จิตใจทำด้วยอะไร เอาก้อนหินมาโยนใส่แล้วตะโกนว่าไอ้แมวผี เจ้าของจึงตอกกลับปกป้องแมวสุดชีวิต
เพราะชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้ ทำให้หลายๆชีวิตนั้นต้องเกิดมาพบเจอแต่สิ่งที่ต้องดิ้นรนให้รอดพ้นในแต่ละวัน ซึ่งในบางคนนั้นถึงกับต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อที่จะให้ชีวิตนั้นอยู่รอด แต่ทว่าก็ไม่ได้มีเพียงมนุษย์เราเท่านั้นที่ไม่สามารถที่จะเลือกเกิดมาได้แม้แต่แมวเองก็เช่นกัน
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า จันตรา ดีงาม ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดที่รักมาโพสต์เล่าลงในกลุ่ม ชมรมแมวสายดาร์ก หลังจากที่เธอนั้นปล่อยให้เจ้าเหมียวไปนอนเล่นที่หน้าบ้านแต่กลับถูกเพื่อนบ้านเอาหินปาใส่น้องพร้อมกับไล่ว่าไอ้แมวผี
ซึ่งทั้งนี้น้องก็ไม่ได้ทำผิดอะไรน้องแค่เดินเล่นอยู่ดีๆ แต่กลับถูกเพื่อนบ้านที่มีจิตใจไม่ดีทำเอาได้ลงและด้วยเธอก็ได้เห็นเหตุการณ์เข้าพอดีจึงได้เดินเข้าไปอุ้มน้องและต่อว่าไปหนึ่งทีบอกจะตบมั้ยจะได้จบ แต่ทางเพื่อนบ้านกลับเงียบสนิทซึ่งน่าจะรู้ตัวว่าคงทำผิดแต่ก็ไม่ควรที่จะมาทำกับแมวแบบนี้
เพราะด้วยแมวก็มีชีวิตจิตใจไม่ต่างกับคนอย่างเราๆพวกเขานั้นไม่สามารถที่จะเลือกเกิดมาได้ว่าจะมีสีอะไร หรืออยากที่จะเกิดมาเป็นแมว จึงอยากให้หลายๆคนคิดถึงหัวอกเขาหัวอกเราถ้าลองเปลี่ยนหรือกลับความคิดกับเราอาจจะได้มองในหลายๆมุมมากขึ้นว่าไม่มีใครอยากที่จะเกิดมาเป็นแบบนี้หรอก
ซึ่งทั้งนี้ทางเพื่อนๆในกลุ่มเองก็เป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้าเหมียวเพราะเนื่องด้วยแมวนั้นเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถจะไปตอบโต้กับมนุษย์ได้ เกิดหากวันดีคืนดีเพื่อนบ้านคิดร้ายก็กลัวและเป็นห่วงน้องว่าจะได้รับอันตรายจึงไม่อยากจะให้ผู้โพสต์นั้นไปตอบโต้อะไรมากนัก และด้วยไม่ว่าจะสีใดๆก็ตามพวกเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรารักมากๆ เท่านั้นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก จันตรา ดีงาม
ออกมายอมรับผิดแล้ว ไลฟ์สดเปิดหน้าขอโทษสังคมส่วนน้องชายที่กดน้ำแค่เล่นๆกันแค่จะบอกว่าที่กินน้ำ
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ที่มีสาวประเภทสองท่านหนึ่งได้กระทำกับน้องหมาพิทบูลที่เขานั้นได้เลี้ยงเอาไว้ จนคลิปดังกล่าวโด่งดังในโลกออนไลน์ และกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจิตใจทำด้วยอะไร จนเธอนั้นได้ไลฟ์สดบอกเล่าเรื่องราวว่าทำไมถึงทำกับน้องได้ลง
.
คุณฟิล์ม Thunyarat Chitpraphachin ได้โทรไปหาสาวรายดังกล่าวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเราจะสรุปให้ฟังว่า หนูยอมรับผิดหนูยอมรับหนูทำเกินกว่าเหตุ ยอมรับคุมอารมณ์ไม่อยู่อยากขอโทษสังคม สัญญาจะไม่ทำอีก ปกติเลี้ยงน้องนมเย็นเหมือนกับลูกนอนด้วยกันบนเตียงนอนห้องแอร์ด้วยกัน หนูรู้สึกผิดจริงๆและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำแบบนี้กับน้องมาก่อนในชีวิต ยอมรับว่าคิดน้อยมาก
ส่วนคลิปที่ออกมาเพื่อนเป็นคนถ่ายไว้ เพื่อนไม่คิดอะไร ส่วนตอนที่ทำกับน้องเราก็ไม่คิดว่าเพื่อนกำลังถ่ายคลิปเราอยู่ เหตุการณ์มันไวมากส่วนในคลิปมันอาจดูแรงแต่หลังจากถ่ายคลิปเสร็จเราจะเข้าไปโอ๋น้องเข้าไปขอโทษน้อง และพาน้องเข้าบ้านเหมือนเดิม พูดไปก็เหมือนการแก้ตัวแต่หนูยอมรับผิดจริงๆ ส่วนน้องชายคนที่กดน้ำก็คิดน้อยจนเกินไปขอรับผิดทุกอย่าง ไม่ได้มีเจตนาแบบที่เห็นในคลิป ที่กดน้ำน้องนมเย็นแค่จะเล่นๆแค่จะบอกว่านี่คือที่กินน้ำ ไม่ได้โมโหจนฟิวส์ขาด
ยอมรับใจสลายที่จะต้องเสียน้องไปเพราะเลี้ยงดูน้องตั้งแต่น้องยังเล็ก...
ยังคงเฝ้าวนเวียนไม่ห่างหลังพลัดตกรถ ร้องเสียงแหบแห้งเข้าหาคน ด้วยความหวังว่าเจ้าของจะกลับมารับ
เพราะด้วยสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตเล็กๆก็มีหัวใจไม่ต่างจากคนอย่างเราๆ เมื่อเอาพวกเขามาเลี้ยงก็มักจะเกิดความรักหรือความผูกพันเพราะด้วยพวกเขานั้นก็เหมือนกับเด็กและมนุษย์อย่างเราๆก็เปรียบเสมอกับผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ที่พวกเขาจะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้เรา
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Maewkuza "แมวกุซ่า" ได้นำเรื่องราวของน้องมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่ได้มีคนพบน้องอยู่ที่ปั้ม ปตท. ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะมีเจ้าของเพราะน้องนิสัยน่ารักและขี้อ้อนแถมยังชอบเข้าหาคนและมักจะส่งเสียงร้องเสียงแหบแห้ง
และคงจะคิดถึงบ้านมากๆ โดยทางแฟนเพจยังได้บอกอีกด้วยว่าได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากพี่ๆที่ทำงานแถวนั้นได้เล่าว่า น้องน่าจะพลัดตกจากรถเมื่อ 2 สัปดาห์ที่้แล้วแต่ก็ยังคงเฝ้ารอและไม่ยอมที่จะไปไหนเลย ยังคงเฝ้าวนเวียนรอผู้เป็นเจ้าของอยู่ที่เดิมแบบนี้ในทุกๆวัน
ซึ่งทางแฟนเพจดังกล่าวจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่จะตามหาผู้เป็นเจ้าของ และอยากให้ผู้เป็นเจ้าของรับรู้ว่าน้องยังคงเฝ้ารออยู่ และไม่ว่าท่านจะนำน้องมาปล่อยหรือน้องพลัดหลงก็อยากที่จะแจ้งจะได้ทำการช่วยเหลือน้องต่อไปว่าจะเอาอย่างไรต่อ
โดยทั้งนี้ก็อยากจะฝากไปถึงเพื่อนๆด้วยว่าใครอยู่พิกัด ปั้ม ปตท.แยกจอมเทียน แล้วรู้จักเจ้าเหมียวตัวนี้ก็อยากที่จะให้ช่วยมาบอกเล่าว่าใครเป็นผู้เป็นเจ้าของน้องหรือใครต้องการที่จะเข้าช่วยเหลือหรืออยากที่จะได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Maewkuza "แมวกุซ่า"
แอบหนีออกจากบ้าน ไปนอนกกนอนเฝ้าแมวคนอื่นบ้านช่องไม่ยอมกลับ พอตามกลับบ้านก็ทำหน้าเซ็งทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ
เพราะด้วยการเลี้ยงสัตว์ที่ยังเล็กๆนั้นก็เหมือนการที่เราได้นำเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยงเอาไว้ เพราะด้วยสมองของพวกเขาที่ยังไม่มีพัฒนาการหรือการเจริญเติบโตที่เต็มวัยทำให้พวกเขานั้นไม่ได้ต่างอะไรไปจากเด็กตัวน้อยๆ และแน่นอนว่าการเลี้ยงเด็กน้อยๆก็มักจะเหนื่อยเสมอ
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า รัตนพร วงษาราม ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยตัวแสบตัวนี้ลงในกลุ่มเพื่อที่จะขอปรึกษากับเพื่อนๆในกลุ่มชมรมแมวสายดาร์ก หลังจากที่เจ้าเหมียวตัวแสบของเธอนั้นชอบไปติดเพื่อนข้างบ้าน
เพราะด้วยเพื่อนข้างบ้านของเธอเอาแมวมาเลี้ยงใหม่ แล้วแมวของเธอก็ไปเฝ้าไปเล่นไปกินไปนอนอยู่ที่บ้านเขาตลอด ซึ่งเธอจึงต้องไปตามกลับมาบ้านเสมอและอุ้มน้องกลับมาที่บ้าน แต่น้องก็ชอบวิ่งหนีออกไปตลอดเธอจึงเครียดมากๆ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี
จึงได้ถามเพื่อนๆว่าหรือเธอควรจะเอาแมวมาเลี้ยงเพื่อที่จะเอามาเป็นเพื่อนให้กับน้องสักตัวจะดีหรือป่าว เพราะด้วยความที่น้องไม่ยอมอยู่บ้านเลยตั้งแต่มีเพื่อนข้างบ้านมาใหม่ จึงอยากขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆเพื่อว่าจะสามารถช่วยให้น้องไม่ออกไปติดเพื่อนบ้านได้
โดยหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็ได้มีคนจำนวนมากเข้ามาให้ความสนใจเพราะด้วยสีหน้าที่สุดเซ็งของน้องเนื่องด้วยคาดว่าน่าจะเพิ่งโดนพาตัวกลับมาบ้าน จึงทำให้มีสีหน้าและท่าทางทีแสนจะเซ็งและงอนผู้เป็นแม่ ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนรู้วิธีแก้ปัญหาดังกล่าวก็อย่าลืมไปแนะนำผู้โพสต์ในกลุ่มกันด้วยนะเผื่อน้องจะอยู่ติดบ้านมากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก รัตนพร วงษาราม
ถูกนำมาใส่ตระกร้า พร้อมเขียนข้อความลงในกระดาษตัดพ้อเลี้ยงต่อไม่ไหว ทั้งที่เคยรักหมดใจทำไมถึงทำได้ลง
เพราะด้วยการนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงนั้น สิ่งที่เราควรจะมีก่อนที่จะนำพวกเขามาเลี้ยงเป็นอย่างแรกคือความรับผิดชอบที่จะต้องมีต่อหนึ่งชีวิตที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต เพราะอย่าได้ลืมไปว่าพวกเขานั้นก็มีหัวใจเหมือนกับเราๆ ซึ่งเราก็มักจะย้ำเตือนกับผู้อ่านเสมอให้คำนึงถึงข้อนี้เป็นอันดับแรก
มิเช่นนั้นปัญหาการนำสัตว์ต่างๆมาทิ้งก็จะตามมาอีกเช่นเคยเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Taradon Jitharn ได้นำเริ่องราวของเจ้าเหมียวที่ถูกนำใส่ตระกร้ามาปล่อยเอาไว้ โดยเมื่อเช้าตรู่ของเมื่อวานนี้เขานั้นกำลังที่จะเดินกลับห้องในซอยลาดกระบัง 50 ซึ่งเขาก็ได้พบกับตระกร้านี้วางอยู่ จึงได้เดินเข้าไปดู
และได้พบว่าเป็นน้องแมวสีน้ำตาลเข้ม 3 ตัวถูกนำใส่ตระกร้ามาวางเอาไว้พร้อมกับข้อความที่ขอความช่วยเหลือให้ดูแลน้องต่อที โดยตัวผู้โพสต์เองก็เป็นภูมิแพ้และไม่สามารถที่จะดูแลน้องได้จึงนำมาโพสต์เพื่อให้เพื่อนๆในแฟนเพจ มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งในกระดาษได้เขียนข้อความเอาไว้ด้วยว่า
"ผู้ใจบุญช่วยนำไปเลี้ยงด้วยคะเศรษฐกิจอย่างนี้หนูเลี้ยงไม่ไหวค่ะ ขอให้โชคดีให้ร่ำรวยอย่างไม่มีเหตุผลนะคะ สำหรับผู้นำไปเลี้ยง" ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็ได้บอกอีกด้วยว่า ใจเขาเองก็อยากจะเปิดตระกร้าดูแต่ด้วยความที่ตระกร้านั้นเปิดไม่ได้จึงไม่ได้เปิดดูและถ่ายมาให้ และอีกทั้งเขานั้นรีบไปทำงานจึงทำได้เพียงแค่ให้อาหารกับน้องๆเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ถึงอย่างไรก็ตามทางผู้โพสต์นั้นก็ได้แจ้งระบุพิกัดเอาไว้ที่...
เป็นโกลเด้นเดินโซเซมาขอนอนที่โกดัง เวลาเห็นคนจะตื่นเต้นเข้าไปดมๆดูทุกครั้งเพราะคิดว่าเป็นเจ้าของ
จากชีวิตที่เคยถูกเลี้ยงดูเคยถูกรักและดูแล แต่เมื่อวันหนึ่งเกิดป่วยหรือเกิดไม่สามารถดูแลตัวเองได้ก็ไร้แม้คนจะหันมามอง หรือแม้ชีวิตที่ต้องพเนจรไร้บ้านไร้ที่อยู่อาศัย ต้องอดมื้อกินมื้อหากิน ไปที่ไหนเขาก็ขับไล่ไสส่ง เพราะด้วยการเลี้ยงสัตว์นั้นนำมาซึ่งภาระที่คุณจะต้องดูแลเราจึงอยากให้คิดให้ดีก่อนที่จะรับเขามาเลี้ยง
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tan Phonburee ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้ลงในกลุ่มคนรักโกลเด้น เพื่อที่จะถามเพื่อนๆในกลุ่มเผื่อว่าจะเป็นสุนัขของใครที่หายไป เพราะเขานั้นได้พบน้องมาขออาศัยอยู่ด้วยซึ่งสภาพน้องนั้นดูไม่เหมือนสุนัขโกลเด้นเลยในแว๊บแรก
เพราะด้วยการพเนจรต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างเร่ร่อนมานานแสนนาน ทำให้ขาแทบจะเดินไม่ได้ไร้แม้เรี่ยวแรงจะลุกเดินต่อ แต่ด้วยความสงสารเธอจึงช่วยรักษาจนในตอนนี้น้องเกือบจะหายดีแล้ว โดยในตอนแรกน้องเดินโซเซเข้ามานอนที่โกดังของเธอในสภาพที่ร่อแร่มากขาก็เจ็บไม่มีแรงลุกชู
อีกทั้งน้องก็มีอายุมากแล้วเธอจึงช่วยรักษาจนอาการของน้องดีขึ้นมากแล้ว จนในตอนนี้น้องสามารถเดินเหินได้ปกติแต่ทว่าน้องก็มักจะชอบเข้าหาผู้ชายที่มีอายุเวลาน้องเจอก็จะเข้าไปดมๆ ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะกำลังตามหาผู้เป็นเจ้าของอยู่ จึงอยากจะสอบถามเพื่อนๆในกลุ่มเพื่อว่ามีสุนัขใครหลุดหายหรือหลงมา
โดยทั้งนี้เธอได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ อ.บ้านฝาง จ.ของแก่น ซึ่งท่านใดสงสัยว่าเป็นลูกของตนก็สามารถติดต่อเข้าไปดูในต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ซึ่งเธอยังได้บอกอีกด้วยว่าถ้าหากไม่พบใครเป็นเจ้าของจริงก็จะรับเลี้ยงเอาไว้เองเพราะเนื่องด้วยน้องมาขออยู่ขออาศัยจะให้ทิ้งหรือให้ใครไปก็คงจะทำไม่ลง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tan Phonburee
หนุ่มจุดธูปบอกพ่อที่จากไป ขอให้พ่อไปบอกหมาเพราะมันไม่ยอมกินข้าวจนกระทั่งจู่ๆน้องก็ลุกขึ้นมากินข้าวเองจนหมดหม้อ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ศิริพงศ์ ลิ้มเจริญ ได้เผยเรื่องราวของหมาที่เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าตูบไม่ยอมกินข้าวกินน้ำได้แต่นอนซมเพราะคิดถึงคนบนฟ้าที่จากไป ทุกวันนี้น้องได้แต่นอนหน้ารูปของพ่อของเขาทุกคืนและน้องยังทำใจไม่ได้ค่อยๆตรอมใจลงไปอย่างช้าๆ
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า หมาตัวนี้พ่อผมรักมากๆ และหมาก็ติดพ่อผมเอามากๆ ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด นอนก็นอนข้างๆกันตลอด ตั้งแต่พ่อผมเสียไป มันก็เหงาอย่างเดียว ข้าวปลาไม่ยอมกิน อะไรก็ไม่เอาทุกวันนี้มันนอนหน้ารูปพ่อตลอดเวลา
เมื่อคืนผมได้โพสภาพรูปพ่อกับหมาผม ณ เวลานี้ น้องก็ไม่ไปไหนเลยครับ เอาแต่นอนอยู่หน้ารูปของพ่อ ผมพยายามพูดคุยด้วยทั้งวันครับ พยายามปลอบใจทุกวิธีแล้ว แต่น้องไม่เอาอะไรเลยจริงๆครับ และหนุ่มผู้โพสต์ยังได้อัพเดทเพิ่มเติมว่าสวัสดีครับเพื่อนๆ หลังจากผมได้โพสรูปหมาตัวนี้...
ใส่สายจูงพาน้องไปเดินเล่น เจอยายเดินมาทักหาว่าเป็นหมาหน้าตาก็ไม่ดีใครเขาเลี้ยงกัน
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ปรางทิพย์ อุสาห์นนท์ ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่าทีชาล่า โดยในวันดังกล่าวเธอก็พาน้องใส่สายจูงพาน้องออกไปเดินเล่นเหมือนทุกๆวันจนกระทั่งเธอนั้นได้พบกับยายท่านหนึ่งทักแมวของเธอว่าเป็นหมา
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เมื่อวานพาทีชาล่าใส่สายจูงพาออกไปปากซอยหมู่บ้าน ก็ปกติเหมือนทุกทีนั่นแหล่ะ แต่มีคนทักว่าหมาอีกแล้ว เราบอกว่าแมวค่ะยาย แมวขนยาวจ้า ยายเขาก็บอกใครเค้าเลี้ยงแมวดำกัน มันไม่ดีนะ หน้าตาก็ไม่ดีด้วยแมวตัวนี้อ่ะ แล้วฉันจะตอบว่าไงล่ะ
ได้แต่หอบลูกตัวดำๆกลับบ้าน ขี้เกียจอธิบายให้ยายเขาฟัง แต่ก็ขำแกนะ แกว่าทีชาล่าหน้าตาไม่ดี และเธอยังได้กล่าวอีกว่าไม่ได้โกรธยายนะแต่แอบขำด้วยซ้ำไป และชาวเน็ตก็ได้เข้ามาสอบถามว่าน้องกินอะไรเป็นอาหารขนสวยจังเลย เธอจึงเข้ามาตอบว่า
น้องกินอาหารเม็ด เพียวริน่าวันสีเขียวค่ะ ส่วนอาหารเปียกวันละมื้อ...
สาวแอบเปิดกล้องดูหลังปล่อยให้แมวอยู่กับน้องเพียงลำพัง แต่ก็อดสงสารแมวไม่ได้เมื่อได้เห็นภาพบาดตาบาดใจ
เพราะด้วยการเลี้ยงสัตว์ร่วมกับเด็กเล็กๆนั้นจะทำให้พวกเขามีหัวใจที่อ่อนโยน เรื่องนี้คือเรื่องจริงๆที่เกิดขึ้นหากเพื่อนๆได้สังเกตดูว่าบ้านไหนที่ชอบเลี้ยงหมาแมวร่วมกับเด็กตัวน้อยๆเมื่อโตขึ้นเด็กๆเหล่านั้นก็มักจะมีหัวใจที่อบอุ่นชอบช่วยเหลือคนอื่นเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมโลกไปซะทุกคน
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Aim Arisa Ladykimkai ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเด็กชายคนนี้ซึ่งเป็นน้องของเธอเองหลังจากที่เธอนั้นเลี้ยงแมวมาร่วมกับน้องของตัวเอง ซึ่งในทุกวันนี้น้องของเธอก็มักจะติดแมวมากๆไม่ยอมไปไหนทำอะไรก็จะทำด้วยกันอยู่เป็นประจำ
ซึ่งจากในคลิปนั้นเป็นคลิปที่เป็นกล้องวงจรปิดโดยเธอได้แอบเปิดดูในตอนที่เธอไม่อยู่บ้าน ก็ได้เห็นภาพที่ไม่รู้จะสงสารน้องแมวหรือจะชื่นชมในความน่ารักที่เกิดขึ้นดี เพราะจากในคลิปเธอนั้นได้เห็นน้องของเธอจับเจ้าเหมียวมาเล่นด้วยและก็พุ่งตรงเข้าไปยังพุงของเจ้าเหมียวหรือฟัดพุงเจ้าเหมียวนั่นเอง โดยในชื่อคลิปเองก็ได้ระบุเอาไว้ด้วยว่า
ถ้าแมวพูดได้เจ้าเหมียวเองก็คงจะบอกว่าเมื่อไหร่จะเปิดเรียนสักทีโดนฟัดพุงทุกวันเลย และเธอก็ยังได้เล่าอีกด้วยว่าน้องของเธอนั้นติดแมวมากๆเลย ถึงขนาดวันนั้นเป็นวันเด็กเธอชวนน้องของเธอไปเที่ยวงานต่างๆก็ไม่ยอมไปเพราะแมวที่เลี้ยงมาตัวแรกดันเล็บหลุดก็เลยต้องนั่งโอ๋เจ้าเหมียวอยู่แบบนั้นทำให้ไม่ได้ไปสนุกในงานวันเด็กเลย
เห็นแล้วก็ชื่นชมในความรักของน้องที่มีต่อเจ้าเหมียวเป็นอย่างมากเพราะด้วยเขาเติบโตมาด้วยกันเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งพี่เป็นทั้งสัตว์เลี้ยงที่แสนรัก ทำให้กันความรักความผูกพันที่มีต่อกัน โดยทั้งนี้เราก็เชื่อว่าโตขึ้นมาน้องก็คงจะมีหัวใจที่อบอุ่นและเป็นคนดีเป็นอย่างมากเพราะหัวใจของน้องช่างมีความรักต่อเพื่อนร่วมโลกมากเหลือเกิน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Aim Arisa Ladykimkai และชมคลิป
https://www.facebook.com/lovedoglovecats/videos/629128151092966/
เล่าทั้งน้ำตาหลังเลี้ยงมา5ปีรักเหมือนลูกแท้ๆ แต่จำต้องยกแมวให้คนอื่นเพราะแฟนกำลังตั้งท้อง
หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นก็คงจะเข้าใจดี ถ้าเกิดวันนึงมีความจำเป็นที่จะต้องจากกันไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ซึ่งเมื่อเราได้เลี้ยงพวกเขาแล้วก็มักที่จะเกิดความรักเป็นธรรมดา เพราะความผูกพันที่มีมา เลี้ยงตั้งแต่เด็กเลี้ยงเหมือนลูกก็ไม่วายใจสลายต้องจบจากและจากไป
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เล็กนะน้อง แต่ท้องแน่นอน ที่ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเขาทั้งน้ำตาลงในกลุ่ม ทาสแมว Official หลังจากที่เขานั้นจำใจต้องโพสต์หาบ้านให้กับเจ้าเหมียวอันเป็นที่รักหลังจากที่ภรรยาของเขาเองตั้งท้องแต่ทว่าผลของการตั้งท้องทำให้ภรรยาของเขานั้นเกิดแพ้ขนแมวขึ้นมา
ซึ่งตัวเขาเองก็ได้เล่าทั้งน้ำตาว่าเลี้ยงน้องมา 5 ปี รักเหมือนกับลูกคนนึงที่จะรักได้เลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี แฟนก็ใกล้ที่จะคลอดแล้วต้องเอาน้องไปอยู่ที่อื่น โดยทั้งหมดนั้นเขาเลี้ยง 8 ตัวและแฟนของเขาก็มีอาการแพ้ขนแมวหนักมากขึ้นเพราะด้วยเธอต้องอยู่บ้านกับแมวตลอด 24 ชั่วโมง
อีกทั้งบ้านที่พักอาศัยอยู่นั้นก็เป็นหอพักไม่มีห้องแยกแต่อย่างใดทำให้อาการหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแฟนเขาของเองก็เป็นคนรักแมวมากเหมือนกันแล้วเธอก็น้ำตาไหลเหมือนกัน ซึ่งทางผู้โพสต์นั้นได้บอกว่าเขาอาศัยอยู่ที่ แจ้งวัฒนะ 14...