แอบอาศัยอยู่ใต้หลังคาลงมาหาอาหารให้ลูกน้อย พลาดท่าถูกสุนัขรุมฟัดจนสิ้นใจลูกของหนูจะอยู่ต่อยังไงถ้าไร้คนดูแล

ขึ้นชื่อว่าหัวอกคนเป็นแม่แล้ว คงจะไม่มีใครไม่เข้าใจความมายของคำๆนี้ เพราะด้วยถ้าขึ้นชื่อว่าความรักของผู้เป็นแม่ไม่ว่าจะต้องเสียสละหรือยอมเสี่ยงมากเพียงไหนแม่ก็พร้อมที่จะทำให้ลูกได้เสมอ โดยที่ไม่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนใดๆ เพราะความรักของแม่นั้นคือรักที่แสนจะบริสุทธิ์ที่สุด เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า พ่อมาก บางกระดี่ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวผู้เป็นแม่รายนี้ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่ได้พบน้องนอนสิ้นใจอยู่ที่พื้นถนน โดยเขาได้เล่าว่าแม่เหมียวตัวนี้ถูกสุนัขฟัดจนสิ้นใจเพราะด้วยการลงมาหาอาหารให้กับลูกตัวน้อยๆ เพื่อที่จะได้อิ่มท้องแต่กลับพลาดท่าเสียทีให้กับสุนัขจนหมดแรง ซึ่งลูกแมวก็แอบอาศัยอยู่ใต้หลังคาด้วยความกลัวตัวยังน้อยก็ไม่ให้ใครเข้าใกล้เฝ้ารอด้วยความหวังว่าแม่จะกลับมาพร้อมกับอาหารมื้อดีเพื่อที่พวกหนูนั้นจะได้กินกันอิ่มและุนอนหลับ โดยหารู้ไม่ว่าผู้เป็นแม่ได้สิ้นใจลงไปแล้ว ซึ่งทางผู้โพสต์จึงอยากหาบ้านให้กับเจ้าเหมียวทั้งคู่ซึ่งน้องตัวหนึ่งสีเหมือนกับแม่ ส่วนอีกตัวนั้นสีออกดำๆหน่อย โดยเขาได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์หน่วยแพทย์กู้ชีวิต ส่วนน้องแมวอยู่ด้านหลัง และในเวลาต่อมาเขาก็พยายามที่จะช่วยน้องออกมาจากใต้หลังคา เพราะถ้าปล่อยเอาไว้น้องๆคงจะไม่รอดแน่ๆซึ่งทั้งนี้ในส่วนของร่างของแม่แมวทางผู้โพสต์ก็ได้นำไปฝั่งเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถที่จะติดต่อไปทางต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่สามารถมอบความรักความอบอุ่นให้กับน้องๆได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก พ่อมาก บางกระดี่

หนุ่มสุดจะทนขอโพสต์ต่อว่า ไอ้พวกที่เป็นทาสแมว แค่เลี้ยงอะไรก็ได้ทำไมต้องเป็นทาสแมว

เพื่อนๆหลายๆคนที่ไม่ได้เลี้ยงแมวหรือไม่เคยสัมผัสกับการที่ได้เลี้ยงหรือดูแลเจ้าเหมียวเลยก็อาจจะคิดว่าทำไมหลายๆคนที่ได้เลี้ยงแมวนั้นถึงได้ใช้คำว่า ทาสแมว เพราะด้วยแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดว่าตัวของพวกเขานั้นเป็นเจ้านายของเราและเจ้าเหมียวนั้นก็มักจะไม่ทำตามต้องการของมนุษย์จึงเป็นที่มาของทาสแมว      เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า PaNu NuberNine ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวที่สุดจะกลั้นหลังจากที่เขานั้นเพิ่งจะได้รับเจ้าเหมียวมาเลี้ยง ซึ่งน้องแมวตัวนี้นั้นเป็นแมวที่มีคนใจร้ายนำมาปล่อยเอาไว้และหนุ่มรายนี้ก็ทักไปเพื่อที่จะขอรับเลี้ยงน้อง แต่ทว่าหนุ่มรายนี้เขากับไม่ใช่ทาสแมว    ซึ่งเมื่อเขานั้นได้รับน้องไปเลี้ยงดูแลก็กลับถูกต่อว่า ว่าเป็นทาสแมวเขาจึงได้อัดคลิปออกมาเพื่อที่โต้แย้งว่าตนนั้นไม่ใช่ทาสแมวแต่อย่างใด โดยในคลิปนั้นเขาได้บอกว่าคนเราจะเลี้ยงอะไรก็ได้ถ้าเห็นว่าพวกเขานั้นน่าสงสารเราก็สามารถที่จะเลี้ยงได้แต่ไม่เห็นจะต้องตกเป็นทาสแต่อย่างใด    โดยหลังจากอธิบายเสร็จเขาก็ได้เอื้อมหยิบทรายแมวของน้องแมวส้มขึ้นมาและพร้อมกับบอกว่านี่ก็เพิ่งจะไปซื้อทรายแมวกลิ่นแอปเปิ้ลมาใหม่หอมชื่นใจ แถมถัดไปก็ยังก้มลงหยิบอาหารเปียกเป็นรสทูน่าสำหรับแมวเด็กและก็ยังย้ำอีกด้วยว่าถ้าซื้อยกแพ๊คจะถูกกว่าและย้ำด้วยว่าอย่าซื้อทีละซองเพราะจะคุ้มกว่ากันเยอะ     และยังหยิบชิ้นต่อไปขึ้นมาก็คือแปรงหวีขนสำหรับเจ้าเหมียวส้มโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีที่ตัดเล็บสำหรับเจ้าเหมียวและที่ตักอึเจ้าเหมียวอีกด้วย ซึ่งเขาก็ได้ย้ำบอกว่าการเลี้ยงแมวนั้นเป็นแค่สัตว์เลี้ยงไม่ได้จะต้องตกไปเป็นทาสเลยแต่สิ่งที่ตนได้ทำนั้นกลับตรงกันข้ามเป็นอย่างมากเพราะดูจากอาการแล้วเหมือนกับว่ากำลังเห่อเจ้าเหมียวส้มอยู่นั่นแหละ ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปเพื่อนๆในกลุ่มทาสแมวทั้งหลายก็ต่างพากันหัวเราะและสร้างรอยยิ้มกับคำว่าไม่ได้เป็นทาสแมวเลยยย จริงๆนะ ยอมรับซะเถอะว่าตกเป็นทาสแมวแล้ว โอ้ยยยยยยย ทาสแมวน่าร๊ากกกกก ขอขอบคุณข้อมูลจาก...

สาวถูกแมวแอบมองทุกวัน ถูกยัดเยียดความเป็นเจ้าของแถมชอบพาเพื่อนมาปาร์ตี้ที่บ้านทั้งๆที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎Panudda Nudda Phothisai ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวปริศนาที่มักมายืนมองนั่งมองอยู่อย่างนี้ทุกวัน จนเธอนั้นเริ่มใจอ่อน แต่ๆน้องเป็นแมวที่มีเจ้าของแต่ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง แถมบางวันก็มักพาเพื่อนมาปาร์ตี้ถึงที่บ้านทั้งๆที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขอพื้นที่ระบายหน่อยค่ะ ทำไงกับสายตาคู่นี้ดีค่ะ นางมายัดเยียดให้เราเป็นเจ้าของของนางค่ะ แต่นางมีเจ้าของนะคะ(มีคนเลี้ยงนาง) แต่บ้านช่องไม่ยอมกลับ นี่นางมานั่งรอขอกินข้าวนะคะ สายตาที่อ้อนวอน ไอ้เราก็ใจดีให้กินเช้ากินเย็นเลยค่ะ พอหลังๆย้ายมากินมานอนที่บ้านเราได้ 6เดือนแล้วค่ะ ไอ้เราก็สร้างบ้านให้นอน(นางนอนที่ๆเราทำให้ค่ะ) แต่นางหยิ่งใจคอดุร้ายไม่เคยได้จับแม้แต่ปลายขน แถมนางยังชอบพาเพื่อนๆมาปาร์ตี้ส่งเสียงดังที่บ้านเราแบบไม่เกรงใจ นางมักจะเชิญเพื่อนๆแวะมากินข้าวไม่ซ้ำหน้าเลย ทำเหมือนเป็นบ้านตัวเอง เธอไม่เคยรักฉันแต่เธอแค่หลอกกิน เธอมันแค่นางงูพิษที่จะมาหลอกให้ฉันเป็นทาสของเธอ‎...

ยังทำใจไม่ได้ สุนัขที่ใช้ชีวิตร่วมกันกว่า13ปีมานอนสิ้นใจคาตักเพื่อบอกลาเป็นวินาทีสุดท้ายของชีวิต

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Ploy Tharatip‎  ได้เผยเรื่องราวชีวิตของคุณพ่อของเธอ กับสุนัขสุดที่รักอย่างเจ้าเจ๋ง เจ้าเจ๋งและคุณพ่อของเธอใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนานกว่า 13 ปี แล้วเจ้าเจ๋งเองก็มาสิ้นใจอยู่ที่ตักของพ่อ ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่ใจของคุณพ่อก็ยังคงคิดถึงและยังทำใจไม่ได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า หมาเรามีชื่อว่า(เจ๋ง) เราเก็บน้องมาจากข้างทางเลี้ยงตั้งแต่มันยังไม่ทันได้หย่านมดี พ่อรักเหมือนกับลูกอีกคน(เราลูกคนเดียว) ไปไหนไปด้วยตลอด ชวนพ่อกินข้าวร้านไหนเจ๋งไปด้วยไม่ได้ พ่อไม่กินขอกินอยู่ที่บ้าน พ่อต่อซาเล้งเพื่อพาเจ๋งออกไปหาขี้ที่ลานหญ้ากว้างๆ จะได้ไม่เป็นการรบกวนผู้อื่นและได้วิ่งเล่นลานกว้าง ได้ออกทุกวันเช้า-เย็น หลังๆมาเริ่มแก่เดินไม่ไหวแล้ว วันนี้พ่อหยุดอยู่บ้านพอดี ได้อาบน้ำให้เสร็จ เจ๋ง มานอนเอาคางเกยเข่าของพ่อ...

ปล่อยยกครัวปลอกคอยังคาคอ ไม่เคยใช้ชีวิตโลกภายนอกนอนกลัวกกกันให้ความอบอุ่นทั้งแม่และลูก

ด้วยหัวอกของคนเป็นแม่แล้วไม่ว่าจะต้องเจอกับสถานการณ์ไหนๆก็ต้องอดทนเพื่อที่จะให้ลูกๆนั้นรู้สึกได้อุ่นใจเพราะคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นล้วนแต่เป็นเสาหลักของครอบครัวจึงไม่สามารถที่จะแสดงออกถึงความอ่อนแอออกมาให้เห็นได้เพราะกลัวว่าลูกนั้นจะเป็นกังวลซึ่งก็ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์เพียงเท่านั้นแม้แต่สัตว์ตัวน้อยๆเองก็ไม่ต่าง เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ไอ แอม กระต่าย ได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่ได้พบน้องถูกนำมาปล่อยเอาไว้ซึ่งเธอได้เล่าว่า ตื่นมาก็เจอแล้วเอามาปล่อยไว้ทั้งคอกเลยข้างๆตึกพักเจริญสุข คลองนิยมยาตรา ในจังหวัดสมุปราการใกล้บางนาตราด กม.35 ก่อนถึงเวลโกร ซึ่งน้องๆมีทั้งหมด 5 ตัวมีตัวแม่และลูกส่วนตัวของแม่เองเป็นแมวถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีดูจากลักษณะสีขนสะอาดสะอ้านปลอกคอยังคาคอ ได้แต่นอนกกกันด้วยความกลัวจนตัวสั่นอาจจะเพราะไม่เคยต้องใช้ชีวิตต่อโลกภายนอก ซึ่งหากปล่อยเอาไว้แบบนี้คงไม่รอดแน่ๆ อีกทั้งในบริเวณดังกล่าวยังมีตะกวดเป็นจำนวนมากกลัวว่าเด็กๆที่ไม่รู้ประสีประสาจะถูกตะกวดจับกิน จึงอยากช่วยหาบ้านให้กับเด็กๆเพื่อเพื่อนๆในกลุ่มอยากจะรับน้องๆไปเลี้ยง เพราะดูแล้วเพิ่งจะถูกเอามาปล่อยแบบสดๆร้อนๆเลย แต่ตัวแม่เองก็คงจะรู้แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ให้ความอบอุ่นลูกไว้ด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเมื่อเธอเดินเข้าไปถ่ายรูปน้องก็เดินออกมาหาด้วยควา่มเชื่องและไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวว่าตนนั้นได้ถูกผู้เป็นเจ้าของเอามาปล่อยแล้ว หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ แต่ก็อยากที่จะหาบ้านที่น้องๆอยู่ด้วยกันทั้งครอบครัวเพราะคงไม่มีใครอยากถูกพรากลูกออกไปจา่กอกหรอกเนอะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไอ แอม กระต่าย

ถูกนำมาปล่อยเอาไว้ที่เกาะกลางถนนเพราะแก่ชรา ตาก็ฝ้าฟางแต่ก็ยังคงเฝ้าคอยด้วยหวัง ว่าผู้เป็นเจ้าของจะกลับมารับ

อาจจะเพราะด้วยมนุษย์โลกนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก จึงทำให้มนุษย์บางคนนั้นเลือกที่จะผลักภาระให้กับคนอื่นเมื่อถึงเวลาที่จะต้องรับภาระ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเหมือนกันกับทุกคนเสมอไปด้วยความรับผิดชอบในบางทีที่ไม่มีจึงทำให้หลายๆชีวิตถูกทอดทิ้งเมื่อยามแก่เฒ่าหรือเมื่อเห็นว่าจะต้องมานั่งดูแลเลี้ยงดูในยามที่ดูแลตัวเองไม่ไหว ซึ่งเราก็มักจะย้ำบอกกับเพื่อนๆอยู่เสมอในการจะเอาสัตว์หนึ่งตัวมารับเลี้ยง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pavinee Kang Chomngam ได้นำเรื่องราวของเจ้าตูบตัวนี้มาโพสต์ลงในกลุ่มรักหมาจังเพื่อที่จะร้องขอความช่วยเหลือหลังจากที่พบน้องถูกนำมาปล่อยเอาที่เกาะกลางถนน ซึ่งตัวน้องเองก็ตกอยู่ในสภาพที่แก่ชราสายตาก็ฝ้าฟางแถมยังต้องมานอนตัวคนเดียวลำพังอยู่ที่กลางถนน เดินชนโน่นนี่นั้นสะเปะสะปะเพราะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แต่ก็มานั่งจ่ออยู่ที่กลางถนนเพราะไปไหนไม่ได้ ซึ่งหากถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้น้องคงจะไม่รอดแน่ๆเขาจึงเข้าช่วยเหลือ แถมทุกวันนี้ฝนก็ตกแทบจะทุกวันถ้าหากว่าน้องต้องอยู่แบบนั้นคงจะอยู่รอดไปไม่กี่วันไหนจะรถไหนจะสภาพอากาศอีกทั้งตัวก็ยังไม่แข็งแรงเพราะความแก่เฒ่าจึงอยากวอนให้ใครสักคนที่พอจะช่วยเหลือน้องได้เข้าช่วยเหลือที่ โดยเขาได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ พฤกษาอเวนิว ต.บางแก้ว อ.บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเขาเองก็ได้ช่วยเหลือน้องเอาไว้ในความดูแลเพียงเท่านั้นและพร้อมที่จะส่งให้ที่ทุกฟรีอีกด้วย และหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์เพียงเวลาไม่นานก็ได้มีผู้คนเข้ามารับน้องไปดูแลเป็นที่เรียบร้อย และในรูปสุดท้ายนั้นเองก็คือรูปภาพสถานที่บ้านใหม่ของน้องที่จะไม่ต้องเดินเร่ร่อนอยู่กลางถนนมีที่ให้หลบแดดหลบฝนไม่ต้องมาทนนั่งเฝ้ารอคอยผู้เป็นเจ้าของอยู่ที่เกาะกลางถนนอีกต่อไป ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pavinee Kang Chomngam

ตกลงไปในบ่อลึก ข้ามวันข้ามคืนจนเนื้อตัวผอมแห้งไร้แม้เรี่ยวแรงจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ

หากเพื่อนๆคิดว่าทุกชีวิตบนโลกนั้นมีค่ามากมายมหาศาลไม่เว้นแต่สุนัขหรือแมวหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆแล้ว แสดงว่าเพื่อนๆนั้นมีหัวใจที่อ่อนโยนเห็นถึงคุณค่าต่อทุกชีวิตที่มีบนโลกใบนี้ แต่ถ้ากลับกันหากคนใดมีจิตใจที่ไม่เท่าเทียมไม่เห็นว่าสัตว์เหล่านี้ก็มีชีวิจหรือหัวจิตหัวใจแล้วแสดงว่าคนเหล่านั้นมักจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวและไม่เคยเห็นคุณค่าในตัวคนอื่นหรือเห็นแต่ตัวเอง ซึ่งทุกคนก็ล้วนแต่มองแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาวะทางครอบครัวหรือสิ่งที่ได้ถูกเลี้ยงดูมาว่าพบเจอกับสังคมหรือครอบครัวแบบไหนที่ได้เลี้ยงดูมา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า สาธิต เสาโกมุท ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้หลังจากที่โซเชียลได้เผยแพร่เรื่องราวของเจ้าตูบหลังจากหน่วยงานกู้ภัยได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือสุนัขต่อบ่อน้ำ โดยเมื่อทางหน่วยกู้ภัยได้รับแจ้งว่าสุนัขตัวหนึ่งตกลงไปในบ่อน้ำเก่าซึ่งเป็นบ่อน้ำที่ไม่ได้ใช้งานแล้วและลึกมาก จนทำให้สุนัขตัวนี้พยายามที่จะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือซึ่งในตอนแรกก็ไม่ได้มีใครสังเกตหรือได้ยินเสียงเพราะด้วยพื้นที่ดังกล่าวนั้นอยู่ทางด้านหลังของบริษัทฟอร์ดทางออกจังหวัดสารคาม จนหลายวันเข้าสุนัขตัวดังกล่าวก็ส่งเสียงร้องไม่หยุดจนทำให้มีผู้คนเอะใจว่าสุนัขตัวนี้อาจจะต้องการความช่วยเหลือ จึงได้ตามเสียงที่เจ้าตูบร้องเป็นเฮิกสุดท้ายและได้มาพบกับเจ้าตูบเข้า จนได้พบน้องในสภาพที่เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้เพราะเนื้อตัวที่ต้องตกลงไปในบ่อลึกทำให้ไร้แม้อาหารหรือน้ำที่จะตกถึงท้องจนเนื้อตัวผอมเหลือจนเหลือแต่หนังซึ่งทั้งนี้ก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยอโสกเพื่อที่จะเข้าช่วยเหลือน้องในเวลาต่อมา ซึ่งเมื่อทางหน่วยกู้ภัยมาถึงก็ได้ทำการเร่งเข้าช่วยเหลือ โดยทำการหย่อนตัวพร้อมกับเชื่อลงไปเพื่อที่จะอุ้มน้องขึ้นมาอย่างปลอดภัย ซึ่งน้องก็ไม่ได้มีการขัดขื่นแต่อย่างใดเนื่องจากไร้เรี่ยวแรงเพราะที่ตกลงไปไร้แม้อาหารและอีกทั้งน้องก็ยังคงพูดรู้เรื่องอีกด้วย จนในที่สุดก็เข้าช่วยเหลือน้องขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยในเวลาต่อมา โดยจากการรายงานเบื้องต้นไม่ได้พบว่าน้องนั้นเป็นสุนัขของใครและก็ไม่ได้แจ้งเพิ่มเติมว่ามีใครได้รับน้องไปเลี้ยงซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก สาธิต เสาโกมุท

ตามืดสนิทหนึ่งข้าง ใช้ชีวิตอยู่ในกรงแคบๆมานานร่วม 3 ปีไม่เคยได้มีอิสระเดินเล่นหรือพลิกตัวเพราะชีวิตที่เกิดมาเป็นแค่สีดำ

เพราะชีวิตนั้นเลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้หลายๆชีวิตเกิดมาไม่เป็นที่ต้องการของใคร ต้องต่อสู้ดิ้นรนจนในบางครั้งก็อับจนหนทางจะเอาชีวิตรอดต้องทนต่อสู้ให้อยู่ไปในวันๆตามที่ตนนั้นได้เกิดมาเมื่อเลือกที่จะดิ้นรนจนถึงที่สุดแล้ว และก็ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์เราเพียงเท่านั้นแม้แต่สัตว์เองก็ตาม เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Apinan Khammee ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ลงในโลกออนไลน์เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือหลังจากที่พบเจ้าเหมียวตัวนี้ถูกเลี้ยงมาในกรงแคบๆเน่าๆมาทั้งชีวิต เป็นเวลาร่วมกว่า 3 ปีเพราะชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้อีกทั้งตนเองก็ยังมีสีดำซึ่งไม่มีใครต้องการเหมือนกับแมวตัวอื่นๆ เลยต้องเลือกที่จะทนอยู่แบบนั้น จนผู้โพสต์นั้นได้เห็นเข้าและเข้าไปช่วยเหลือซึ่งน้องทำหมันแล้ว น้องเป็นแมวอ้วนและเชื่องมากๆพูดรู้เรื่องแต่ด้วยความที่ผู้เป็นเจ้าของเก่านั้นเลี้ยงมาแบบนี้เนื่องด้วยพื้นที่ที่จำกัดจึงเลือกที่จะขังน้องเอาไว้ในกรงตลอดเวลาและไม่เคยได้ออกมาลืมตาดูโลกภายนอกหรือวิ่งเล่น แต่ในเมื่อเลือกไม่ได้ก็ต้องทนอยู่แบบนั้นมาตลอดอีกทั้งตาก็บอดไปอีกหนึ่งข้าง จึงอยากวอนให้เพื่อนๆคนไหนที่สนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงมาช่วยให้หลุดพ้นจากการต้องทนอยู่ในกรงแคบๆใบนี้ที ขอเพียงแค่มีที่ให้วิ่งเล่นหรือได้เดินยืดเส้นยืดสายเพียงเท่านั้น ไม่ต้องใหญ่ต่อแต่ก็ขอให้เป็นอิสระไม่ต้องมานั่งๆนอนๆทนอยู่ในที่แบบนี้ เพราะแม้ถึงจะมีข้าวได้อิ่มท้องแต่ไร้แม้แต่ที่จะให้ขยับตัวก็คงจะอึดอัดใจน่าดู โดยผู้โพสต์ได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ บางนา กรุงเทพ และก็วอนขอบ้านที่สามารถที่จะเลี้ยงได้ในระบบที่ปิด ซึ่งก็หมายถึงบ้านที่สามารถปิดได้มิดชิดไม่ให้น้องต้องออกไปเผชิญโลกที่อันตรายและขอคนที่มีอายุมากกว่า 25 ปีเพราะคนพวกนี้คงจะมีความรักผิดชอบต่อหนึ่งชีวิตได้ดีกว่าเด็กๆ ซึ่งถ้าเป็นบ้านพักพิงหรือบ้านที่มีแมวเยอๆก็ขอผ่านไปก่อน เพราะชีวิตนี้ทรมานมามากพอแล้วขอแค่ชีวิตที่เหลือได้อยู่ดีมีสุขเท่านี้ก็เกินพอ โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก...

คุณยายโลกส่วนตัวสูงยอมออกจากบ้านอีกครั้ง เพราะได้โกลเด้นแสนรู้ช่วยเปลี่ยนชีวิตของเธอ

เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณยาย Annabelle เป็นคนที่หมดอาลัยตายอยากในชีวิต และมีโลกส่วนตัวสูง จนเธอได้มาพบกับสุนัขโกลเด้นชื่อ "Joe" ที่ทำให้ชีวิตของเธอมีสีสันและเปลี่ยนไปตลอดกาล Annabelle ยอมที่จะออกจากบ้านอีกครั้งหลังจากได้พบกับ Joe Annabelle กล่าวว่า Joe เปลี่ยนชีวิตของเธอมากจริงๆ ไม่มีซักครั้งที่ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวาเท่านี้มาก่อน ตอนอายุ 20 Annabelle ได้เข้าร่วมการเป็นนาวิกโยธิน เธอขับเครื่องบินและตรวจสอบเครื่องยนต์เป็นเวลา 2 ปี ต่อมาในปี 1946 เธอได้ทำงานเป็นนางพยาบาลแทนและใช้ชีวิตแบบนั้นเรื่อยมา เธอได้เป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ ซึ่งเธอสามารถที่จะชนะโรคนี้มาได้อย่างมหัศจรรย์ ในปี 2013 เธอรู้สึกว่าเธอเห็นชีวิตทั้งหมดแล้วกับการอยู่มาเกือบ 90...

เฟรนซ์ บลูด็อก วิ่งไล่หมีสามตัวหัวซุกหัวซุน จนรีบปีนรั้วหนีออกจากบ้าน

เว็บไซต์ Daily Mail รายงาน วีรกรรมจิ๋วแต่แจ๋ว ของเจ้า Jules สุนัขพันธุ์เฟรนช์ บูลด็อก ผู้ทำหน้าที่ “รักบ้านยิ่งชีพ” เฝ้าบ้านได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะมันโชว์ความใจกล้าวิ่งไล่หมีที่ตัวใหญ่กว่ามันหลายเท่า ออกไปจากบ้านถึง 3 ตัวเลยทีเดียว ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านของนาย David Hernandez ซึ่งอยู่ที่มอนโรเวีย รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ เผยเหตุการณ์เจ้า Jules เผชิญหน้ากับหมี...