มีเจ้าของแต่เลี้ยงแบบปล่อยไม่คิดสนใจ แต่พอจะยื่นมือเข้าไปช่วยก็โดนต่อว่า
เพราะในชีวิตจริงนั้นไม่เหมือนกับในละครเราไม่สามารถที่จะเลือกเกิดมาได้ อย่างเช่นสัตว์ตัวน้อยๆเหล่านี้ที่ไม่สามารถจะเลือกเกิดมาอยู่ดีกินดีมีผู้เป็นเจ้าของที่รักหรือดูแลพวกเขาได้ดี ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวรกรรมหรือฟ้ากำหนดมาเท่านั้น
ซึ่งในบางครั้งเกิดมามีเจ้าของแต่กลับถูกปล่อยปละละเลยให้หมัดขึ้นเต็มตัว เลี้ยงแบบไม่สนใจใยดีปล่อยให้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนข้างบ้านอย่างเช่นเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Praphanat Daseteuthai ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อย
หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องจึงนำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่ม ทาสแมว V2 เพื่อที่จะให้เพื่อนๆในกลุ่มช่วยหาบ้านให้กับน้องๆให้ที เพราะถูกปล่อยปละละเลยสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านในระแวกนั้นแถมเลี้ยงรวมกันร่วม 10 ตัวซึ่งจะยื่นมือเข้าช่วยก็ถูกว่า
เพราะผู้โพสต์นั้นเคยจะขอพาน้องแมวของเขาไปทำหมันเพื่อที่จะไม่ให้ออกลูกออกหลานมาสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านแต่ทว่าผู้เป็นเจ้าของก็ว่าและไม่ให้ทำ ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์เองก็เคยตัดใจที่จะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายแต่ทว่าก็อดที่จะช่วยเหลือไม่ได้จริงๆ
เพราะจากสภาพของน้องแล้วมีหมัดขึ้นทั้งตัว ปล่อยให้เดินตามบ้านกลัวว่าจะเป็นอันตรายเพราะยังเล็ก ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนอยากจะเข้าช่วยเหลือหรือรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถเข้าไปติดต่อได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอบ้านที่อบอุ่นที่อยู่อาศัยให้พวกหนูไม่ต้องทนอยู่กันเร่ร่อนแบบนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Praphanat Daseteuthai
แมวตัวแรกในชีวิต อยู่ด้วยกันมานานกว่า10ปีแต่ต่อจากนี้จะไม่ขอเลี้ยงแมวอีกแล้ว
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nat Naja ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เธอนั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยแมวตัวนี้อยู่กับเธอมามากกว่า 10ปี เขาเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งญาติ เป็นทั้งคนในครอบครัวและภาพเก่าๆยังวนเวียนอยู่ในหัวไม่เคยหายไปไหน และน้องต้องจากไปเพราะโรคไต
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า น้องจากไปด้วยโรคไตค่าไต 9 แมวตัวแรกในชีวิตอยู่ด้วยกันสิบกว่าปีเป็นเหมือน ญาติ เป็นเหมือนเพื่อน วันนี้น้องจากไปแล้วค่ะ น้องจะอยู่ในใจเราตลอดไปคงไม่เลี้ยงตัวอื่นอีกแล้ว ร้องไห้มาหลายวัน ฝังเองกับมือเลย ฝังตรงที่น้องชอบออกไปเดินเล่นเกือบทุกเช้า
และก่อนหน้านี้จากคนที่ให้น้ำเกลือไม่เป็นก็ทำได้ ให้น้ำเกลือน้องเองที่บ้านในตอนที่น้องไม่สบาย น้องอาการดีขึ้นมาก แต่เราต้องเดินทางไปต่างประเทศ...
กลัวจนตัวสั่น ร้องจนเสียงแหบเสียงแห้งมาหลบแอบที่กระถางต้นไม้ หวังให้ใครสักคนช่วยดูแลหนูที
ในบางครั้งโชคชะตาก็เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดการณ์และอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ ซึ่งในบางครั้งมันก็เป็นเหมือนสิ่งที่มีใครสักคนได้กำหนดเอาไว้แล้ว โดยที่ตัวเราเองก็ไม่เคยที่จะรู้มาก่อนและไม่เคยพบเคยเจอมาได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ก็เช่นเดียวกัน
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เกสร บ้านฅนทำเงินราชบุรีหลังเทคนิค ซอยเสือป่าสี่ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเธอลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เธอนั้นพยายามที่จะหาแมวมาเลี้ยงแทนน้องเหมียวตัวเดิมที่จากไปซึ่งเธอก็ได้แต่พยายามที่จะหาน้องแมวที่หาบ้านในกลุ่มต่างๆแต่ก็เจอแต่แมวที่อยู่ไกลและไม่สามารถไปรับได้
จนเกือบที่จะล้มเลิกความตั้งใจที่อยากจะเลี้ยงน้องแมว ซึ่งมาวันนี้อยู่ๆเจ้าเหมียวตัวน้อยก็ไม่รู้ว่าเดินมาจากไหน น้องหลงมาแอบในซอยข้างบ้านกำลังวิ่งข้ามถนนแอบหลบในกระถางต้นไม้โดยที่แฟนเธอเป็นคนไปเห็นเข้าจึงได้รีบมาบอกเธอ และเธอก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปดูในทันที
ซึ่งเมื่อได้ไปถึงก็ได้พบกับเจ้าเหมียวตัวน้อยที่กำลังนอนแอบหลบอยู่ โดยสภาพน้องนั้นตัวยังเล็กมากกลัวผู้คนจนตัวสั่นร้องแทบจะไม่มีเสียงไร้เรี่ยวแรง เธอจึงรีบเอานมให้กับน้องกิน ซึ่งทั้งนี้เธอยังบอกอีกว่าดีใจมากๆไม่คิดว่าจะได้เลี้ยงแมวสีนี้ทั้งๆที่เธอก็ตามหาน้องแมวมาเลี้ยงอยู่นานแสนนาน
วันนี้ได้เลี้ยงสมใจเพราะเจ้าเหมียวที่จากไปทำให้คิดถึงและอยากจะเลี้ยง จะตั้งใจดูแลและเลี้ยงให้อย่างดีที่สุดไม่ต้องกังวลใดๆแถมน้องยังมีใต้ตาเหมือนกับหมีแพนด้าอีกด้วย ซึ่งทั้งนี้ทางเว็บไซต์เราก็จะตามดูน้องจนเจริญเติบโตในเร็ววัน แบบนี้ใช่มั้ยที่เค้าเรียกว่าพรหมลิขิต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เกสร บ้านฅนทำเงินราชบุรีหลังเทคนิค ซอยเสือป่าสี่
แมวที่บ้านชอบตีกัน บ่นไปชุดใหญ่ถ้าไม่ตีกันทาสจะมีของมาเซอร์ไพรส์ และก็ได้ผลซะด้วย
หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงแมวแล้วก็คงจะรู้กันดีว่าแมวนั้นเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่สุดจะอินดิ้ เพราะแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดว่าตัวเองนั้นเป็นเจ้านายของคนอื่น พวกเขาจึงจะไม่ค่อยทำตามคำสั่งหรือคำพูดของเรามากนักซึ่งในความเป็นจริงแล้วพวกเขานั้นก็รู้ว่าเรานั้นพูดหรือบอกอะไรกับพวกเขา
แต่ทว่าความอินดิ้นั้นทำให้พวกเขาไม่สนใจที่จะรับฟังเราเช่นเดียวกับเจ้าเหมียวเหล่านี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ไอกูณฐ์ อนันท์สิตามัน ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวแสบของเขาลงในกลุ่มหลังจากที่เขานั้นได้ทำเจ้าเหมียวหายตัวไป ซึ่งเขาได้พยายามที่จะหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
เขาจึงได้เดินไปบอกกับแมวในระแวกบ้านว่าให้มิวกลับบ้านหน่อย ซึ่งเช้าวันต่อมาเจ้ามิวก็ได้เดินกลับมาบ้านแบบหน้าตาเฉย แถมยังมีเรื่องที่ทำให้เข้าใจว่าพวกแมวนั้นฟังภาษาเรารู้เรื่อง เมื่อปกติแล้วแมวที่บ้านของเขานั้นจะชอบที่จะทะเลาะกันอยู่เป็นประจำซึ่งมาวันหนึ่งเขาก็ได้บอกกับเหล่าเจ้าเหมียวเอาไว้ว่า
ถ้าวันไหนไม่ตีกันไม่ทำของในบ้านตกหล่นหรือพังกลับมาจะให้กินปลาซองทุกตัว ซึ่งเมื่อกลับมาจากบ้านสิ่งที่น่าประหลาดก็คือเจ้าเหมียวเหล่านั้นกลับไม่ทำของในบ้านตกหล่นหรือพังเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่พวกเหล่าเจ้าเหมียวไม่ซนจนของในบ้านตกจึงได้กินปลาซองกันไปทุกตัว อร่อยกันไปทั่ว
โดยทั้งนี้เขาจึงได้นำประสบการณ์และเรื่องราวดีๆมาแชร์ลงในกลุ่มคนรักแมวอย่าง ทาสแมว ซึ่งได้บอกกับเพื่อนๆว่าหากใครคิดว่าแมวฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องให้ลองคิดเสียใหม่เพราะพวกมันนั้นฟังเรารู้เรื่องแต่เลือกที่จะทำหรือไม่ต่างหาก ซึ่งหากมีอะไรมาแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งที่พวกเขาอยากได้แล้วพวกเขาก็อาจจะทำตามแบบที่แมวของเขานั้นได้ทำก็เป็นได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไอกูณฐ์ อนันท์สิตามัน
สาวเลี้ยงหมามาปีกว่า แต่ผัวจะเอาน้องไปขายเธอค้านสุดฤทธิ์ถ้าให้เลือกเลือกหมาดีกว่าเลือกผัว
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใชเฟสบุ๊กคุณ : Chanisorn Richwichai ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้เลี้ยงน้องหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียนมาได้ปีกว่า แต่ด้วยความที่น้องหมาเอาแต่ใจผัวก็ไม่ค่อยชอบและผัวเคยพูดว่าจะเอาน้องไปขาย และเธอเองก็ไม่เห็นด้วยสุดๆถ้าให้เลือกผัวกับหมาขอเลือกหมาดีกว่า
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรารักน้องมากแต่สามีเหมือนอยากให้คนอื่นไปเลี้ยง บอกตรงๆเลยนะเราทำใจไม่ได้ค่ะกลัวถ้าน้องไปลำบากกลัวเจ้าของคนใหม่เขาจะไม่รักน้องเหมือนกับเรา ถ้าให้เลือกระหว่างสามีกับน้องตอนนี้บอกเลยเลือกน้องค่ะสามีค่อยหาใหม่ก็ได้คะ
โดยแฟนกับเธอนั้นก็เลี้ยงน้องหมาตั้งแต่ตัวยังเล็ก แต่น้องค่อนข้างเอาแต่ใจ ผัวก็เลยบ่นว่าจะเอาไปขาย แต่เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นอยู่บ่อยๆเธอก็รู้สึกไม่ชอบที่จู่ๆจะขายน้องได้อย่างไร ขายผัวง่ายกว่ามั้ยเพราะหมาเขาไม่เคยเถียงเราเหมือนกับผัว
และเธอยังได้บอกอีกว่าทุกวันนี้รักหมามากกว่าผัวแล้ว เคยไล่ผัวออกไปนอนนอกห้องส่วนเธอนอนกับหมาสบายใจกว่า ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวต่างก็กล่าวกันว่า เคยเป็นเหมือนกันเลิกกับแฟนเพราะหมาเพราะเขาไม่ชอบหมาก็เลยมีปากเสียงและต้องจบลงด้วยการต้องเลิกกัน และชาวเน็ตไม่ต้องเป็นห่วงนะเธอจะดูแลน้องเองไม่ยอมให้ผัวเอาน้องไปขายอย่างแน่นอน
ที่มา Chanisorn Richwichai
เกือบจะโวยหลังเพิ่งเปลี่ยนจานรับสัญญาณใหม่ แต่ใช้ได้ไม่ทันข้ามวันพังอีกแล้ว จนมาพบตัวการนั่งส่งสัญญาณไปยานแม่
หากเพื่อนๆหลายคนที่ได้เลี้ยงแมวแล้วก็คงจะเข้าใจถึงนิสัยใจคอของพวกน้องๆดี เพราะแมวนั้นเป็นสัตว์ที่เราไม่สามารถจะคาดการนิสัยของพวกเขาได้จริง ทว่าการฟังหรือการสื่อสารนั้นพวกเขาก็เข้าใจที่เราพูดแต่จะทำตามหรือไม่ก็แล้วแต่อารมณ์
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดฮาลงในกลุ่มรักแมว หลังจากที่เธอนั้นได้เปลี่ยนจานดาวเทียมหรือจานรับสัญญาณโทรทัศน์เพราะเจ้านายหรือเจ้าเหมียวของเธอนั้นได้ทำจนพัง โดยเรื่องก็เกิดขึ้นหลังจากนั้น
เพราะเมื่อเธอได้เปลี่ยนจานรับสัญญาณไปใหม่ซึ่งในวันถัดมาเธอและครอบครัวก็ได้นั่งดูทีวีกันอยู่ในบ้าน แต่จู่ๆทีวีก็ไม่มีสัญญาณขึ้นมาอีก จึงได้เดินออกไปดูที่จานที่เพิ่งซื้อมาติดกลับพบว่าเจ้านายตัวแสบนั้นขึ้นไปนั่งส่งสัญญาณไปยังยานแม่ของตัวเองอยู่
ซึ่งเธอพยายามที่จะเรียกหรือเอาหารมาล่อมากมายแค่ไหนเจ้าเหมียวก็ไม่มีท่าทีจะลงมาเลยแม้แต่น้อย เธอจึงมาโพสต์เล่าเรื่องราวและอยากจะปรึกษาทาสแมวทั้งหลายว่าวัดไหนดี(ล้อเล่น) โดยเพื่อนๆในกลุ่มเองก็ต่างเข้ามาคอมเม้นต์กันยกใหญ่
ทั้งว่าน้องว่ากำลังส่งสัญญาณกลับยานแม่ตัวเองเพื่อที่จะมากลับมายึดโลก บ้างกก็บอกว่าแมวนั้นเป็นสิ่งที่คาดการณ์อารมณ์ไม่ได้จริงๆหรือไม่น้องก็คงคิดว่าแม่คงซื้อของเล่นมาให้น้องใหม่ น้องเลยขึ้นไปเล่นเพื่อให้แม่ชื่นใจ โดยทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าการปล่อยให้แมวขึ้นไปเล่นนั้นก็อาจจะเกิดอันตรายเกิดขึ้นกับตัวน้องได้ยังไงก็อยากจะให้อยู่ในความดูแลของทาสมากกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nuchz Chino White
เคยมีเจ้าของแต่ปล่อยให้หากินเอง เดินหาอาหารเร่ร่อนมาขอข้าวกินทุกวัน จนเท้าด้านหวังเพียงแค่อิ่มท้อง
เพราะอีกหลายๆชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้ จึงต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน เกิดมาเป็นสัตว์เพื่อให้ได้อิ่มท้องแม้ต้องเดินแลกกับการหาอาหารไม่ว่าไกลเพียงใดแดดจะร้อนจนทำให้เท้าพองเท้าด้านก็ต้องยอมทน ซ้ำหนักเคยมีเจ้าของแต่กลับไม่เหลียวแล
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แม่เกียง และลูกทาโร่ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ที่มีชื่อว่า บังปอน ซึ่งเจ้าเหมียวนั้นเป็นแมวที่เคยมีเจ้าของแต่กลับถูกเลี้ยงแบบไม่ใส่ใจ ปังปอนจึงจำเป็นจะต้องเดินตามซอยเพื่อออกหาอาหารไปเรื่อยๆทุกวัน จนเท้าที่เคยเป็นสีชมพูกลับเป็นสีเทาดำเพราะความด้าน
ซึ่งแม่เกียงหรือผู้โพสต์ก็ได้เทข้าวเอาไว้ให้ในทุกๆวัน จนวันหนึ่งแม่เกียงนั้นเห็นแผลที่หน้าเค้าเยอะจนทนไม่ไหวเลยพยายามที่จะพาตัวปังปอนไปหาหมอ โดยในตอนแรกก็คิดว่าจะแค่ช่วยรักษาให้หายดีและปล่อยให้อยู่ตามเดิมแต่ทว่าด้วยความอ้อนของปังปอนนั้นแม่เกียงก็ทนไม่ไหว
จึงต้องเลี้ยงปังปอนในระบบปิดเพราะปังปอนเป็นแมวที่น่ารักมากๆ ซึ่งในตอนนี้ปังปอนนั้นก็ได้อยู่ในอ้อมกอดของแม่เกียงที่แสนจะอบอุ่น มีที่นอนให้หลับสนิทไม่ต้องทนตากยุงนอกบ้านอีกต่อไปและไม่ต้องเดินเร่ร่อนเพื่อที่จะขออาหารตามบ้านอย่างทีเคยทำ
ซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆที่คิดจะเลี้ยงสัตว์เอาไว้ด้วยว่าการนำสัตว์ทุกชนิดมาเลี้ยงเพื่อนๆก็ควรที่จะศึกษาและเตรียมความพร้อมให้ดีก่อนที่จะนำพวกเขามาเลี้ยง มิเช่นนั้นปัญหาการปล่อยปละละเลยสัตว์ก็อาจจะตามมาได้เช่นเดียวกับผู้เป็นเจ้าของเก่าของปังปอนที่ปล่อยปละละเลยจนปังปอนนั้นต้องเดินหาอาหารจนเท้าด้านเท้าพอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก แม่เกียง และลูกทาโร่
ตื่นตระหนกกลางดึก ได้ยินเสียงแมวร้องโอ้กอ้ากเลยลุกขึ้นมาดูพบแฟนกำลังป้อนน้ำสตรอเบอร์รีสด
เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นก็เหมือนกับการเลี้ยงเด็กตัวน้อยๆ ที่จะต้องคอยเอาใจใส่ดูแลไม่ต่างอะไรกับเด็กที่มีอายุเพียงแค่ 2 ขวบ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวพวกเขาก็มีความคิดมีสมองที่สามารถฟังและสื่อสารกับเรารู้เรื่องแต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าการแสดงออกของแมวหรือสุนัขในแต่ละตัวนั้นเป็นอย่างไร
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวกับแฟนของเขา หลังจากที่เขานั้นตื่นตระหนกขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงแฟนสาวของเขาพูดกับแมวว่า กินน้ำสตรอเบอร์รี่นะคะลูกซึ่งเขาก็คิดในใจว่าโหยให้แมวกินน้ำสตรอเบอร์รี่เลยโว้ยยยย
แต่พอผ่านไปสักพักเขากลับได้ยินเสียงอะไรโอ้กอ้ากๆ ด้วยความแปลกใจเขาจึงได้ลุกและตื่นขึ้นมาดู จึงได้พบว่ามันไม่ใช่น้ำสตอรเบอร์รี่อย่างที่เขานั้นคิดแต่มันคือยาน้ำสีชมพูของแมวของเขาเอง ซึ่งเขาเองก็ทำได้เพียงแค่คิดในใจเพราะไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา เพราะเดี๋ยวแมวจะรู้ตัว
ซึ่งทั้งนี้เขาได้บอกว่าแฟนผมนั้นเป็นเอามาก ป้อนยาแมวก็ต้องหลอกแมวว่ามันคือน้ำสตรอเบอร์รี่ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าสุนัขหรือแมวเราก็ควรที่จะหลอกล่อพวกเขาเมื่อถึงเวลาที่จะต้องกินยาทั้งๆที่พวกเขาเองก็คงจะรู้ว่านั่นคือยาแต่มนุษย์อย่างเราก็ยังคงทำเพราะด้วยความเป็นแม่ที่เป็นห่วงลูก
ซึ่งทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวก็ได้สร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆในกลุ่ม ทาสแมว Official เป็นอย่างมากอีกทั้งยังเป็นเรื่องราวสุดน่ารักระหว่างคนเป็นแม่ที่ได้เลี้ยงเจ้าเหมียวสุดที่รักได้อย่างน่ารักสุดหัวใจ และก็อยากจะฝากเอาเพื่อนๆเอาไว้ว่าการหลอกให้กินน้ำสตรอเบอรร์รี่นั้นอาจจะทำได้เพียงแค่ครั้งเดียว เพราะครั้งต่อๆไปพวกน้องอาจจะรู้ตัวแล้ว ฮ่าฮ่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วรวิทย์ วาสนา
เกือบต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เพราะความหวังดีของผู้เป็นแม่ ร้องลั่นให้ช่วยกลางดึกจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เพราะความหวังดีของผู้เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง เมื่อเราได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเราก็รักและดูแลพวกเขาด้วยความหวังดีเสมอมาซึ่งในบางครั้งความหวังดีเหล่านั้นก็กลับมาทำเค้าโดยที่ตัวเราเองไม่รู้ตัวและไม่ได้ตั้งใจทางเจ้าของเองก็ไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับเรื่องราวของผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อเตือนเพื่อนๆในกลุ่ม ทาสแมว Official หลังจากที่เธอนั้นได้พบเรื่องราวที่เจอมากับตัวสดๆร้อนๆ หลังจากที่เกือบที่จะต้องสูญเสียแมวอันเป็นที่รักไปเพราะด้วยความหวังดีของตัวเอง
ซึ่งหากเพื่อนๆเลี้ยงสัตว์แล้วเพื่อนๆเองก็คงจะหาปลอกคอมาใส่ให้กับน้องๆสัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆ เพื่อด้วยความสวยงามและการที่ทำให้หลายๆคนได้รู้ว่าสัตว์ตัวนั้นๆมีเจ้าของ หลายคนมักมีเบอร์ติดที่ปลอกคอเผื่อในกรณีที่หมาแมวหลุดหาย แต่ทว่าการนำปลอกคอมาใส่ให้กับน้องหมาน้องแมวแล้วก็อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้
หลังจากที่ผู้เป็นเจ้าของรายนี้ได้เล่าว่า เกือบจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะความดื้อของนางด้วย ร้องเสียงดังกลางดึกตื่นทั้งพ่อและแม่ ไม่รู้ว่าไปจับนกหรือตัวอะไรเข้ามากระดิ่งไปติดที่ตะขอปากก็ดันไปติดด้วย โชคดีที่พ่อมาเห็นเข้าเลยช่วยเอาไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นคงจะสิ้นใจ
ต่อไปจะไม่ใส่ให้อีกแล้วเพราะเลี้ยงระบบปิด คงจะตกใจด้วยความกลัวไม่กินอะไรเลยในตอนนี้ ซึ่งทั้งนี้เธอจึงนำเรื่องราวมาบอกกับเพื่อนๆในกลุ่มเพื่อเตือนถึงอันตรายใกล้ตัวที่สามารถจะเกิดขึ้นได้หากไม่ระมัดระวัง เพราะเป็นเพียงปัญหาเล็กๆที่เรียกว่าเส้นผมบังภูเขาซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้กับน้องหมาหรือน้องแมวของพวกเราเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วันฤดี มุกธวัช
ตูบตัวผอมอาศัยอยู่บนเขาไร้น้ำไร้อาหาร วิ่งกระดิกหางมาหาหนุ่มมอเตอร์ไซค์หวังให้ช่วยชีวิต
เพราะหลายชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้เลยต้องดิ้นรนอยู่แบบตามมีตามเกิด พอวันนึงไม่เป็นที่ต้องการแล้วก็ถูกเอามาปล่อยอย่างไร้เยื่อใยแถมสถานที่ที่ถูกเอามาปล่อยไว้ก็ไร้แม้แต่แหล่งน้ำหรือแหล่งอาหารที่จะประทังชีวิตให้รอด เลยได้แต่อยู่อย่างไร้ความหวังด้วยเนื้อตัวที่ผอมแห้งเรี่ยวแรงก็ไม่มี
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Narongrit Pongpin ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบหลังจากที่เขานั้นได้พบเจอน้องเข้าโดยบังเอิญซึ่งเขาได้เล่าว่า เลิกงานมามาจอดรถเล่นเจอสุนัขตัวหนึ่งวิ่งมาหา แต่ทว่าสภาพของน้องนั้นกลับดูผอมแห้งมากราวกับว่าอดอยากมานานแสนนาน ซึ่งผู้โพสต์ก็มีเพียงไข่ต้มให้กินเพื่อประทังความหิวเพราะไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย
โดยก็ไม่รู้เลยว่าน้องนั้นถูกเอามาปล่อยไว้นานแค่ไหนแล้วสภาพถึงเป็นขนาดนี้ ซึ่งทั้งนี้ก็เลยนำเรื่องราวมาโพสต์ลง ในโลกออนไลน์เผื่อมีใครผ่านไปผ่านมาจะได้เข้าช่วยเหลือน้องที โดยที่เขานั้นได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ พิกัดทางขึ้นช่องสามหมอ เสาเรด้า อ.แก้คร้อ จ.ชัยภมิ น้องหมานอนอยู่ศาลาเรด้า น้องหมามีอยู่ 3 ตัวอีก 2 ตัววิ่งหนีเข้าป่า
โดยหลังจากนั้นก็ได้มีผู้คนใจดียื่นมือมาเข้ามาช่วยเหลือน้องในเวลาต่อมา ซึ่งในตอนแรกก็ไปตามหาน้องแต่กลับไม่พบเพราะบริเวณที่น้องอาศัยอยู่นั้นเป็นป่าแถมยังมืดไม่มีไฟจนในที่สุดก็ได้พบน้องซึ่งน้องก็ได้อาศัยอยู่กับเพื่อนอีกหนึ่งตัวซึ่งสภาพก็ผอมแห้งเช่นเดียวกัน โดยผู้เข้าไปช่วยเหลือได้โพสต์ว่า
23.19...