่ ในวันนี้กลับไม่เหลือแม้เยื้อใยจากใจที่เคยได้รักกัน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Vassana Naklong ได้โพสต์เล่าเรื่องของเจ้าเหมียวตัวอ้วนกลมด้วยก่อนที่เคยเลี้ยงมาตั้งอ่อนแต่ออดตั้งแต่ตัวยังเล็กน้อย มาในวันนี้เติบใหญ่เท่าตุ่มน้ำแต่ความรักที่ให้ไปก็ไม่เคยพอหน่ำยังมาส่งสายตาจากที่เคยมีให้กันก็ได้เริ่มค่อยๆเปลี่ยนไป จนมาวันนี้เธอสุดทนจึงได้โพสต์ลงยังกลุ่มทาสแมวด้วยขอระบาย เพราะเมื่อก่อนเอามาเลี้ยงจากหัวอกแม่ก็เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ แต่ในวันนี้ได้โตขึ้นสายตาก็เริ่มค่อยๆเปลี่ยนไปเพราะตั้งแต่มีแฟนเข้ามาอยู่ด้วย จนทุกวันนี้จะเรียกหาก็ได้สายตาอย่างในรูปมาเป็นแทน ไม่พอแม้ยามจะนอนก็นอนใกล้ไม่ได้ด้วยห่วงแฟนตน เลยต้องทนอยู่ไปเหมือนไม่ใช่เจ้าของบ้านทั้งตัวก็ซื้อข้าวซื้อน้ำประเคนให้จนตัวเป็นตุ่ม แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความรักที่ตนนั้นมีให้ ไม่นึกเลยว่าจะโตมาแล้วไม่พอใจ รู้อย่างนี้ดีไม่เอามาเลี้ยงแต่แรกเลย ซึ่งหลังจากที่เธอโพสต์รูปแรกไปเธอก็ได้ไปขุดเอารูปของน้องในตอนเล็กๆมาให้ดูกัน ว่าสายตาของเจ้าเหมียวนั้นได้เปลี่ยนไปจริงๆโดยเธอไม่ได้คิดไปเอง งานนี้เธอแมวเองก็ควรจะระวังตัวเพราะหากคิดจะเลี้ยงก็ควรที่จะดูฝาชีของตัวเองไว้ให้ดี เพราะดีไม่ดีอาจจะเป็นน้อยได้ไม่รู้ตัว ที่มา Vassana Naklong

แหกปากโวยวายลั่นบ้านร้องไม่ยอมหยุด หลังต่อภาคสองต้องยกออกมาให้นมหน้าร้านทั้งกะละมัง

หากในความเป็นทาสในตัวของคุณมีคุณจะเข้าใจดีว่ามันเป็นเช่นไรหากลูกกินไม่ได้หรือนอนไม่หลับ เพราะตัวผู้เป็นทาสเองก็จะกระวนกระวายใจจนนอนไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะการที่ได้เลี้ยงพวกเขาเมื่อยามที่เราได้ตกหลุมรักพวกเขาแล้วเราก็จะมองว่าพวกเขาเหมือนกับลูกตัวน้อยๆของเรา หลายๆคนจึงใช้คำว่าทาสที่ย่อมาจากคำว่าทาสแมว เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tan Kongaiad ได้โพสต์เล่าหลังจากที่เขาได้ทำเมื่อก่อนหน้านี้ที่ทางเว็บไซต์ของเราได้นำเรื่องราวของหนุ่มรายหนึ่งที่เอาแมวเข้าไปนอนกอดเอาไว้ทั้งกะละมังเนื่องจากเจ้าเหมียวนั้นกำลังจะคลอด จนผู้เป็นแฟนสาวของเขาต้องออกมาโวยเพราะตี 3 ตี 4 ไม่ได้หลับไม่ได้นอนร้องหากปากโวยวายทั้งคืนถ้าไม่ไปนอนเฝ้า งานนี้ยังไม่ทันจบมีงานใหม่เข้ามาจะออกไปทำงานหาเงินให้กินก็ยังไม่วายร้องตามกลัวทาสจะหายเลยมาไหนไปไหนก็ต้องแบกไปทั้งกะละมัง ยังไม่พอยังต้องมานั่งเฝ้าดูลูกให้หลับต่อหน้ายามลูกร้องหาก็ต้องรีบเข้าช่วย ไม่รู้ว่าเป็นลูกหรือเป็นเมียไปแล้วในตอนนี้แต่ที่แน่ๆ หนุ่มรายนี้ก็บอกเบื่อถ้าไม่เอาออกมาด้านนอกด้วยก็แหกปากร้องไม่ยอมหยุด ต้องยกออกมาทั้งแม่ลูกให้นมกันหน้าร้านแบกกันมาเป็นกะละมัง แต่ลูกแมวก็น่ารักจับใจชีวิตพ่อแมวลูกอ่อนก็เลยต้องทนไปวันๆ ซึ่งเขาก็ได้แต่บ่นลงในกลุ่มทาสแมวเพราะตัวก็ไม่รู้จะไปเล่าให้ใครเขาฟังเมียก็โวยไปแล้วทีนึงในกลุ่มเพราะตี 3 เมียก็จะนอนแมวก็จะคลอดเลยวุ่นกันทั้งบ้าน แต่ก็ขอแค่ให้พ้นผ่านช่วงนี้ไปได้ก็คงจะสบายขึ้นนะแม่ทูนหัว ที่มา Tan Kongaiad

กกเอาไว้ในอ้อมกอด แม้ตัวเองก็กลัวจนตัวสั่น แต่ก็เลือกจะปกป้องด้วยสุดกำลังที่ตนมี

แม้จะต้องฝืนยืนต่อให้คงไหว ด้วยตัวที่กลัวสุดแรงใจแต่ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นแม่แล้วก็ต้องสู้ต่อไปแม้จะต้องฝืนทน ด้วยลูกก็กลัวจนตัวสั่นแม่นั้นก็ฝืนยืนให้ไหว กอดลูกไว้สุดใจไม่รู้เมื่อไหร่ฟ้าฝนจะยอมหยุดลงสักที เมื่อชีวิตเลือกไม่ได้ก็ทำได้เพียงดิ้นรนต่อแม้จะไร้ที่อยู่อาศัยก็จะเลี้ยงดูแลจนเติบใหญ่ให้เป็นสุข เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า @animalkyat ที่เป็นชาวญี่ปุ่นได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวแม่ลูกอ่อนตัวนี้ ในขณะที่เขาได้ถ่ายรูปน้องเอาไว้ได้ในขณะที่แม่แมวกำลังเอาลูกเข้ามากอดเอาไว้ในอ้อมอก ด้วยฟ้าฝนที่กำลังจะโหมกระหน่ำลงมา ซึ่งผู้เป็นแม่ก็เลือกที่จะปกป้องลูกด้วยสุดกำลังที่ตนนั้นได้มี เพราะความที่น้องเป็นแมวจรที่แอบอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ด้วยในประเทศญี่ปุ่นเองมักจะไม่มีสุนัขหรือแมวจรเลยเพราะถ้าหากทางรัฐจับได้เข้าจะดำเนินการตามกฏหมายของบ้านเขา ซึ่งเขาจะไม่ให้มีแมวจรมาเดินเพ่นพ้าน โดยทั้งนี้เองเมื่อเขาได้โพสต์ลงทวิตเตอร์ก็ได้มีผู้ใช้ทวิตในโลกออนไลน์จำนวนมากทวิตกันต่อๆมา และแพร่ลงมายังเฟสบุ๊คจนเป็นกระแสไวรัลที่หลายๆคนได้พบเห็นและต่างพากันบอกว่า ความรักของแม่นั้นหาอะไรมาเปรียบไม่ได้เลย เพราะแม้ตัวจะเป็นจรแต่ก็เลือกทำวิธีที่ดีที่สุดให้กับลูก ทั้งนี้ยังมีหลายๆคนได้มาบอกอีกว่า แม่แมวอาจจะปกป้องลูกของตนเพราะในตอนนั้นฝนยังไม่ทันได้เริ่มตกและอาจจะมีเสียงฟ้าร้อง ซึ่งด้วยตัวลูกก็คงจะกลัวแม่จึงนำมากกเอาไว้ในอ้อมกอดของตน ซึ่งถือเป็นความรักลูกที่ยิ่งใหญ่เมื่อใครๆได้เห็นก็ต่างพากันชื่นชมในความรักลูกของน้อง ที่มา JolieTwins และ @animalkyat