จำใจต้องจากลาเพราะตนเป็นแค่จร กับชีวิตของแม่แมวที่ไร้ทางเลือกยอมให้ลูกได้อยู่สุขสบาย

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Supanee Lertjiraprasert ได้เผยเรื่องราวของแม่แมวตัวหนึ่ง น้องเป็นแม่แมวจรตัวน้อยที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว หลังมีคนใจดีรับลูกๆของเธอไปเลี้ยงไปดูแล แต่ก็ไม่มีใครคิดหรือสนใจรับเลี้ยงตัวแม่แมวเลย แม่แมวนั้นจึงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยไร้ลูกๆคอยอยู่เคียงข้าง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แม่แมวทำได้เพียงมองลูกๆด้วยน้ำตาคลอเบ้า ทำเอาเศร้าอยู่ข้างในลึกๆลูกแมวโรงพักพระราชวังทั้ง 5 ตัวทะยอยได้บ้านกันหมดคงเหลือเพียงแค่แม่แมวเพียงเท่านั้น ต่อไปนี้คงเหงาและเศร้าเหลือเกิน (เพราะจำต้องพรากลูกพรากแม่กันด้วยตัวเป็นแค่จร) ท่านใดประสงค์จะรับอุปการะแม่แมว ซึ่งทางตำรวจจะส่งทำหมันในสัปดาห์นี้ให้ค่ะ พิกัดโรงพักพระราชวัง ปากคลองตลาด จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมกล่าวว่าอยากจะให้คนใจดีที่รับลูกแมวเหล่านี้ไปเลี้ยงไปดูแล...

ถูกเขาเลี้ยงไว้ให้อยู่แต่ในกรง ซ้ำระทมแขนขาลีบเล็กไม่เคยได้เห็นเดือนเห็นตะวัน

ด้วยชีวิตเกิดมาแล้วพูดไม่ได้เขาให้อยู่ก็ต้องทนแม้จะมีข้าวกินได้อิ่มท้อง แต่ก็ไม่เคยได้ออกมาวิ่งเล่นหรือเห็นเดือนเห็นตะวัน เมื่อเป็นเพียงสัตว์แขนขาลีบเล็กกว่าปกติผ้าสักผืนให้ห่มชิดก็ไร้ไม่มีแม้ให้ปูนนอน จึงไปขอเขาถ่ายไว้มาลงให้ช่วยเหลือ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า จินดา แก้วทอง ได้โพสต์เรื่องราวขอให้ช่วยรีรับน้องไปเลี้ยงคนละตัวสองตัว จากสภาพของน้องถูกเลี้ยงให้อยู่ในกรงมาตลอด ไม่เคยได้เห็นแม้เดือนหรือตัววันเลยจนแขนขาลีบเล็ก เขาจึงไปขอเขาถ่ายรูปมาลงเพื่อขอความช่วยเหลือ จึงเอาผ้าไปปให้คลุกผ้าใหญ่ด้วยความหนาวเวทนาใจอยากให้ช่วยกันแบ่งเอาไปเลี้ยงดู ซึ่งน้องๆเองมีกัน 13 ชีวิตไปขอมาแล้วเจ้าของก็ยกให้หมด แต่ก็ยังไร้คนจะรับไปอยู่ในซอยเอกชัย 30 ถนนเอกชัย แขวงจอมทองเขตบบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เมื่อชีวิตพูดไม่ได้จึงต้องทนอยู่ในกรงแคบๆไม่มีแม้ให้กลับหรือพลิกขาเดิน ทำให้ขาเล็กเกินด้วยไร้กำลังไม่เคยได้ออกแรง ซึ่งเขาเองก็มาจากสมุยแลอยู่กรุงเทพไม่นานก็จะต้องกลับสมุยแล้วจึงไม่สามารถจะช่วยเหลือหรือรับน้องไปเลี้ยงเองแทนได้ จึงอยากหาคนอยากจะเลี้ยงน้องไว้มารับน้องไปและขอคนพร้อมจะดูแลน้องไปได้ตลอดชีวิตและน้องจะได้ไม่ต้องทนอยู่ในแต่กรงไปตลอดชีวิต ที่มา จินดา แก้วทอง

ตีสองตีสามลูกแหกปากเรียกบ้านแทบแตก เปิดไฟแล้วปลุกมาให้ดูตัวเองเข้าห้องน้ำ

ด้วยความเป็นเด็กเมื่อยามจะทำก็นึกถึงแต่ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ด้วยยากแม้จะเข้าห้องน้ำยังเรียกหา จะให้ห่างไกลหรือไกลตายามต้องหาเรียกอยู่มาใกล้ข้างเธอ เพราะความเป็นเด็กของน้องเองซึ่งก็ถือเป็นความพร้อมของเจ้าของเมื่อต้องมีหากจะนำมาเลี้ยงดู เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tharit Penparkkul ได้โพสต์เรื่องราวเจ้าเหมียวน้อยลงในกลุ่มทาสแมว หลังทุกคืนตอนตีสองน้องจะแหกปากปลุกเรียกให้เขาต้องตื่น และเมื่อเขาได้ตื่นและเปิดไฟมาแล้วน้องก็จะเดินตะแง๊วตะแง๊วเข้าไปเข้าห้องน้ำในกระบะทรายของน้องเอง ซึ่งก็จะเป็นอยู่ในทุกคืนเขาจึงได้มาบอกกับเพื่อนในกลุ่มว่าแมวใครเป็นเหมือนแมวเขาบ้าน ด้วยน้องอายุยังน้อยและเขาก็รับน้องมาเลี้ยงได้ไม่ถึงเดือน ด้วยความน่ารักของพ่อลูกทำให้เพื่อนในกลุ่มกดไลค์กันถึงหนึ่งหมื่นคน ด้วยความซนและเรียกพ่อให้ตื่น ขึ้นมาดูน้องถ่ายและสีหน้าแววตาตอนพ่อได้เปิดไฟเหมือนกำลังจะบอกอยู่เป็นในว่าจะไม่ไหวแล้วพ่อเร็วๆหน่อยหนูปวดท้องจะเข้าห้องน้ำ แต่สภาพของตัวเองตอนเดินก็แสนจะน่ารักแม้จะพักพ่อต้องตื่นมาตอนตีสอง แต่ก็ถูกครองใจไปแล้วแม้จะได้อยู่ร่วมกันเดือนนึง ซึ่งถ้าเพื่อนๆเองอยากจะหาน้องแมวมาเลี้ยงดูก็อยากจะให้ดูความพร้อมของเพื่อนๆด้วยเพราะนอกจากเราจะต้องดูแลพวกเขาเรายังต้องมีเวลาค่อยใส่ใจดูแลและมอบความรักให้กับพวกเขาด้วย เพราะพวกเขาเองก็พูดไม่ได้ยามเป็นอะไรก็ไม่สามารถจะบอกเราได้เหมือนกับคน ที่มา Tharit Penparkkul 

ไม่รักไม่ชอบไม่เป็นไร แต่ทำไมต้องมาว่าแมวของเราด้วย

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kru Mink ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวของเธอนั้นถูกคนเขาว่าใส่ รู้ว่าไม่ชอบแต่ไม่ต้องมาว่าแมวของเธอได้มั้ยต่างคนต่างอยู่ จนเธอนั้นอดที่จะโพสต์ลงในกลุ่มไม่ได้เลย . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เราล่ะไม่ชอบจริงๆเลย พวกที่ชอบมาว่าแมวของเราไม่ชอบแมวเราไม่ว่าหรอกนะแต่อย่ามาทำท่าทางใส่เลย เพราะเจ้าของก็อยู่ตรงนั้นพูดบ้างแหละว่าสาบแมวบ้างล่ะ กลิ่นแมวบ้างล่ะ ขนร่วงเพ่นพ่านบ้างล่ะ คุณคงไม่รู้สินะว่าคนที่เค้ารักแมวเค้าเลี้ยงแมวดูแลแมวแสนรักยิ่งกว่าลูกคุณเสียอีกมั้ง ไม่ว่าจะเรื่องกิน เรื่องนอน หรือเรื่องการรักษาเค้าหมดกันไปเป็นเท่าไหร่แล้ว เพราะแมวเป็นเหมือนคนในครอบครัวของเค้านะรู้ไว้ซะ เราเลี้ยงแมวก็ไม่เคยให้ไปวุ่นบ้านใครๆเขาเลย เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ชอบก็อยู่เฉยๆจะดีกว่าขอโทษค่ะที่ระบายในกลุ่ม มันอัดอั้นไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะกับแบบนี้ จนเรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์ในเรื่องออนไลน์ ชาวเน็ตเองต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจแมวของเธอทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย   ที่มา Kru Mink

ก่อนจะรู้ก็สายเกินไป เพราะน้องเครียดจนสิ้นใจ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Ney Jakchai ได้เผยเรื่องราวสุดเศร้าของแมวที่เขานั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเรื่องราวดังกล่าวกลายมาเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนเลี้ยงแมวว่ามันยังมีโรคที่สามารถพรากชีวิตแมวสุดที่รักของเราได้ โดยโรคนี้เกิดมาจากความเครียดของแมว . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวเสียไป 1 ตัวด้วยโรค FIP เพราะความผิดพลาดของตัวผมเอง ผมขอให้เป็น Study Case ให้กับทุกคนที่เลี้ยงแมวนะครับ อาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยโดยโรค FIP มาจากไวรัสโคโรน่าแมวที่กลายพันธุ์ สาเหตุมันก็อาจจะเกิดจากความเครียดหรือสิ่งเร้าต่างๆรอบตัวของน้องแมว โดยเคสของผมมีความเป็นไปได้สูงที่เกิดจากความเครียดครับ เพราะผมเลี้ยง 8 ตัวในห้องเดียวกัน ในตอนแรกเริ่มผมเลี้ยง...

จาก 6 ปีเฝ้าเลี้ยงดูมาไม่เคย ออกไปหาความสุขนอกบ้านเลยแม้กลางคืนจะไม่เคยได้หลับดี

ด้วยคนไม่เคยเลี้ยงจะไม่รู้ว่าความสุขเราได้เลี้ยงแมวแล้วมีมากมาย เพราะจากกิจวัตรแต่ละวันเมื่อต้องอยู่ลำพังชีวิตก็จะมีงานให้ทำมากขึ้น และก็เป็นการเริ่มของความผูกพันธ์และความรักอย่างไม่รู้ ด้วยเพื่อนๆเองก็คงจะเป็นยามอยู่ลำพังเข้าห้องมาก็จะไม่มีอะไรทำก็จะนอนเล่นมือถือ แต่ถ้ามีแมวแล้วชีวิตก็จะเปลี่ยนไป เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ภูธิป ทองเอียด ได้โพสต์เรื่องราวของการเลี้ยงแมวของเขาลงในกลุ่มทาสแมว ด้วยจากเคยเป็นแมวพบข้างถนนแถวตลาดด้วยกันสอง พบในตอนเขาอยู่ลำพังคยเดียวและเศร้าอยู่พอดีจึงนำน้องมาเลี้ยงเลย ด้วยความน้อง่าสงสารด้วยพบพี่ 3-4 อาทิยต์ พอมีเจ้า 2 ตัวก็หหยุดเที่ยวหมดเลยไม่ไปไหนเลยติดแมวมากๆเขาเองก็ไม่เอาใครเลยอยู่กับแมว 6 ปีรู้เลยว่าชีวิตมีความสุขมากๆ แต่ก็ไม่เคยได้หลับดีสักคืน 6 ปีบักแมวแรกๆก็น่าสงสารหลังๆทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบ้าน แม้กลางคืนไม่หลับไม่นอนน่าตีให้ผอม แต่ก็อยู่นอนเบียดนอนแบบ 3 ชีวิตและไม้แขวนเสื้อข้างเตีงนอนไปนานๆนะ มีความสุขมากๆไม่เคยต้องการใครเลย...

มาออกลูกไว้ใต้ท้องรถเมื่อต้องเร่ไร้ให้ลูกอยู่อาศัย จึงกอดไว้ข้างกายกลัวถูกเขาพราก

เมื่อชีวิตเป็นจรจำต้องเร่เกิดเป็นแม่ต้องหักเหปกป้องลูก มาคลอดออกไว้ใต้ท้องรถความรนทดลูกเกิดคลอดได้เพียง 4 วันยังไม่ทันได้ลืมตาด้วยไร้หาไม่มีบ้านอยู่เหมือนใครเขาจำทนเอากกไว้รอเช้าให้อบอุ่น แม้กลัวจะถูกรถทับซ้ำยังเจ้าถิ่นก็มีอยู่ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Jib Anattā ได้โพสต์เรื่องราวแมวเหมียวแม่ลูกอ่อนด้วยมาคลอดให้กำเนินลูกน้องไว้ใต้ท้องรถเขาก็กลัวว่าน้องจะถูกรถทับเพราะเป็นจรด้วยไร้บ้านลูกก็หารต้องกินน้ำนมให้ได้อิ่ม และสภาพอากาศภายนอกบ้านก็หนาวเย็นลง จึงกลัวว่าเด็กๆจะไม่รอดเพราะตัวยังเปียกอยู่เลย ลูกของน้องมี 4 ไม่มีบ้านให้อยู่อาศัยอาศัยนอนใต้ท้องรถและในซอยก็เป็นซอยมีรถเข้าออกตลอดกลัวมากกว่าจะถูกรถทับ เมื่อวานจึงมีคนมาพยายามเอาออกจากใต้ท้องรถอีกคันและเอาไปไว้ในกล่องให้แล้ว แต่เข้าใจว่าแม่แมวคงจะคาบลูกไปอยู่ใต้ท้องรถอีกเพราะต้องการความอบอุ่นให้กับลูก เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาน้องไปไว้ไหนเลย รอบบ้านก็มีเจ้าถิ่นอยู่รอบๆจะวางไว้บ้านก็คงจะไม่ได้จริงๆ ซึ่งเมื่อก่อนเขาก็เคยเห็นน้องอยู่ตามบ้านไร้คนอยู่ แต่คงจะถูกเขาไล่มาจึงไม่มีแม้บ้านให้คลอดลูก ซึ่งภายหลังเขาก็ได้มาอัพเดทว่ามีคนรับน้องไปดูแลแล้วด้วยแม่ลูกคงไม่ต้องมานอนหนาวหาความอบอุ่นจากใต้ท้องรถอีก ด้วยเราเองก็ขอบคุณคนยื่นมือมาช่วยเหลือเพราะหากปล่อยเอาไว้ลูกๆของน้องคงจะไม่รอด ที่มา Jib Anattā

ยังนอนเฝ้าร่างแม่ไร้ลมหายใจไม่ยอมห่าง ด้วยอ้างว้างและคงไม่รู้ว่าแม่จะไม่กลับมา

เมื่อชีวิตเกิดมาเคยมีแม่คอยเฝ้าดูแลเฝ้าหา ยามชราหวังอยู่กับลูกสองจำคืนวันด้วยหลั่งน้ำตานองไม่มีหมองนอนเฝ้าคงรู้ใจ ด้วยคืนก่อนนอนเฝ้าไว้กับพ่อเพียงสองยังคงมองหาคนเคยรักสมัครใคร่ยังเฝ้ารอหาเรียกน้ำตาไหล แม่ไม่ฝืนตื่นมากล่อมหนูนอนเหมือนเคย เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า หนทาง สายเปลี่ยว ได้โพสต์เรื่องราวด้วยความเศร้าและเสียใจหลังจากภรรยาของเขาได้จากไปน้องแมวก็ได้มานอนเฝ้าผู้เป็นแม่ซึ่งเคยเลี้ยงดูน้องมาแม้ยามจะนอนยังคงต้องนอนกอดกล่อมให้หลับทุกค่ำคืน ซึ่งน้องแมวเองก็คงจะไม่รู้ว่าผู้เป็นแม่จะไม่มีวันได้กลับมาแล้ว แต่ก็ยังคงมานอนเฝ้าแม่ผู้เคยเลี้ยงหาเพราะคืนก่อนน้องก็มานอนเฝ้าแม่ของเขากับผู้โพสต์เอง ด้วยเขาได้บอกว่า "แม่คับ แม่ทำไมจากหนูกับน้องไปเร็วจัง เมื่อคืนหนูนอนเฝ้าแม่กับพ่อตลอดคืนเลยคับ" "พ่อบอกว่าแม่ไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์แล้ว ต่อไปหนูต้องนอนกับพ่อแค่คนเดียวแล้ว แม่ต้องมากล่อมหนูนอนทุกคืนนะคับ" ซึ่งด้วยความเคยชินยามยังอยู่น้องแมวเองก็จะนอนกับภรรยาของเขาเสมอ และภรรยาของเขาก็จะกล่อมน้องให้นอนจนหลับไป ด้วยตัวผู้โพสต์เองก็คงจะเสียใจมากแต่เราก็ขอให้กำลังใจและอยากเลี้ยงดูพวกเขาให้ดี ซึ่งน้องแมวเองก็มีกันอยู่สองสีส้มอีกหนึ่งแต่ก็มีเจ้าสีขาวซึ่งคอยมานอนเฝ้าแม่ผู้เป็นคนรักไม่ยอมห่างเลย ที่มา หนทาง สายเปลี่ยว

จำอาศัยอยู่ในท่อเพราะแม่สิ้น ยามประทังทนหิวไม่รู้ว่าแม่จะไม่มีวันได้กลับมา

เมื่อชีวิตเกิดมาเป็นจรว่ายากแล้วยังไม้แคล้วแม่หายยังคงหา หลบอาศัยแอบในท่อแม่ไม่มายังคงหาเฝ้ารอแม่ด้วยความหิว ความเป็นพี่กอดน้องไว้ข้างกายให้ไออุ่นความระทมทนทุกข์ไร้อาหาร ต้องคอยแอบหลบไปด้วยน้ำตายังเรียกหาเฝ้ารอคอยด้วยความหวัง เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า น้ำ ผึ้งง'ง ได้โพสต์เรื่องราวของน้องเหมียวสีส้ม 7 หน่อน้อยๆหลังค่อยแอบในท่อระบายน้ำใหญ่ด้วยความหิว เมื่อเป็นจรเฝ้ารอแม่ด้วยความหวังความลำพังแม่บอกออกไปหาอาหาร แต่แม่ของน้องๆถูกสุนัขฟัดจนสิ้นใจไปแล้ว ด้วยยังเล็กก็คงไม่รู้เรื่องรู้ราวและเฝ้ารอคอย เขาจึงอยากหาบ้านให้น้องจะได้ไม่ต้องมาคอยหลบแอบในท่อยามสุนัขจรมา ซึ่งเขาเองก็ช่วยได้แค่นำอาหารมาให้เพื่อประทังความหิวและได้อิ่มไปอีกมื้อ ซึ่งตัวน้องเองเป็นแมวส้มกันหมดเลย มี 7 ไม่รู้หรือทราบเพศแน่ชัดนักอยู่ในจังหวัดราชบุรีหรือหากอยู่ใกล้ๆก็สามารถเข้าไปรับน้องได้ในฟารม์เบิกไพร จอมบึง เพราะชีวิตเป็นจรแล้วหากไร้แม่ไม่มีแม้ใครจะสอนให้หาอาหารด้วยปล่อยไว้คงต้องอดสิ้นใจและทรมาน นึกยามหารยามเป็นเราคงเข้าใจ ชีวิตเกิดมาได้ไม่กี่เดือนแม่ก็สิ้นยังคนดิ้นอยู่กันด้วยความหวัง แม้ชีวิตเหลือกันอยู่ยังอุ่นอังด้วยความหวังแม่คงจะกลับมาหาเรา ที่มา น้ำ ผึ้งง'ง

ก่อนรับมาเฝ้าเลี้ยงดูแลมาให้ช่วยจับหนู เปิดประตูเห็นเอ็นดูนี่ตรูเลี้ยงแมวทำไม

เมื่อยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแม้แต่สัตว์เองก็มีการปรับตัวด้วยมนุษย์เองก็ยังสามารถปรับตัวได้เพราะการเลี้ยงดูหรือการอยู่อาศัยจากเคยต้องเป็นผู้ล่าหากินเองตามธรรมชาติตัวก็เปลี่ยนเมื่อต้องอยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Butsaya Yimrod ได้โพสต์เรื่องราวของแมวเหมียวของเขา หลังจากเขาได้รับน้องมาเลี้ยงไว้ในบ้านเพื่อให้ช่วยไล่หนูหรือช่วยจับหนูออกไปบ้าง แต่เมื่อเขาได้เปิดประตูมาหลังบ้านก็ได้เห็นว่าช่างเป็นเรื่องตรงกันข้ามเลย เพราะเจ้าเหมียวของเขาเองได้กำลังพยายามเล่นกับน้องหนูอยู่บนฝ่าโอ่งใส่น้ำ ด้วยความรักและเอ็นดูเหมือนกับเป็นเพื่อนหรือพี่น้องได้เกิดร่วมกันมา ซึ่งเจ้าหนูเองก็ไม่ได้มีความกลัวแมวเลยแม้แต่น้อย ยังนั่งนิ่งค่อยๆดมเล่นกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยผู้โพสต์ก็ได้ออกมาโพสต์ว่าเลี้ยงไปเปลืองอาหารมากจับหนูก็ไม่เป็น นี่เราเลี้ยงแมวไว้ทำไมเนี้ย เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนสัตว์มีชีวิตร่วมโลกเราเองก็เปลี่ยนตามจากเคยไม่ถูกกันก็มาเป็นเพื่อนกันเพราะมนุษย์เราเคยให้แต่ข้าวและพวกเขาก็ลืมไปว่าพวกเขาเองเป็นผู้ล่า และแม้แต่เพื่อนๆในกลุ่มเองก็ได้บอกกันว่าแมวของพวกเขาก็เป็นเหมือนกัน ด้วยสมัยใหม่แมวเขาไม่จับหนูกันแล้วมันเชยเขานิยมเป็นเพื่อนซี่กันมากกว่า ที่มา Butsaya Yimrod