สัตว์โลก

เพราะในบางครั้งสิ่งต่างๆที่เรามองเห็นอาจจะต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะมนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มองเพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอกมากกว่าสิ่งที่อยู่ข้างในจิตใจเสมอ เหมือนคนที่แต่งตัวดีๆเดินมาดูสะอาดสะอ้านคุณก็คิดเสียแล้วว่าเค้านั้นเป็นคนดี แต่กลับกันถ้ามีคนแต่งตัวไม่ดีสภาพมอมแมมเดินมา คุณกลับบอกว่าอย่าเข้าไปใกล้เพียงเพราะภาพลักษณ์จากภายนอกแค่นั้นหรือ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังสาวรายหนึ่งได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่สิ่งที่ได้เห็นนั้นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด เพราะด้วยเจ้าเหมียวตัวในรูปนี้ทำหน้าทำตาเอียงเหมือนกับว่าน่ารัก ซึ่งหลายคนที่ได้เห็นก็ต่างเอ็นดูในความเอียงหัวของน้องแต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นน้องโดนรถมอเตอร์ไซต์ทับหัวมา จึงทำให้มีอาการทางระบบประสาท หัวของน้องจึงยังไม่สามารถที่จะตั้งตรงได้ตามปกติซึ่งถือเป็นความผิดปกติหลังประสบอุบัติเหตุมาให้น้องมีอาการดังกล่าว โดยทั้งนี้น้องเองก็ยังต้องทานยารักษาระบบประสาทอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานานแต่ก็ยังพอที่จะมีโอกาสหายได้ โดยน้องนั้นมีชื่อว่าเจ้าเหมียวโกโก้ ซึ่งถือว่าเป็นแมวที่มีสีสวยเหมือนกับโกโก้มาก ผู้โพสต์จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์บอกยังในกลุ่มเพื่อที่จะขอกำลังใจให้กับน้อง และก็อยากฝากผู้คนที่ได้ใช้รถใช้ถนนด้วยว่าไม่ควรที่จะขับรถเร็วจนเกินไปเพราะหากว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วนอกจากเพื่อนๆจะเจ็บตัวแล้ว สิ่งมีชีวิตเล็กๆพวกนี้เขาอาจจะต้องใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวดเพราะความประมาทของเพื่อนๆก็เป็นได้ อีกทั้งสิ่งที่เราเห็นอาจจะต้องแลกมากด้วยสิ่งต่างๆมากมาย ดังนั้นอย่าตัดสินทุกอย่างบนโลกเพียงเพราะการมองเห็นเพียงแค่ครั้งแรก ขอขอบคุณข้อมูลจาก ปณิตา ยอดเยี่ยม

เพราะอีกๆหลายชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้เลยต้องเกิดมาดิ้นรนต่อการเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน ยิ่งถ้าเป็นสัตว์จรที่ยังเด็กเล็กและดูแลตัวเองไม่ได้แล้วก็ยิ่งยากที่จะรอด เพราะการที่แม่ของพวกหนูท้องแต่เจ้าของกลับไม่ต้องการจึงนำมาปล่อยเอาไว้แบบไร้เยื่อใยจะเมตตา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า กิติ สุวรรณกาญจน์ ที่ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าเจ้าเหมียวตัวน้อยหลังจากที่เขานั้นบังเอิญไปพบน้องเข้าในระหว่างทาง ซึ่งน้องถูกเอามาปล่อยเอาไว้ที่ประตูระบายน้ำทั้ง 3 ตัวเป็นเพศเมียทั้งหมด ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ เพราะในตอนกลางคืนนั้นจะมีสุนัขออกมาหาอาหารในบริเวณดังกล่าว ซึ่งทางผู้โพสต์นั้นเป็นห่วงความปลอดภัยของน้องจึงอยากที่จะหาบ้านให้กับเด็กๆ อีกทั้งยังโชคดีที่ว่าผู้โพสต์นั้นมีอาหารติดมอเตอร์ไซค์มาจึงได้นำอาหารมาไว้ให้กับเด็กๆได้อิ่มท้องและรอดไปอีกมื้อ จึงอยากวอนให้เพื่อนๆช่วยกันหาบ้านหรือที่พักพิงให้หน่อย โดยได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ ถนนเพชรเกษม ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวผู้เผยแพร่ออกไปไม่นานก็ได้มีผู้คนมาขอรับเลี้ยงน้องทั้งสามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็อยากจะฝากกับเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากคิดจะนำลูกแมวมาปล่อยเอาไว้แบบนี้ก็อยากจะที่ให้หาหนทางประกาศหาบ้านให้กับเด็กๆจะดีกว่า เพราะอันตรายภายนอกนั้นเป็นภัยต่อแมวหรือสุนัขที่ยังเล็กมากกว่าที่พวกคุณคิด ไหนจะคนไหนจะสัตว์ด้วยกันยิ่งการเอาตัวรอดหรือการที่ต้องใช้ชีวิตของพวกเขานั้นไม่เคยใช้ก็ยิ่งอยากจะมีชีวิตรอดต่อไป ขอขอบคุณข้อมูลจาก กิติ สุวรรณกาญจน์

เราก็มักจะย้ำเตือนกับเพื่อนๆเสมอว่าการนำแมวหรือสุนัขหนึ่งตัวมาเลี้ยงนั้นสิ่งที่เพื่อนๆควรจะมีนั้นคือการเตรียมความพร้อมให้ดี เพราะสิ่งที่จะตามมาคือภาระที่เพื่อนๆจะต้องดูแลหนึ่งชีวิตตลอดไป มิเช่นนั้นปัญหาการถูกปล่อยปละละเลยก็จะตามมา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า วันสิริ แก้วอุส่าห์  ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้มาโพสต์ลงในกลุ่ม ทาสแมว Official หลังจากที่เธอนั้นได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพักดังกล่าว แต่แล้วกลับมีเจ้าเหมียวรายนี้มาร้องเรียกที่หน้าห้องตั้งแต่เมื่อคืน แถมยังส่งเสียงเรียกแบบไม่ยอมหยุดอยู่ทั้งคืนโดยผู้โพสต์นั้นได้บอกว่าเจ้าเหมียวก็ยังคงร้องอยู่แบบนั้นซึ่งตัวเธอเองก็ไม่ได้นอนเช่นเดียวกัน แต่จะอุ้มน้องเข้ามาก็กลัวว่าเจ้าของจะตามหาน้องแล้วหาไม่เจอ จนในที่สุดตอนเช้ามืดเธอทนไม่ไหวเลยอุ้มน้องเข้าห้องมา แล้วพอสายๆเธอก็ไปแจ้งกับทางนิติว่าถ้าเจอเจ้าของน้องเขามาตามหาน้องก็บอกให้ไปรับได้ที่ห้องเรา แต่ทว่าสุดท้ายนั้นเธอเองก็ได้รู้ความจริงที่ว่าน้องเป็นแมวที่ผู้เป็นเจ้าของนั้นย้ายออกไปแล้วไม่ยอมเอาน้องไปด้วย ซึ่งเธอเองก็บอกว่า (ยิ้มกว้าง) เสร็จเรา ปล.น้องน่ารักมากๆถ่ายฉี่เป็นที่เป็นทางเพราะน่าจะถูกฝึกและเลี้ยงมาดี โดยเธอเองก็ได้บอกว่าเธอจะไปซื้อทรายแมวมาให้กับน้องและคงจะต้องเลี้ยงดูกันต่อไปเพราะความน่ารักแท้ๆ ขอขอบคุณข้อมูลจาก วันสิริ แก้วอุส่าห์ 

เมื่อยามแก่เฒ่าจะมีใครเล่าเขาต้องการหากยิ่งอยู่นานก็ยิ่งจะเป็นภาระแก่คนอื่นๆ  เพราะเมื่อยามเด็กแม่ก็เลี้ยงอบรบสั่งสอนให้รักและเป็นคนดีพอเติบใหญ่ทำไมเจ้ากลับทิ้งให้แม่นั้นต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Princess PM ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวหลังจากที่เธอนั้นกำลังจะกลับบ้านในเวลาประมาณเที่ยงนิดๆ ซึ่งเธอก็ได้ขับรถผ่านคุณยายคนนี้ทำให้เธอนั้นทนไม่ไหวและต้องวนรถกลับไปแล้วเรียกให้ยายหยุดก่อน โดยเธอได้ลงมาเปิดท้ายรถและหยิบน้ำส้มและหยิบเงินมาให้ยาย ในสภาพอากาศที่ร้อนมากแต่พอเห็นยายแล้วก็สงสารจับใจ พอยายแกเห็นว่าเราเอาน้ำเอาเงินไปให้แกก็ร้องไห้และยกมือไหว้โดยให้ศีลให้พร แล้วแกก็ร้องไห้ ซึ่งเป็นภาพที่สุดจะบีบหัวใจของเธอเป็นอย่างมาก เพราะคุณยายนั้นต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวลำพังคนเดียวจะมีก็แต่เพื่อนสี่ขาที่คอยเดินตามไปไหนมาไหนในแต่ละวัน แกไม่มีแม้ครอบครัวไม่มีลูกไม่มีสามี อาศัยเดินเก็บขวดไปขายเพื่อที่จะประทังชีวิตในแต่ละวัน ซึ่งคุณยายนั้นก็ได้เบี้ยผู้สูงอายุเพียง 700 ต่อเดือน โดยตอนที่เธอให้เงินคุณยายไป 200 คุณยายก็ได้บอกว่าจะเอาไปซื้อข้าวสารกับปลากระป๋องเอาไว้กิน ซึ่งทั้งนี้เธอได้ระบุพิกัดที่คุณยายอยู่เอาไว้ด้วยที่ ยายแกอาศัยอยู่แถวธนาคารร้างตรงแถวโรงเรียนบ้านหนองเพรางาย ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยากจะติดตามเรื่องราวของคุณยายหรืออยากที่จะช่วยก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Princess...

เพราะด้วยความเชื่อตามหลักศาสนาของไทยเรานั้นมักจะเอ่ยถึงคำโบราณกาลที่กล่าวไว้ว่า อย่าเล่นหรือพูดอะไรที่มันเป็นลางสังหรณ์เพราะมิเช่นนั้นแล้วสิ่งต่างๆที่เรานั้นได้พูดหรือเล่นมันอาจจะเกิดขึ้นจริง ซึ่งมักจะเป็นสิ่งที่มนุษย์เรานั้นถูกปลูกฝั่งกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ทว่ามันก็อาจจะเกิดขึ้นจริงๆก็เป็นได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า P'minz Nc ได้โพสต์ทำเป็นเล่นๆนำตุ๊กตามาโพสต์ให้กับเพื่อนๆในกลุ่ม ชมรมแมวสายดาร์ก ให้ช่วยกันตั้งชื่อแบบขำๆซึ่งก็ได้สร้างความเฮฮาในกลุ่ม แต่ทว่าเมื่อเช้าวันรุ่งขึ้น ในขณะที่เขานั้นได้ไปซื้ออาหารให้แมวโดยปกติเขาก็ได้เห็นก้อนอะไรกลมๆดำๆอยู่ที่กลางถนนพอเข้าไปใกล้ ก็จึงได้รู้ว่าคือแมวจึงรีบที่จะเอากลับบ้านเพราะถ้าหากปล่อยเอาไว้คงแบนแต๊ดแต๋แน่นอน ซึ่งสิ่งแรกที่ถึงบ้านก็ได้โดนผู้เป็นแม่ของเจ้าของโพสต์สวดไป 1 ยก นั่นก็คือคำว่าเอาแมวมาอีกแล้ว นี่ตัวที่ 12 ของบ้านแล้วนะ จบการสวดไปแต่โดยดีก็ได้พาเจ้าเหมียวไปทำความรู้จักกับพี่ๆทั้งหมดในบ้าน แต่ทว่าน้องที่เป็นแมวเด็กและมีกลิ่นที่แปลกพี่ๆก็เลยไม่คุ้นชินและขู่น้องโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็มีกับพี่ไทเกอร์ตัวเดียวที่ไม่ขู่น้องและเอ็นดูน้อง ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็ได้เล่นว่าดูท่านางน่าจะเห็นใจน้องเพราะไทเกอร์นั้นก็เป็นแมวที่มาจากข้างถนนเหมือนกัน ซึ่งทั้งนี้ก็ทำให้ผู้เป็นทาสนั้นน้ำตาแทบไหลเพราะไทเกอร์เอ็นดูน้องเอามากๆ แถมยังชวนน้องแบ่งน้องกินข้าวอีกด้วย เป็นแมวแล้วก็ยังมีหัวใจที่มีเมตตาอีกไม่รู้ว่าทางผู้เป็นเจ้าของนั้นได้เลี้ยงมายังไงน่ารักมากๆเลย...

เพราะคนเรานั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้ทำให้บางชีวิตต้องเกิดมาพบเจอกับความยากลำบากและต้องทนดิ้นรนเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดไปในแต่ละวัน ยิ่งซ้ำถ้าต้องเกิดมาเป็นสัตว์จรยิ่งแล้วเพราะการที่จะไปร้องขอความช่วยเหลือจากใครเขาก็คงจะทำได้ยาก เพราะไม่มีเสียงเรียกร้องหรือไปบอกกับใครว่าตนนั้นกำลังเดือดร้อน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้แฟนเพจเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thai Love Animal ช่วยสัตว์ สุนัขและแมวจรจัด ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรรายนี้มาโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ หลังจากที่มีทางลูกเพจของเขานั้นส่งคำขอความช่วยเหลือ หลังจากที่พบน้องติดอยู่บนสะพานตั้งแต่เมื่อวาน จนมาในวันนี้น้องก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน แถมยังส่งเสียงร้องด้วยความหิวกลัวทั้งคงกลัวทั้งรถ ถ้าตกลงมาก็คงจะไม่รอด ซึ่งทั้งนี้ทางผู้โพสต์นั้นได้บอกเอาไว้ว่าเมื่อวานนั้นได้ยินแต่เสียงแต่หาตัวไม่เจอ วันนี้เห็นตัวน้องจึงได้ถ่ายภาพเอาไว้จากบนตึกและอยากจะให้มีคนเข้าช่วยเหลือ เพราะเขานั้นได้โทรไปแจ้งกับทาง 191 แล้วแต่ก็เรื่องก็เงียบหายสนิท ซึ่งทางผู้โพสต์เองจึงนำเรื่องมาร้องกับทางแฟนเพจดังกล่าวเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากทางแฟนเพจหรือมีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องที่พอจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือน้องได้ก็ขอให้ช่วยเหลือน้องที โดยได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ พิกัด ถนนอรุณอมรินทร์กรุงเทพฯ ซึ่งหากเพื่อนๆท่านไหนอยู่ในบริเวณดังกล่าวที่พอจะช่วยเหลือน้องได้ก็วอนให้ช่วยเหลือทีเพราะในตอนนี้ก็ติดสถานการเคอร์ฟิวส์ทำให้หน่วยงานต่างๆก็ไม่สามารถที่จะออกนอกพื้นที่ได้ในเวลาหลัง 4 ทุ่ม ล่าสุดอัพเดทเวลา 01.25...

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : N'Nuch Kps ได้เผยเรื่องราวของสุนัขที่เธอนั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเจ้าตูบตัวนี้มีนิสัยไม่เหมือนใครแม้ร่างกายจะใหญ่โต นางไม่เคยเห่า ไม่เคยงับ มีจิตใจดีรักสงบ และน้องมีชื่อว่ามะเขื่อจนแม่ตัดสินใจไปหาบ้านเช่าหลังหนึ่งที่เขาอนุญาตให้เลี้ยงแต่หมาพันธุ์เล็กๆ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เมื่อตอนเช้าไปดูห้องเช่าหลังหนึ่งว่าจะย้ายห้อง ไปถึงปุ๊บเขาเขียนกฎไว้หลายข้อเลย แต่ที่สะดุดเลยคือข้อแรกนั่นแหละ เขาห้ามนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยง เราก็รู้เลยว่าเราคงไม่ได้แล้วแหละ เพราะเรามีหมาตัวใหญ่ แต่ก็ลองๆถามเขาดูเผื่อเขาอนุโลมให้ เพราะด้วยความที่หมาเราเป็นหมาซื่อๆ หมาบื้อๆตัวนึง ไม่มีอะไรเลย มีแค่ตัวกับหูตั้ง หางก็ไม่มี ไม่งับ ไม่เห่า คือไม่เห่าเลยจริงๆ...

หากเรามีจิตใจที่เมตตาเราจะช่วยเหลือผู้อื่นโดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน หรือมันอาจจะเป็นสิ่งเล็กๆที่กวนใจของเราเมื่อเราเลือกที่จะเมินพวกเขา ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นแสดงว่าในหัวใจของเพื่อนๆมีความห่วงใยต่อเพื่อนมนุยษ์เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Jar Sticker ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้องซึ่งตัวเขาเองนั้นเป็นหน่วยกู้ภัยและได้รับการร้องเรียนมาจากทางเจ้าของร้านว่า มีแมวติดอยู่ในกล่องเหล็กติดอยู่แบบนั้นมา 3 วันแล้ว เขาจึงได้รีบนำทีมและรีบเข้าช่วยเหลือ ซึ่งทั้งนี้เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุจึงได้พบว่าน้องติดอยู่ในกล่องเหล็กและมีกำแพงกำบังอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าของคาเฟ่แห่งนี้เองก็ได้บอกกับทางหน่วยกู้ภัยเอาไว้ด้วยว่ากำแพงจะพังก็ไม่เป็นไรขอให้ได้ช่วยชีวิตน้อยออกมาก็พอ เพราะน้องต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้มา 3 วันซึ่งไร้แม้แต่น้ำหรืออาหารสักหยดตกถึงท้อง ซึ่งหลังจากที่เวลาผ่านไปทางหน่วยกู้ภัยก็ได้ทำการทุบกำแพงและตัดเหล็กกล่องที่ตัวน้องติดอยู่และไม่สามารถออกมาได้ จนในที่สุดก็ช่วยน้องออกมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งทางเจ้าของคาเฟ่แห่งนี้เองก็ได้ตัดสินใจที่จะรับอุปการะน้องเลี้ยงเอาไว้ด้วยตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของร้านที่มีความใจบุญเป็นอย่างมาก โดยทั้งนี้ทางผู้โพสต์นั้นก็ขออนุโมทนาบุญกับทางเจ้าของร้านเอาไว้ด้วย และได้ระบุพิกัดร้านดังกล่าวเอาไว้ด้วยว่าร้านติดกับศูนย์มาสด้าเส้นมหิดลขาออกเมืองและหากเพื่อนๆท่านไหนผ่านก็อย่าลืมไปช่วยกันอุดหนุนกับร้านใจดีๆแบบนี้กันด้วยนะ โดยน้องก็ได้มีชื่อใหม่อีกด้วยว่าเจ้าบุญรอดซึ่งถือเป็นชื่อที่น่ารักสมกับชื่อเป็นอย่างมาก ขอขอบคุณข้อมูลจาก Jar Sticker

ในทุกครั้งที่เรามักจะพูดบอกกับเพื่อนๆเสมอว่า การนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงนั้นเท่ากับคุณจะต้องดูแลหนึ่งชีวิตตลอดไป เพราะหากเราเลี้ยงพวกเขาแล้วสิ่งหนึ่งที่สำคัญเมื่อวันนึงคุณเลือกที่จะปล่อยเค้าไป คือการที่พวกเขานั้นไม่สามารถหาอาหารกินเองได้ตามธรรมชาติ ยิ่งซ้ำถ้าเป็นแมวพันธุ์หรือแมวที่เคยมีเจ้าของหรือถูกเลี้ยงมาในระบบปิดแล้วยิ่งหนัก เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า นัทนรี เวชสุคนธ์ ที่ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวพันธุ์เปอร์เซียตัวนี้หลังจากที่เธอนั้นพบน้องเข้า ซึ่งน้องมาแอบคลอดลูกเอาไว้ในพงหญ้า ในปั้มแห่งหนึ่งซึ่งน้องคลอดลูกออกมา 2 ตัว และใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบากเพราะความกลัวซึ่งคาดว่าคงจะเป็นแมวที่เคยมีเจ้าของและถูกเลี้ยงมาเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาใช้ชีวิตเร่ร่อนแบบนี้ โดยแม่แมวเองก็ไร้หนทางจะปกป้องลูกตัวน้อยเพราะลูกก็เพิ่งจะคลอด ตัวแม่เองก็ยังไม่แข็งแรงดีเพราะจากอาการหลังคลอดลูกไหนจะไม่รู้วิธีหาอาหาร ซึ่งทางผู้โพสต์นั้นจึงอยากที่จะหาบ้านให้กับทั้ง 3 แม่ลูกจึงได้นำเรื่องราวนี้มาโพสต์ลงในกลุ่ม ทาสแมว V2  โดยได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่เอาไว้ที่ ราชวัตร สามเสน ใกล้สวนอัมพร ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับสามแม่ลูกไปเลี้ยงก็สามารถลองติดต่อสอบถามที่ทางต้นโพสต์ดูได้เลยนะคะ ขอเพียงให้รับทั้งครอบครัวเพราะน้องยังเด็กและหัวอกคนเป็นแม่ก็คงไม่อยากที่จะให้ใครมาพรากลูกไปจากอก...

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Jack Brown ได้เผยเรื่องราวของเจ้าสแต้มสุนัขที่เคยโชคร้ายเพราะมีเจ้าของที่มีจิตใจสุดแย่ แต่ถึงสแต้มจะถูกกระทำมามากมาย แต่สแต้มก็รักเจ้าของไม่มีเสื่อมคลาย แต่พอสแต้มได้บ้านหลังใหม่สแต้มก็หนีออกจากบ้านมาเพื่อวิ่งกลับไปหาเจ้าของเก่าแม้เจ้าของจะกระทำกับสแต้มมากมายเพียงใด . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า สแต้ม หมาน้อยผู้เชื่อมั่นในมนุษย์ สแต้มถูกเจ้าของเอาของแหลมทิ่ม ตา คนแถวนั้นก็พาน้องมาหาหมอ รักษาจนหายดีแล้วก็เอากลับไปเลี้ยงที่บ้านหลังใหม่ แต่สแต้มก็หนีกลับไปหาเจ้าของคนเก่า แล้วสักพักก็โดนเจ้าของกระทำมาอีกครั้ง ครั้งนี้สแต้มถูกเจ้าของตัด นิ้ว คนแถวบ้านคนเดิมก็พาไปหาหมออีกครั้ง พอรักษาหายกลับบ้านสแต้มก็หนีกลับไปหาเจ้าของคนเก่าอีก ครั้งนี้โดนเอาน้ำร้อนใส่ตัว เป็นผิวอย่างที่เห็นในภาพไปทั่งตัว คุณหมอรักษาหายแล้ว แต่ก็ไม่กล้าให้พากลับไปยังที่เดิม กลัวว่าครั้งหน้าสแต้มจะไม่รอดชีวิตกลับมาให้คุณหมอรักษาอีกแล้ว คุณหมอเลยติดต่อมาถามคุณแจ๊คว่าสะดวกจะเลี้ยงมั้ย...