สัตว์โลก

โดยปกติแล้วเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงสุนัขหรือได้เคยสัมผัสกับสุนัขนั้นก็คงจะรู้ดีกันอยู่แล้วว่าสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์นั้นเป็นสุนัขที่แสนจะน่ารักและเป็นมิตรกับทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นกับสุนัขด้วยกันหรือกับเพื่อนมนุษย์พวกเขาก็มักจะเป็นมิตรกับทุกๆคน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ เพราะด้วยสายพันธุ์ของพวกเขานั้นสามารถปล่อยเอาไว้ให้เล่นเป็นเพื่อนๆกับเด็กๆหรือลูกหลานของเราได้อย่างสบายใจ ซึ่งค่อนข้างที่จะติดคนและให้เจ้าของสนใจมากเป็นพิเศษหรือเรียกได้ว่าอยากได้ความสนใจมากไปเลยด้วยซ้ำ ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นก็อยากจะเป็นเพื่อนกับเขาไปเสียหมด ไม่เว้นแม้แต่โจรหรือขโมยน้องเด้นทั้งหลายก็อยากที่จะเป็นเพื่อนเล่นกับเขาไปด้วย โดยเรื่องราวสุดน่ารักนี้เกิดขึ้นระหว่างเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้กับเจ้าเด้นตัวน้อย ลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์พร้อมกับความอ้อนสุดน่ารักที่พร้อมจะทำให้เหล่าคนรักสุนัขเทใจให้ไปทั้งใจเลยทีเดียว หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Jeerawan Soprom ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าไซบีเรียนของเขาและเจ้าเด้นตัวน้อยของเพื่อนบ้าน ที่มาแอบมานั่งเฝ้าดูเจ้าไซบีเรียนของเขาเพราะด้วยความที่อยากที่จะมีเพื่อนเล่น โดยผู้โพสต์รายดังกล่าวได้โพสต์เล่าเรื่องราวลงในกลุ่ม i like husky คนรักไซบีเรียนฮัสกี้ โดยที่เจ้าโกลเด้นตัวน้อยตัวนี้ มักจะชอบที่จะแวะเวียนมาทักทายสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้ของเขาอยู่เสมอๆ และเจ้าเด้นตัวน้อยก็มักจะแวะมานั่งจ้องมองหน้าเจ้าไซที่นอนเล่นอยู่ตรงหน้าบ้านอยู่เสมอ โดยทำได้เพียงแค่สอดสายตาออดอ้อนผ่านรั้วหน้าบ้านเข้ามา แถมส่งยิ้มเพื่อขอเป็นมิตรไมตรีมาโดยตลอด โดยภาพดังกล่าวทำให้สมาชิกในกลุ่มคนรักไซบีเรียนฮัสกี้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปตามๆกัน เพราะทำเอาห้ามใจไม่ไหวที่จะบอกกับผู้โพสต์ว่าช่วยเปิดประตูให้น้องเถอะ ทั้งคู่จะได้เล่นด้วยกันเสียที ซึ่งผู้โพสต์เองก็มีเหตุผลที่ไม่เปิดประตูให้น้องเด้นเข้ามาเล่นในบ้านเพราะว่าน้องเด้นนั้นยังเล็กมากๆ ซึ่งผู้โพสต์เองก็กลัวว่าน้องเด้นนั้นจะทนแรงสู้เจ้าไซไม่ไหวเพราะเจ้าไซของเธอนั้นโตแล้ว...

เพื่อนที่ดีที่สุดคือสุนัข คำๆนี้ยังใช้ได้ดีอยู่เสมอ...สุนัขเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์และจะรักเจ้าของเพียงคนเดียง ไม่ว่าเจ้าของจะมีลมหายใจอยู่หรือไม่เหมือนกับเจ้าตูบตัวนี้ โดยมันนั้นได้เดินไกลกว่า 6 กิโล เพื่อเฝ้าเจ้านายเป็นครั้งสุดท้าย และเจ้าตูบเองก็ไม่ยอมลุกไปไหนจะขอนั่งอยู่ใกล้ๆจนผู้คนที่พบเห็นต่างสงสาร . สุนัขตัวนี้เขารู้ว่าเจ้านายของเขาจะไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว มันเดินฝ่าฝูงหมามานับไม่ถ้วนเพื่อตามหาร่างของเจ้านายที่ไร้ลมหายใจ ใจนึงก็กลัวฝูงหมาแต่อีกใจก็อยากตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงมันมา ไปนั่งเฝ้าเจ้าของก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและกล่าวว่า แล้วหลังจากนี้น้องจะมีใครดูแลต่อมั้ย ใครจะให้อาหาร ใครจะคอยเลี้ยงดู และผู้โพสต์ก็ได้เข้ามาตอบว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ มีคนคอยดูแลต่อครับ นี่แหละเนอะความรักที่ยิ่งใหญ่ ความรักของสุนัขมันมากมายกว่าความรักของมนุษย์อย่างเราๆเสียอีก เขาจะรักเจ้านายจนวินาทีสุดท้ายและจะไม่มีวันลืมบุญคุณที่ทำเพื่อเขาเลยจริงๆ   ขอขอบคุณ : พ.จ.อ.รุ่งเรือง โชตินอก

เพื่อนๆที่เป็นทาสแมวหรือทาสหมาหลายคนอาจจะเคยได้ยินทฤษฎีการตามหาหมาแมว ที่มีคนเคยบอกเอาไว้ว่าถ้าหาแมวที่บ้านหายไม่เจอให้เปิดรูปให้แมวแถวบ้านดูแล้วก็บอกว่าฝากช่วยบอกมันให้กลับบ้านที่ถ้าเจอมันนะ ซึ่งไม่กี่วันผ่านมาแมวของพวกเขาเหล่านั้นก็กลับมาจริงๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวในวันนี้หลังผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า จีมินชี ได้นำเรื่องราวของผู้เป็นเจ้าของและเจ้าเหมียวสุดแสบที่เขานั้นได้พบเจอกับเหตุการณ์ที่แมวหาย ซึ่งหาทั้งบ้านหายังไงก็ไม่เจอเลยวานให้น้องแมวอีกตัวที่มีชื่อว่าเจ้าสโนวี่ให้ช่วยตามหาอิฟ้าแมวอีกตัวที่หายไปให้หน่อย ซึ่งหลังจากที่เขานั้นได้บอกกล่าวกลับเจ้าเหมียวสโนวี่แล้วเวลาผ่านไปไม่นานนางก็มาตามเหมือนให้ตามนางไป ซึ่งผู้เป้นเจ้าของรายนี้ก็ตามนางไปละนางก็ขึ้นไปบนหลังคาบ้านข้างๆ ซึ่งก่อนที่นางจะขึ้นบนหลังคาก็มีการหันหน้ามามองก่อนขึ้นด้วยเหมือนอารมณ์แบบอิฟ้ามันอยู่บนนั้นค่ะ ซึ่งอิฟ้าก็ดันอยู่บนนั้นจริงๆซึ่งผู้โพสต์รายดังกล่าวได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์โดยได้ระบุข้อความเล่าเรื่องราวเอาไว้ในรูปด้วยว่า "มึงง ทฤษฎีแมวหายให้ถามแมวมันจริง!!!! คือหาอีน้องฟ้าไม่เจอเรียกยังไงมันก็ไม่มากูเลยลองถามๆสโนวี่ว่าน้องฟ้าอยู่ไหนหาให้หน่อยสักพักนางก็ลงมาข้างล่างละเดินไปนอกบ้าน" "กูก็ตามไปละนางก็ขึ้นไปบนหลังคาบ้านข้างๆ (มีหันมามองก่อนขึ้นด้วยนะอารมณ์แบบอิฟ้ามันอยู่บนนั้นค่ะ) ละอิน้องฟ้าก็อยู่ตรงนั้นจริงๆ กูนี่อเมมมซิ่ง" ซึ่งถือเป็นเรื่องราวที่ชวนฮาและน่าเหลือเชื่อมากและหากแมวของใครหายก็ลองถามๆแมวแถวบ้านหรือให้แมวแถวบ้านมันตามหาให้ดูนะอย่าลืมเปิดรูปแมวที่หายให้มันดูด้วยเผื่อมันไม่รู้ว่าตัวไหนโอ้ยย.... ขอขอบคุณข้อมูลจาก จีมินชี

เพราะในความหวังดีของมนุษย์เรานั้นบางครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่สัตว์เลี้ยงของเราต้องการเสมอไปซึ่งหากเป็นเพื่อนๆ เพื่อนๆจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ในเรื่องราวนี้ เมื่อหนุ่มผู้เป็นเจ้าของรายหนึ่งตัดสินใจที่จะปล่อยให้สุนัขสุดที่รักอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด ด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อเขานั้นได้พาเจ้าตูบไปที่นั้นในทุกๆเดือน ทุกครั้งที่ไปเจ้าตูบก็จะมีที่ให้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆมากมายและดูเหมือนมันจะชอบทุกครั้งที่ได้มาที่บ้านสวนแห่งนี้มี และด้วยความหวังดีของเขา เขาจึงปล่อยให้เจ้าตูบอยู่ที่บ้านที่ต่างจังหวัด แต่ทว่าความหวังดีของเขานั้นกลับไม่ใช่ในสิ่งที่เจ้าตูบต้องการเพราะหลังจากที่เขาได้ปล่อยให้เจ้าตูบอยู่ที่บ้านสวน และมีคนดูแลคอยให้น้ำให้อาหาร และเขาก็กลับไปทำงานที่กรุงเทพ เจ้าตูบกลับไม่กินไม่เล่นไม่วิ่งและได้แต่เฝ้ารอคอยผู้เป็นเจ้าของอันเป็นที่รัก ว่าเมื่อไหร่พ่อของเขานั้นจะกลับมารับเขากลับบ้าน จากการที่มาเที่ยวเดือนละครั้งและวิ่งเล่นอย่างมีความสุข กลับมีแต่การเฝ้ารอคอยและอาการซึมเศร้าเมื่อต้องอยู่ห่างไกลจากเจ้าของ ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสตที่ใช้ชื่อว่า ขอนลอย ลอยน้ำมา" ได้นำเรื่องราวนี้มาเล่าให้เพื่อนๆในกลุ่ม กลุ่มรักหมาจัง ซึ่งได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า "ชื่อ : ขอนลอย(หมาลอยน้ำมา) อายุ 1 ปี...

หากในวันนี้คุณเกิดมามีแค่พอกินได้อิ่มท้องแต่คุณก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังมีไม่พอหรือท้อแท้ใจ เราอยากให้คุณมองย้อนมาดูอีกหลายชีวิตที่ยังไม่มีแต่อาหารจะตกถึงท้องในแต่ละวัน เพราะด้วยชีวิตที่ไม่สามารถที่จะเลือกเกิดมาได้ จากที่เคยมีบ้านวันนึงออกลูกออกหลานมาเป็นภาระจึงถูกนำมาปล่อย เช่นเดียวกับเจ้าตูบตัวน้อยสองตัวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nut Orani ที่ได้นำเรื่องราวของเจ้าตูบทั้งสองมาโพสต์หาบ้านในโลกออนไลน์อย่างเฟสบุ๊คหลังจากที่เธอนั้นได้ไปพบน้องๆเข้าโดยบังเอิญซึ่งคาดว่าน้องๆน่าจะถูกนำมาปล่อยเอาไว้ในป่ากลางสวนโดยแอบอาศัยหลบในร่องดิน เพราะด้วยความยังเด็กและไม่สามารถหากินเองได้ คาดน่าจะเคยถูกเลี้ยงและมีบ้านที่อบอุ่นมาก่อน และก็ไม่รู้ได้เลยว่าน้องๆนั้นอยู่แบบนี้มานานมากแค่ไหนแล้วมีอะไรตกถึงท้องบ้างหรือยัง ซึ่งทั้งนี้เธอได้ระบุข้อความเอาไว้ลงในโลกออนไลน์เอาไว้ด้วยว่า "ใครเอามาปล่อยน้อน่าสงสาร นอนแอบอยู่ในร่อง 2 ตัวกลางป่ากลางสวน" "ใครสนใจรับไปเลี้ยงไปรับกับหลวงพ่อที่วัดมะกอกแก้วนะคะ" ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นมีที่หลบแดดหลบฝนมีข้าวให้กินวันละมื้อสองมื้อพวกเขาก็พร้อมที่จะทำหน้าที่เฝ้าบ้านที่ดีพร้อมที่จะรักและเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์แล้ว ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nut Orani

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2562 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Spearmint Ks ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับหมาน้อยตัวหนึ่ง มันเป็นหมาน้อยที่ต้องคาบถังอยู่ตลอดเวลา เพื่อขอเงินนำเงินเพื่อเจ้าของที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆ โดยเจ้าของคนนี้ก็ร่างกายปกติ แต่กลับใช้ลูกหมา เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า . โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า เราไปเจอน้องที่ตลาดกล้วยๆ ลพบุรี เป็นจังหวะที่เจ้าของหาที่ให้น้องนั่งคาบกระถังพอดีเราเดินมาเจอ เจ้าของกำลังเดินออกไป เราเลยเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ ละก็มีคนเข้ามาดูน้องเยอะให้ตังบ้างยืนดูเฉยๆบ้าง เจ้าของหันกลับมาทำทีจับโทรศัพท์ถ่ายรูปพูดประมาณว่านั่งๆอยากได้เงินมั้ยแบบยิ้มๆขำๆ เจ้าของก็เดินหนีแล้วเรียกน้องให้เดินตาม พอสักพักเราหันกลับไปก็พาน้องมานั่งอยู่ที่เดิมอิก บอกเลยว่าเจ้าของน้องไม่ได้เป็นบุคคลที่ไม่ครบ 32...

ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสำหรับคนรักสนุัขเมื่อช่องยูทูปที่ใช้ชื่อว่า SBS TV동물농장x애니멀봐 ได้นำเรื่องราวของเจ้าตูบจรที่ถูกนำมาปล่อย มาโพสต์ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เป็นเรื่องราวของความรักของเจ้าตูบที่มีต่อน้องสาวของตัวเองซึ่งเจ้าตูบทั้งสองนั้นถูกผู้เป็นเจ้าของนำไปปล่อยไว้ในพื้นที่เกษตรกรรมที่ไม่มีทางออก และเห็นได้ชัดเลยว่าคนที่เอาพวกเขาไปปล่อยนั้นจงใจจะให้พวกเขาอยู่กันแบบนั้นจนสิ้นลม เพราะไม่อยากที่จะจ่ายค่าตรวจสุขภาพและค่ารักษาพยาบาลให้กับพวกเขา และถึงแม้จะถูกนำมาปล่อยอย่างไม่ใยดีเจ้าตูบทั้ง 2 ตัวก็ยังคงหวังว่าเจ้าของของเขานั้นจะกลับมารับพวกเขาในสักวันหนึ่ง แต่ทว่านั่นก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงเพราะเป็นเพียงแค่ความหวังเล็กของพวก และทุกครั้งที่พวกเขานั้นได้ยินเสียงรถ ซึ่งเป็นเพียงแค่การขับผ่านเท่านั้นพวกเขาก็จะนั่งเฝ้าดูอย่างใจจดใจจ่อด้วยการรอผู้เป็นเจ้าของกลับมารับ และท่ามกลางความหมดหวังนี้ สองพี่น้องก็ยังคงมีกันและกันเสมอ พวกเขาคอยช่วยเหลือกันเท่าที่สุนัขตัวเล็กๆตัวหนึ่งจะคอยทำให้กันได้ อย่างน้อยก็ยังคงกอดและปลอบใจกันอยู่เสมอๆ และแล้ววันหนึ่งเมื่อพลเมืองดีได้ยินเสียงของเจ้าตูบร้อง เขาก็จึงตัดสินใจเพื่อที่จะไปตรวจสอบดู และเมื่อข้ามรั้วสูงไปได้เขาก็ได้พบกับเจ้าตูบสองพี่น้อง ซึ่งเขานั้นได้เอาน้ำและอาหารเท่าที่จะหาได้ให้กับพวกมัน แต่ก็น่าเสียดายที่เขานั้นไม่สามารถที่จะพาสองพี่น้องนั้นกลับไปด้วยได้ ซึ่งอย่างไรก็ตามเขานั้นได้พยายามติดต่อไปยังกลุ่มช่วยเหลือสัตว์และแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับรายละเอียดของเจ้าตูบน้อยสองตัวนี้ และเพียงในเวลาไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็ได้มาถึงที่ที่ได้รับแจ้งแต่ทว่าเมื่อเดินเข้าไปใกล้ ปรากฏว่าลูกหมาตัวหนึ่งนั้นได้ลุกหนีไป มันไม่ได้หนีหรือกลัวผู้ช่วยเหลือแต่อย่างใดแต่เหมือนมันต้องการจะพาไปหาอะไรบางอย่าง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะตามมันไป ซึ่งปราฏกว่าลูกหมานั้นไม่ได้มีเพียงแค่...

เพราะด้วยการนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงแล้วพวกเขาก็จะไม่สามารถใช้ชีวิตต่อโลกภายนอกได้เหมือนกับสัตว์จรตามปกติ เพราะด้วยชีวิตและอันตรายจากโลกภายนอกนั้นไม่เหมือนกับการที่ได้อยู่ในบ้านอย่างปลอดภัย และมีที่คนคอยให้อาหารและที่อบอุ่นต่อรายกายเอาไว้ให้ได้นอนหลับอย่างไม่ต้องระแวงจากโลกภายนอก เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวพันธุ์เปอร์เซียรายนี้หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า หมาแมวหาย ได้กลับบ้าน หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องเข้าในสภาพที่อิดโรยซึ่งน้องกลัวผู้คนมากๆและไม่ยอมให้เข้าใกล้ เพราะด้วยการที่ถูกเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆจึงไม่สามารถหาอาหารเองได้คงต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมามากมายเพราะสภาพของน้องนั้นผอมมากๆเลย และก็คงจะหมดหนทางหากินวันนี้จึงเข้ามาหาคนด้วยความที่หิวโหย ซึ่งผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "แมวหลงค่ะ เปอร์เซียไม่ทราบเพศไม่มีปลอกคอน้องอิดโรยผอมมาก พนักงานบอกว่าหลงมาประมาณ 3-4 วันน้องกลัวคนค่ะ ไม่ยอมให้เข้าใกล้แต่วันนี้เข้าไปจับได้ค่ะ น้องคงหิวมากเลยเริ่มเข้าหาคน พิกัด elegant airport hotel กาญจนาภิเษก" ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนเคยเห็นน้องหรือรู้จักก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ยังไงก็ขอให้น้องตามหาผู้เป็นเจ้าของได้ในเร็ววันเพราะน้องก็คงจะคิดถึงเจ้าของมากๆแล้ว และก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าถ้าเพื่อนๆเลี้ยงแมวก็ควรที่จะเลี้ยงในระบบที่ปิดเพราะเราไม่รู้เลยว่าถ้าวันหนึ่งพวกเขาหลุดหายออกไปแล้วเราก็จะไม่รู้ว่าจะไปตามพวกเค้าคืนมาได้ที่ไหนและโลกภายนอกก็อันตรายต่อสัตว์เลี้ยงที่คุณรักมากกว่าที่พวกคุณคิด ขอขอบคุณข้อมูลจาก กานดา แซ่คัง

เผยเรื่องราวที่ทำให้ฮาลั่นอีกครั้งหลังจากที่เพื่อนๆเองก็คงจะเคยได้รับชมเรื่องราวของการซื้อเจ้าเหมียวพันธุ์ต่างๆมาเลี้ยงอย่างเช่นเจ้าแฟนต้าสลิดช็อตแฮร์ที่แม่ของเจ้าแฟนต้านั้นถูกย้อมแมวมาขาย ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องราวที่พากันฮาสร้างรอยยิ้มและความน่ารักลงในโลกออนไลน์ เช่นเดียวกับสาวผู้ใช้เฟสบุ๊ครายนี้หลังเธอนั้นได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่ม แมวแมว รูปแมวน่ารักๆ หลังจากที่เธอได้ซื้อเจ้าเหมียวที่แม่ค้านั้นได้บอกกับเธอว่าเป็นแมวพันธุ์สก๊อตติชโฟลด์แท้ ซึ่งในตอนเล็กๆก็ยังคงเป็นสก๊อตติชโฟลด์แท้ๆอยู่หรอกแต่เมื่อนานวันเข้าลายก็เริ่มออก จากที่เป็นสก๊อตติชสุดแสนจะน่ารักลายก็กลับเป็นไปอย่างกับคนละตัว ซึ่งเธอจึงนำเรื่องราวมาสอบถามกับเพื่อนๆในกลุ่ม โดยได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า "สอบถามความเห็นเพื่อนๆหน่อยค่ะ คูการ์เป็นแมวพันธุ์อะไรกันแน่ตอนซื้อมาเล็กๆคนขายบอกว่าเป็นสก๊อตติชแท้" "แต่ทำไมตอนนี้อายุ 5 เดือน หน้าเหมือนแมวไทยลายสลิดเริ่มงง" ซึ่งหลังจากนั้นเพื่อนๆในกลุ่มก็ได้เข้ามาให้ความเห็นกันว่าน้องนั้นอาจจะเป็นลูกครึ่งที่มีเศษเสี้ยวของสก๊อตติชซึ่งในตอนเด็กๆลายยังไม่ออกก็เลยไม่สามารถที่จะดูได้แน่ชัดว่าเป็นแมวพันธุ์สก๊อตติชโฟลด์แท้หรือไม่ แต่เมื่อพอโตขึ้นลายที่แท้จริงก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น แต่ถึงอย่างไรทาสเองก็คงโดนหลอกให้รักไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทั้งนี้ไม่ว่าน้องจะเป็นแมวพันธุ์อะไรเมื่อได้เลี้ยงแล้วก็คงรักไม่เปลี่ยนแปลงเพราะด้วยความน่ารักของพวกเขานั้นสามารถทำให้เราหลงรักและเป็นห่วงได้อยู่เสมอๆ ซึ่งหากเพื่อนๆท่านไหนเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็อยากจะฝากเอาไว้ด้วยว่าให้รักพวกเขาด้วยหัวใจที่พวกเขามีให้ต่อเราไม่ใช่เพียงเพราะแค่ไม่ใช่สายพันธุ์ที่เราต้องการ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kanokporn Kotchanawong

ในโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพสุดประทับใจ ของหญิงสาวชาวมุสลิมที่เจอสุนัขประสบอุบัติเหตุรถชนท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และถึงแม้ว่าสาวมุสลิมรายนี้จะไม่สามารถที่จะจับต้องสุนัขได้ด้วยกฏของทางศาสนาแต่เธอก็ยังคงกางร่มอยู่ใกล้ๆ เธอกันฝนให้กับสุนัขตัวนี้เพื่อที่จะรอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เกี่ยวข้องมาช่วยหลือ ซึ่งทางโลกออนไลน์ก็ต่างพากันชื่นชมความมีน้ำใจให้กับหญิงสาวรายนี้ โดยผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูของเราคือหัวใจ ได้โพสต์ข้อความลงในโลกออนไลน์และระบุว่า "น้ำใจงามมากๆ สุนัขโดนรถชนก็ยืนเอาร่มมากางให้และประสานกู้ภัย" "ให้มาช่วยเอาเข้าข้างถนน เนื่องจากก๊ะเป็นมุสลิมไม่สามารถจับมันได้ แต่เราก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ เนื่องจากค่ารักษาสุนัข-แมวมันแพงมากๆ ใครจะช่วยค่ารักษาบ้างครับสุนัขเอวน่าจะหักเหตุเกิดถนน สาย 15 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา" ซึ่งต่อมาผู้โพสต์ได้แจ้งความคืบหน้าว่ามีผู้มีจิตศรัทธาช่วยบริจาคมาให้เป็นจำนวน 11,000 บาท ที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคมาให้และก่อนหน้านี้อีก 1,250 บาทซึ่งค่าเอกซ์เรย์น้องหมา รวมทั้งหมดเป็นเงิน...