ถูกเขาขังเลี้ยงให้อยู่แต่ในกรงตกดึกยุงก็หาม ชีวิตถูกมองข้ามอาศัยใต้ถุนบ้านร้างไร้น้ำอาหารตกถึงท้อง

แม้ในชีวิตที่เกิดมาและไม่สามารถจะพูดหรือไปร้องบอกใครเขา ด้วยตัวเศร้าเกิดมาเลือกไม่ได้ที่จะร้องขอให้ใครมาช่วย เหลือถูกเขาเลี้ยงตามมีตามเกิดหรือตามยถากรรม ชีวิตลำพังซ้ำยังมีลูกมาต้องคอยปกป้องแม้ไร้ทางจะออกไปหาประทังให้ลูกอิ่มท้อง แม้ตกดึกยุงก็หามต้องทนอยู่เห็นแล้วยังสงสารน้ำตานองชีวิตไร้การเรียกร้องทนไปเพราะเขาก็ยังพอให้ประทังหิว เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า LilyOnly Happydog ได้โพสต์เรื่องราวรบกวนขอความช่วยเหลือให้ช่วยหาบ้านให้กับแม่เหมียวและลูกแมวทั้ง 3 ตัวนี้ ซึ่งแม้จะไม่ต้องรับไว้ทุกตัวก็ได้ขอแค่ช่วยประทังช่วยเหลือชีวิตเหล่านี้ เพราะแม่แมวและลูกๆทั้ง 3 ตัวถูกขังอยู่ในกรงใต้ถุนของบ้านร้าง และมียายคนที่จับแมวมาขังเขาก็ขาไม่ดีไม่ค่อยจะเดินมาให้อาหารและน้ำให้ ทำให้บางครั้งแมวไม่มีอะไรกินหรือตกถึงท้องเลยในเวลาหลายวัน แต่ยังมีน้ำและมีมูลเต็มกระบะทรายจนหนอนขึ้น และมีเพียงแสงไฟจากถนนในตอนกลางคืนที่ส่องมาถึงและมีกองทัพยุงเป็นเพื่อนในทุกๆคืน บริเวณที่อยู๋ไม่มีบ้านคนอื่นและติดกับถนนใหญ่เลยทำให้ไม่กล้าปล่อยน้องแมวออกไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยเขา ซึ่งเมื่อเธอได้พบเห็นก็อดสงสารไม่ได้เลยอยากจะขอวอนผู้ใจบุญมาช่วยรับเลี้ยงและดูแลเขา เพราะชีวิตเศร้าเกิดมาเป็นเพียงแมวจรที่ถูกเลี้ยงดูในกรงขัง แม้ผู้เป็นแม่เขาก็ไม่สามารถที่จะออกไปหาประทังให้กับลูกได้ กลางคืนก็ต้องทนนอนตากยุงเห็นแล้วใจหายและมีน้ำคอยประทังให้ลูบท้องให้หายหิว ซึ่งเธอก็เลยอยากจะฝากหาบ้านหาคนใจดีมารับเลี้ยงดูแลน้อง นัดรับได้ที่แถวโลตัสคตรองครุ รพ.วิชัยเวช น้องอยู่แถวๆสหกรณ์ถ้ามีผู้อุปการะเค้าจะไปรับพวกเขาให้ได้ และภายหลังจากการโพสต์หาบ้านให้เธอก็มาอัพเดทข่าวดีไว้ว่าตอนนี้มีผู้ใหญ่ใจดีติดต่อเข้ามารับครอบครัวแม่แมวไปเลี้ยงดูให้มีชีวิตใหม่ที่ดีและมีความสุขขึ้นแล้วค่ะ . . . . . . ที่มา...

ยังนั่งเฝ้าคอยอยู่หน้าประตูทุกวันหวังให้พ่อกลับ แม้เสียใจหนักตัวไม่รู้ว่าพ่อจะไม่กลับมาอีกแล้ว

เพราะในความเคยชินที่ตัวถูกเลี้ยงและเคยอยู่ร่วมกันมา พอวันหนึ่งเกิดต้องมีเหตุการณ์ให้จากลาเป็นใครก็คงจะทำใจไม่ได้ ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่มีสมองหรือความคิดเทียบเท่ากับเด็กสามขวบด้วยแล้ว พวกเขาก็ยิ่งที่จะทำใจได้อยากเหมือนอย่างเช่นสัตว์และเรื่องราวของน้องแมวตัวนี้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Opal Opal ได้โพสต์เรื่องราวหลังเธอได้เลิกกับแฟนหนุ่มไป แต่ทว่าการจากลาก็อยากที่จะทำใจแต่น้องแมวยิ่งแล้วใหญ่ เพราะน้องแมวนั่งเฝ้าประตูห้องน้ำตลอดเลย เพราะในตอนปกติเขาจะคอยนั่งรอพ่อเขากลับหน้าห้องน้ำกับประตูห้องเสมอมา เฝ้าคอยเวลาพ่อเขาไม่อยู่ห้องหรืออกไปทำงานหรือข้างนอกตลอดเวลาเสมอ แม้เธอเองได้เห็นน้องแมวเป็นแบบนี้แล้วน้องก็วิ่งมานั่งมองหน้าเธอแล้วก็น้ำตาไหลตลอด เพราะคอนนี้เลี้ยงน้องตัวเดียวและเธอก็อยู่คนเดียวเลี้ยงน้องในระบบปิด ซึ่งการทำใจที่จะต้องจากลาจากแฟนหนุ่มนั้นยากแล้วแต่การที่จะต้องมาเห็นน้องแมวเป็นแบบนี้เธอก็ทุกหนักขึ้นไปอีก ซึ่งเธอได้นำเรื่องราวนี้มาโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว และก็ได้กำลังใจจากทุกคนและเธอก็บอกเอาไว้ว่าจะกลับมาเข้มแข็งและเลี้ยงน้องแมวให้ดีที่สุดเท่าที่คนเป็นแม่คนหนึ่งจะทำได้ ที่มา Opal Opal

ไม่คิดเลยว่าวันที่เสียใจที่สุดจะมาถึง แม้เลี้ยงระบบปิดแต่ไม่วายพลาดถึงขั้นชีวิต

วันที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ก็คือวันที่ลูกต้องหมดลมหายใจ แม้ตัวแม่นั้นจะเลี้ยงลูกให้ดีสักแค่ไหน แต่การพลาดเพียงครั้งเดียวนั่นหมายถึงชีวิตที่ไม่มีวันหวนกลับมา เหมือนกับชีวิตน้องแมวตนนี้ที่ตัวหลุดออกจากบ้านไปจนกระทั่ง . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : นิหน่า นิหน่า ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า วันนี้เสียใจที่สุด เพราะลูกชายโดนรถชนจนตัวหมดลมหายใจ โดยปกติแล้วแม่จะเลี้ยงระบบปิด แต่วันนี้น้องเกิดหลุดหายออกจากห้องแม่ พยายามแล้วแต่จับไม่ทัน น้องทำหมันแล้วน้องเห็นแมวจรเลยวิ่งไล่กวดเขา เราก็ไม่ใด้คิดอะไรปกติพอน้องหลุดน้องจะกลับมาที่บ้านเอง ไม่เกินชั่วโมงแม่ก็ตามเรียกลูกถึงสามทุ่มก็ยังไม่เจอเข้าห้องไม่ถึงสิบนาทีลุงยามรีบวิ่งมาบอกว่า น้องโดนรถชน แม่นี่ใจหล่นลงตาตุ่มเลยวิ่งไปดูใช่ลูกเราจริงๆหรือเปล่า บุญใดที่แม่ใด้สร้างมาขอส่งลูกชายแม่ไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้นไปนะลูก... แม่รักพี่นวยนะ จนเรื่องเรื่องราวสุดเศร้านี้ได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ที่มา นิหน่า นิหน่า

ปล่อยให้ออกไปดูนกเหมือนทุกวันไม่ยอมกลับ ผิดสังเกตุออกมาตามลูกตกตึก 6 ชั้นใจสลาย

แม้แค่การปล่อยให้ออกไปเที่ยวเล่นเหมือนทุกวันก็อาจจะมีสิทธิ์ทำให้เราต้องเสียใจไปตลอดได้ เพราะแค่เพียงเผลอหรือในช่วงเวลาที่เราสะเพร่าก็อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับพวกเขาได้เพราะเหมือนกับเด็กน้อย ที่ไม่รู้ว่าสิ่งไหนอันตรายต่อตัวและอาจจะทำให้เจ็บตัวแล้วเราอาจจะต้องเฝ้าโทษตัวเอง เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wassana Wassana ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วตัวนี้ลงในกลุ่มหลังวันนี้ตอนบ่ายน้องได้ออกไปดูนกเหมือนในทุกวัน แต่วันนี้น้องกลับไม่ยอมเข้ากลับมาเธอก็ผิดสังเกตเลยออกไปดูและพบว่าน้องคงจะกระโดดจับนกพลาด เลยทำให้ตกตึกชั้น 6 เธอก็รีบลงไปดูอาการน้อง น้องเดินไม่ได้สงสัยขาจะหักและมีน้ำไหลออกแต่ไม่รู้ว่าตรงไหนเธอก็รีบพาน้องไปโรงพยาบาลสัตว์มหิดล คุณหมอตรวจแล้วก็พบว่าน้องมีอาการมีลมในช่องอก สังสัยว่าจะเป็นภาวะปลอดฉีกรั่ว ต้นขาข้างซ้ายและสะโพกหัก ตอนนี้น้องก็เลยแอดมินอยู่ในห้องฉุกเฉินและจำเป็นที่จะต้องอยู่ในตู้ออกซีเจนอย่างน้อย 72 ชม. และให้ยาแก้ปวดตลอดเวลา ซึ่งคุณหมอก็ประเมินค่าใช้จ่ายต่อวัน 2500-3000 บ. ไม่รวมค่าผ ่าตัดกรณีที่ต้องผ่าเอาเนื้อปอดที่รั่วออก โดยคุณหมอประเมินอยู่อย่างน้อย 3-5 วันจนกว่าอาการจะคงที่ แล้วย้ายไปอยู่นอกตู้ออกซิเจน...

ปล่อยให้ออกไปดมอุจจาระนกพิราบ ข้ามเดือนผ่านลูกหน้ากลายเป็นช้างแทบขาดใจ

เพราะความเป็นทาสที่เลี้ยงดูแลพวกเขามาเหมือนกับลูก เราก็มักจะชอบตามใจพวกเขาและปล่อยให้พวกเขาออกไปเที่ยวเล่นตามประสา แต่มันก็เหมือนกับดาบสองคมที่ทำให้เราอาจจะต้องเสียใจไปตลอดได้ เพราะโลกที่กว้างใหญ่ ที่เราพยายามจะบอกทุกครั้งให้เลี้ยงพวกเขาในระบบปิด เพราะอาจจะมีสิทธิ์ติดเชื้อโรคจากข้างนอกหรือจากสัตว์อื่นที่ไม่อาจจะรักษาหาย เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า bar flow ที่ได้โพสต์เรื่องราวเตือนอุทาหรณ์สำหรับคนเป็นทาสแมวหลังจากที่เขาได้เจอเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตัวเอง เพราะการปล่อยให้น้องแมวออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน จนทำให้ติดโรคและไม่สามารถที่จะรักษาให้หายกลับคืนมาได้อีกเลย ซึ่งเขาก็ได้เตือนเอาว่าระวังนะครับอย่าให้น้องแมวไปดมอุจระของนกพิราบเพราะน้องอาจจะคิดเชื่อโรคจนทำให้เป็นมะเร็งและไม่สามารถหายขาดได้ เพราะในตอนนี้แมวของเขามีอาการแย่มากๆ แต่ทางเขาเองไม่ทีเงินมากพอที่จะรักษาน้องได้ แต่เช็คค่าโลห ิต และพาไปหาหมอมาแล้วสองรอบแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นเลย เลยอยากฝากสำหรับคนที่เลี้ยงแมวไว้อยากให้น้องไปใกล้ชิดหรือสัมผัสกับอุสจาระของนกพิราบเพราะมันมีเชื้อโรคตัวนี้อยู่ และตัวเขาเองก็หมดหนทางจะช่วยน้องเลยมาโพสต์หาทาง เพื่อว่าน้องจะมีทางรอดหรือทางรักษาอื่นๆให้ได้มีลมหายใจต่อเพราะเขาเลี้ยงดูแลมาก็รักเหมือนกับลูก ซึ่งถ้าใครเคยเจอกับโรคนี้หรือแมวเป็นอยู่แล้วมีทางรักษาก็อยากจะให้ช่วยแนะนำเขาให้ที ที่มา Bar Flow

มีแผลที่คอขนาดใหญ่กับชีวิตสุดน่าสงสาร ด้วยตัวเป็นจรแต่ก็ไม่มีใครเลยที่คิดช่วย

ทาสแมวอย่างเราๆคงอดสงสารและเป็นห่วงไม่ไหว หากเราได้พบเจอกับแมวจรผู้น่าสงสาร น้องเป็นแมวจรมีร่องรอยที่คอขนาดใหญ่ น่าจะโดนฟัดมา หน้าตาของน้องก็ดูเศร้าหนัก หากไร้คนช่วยคงไม่วายคงต้องหมดลมหายใจ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : NZ NZ ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ใครอยู่แถวลานจอดรถชั้นใต้ดินบ้างตรงตึกออลซีซั่นเพลส ถนนวิทยุ มีท่านใดสามารถช่วยน้องได้บ้างไหมครับ พอดีมีคนฝากโพสต์มาครับ เขาเห็นน้องนอนซมอยู่กับสภาพสุดน่าสงสาร น้องไม่ให้ใครจับเลยพอจะจับแล้วน้องก็จะฟัดและวิ่งหนี ที่คอของน้องมีร่องรอยขนาดใหญ่น้องน่าเป็นห่วงมากครับหากไม่มีใครเข้าไปช่วย ยิ่งน้องเป็นแมวจรใครๆเขาก็ไม่คิดสนใจใยดีเลย หากท่านใดอยากช่วยน้องหรือรับเคสนี้ไป ลองทักไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะ เพราะถ้าน้องไม่ได้รับการช่วยเหลือน้องอาจต้องหมดลมหายใจ เพราะคนแถวนั้นแม้จะเห็นน้องอยู่ตรงนั้นแต่ก็ไม่มีใครเลยที่คิดช่วย ที่มา NZ NZ

หายออกไปจากบ้านเฝ้าตามหาเพราะต้องกินยาตลอด กลัวจะทรุดหนักถ้าใครเจอวอนส่งกลับคืน

ด้วยในความรักที่ได้เลี้ยงดูแลเขามาเหมือนกับคนในครอบครัวหรือลูกคนหนึ่ง พอวันหนึ่งเกิดหลงหายขึ้นมาแล้วก็อดใจไม่ได้ที่จะต้องเฝ้าตามหาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยของ แม้จะต้องพยายามตามหาจนแทบจะไม่ได้หลับนอนก็หวังว่าจะเจอเขา ด้วยใจเราก็รักเขาเหมือนกับคนในครอบครัวและยังต้องมีการให้ยากินเพื่อที่ประทังชีวิตให้มีลมหายใจ เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า วัชรินทร์ ยันตรศาสตร์ ที่ได้โพสต์เรื่องราวด้วยน้ำตาหลังมาโพสต์หาแมวหายลงในกลุ่ม ด้วยตัวน้องแมวชื่อเอ็ม สีส้มมีปลอกคอ จุดเด่นคือตาโตมากเพราะตาอักเสบและต้องกินยาและหยอดตาทุกวันน้องหายไปเมื่อวาน 16/9/2565 ตอน 16.30 นร้านรัตนประดับยนต์เส้น รพ.รวมแพทย์ เธอก็อยากจะฝากรบกวนใครเจอช่วยส่งข่าวด้วยนะคะ เพราะตาเค้าอักเสบมากต้องทานยาอย่างต่อเนื่องทุกวันเพราะไม่งั้นอาการจะทรุดหนัก ซึ่งสามารถที่จะติดต่อได้กับทางต้นโพสต์และขอบคุณสำหรับกลุ่มนี้ที่ให้ลงตามหาน้องเพราะคนเป็นแม่ก็สุดแสนจะเป็นห่วงแม้น้ำตานองเพราะกลัวเขาจะไม่ได้กลับคืนอ้อมกอดอีกครั้ง ซึ่งก็โชคดีมากๆที่น้องมีจุดเด่นที่เป็นตาโตมากเพราะการอักเสบของโรคที่น้องได้เป็นทำให้มีคนเข้ามาแชร์กันเป็นจำนวนมากจนภายหลังเธอก็ได้ทราบถึงข่าวดี เพราะเธอได้มาอัพเดทว่าขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยกันตามหาน้องแมวและตอนนี้ก็เจอน้องเอ็มตาโตแล้วเจอที่หลังลานจอดรถระแวกบ้าน ที่มา วัชรินทร์ ยันตรศาสตร์

จำหาบ้านยังดีใจมีคนรับข้ามวันผ่าน ตัวสะอึกทักมาบอกกินทรายเข้าปากจนสิ้นลม

แม้ในการหาบ้านแต่ละครั้งให้กับเจ้ามิ้วที่ไม่มีที่ไปหรือเป็นแมวจร ทุกคนก็จะพยายามบอกให้คัดบ้านหรือสแกนบ้านให้ดีก่อนที่จะให้เขาไปเลี้ยง เพราะบางคนก็อาจจะทำไม่ดีไม่ร้ายกับแมวได้หรือบางคนเอาไปกะให้สิ้นใจหาย และคนที่หาบ้านให้ก็จะต้องรู้สึกผิดไปตลอด เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า วรินทร เกตุจ้อย ที่ได้โพสต์เรื่องราวด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจมากหลังเมื่อ 2 วันก่อนที่เขาได้โพสต์หาบ้านให้กับน้องแมวในกลุ่มนี้ แล้วก็มีคนรับน้องเขาก็ยังดีใจมากๆก็ใส่กระเป๋าขับไปให้เขาน้องก็โผล่หน้าร้องเสียงดังมาก แต่พอรุ่งขึ้นคนที่รับน้องไปเลี้ยงก็ทักส่งข้อความมาหาเขาแบบนี้เขาก็โคตรจะช็อคและตกใจมากๆเลย เพราะตอนที่น้องอยู่กับเขายังไม่สิ้นใจรู้สึกผิดกับตัวเองมากที่เอาน้องไปให้เขาแล้วเขาก็ทำน้องสิ้นลม แต่เรื่องแบบนี้มันก็ไม่อยากจะให้มีใครให้เกิด แต่น้องจะกินทราบเข้าไปจนสิ้นใจเลยไหม แม้เขาก็สงสัยและอยากที่จะหายสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นจึงทักมาปรึกษาคนในกลุ่มแม้ถามกับคนที่รับน้องไปเลี้ยง จนภายหลังคนที่มาขอรับน้องไปก็บล็อคเฟสของผู้ที่หาบ้านให้ไปแล้ว เขาก็ทำได้แค่ทักไปหาแฟนของคนที่รับและแฟนของคนรับก็ตอบกลับมาแบบนี้ แม้ยังมีการอ้างว่าพาน้องไปเทไว้ในป่าหลังจากสิ้นใจ เพราะทางผู้โพสต์เองต้องการนำร่างน้องไปพิสูจน์กับทางคุณหมอว่าน้องสิ้นลมเพราะอะไรจะได้หายสงสัยว่าทางผู้ที่รับไปเลี้ยงเขาทำให้น้องสิ้นใจเพราะสาเหตุเกิดมาจากน้องกินทรายแมวเข้าไปจริงๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปว่าสรุปแล้วน้องเป็นอะไรกันแน่ แม้ยังมีการบ่ายเบี่ยงในการจะนำร่างน้องกลับมาให้หรือการไปหาร่างน้องกลับมาคืน ถึงอย่างไรก็ตามการจะโพสต์หาบ้านเราเองคนหาบ้านก็จะต้องทำการคัดบ้านให้ดีแม้ต้องดูบ้านและความเป็นอยู่ของบ้านหลังใหม่ถ้าไม่อยากที่จะเสียใจไปตลอดเหมือนกับเรื่องราวนี้ ที่มา วรินทร เกตุจ้อย

แมวขี้อ้อนหน้าตาน่ารักแต่กลับมาเป็นจร หากไม่มีใครรับไปคงต้องปล่อยไว้้ที่เดิม

หากจะเลี้ยงแมวสักตัวเราอยากให้คุณเลี้ยงระบบปิดแบบ 100 % แต่ถ้าเลี้ยงแบบปิดยังหลุดหายออกมาอีกมันก็คงจะยากที่น้องจะเดินกลับบ้านเอง เหมือนกับชีวิตน้องแมวตนนี้ ที่กลายเป็นจรไร้บ้านทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีบ้านมีเจ้าของ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : วาสนา เกตุแก้ว ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมว Official อันมีใจความระบุว่า หาบ้านให้กับน้องด่วนๆเลยนะคะ แมวใครหายหรือเปล่า แมวใครหลุดหายมามั้ยคะน้องมีปลอกคอด้วยค่ะ น่าจะมีเจ้าของแต่ต้องกลายมาเป็นจรไร้บ้าน น้องเป็นแมวเพศผู้ หรือจะมีใครรับเลี้ยงน้องบ้างมั้ยคะ ถ้าไม่มีทางร้านจะเอาน้องกลับไปปล่อยไว้ที่เดิมค่ะ ตัวเราเองไม่สะดวกที่จะเลี้ยงต่อ พิกัด เทศบาล 8 สมุทรสาคร น้องทั้งน่ารักและขี้อ้อนแบบนี้เราก็ได้แต่หวังว่าน้องจะมีคนรับไป หากเจ้าของเห็นโพสต์นี้คุณต้องรีบเลยนะ...

คาบมาไว้ใต้รถจุกในอกประตูทับต้องตัดขา ชีวิตช้ำต้องปาดน้ำตาแม้ช่วยรักษาเลี้ยงไม่ได้

เพราะในคำว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดคงจะมีอยู่จริงบนโลกนี้ แม้ในความโชคร้ายที่เกิดขึ้นกับเราแล้วบางครั้งมันก็เกิดขึ้นอีกเหมือนกับคิดอยากจะปิดชีวิตให้หมดสิ้นลมหายใจ หรืออาจจะเป็นเพราะเคราะห์กรรมที่เคยทำไว้ให้เราต้องมาชดใช้เหมือนกับเรื่องราวนี้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kongkiet Phetnamsin ได้โพสต์เรื่องราวหาผู้ใจบุญที่อยากจะรับน้องแมวพิการตัวนี้ไปเลี้ยงน้อย แม้เรื่องราวที่เกิดขึ้นของน้องก็สุดแสนจะน่าสงสารเพราะวันที่เกิดเหตุมีแมวจรเข้ามาที่บ้านพร้อมกับลูกน้อย 4 ตัวแล้วเขาก็กำลังที่จะออกไปทำธุระ ก็เลยให้แม่บ้านไล่แมวให้หน่อยหลังจากนั้นก็สตาร์ทรถออกไป แต่ขับไปสักพักก็ได้ยินเสียงแมวร้องก็เลย!! ชิหายแล้วแมวอยู่ใต้ท้องรถอีกแล้ว ก็เลยจอดที่ปั้มเพื่อที่จะเอาออกมา พนักงานปั้มแถวบ้านก็น่ารักมากช่วยกันจับและเอาออกมาสรุปว่ามี 2 ตัว เขาก็ใจชื้นว่าอย่างน้อยก็ไม่ไปตกกลางถนน เลยขับรถกลับบ้านเพื่อที่จะเอาน้องไปส่งแม่แมว แต่จากเส้นทางเดิมที่เขาขับเขาก็หันไปเจอลูกแมวถูกรถทับที่ถนน 1 ตัวสีคล้ายๆกับไอ้สองตัวที่เขาเอากลับมาบ้านเลย ในใจแว๊บแรกก็คือรู้เลยว่ามันคงร้องเพราะพี่น้องมันตกลงไปตัวหนึ่งแน่ๆ เพราะจุดที่เริ่มได้ยินเสียงแมวร้องในตอนนั้นรู้สึกผิดและเสียใจมากที่เราทำให้เค้าต้องมาสิ้นใจแบบนี้ และพอกลับถึงบ้านก็จัดแจงหาน้ำหาของกินให้แล้วแม่มันก็มาหาเขาก็เฮ้อน่าสงสารเพราะลูกเขาสิ้นใจไปตัวนึง ตอนจะออกบ้านก็ยังโดนเข้าไปใต้ท้องรถอีกเลยรอให้น้องออกมาก่อนแล้วให้แม่บ้านคอยดู แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้นเพราะตอนเย็นวันเดียวกันก็มีเพื่อนมาหาที่บ้านและด้วยความเคยชิน ก็กดรีโมทเพื่อเปิดประตูบ้านแล้วก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายลั่นบ้าน พอลุกไปดูเลยเห็นว่าไอ้ลูกแมวตัวที่เขาได้ช่วยมาในเมื่อเช้านี้...