ถูกเจ้าของเอามาปล่อย ได้แต่นอนขดตัวอยู่ริมถนน ตาก็มองไม่เห็นจะเดินไปทางไหนก็มีแต่ความมืดมิด
เพราะชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้หลายๆคนนั้นต้องเกิดมาพบเจอกับความยากลำบากต่างๆนาๆ ทำให้ชีวิตนั้นต้องสู้และดิ้นรนต่อสิ่งที่ต้องได้เจอ อีกทั้งการรับผิดชอบของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัวมากที่สุด เพราะเมื่อเวลาน่ารักก็มักจะอยากเลี้ยง แต่ถ้าวันนึงไม่สามารถที่จะดูแลตัวเองได้แล้วก็กลับนำไปปล่อยเอาไว้อย่างไร้เยื่อใย
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Warisara Uasajjatham ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้มาโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เธอนั้นพบน้องถูกนำเอามาปล่อยเอาไว้ให้ชีวิตอย่างลำพัง ทั้งๆที่ๆตาของน้องก็มืดบอดสนิททั้งสองข้าง
แต่ก็ยังไม่วายเอามาปล่อยเอาไว้ริมถนนโดยที่มีรถสัญจรผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเธอก็ได้ไปพบกับน้องเข้าและก็ปล่อยให้น้องอยู่เพียงลำพังไม่ได้เบื้องต้นจึงยืนเฝ้าน้องเอาไว้และนำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ โดยสาเหตุที่น้องถูกนำเอามาปล่อยก็คงจะเกิดจากภาระที่ต้องดูแลน้อง
เนื่องด้วยน้องยังเด็กและไม่สามารถที่จะมองเห็นหรือช่วยเหลือตัวเองได้เลย ทำให้น้องถูกนำมาปล่อยเอาไว้อย่างไร้เยื่อใย โดยทั้งนี้เธอเองก็อยู่คอนโดและไม่สามารถที่จะรับน้องเอาไว้ดูแลชั่วคราวไม่ได้ โดยเธอได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่ไว้ว่าที่ พิกัดบางนา ซอยลาซาล ข้างโรงพยาบาลศิครินทร์
ซึ่งในภายหลังจากที่เธอได้โพสต์ลงในกลุ่มนั้นก็ได้มีผู้คนใจดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและช่วยพาตัวน้องไปรักษาต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และผู้ที่รับน้องไปดูแลต่อก็ได้นำรูปน้องที่พาไปหาหมอมาโพสต์ลงในกลุ่มเพื่ออัพเดทแต่ก็ยังไม่ได้แจ้งอาการของน้องเบื้องต้นแต่อย่างใด ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากติดตามเรื่องราวของน้องเพิ่มเติมก็สามารถติดตามไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Warisara Uasajjatham
หนุ่มสั่งซื้อวิกสิงโตบนเว็บไซต์มาให้น้องหมา แต่สิ่งที่ได้มากลับทำหัวเราะจนน้ำตาแทบไหลเพราะดันไม่ตรงปก
ด้วยยุคสมัยที่คนเรานั้นหันมาสั่งซื้อของทางโลกออนไลน์มากกว่าชีวิตจริง ทำให้ในบางครั้งเราก็มักจะไม่ได้ของตามที่สั่งซื้อหรือไม่ตรงกับสินค้าในปก ซึ่งเรื่องราวนี้ก็มักจะเกิดขึ้นกับบุคคลโดยทั่วไปที่ชอบสั่งซื้อสิ่งค้าต่างๆตามเว็บไซต์ แต่ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่ไม่ใช่คนโดนไปด้วยอีกเหมือนกัน
หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tanom Singtotong ได้โพสต์การสั่งซื้อสินค้าจากทางเว็บไซต์แห่งหนึ่งลงในกลุ่มรักหมาจัง แต่เรื่องราวดังกล่าวกลับทำให้คนในกลุ่มสร้างความเฮฮาเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขานั้นได้สั่งซื้อวิกสิงโต ในเว็บขายของออนไลน์แห่งนี้แต่สิ่งที่เขาได้มานั้นทำเอาเจ้าตูบถึงกับซึมไปเลยทีเดียว
เพราะสิ่งที่คิดว่าคือวิกที่เมื่อสุนัขใส่แล้วจะกลายเป็นสิงโตแบบที่มีขนรอบๆคอ ซึ่งทำให้น้องๆสุนัขนั้นดูเท่ห์และน่ารักน่าชัง แต่แล้วเมื่อของได้มาถึงมือเจ้าตูบสิ่งที่ได้เหมือนกับวิกผมกลับเป็นแบบในภาพ งานนี้จากที่จะกลายเป็นสิงโตแล้วกลับกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์เคป๊อบไปเลยทีเดียว
ซึ่งเมื่อโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปแล้วก็ทำให้เพื่อนๆภายในกลุ่มเฮฮาเป็นอย่างมากอีกด้วยเพราะเมื่อเจ้าตูบได้ใส่วิกแล้วหน้าตาของเจ้าตูบก็เหมือนกับคนหรือนักร้องศิลปินเกาหลีขึ้นมาเลยในทีเดียว โดยทั้งนี้ก็อยากจะฝากเตือนกับเพื่อนๆเอาไว้ว่าการสั่งซื้อของออนไลน์นั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
กับการตรวจเช็คสินค้าก่อนที่จะเลือกซื้อเพื่อความแน่ใจลองเช็คประวัติผู้ขายหรือรีวิวสินค้ารายดังกล่าว เพราะไม่ใช่มีแค่ของมนุษย์เพียงเท่านั้นที่พลาดกันได้แม้แต่ของเจ้าตูบเอาก็ยังไม่วายโดนไปด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามจากสิงโตผู้น่าเกรงขามกลับเป็นสิงโตสไตล์เคป๊อปไปเลยในทันที ฮาๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tanom Singtotong
ถูกเอามาปล่อยไว้ที่วัด ตัวก็ยังเล็กจะไปวิ่งหนีใครเขาก็ทำไม่ได้ หมาแถวนี้ก็เยอะหากปล่อยเอาไว้น้องคงไม่รอด
เพราะยังมีอีกหลายๆชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ จึงทำให้หลายๆชีวิตนั้นต้องเกิดมาดิ้นรนต่อสิ่งที่ต้องพบเจอ โดยในบางครั้งโลกก็ช่างใจร้ายเพราะแม้แต่สิ่งมีชีวิตที่เป็นชีวิตเล็กๆที่เพิ่งจะเกิดมาลืมตาดูโลกก็กลับต้องมาถูกปล่อยเอาไว้ให้ใช้ชีวิตตามยถากรรมแบบไร้เยื่อใย เพราะมนุษย์ที่ไร้ความรับผิดชอบ
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Bongkotnit Song ที่ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยๆลงในโลกออนไลน์หลังจากที่พบน้องถูกมนุษย์ใจร้ายนำมาปล่อยเอาไว้ที่วัดให้อยู่กันเพียงลำพัง แถมน้องยังไม่ทันหย่านม ออกหาอาหารกินเองก็ไม่ได้ ซึ่งในวัดดังกล่าวนั้นก็มีหมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เธอเลยคิดเอาไว้ว่าถ้าปล่อยพวกน้องๆเอาไว้คงจะไม่พ้นสุนัขในวัดจึงเอาพวกน้องๆทั้ง 6 ตัวกลับมาบ้านก่อนแล้วค่อยว่ากันว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป โดยทั้งนี้เธอเองก็ได้บอกว่าที่บ้านตอนนี้วุ่นวายกันเจี๊ยวจ๊าวมาก เพราะเด็กๆกำลังซนและส่งเสียงร้อง แต่พี่ของเธอเองก็คงจะรับเลี้ยงน้องทั้งหมดไว้ไม่ไหวเพราะมีตั้ง 6 ตัว
ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยากที่จะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปยังต้นโพสต์ได้เลย ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นและพร้อมจะดูแลพวกเขาไปแบบตลอดชีวิตพวกเขาจะได้ไม่ต้องถูกนำมาปล่อยเอาไว้แบบนี้อีก แต่ทั้งนั้นก็อยากจะให้น้องๆโตกว่านี้หรือหย่านมก่อนเพราะการดูแลแมวเด็กเล็กนั้นต้องใช้เวลาและความเอาใจใส่เป็นอย่างมาก
จึงอยากจะฝากคนที่คิดว่าการเอาหมาหรือแมวไปปล่อยเอาไว้ตามวัดต่างๆ ที่คิดว่าสุนัขหรือแมวเหล่านั้นจะรอดพ้นเพราะอย่าได้ลืมว่าที่วัดเองก็มีหมาหรือแมวอยู่แล้วจำนวนนึงถ้าเกิดเป็นแมวเด็กๆแบบนี้ถ้าเอาไปปล่อยไว้แล้วไม่เจอคนโชคดีมาเจอเอาไว้พวกน้องๆเองก็คงไม่รอดพ้นจากสุนัขในวัดเป็นอย่างแน่นอน จึงอยากจะฝากเอาไว้ให้คิดกันนิดนึง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bongkotnit Song
อยากตัดใจจากแมวที่เลี้ยงไว้ ร้องไห้ทุกครั้งเมื่อรู้ถึงอนาคตเพราะต้องเลิกกับแฟนแล้วเราต้องจากกัน
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Narun Nee ได้เผยเรื่องราว หลังเธอนั้นได้รับน้องมาเลี้ยงร่วมกับแฟน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปเธอนั้นต้องเลิกกับแฟน แต่แฟนของเธอก็ไม่ยอมให้เธอเอาแมวไปเลี้ยง เธอจึงโพสต์ระบายลงในกลุ่มเพื่อหาวิธีตัดใจออกจากแมวให้ได้ เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งร้องไห้เมื่อรู้ว่าเราต้องจากกันไป
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ คือว่าเรามีแฟน แล้วเค้าเคยซื้อแมวมาเลี้ยงด้วยกัน เลี้ยงตั้งแต่น้องเล็กๆจนตอนนี้ได้10เดือนแล้วค่ะ แต่กำลังจะเลิกกันกับแฟนแล้ว เราจะกลับบ้านเรา เราร้องไห้ทุกครั้งที่ต้องคิดว่าอนาคตเราจะต้องคิดถึงแมวมากเพียงใด
เค้าต้องรอเราหน้าประตูทุกวันแน่ๆเลย เค้าจะสงสัยมั้ยว่าจู่ๆเราหายไปไหน เค้าจะรอเราแบบที่เค้าไม่รู้ไหมว่าเราจะไม่กลับมาหาอีกแล้ว ผูกพันมากจริงๆค่ะ ใครพอมีวิธีที่ทำให้เราตัดใจจากแมวได้บ้าวมั้ยคะ จนเรื่องราวนี้ถูกโพวต์ในกลุ่มชมรมทาสแมวสายดาร์ก
ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวให้คำลังใจ อยากจะให้ทาสสาวผู้โพสต์ลองคุยกับแฟนดูว่าขอเอาแมวมาเลี้ยงได้มั้ย เพราะยังทำใจไม่ได้ที่ต้องจากน้องไป...
มิติใหม่ของการขายหมูแดด หลังแฟนเพจเอารูปแมวเป็นโลโก้ถึงขั้นประกาศปิดรับออเดอร์เพราะหมูโตไม่ทัน
ในยุคที่เกิดโรคระบาดหนักทำให้หลายๆคนนั้นประสบปัญหาในเรื่องของหน้าที่การงานและการเงิน เพราะทางรัฐบาลนั้นได้ประกาศให้ประชาชนนั้นหยุดอยู่บ้านในช่วงโควิด - 19 ระบาดหนัก ซึ่งก็อาจจะทำให้ส่งผลกระทบไปถึงหลายๆอาชีพที่จะต้องหยุดพักเพื่อหยุดเชื้อเพื่อชาติ แต่ทว่าก็ไม่อาจจะทำอะไรกับการขายของของแฟนเพจนี้
หลังจากที่เจ้าของทาสแมวหัวใสได้เริ่มทำอาชีพใหม่เพื่อหารายได้ด้วยการขายหมูแดดเดียว แต่ความพีคนั้นอยู่ตรงที่ว่าเจ้าของแฟนเพจรายนี้เกิดเป็นทาสแมวขึ้นมาและนำรูปของเจ้าเหมียวสุดที่รักมาทำเป็นปก แถมยังตั้งชื่อแบรด์ของตัวเองอีกว่า "เนื้อหมูแดดเดียวตรา อีกเหมียวปีนตู้กับข้าว อร่อยจนต้องปีนตู้กับข้าว"
ซึ่งทั้งนี้เองแฟนเพจดังกล่าวนั้นได้เริ่มที่จะสร้างเพจนี้ขึ้นมาในวันที่ 18 เมษายน 2563 ซึ่งภายในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ทำให้มีผู้คนเข้ามากดไลค์แฟนเพจรายดังกล่าวมากถึง 7,280 คนและล่าสุดในตอนนี้ทางแฟนเพจเองก็ได้ออกมาปิดรับออเดอร์แล้วเพราะเนื่องด้วยจำนวนคนที่เข้ามาสั่งนั้นทำให้หมูของเขาโตไม่ทันเลยทีเดียว
เพราะในช่วงเวลาเพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ทำให้มีผู้คนมากมายเข้ามาสั่งซื้อก็เพราะโลโก้และคำหัวข้อในโปรไฟล์แบรนด์ของเขานั่นเอง ซึ่งทาสแมวทั้งหลายก็พากันกระหน่ำสั่งกันแบบไม่บันยะบันยังจนขายไม่ทันต้องให้เจ้าเหมียวมาช่วยเลี้ยงหมูกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็นับถือไอเดียหัวใสของทางเจ้าของแฟนเพจรายนี้เป็นอย่างมาก
ที่สามารถเอาเจ้าเหมียวมาช่วยขายแถมยังได้ยอดขายจนล้นมือ แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากเพื่อนๆคนไหนอยากจะลองชิมเนื้อหมูแดดเดียวของอีเหมียวปีนตู้กับข้าวก็ลองทักไปถามดูว่าเค้าจะเปิดขายให้อีกทีเมื่อไหร่ ซึ่งทั้งนี้เองก็อยากจะบอกและให้กำลังใจกับทุกคนว่าถึงช่วงนี้อาจจะประสบปัญหาเพราะถูกสั่งหยุดแต่ถ้าเรามีความคิดหรือไอเดียดีๆเชื่อว่าเราก็จะสามารถหาช่องทางหาเงินได้แบบเจ้าของแฟนเพจรายนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เนื้อหมูแดดเดียว ตรา...
แมวตัวน้อยที่ไม่มีใครต้องการ
เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่เกิดมาไร้คนต้องการ แม้แต่จะเหลียวแลหรือให้ความช่วยเหลือ ซึ่งถ้าเกิดวันนี้เพื่อนๆเกิดท้อแท้อยากให้เพื่อนๆลองนึกถึงอีกหลายๆชีวิตที่ต้องเกิดมาดิ้นรนต่อสู้ทั้งๆที่เพิ่งจะลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่วัน เพียงเพราะไม่น่ารักอย่างใครเขาหรือไร้ผู้คนต้องการเพราะเกิดมามีร่างกายที่อ่อนแอ
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Piiz A GGiiz ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยรายนี้ หลังจากที่น้องนั้นถูกแม่แมวปล่อยเอาไว้เพราะน้องนั้นไม่แข็งแรงเหมือนกับพี่ๆ แถมไม่วายยังโดนผู้คนไม่ชอบเพราะเนื้อตัวที่มอมแมมสภาพไม่น่ารักเหมือนแมวทั่วๆไป
ซึ่งผู้โพสต์นั้นก็ได้พบน้องเข้าที่ตกอยู่ในสภาพที่ผอมโซ เดินไร้แม้แต่เรี่ยวแรงแต่ก็ไม่มีใครจะคิดแยแซกับชีวิตน้อยๆตัวนี้ โดยทางผู้โพสต์นั้นก็อดใจไม่ไหวที่จะเข้าช่วยเหลือเพราะสงสารจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์บอกเล่ายังในโลกออนไลน์เพื่อที่จะหาบ้านให้กับน้อง แต่ทว่าความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่
เพราะในที่สุดผู้โพสต์เองก็อดทนไม่ไหวรับเลี้ยงน้องเองด้วยความที่น้องขี้อ่อนและสงสาร ซึ่งในตอนแรกนั้นผู้โพสต์เองก็ได้บอกเอาไว้ด้วยว่าอยากที่จะรับเลี้ยงน้องแต่ตัวของผู้โพสต์ก็ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนแถมยังกลัวแมวอีกด้วย อีกทั้งยังกลัวแม่ของเธอเองจะว่าเอา แต่ในที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความออดอ้อนและความน่ารักของน้องนี่เอง
โดยทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนเจอแมวจรหรือแมวตัวน้อยๆก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ว่า ให้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือชีวิตน้อยๆเหล่านี้เพราะถ้าเกิดว่าเป็นคนอย่างเราๆ เรายังสามารถที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ แต่ทว่าถ้าเกิดเป็นแมวหรือสัตว์อื่นๆนั้นพวกเขาไม่สามารถที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นๆได้เหมือนกับเรา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Piiz A GGiiz
เดินมาขอซื้ออาหารหน้าเซเว่น แต่ดันเลยเวลาขายเพราะติดเคอร์ฟิว ได้แต่ทำหน้าหงอยพร้อมเดินคอตกเพราะมาผิดเวลา
หลายๆคนก็มักจะเข้าใจว่าแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยจะสนใจโลก หรือไม่ค่อยจะรู้ประสีประสาใดๆ ซึ่งในความจริงแล้วถ้าคนที่เลี้ยงแมวหรือเคยได้สัมผัสแมวจริงๆก็จะเข้าใจว่าแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดและแสนรู้ไม่ได้ต่างอะไรจากหมาเลย แต่ทว่าเพราะพวกเขานั้นชอบคิดว่าเป็นเจ้านายของเราจึงมักจะไม่ค่อยแสดงออกมากเท่าไหร่
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ไอ หมูอ้วน ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ลงในกลุ่ม ทาสแมวหลังจากที่เขานั้นได้พบน้องมาขอซื้ออาหารในกลางดึกที่เซเว่น แห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าเหมียวนั้นก็เดินมาด้วยสายตาละห้อยเมื่อได้รู้ว่าเซเว่น นั้นปิดทำการเพราะเป็นเวลาเคอร์ฟิวแล้ว
โดยพนักงานเซเว่น ก็ได้บอกเจ้าเหมียวว่า น้องเหมียวค้าบร้านปิดแล้วนะค้าบ ขายให้ไม่ได้แล้วค้าบ ซึ่งเมื่อเจ้าเหมียวนั้นได้ยินแบบนั้นก็กลับหันหลังและทำคอตกเพราะอดกิน จากด้วยที่มาทำสายตาที่บ้องแบ๊วกลับต้องเดินจากไปแบบผิดหวังจนคอตกเพราะเซเว่น เค้ามีเวลาทำการใหม่
โดยทั้งนี้หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้เพื่อนๆในกลุ่มทาสแมว มาแสดงความคิดเห็นว่าสงสารและเป็นห่วงน้อง ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็ได้มาโพสต์อัพเดทเพิ่มเติมด้วยว่า น้องได้กินไปแล้วซึ่งน้องก็มักจะมาขอกินแบบนี้อยู่เป็นประจำในทุกวัน แถมน้องยังมีบ้านและเจ้าของเป็นของตัวเองอีกด้วย
ซึ่งด้วยทั้งนี้น้องนั้นชอบแอบหนีออกมาเที่ยวในตอนกลางคืนอยู่เป็นประจำ แต่ทว่าในตอนนี้คงจะลืมไปว่าเซเว่น นั้นปิดเคอร์ฟิวให้ขายได้ไม่เกินเวลา 4...
วิ่งหน้าตาตื่นหนีภัยอันตรายเข้ามาหลบในบ้าน มาหาที่พึ่งพักพิงหลังถูกเอามาปล่อยแบบไร้เยื่อใย
เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นเท่ากับการเพิ่มภาระเราจึงมักจะบอกกับเพื่อนๆเสมอว่าให้เพื่อนๆนั้นเตรียมพร้อมกับสิ่งที่จะตามมา เพราะถ้าเกิดเราไม่มีความเตรียมพร้อมปัญหาการปล่อยปละละเลยของสัตว์เลี้ยงก็จะเพิ่มมากขึ้นและปัญหาของการที่สัตว์ทีลูกโดยที่ไม่มีคนดูแลหรือไม่เป็นที่ต้องการก็จะตามมามากยิ่งขึ้นไป
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ปิยธิดา ชื่นแดง ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่วันนั้นเป็นเวลากว่า 3 ทุ่มแล้ว เจ้าตัวน้อยก็วิ่งมาจากไหนไม่รู้วิ่งเข้ามาแอบภายในบ้านคงจะถูกสุนัขไล่มา น้องน่าสงสารมากๆวิ่งมาหาที่พึ่งที่พักพิงให้แอบจากสุนัขให้หลุดพ้น
ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกคนใจร้ายเอามาปล่อยเอาไว้แบบไร้เยื่อใย และในระแวกที่เธอนั้นได้อาศัยอยู่ก็มีสุนัขจรเยอะจึงทำให้น้องต้องเอาตัวรอดด้วยการหลบหนี แต่คนทำหรือคนเอามาปล่อยก็ช่างใจร้ายมากเหลือเกินทำไมถึงไม่คิดบ้างว่าชีวิตน้อยๆแบบนี้จะมีชีวิตรอดอยู่ไปได้อีกกี่วัน
โดยทั้งนี้เธอเองกับแฟนก็ตัดสินใจที่จะรับน้องมาเลี้ยงเอาไว้เพราะตัวเธอเองก็ชอบแมวมากอยู่แล้ว แถมที่บ้านก็มีอยู่แล้ว 4 ตัวกำลังตั้งท้องอีกก็คงจะเป็นครอบครัวใหญ่เลยทีเดียว โดยพ่อเลยตั้งชื่อให้น้องว่า เจ้าชิฟฟ่อน และน้องจะได้ไม่ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป
และเราก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าในตอนนั้นน้องวิ่งหนีไม่ทันหรือถ้าเกิดบ้านหลังนี้ปิดแล้วน้องไม่สามารถจะหนีได้ อะไรจะเกิดขึ้นกับน้องจึงอยากจะบอกกับเพื่อนๆถูกคนไว้ว่าถ้าคิดจะเอาน้องแมวหรือน้องหมาไปปล่อยอยากจะให้ลองหาวิธีที่ดีกว่านั่นคือการโพสต์หาบ้านให้กับตัวน้อยๆเหล่านี้ พวกเขาจะได้ไม่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดเหมือนกับเจ้าเหมียวน้อยที่น่าสงสารตัวนี้อีก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ปิยธิดา ชื่นแดง
กอดกันไม่ห่างหลังถูกนำมาปล่อยเอาไว้ ต้องใช้ชีวิตเป็นแมวจรระหกระเหินเดินขอเศษอาหารตามบ้านประทังชีวิต
เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่เลือกที่จะเกิดมาไม่ได้จึงต้องดิ้นรนสู้ชีวิต เพราะการเกิดมาไร้ผู้คนต้องการจึงถูกเอามาปล่อยให้ชีวิตเป็นแมวจร ซึ่งหากในวันนี้เราท้อหรือเหนื่อยกับชีวิตแล้วอยากให้ลองมองว่าอีกหลายชีวิตเล็กๆนั้นก็ต้องดิ้นรนสู้ชีวิตและเหนื่อยมากกว่าเรา
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tatung Tar ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสองตัวนี้หลังจากที่น้องนั้นถูกนำมาปล่อยเอาไว้และต้องใช้ชีวิตเป็นแมวจรเพราะไม่มีใครเขาต้องการ แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันไม่ห่างซึ่งทางผู้โพสต์นั้นได้ บอกว่าพวกเขานั้นเป็นพี่น้องกัน
และวันนั้นพวกเขาก็มาขอข้าวกินที่บ้าน มาพร้อมกันทั้งคู่โดยสภาพที่ผอมโซเพราะไม่มีใครแถวนั้นเมตตาที่จะให้อาหาร ซึ่งตอนนั้นเองเธอก็ตัดสินใจจะให้อาหารกับน้องๆและรับน้องๆเลี้ยงไว้ในที่สุด โดยทั้งคู่ก็ได้เติบโตภายในบ้านหลังนี้และสิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดก็คือ
พวกเขาทั้งคู่ก็ยังได้ใช้ชีวิตร่วมกันและรักกันไม่ห่าง โดยในทุกๆวันพวกเขาก็จะนอนกอดกันอยู่แบบนี้เสมอ ด้วยความรักของพี่และตัวน้องที่แทบจะไม่เคยทะเลาะกันเลยอีกทั้งเจ้าของโพสต์ก็ยังได้บอกอีกว่าพวกเขาเป็นแมวที่น่ารักและนิสัยดีสุดๆไม่เคยแม้แต่จะขู่หรือกางเล็บใส่เธอเลยแม้แต่น้อย
อาจจะเพราะด้วยชีวิตที่พวกเขานั้นได้ผ่านช่วงที่ยากลำบากมากที่สุดมาแล้วจึงทำให้พวกเขานั้นรู้และเข้าใจมากกว่าแมวทั่วๆไป ซึ่งหากเพื่อนๆได้เลี้ยงแมวจรเองแล้วก็คงจะเข้าใจดีว่าพวกเขานั้นพูดรู้เรื่องมากกว่าแมวทั่วๆไปที่ไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาเลยสักครั้ง ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์นั้นยังได้บอกไว้อีกด้วยว่า พี่น้องคู่นี้มีชื่อว่า น้องหยินและพี่หยาง ถือเป็นชื่อที่เหมาะสมและน่ารักมากๆเลยใช่มั้ยละ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tatung Tar
หมาของพ่อตั้งแต่สมัยยุค90 ดันหน้าคล้ายกับหมาตัวปัจจุบันเหมือนกับน้องขอกลับชาติมาเกิด
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Jeab Pimmalin ได้เผยเรื่องราวของน้องหมาที่เธอนั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเจ้าตูบตัวนี้มีชื่อว่าชายจิ เจ้าชายดิดันไปหน้าคลายกับหมาของพ่อเมื่อสมัยปี 90 หรือเมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา แถมน้องหมาทั้งสองยังรักเจ้าของอย่างคุณพ่อของเธออย่างสุดหัวใจ
.
ด้วยรูปร่างหน้าตาและรักเจ้าของอย่างคุณพ่อของเธอมากแม้วันเวลาจะผ่านมา 30กว่าปีแล้วก็ตาม ในรูปดังกล่าวน้องหมาตัวนี้มีชื่อว่าพี่ปุ๊กกี้ ถูกถ่ายไว้นานจากกล้องฟิลม์ยุค90 ด้วยเค้าโครงหน้าที่เหมือนกับก๊อปแล้ววางทำให้ผู้เป็นเจ้าของปักใจเชื่อว่าเป็นพี่ปุ๊กกี้ที่กลับชาติมาเกิดเป็นชายจิ
โดยพี่ปุ๊กกี้นั้นเป็นน้องหมาตั้งแต่สมัยที่คุณพ่อของเธอเป็นวัยรุ่นเลยทีเดียว 30 ปีผ่านไปก็ได้หมาหน้าตาเหมือนกับพี่ปุ๊กกี้มาเลี้ยง ด้านชาวเน็ตได้กล่าวว่าเหมือนกันอย่างกับแกะเลย หน้าตาของชายจิกับพี่ปุ๊กกี้เหมือนกันมาก
บ้างก็บอกว่าสิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้ไม่ใช่ว่าจะเป็นจริงไม่ได้ หลายคนมีความเชื่ออย่างงั้นว่าสัตว์เลี้ยงของเราเมื่อเกิดความรักความผูกพัน พวกเขาก็อาจขอกับใครสักคนขอมาเกิดมาเป็นเพื่อนคู่คิดอีกสักชาติภพนึงก็เป็นได้ แต่เรื่องนี้ถือเป็นความเชื่อน้า โปรดใช้วิจารณญาณในการชมกันด้วยจ้า
ที่มา...