สัตว์โลก

เพราะความไม่คุ้นชินกับโลกกว้างในภายนอกนั้นอาจจะทำให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะไปไหน แต่เมื่อไหร่ก็ตามถ้าเกิดตื่นตกใจหรืออยากจะรู้อยากจะเห็นแล้วก็อาจจะเป็นภัยต่อตัวของพวกเขา เพราะมันอาจจะทำให้เราต้องเสียพวกเขาไปตลอดชีวิตได้ เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า อนงค์ทิพย์ สิงห์ใหญ่ ที่ได้โพสต์เรื่องราวเพื่อที่จะตามหาพ่อแม่ให้กับน้องเพราะน้องได้โดดลงจากรถบรรทุกของพ่อแม่มา และทางพ่อแม่หรือทางผู้เป็นเจ้าของน้องก็พยายามที่จะตามหาน้องจนมืดค่ำ แต่ก็ไม่พบเจอ ทางต้องรีบกลับไปส่งของก็ต้องรีบไป และวันเวลาก็ผ่านมาได้ร่วม 2 วันน้องก็ยอมที่จะออกมาแต่ก็ไม่ได้เจอกับพ่อแม่แล้ว และก็ยังโชคดีว่ามีป้าที่ขายของคอยดูแล ถ้าแม่พ่อเห็นหนูก็อยากจะให้กลับมารับหนูหน่อยนะ หนูคิดถึงมากพิกัด ปั้มบางจากเถิน-นภา ฝั่งขาล่องกทม หรือถ้าใครคิดว่ารู้จะกับทางเจ้าของหรือเป็นเจ้าของน้องก็สามารถที่จะติดต่อเธอได้เลย ซึ่งทางผู้โพสต์ก็ได้มาอัพเดทว่าป้าเค้าคอยดูแลให้น้องอยู่สำหรับคนที่เป็นห่วงน้อง เพราะป้าบอกน้องฉลาดมากไม่วิ่งไปทางปั้มและจะอยู่แถวๆหลังปั้มแต่ก็ไม่สามารถที่จะจับตัวน้องได้ ซึ่งจากวันที่น้องได้โดดลงจากรถมาก็เป็นเวลาร่วมอาทิตย์กว่าแล้ว เลยอยากจะฝากไปถึงคนเป็นพ่อเป็นแม่ว่าน้องยังอยู่ตรงนี้และยังเฝ้าคอยให้พ่อแม่กลับมารับหนูกลับไปเลี้ยงเหมือนเดิม แม้พวกเขาจะมีแอบดื้อหรือแอบออกไปบ้างเพราะความอยากจะรู้อยากจะเห็น แต่ก็อย่าได้ลืมไปว่าเราเองก็เป็นโลกทั้งใบของพวกเขาไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ที่มา อนงค์ทิพย์ สิงห์ใหญ่

ก่อนหน้านี้เราอาจจะเคยเห็นโพสต์การบ้านของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งคุณครูได้ตั้งโจทย์ให้กับนักเรียนชั้น ป.1 ว่าหากเกิดอัคคีภัยภายในบ้าน ควรทำสิ่งใดเป็นอันดับแรก ซึ่งเด็กคนนั้นเขาได้ตอบว่าอุ้มแมวออกมา และโพสต์ดังกล่าวมันก็เกิดขึ้นจริงกับหนุ่มทาสแมวคนหนึ่ง . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : caDjango Toretto ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มแมวจ๋า ทาสมาแล้วอันมีใจความระบุว่า โพสต์นี้ไม่ได้จะดราม่านะครับ พอดีเห็นพี่สมาชิกเอามาโพสต์ผมก็ขำๆไปด้วย แต่เรื่องของเรื่องคือมันเกิดขึ้นกับตัวผมและมันก็เกิดขึ้นจริง และหลายคนคงทำแบบผม คือเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมาบ้านผมเกิดไฟไหม้และก็จริงอย่างที่น้องเขาตอบกับครู ผมหยิบลูกๆ 2 ตัวลงตะกร้าอันดับแรกเลย สรุปบ้านไหม้เหลือแต่ตอ ส่วนข้าวของไม่ได้เอาออกมาเลยสักอย่างเดียว แต่สิ่งที่ได้มาก็มีแต่แมว 2 ตัว รักสุดหัวใจ...

มันคงจะเป็นเรื่องที่ยากมากหากจู่ๆน้องกลับหายไปแล้วน้องจะเดินกลับไปที่บ้านเอง พอตัวได้รับอิสระแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตัวจึงเดินเตร่ไร้ทิศทาง แต่พออยากกลับบ้านโลกภายนอกมันไม่ได้ง่ายแต่ก็ลืมทางกลับแล้ว . เหมือนกับชีวิตน้องแมวตนนี้ โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nicharee Komutmas ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสรักเจ้านาย เราคือทาสแมว อันมีใจความระบุว่า น้องหลงมาค่ะ น้องเป็นผู้หญิงตามร่างกายมีแผลที่บริเวณหาง น่าจะโดนฟัดมาจากแมวจรตัวอื่นๆ แต่ทำแผลให้แล้วค่ะ เราพยายามโพสต์ถามคนในหมู่บ้านก็ไม่มีเจ้าของไม่รู้ว่าน้องมาจากที่ไหนป่านนี้ทางเจ้าของคงกำลังตามหาน้องแย่แล้ว น้องน่าจะหลงมาจากที่อื่นค่ะ ตอนนี้น้องอยู่ที่หมู่บ้านสิริศา14 แถวๆแยกกระทิงลายค่ะ เผื่อใครทำน้องหายไปทักสอบถามได้นะคะหรือมารับน้องกลับได้จ้า แต่ในเบื้องต้นทางผู้โพสต์จะช่วยดูแลน้องไปก่อน เพราะเดี๋ยวถ้าหายไปอีกน้องคงไม่ได้กลับบ้านแล้ว หากท่านใดพอคุ้นหน้าคุ้นตาน้องแมวตนนี้ท่านเองสามารถทักไปหาได้ที่ต้นโพสต์ได้เลย ที่มา Nicharee Komutmas

เพราะในความโหดร้ายของชีวิตบนโลกนั้นไม่มีที่จะสิ้นสุด เพราะมันอาจจะไม่สนุกเลยถ้าวันหนึ่งเราเกิดมาเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถจะพูดหรือร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้ เลยต้องทนอยู่กับความทุกข์ยากลำบากแม้ไร้ที่ให้ซุกหัวนอน ทุกคืนวันต้องทนนอนแม้ตากยุงหรือฝนที่ตกลงมาเหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า คันชิต รัตนะวัน ที่ได้โพสต์ถึงความโหดร้ายของโลกที่ยังไม่สิ้นสุด และแต่ละวันจะต้องเจอกับอะไรบ้างอยู่ข้างถนนก็มีแต่ภัยอันตรายมากมายนัก เพราะอยู่ข้างในฝนก็ตกหนักไม่มีแม้ที่ให้หลบเห็นแล้วก็เกิดความสงสารแทบขาดใจ เพราะพวกเขาก็คงอยากที่จะมีบ้านที่อบอุ่นเอาไว้ให้มีที่ซุกหัวนอน เพราะชีวิตไม่มีที่ให้ไปเลยต้องมาอาศัยต้นไทรคอยเป็นที่กำบังฝนที่ตกลงมาแต่ละคืน เพราะเป็นพื้นที่ก่อสร้างอีกหน่อยเลยอยากจะโดนไล่ให่ไปอยู่ข้างถนนก็ต้องเสี่ยงที่จะต้องถูกรถทับในแต่ละวัน เพราะพวกเขาเองก็ไม่มีที่จะให้ไปจริงๆเลยต้องมานอนพิงแอบเอาที่ต้นไม้ต้นนี้ เขาเองก็อยากจะให้มีหน่วยงานที่จะเข้ามาช่วยเหลือที เพราะพวกน้องๆมีกว่า 30 กว่าตัวเลยที่ต้องนอนท่ามกลางสายฝน แม้บางตัวก็ไม่มีที่จะให้หลบต้องไปนั่งตากฝนเพราะไม่มีที่ให้ไป แม้ความเป็นแมวจริงๆแล้วพวกเขาก็กลัวน้ำแต่มันคงจะหมดหนทางหรือเลือกไม่ได้ แม้ยังมีคนเข้ามาถามว่าทำไมไม่ทำที่หลบฝนให้เค้าก่อน ผู้โพสต์ก็ได้เข้ามาตอบเอาไว้ว่า ทำแล้วแต่เช้าก็มีคนเขามารื้อออกขนาดตั้งถ้วยน้ำเขายังเก็บไปทิ้งหมดเลย เขากับแฟนก็ยืนตากฝนร้องไห้เลยเรพาะความสงสาร เพราะขนาดอยู่ในกรุงเทพก็ยังไม่เคยเจอแบบนี้เลย พิกัดที่ลงไว้บ ่อนไก่พระราม 4 หรือถ้ามีใครอยากจะเข้าช่วยเหลือเราก็ขอขอบพระคุณมาก . . . . . . . . . . . . . ที่มา คันชิต...

เพราะในความเป็นแมวหรือเป็นสัตว์และสิ่งมีชีวิตที่มีความเป็นตัวเองสูง เพราะพวกเขาจะไม่คิดอะไรเลยว่ามนุษย์นั้นจะต้องเป็นสัตว์หรือเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดมาเพื่อรับใช้พวกเขา แม้แต่การตีมึนหรือตีเนียนเข้ามาอยู่ในบ้านเหมือนกับเรื่องราวนี้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mo Pattarawadee ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดหัวจะปวดหลังจากที่เธอได้ย้ายบ้านย้ายที่อยู่อาศัยเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านนี้หรือบ้านหลังนี้ได้แค่ร่วม 3 วันและในรูปนี้เธอก็ได้ถ่ายจากที่บ้านของเธอ แต่ทว่ากลับมีแขกไม่ได้รับเชิญเพราะถ้าเธอไม่บอกก็จะไม่รู้เลยว่าเจ้าเหมียวสองตัวที่นอนแผ่พุงอย่างสบายใจเชิบที่หน้าบ้านของเธอนั้นไม่ใช่แมวของเธอ แล้วก็ไม่รู้ว่าพวกน้องๆเป็นแมวใครแต่ที่แน่ๆน้องมาตีเนียนนอนสบายใจเหมือนกับเป็นบ้านของตัวเอง เธอเลยมาโพสต์เล่าเรื่องราวนี้ลงในกลุ่มทาสแมว official เพื่อที่จะให้คนเป็นทาสได้เห็นความสุดมึนของพวกเขา และยังมีรู้ของการบ่งบอกว่าพวกเขาเดินเข้ามาหาแล้วก็มานอนแถมขึ่นมาขี่เธอเหมือนรู้จักกันมานานมากทั้งๆที่เธอก็เพิ่งจะย้ายได้เข้ามาร่วมสามวันเอง ที่มา Mo Pattarawadee

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ศิริวรรณ ไชยเพ็ชร์ ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า เรามีเรื่องจะมาเตือนเกี่ยวกับปลอกคอน้องแมว น้องแมวตัวนี้เรารับแมวจรมาเลี้ยงตั้งแต่น้องอายุได้ประมาณ15วัน เรารับมา2ตัว . ซึ่งน้องเป็นแมวแฝดเหมือนกันทุกอย่างสีเหมือนกันทุกอย่างเหมือนกันหมด ต้องแยกตรงหาง ตอนนี้น้องได้4เดือนกว่าเราเลยซื้อปลอกคอมาให้น้องใส่ เพื่อจะได้จำได้ว่าใครเป็นใคร ตอนแรกน้องก็ใส่ได้ปกติไม่มีอะไร มีอยู่วันนึงเราทำงานกลับบ้านมาตอนดึกๆ เราก็เห็นว่าเด็กๆหลับแล้วก็เลยไม่ได้สนใจอะไร พอตอนเช้ามาเราเห็นแมวตัวนึงซึ่งชื่อว่าขมิ้นทุกทีน้องจะมาเข้าห้องน้ำมาเล่นด้วย แต่วันนี้น้องกลับนอนอยู่เฉยๆ เราเลยไปอุ้ม กำลังจะหอมแก้มน้องเห็นว่าน้องน้ำลายไหลและเปียกคางจำนวนมาก เพราะปลอกคอรัดอยู่ที่ปากน้อง น้องทั้งหอบและเหนื่อยเหมือนน้องกำลังจะสิ้นลมเลย เรารีบเอาออกมันทันทีตอนนี้น้องกลัวเสียงกระดิ่งปลอกคอมากถ้าได้ยินน้องจะรีบวิ่งหนีแอบเข้ามุมทันทีเลยค่ะ เธอจึงได้นำอุทาหรณ์นี้ได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ที่มา ศิริวรรณ ไชยเพ็ชร์

โดยปกติแล้วแมววิเชียร์มาศถ้าเป็นในต่างประเทศ ถือเป็นแมวอีกสายพันธุ์ที่ผู้คนต่างก็อยากจะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้ ด้วยสเน่ห์ที่สายพันธุ์อื่นๆไม่มี กับเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้อีกแล้ว แต่สำหรับบ้านเรายังเห็นเป็นจรอยู่ในทุกๆพื้นที่เลย . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Patta Pat ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า หาบ้านให้กับลูกแมวจรค่ะ โดยตัวน้องนั้นมีแม่แมววิเชียรมาศมาคลอดลูกไว้ที่หน้าบ้าน5ตัว แต่ตอนนี้เหลือเพียงแค่4ตัว เพราะเด็กๆชอบไปนอนที่ใต้ท้องรถ ข้างบ้านกลัวจะติดรถไปอีก มีสีขาว2 ดำ2 อายุเกือบ2เดือนแล้วค่ะ สีขาวมีตัวผู้1ตัวดำ1 ส่วนสีดำเช่นกันตัวผู้1 ดำ1รับเลี้ยงเป็นคู่ค่ะสีดำกับขาว ขอคัดบ้านด้วยนะคะ ขอคนพร้อมที่จะเลี้ยงน้องจริงๆและต้องเลี้ยงน้องระบบปิด พิกัด กทม.อุรุพงษ์ จนเรื่องราวของน้องได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและล่าสุดนี้เอง...

เพราะการถูกเลี้ยงดูแลมาตั้งแต่เด็ก ยามถ้าเกิดพวกเขาเกิดหลงมาหรือหลุดหายก็ไม่สามารถที่จะไปหากินเองได้เพราะไม่รู้จักวิธีจะหา เลยต้องระหกเร่เที่ยวเดินสุ่มเข้าไปขอประทังเขาเมตตา แม้บางทีอาจจะเกิดว่าถูกเขาไล่หรือทำร้ายได้เพราะไม่ใช่ทุกคนที่เป็นทาสแมว เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Chanapong Samart ที่ได้โพสต์เรื่องราวเพื่อที่จะตามหาน้องแมวใครหายเพราะน้องได้มาอาศัยขอประทังชีวิตที่หลังบ้านของเขาร่วม 2 อาทิตย์แล้วตัวก็ยังไม่ไปไหน มาเที่ยวร้องขออาหารประทังไป แม้ตัวเองก็เป็นแมวพันธุ์ที่เคยถูกเลี้ยงดูไว้แม้เขายังบอกนิสัยน้องเชื่องมาก และขนน้องก็นุ่มมากๆเจ้าของเก่าน่าจะเลี้ยงดูแลมาเป็นอย่างดี ซึ่งในตอนนี้เขาเลยต้องจับน้องเข้ากรงเอาไว้เพราะแถวบ้านมีสุนัขเยอะและกลัวว่าถ้าปล่อยออกไปน้องจะถูกฟัดได้ เพราะตัวคงจะเป็นแมวที่ถูกเลี้ยงดูมาในระบบปิดเป็นอย่างดี ซึ่งถ้าเกิดออกมาใช้ชีวิตกับโลกภายนอกก็อาจจะทำให้เขาต้องเป็นอันตรายจากภัยในโลกกว้างมากมายที่เขาไม่เคยพบเจอ และถ้าใครคิดว่าเป็นเจ้าของก็สามารถที่จะนำรูปมายืนยันกับเขาได้เลย ที่มา Chanapong Samart

เพราะตัวเป็นเพียงแมวจรที่ไม่มีใครเขาจะสนเลยต้องทุกข์ทนแม้เจ็บปวดแทบจะหมดสิ้นลมหายใจอยู่ตรงนี้ ด้วยชีวิตของการเกิดมาเป็นเพียงแมวจรคนเขาก็ไร้จะปราณีฟันเข้ามาที่คอจนทำให้หวิดขาดแทบจะหมดสิ้นลมหายใจ แต่ก็ทำได้เพียงรอเวลาหมดลมไปแม้ท่ามกลางคนที่ผ่านไปมา เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ผิงผิ่งผิ้งผิ๊งผิ๋ง ผผ ได้โพสต์เรื่องราวหลังวันนี้เธอได้ผ่านมาที่หน้าเจเจมอลล์แล้วได้พบเจอน้องแมวตัวนี้ด้วยความบังเอิญ แต่ทว่าเมื่อได้เข้าไปใกล้ๆก็ได้พบว่าน้องเหมือนถูกเขาฟันมา จนคอเกือบจะขาดแล้ว ซึ่งตัวเธอเองเห็นแล้วก็เกิดความสงสารเขามากๆ แต่ก็ไม่สามารถที่จะพาน้องไปหาหมอได้เพราะตัวเธอก็ไม่มีทุนทรัพย์พอที่จะช่วยเหลือ เลยจะมาถามในกลุ่มว่าจะสามารถโพสต์ระดมทุนหรือสามารถช่วยน้องได้อย่างไรบ้าง ซึ่งภายหลังเธอก็ได้เข้ามาอัพเดทว่าขอบคุณพี่ๆนะคะ พอดีเธอเองก็ไม่ได้อยู่แถวเจเจด้วยเพราะเมื่อวานแค่ผ่านไปแล้วบังเอิญเจอน้องเข้า และตอนนี้ก็ยังไม่ทราบข่าวน้องเลยเหมือนกัน แต่วันนี้ว่าจะกลับไปดูน้องว่าน้องยังอยู่ไหมและก็ยังไร้การอัพเดทเพิ่มเติม ซึ่งถ้าใครอยู่ในบริเวณที่เธอได้แจ้งเอาไว้ก็อยากจะให้ช่วยกันเข้าไปดูหรือช่วยเหลือน้อง เพราะหนึ่งชีวิตเขาก็คงจะไร้หนทางให้ไปต่อและอาจจะต้องนอนรอเพียงเวลาหมดสิ้นลมหายใจ ที่มา ผิงผิ่งผิ้งผิ๊งผิ๋ง ผผ

เคยมั้ยเห็นหมาจรเดินผ่าน เราซึ่งเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้วก็อยากกระโจนเข้าไปกอดเข้าไปเล่นด้วย แต่พอเข้าใกล้ๆอ้าวมันไม่ใช่หมา น้องกลับเป็นแมวตัวใหญ่ขนาดเท่ากับหมาแล้ว จนเธอนั้นอดที่จะเข้าไปเล่นด้วยไม่ได้เลย . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : คำ ติ้ก ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ขับรถผ่านร้านของชำร้านนึงเราเห็นหมาหน้าคล้ายแมว จนทันใดนั้นตัดสินใจเลี้ยวกลับมาใหม่ เพราะคิดว่าตาฝาดไปแน่ๆ นี่แหละหนาคนรักสัตว์จึงต้องเลี้ยวกลับมาดูใหม่ แต่ไม่ใช่ค่ะนั่นมันแมวแมวค่ะ แค่น้องตัวใหญ่นิดเดียวเอง ลองดูขนาดของน้องในรูปสิ ถ้าจะตัวใหญ่ขนาดนี้เป็นใครก็คิดว่ามันต้องเป็นหมาแน่ๆ แต่เป็นหมาสีส้มนะ 555 น้องทั้งตัวหนักตัวใหญ่และยังขี้อ้อนอีก เป็นใครก็ต้องตกหลุมรักเลยแหละ จนเรื่องราวของน้องได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกับความน่ารักของน้องหมา เอ้ยน้องแมว ซึ่งเราก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าแมวสีส้มเนี่ยมันขี้อ้อนหนักมาก ชาวเน็ตต่างก็ใจละลายไปตามๆกันเลย ที่มา...