เดินมาร้องเรียกหาด้วยใจสุดระทม หลังตนโดนตะปูทิ่มลึกจนตัวทนไม่ได้อยากขอให้ช่วย

มีแมวจรจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องฝืนทนอยู่กับชีวิตที่เลือกไม่ได้ ไหนจะภัยต่างๆที่ตัวต้องเกิดมาเป็นจร เหมือนกับเรื่องราวดังต่อไปนี้ของน้องแมวที่พยายามเดินมาหาและขอให้ช่วยชีวิตน้องที เพราะที่ใต้ดวงตาของน้องมันมีตะปูขนาดยาวกำลังทิ่มอยู่ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Jessy Phanwarot ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มกลุ่มคนรักน้องแม่ อันมีใจความระบุว่า ไปกินกาแฟกับแฟนแล้วแวะไปที่ปั้มน้ำมัน เราได้ไปเจอแมวตัวนี้เดินเข้ามาหา น่าจะมาขอความช่วยเหลือ ถ้าดูจากสภาพของน้องแล้วน้องต้องทนอยู่อย่างนี้มานานมากๆแล้ว เรากับแฟนเห็นก็เลยอุ้มขึ้นรถพาน้องแมวไปหาหมอในทันที หายไวๆนะเจ้าเหมียว เราช่วยแกได้แค่นี้แหละ พาไปหาหมอแล้วต่อไปไม่ต้องเป็นอีกแล้วนะ หายแล้วนะลูก ชีวิตต้องสู้ต่อไปนะ แมวจรผู้น่าสงสาร สาเหตุที่ตะปูทิ่มตา อันนี้เราไม่รู้ว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ตอนนี้น้องรอดชีวิตแล้วจ้า และถ้าดูจากขนาดของตะปูแล้วมันมีขนาดที่ยาวมาก น้องคงต้องทนอยู่อย่างนี้มานานไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่ตอนนี้น้องปลอดภัยแล้ว เราต้องขอขอบคุณทางผู้โพสต์มากๆเลยนะที่ได้ช่วยชีวิตน้องเอาไว้ ที่มา...

จำระหกเดินเร่พลันเป็นจรแม้เคยเป็นแมวพันธุ์ผสม ตัวระทมทุกข์ต้องหาเศษอาหารประทังหิว

ยามชีวิตเคยถูกเลี้ยงมาไม่ต้องออกหาตัวระหกทุกข์คอยซบมีอ้อมอกให้เข้าหา จากมีบ้านอยู่มีข้าวกินนอนต้องเสียน้ำตาต้องพลันตัวมาเป็นจรอาศัยอยู่ใตสะพานระแวงใจเฝ้าเดินหาเศษอาหารไว้ให้ช่วยบรรเทาประทังหิว แม้ชีวิตเคยอยู่ดีกินดีมาร่วมชีวิตต้องเปลี่ยนเป็นจร เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Opo Mazda-Mz ได้โพสต์เรื่องราวตามหาเจ้าของเจ้าให้เจ้ามิ้วแมวพันธุ์ผสม ที่ใช้ชีวิตพลันเปลี่ยนเป็นจรและต้องระหกเร่หาอาหารอาศัยอยู่ในใต้สะพานด้วยความระแวงลำพัง แม้หิวก็เดินหาเศษอาหารประทังชีวิตให้รอดวันผ่านพ้นไป แม้ต้องทนไปผู้โพสต์เลยอยากให้น้องได้กลับคืนหาผู้เป็นเจ้าของเคยเลี้ยงดู แม้ก็มีหลายคนเข้ามาบอกรูปลักษณะของน้องคล้ายกับแมวที่หายไปสองตัวแต่ดูแล้วก็ไม่ใช่น้องแมวที่เจ้าของเขากำลังตามหาอยู่ และมีอีกคนเข้ามาเม้นท์ว่ามีคนจร คอยเลี้ยงและให้อาหารน้องอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาได้เป็นเจ้าของแมวจริงๆมั้ยเพราะอาศัยอยู่ใต้สะพานปิ่นเกล้า เพราะหนึ่งชีวิตเขาเองเคยถูกเลี้ยงและไม่เคยแม้แต่ออกไปหาอาหารกินเวลาเขาต้องพลันตัวเป็นจรแล้วก็ต้องทนดิ้นรนแม้จะหากินเองไม่เป็น เราเลยบอกเสมอว่าการเลี้ยงแมวหรือสุนัขในระบบปิดหรือเอาไว้ในบ้านจะปลอดภัยกับตัวเขาและจิตใจของเรามากกว่าเราจะไม่ต้องเป็นห่วงหาเวลาเขาได้หลุดหรือหายออกไปจากบ้าน เพราะโอกาสที่จะได้กลับคืนมามันมีน้อยมากๆเลย ที่มา Opo Mazda-Mz

หนุ่มกุมขมับหลังโพสต์รีวิวน้ำพุแมว ที่ตัวหาซื้อมาให้เจ้ามิ้วแล้วแต่น้องกลับใช้ไม่ถูกวิธี

เพราะด้วยความที่น้องแมวเองพวกเขาเป็นสัตว์ที่ไม่มีความเป็นเหมือนสุนัขหรือจะเรียกว่ามีความคิดเป็นของตัวเองสูงมาก แม้แต่ของที่ทาสจะชอบหามาให้ใช้หรือให้กินน้องก็จะเลือกมากและบางทีก็ไม่ถูกใจผู้ใช้ด้วยความคิดที่ว่าตัวเองเป็นนายและคนอย่างเราเป็นทาส เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า ข้าวเหนียว แมวมีม ได้โพสต์เรื่องราวการรีวิวน้ำพุของน้องแมวหลังทางผู้เป็นเจ้าของเขาได้หาซื้อน้ำพุมาให้กับน้องแมวของเขาและได้ทำการมารีวิวลงในเพจ แต่ทว่าการรีวิวการใช้เครื่องน้ำพุอัตโนมัติมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง เพราะน้องแมวสองตัวของเขาได้พยายามจะกินน้ำพุแล้วแต่ก็ไม่สามารถจะหัดใช้ได้เลยจริงๆ ภาพก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นน้องแมวกลับไปกินในกะละมังแทนและมานั่งดูน้ำพุอย่างชื่นหน้าสบายใจสบายตามาก แม้จะมีเจ้ามิ้วอีกตัวที่พยายามจะมาสนใจ น้ำพุอัตโนมัติแต่ก็มานั่งทำหน้ากลุ้มเหมือนอยากจะบอกว่ามะนุดแกซื้ออะไรมาให้พวกฉันกันเนี่ย แต่ทางผู้เป็นเจ้าของเองก็ไม่ได้ละความพยายามในการจะให้น้องแมวมาใช้น้ำพุแมวให้ได้ เขาก็พยายามจะให้น้องแมวใช้ทุกทางแล้ว ซึ่งผลที่ได้ก็เหมือนจะประสบความสำเร็จแต่พอเอาเข้าจริงๆเจ้ามิ้วตัวสีดำก็กลับมานั่งงับน้ำพุที่ทางผู้เป็นเจ้าของใส่น้ำพร้อมใช้งานมาให้แทน เพราะน้องไม่รู้วิธีกินน้ำแบบน้ำพุเพราะน้ำจะไหลตลอดเวลามันเป็นการทำให้ฝุ่นที่อยู่บนหน้าผิวน้ำตงลงไปในกรองน้ำที่มีอยู่ด้านล่าง แม้ผู้เป็นเจ้าของจะหัวร้อนไปมากเขาก็พยายามจะใจเย็นแม้จะแทบเอาน้ำพุขว้างออกนอกหน้าต่างไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ทำจริงๆเพราะเป็นการทำให้ดูตลอกเล่นและสักวันเราก็หวังว่าแมวบ้านน้องข้าวเหนียวแมวมีมจะใช้น้ำพุแมวเป็นและเจ้าของน้องก็คงจะหายปวดใจ . . ที่มา ข้าวเหนียว แมวมีม

ระหว่างทางขับกลับเห็นถูกวางอยู่ริมถนน เปิดดูทนเจอสองชีวิตนอนขดอยู่จนตัวสั่น

เพราะความเป็นเด็กยามเราเล็กคอยมีแม่เฝ้าดูแลถนอมแม้ยามนอนยังต้องกอดเอาไว้ให้กายอุ่นในใจเขา ถูกเขาพรากมาเทไว้ในระหว่างทางขับรถเจอกล่องหนึ่งใบถูกวางเอาไว้เข้า เปิดดูข้างในแล้วเห็นสองชีวิตนอนขดกันอยู่ด้วยใจกลัว เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thanin Praibueng ได้โพสต์เรื่องราวระหว่างทางการขับรถเขาได้เจอกล่องลังกระดาษถูกวางเอาไว้อยู่ตัวเลยเดินเข้าไปดูแลเห็นว่าข้างในกล่องเป็นน้องแมวถูกเขาเอามาเทไว้น่าสงสาร เป็นแมวลายสลิด นอนขดกันจนตัวสั่นและกลัวมากจนถ่ายออกมาเลอะเต็มกล่อง ด้วยเขาเองก็ไม่สามารถจะช่วยเหลือน้องหรือพากลับไปบ้านด้วยได้เลยมาโพสต์หาคนรับน้องไปเลี้ยงอยู่คลองสานกทม เพราะเขาก็บอกว่าไม่ค่อยสะดวกแต่น่าสงสารน้องมาและน้องก็ยังอยู่ที่เดิม ซึ่งน้องแมวก็อยู่แต่ในกล่องและไม่ยอมออกมาจากลังเลยนอน เพราะตัวคงจะถูกเขาพรากจากอกแม่มาแล้วเอามาเทไว้ริมถนน และภายหลังเขาก็มาอัพเดทว่าตอนนี้ได้เอาน้องแมวขึ้นรถมาแล้ว และขอไปทำความสะอาดก่อนเพราะน้องถ่ายออกมาเลอะเต็มตัวครับ ด้วยทางเพื่อนๆในกลุ่มเองก็มาเม้นต์กันขำๆว่าถูกตกแล้วหนึ่ง ช่วยมาก่อนแล้วใช่มั้ย เขาก็เลยบอกว่าช่วยมาก่อนแล้วแต่จะขอให้เพื่อนอีกคนช่วยทำการหาบ้านให้อีกทีเพราะมีคนรับน้องไปดูแลไว้ก่อนแล้ว เราก็ขอบคุณผู้โพสต์มากที่เลือกจะไม่เทน้องเอาไว้ ที่มา Thanin Praibueng

ต้องมานั่งเฝ้าที่หน้าบ้านทุกวัน กับความฝันที่เจ้าของจะไม่มีวันกลับมาด้วยตัวถูกเทอย่างไรเยื่อใย

ยามอยากได้ก็เลี้ยงให้ข้าวให้น้ำ แต่พอเป็นว่าเป็นภาระกลับทิ้งกันได้ลง ไม่มีอีกแล้วเยื่อใยที่เคยให้กันมา เหลือเพียงความว่างเปล่าทั้งๆที่น้องไม่ได้ทำผิดอะไร โดยเรื่องราวดังกล่าวนี้น้องแมวทั้ง 3 ชีวิตกลับต้องกลายมาเป็นจรเพราะน้ำมือของมนุษย์ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Yay Watanavanit ได้บอกเล่าเรื่องราวลงในกลุ่มทาสรักเจ้านาย....เลาคือทาสแมวอันมีใจความระบุว่า น้องแมวดำตนนี้เจ้าของแมวย้ายบ้านออกไป แล้วทิ้งแมวไว้ปรมาณ3ตัว น้องทั้ง3ชีวิตชอบมาขอกินข้าวทุกวัน เราก็พยายามเอาข้าวไปวางไว้ให้สองมื้อตอนเช้าตีห้าครึ่ง และตอนเย็นประมาณ 5โมง น้องแกคงเหงาพยายามจะเข้ามาในบ้านตลอดเวลาเลย และน้องทั้ง3ชอบมานอนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู เอ็นดูสองตัวในบ้านแผ่แม่เบี้ยใส่ตลอด ใครที่ชอบเลี้ยงทักมาคะพิกัดธนาคารอิสลามจะบังปัตตานี รับเข้าบ้านไม่ได้จริงๆนะคะ แต่เราให้อาหารทุกเช้าเย็นได้จ้า (คิดแล้วก็เริ่มเยอะเกินกำลังตัวเองแล้ว) จนเรื่องราวได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ แต่โพสต์ดังกล่าวค่อนข้างเงียบมาก...

เผยภาพสุดเหวี่ยงของเจ้าเหมียว ที่จำต้องออกเดินทางร่วมกับพ่อร่วม 2600กิโล

ทาสแมวหลายๆท่านอาจจะต้องเหนื่อยถึงเหนื่อยมาก เมื่อต้องพาแมวออกเดินทางไปด้วยกันร่วมระยะทางไกล เพราะโดยปกติแล้วถ้าเราไม่เคยพาแมวมานั่งรถเลยพวกนางจะร้องโวยวายหนักมาก แต่สำหรับการเดินทางของหนุ่มผู้โพสต์ท่านนี้แล้วมันกลับต่างออกไป . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Panatda Nopsanthia ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มแมวจ๋า ทาสมาแล้ว อันมีใจความระบุว่า ครั้งก่อนวิ่งระยะทางแค่ 200-300โล แต่พอมาวันนี้ต้องเดินทางไกล 1300 โล รวมไปกลับแล้วร่วม2600กว่าโลเลยทีเดียว เราไม่คิดว่าจะได้เดินทางถี่ขนาดนี้ ปกติเดินทางไกลน้องๆจะได้นั่งรถ10ล้อไป แต่มารอบนี้น้องได้นั่งรถเก๋งกลับ มาดูกันว่า จะวุ่นวายกันขนาดไหน เนี่ยยังเป็นคนเดิมที่เลือกที่ไม่ได้สักที แต่ละตัวก็วุ่นวาย บางตัวก็ชอบอยู่คนเดียวแบบเงียบๆ และดูหน้าตาของน้องเสียก่อนดูทำหน้าเข้า สงสัยจะไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่...

สภาพชีวิตของเจ้ามิ้วจร ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเจ็บแม้จะเดินไม่ไหว

เพราะชีวิตหนึ่งชีวิตบนโลกกว้างใบใหญ่เราอาจจะมองเห็นว่าไม่มีภัยหรือสิ่งใดทำอะไรเขาได้ แต่ความเป็นจริงแล้วชีวิตน้อยๆไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือน้องแมวต้องมีภัยในแต่ละวันกว่าจะรอดชีวิตมาได้ในแต่ละวันมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับชีวิตพวกเขา เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แสนดี แล้วไง ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วส้มขาวหลังเขาได้เจอน้องเดินไปมาและเห็นตัวก็มีรอยเจ็บที่คอ และเริ่มจะมีกลิ่นซ้ำยังผอมมากและไม่สามารถจะกินอาหารได้ แม้เขาพยายามให้และน้องก็ร้องส่งเสียง และเขาก็พยายามไปดูคลีนิคแถวน ั้นเพื่อจะพาน้องไปหาหมอรักษาเบื้องต้นก่อนแต่ก็ยังไม่มีคลีนิคไหนเปิดเลย เขาเลยต้องเอาน้องกลับมาไว้ที่เดิมเพราะเขาเองก็ไม่มีรถส่วนตัวและต้องรีบออกไปทำงาน อย่าเพิ่งต่อว่ากันนะคับอยากจะให้น้องได้รักษา เลยอยากจะมาขอความเมตตาจากพี่ๆให้ช่วยเหลือน้องด้วยนะคับ น้องอาศัยอยู่ตลาดเอื้ออาทรคูบอนและตึกใกล้เคียง น่าจะเป็นแมวจรหรือเคยมีเจ้าของ และภายหลังทางทีมกู้ภัย 4 ขาสมุทรปราการก็นำทีมลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือน้องแมวแล้วนะคะ และจะนำน้องส่งคลีนิคคุณกะลารักษาสัตว์แล้วคงจะรอให้น้องหายดีแล้วจะทำการหาบ้านต่อไป เพราะหนึ่งชีวิตพวกเขาไม่สามารถจะไปร้องบอกใครหรือพูดได้ว่าตัวเองเจ็บ เวลาถูกเขาทำมาก็ต้องทนอยู่กับความเจ็บแม้แทบจะเดินไม่ไหวแม้เอาข้าวให้ก็ยังไม่สามารถจะกินเข้าไปได้เลย ที่มา แสนดี แล้วไง

แมวสามสีพยายามเข้ามาออดอ้อพันแข้งขา เพราะตัวโดนเอามาทิ้งกับสายตาเศร้าที่ต้องอยู่ลำพัง

เวลาเราเห็นแมวเราก็จะมีความสุขที่ได้เข้าไปเล่นเข้าไปพูดคุยกับน้อง และเราเองก็ไม่อาจรู้ความคิดของน้องแมวเหล่านี้ได้เลย ภายนอกอาจจะดูเข้มแข็งแต่ภายในคือพึ่งจะโดนนำมาปล่อยไว้เหมือนกับเรื่องราวของเจ้าเหมียวสามสีตัวน้อยตนนี้ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ชื่นกมล คีรี ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มรักหมารักแมวอันมีใจความระบุว่า น้องอาจจะโดนนำมาปล่อยไว้ นิสัยของน้องขี้อ้อนมากเข้าหาคนได้ง่ายสุดๆ และจุดเด่นอีกอย่างคือลายสามสีของน้องที่โดดเด่นกว่าใครๆ ทางสาวผู้โพสต์พยายามตามหาเจ้าของหรือผู้อุปการะแมว3สี​ น้องเป็นแมวเพศเมีย​ อายุประมาณ​3-4เดือน​ พิกัด​ จ.นครศรีฯ อ.เมือง และด้วยอายุของน้องยังน้อยนัก มันคงเป็นเรื่องที่ยากที่น้องต้องมาใช้ชีวิตอยูอย่างโดดเดี่ยว และน้องเองก็พยายามเข้ามาออดอ้อนกับทางสาวผู้โพสต์ เหมือนกับว่าน้องอยากจะไปอยู่ด้วยเลย จนเรื่องราวของน้องได้โพสต์ลงในโลกออนไล์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเม้นต์จนในที่สุดนี้มีผู้ใจดีรับน้องเอาไปดูแลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากโพสต์ดังกล่าวนี้ได้โพสต์ลงได้ไม่นานนัก ที่มา ชื่นกมล คีรี

หนุ่มแนะอาชีพใหม่ใครพอมีเวลาว่างไปหาแมวกัน หลังเห็นป้ายติดตามหาน้องมีรางวัลตอบแทน

เพราะความรักจากการได้เลี้ยงดูพอไม่อยู่ให้เอาอะไรมาแรกก็ยอมขอให้ได้กลับคืน ด้วยคุณค่าทางจิตใจของเราซึ่งเป็นผู้เลี้ยงเหมือนคนเป็นพ่อแม่พอเวลาลูกหายแล้วก็อยู่ไม่ได้กินนอนไม่หลับ เลยพยายามจะตามหาและทำทุกทางเพื่อให้ได้กลับมาเข้าอ้อมกอด เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ta'h Kanit ได้โพสต์เรื่องราวใครมีเวลาว่างๆไปหาแมวกันเพราะเขาได้เห็นป้ายที่ติดประกาศใหญ่มากทั่วเมืองภูเก็ตเป็นการตามหาน้องแมวหายสองตัวชื่อน้องโกมะจังเพศผู้และทามะจังเพศเมีย ได้หายไปแถวถนนหัวควนใต้ ในจังหวัดภูเก็ต และถ้าพบเจอแมวที่มีรูปลักษณะเหมือนกับน้องสองตัวที่หายก็ยังใส่คิวอาร์โค้ตมาไว้ให้แล้วทักไลน์ไปให้เลยด้วย เพราะมีเงินรางวัลเป็นสินน้ำใจให้ถึงสามหมื่นบาท เพราะผู้เป็นเจ้าของเขาก็คงรักของเขาและอยากจะได้กลับมาเพราะเป็นเหมือนดวงใจของบ้านเลย แม้คนที่ไม่เคยเลี้ยงหรือไม่เคยได้อยู่ใกล้หรือเลี้ยงดูมาก็จะไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงต้องพยายามจะตามหาน้องแมวที่หายไปมากเพียงนี้ ซึ่งความจริงก็คือเหมือนเราได้เลี้ยงลูกได้เลี้ยงคนในครอบครัวมาแต่ยังเล็กพอเวลาหายขึ้นมาแล้วก็ไม่แผลกที่เขาจะลงทุนและตามสุดกำลังที่ตัวเองมี เพราะหวังว่าอยากจะได้คนดีกลับคืนมา และถ้ามีใครเห็นน้องแมวที่มีลักษณะเหมือนกับน้องแมวในรูปก็สามารถจะติดต่อกับทางผู้เป็นเจ้าของได้ในทางการติดต่อที่ให้ไว้เขามีรางวัลเป็นสินน้ำใจหรือใครจะทำเป็นอาชีพเสริมเลยเขาก็คงจะไม่ได้ว่าเพราะอยากจะได้ดวงใจกลับคืนมาเข้าอ้อมกอด ที่มา Ta'h Kanit

หันหน้ามาแทบใจสลายกับชีวิตแมวจรที่มีเพียงครึ่งหน้า วอนผู้มีเมตตาโปรดช่วยรับไปรักษาที

ยังมีแมวจรอีกมากมายที่ยังคงรอคอยให้ใครสักคนเข้าไปช่วย เพราะน้องไม่มีปากมีเสียงจะมาบอกจะร้องขอให้เราช่วยได้ ถ้าน้องพูดได้และมีสิทธิ์มีเสียงก็คงเดินไปที่โรงพยาบาลให้คุณหมอช่วยรักษาที เหมือนกับเรื่องราวดังต่อไปนี้ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kamolchanok Saw Chaichana ได้บอกเล่าเรื่องราวลงในกลุ่มชมรมแมวสายดาร์กพร้อมระบุว่า สวัสดีค่ะเราได้พบเจอกับน้องแมวจร พอดีเรื่องมีอยู่ว่าเราไปนั่งทานข้าวที่ร้านโคตรเด็ดซีฟู๊ด ที่เสนานิเวศน์ แล้วเรามีน้องแมวเพศผู้ น้องร้องเสียงดังมาก เราและพี่ๆที่มาด้วยกันก็เอะใจ และหันไปมอง พอเห็นแล้วอดสงสารน้องไม่ได้เลยจริงๆ เพราะตรงหน้าน้องเหมือนโดนสุนัขฟัดมา ตาข้างขวาน้องปิด คือตอนแรกเราและพี่ๆอยากพาน้องไปโรงพยาบาล แต่น้องเป็นแมวจรไม่ให้ใครจับ พนักงานที่ร้านบอกว่าน้องเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วด้วย จะพาไปหาหมอก็จับไม่ทัน คือเราจะบอกว่า ถ้ามีสมาชิกท่านใดที่อยู่แถวแยกวังหิน หรือแถวเสนานิเวศน์...