สัตว์โลก

อาจจะเพราะด้วยการนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงนั้นก็เหมือนกับการเลี้ยงเด็กตัวน้อยๆ เพราะเมื่อยังเด็กยังเล็กก็จะยังคงเชื่อฟังผู้เป็นพ่อเป็นแม่ แต่ทว่าเมื่อก้าวเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นก็มักจะไม่ค่อยฟังและสนใจผู้เป็นพ่อเป็นแม่เหมือนยังเล็ก เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ ที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mali Somboonkao ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอเลี้ยงเอาไว้เหมือนกับลูกน้อยเมื่อตอนวัยเยาว์ก็ยังคงเชื่อฟังและเลี้ยงดูเจ้าเหมียวมาด้วยความรักและความอบอุ่น เพราะเชื่อว่าอยากที่จะให้เขานั้นได้เติบโตขึ้นมาเป็นคนที่ดีของสังคมเป็นแมวที่ดี แต่ทว่าเมื่อพักหลังๆน้องก็มีอารการแปลกๆไปเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด ชอบไปแอบเก็บตัวอยู่ที่หลังบ้านไม่ชอบให้ยุ่งวุ่นวายหรือสุ่งสิงกับผู้เป็นพ่อเป็นแม่หรือครอบครัว ซึ่งในตอนแรกเธอนั้นก็คิดว่าคงจะเป็นเพราะว่าน้องเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเริ่มที่จะโตขึ้นแล้วเลยเริ่มที่จะอยากมีเวลาส่วนตัว แต่ทว่าวันนี้ได้เห็นความจริงทำเอาน้ำตาแอบจะไหล เพราะว่าวันนี้ได้ย่องมาดูทำเอาแทบใจสลาย จากเด็กที่เลี้ยงมาด้วยความรักความอบอุ่นและอยากจะให้ได้เติบโตเป็นคนดีของสังคม ลูกทูนหัวที่แสนจะรักแอบมาดูดบะหรี่ที่หลังบ้าน จับได้คาหนังคาเขาเพราะเห็นทั้งซองทั้งไฟแช็ก เธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์บอกเล่าถึงความเสียใจที่มีลงในกลุ่มทาสแมว Official ซึ่งก็ได้กลายเป็นเรื่องราวที่แสนจะเฮฮาในกลุ่มเพราะมุขที่เธอได้เล่นกับน้องนั้นเอง ซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากคิดจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเราก็ควรจะดูแลพวกเขาให้ดีและทั่วถึงเพราะมิเช่นนั้นอาจจะเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นได้กับแมวของเพื่อนก็เป็นได้ ขอขอบคุณขอมูลจาก Mali Somboonkao

เพราะด้วยเวรกรรมที่ทำมานั้นทำให้บางคนนั้นเชื่อว่าชาตินี้เราจึงต้องเกิดมาเพื่อรับเคราะห์กรรมที่ยากเข็น ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากในแต่ละวันยิ่งซ้ำถ้าเกิดมาเป็นสัตว์จรไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวแล้วก็ยิ่งยากที่จะไปร้องขอความช่วยเหลือหรือจะไปบอกกับใคร เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Noeys Tida ได้มาโพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยรายนี้หลังที่น้องนั้นเกือบที่จะเอาชีวิตไม่รอดหลังจากที่เจ้าของเก่าของน้องเอาน้องมาใส่ตะกร้าแล้วล็อคไว้ไม่ให้ออกไปไหน แถมยังวางน้องเอาไว้ที่ใต้ต้นไม้ ซึ่งในช่วงนั้นก็เป็นหน้าฝนแล้วฝนก็ตกลงมาทุกวัน น้องต้องทนอยู่ในสภาพแบบนั้นติดต่อกันเป็นเวลากว่า 5 วันไม่ได้กินไม่ได้นอน จนพี่ชายของเธอนั้นได้ไปได้ยินเสียงแมวร้อง แต่แล้วน้องกลับไม่สามารถที่จะลืมตาได้เพราะคาดว่าน้ำฝนคงจะเข้าตาทุกๆวัน จนทำให้ตาเยิ้ม ซึ่งพี่ชายของเธอจึงได้พาน้องกลับไปยังบ้านและพาไปหาหมอในเวลาต่อมา ซึ่งในตอนแรกคุณหมอก็ได้ตรวจดูอาการเบื้องต้นและคาดว่าคงจะไม่รอดแน่ๆเพราะน้องขังเอาไว้ในกรงและไม่มีอาหารกินมาเป็นเวลานาน แต่ทว่าด้วยการรักษาเพื่อที่จะยื้อชีวิตน้องเอาไว้ จนในที่สุดน้องก็รอดและได้เติบโตมาเป็นเจ้าหมูตัวน้อยในวันนี้  ซึ่งทั้งนี้ถ้าในวันนั้นพี่ชายของเธอไม่ได้ยินเสียงแมวร้องน้องก็คงจะไม่รอดชีวิตมาถึงทุกวันนี้ จึงอยากจะฝากเพื่อนๆไว้ว่าถ้าเจอเสียงลูกแมวหรือเสียงแมวร้องผิดปกติก็อยากจะให้เพื่อนๆแอ๊ะใจและรีบไปดูเพราะอย่างน้อยเราก็อาจจะได้ช่วยชีวิตตัวน้อยๆเอาไว้ให้รอดพ้นจากความสิ้นใจ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Noeys Tida

อาจจะเพราะด้วยการปลูกฝังลูกตั้งแต่ยังเล็กซึ่งทำให้พวกเขานั้นมีหัวใจที่อ่อนโยน โดยเฉพาะบ้านไหนที่เลี้ยงเด็กๆร่วมกับสัตว์เลี้ยงเพื่อนๆลองสังเกตุกันไหมว่าเด็กๆบ้านนั้นจะเติบโตขึ้นมามีหัวใจที่เมตตาต่อสัตว์และเพื่อนมนุษย์ นั่นก็คือสิ่งที่ทำให้พวกเขามีหัวใจที่อ่อนโยนตั้งแต่เด็กๆทั้งๆที่บางคนกลับไม่รู้ตัวเลย เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า วราภัสร์ จิตกวินทิพย์ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวสุดประทับใจหลังเธอนั้นพบกระดาษการ์ดอวยพรซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นงานส่งครูของลูกของเธอ ซึ่งในการ์ดนั้นเขียนอวยพรเอาไว้ด้วยว่า "ขอให้แมวมีความสุขตลอดไป" ใช่แล้วไม่ผิดแน่ๆแมวไม่ใช่แม่ งานนี้เลยทำให้คนเป็นแม่นั้นสุดประทับใจหลังพบการบ้านเป็นการ์ดส่งอาจารย์ของลูกน้อย จึงได้มาโพสต์บอกเล่าเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมว โดยได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "เจอในกระเป๋าลูกน้อย คิดว่าคงเขียนผิดแน่ๆ นี่คงจะตั้งใจทำดอกไม้มาให้แม่ เขียนคำว่าแม่ผิดไปแน่ๆใช่ไหมจ๊ะลูกรัก" "แต่พอลองได้พลิกดูอีกด้านดู เอ่ออ...ยอมยอมให้มันแล้วจริงขอให้แมวมีความสุขตลอดไป" ซึ่งทั้งนี้ก็ได้สร้างรอยยิ้มและความเฮฮาในกลุ่มทาสแมวเป็นอย่างมาก อีกทั้งผู้โพสต์นั้นยังได้มาอัพเดทเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ขนาดของแม่วันเกิดแม่ก็ยังไม่เคยมาบอกรักแม่เลยแถมยังแย่งเทียนของแม่ไปเป่าอีก แต่กลับเจ้าเหมียวแล้วกลับบอกขอให้มีความสุขมากๆดูรู้เลยนะเนี่ยว่าลูกรักใครมากกว่ากัน ซึ่งทั้งนี้ก็คงจะเป็นเหตุมาจากที่แม่ดันไปเลี้ยงน้องร่วมกับแมวน้องเลยรักแมวมากกว่าแม่ไปแล้ว ก็คงจะเป็นอย่างที่บอกเอาไว้ข้างต้นว่าถ้าเราเลี้ยงสัตว์ร่วมกับเด็กๆพวกเขานั้นก็จะมีหัวใจที่อ่อนโยนต่อสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะไปเจอสัตว์เหล่านี้ที่ไหนพวกเขาก็มักจะเห็นอกเห็นใจและเมตตาแต่ทว่าก็คงจะไม่ใช่กับผู้เป็นแม่โอ้ย...ฮา ขอขอบคุณข้อมูลจาก วราภัสร์ จิตกวินทิพย์

เพราะมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่มักจะตอบสนองความต้องการของตัวเองหรือเรียกง่ายๆว่ามนุษย์เรานั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก แต่ทว่าก็ไม่ใช่ทุกคนเสมอไป เพราะมนุษย์เราอยากได้สิ่งใดก็มักจะสนองตันหาของตัวเองและนำมาซึ่งความไร้ความรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นเราจึงมักจะเตือนเพื่อนๆว่าการนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงเราก็จะต้องดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดเพราะพวกเขานั้นจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Rejoys Mitip ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวครอบครัวนี้ หลังได้พบแมวแม่และลูกรวมจำนวน 4 ตัวแอบอาศัยใต้ร่มเงาในบ้านนี้ ซึ่งทางเจ้าของบ้านก็เมตตาให้อยู่ให้กินแต่ด้วยการที่เลี้ยงแบบไม่ถูกลักษณะจนทำให้เชื้อราขึ้นทั้งตัวและกินจนเป็นแผล ซึ่งน้องๆนั้นเป็นแมวพันธุ์และเคยมีผู้เป็นเจ้าของเป็นคนเพาะพันธุ์แมวมาจำหน่าย พอไปถามก็กลับปฏิเสธว่าไม่ใช่แมวตน ซึ่งพวกน้องๆและครอบครัวก็ต้องอยู่อาศัยเยี่ยงแมวจร โดยทั้งนี้ทางผู้โพสต์จึงได้นำตัวเด็กๆส่งคลีนิคเพื่อทำการรักษาตัวโดยต่อไป และทางคุณหมอก็ได้แจ้งว่าทางแมวแม่นั้นมีปัญหาเรื่องช่องท้อง เพราะท้องบวมผิดปกติแต่ทางลูกแมวทั้ง 3 ตัวนั้นมีปัญหาเรื่องเชื้อราที่กินจนลึกทำให้เป็นแผลที่ผิวหนัง และเรื่องไรในหูซึ่งก็จะต้องทำการรักษาด้วยการอาบน้ำและทายาเป็นเวลาต่อมา ซึ่งทั้งนี้ทางเจ้าของบ้านเองก็ทำได้เพียงแค่ให้น้องๆอยู่อาศัยเพียงเท่านั้นไม่สามารถที่จะดูแลน้องๆได้อย่างทั่วถึง ผู้โพสต์จึงได้นำมารักษาและจะหาบ้านในเวลาต่อมาเพราะตอนนี้เด็กๆยังมีอายุเพียงแค่ 1 เดือนเพียงเท่านั้นยังคงอยากที่จะให้น้องๆอยู่กับผู้เป็นพ่อเป็นแม่และคอยเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากหายดีและก็จะสแกนหาบ้านอีกทีนึง และก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าการเลี้ยงแมวหรือนำสัตว์อื่นๆมาเลี้ยงเพื่อนๆควรที่จะมีความรับผิดชอบต่อหนึ่งชีวิตเพราะอย่าได้ลืมไปว่าคุณก็คือโลกทั้งใบของพวกเขาถ้าหากวันนั้นคุณรับเขามาเลี้ยงแล้ว ขอขอบคุณข้อมูลจาก Rejoys...

เพราะคนเรานั้นเกิดมามีกรรมด้วยสิ่งต่างๆที่เรานั้นเกิดมาต้องพบเจอ ทำให้หลายๆชีวิตต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อที่จะมีชีวิตรอดอย่างสุดกำลังที่มี แม้จะไร้หนทางยากแค้นก็ต้องอดทน แต่ถ้ายิ่งแล้วเกิดมาเป็นสัตว์เล็กที่ไม่มีแม้แต่เสียงจะไปเรียกร้องขอความช่วยเหลือ ก็ต้องอดทนตามมีตามเกิดตามยฐากรรมที่มีมา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Palita Srisaikham ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ ที่มีชื่อว่าเจ้า ซาอิด ที่เธอนั้นได้อาศัยอยู่ที่ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งน้องเป็นแมวที่ชอบยืนสองขาเพราะขาหน้าที่งอด้วยเกิดมาเป็นแบบนี้ อีกทั้งตาก็บอดหนึ่งข้างเพราะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดถูกนกเข้ามาจิกเข้ามารังแก ซึ่งเสียงร้องของน้องก็แทบจะไม่มีเวลาน้องจะร้องแอ๊วแอ๊วไม่เหมือนแมวปกติทั่วไป แต่ทว่าวันนึงเธอก็ได้ไปพบน้องเข้าและช่วยเหลือเอาไว้ จากแมวที่ไร้บ้านไร้แม้แต่ที่อยู่อาศัยวันนี้กลับมีบ้านและครอบครัวที่อบอุ่น และถึงแม้น้องจะไม่เหมือนกับแมวปกติทั่วไปแต่ก็ถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรักและความเอาใจใส่ จนสภาพปัจุบันของน้องนั้นน่ารักและมีแต่คนหลงรักเมื่อได้ทราบเรื่องราว ครั้งเกิดมาเป็นแบบนี้แต่ก็ได้พบกับทาสผู้ใจดีที่รับหนูมาเลี้ยงมาดูแล จนทำให้หนูนั้นมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ถึงจะวิ่งเล่นซนไม่ได้เหมือนแมวปกติแต่หนูก็มีแม่ที่รักและคอยเป็นห่วงหนูอยู่เสมอมา ซึ่งเธอนั้นได้นำเรื่องราวของน้องมาโพสต์ลงในกลุ่ม ทาสแมว Official ซึ่งก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างมากเพราะการยืนที่เป็นเอกลักษณ์ของน้องทำให้เพื่อนๆหลายคนตกหลุมรัก แถมยังมีตัวที่อ้วนกลมและชอบยืนสองขาเวลาถ่ายรูป จนทำให้เป็นที่ชื่นชมทั้งผู้เป็นเจ้าของและน้องเหมียวเพราะด้วยความรักความเมตตาที่เธอนั้นรับน้องมาดูแลจนน่ารักและอ้วนถ้วนสมบรูณ์ ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากเจอแมวที่ต้องการความช่วยเหลือก็อยากจะให้เพื่อนๆยื่นมือเข้าไปช่วยเพราะถ้าเราเลือกที่จะเมินพวกเขาวันนั้น...

เพราะความอยากเป็นทาสแมวของคนเรานั้นก็อาจจะทำให้เราพยายามมากกว่าปกติ ซึ่งการที่เราอยากจะมีแมวสักตัวมาเลี้ยงนั้นก็เหมือนกับเราเอาเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยง และก็จะได้มาซึ่งความรักและความสุขแถมยังช่วยให้เรานั้นหายเหงาอีกด้วย แต่ทว่าที่หนักไปกว่านั้นคือเราได้ภาระที่จะต้องเลี้ยงดูหนึ่งชีวิตตลอดไป เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ยุทธนา ทับทิมทอง ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ลงในกลุ่ม ชมรมแมวสายดาร์ก เมื่อ 9 ปีก่อนเขานั้นอยากที่จะเลี้ยงแมวเปอร์เซียเอามากๆซึ่งวันนึงเพื่อนของเขาก็มีลูกแมวเปอร์เซียแล้วบอกว่าจะให้แต่ทว่าเขานั้นจะต้องป้อมนมเองเพราะแม่ของน้องนมติดเชื้อ ซึ่งเขาเองก็โอเค โดยได้ตั้งชื่อให้กับน้องว่าเจ้าอาเปา เพราะเขานั้นชื่นชอบอาโปในหนังเรื่องกังฟูแพนด้ามากๆก็เลยตั้งชื่อให้คล้ายๆกัน แต่เพื่อนก็ได้บอกเขาอีกว่าแต่แมวที่จะยกให้นั้นเป็นตัวเมียซึ่งในตอนนั้นน้องก็ยังเล็กมากๆจนเขาไปรับมาเลี้ยงและกลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดียวไปโดยปริยาย และเขาก็ไม่ได้ออกไปไหนเลยเพราะน้องร้องทั้งคืน จนกระทั่งนางอายุได้ 1 ปีซึ่งเขาก็มีเหตุผลที่ไม่สามารถจะเลี้ยงน้องต่อไปได้จึงได้ทำการยกให้แฟนเก่าเอาไปด้วยเพราะแฟนของเขาก็มีแมวเปอร์เซียอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเมียเหมือนกัน และเวลาก็ผ่านร่วงเลยมาจนกระทั่ง 4-5 เดือนก็ได้ทราบข่าวว่า ไอ้เปาไปทำเขาท้อง ซึ่งเขาเองก็ตกใจมากเพราะในตอนแรกน้องเป็นแมวตัวเมียแน่ๆ เพราะเขานั้นเลี้ยงมาเองกับมือแถมน้องก็ยังไม่มีไข่อีกด้วยในช่วงเวลา 1...

อาจจะด้วยปัญหาในการเลี้ยงแมวของคู่รักนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ยั่งยืนเพราะหากวันนึงถ้าเราตัดสินใจนำเขามาเลี้ยงแต่ทว่ากลับเลิกกับแฟนไป จะต้องมีคนใดคนนึงเลี้ยงน้องต่อและอาจจะเกิดปัญหาไม่อยากที่จะเลี้ยงในอนาคตเพราะเป็นแมวที่เคยเลี้ยงร่วมกับแฟนเก่า เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sadia Nicky Khan ได้มาโพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวทั้ง 6 ตัวที่ถูกนำจับใส่ตระกร้ามาปล่อยเอาไว้ให้ตากแดดร้อนเปรี้ยงอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน แถมยังต้องทนอยู่ในสภาพที่แออัดกันในกรงแบบไร้เยื่อใย ซึ่งทั้งนี้ทางผู้โพสต์นั้นได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเอาไว้ว่า จิตใจทำด้วยอะไรเอาแมว 6 ตัวท้องแก่ 2 ตัวไว้หน้าบ้านตากแดดร้อนๆอัดแมวไว้ในกรงด้วยกันทั้งหมด 6 ตัว แล้วดูกรงดิ ซึ่งได้ทราบภายหลังว่าแมวทั้งหมดนั้นเป็นแมวที่เธอนั้นเคยเลี้ยงร่วมกับแฟนเก่ามาก่อน และเมื่อได้เลิกกันแล้วแฟนเก่าก็ได้หอบเอาแมวทั้งหมดไปเลี้ยงร่วมปี แต่ถึงวันนี้คิดไม่อยากจะเลี้ยงก็เอากลับมาปล่อยเอาไว้แบบไร้เยื่อใยแถมยังไม่สนใจด้วยว่าน้องๆต้องทนตากแดดขนาดไหน ซึ่งทั้งนี้ทางผู้โพสต์เองก็ไม่สามารถจะเลี้ยงน้องๆต่อได้ก็เลยอยากที่จะหาบ้านให้กับน้องๆ ซึ่งสภาพของน้องๆแต่ละตัวก็น่าสงสารมากทั้งหอบทั้งหิวน้ำ และก็ไม่รู้ว่าถูกนำมาไว้ที่หน้าหมู่บ้านนานมากเพียงใดแล้ว โดยทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนอยากจะได้น้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ น้องอยู่ที่พัทยาหรือลองสอบถามเรื่องราวเพิ่มเติมที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sadia...

ในทุกๆครั้งที่เรามักจะย้ำเตือนบอกกับเพื่อนๆว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นควรที่จะเลือกเลี้ยงในระบบปิด เพราะด้วยอันตรายจากโลกภายนอกนั้นมันมากมายกว่าที่พวกเราคิด ซึ่งถ้าวันนึงเราเลี้ยงพวกเขาแล้วถ้าพวกเขาหลุดออกไปเราไม่รู้เลยว่าเราจะได้พวกเขากลับคืนมาหรือไม่ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mee Rassamee ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวอุทาหรณ์ของตัวเองทั้งน้ำตา หลังจากที่เขานั้นได้กลับจากการทำงานเมื่อวานตอนเย็นซึ่งเธอก็ได้เปิดประตูหลังห้องเอาไว้เพื่อให้เจ้าเหมียวขุนช้าง ได้ออกไปนั่งดูนก โดยปกติแล้วเธอก็จะทำแบบนี้อยู่เป็นประจำ แต่ทว่าด้วยความชะล่าใจในวันนั้นเธอกลับไม่ได้ใส่เชือกจูงให้น้องและไม่ได้นั่งเฝ้าเพราะเป็นริมระเบียง ซึ่งเมื่อเธอรู้ตัวอีกทีคือเดินไปดูแล้วตัวขุนช้างก็ออกไปนอกระเบียงแล้ว ด้วยความตกใจทั้งคนและแมวเจ้าขุนช้างนั้นตกลงไปข้างล่างจากชั้น 4 ซึ่งที่ตกลงไปก็เป็นป่ารกร้างข้างหลังหออีกที โดยเธอเองก็พยายามที่จะตามหาน้องอยู่นานร่วม 2 ชั่วโมงแต่ก็ต้องหยุดเพราะบริเวณดังกล่าวนั้นมีงูอยู่เป็นจำนวนมาก พี่ข้างๆห้องบอกให้หยุดเพราะมันอันตราย ซึ่งตัวเธอเองก็เริ่มที่จะใจไม่ได้และคิดว่าวันนี้คงจะนอนไม่หลับแน่ๆแฟนเธอจึงได้บอกกับเธอว่าเดี๋ยวเขานั้นจะเป็นคนเฝ้าเองโดยเอาข้าวและกะบะทรายมาวางล่อเอาไว้จนถึงเที่ยงคืน ซึ่งพี่ข้างห้องก็ได้บอกว่าให้ไปนอนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาช่วยหากันต่อและจะให้กู้ภัยมาช่วยตามหาอีกแรง ซึ่งเธอคิดในใจว่าเคยเห็นเรื่องราวว่าถ้าแมวหายให้ไปบอกแมวจรแถวนั้นให้ช่วยตามหา โดยจังหวะนั้นแฟนเธอก็เจอเจ้าขาวแมวจรที่ชอบนอนอยู่ใต้หอจึงได้บอกกับเจ้าขาวไว้ว่าให้ช่วยตามหาขุนช้างที โดยเสร็จหลังจากนั้นเธอก็ต่างพากันขึ้นนอน จนเมื่อเวลา ตี 3 พี่ยามที่เฝ้าอยู่ใต้หอก็ขึ้นมาเคาะประตูห้องและได้บอกกับเธอว่าเจอเจ้าขุนช้างแล้ว ไอ้ขาวเฝ้าอยู่...

หากการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นทำให้เกิดภาระ เราจึงมักจะพูดบอกกันคนที่คิดจะเลี้ยงเสมอว่าการนำสัตว์มาเลี้ยงนั้นก็เท่ากับเราเอาเด็กตัวน้อยๆที่มีอายุเพียงแค่สองขวบมาเลี้ยง ซึ่งเมื่อเราเอาพวกเขามาเลี้ยงแล้วพวกเขาก็จะคิดว่าเรานั้นเปรียบเสมือนผู้เป็นพ่อเป็นแม่ที่จะต้องคอยดูแลพวกเขาตลอดไป เพราะมิเช่นนั้นปัญหาการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงก็จะเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า อำพล เฟซใหม่ ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้มาโพสต์ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่พบน้องเดินร้องด้วยเสียงออดอ้อนตามหาเจ้าของเพียงลำพัง ซึ่งน้องก็ตามืดบอดสนิทไปหนึ่งข้างแต่ก็ยังเฝ้าคอยผู้เป็นเจ้าของกลับมารับที่หน้าบ้านอยู่ทุกวันทุกคืน ซึ่งในแต่ละคืนน้องก็จะเดินร้องเรียกหาผู้เป็นเจ้าของ และเมื่อมีคนใหม่ที่มาดูบ้านซึ่งเป็นบ้านเช่าน้องก็จะกลัวและวิ่งหนีหายไป แต่เมื่อผู้คนไปแล้วน้องก็จะกลับมารอที่เดิม อาจจะด้วยความหวังว่าเดี๋ยวเจ้าของจะกลับมารับแล้วไม่เจอหนู จึงกลับมาเฝ้ารอผู้เป็นเจ้าของต่อ ซึ่งทางผู้โพสต์นั้นได้กล่าวเอาไว้ด้วยว่า เฮ้ออมนุษย์ทำไมใจร้ายเหลือเกินช่วงเวลาสถานการณ์แบบนี้คุณยังเลือกที่จะปล่อยเขา 1 ชีวิตได้ลงคอ เพียงเพราะตาบอด 1 ข้างใช่ไหมเขาเลยหมดความหมาย ซึ่งทั้งนี้ทางผู้โพสต์เองจึงได้รับน้องมาเลี้ยงและดูแลเอาไว้เพียงแค่ชั่วคราวเพราะทางผู้โพสต์นั้นเลี้ยงหมาและไม่สามารถจะดูแลน้องตลอดไปได้ จึงอยากฝากเพื่อนๆคนไหนที่สนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปยังผู้โพสต์ได้ และเบื้องต้นคาดว่าน้องน่าจะเป็นแมวพันธุ์และที่ถูกปล่อยไม่ยอมเอาไปด้วยเนื่องมาจากสาเหตุที่ตานั้นมองเห็นเพียงแค่ข้างเดียว ขอขอบคุณข้อมูลจาก อำพล เฟซใหม่ 

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎Ploy Jung‎  ได้เผยเรื่องราวจากอดีตที่เธอนั้นไม่เคยคิดที่จะจับแมว ไม่เคยเลี้ยงไม่เคยคิดจะไปยุ่งอะไรกับแมวมาก่อน แต่เมื่อเธอได้สัมผัสแมวเป็นครั้งแรกเธอกลับตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น และวันที่เธอต้องเสียใจมากที่สุดก็มาถึงก็เพราะแมวที่เธอไม่เคยคิดจะจับมาก่อน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ชีวิตนี้ไม่เคยเล่นไม่เคยจับแมว ไม่ได้เกลียดแต่ไม่เล่นไม่ยุ่งกับแมว แต่จู่ๆ ก็มีแม่แมวมาคลอดลูกที่หน้าออฟฟิตจำนวน 4 ตัว มีคนช่วยน้องเอาตัวอื่นไปเลี้ยง แต่ตัวนี้น่ารักที่สุด แต่กลับไม่มีไครรับไปดูแลเลย ด้วยความสงสารเราเลยหาบ้านตามเฟสบุ๊ก มีคนจะรับน้องเยอะมากๆแต่พอหันไปเจอเวลาเขาเล่นเขานอนกอดแม่เขาก็อดสงสารไม่ได้ ตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มดูแลเขาตลอดมา 1-2 เดือน เราชอบอุ้มน้อง น้องตัวเล็กชอบมาเล่นด้วยนั่งทำงานด้วยที่โต๊ะ น้องน่ารักมากๆแม่เขาก็น่ารักไม่ดุแถมขี้อ่อน...