สัตว์โลก

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : โชติกา ชนัญญานนท์ ได้เผยเรื่องราวสุดเศร้าของแมวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยตัวเธอนั้นได้แต่โทษตัวเองและร้องไห้ไม่หยุดที่ทำให้น้องต้องจากไป เพราะการพาแมวไปทำหมัน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวเราเพิ่งเสียไปวันนี้ค่ะ เราร้องไห้ไม่หยุดเลยคิดถึงน้องมากๆ เหตุเพราะเกิดจากเราพาแมว ไปทำหมันที่คลินิคแห่งหนึ่ง ตอนไปตรวจโลหิตกับคุณหมอ คุณหมอโทรมาแจ้งว่าน้องแข็งแรง ปกติดีสามารถทำหมันได้ พอวันนี้เราพาน้องไปประมาน 9.30-10.00 ประมาณเกือบเที่ยง ทางคลินิคเขาก็โทรมาบอกว่า น้องมีโลหิตออกทางช่องปาก พอทำหมันเสร็จแล้วแต่น้องมาเสียหลังทำหมันเพราะหัวใจหยุดเต้น คือเราไปหาอ่านสาเหตุมาการที่ทำหมันสัตว์ สัตว์ไม่น่าจะแพ้ยาอะไร แต่อาจเกิดจาก2กรณีด้วยกันคือน้ำท่วมปอด เนื่องจากให้น้ำเกลือเยอะจนเกินไป กับ2 หมอเย็บด้านในไม่สนิท...

ถ้าหากได้ตกเป็นทาสแมวแล้วยามไปไหนเจอแมวก็ไฝว้หานึกสงสารหาข้าวและหาปลานำมาหาให้ได้อิ่มประทังไป เมื่อชีวิตเกิดตกเป็นทาสแล้วไม่เคยแคล้วแมวเข้ามาใกล้ๆ เพราะพวกเขารับรู้ด้วยจิตใจเมื่อว่าใช่ทาสแล้วไม่แคล้วกัน เคยให้ข้าวให้น้ำได้อิ่มท้องเป็นจรตามยันบ้านขวัญกระเจิง เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Lisa Jacob ได้โพสต์เรื่องราวของน้องแมวจร ซึ่งก่อนเขาเห็นว่าเป็นจรและนึกสงสารเลยเอาข้าวเอาน้ำให้กินได้อิ่มประทังหิวแต่ก็ไม่ใช่แถวๆบ้าน ด้วยเป็นป้อมยามอยู่ไกลอันไกลโป้น แต่เมื่อได้กลับมาบ้านก็กลับมาเจอปีนหน้าตาดู ขวัญกระเจิงร้องหาตำหนวดให้ช่วยด้วย ด้วยสภาพมามองเข้ามาในบ้านเหมือนแมวจิตยังนึกคิดให้ผิดหรือถูกดูแล้วหนอ เคยให้ข้าวให้น้ำใช่ว่าพอบ้านมีหนอหลายหน่อเลี้ยงไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยังเฝ้าคอยดูอย่างไม่ห่างไม่ให้ลำบากหาให้อิ่มใช่ว่าไหน ยังคงเฝ้าดูแลอยู่ไกลๆนึกในใจก็สงสารเหมือนแมวเราเอง แม้เจ้าของโพสต์เองจะเดินไปไหนมาไหนในหมู่บ้านก็จะเจอน้องมาตามคอยเฝ้าอยู่ดูไม่ยอมห่าง คงจะอยากมีบ้านเหมือนกับแมวอื่นใช่ทุกทาง ด้วยอ้างว้างคงเคยมีเจ้าของเลี้ยงดูแลเหมือนกัน แต่ก็เดินมาได้ด้วยไกลหนักเพราะป้อมยามซึ่งเขาได้ให้อาหารน้องได้อิ่มก็อยู่ไม่ได้ใกล้เลย ยังเฉลยชะโงกหน้ามาดูเป็นใครก็คงจะต้องตกใจมาก เพราะสีหน้าและแววตาของน้องก็ไม่เบาหนักแม้สีหน้าจะดูไม่อ่อนโยนเลยแต่ทางเจ้าของโพสต์เองก็ได้บอกว่าจริงๆแล้วน้องเป็นแมวน่ารักมากและชอบมาอ้อนตลอด และยังมีพยายามจะเข้ามาในบ้านอยู่ตลอดเลย ที่มา Lisa Jacob

แม้ด้วยคนเป็นแม่เองซึ่งเมื่อถ้าเราอยากจะเลี้ยงแมวแล้ว ยามเอาเข้ามาก็จะบ่นว่าเพราะไม่อยากจะให้มาคอยนั่งเลี้ยงหรือด้วยเมื่อยามต้องจากกันจะต้องเสียใจเพราะพวกเขาเคยเลี้ยงมาก่อนและไม่อยากให้ลูกได้พบเจอ แต่ถ้าได้เลี้ยงดูไปก็จะไม่เปลี่ยนกันทุกคน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pla Ponchanok ได้โพสต์เรื่องราวผู้เป็นแม่ของเขาลงในกลุ่มจากก่อนเคยจะนำน้องแมวมาเลี้ยง แม่ก็บ่นว่าไม่อยากจะให้เอามาด้วยกลัวว่าจะเป็นภาระ ซึ่งเขาก็คิดหนักแต่ก็นำน้องเข้ามาแล้วแม่ก็ค่อยๆมาเริ่มเปลี่ยน ซึ่งแม้แมวจะอยู่ตรงไหนของบ้านแม่ก็จะไม่เคยว่าเลย จากเคยไม่ชอบก็เปลี่ยนมารักอยู่ด้วยกันไม่เคยได้ห่างแม้เข้าไปแปลงผักไปนอนทับผักแม่ก็ยังไม่เคยว่า ซึ่งแม้ว่าลูกเดินเชียดยังโดนบ่นเดินมาเห็นช้ำสุดด้วยความทนเดินกระเผลกขาไปข้างนึง ก็ว่าทำไมแม่ขาเดินไม่ตรงอ๋อลูกรักนอนทับรองเท้าอยู่เลยเกรงใจแมว แม้จะขึ้นไปปีนเล่นซนบนหลังขาบ้านก็ยังไม่เคยดุสักคำกลัวคนำหน้าทิ่มต้องเอาหมวกไปคอยรับบนหลังคาใหญ่ จากคนไม่ชอบไม่เข้าใกล้ในใจนึกยังไงสมบัติคงตกไปเป็นของลูกรักหมด ด้วยน้องเองมีชื่อว่าปลาเก๋า ยังคงเอาอกเอาใจคนเป็นแม่เพราะความรักได้อยู่คู่และดูแลไม่ยากแท้ลูกจริงๆคงตกงาน ซ้ำยังชอบสปอยน้องเป็นคนบอกถ้าทำเองคงโดนแน่แต่เมื่อเป็นแมวแล้วไม่ยากแท้ โอ๋แม่ลูกรักเปลี่ยนใจลง เพราะผู้สูงอายุเองยามได้อยู่กับแมวแล้วก็เหมือนได้อยู่กับลูกน้อยยามค่อยๆเฝ้าดูและเลี้ยงหาทำให้ชื่นใจ ที่มา Pla Ponchanok

เมื่อชีวิตเกิดมาในซอยวัดจำต้องหาข้าวขออาศัยมาหลบอยู่ในถังน้ำแข็งก็ว่าไกล ยังไม่พ้นภัยถูกเขาทำจนตาปิด หากว่าทำเหมือนไม่มีชีวิตจิตใจไม่สำนึกคิดทำเขาเหมือนไร้ค่า ยังคงเร่ต้องหลบแม้คอยหาช้ำอุราซ้ำเอาพริกโรยไม่ให้กิน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้รายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวน้องของแมวจรซึ่งเกิดมาในซอยวัดกันตนา โดนลูกน้องเจ้าอาวาสห่มผ้าเหลืองและทำจนตาปูดเกือบจะบอด ยังคอยกอดหลบอยู่ในถังน้ำแข็งใบเก่าๆ ปกติน้องจะอ้วนและเชื่องมาก เพราะคนผ่านไปมาเข้ามาทำธุระจะสะดุดตาบางคนก็เข้ามาอุ้มน้องบางคนก็นำอาหารกลับมาให้น้องกินอยู่ตลอด น้องจะออกมาวันเว้นวันซึ่งเธอก็จะเข้าไปให้อาหารกับน้องอยู่บ่อยๆ แต่ได้เข้าไปและพบว่าน้องถูกเขากระทำจนตาปูด จึงอยากจะหาใครเข้าไปช่วยน้อง     แม้จะเข้าบวชเป็นพระหรือเข้าหาทางธรรมแล้วใยยังไม่แววกระทำเขา แม้จิตยังไม่นึกด้วยสงสารยังคงทำเหมือนเป็นมารเมื่อบอกวานไม่ชอบสัตว์เลยทำเขาให้พ้นวัดไป ด้วยเพื่อนๆเองในกลุ่มก็ได้มาบอกกันว่าเคยเห็นเอาพริกโรยใส่กับพื้นเพื่อจะไม่ให้มาให้อาหารน้อง และทางเจ้าของโพสต์ก็ได้มาบอกว่าเป็นวัดเดียวกัน ซึ่งประเทศของเราเป็นศาสนาพุทธหรือหากไม่ต้องเป็นพุทธก็ไม่ควรจะทำกับสัตว์ร่วมโลกหรือสัตว์มีชีวิตได้ เพราะศีลซึ่งถืออยู่ก็น่าจะมีบอกหรือหลักธรรมคำสอนก่อนจะบวชคงมีหายังไม่นึกสำนึกผิดช้ำอุรายังคงมามีเรื่อยๆต้องทุกข์ใจ ที่มา facebook

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ดุสิตา ขำโคกกรวด ได้เผยเรื่องราวสุดปวดหัวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวและตัวเธอนั้นมักทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้งเวลาอยู่กันเพียงลำพัง แต่พอพ่อแม่กลับมาถึงบ้านนางกลับทำท่าทางกลายเป็นแมวขี้อ้อนเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะอย่างงั้น . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เราควรจะทำยังไงดีค่ะ พอดีเราทะเลาะกับแมวที่บ้านค่ะ เวลาพ่อแม่ไม่อยู่แมวตัวนี้มักจะกระทำเราโดยในตอนที่เรากำลังหลับๆอยู่ นางจะขึ้นมาฉี่ใส่ตัวเราบ้าง(ฉี่แบบน้ำเป็นแก้วหกใส่ได้เลยค่ะ) นางชอบกระโดดฟัดหัวเราบ้าง นอนๆอยู่ก็กระโดดใส่ตัวบ้าง ภาพแรกคือหน้าตาตอนอยู่กับเรา แต่ตัดมาตอนอยู่กับพ่อแม่เท่านั้นแหละ เค้าจะทำตัวเป็นแมวขี้อ้อนว่านอนสอนง่าย ในทันทีเหมือนกับภาพที่2 อยากจะสอบถามทุกคนว่าจะแก้ปัญหายังไงดีคะ ระหว่างเอาแมวไปเทไว้ที่วัด จนเรื่องราวสุดปวดหัวนี้ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่าเนื้อเรื่องอย่างกับละครไทยเลยนะนี่ พอนางเอกอยู่บ้านกับนางร้ายก็จะถูกกระทำใส่ แต่พอพระเอกกลับบ้านมานางร้ายก็จะกลายเป็นนางฟ้าในทันที 555 บ้างก็บอกว่าเอาตัวเองไปอยู่วัดดีกว่า แบบนี้น้องแมวคงจะได้มรดกของตระกูลไปทั้งหมดเป็นแน่แท้ เก็บมาเลี้ยงแท้ๆแต่กลับทำกันได้ลง...

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Onyanee Naosrison ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยก่อนหน้านี้เขาและแฟนของเธอได้เลิกกัน แต่ก็ยังคงติดต่อกันอยู่เพราะแมวที่เราเลี้ยงไว้ด้วยกัน ถ้าไม่มีแมวก็คงไม่รู้จักกันไปนานแล้ว . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มีใครเป็นแบบเราบ้างคะ เราเลิกกับแฟนแล้วแต่ยังคงคุยและยังติดต่อกันเพราะ"แมว" ณ ตอนนี้แมวอยู่กับเขาค่ะ เขาจะคอยส่งรูปส่งคลิปมาให้ดูตลอดเวลา ถ้าไม่ได้เลี้ยงน้องด้วยกันปานนี้เราคงไม่รู้จักกันไปนานแล้ว จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและกล่าวว่า เขาก็เคยเป็นเหมือนกันเลี้ยงแมวมาด้วยกันนี่แหละ แต่ไม่ได้ติดต่อกันเลย ล่าสุดมีการติดต่อเข้ามาบอกน้องกำลังป่วยจนใกล้สิ้นลมแล้ว ซึ่งตัวเขาเองพอรู้ข่าวก็มานั่งร้องไห้เพราะไม่สามารถพบเจอน้องได้เป็นครั้งสุดท้าย และมีชาวเน็ตอีกท่านนึงได้กล่าวว่า เราก็เลิกกันร้องไห้ทุกวันเพราะคิดถึงแมวนี่แหละ แอบมาหาตอนแฟนไปทำงาน เราเข้าไปกอดหอมทำแบบนี้อยู่หลายวัน แฟนโทรมาง้อไม่คิดถึงแมวหรอ ร้องหาเราทุกวันเลยรีบกลับอย่างไว555...

เพราะจากโควิททำให้มีหลายคนจำต้องหยุดงานและกลับมานั่งทำงานในบ้านแทน ด้วยแม้เวลาจะผ่านมาร่วมปีแล้วแต่การควบคุมหรือการทำให้หายในประเทศก็ยังไม่ดีขึ้นบ้างเลย จึงทำให้เป็นผลกับอีกหลายๆชีวิตแม้แต่แมวเองก็ตามแต่ก็ยังมีข้อดีซึ่งพวกเขาก็มีเวลาอยู่กับเจ้าของมากขึ้น เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sawitri Promwan ได้โพสต์เรื่องราวของน้องฟิวแมวของเธอเองหลังเพราะด้วยจากโควิดน้องจึงเห็นว่าแม่ไม่ค่อยได้ออกไปนอกบ้านเพราะที่ทำงานหยุด ฟิวจึงเป็นห่วงกลัวว่าแม่จะอดเลยพยายามไปหาอาหารมาให้ ซึ่งเมื่อสองวันก่อนเองในตอนเช้าเธอก็ได้ตื่นมาเป็นปกติแต่แล้วก็ได้พบกับเขียดตะปาดอยู่บนเตียงนอน ด้วยเธอก็ยังไม่ได้เอ๊ะใจเพราะคิดว่าน้องเขียดน่าจะหลงเข้ามาเอง แต่มาตอนเช้าของอีกวันเธอก็ได้พบปลาช้อนซึ่งขึ้นมาอยู่บนเตียงของเธอ เธอจึงนึกว่าไม่น่าใจใช่เรื่องปกติแล้วเพราะลำพังเพียงแค่เขียดยังสามารถจะเดินเข้ามาเองได้ แต่ถ้าเป็นปลาคงจะไม่สามารถเดินมาบนพื้นดินได้ จึงได้หันไปมองเห็นหน้าของเจ้าฟิวและนึกถึงเรื่องราวซึ่งเกิดขึ้น เพราะน่าจะเป็นเจ้าฟิวเอง ด้วยความเป็นห่วงของลูกเองเห็นว่าแม่ไม่ยอมออกไปไหนเลยและกลัวว่าแม่จะไม่มีอะไรให้ฟิวกิน เลยพยายามหาของกินซึ่งเมื่อน้องออกเองได้เลยหามาให้แม่ได้อิ่มท้อง เธอจึงได้มาโพสต์ลงยังในกลุ่มเพราะไม่รู้ว่าลูกของเธอไปแอบตโมยปลาดุกใครเขามา ที่มา Sawitri Promwan

เมื่อชีวิตคงไว้มีความทรงจำมาแม้ยังเด็ก เฝ้าดูเก่งจำอาศัยเดินหลบในซอกตึกมาขอข้าวหมาแม้ทางจะไกลค่อยเดินไปด้วยใช่ว่ายังคงหาบ้านซึ่งเคยอยู่แม้ไม่เจอ ด้วยชีวิตเกิดมาเคยถูกเลี้ยงแม้จำเอียงยังจำได้ว่าเคยอยู่ยังเฝ้าคอยตามหามาแรมเดือน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Numalee Ning ได้โพสต์เรื่องราวน้องแมวพันธุ์เปอร์เซียซึ่งเฝ้าคอยเดินหลบหาเจ้าของในซอกตึกมาร่วมแรมเดินแล้ว จะมาคอยหลบอาศัยในตึกและขอข้าวหมากินประทังชีวิตให้อยู่รอดและยังมีปลอกคออยู่กับน้องเอง เธอจึงนำมาโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมวv2 เอาไว้ว่า แมวใครหายพิกัดแฟลตรถไฟ กม.11 หลังปตท.จะอยู่ตึก 3-8 มีปลอกคอหลายสีใต้คางสังเกตุเริ่มเป็นแผลน้องเดินลิ้นห้อยตลอดเห็นแว๊บๆเลยขึ้นไปดูเขาเดินหนีไปแอบถามคนแถวนั้นบอกเห็นเดินไปมาทุกตึกเลย และก็หลายเดือนแล้วแต่น้องเองก็ไม่ยอมให้ใครจับต้องตัวทุกวันจะมาขอหากินข้าวหมาแมวมาหาเพื่อน ซึ่งเธอก็บอกว่าจะพยายามจับน้องให้ได้เพราะสงสารแต่น้องก็วิ่งไวมากพรุ่งนี้จะเอาขนมแมวเลียไปล่อดูไม่รู้ว่าจะได้ไหม ด้วยเธอก็ได้พยายามไปถามคนในตึกว่า น้องน่าจะหลงมาหลายเดือนแล้วเพราะขนตรงคอเริ่มจะพันกันแล้ว ด้วยถ้าแมวของเพื่อนๆหายหรือรู้จักกับเจ้าของน้องก็สามารถติดต่อไปกับต้นโพสต์ได้เลย เพราะน้องเองก็คงจะคิดถึงเจ้าของแย่แล้วเหมือนกัน เมื่อชีวิตถูกเลี้ยงดูมาต้องออกมาอยู่กับโลกกว้างใหญ่ด้วยห่างไกลจากผู้เป็นเจ้าของคงอ้างว้างมากเหลือเกิน ที่มา Numalee Ning

ด้วยความซนความกวนและห่วงบ้านไม่ยอมข้านหากมีใครเขามายุ่ง จึงไปวิ่งไล่งับเขาไม่ดูพุงสนองตุงเสียงดังตุบตกลงมา ได้ยินเสียงร้องว่าวิ่งไล่ใยไฉนมานอนแน่นิ่งข้างล่างเดินไปเห็นไม่ยอมตื่นใจอ้างว้างไม่ยอมห่างคอยเฝ้าดูด้วยดวงใจ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Benjawan Praew ได้โพสต์เรื่องราวของน้องแมวอ้วน หลังจากได้ยินเสียงแมวร้องวิ่งไล่กันอยู่บนหลังคาบ้านซึ่งเห็นว่ามีแมวจรเข้ามาและน้องก็ได้ถูกเลี้ยงดูมาในแบบปล่อย จึงไปวิ่งไล่เขาให้ออกไปจากบ้านของน้องเอง เพราะความห่วงบ้านและอาณาเขตทำให้ไม่คิดให้ดี จึงพลัดตกลงมาจากลงคาลงกับพื้นเสียงดังตุบยังนึกว่าคงจะเจ็บเพราะน้ำหนักของน้องเองก็ไม่ใช่น้อย จึงค่อยๆเดินไปดูให้แน่ใจว่าปลอดภัยดี แต่มาเห็นคนดีนอนนิ่งไม่ยอมขยับแม่เองก็น้ำตาคลอแล้ว เลยเอามืออังดูแล้วยังหายใจอยู่แค่สลบไปเพราะความสูง แม่ก็ห่วงดังดวงใจเหมือนกับลูกจึงเฝ้าคอยดูเห็นตื่นมานั่งขึ้นอืดปกติเหมือนไม่เกิดอะไร คงเสียหน้าเห็นอริเข้ามาบ้านด้วยอ้วนขานวิ่งขึ้นไปไม่ดูน้ำหนักเลย แม้แม่เองก็ใจหายนึกว่าลูกจากไปไม่มีกลับ แม้แต่ความสูงเพียงเล็กน้อยเองก็ไม่ควรจะมองข้าม เพราะแมวเองถึงจะสามารถขึ้นและลงมาจากบ้านสูงมากได้แต่ถ้าน้ำหนักของพวกเขาเยอะเกินพวกเขาก็จะลงมาเจ็บมากขึ้น ซึ่งถ้าเกิดขึ้นก็ควรจะพาไปหาหมอเพื่อให้ดูอาการก่อนและไม่ควรจะปล่อยเอาไว้ ที่มา Benjawan Praew

เพราะในฤดูหนาวเองไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์เราที่รู้สึกหนาวเย็นและทรมานกับอากาศ แม้แต่สัตว์เลี้ยงอย่างน้องแมวหรือสุนัขเองก็ต้องการความอบอุ่นจากเสื้อผ้าหรือเครื่องนุ่งห่มไม่ต่างจากเราเลย อย่างแม้แต่เจ้าเหมียวเองก็อุ่นขึ้นเมื่อเสื้อกันหนาวมีความหนามากพอ ซึ่งผู้โพสต์รายนี้จึงนำ DIY เสื้อกันหนาวของน้องแมวเมื่อต้องเข้าหน้าหนาวและน้องไม่มีไซต์ของเสื้อเมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ชื่อว่า Kita Tannaporn ได้นำเรื่องราวมาแชร์ลงในกลุ่มทาสแมว เนื่องจากเจ้าเหมียวของเขามีตัวเล็กเกินกว่าจะหาเสื้อกันหนาวให้น้องได้ใส่ได้เป็นปกติ ซึ่งเสื้อน้องแมวที่คุณ Kita Tanaporn ได้ทำออกมาก็ดูน่ารักและเหมาะกับเจ้าเหมียวได้อย่างพอดี แต่ความพิเศษของเสื้อนี้ก็คือไม่ได้ทำมาจากผ้าในราคาแพง แต่เป็นการดัดแปลงมาจากถุงเท้าสีเหลืองสดใส่ของเขานั่นเอง ซึ่งเจ้าเหมียวเองก็ใส่แล้วดูเหมาะสมกับเสื้อกันหนาวมาก เพราะยังมีมาพร้อมกับหมากที่ช่วยกันหนาวได้อีกอย่าง โดยทำมาจากถุงเท้าแค่เพียงข้างเดียวและถุงเท้าของเขาเองก็มีราคาแค่ 10 นอกจากนี้ยังสามารถเอาสีอื่นมาทำได้อีก และถึงแม้เสื้อกันหนาวของน้องเองจะทำมาจากถุงเท้าแต่เสื้อของเจ้าเหมียวก็ดูน่ารักและสวยงามไม่แพ้กับเสื้อแมวทั่วไปเลย จึงเหมาะจะเป็นไอเดียให้กับทาสแมวอีกหลายๆคนถ้าหากอยากจะลองนำไปทำให้กับน้องแมวของตัวเองดู ที่มา Kita Tanaporn