หลงทิศหลงทาง ตาก็มองไม่เห็นทั้งสองข้างสุนัขจิ้งจอกเมืองกาญถูกชาวบ้านมากมายกีดกันทุกวิถีทางแม้ตาจะมองไม่เห็น

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎จะทำชีวิตตอนนี้ ให้ดีกว่าชีวิตที่ผ่านมา สัญญา.‎  ได้เผยเรื่องราวชีวิตของสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในป่าใกล้กับแหล่งชุมชน โดยสุนัขจิ้งจอกตัวนี้มันไม่ยอมไปไหนเลยจนหนุ่มผู้โพสต์มารู้ภายหลังว่าน้องตามองไม่เห็นทั้งสองข้าง เขาจึงหาวิธีพยายามเอาอาหารไปวางไว้ให้กับมันเพื่อที่น้องจะได้ดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่เขาก็ถูกชาวบ้านมากมายกีดกัน ถึงน้องจะเป็นยังไงก็ไม่อยากให้ชายหนุ่มท่านนี้เข้าไปช่วย . โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า จากที่ผมได้โพสต์เรื่องหมาจิ้งจอกที่พบในป่าเมืองกาญจนบุรี ตอนขึ้นเขาไปทำบุญ เมื่อประมาณ4เดือนที่เเล้ว จนมารู้ตอนหลังว่าสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ตามองไม่เห็นทั้งสองข้าง จึงทำให้ไม่สามารถดำรงค์ ชีวิตได้ตามปกติ ผมจึงได้ติดตามดูเเลให้อาหารเรื่อยมาจนสุดทางผมเเล้ว สุนัขจิ้งจอกตัวนี้ได้จากโลกนี้ไปแล้วครับ สันนิษฐานว่าน่าจะหนาวจนสิ้นใจ ผมคงทำหน้าที่ดีที่สุดได้เพียงเท่านี้ เเต่ก็มีสุนัขจิ้งจอกอีกหลายตัว ที่หากินตามธรรมชาติไม่เป็นเพราะอยู่ใกล้ชุมชนเเละหมู่บ้านเข้ามากินไก่กินเป็ดชาวบ้านเป็นประจำ จึงทำให้ชาวบ้านหาทางกำ จั ด...

จอดรถที่ลานวัดเจอสุนัขเข้ามารุม แต่เหมียวไม่ยอมหนีไปไหนได้แต่นั่งตัวงอลงกับพื้นเพราะตามองไม่เห็น

ทุกครั้งเราก็จะย้ำเตือนกับเพื่อนๆเสมอ ด้วยเรื่องของการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในระบบที่ปิดหรือการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเอาไว้เพียงแค่ในรั้วบ้านหรือภายในตัวบ้าน เพราะอันตรายจากโลกภายนอกนั้นมากมายเกินกว่ามนุษย์อย่างเราๆจะเข้าใจได้อีกทั้งพวกเขาที่ถูกเลี้ยงมาให้เจอแต่ความปลอดภัยในบ้านก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ยากต่อการใช้ชีวิต เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่โชครายมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์ หลังจากที่เขานั้นได้พบเจ้าเหมียวเข้าในลานจอดรถของวัดบึงทองหลาง ซึ่งในขณะที่เขาได้เจอเจ้าเหมียวได้พบว่ามีสุนัขหลายตัวเข้ามารุมที่จะฟัดเจ้าเหมียวอยู่ ซึ่งตัวเขาเองนั้นก็สงสัยว่าทำไมน้องถึงไม่ยอมหนี ได้แต่นั่งตัวงอด้วยความกลัวผู้โพสต์จึงตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปดูและไล่สุนัขเหล่านั้นเพื่อช่วยน้อง แต่พอเขาได้อุ้มน้องขึ้นมาหมาก็ยังไม่หยุดยังจะวิ่งตามมาเพื่อที่จะไล่ฟัดน้องต่อ และเมื่อเขาได้อุ้มน้องขึ้นมากลับพบว่าน้องนั้นตามืดบอดสนิททั้งสองข้าง น้องจึงไม่สามารถจะวิ่งหนีสุนัขเหล่านั้นได้โดยไร้หนทางที่จะมองเห็น แต่ทว่าผู้โพสต์ก็ได้คิดว่าน้องน่าจะมีเจ้าของเพราะดูจากรูปลักษณะของน้องแล้วอ้วนถ้วนสมบรูณ์ดีจึงนำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์เพื่อที่จะตามหาผู้เป็นเจ้าของของน้องอีกทั้งน้องคงจะคิดถึงเจ้าของแย่แล้ว โดยทั้งนี้ผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "แฟนไปจอดรถที่ลานจอดวัดบึงทองหลางเห็นหมาหลายตัวกำลังรุมจะฟัดแมว" "ก็สงสัยว่าแมวทำไมไม่วิ่งหนี นั่งตัวงอด้วยความกลัวเลยเดินเข้าไปดูแล้วไล่หมาเพื่อช่วยแมว พออุ้มแมวขึ้นมาหมาก็ยังวิ่งตามเพื่อจะฟัดแมวเมือมองดูแมวก็เห็นว่าตามืดสนิททั้งสองข้าง มันเลยไม่ได้วิ่งหนีหมาที่กำลังจะฟัดมันแต่คิดว่าแมวตัวนี้น่าจะมีเจ้าของเพราะอ้วนสมบูรณ์ ถ้าท่านใดเป็นเจ้าของแมวตัวนี้จะมารับคืนขอเป็นเจ้าของจริงๆนะครับ นำรูปที่เคยถ่ายกับแมวตัวนี้มารับคืนได้เลยครับ ถ้ายังอยากได้คืน" ทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนพอจะรู้จักเจ้าของของน้องแมวตัวนี้ช่วยแจ้งหรือติดต่อไปที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก นาวา อัญชัน

เข้าช่วยเหลือหลังถูกสั่งอ๊อกเหล็กปิดทางเข้าออก น้องหมากว่า10 ชีวิต

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวแฟนเพจเฟสบุ๊ค มูลนิธิ วอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation -Wdt ซึ่งเป็นแฟจเพจมูลนิธิที่คอยช่วยเหลือและคอยดูแล สุนัขหรือแมวที่ตกทุกข์หรือใครก็ตามที่ทำผิดกฏหมายต่อสัตว์ โดยได้โพสต์ภาพพร้อมกับคลิปที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีสุนัขกว่าสิบตัว ได้ถูกขังเอาไว้อยู่ที่ใต้ถุนของอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ และได้มีการเชื่อมอ๊อกเหล็กประตูปิดเอาไว้โดยที่สุนัขไม่ได้รับน้ำและอาหารมามากกว่าสองวันแล้ว โดยแฟนเพจดังกล่าวนั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "อาสาประชาชนให้ข้าวหมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือด่วน อ๊อกเหล็กปิดขังหมากว่าสิบชีวิต" "ใต้ถุนศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ WDT ประสาน พ.ต.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก...

ลุงไร้บ้านเดินลากรถเข็นคันเก่า ไม่วายมีคนเอาลูกหมาใส่ลังมาให้เลี้ยงขนาดตัวลำพังก็แย่แล้ว

เพราะจิตใจของคนเรานั้นไม่สามารถวัดคุณค่ากับสิ่งที่เห็นหรือรูปลักษณะเพียงแค่ภายนอกได้ คนที่แต่งตัวสวยหรูดูดีอาจจะมีจิตใจที่ไม่ดี หรือคนที่แต่งตัวไม่ดีอาจจะมีจิตใจที่ดีหรืออาจะกลับกันก็ได้ เพราะคุณค่าทางจิตใจมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่ต้องมองเห็นจากภายในเพียงเท่านั้นและเราก็ไม่สามารถไปตัดสินได้เพียงเพราะการแต่งตัวหรือฐานะของพวกเขา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบและคุณลุงรถเข็นหรือคุณลุงไร้บ้านลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เขานั้นได้นำอาหารและของใช้มาไว้ให้กับคุณลุงคนดังกล่าวและเจ้าตูบคู่ใจ แต่ในครั้งนี้สิ่งที่เขานั้นได้เห็นแปลกไปก็คือเจ้าตูบตัวน้อย หลังจากที่มีคนนำมาใส่ลังปล่อยเอาไว้คุณลุงจึงหยิบลังและเอาเจ้าตูบน้องขึ้นรถเข็นมาด้วย แต่ทว่าการที่ต้องใช้ชีวิตเป็นคนไร้บ้านก็ว่าหนักแล้วยังจะต้องมาแบกรับภาระกับเจ้าตูบตัวน้อยเพิ่มก็คงจะหนักหนาสาหัสไม่เบา แต่ด้วยน้ำใจในสิ่งที่พวกเรามองไม่เห็นในรูปลักษณะของคุณลุงนั้นก็เลือกที่จะหยิบเจ้าตูบขึ้นรถเข็นแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย โดยผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "เช้านี้ขี่รถหาลุงแกจนเจอ ได้เอากับข้าว มาม่าและกาแฟมาให้แกไว้กินครับมองไปเห็นหมาน้อย มีคนเอาลูกหมาใส่ลังมาปล่อยให้แกอีก ลำพังตัวแกกินเองยังลำบากเลย คนที่เอามาทิ้งให้ลุงแกคุณคิดอะไรอยู่ ลุงแกอยู่ไม่เป็นที่นะครับ ส่วนมากจะอยู่แถวป้ายรถเมล์ หรือตามถนนใครจะไปช่วยลุงกับหมา" "ต้องวนหาเอานะครับเพราะตำรวจไม่ให้มาอยู่ประจำ ทางไปเซนทรัลบางนา ถนนบางนาตราดถ้าไม่เจออีกทีคือสี่แยกไฟแดงบางนา ถ้ามาจากทางแบริ่งเลยสี่แยกไฟแดงบางนาป้ายรถเมล์ป้ายแรกมีสะพานลอย" ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะช่วยน้องหรือช่วยลุงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมลูกจาก Win Win Kaingkai

ห้องนอนที่ว่างเปล่าเหลือเพียงสิ่งที่ยังคงเฝ้าคอย รอการกลับมาเพราะเคยอยู่ด้วยกันมากว่า 14 ปี

เพื่อนๆที่ได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นแมวหรือสุนัขแล้วก็คงจะเข้าใจคำว่า ความผูกพันธุ์ดี เพราะบางรายถึงขนาดปฏิญาณตนว่าจะไม่เอาสัตว์ชนิดไหนมาเลี้ยงอีกต่อไปหลังจากที่สัตว์เลี้ยงสุดที่รักสิ้นอายุไข เพราะมันคือความผูกพันธุ์ที่ทั้งมีความสุขและก็เจ็บปวดไปในเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวแสนรู้มาโพสต์ลงในกลุ่ม แมวแมว รูปแมวน่ารักๆ หลังจากที่เขานั้นได้รับรู้เรื่องราวของเจ้าเหมียวเมื่อแม่ของเขานั้นได้ส่งรูปน้องกับที่นอนในห้องหลานชายที่เหลือเพียงแต่ความว่างเปล่าเพราะหลานของเขานั้นต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด ซึ่งเจ้าเหมียวนั้นก็ทำได้เพียงแค่นอนรออยู่ที่ห้องแห่งนี้ ที่ที่เคยอยู่กับหลานชายในทุกๆวัน และทุกคืนเจ้าเหมียวกับหลานชายของผู้โพสต์ก็จะนอนด้วยกันเป็นแบบนี้อยู่ประจำ แถมหลังจากการที่หลานชายของเขานั้นได้ไปทำงานร่วมอาทิตย์กว่าแล้วเจ้าเหมียวก็กินข้าวกินปลาน้อยลงไม่ยอมลงมากินข้าวเหมือนแต่ก่อน ขลุกอยู่แต่ในห้องเก็บตัวเงียบอย่างเฝ้ารอคอย ซึ่งผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "ห้องนอนของหลานชายที่ดูเกือบจะว่างเปล่าเหลือเพียงของใช้ส่วนตัวเพียงไม่กี่ชิ้น. ส่วนใหญ่ถูกเก็บออกไปหมดแล้ว..มีเพียงสิ่งๆหนึ่งที่ไม่เคยไปไหนจากห้องนี้และดูเหมือนจะไม่ยอมย้ายจากไปไหนเลย นั่นคือแมวตัวหนึ่ง..คุณยายลัคกี้" "ยายแอดส่งภาพนี้มาให้ผมที่ทำงาน บอกว่านางนอนรอหลานผมกลับมาเหมือนเดิม ข้าวปลาก็ไม่ค่อยยอมลงมากินเหมือนแต่ก่อน ยายสงสารนางมากเพราะนางไม่รู้ว่าหลานชายผมต้องย้ายไปทำงานที่ชลบุรีซึ่งก็ไปได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว ปกติเขาและนางจะนอนด้วยกันตลอดนางอยู่กับเขามาตั้งแต่เขาอายุ 10 ขวบ จนทุกวันนี้เขาอายุ 24 ส่วนนางก็ 16...

โผล่อีกปอมปลอม หลังซื้อมาคนขายบอกแท้แม่เป็นชิวาว่า เลี้ยงไปเลี้ยงมาหน้าเป็นเทอร์เรีย

ในหลายๆครั้งเรามักจะเจอข่าวเกี่ยวกับสุนัขหรือแมวที่ซื้อมาแล้วในตอนเด็กๆ แต่เมื่อโตขึ้นกลับไม่ตรงปกกับที่ทางผู้ขายนั้นได้เคยพูดหรือบอกเอาไว้ ซึ่งส่วนมากเรามักจะพบได้ในแมวที่มีทั้งสลิดช็อตแฮร์ ทั้งสก๊อตเปอร์เซีย ซึ่งเรื่องราวนี้ก็เช่นเดียวกันหลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์สอบถามเพื่อนๆ ในกลุ่ม รักหมา หลังจากที่ผู้เป็นเจ้าของรายนี้ได้ซื้อสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนมา ซึ่งทางคนขายที่ได้ขายน้องนั้นได้บอกกับผู้เป็นเจ้าของรายนี้ว่าแม่น้องเป็นสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนแท้ แต่พ่อของน้องนั้นดันเป็นุสุนัขพันธุ์ชิวาว่าแท้ โดยหลังจากที่เลี้ยงไปเลี้ยงมาตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 5 เดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้เห็นว่าจะเป็นปอมหรือจะเป็นชิวาว่าสักทางเลยผู้โพสต์จึงอยากที่จะสอบถามเพื่อนๆในกลุ่มจึงนำเรื่องราวมาโพสต์ถามโดยได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "ตอนซื้อมาคนขายบอกว่า แม่เป็นปอมแท้พ่อเป็นชิวาว่าแท้ จนตอนนี้ผ่านมา 5 เดือนแล้ว" "ไม่เห็นเป็นไปทางไหนซักทางเลย เลยอยากถามพวกพี่ๆว่า น้องเหมือนสุนัขพันธุ์อะไรคะ" เพราะทางผู้เป็นเจ้าของนั้นก็ไม่ทราบเลยจริงๆ จนกระทั่งได้มีเพื่อนๆในกลุ่มช่วยกันเข้ามาตอบคำถามว่าน้องนั้นคือสุนัขพันธุ์ เทอร์เรีย ซึ่งเป็นสุนัขที่น่ารักและฉลาดมากๆอีกด้วย โดยทั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าน้องนั้นได้ไปรับเชื้อมาจากฝั่งพ่อหรือฝั่งแม่กันแน่แต่ที่แน่ๆน้องน่ารักมากๆ แถมยังฉลาดอีกด้วยแต่ถึงยังไงไม่ว่าน้องจะเป็นสุนัขพันธุ์ไหนพ่อกับแม่ก็รักและจะดูแลหนูตลอดไปแหละลูกเอ้ย...

ยังคงรอนั่งเฝ้ากระสอบของเจ้านายอยู่ใกล้ๆ หลังถูกปล่อ ยให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว

การเลี้ยงสุนัขมันก็เหมือนการเลี้ยงครอบครัวของคุณ โดยคุณจะต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวซึ่งคุณจะต้องดูแลพวกเขาตลอดไปจนกว่าจะถึงเวลาจากกันไป เพราะไม่งั้นปัญหาที่จะเกิดขึ้นก็จะไม่มีวันสิ้นสุด ถ้าเลี้ยงทั้งทีต้องเลี้ยงให้สุดไม่ใช่เห็นเป็นแค่ตุ๊กตาเดินได้ เมื่อไม่เห็นค่าก็กลายเป็นเหมือนกับสุนัขตัวนี้ โดยผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เขานั้นได้เจอเจ้าตูบสายพันธุ์ นั่งอยู่อย่างโดดเดี่ยวพร้อมกระสอบที่บริเวณริมสะพานใกล้ๆกับถนน โดยพบว่าน้องนั้นเป็นสุนัขพันธุ์และเคยมีเจ้าของมาก่อน และตัวของน้องค่อนข้างที่จะผ่านอะไรมาเยอะในระดับหนึ่งเลย โดยผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "คนที่นำน้องมา คุณทิพย์บอกมีคนเห็นเอาน้องใส่กระสอบมา แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินนะพอจะมีคนใจดีคอยเอาข้าวมาวางไว้ให้อยู่บ้าง แต่โปรดรู้ไว้ด้วยนะว่าน้องจะคิดถึงเจ้าของมากแค่ไหน "ขอบคุณผู้พบที่รีบโทรหาคุณทิพย์ ตอนนี้คุณทิพย์กำลังจะไปช่วยน้อง  " ซึ่งทั้งนี้ทางผู้โพสต์นั้นยังได้อัพเดทอาการของน้องเบื้องต้นไว้ในโพสต์อีกด้วยว่าตอนนี้น้องอยู่ในมือของคุณหมอแล้วนะทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง คุณหมอจะรักษาน้องจนหายดี และหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงหรือติดตามอาการของน้องเพิ่มเติมก็สามารถติดตามได้ที่ลิ้งด้านล่างได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Paungtip Chanchana 

เดือดร้อนกันทั้งสน. เพราะเธอตัวเดียว..เจ้าฟักทองเปอร์เซียสาวหลังวิ่งหนีหมาขึ้นไปบนต้นไม้ แต่ตอนลงกลับลงเองไม่ได้

เมื่อไม่นานมานี้แฟนเพจเฟสบุ๊ก : สถานีตำรวจภูธรบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร ได้เผยเรื่องราวสุดวุ่นหลังมีแมวสีส้มสายพันธุ์เปอร์เซียติดอยู่บนต้นไม้สูง ตอนน้องขึ้นไปอะขึ้นได้ แต่พอตอนจะลงมาน้องไม่สามารถลงมาได้เองเพราะต้นไม้มันสูงมากกก และเหตุที่น้องขึ้นไปก็เพราะวิ่งหนีหมา . โดยทางแฟนเพจได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า วุ่นวายทั้งอำเภอเพราะเธอก่อนเดียว เจ้าฟักทองทำแสบ ไม่ใช่อยากกินมะม่วง แต่หมาวิ่งไล่ ตกใจจึงวิ่งขึ้นต้นไม้แล้วลงเองไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านม่วง ร่วมกับเจ้าหน้าที่วี.อาร์.กู้ภัยบ้านม่วง ช่วยกันนำเจ้าแมวเหมียวลงสู่อ้อมอกอ้อมใจผู้กองยักษ์ เหตุการณ์ปกติ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้ใจดีทุกท่าน ตอนนี้น้องได้รับการช่วยเหลือและลงต้นไม้มาได้อย่างปลอดภัยแล้ว โถ่ลูกเอ้ย ไม่รู้น้องไปทำอิท่าไหนทำให้หมามาวิ่งไล่ ด้วยความตกใจด้วยแหละเป็นแมวสายพันธุ์อย่างเปอร์เซีย นางก็เลยวิ่งกระโดดขึ้นไปหลบอยู่บนต้นไม้อย่างไม่คิดชีวิต อะๆที่ไหนได้ แมวตัวนี้เป็นแมวของผู้กองใน...

สาววิ่งฝ่ากองเพลิงเข้าไปช่วยหมาร่วม4ชีวิต ไม่สนใจของมีค่าเพราะหมาจะต้องรอด

ในหลายๆครั้งเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่างเช่นไ ฟ ไ ห ม้ หรือ อุ ท ก ภั ย นั้นก็เป็นสิ่งที่เรานั้นไม่สามารถจะคาดการได้ เพราะมันอาจจะเกิดขึ้นกับเราได้ในทุกเวลาซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วสิ่งที่เราคิดและนึกออกในตอนนั้นก็คือของมีค่าหรือสิ่งที่เรารักมากที่สุด อย่างเช่นเมื่อไม่นานมานี้ที่มีสาวรายหนึ่งบุกเข้าไปช่วยน้องหมาจากเหตุการณ์ไ ฟ ไ ห ม้ บ้ า น หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์เล่าเหตุการณ์เมื่อเกิดเหตุไ ฟ ไ ห...

คุณยายปั่นสามล้อคู่ใจ วิ่งไปเก็บของขวัญที่อยู่ใกล้ๆมอบให้หมาสุดที่รักเนื่องในวันเด็ก

เพราะความสุขของมนุษย์เรานั้นไม่เท่ากันบางคนมีมากใช่ว่าจะมีความสุขบางคนมีน้อยก็อาจจะมีความสุขได้ อาจจะด้วยขึ้นอยู่กับมุมมองของบุคคลนั้นๆว่าควรมีมากเท่าไหร่ถึงควรจะพอ ซึ่งบางครั้งเราอาจจะมองข้ามความสุขเหล่านั้นไปเสียเอง เพราะด้วยความสุขนั้นอยู่รอบๆตัวเราเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หากจะพูดถึงวันเด็ก เด็กทุกคนก็คงอยากที่จะได้ของขวัญกันอยู่แล้วใช่มั้ยละเช่นเดียวกันกับเจ้าตูบรายนี้หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้นำเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าตูบและคุณยายผู้เป็นเจ้าของรายนี้มาโพสต์ลงในกลุ่มรักหมา หลังจากที่เธอนั้นกำลังจะเดินทางกลับบ้านหลังจากการพาลูกๆของเธอไปเที่ยวในวันเด็ก ซึ่งเธอได้บังเอิญเห็นคุณยายกำลังวิ่งไปเก็บลูกโป่งที่ตกอยู่กลางถนน และทั้นใดนั้นคุณยายก็รีบเอาลูกโป่งที่เก็บมาได้ไปให้กับน้องหมาที่อยู่บนรถสามล้อคู่ใจของคุณยาย โดยคุณยายได้ผูกลูกโป่งนั้นให้น้องหมาด้วยความดีใจและมีความสุข ซึ่งถือเป็นโมเม้นต์ที่น่ารักมากๆราวกับว่าคุณยายนั้นเลี้ยงสุนัขตัวนี้เหมือนกับลูกของเธอเลยก็ว่าได้ โดยผู้โพสต์รายดังกล่าวนั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "วันนี้วันเด็กเรากำลังพาลูกๆกลับบ้าน บังเอิญนั่งรถไปเจอคุณยายที่กำลังวิ่งมาเก็บลูกโป่งกลางถนน คุณยายรีบเอาลูกโป่งในมือมาผูกให้น้องหมา ดีใจแทนน้องที่มีคุณยายคอยดูแลเอาใจใส่และสวมหมวกกันน็อคให้น้องด้วย" หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปในกลุ่มรักหมาและโลกออนไลน์ก็ได้มีผู้คนจำนวนมากเข้ามากดไลค์และคอมเม้นต์ชื่นชมความน่ารักและความสุขที่คุณยายมีต่อน้องหมาแบบไม่มีเงื่อนไข รักเหมือนกับลูกตัวน้อยที่คอยทะนุถนอมราวกับเป็นลูกน้อยอีกหนึ่งคน ทั้งนี้ก็อยากจะให้ทุกคนที่ได้เลี้ยงสุนัขรักสุนัขของตนเหมือนทีคุณยายรายนี้ได้ทำ เพราะชีวิตนั้นไม่ต้องมีอะไรมากมายแค่มีคนที่รักคนที่ห่วงใยคอยอยู่เคียงข้างกันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ขอขอบคุณข้อมูลจาก Arphanutcharat Donald Srisom