สัตว์โลก

หากเพื่อนๆที่เป็นทาสแมวแล้วก็คงจะรู้หรือเข้าใจกันดีในการที่แมวของเรานั้นชอบหนีหรือแอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน และด้วยไม่ว่าเราจะทำการเลี้ยงในระบบปิดมากแค่ไหนน้องก็ยังคงออกไปนอกบ้านได้อยู่ดี ซึ่งด้วยการที่เป็นแมวตัวผู้ส่วนมากก็จะชอบเที่ยวออกไปหาสาวๆข้างบ้าน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ชะ ม้อย ได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่ม ทาสแมว Official หลังจากที่น้องของเขานั้นกลัวแมวหาย เพราะด้วยแมวของน้องของเธอนั้นชอบแอบออกไปเที่ยวนอกบ้านเป็นประจำ ซึ่งผู้เป็นเจ้าของอย่างเราๆก็กลัวว่าแมวนั้นจะหายหรือมีคนอุ้มไป เพราะด้วยความรักและการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีก็อาจจะทำให้ผู้ที่พบเห็นแมวนั้นคิดว่าน้องไม่มีเจ้าของหรือหลุดออกมาหรือพลัดพรากจากผู้เป็นเจ้าของ จึงนำเก็บไปเลี้ยงที่บ้านได้ เจ้าของจึงต้องพกรูปถ่ายติดตัวและห้อยคอแถมยังมีประวัติของผู้เป็นเจ้าของรายนี้อีกด้วย ซึ่งหลังรูปที่ห้อยคอของเจ้าเหมียวนั้นได้เขียนเอาไว้ว่า "ผมชื่อ 'กะโปก' ลูกพ่อเนี๊ยบ ซอย 10 ใครเจอผมเดินเที่ยวให้โทรฟ้องพ่อผมที ขอบคุณครับ" ด้วยการดูจากรูปและข้อความแล้วคาดว่าเจ้าเหมียวคงจะชอบแอบหนีเที่ยวเป็นอย่างมากพ่อถึงขนาดต้องติดป้ายติดรูปห้อยคอแบบนี้เลย และหลังจากที่ผู้โพสต์รายดังกล่าวได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์เพื่อนๆที่ได้รักแมวก็ต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นทั้งขำชื่อของน้องแมวแถมยังมีไอเดียในการแขวนประวัติแบบเจ้าเหมียวรายนี้ ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนกลัวว่าเจ้าเหมียวจะหายก็ลองนำวิธีนี้ไปใช้ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก ชะ ม้อย

เพราะด้วยหัวใจของมนุษย์เรานั้นมีความอ่อนโยนไม่เท่ากันอาจจะด้วยการเลี้ยงดูจากทางครอบครัวและสังคมที่ได้เติบโตขึ้นมา ทำให้มนุษย์เรานั้นมีหัวใจที่มีความเมตตาต่อสัตว์ร่วมโลกแตกต่างกันไป ซึ่งถ้าพวกคุณเลี้ยงลูกให้อยู่กับสัตว์ต่างๆมาตั้งแต่ยังเล็กพวกเขาก็จะมีจิตใจที่เมตตาและอ่อนโยนมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งแน่นอนว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับการปลูกฝังของครอบครัวและพ่อแม่ที่มีต่อลูก เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Poompooy Dekza ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของตนลงในกลุ่ม รักหมา หลังจากที่เธอนั้นได้เคยให้อาหารเจ้าตูบแม่ลูกอ่อนรายนี้กินเพื่อประทังความหิว ซึ่งด้วยความสงสารเค้าจึงซื้อไก่และลูกชิ้นไปให้น้องกินเพราะเห็นว่าน้องเป็นหมาแม่ลูกอ่อนที่ผอมและหิวโซ ซึ่งทางผู้โพสต์นั้นเธอเป็นแม่ค้าขายของอยู่แล้วก็จะนำอาหารไปให้น้องในวันถัดมาเสมอ โดยเธอได้เตรียมโครงไก่สับกับข้าวสวยมาให้น้องแต่ทว่าเธอกลับเจอลุงคนนึงได้เดินมาบอกกลับเธอว่าอย่าไปให้มัน เพราะเนื่องด้วยหมาตัวนี้ไม่มีเจ้าของและไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหากไปงับใครเข้าเขาจะทำให้เดือดร้อน ลุงจึงได้สั่งว่าห้ามให้อย่าได้ไปให้เด็ดขาด เพราะด้วยเหตุผลที่ลุงว่าคือถ้าหมาไม่มีอาหารพวกมันก็จะไปอยู่ที่อื่นเอง เพราะถ้าเดือดร้อนงับคนขึ้นมาจะหาคนรับผิดชอบไม่ได้ เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็ทำเอาน้ำตาไหลพราก ซึ่งเธอก็ได้บอกว่าเธอเสียใจและผิดหวังมาก แม่สุนัขแอบมองมาที่เธอเดินจนละสายตาเธอก็เลยได้แต่แอบเอาไปวางไว้ใต้รถ และนางก็วิ่งมากินอย่างเวทนา เหตุใดกันหนอมนุษย์ถึงได้ใจดำขนาดนี้ โดยเธอเองก็ได้บอกอีกว่าเธอนั้นก็ช่วยได้แค่นี้เพราะเธอเป็นแม่ค้าขายของคาราวานพรุ่งนี้ก็จะต้องกลับไปแล้ว โดยหลังจากที่เรื่องราวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาต่อว่าคุณลุงรายดังกล่าวในโลกออนไลน์ และในที่สุดน้องๆทั้งหมดก็ได้ถูกรับเลี้ยงยกทั้งครอบครัวแบบที่ไม่ต้องเร่ร่อนหาอาหารกินและใช้ชีวิตอยู่ตามยถากรรมอีกต่อไป ทั้งนี้ก็เป็นผลพวงมาจากที่สาวรายนี้ได้นำเรื่องราวของน้องๆมาลงในกลุ่มก็ขอให้พวกน้องๆได้มีความสุขกับชีวิตและครอบครัวใหม่ที่ไม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อแบบนี้อีก ขอขอบคุณข้อมูลจาก Poompooy Dekza

เพราะในช่วงนี้ที่เรานั้นต้องอยู่ในช่วงกักตัวเพราะโรคโควิด19 ซึ่งด้วยการที่เราจะต้องอยู่แต่ในบ้านนั้นก็อาจจะทำให้เจ้านายเหมียวของเรานั้นเข้าใจผิด คิดว่ามนุษย์นั้นไม่สามารถที่จะออกไปหาอาหารมาประทังชีวิตให้กับพวกเขาได้ พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวแทนทาสที่ไม่ยอมไปทำงาน เพื่อที่จะออกไปหาอาหารมาให้กับเหล่ามนุษย์อย่างเราๆเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Khawfang Jinwara ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวแสนรู้ลงในกลุ่ม ทาสแมว Official หลังจากที่เจ้าเหมียวนั้นชอบคาบอาหารมาให้ไม่เว้นในแต่ละวัน ซึ่งสิ่งที่เค้าเอามาเซอร์ไพรส์แม่นั้นก็อาจจะทำให้หัวใจเต้นเร็วไปหน่อย เพราะแต่ละวันมีทั้งจิ้งจกมีทั้งกระปอม และล่าสุดนางไปคาบเอาเจ้าอ๊บๆน้อยมาให้แม่ แถมยังมีชีวิตและลมหายใจส่วนอิแม่ก็หัวใจจะวายเพราะแต่ละอย่างที่หามาให้ แถมยังมีการเอามาใส่ในจานคุกอาหารเม็ดมาให้แบบเสร็จสรรพ เธอจึงเกิดความสงสัยว่าทำไมน้องถึงชอบคาบอาหารมาให้ตั้งแต่เริ่มกักตัวอยู่บ้าน จนต้องเอามาลงในโลกออนไลน์เพื่อถามเพื่อนๆในกลุ่มทาสแมวดังกล่าวว่า คาบมาให้ทุกวันเต็มบ้านไปหมด น้องเอามาให้เรากินหรือป่าวคะบางวันก็มีคลุกอาหารเม็ดมาให้ด้วย เราต้องกินเพื่อที่จะรักษาน้ำใจของลูกไหมลูกอุตส่าห์หามาให้ทุกวี่ทุกวัน ช่วงเคอร์ฟิวกักตุนอาหารออกหาอาหารเลี้ยงมนุษย์แทน ซึ่งทั้งนี้ก็ได้มีเพื่อนๆในกลุ่มจำนวนมากต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นและชื่นชมน้องเพราะด้วยน้องอาจจะคิดว่าแม่ไม่ได้ออกไปไหนกลัวว่าแม่จะอด และถึงอย่างไรก็ตามก็อยากจะให้เพื่อนๆอธิบายให้ลูกๆฟังด้วยว่าพวกเรานั้นอาหารเองได้ไม่ต้องออกไปหาแทนเพราะเห็นแล้วหัวใจมันเต้นรัวสุดๆเลย ขอขอบคุณข้อมูลจาก Khawfang Jinwara

เพราะด้วยพรก.ฉุกเฉินทำให้หลายๆคนนั้นไม่กล้าที่จะออกเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดหรือกลับไปยังต่างจังหวัด เพราะด้วยโรคระบาดที่เกิดขึ้นด้วย นั่นทำให้พวกเราต้องช่วยเหลือกันคือการงดเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดจนทำให้หลายๆคนนั้นถึงกับเข้าใจผิดเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า สวยใส สวยไม่จำกัดวัย ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเธอหลังจากที่เธอนั้นได้เดินทางกลับบ้านเป็นเวลา 1 เดือนซึ่งทำให้เธอนั้นได้แต่เฝ้าดูเจ้าเหมียวน้อยที่เธอได้เลี้ยงเอาไว้ผ่านกล้องวงจรปิดเพียงเท่านั้น ซึ่งเมื่อเธอเรียกเจ้าเหมียวเจ้าเหมียวก็มาที่หน้ากล้อง และก็ไปเฝ้านั่งรออยู่หน้าประตูเพราะคิดว่าผู้เป็นเจ้าของนั้นอยู่ในห้อง ซึ่งก่อนที่จะออกมาเธอก็ได้ให้อาหารน้องเอาไว้เพียงพอสำหรับหนึ่งเดือน และก็ทำได้เพียงแต่เฝ้าดูน้องอยู่แบบนั้นทั้งน้ำตา โดยเธอเองก็ได้ให้คนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ๆไปช่วยดูแลน้องแทน 3 วันครั้ง และหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีเพื่อนๆหลายคนเข้ามาบอกเธอด้วยว่าเธอนั้นกำลังเข้าใจผิด เขาไม่ได้มีประกาศที่ห้ามกลับบ้านต่างจังหวัดแต่เพียงอยากให้ทุกคนที่กลับต่างจังหวัดนั้นกักกันตัวเองไม่ให้ออกไปเจอผู้คนภายนอกเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งเธอเองก็ได้ออกมาบอกว่าเธอนั้นเข้าใจผิดกับข่าวที่ออกมาเพราะข่าวปลอมเยอะมากจนเธอไม่รู้ว่าจะต้องเชื่ออันไหน แต่ถึงอย่างไรเธอก็จะกลับไปดูแลเจ้าเหมียวสุดที่รักและกักกันตัวเองให้ดีที่สุด เพราะถ้าปล่อยน้องเอาไว้ลำพังหรือนานกว่านี้น้องก็จะต้องทนอยู่ด้วยความคิดถึงเธอไปตลอด ขอขอบคุณข้อมูลจาก สวยใส สวยไม่จำกัดวัย

หากเรามองจากมุมของคนที่ไม่ได้เลี้ยงแมวแล้วเพื่อนๆหลายๆคนก็อาจจะคิดว่าแมวนั้นเป็นสัตว์ที่หยิ่ง และไม่ค่อยมีความรู้สึก แต่ทว่าแท้ที่จริงแล้วถ้าใครเลี้ยงพวกเขาและรักเหมือนกับลูกนั้นจะเข้าใจดีว่า พวกเขาก็มีหัวจิตหัวใจไม่ต่างอะไรจากมนุษย์หรือสัตว์อื่นๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Lisa Lestari Keenan ได้มาโพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เธอนั้นได้บอกเล่าใครว่าแมวเสียใจไม่เป็น ซึ่งเรื่องเกิดขึ้นในวันที่ฝนนั้นตกหนักแต่เช้า ซึ่งเจ้าลูกชายก็ดื้ออยากที่จะออกไปเล่นตรงระเบียงบ้านเหมือนทุกๆวัน แต่ด้วยความที่ฝนนั้นตกไงเธอก็กลัวว่าลูกจะโดนฝนแล้วเป็นหวัด ก็เลยดุเสียงดังไปยกใหญ่และบอกให้รีบเข้าไปในบ้าน ซึ่งเมื่อเห็นลูกชายวิ่งเข้าบ้านแล้วแม่ก็ทำอย่างอื่นต่อโดยที่ไม่ได้สังเกตุ จนสักพักก็เอาขนมแมวเลียมาให้กินเหมือนในทุกๆเช้าที่ต้องให้เป็นกิจวัตร แต่ทว่า... เมื่อได้เรียกหาเจ้าเหมียวนั้นเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมา หาตัวเจออีกทีก็มานั่งทำหน้าทำตาจุ้มปุ๊กอยู่แบบนี้ แถมยังเรียกก็ไม่ยอมหัน ซึ่งนางงอนแม่หนักมากที่ไม่ให้ออกไปเล่นนอกบ้านแถมยังโดนดุเลยมานั่งงอนดราม่ามีน้ำตาไหลอยู่แบบนี้ งานนี้เลยทำให้ทาสนั้นรู้สึกผิดไปตามๆกัน เธอจึงต้องขอโทษเจ้าเหมียวแบบยกใหญ่จนกว่าจะหายงอนได้เล่นเอาเหนื่อย ซึ่งทั้งนี้ใครที่ชอบหาว่าแมวนั้นเสียใจหรือร้องไห้ไม่เป็นก็อยากให้ดูเอาไว้ว่าในความจริงแล้วพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับเราซึ่งพวกเขาก็มีหัวใจไม่ต่างกัน และใครที่บอกว่าแมวร้องไห้เพราะเจ็บมดลูกก็อยากให้ดูว่าน้องตัวนี้เป็นแมวตัวผู้ไม่มีมดลูกนะจ๊ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa Lestari Keenan

เพราะชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมามีชีวิตอยู่ตามยถากรรม ไม่มีสิทธิ์มีเสียงจะร้องไปบอกใครให้ช่วยเหลือ เพราะชีวิตที่เกิดมาเป็นสัตว์จรไร้จะมีเจ้าของหรือคนจะคอยมาดูแล ยิ่งมาคลอดลูกเอาไว้ในพื้นที่ที่เสี่ยงอันตรายไหนจะฝนไหนจะสัตว์ที่หวังจะเอาชีวิต ซึ่งหัวอกคนเป็นอย่างเช่นแม่หมาก็ทำได้แค่ทำให้ลูกนั้นอยู่อย่างปลอดภัยที่สุดที่ตนจะหาได้เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังจากผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า กอนกวย สเร็น ได้นำเรื่องราวของเจ้าตูบน้อยทั้ง 7 มาโพสต์ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เธอนั้นได้ทำปฏิบัติการณ์ช่วยเหลือลูกหมาออกจากท่อ หลังฝนตกหนักซึ่งในบางพื้นที่นั้นเกิดพายุ และด้วยความที่เป็นแม่ก็ห่วงว่าลูกนั้นจะได้รับอันตรายคลอดออกมาจึงเอาลูกของตนนั้นไปซ่อนเอาไว้ในท่อระบายน้ำซึ่งผู้โพสต์เองก็ได้มาพบเข้าจึงรีบเข้าช่วยเหลือ ซึ่งโดยสภาพของคนช่วยกับสภาพของน้องๆก็พอๆกัน เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปตามๆกันทั้งคนทั้งหมา ซึ่งลูกหมาทั้งหมดนั้นมี 7 ตัวโดยทางผู้โพสต์ก็ได้พยายามที่เอาน้องๆออกมาจากท่อด้วยทั้งหมดและถึงเนื้อตัวจะต้องเลอะเทอะเพียงใดก็ยังคงเลือกที่จะทำหน้าที่คนที่มีจิตใจดีอย่างไม่รีรอ ซึ่งในที่สุดก็ช่วยน้องๆออกมาได้ทั้งหมด โดยมีแม่หมานั้นคอยเฝ้าอยู่ข้างๆไม่ห่าง ซึ่งทางผู้โพสต์นั้นได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าน้องๆได้อาศัยอยู่ข้างทางอยู่ที่จังหวัด สุรินทร์ อ.ศีขรภูมิ ซึ่งทางผู้โพสต์ก็ได้นำอาหารมาให้น้องๆอยู่เป็นประจำอยู่แล้วจนกระทั่งแม่หมานั้นได้คลอดลูกออกมา ซึ่งหลังจากการช่วยเหลือครั้งนี้เสร็จเธอก็จะเอาน้องๆกลับไปดูแลรักษาตัวต่อที่บ้านทั้งแม่และลูกๆ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องราวที่น่าชื่นชมในโลกออนไลน์เป็นอย่างมากเพราะนอกจากจะจิตใจดีแล้วยังมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกเพราะถ้าไม่ได้พวกพี่ๆก็ไม่รู้ว่าพวกหนูจะมีชีวิตรอดต่อไปอีกได้ยังไง ขอขอบคุณข้อมูลจาก กอนกวย สเร็น

หากเพื่อนๆที่เป็นทาสแมวก็คงจะเข้าใจในความเป็นทาสอยู่แล้ว เพราะหากถ้าเราเป็นทาสแล้วไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามเราก็มักจะนึกถึงแต่เจ้าเหมียวที่เรารักอยู่เสมอๆ และแน่นอนว่าหากจะพูดถึงรูปในโทรศัพท์มือถือเชื่อได้ว่าทุกคนที่เป็นทาสอย่างเราๆก็คงจะหนีไม่พ้นรูปที่เป็นรูปของเจ้านายกันอยู่เต็มเครื่อง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ma Ma Steak ได้โพสต์แจ้งลงในหน้าแฟนเพจของตนหลังจากที่เขานั้นได้โพสต์รูปเมนูอาหารแต่ดันเอารูปเจ้าเหมียวสุดที่รักใส่ลงไปในเมนูสเต็กไก่อบชีส งานนี้ทำเอาคนในโลกออนไลน์ตกใจกันยกใหญ่เพราะคิดว่าจะเอาน้องมาอบชีสจริงๆ เพราะด้วยความรักและความเป็นทาสทำอะไรก็มักจะนึกถึงแต่แมวของตนเธอจึงได้ใส่รูปเจ้าเหมียวลงไปในเมนู ทำให้หลายคนเข้าใจผิดและอินบ็อกซ์ไปหาในแฟนเพจเป็นอย่างมาก จนเธอต้องออกมาแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า ขออภัยทาสแมวด้วยทางเราไม่ไม่ได้มีเจตนาจะเอาน้องมาทำเมนูอบชีสแต่อย่างใด แต่เนื่องด้วยทางแม่ค้านั้นลงรูปผิดซึ่งตอนนี้ก็ได้ทำการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนหลายๆท่านที่ได้สอบถามเข้ามาถึงความห่วงใยถึงน้องนั้น น้องยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัยดีแถมกินเก่งกินเยอะจนเจ้านายตัวอื่นๆผอมกันไปหมด ซึ่งทางแม่ค้าก็สำนึกผิดไปแล้วค่าาขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย จากโพสต์ดังกล่าวก็ได้กลายเป็นเรื่องราวสุดน่ารักในโลกออนไลน์ จนทำให้มีผู้คนเข้ามากดไลค์มากถึงหนึ่งหมื่นคนเพราะด้วยความน่ารักของแม่ค้าที่เป็นทาสแมวและความน่ารักของเจ้าเหมียวที่มีต่อกันนั่นเอง ซึ่งยังไงวันหลังถ้าเอารูปน้องขึ้นแบบนี้อีกดูท่าทางทาสแมวหลายคนคงอยากจะลองสั่งมากินที่บ้านสักตัวฮ่าๆ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Ma Ma Steak

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Ann Spc ได้เผยเรื่องราวการจากลาของแมวที่เขานั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้ชื่อว่าเจ้าเทา เจ้าเทาอายุ14ปีแล้วเกิดมาไม่เคยป่วยเลย แต่พอป่วยเพียงแค่ครั้งเดียวในตอนแก่แล้วทำให้เจ้าเทาต้องสิ้นลมหายใจทำเอาเจ้าของไม่ทันตั้งตัวและรับไม่ได้ที่น้องจากไปเร็วขนาดนี้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า วันนี้ลูกชายผมหมดบุญแล้วครับพวกเราอยู่ด้วยกันมา14ปีกว่า ผมรักเขาเหมือนกับลูกชายแท้ๆ14ปีมานี้เวลาผมจะไปไหนมาไหนเขาจะต้องไปกับผมด้วยเสมอ เราเล่นด้วยกันทุกวันแม้แต่เวลานอนหลับ เขาก็มานอนด้วย ความรู้สึกผมตอนนี้แย่จนบอกไม่ถูกเลย บางคนอาจจะคิดว่าแค่แมวตัวเดียวแต่สำหรับผมเขาคือคนในครอบครัวผม เวลาผมกลับจากทำงานเทามันจะมานั่งรอผมทุกครั้งไป ไม่ว่าผมจะเหน็ดเหนื่อยหรือเครียดเรื่องงานหรือในทุกๆเรื่อง เทามันจะคอยเป็นเพื่อนเล่นเป็นเพื่อนคุย ทุกคืนผมต้องอุ้ม และพาไปเดินเล่นด้วย14ปีมานี้มันไม่เคยป่วยแม้แต่ครั้งเดียว เทามันแข็งแรง ไม่คิดว่าป่วยครั้งแรก มันจะหนักขนาดนี้ มีผู้เฒ่าผู้แก่เคยบอกผมว่าแมวถ้าอายุมากๆมันจะเลือกวันของมันเอง และวันนี้ก็เป็นวันพระใหญ่ วันที่ 23มีนาคม2563...

หากเพื่อนๆที่เป็นทาสแมวแล้วก็คงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์อย่างเราๆคาดการไม่ได้จริงๆ เพราะในแต่ละครั้งแมวก็มักจะคิดสิ่งที่ผิดแปลกไปจากที่มนุษย์อย่างเราๆคิด จนในบางทีเราก็อาจจะไม่เข้าใจได้เลยว่าแมวนั้นฉลาดมากกว่าเราหรือพวกเขานั้นเอาแต่ใจตัวเอง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kanom Wan ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวแสบของเธอลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เจ้าเหมียวตัวแสบนั้นชอบพาเพื่อนมากินข้าวที่บ้านและก็นั่งมองเพื่อนกินแบบสบายใจเฉิบอยู่แบบนั้น ซึ่งน้องก็ไม่ขอผู้เป็นแม่เลยสักคำ อาจจะเพราะด้วยการเป็นแมวด้วยการจึงเข้าใจหัวอกแมวด้วยกันว่าการอดหรือการหิวที่ไม่มีอะไรกินนั้นมันเจ็บปวดมากเพียงใด จึงได้มีจิตใจที่เมตตาพาเพื่อนมากินข้าวที่บ้านแบบนี้ ซึ่งผู้โพสต์ก็ได้มาบ่นให้กับเพื่อนในกลุ่มทาสแมวได้ฟังว่า ใจดีจริงๆแถมทั้งนี้ยังมีแมวจรอยู่หลังบ้านอีก 3 ตัวด้วย ที่เจ้าเหมียวตัวแสบของเธอไปทำความรู้จักเอาไว้แล้วให้แม่เอาอาหารไปให้เกือบจะทุกวัน ซึ่งก็เรียกได้ว่าใจดีสุดๆที่พาเพื่อนมากินข้าวได้อิ่มทุกตัว หรือน้องคงคิดว่าแม่มีเงินเหลือเยอะเลี้ยงเพื่อนหนูบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ด้วยทั้งนี้ก็อาจจะเพราะด้วยน้องน่าจะมีหัวใจที่อ่อนโยน จึงเห็นอกเห็นใจแมวจรตัวอื่นที่พวกเขาต้องทนหิวหรือเขาอาจจะคุยกันรู้เรื่องแบบที่มนุษย์เรานั้นไม่เข้าใจก็เป็นไปได้ ซึ่งจากเรื่องราวดังกล่าวก็ได้สร้างความน่ารักให้กับเพื่อนๆในกลุ่มทาสแมวเป็นอย่างมาก จึงอยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ให้ระมัดระวังแมวของเพื่อนๆให้ดีไม่แน่วันดีคืนดีน้องอาจจะพาเพื่อนมากินข้าวที่บ้านแบบนี้อีกก็เป็นได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kanom Wan

เพราะด้วยความกลัวของคนเรานั้นต่างกัน ซึ่งด้วยมนุษย์เรานั้นมักจะมีความกลัวเป็นตัวของตัวเองอยู่แล้วซึ่งก็แล้วแต่ละคนแล้วแต่แตกต่างกันไป อาจจะด้วยการปลูกฝังอยู่ในใจทำให้สิ่งเหล่านี้สร้างความกลัวด้วยตัวของมันเองขึ้นมา เช่นเดียวกันกับหลายคนที่เคยกลัวสุนัขกลัวแมวกลัวสัตว์ต่างๆ เหมือนกับเรื่องราวของพ่อแฟนของผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Por Karuna หลังได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวและผู้เป็นพ่อของแฟนเธอนั้น จากที่เมื่อก่อนนั้นพ่อแฟนของเธอเป็นคนที่กลัวแมวมากๆไม่ว่าจะเป็นตัวเล็กหรือตัวใหญ่อย่างไรก็ตามเขาก็มักจะกลัวพวกเจ้าเหมียวอยู่เสมอ แต่ทว่าเมื่อวันเวลาได้ผ่านไปเธอนั้นได้รับเจ้าเหมียวตัวน้อยมาเลี้ยงซึ่งเป็นแมวจร ในตอนแรกพ่อแฟนของเธอก็มีท่าทีที่กังวลอยู่บ้างเพราะด้วยความกลัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก ทำให้มีการเกร็งๆเกิดขึ้นแต่ทว่าเมื่อเขานั้นได้ลองสัมผัสและเกิดความผูกพันขึ้นมาทำให้พ่อแฟนของเธอนั้นมีท่าทีที่เปลี่ยนไป ซึ่งโดยความน่ารักของเจ้าเหมียวน้อยทำให้จากพ่อของแฟนที่เคยกลัวแมวในขณะนี้กลับตกเป็นทาสแมวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากเดิมที่ไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องตัวแมวตอนนี้ก็เริ่มที่จะกล้าลูบตัวลูบหัวน้อง และล่าสุดที่หนักกว่านั้นคือการไปนั่งกินข้าวหน้าบ้านกับแมวแล้วจร้า ซึ่งทั้งนี้ผู้เป็นเจ้าของนั้นยังได้บอกเล่าเรื่องราวเพิ่มเติมด้วยว่าเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้มีชื่อว่า่ แป๋วแหวว เป็นแมวตัวน้อยที่มีอายุเพียงแค่ 4 อาทิตย์เพียงเท่านั้นซึ่งในทุกวันนี้เวลาที่พ่อกลับมาบ้านก็มักจะถามหาแต่แมวเป็นสิ่งแรกเสมอ ก็น่ารักแบบนี้จะไม่ให้ตกหลุมรักได้ยังไงละจริงมั้ย ขอขอบคุณข้อมูลจาก Por Karuna