ร้องเสียงหลงหวังให้ช่วยหลังติดอยู่บนนั้นมา 3-4 วันแล้วด้วยความสูงเกือบ 5 เมตรจึงหมดหนทางจะให้ใครเขาช่วยได้
ด้วยชีวิตที่เกิดมาไร้ที่พึงพาอาศัยเพราะชีวิตนั้นเลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้ต้องดิ้นรนสู้ต่อไปให้หลุดรอดพ้นในแต่ละวัน อีกทั้งด้วยเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าจรไม่มีแม้ใครเขาจะมาเหลี่ยวแลเมื่อตกทุกข์ได้ยาก เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไปในแต่ละวันซึ่งหากถ้าเกิดเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือก็ต้องช่วยเพียงแค่ตัวเอง
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Anuchaa Chayolom ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวหลังจากที่เขาได้พบเจอน้องแมวนั้นติดอยู่บนตอหม้อแยกเกษตร ตรงข้างหน้ากรมยุทธโยธาทหารบก โดยเบื้องต้นเขานั้นได้นำเรื่องโทรไปแจ้งยังเบอร์ 199 เพื่อที่ติดต่อหน่วยกู้ภัยให้เข้าช่วยเหลือ
ซึ่งทางหน่วยกู้ภัยเองก็ได้โทรมาหากับเขาอีกรอบ โดยสิ่งที่เขานั้นได้ยินก็คือน้องแมวนั้นอยู่สูงมากเกินไป (ซึ่งเป็นความสูงจากสายตาประมาณ 5 เมตร) โดยทางหน่วยกู้ภัยไม่สามารถที่จะช่วยเหลือน้องได้ และตัวน้องก็ติดอยู่แบบนั้นมาเป็นเวลากว่า 3-4 วันแล้ว ด้วยจากคนในระแวกนั้นที่บอกมา
เขาจึงหมดหนทางที่จะเข้าช่วยเหลือน้องได้ผู้โพสต์จึงได้นำเรื่องมาโพสต์ลงยังกลุ่มคน ช่วยเหลือสุนัขและแมว เพื่อหวังว่าจะมีใครพอจะมีวิธีช่วยเหลือน้องเข้าช่วยเหลือที เพราะตอนที่น้องร้องเขานั้นยืนน้ำตาตกใน ด้วยน้องที่ร้องเสียงที่กำลังหวาดกลัวและตัวก็หิว
ซึ่งตัวของเขาเองก็ได้ซื้อไก่ย่างและโยนขึ้นไปให้กับน้อง เพราะมันคือวิธีเดียวที่เขานั้นจะสามารถช่วยเหลือน้องได้...
ยอมย้ายบ้านเพื่อหมา หลังต้องทนอยู่กับเจ้าของบ้านสุดจะทนหลังน้องถูกเขากระทำจนรับไม่ได้
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ปาดูปาดุ๊ป ปั้บโปะปั้บปาดี๊ดีดา ได้เผยเรื่องราวของสุนัขที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าตูบตัวนี้มีชื่อว่าหมูหยอง หมูหยองเป็นสุนัขที่เธอเลี้ยงเอาไว้และพักอาศัยในบ้านเช่า แรกๆเจ้าของบ้านก็รักหมูหยองดี แต่พอผ่านไปไม่นานเจ้าของบ้านกลับไม่ชอบหมูหยอง ชอบมาแหย่ ชอบเอาหนังสติ๊กมาดีดใส่หมูหยอง
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้ คุณเคยย้ายบ้านเพื่อหมามั้ยคะ เราเคยคิดว่าเจ้าของบ้านเป็นคนรักหมามากๆ เห็นว่าเลี้ยงเหมือนกัน เราเข้าใจว่าบ้านที่เราเช่าเค้าก็ไม่อยากให้เลี้ยงสัตว์อะไร แต่เราอยู่กับเค้ามานาน เช่าเค้ามาอยู่ประมาณ3-4ปีแล้วเลี้ยงหมาตัวนี้มาโดยตลอด
แต่พอวันนี้เค้าเอาหนังสติ๊กมาดีดใส่หมาของเรา จนหมาเราขาเจ็บ เมื่อก่อนดูรักมันมาก แต่พอพักหลังชอบแอบมากระทำ เอาไม้เขวี้ยงใส่ เอาหนังสติ๊กดีดใส่อีก จนหมาไม่ชอบ หมามันไม่ชอบพอมันเห็นมันก็เห่าใส่...
หนุ่มได้ยินเสียงลูกแมวร้องเบาๆที่ข้างห้อง เปิดดูเครื่องซักผ้าโผล่มามีลูกผัวเก่าติดมาอีกหนึ่ง
ด้วยบุญวาสนาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งในความเชื่อของคนไทยเราที่ในบางครั้งก็อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกชะตาฟ้าลิขิตมาไว้ให้แล้วหรือในบางทีเราก็อาจจะรู้สึกเหมือนกับว่าถูกใครสักคนกำหนดไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราอาจจะรู้สึกได้หรือไม่ก็ตามแต่ เพราะด้วยบางครั้งแล้วคนที่อยากจะได้สัตว์มาเลี้ยงจริงๆ
แต่ก็กลับไม่ได้ก็มีถมไปเพราะด้วยบุญวาสนาที่ไม่ถึงกัน แต่ทว่ากับในบางคนก็กลับได้มาเลี้ยงแบบงงๆเลยก็มีเชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Khajornsak Kalong ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวที่ตัวของเขาได้พบเจอ จากที่เขานั้นได้ยินเสียงของลูกแมวร้องอย่างแผ่วเบา
ซึ่งเขาก็ได้ยินแต่เสียงเหมี๊ยวเหมี๊ยวแต่ก็ไม่รู้ว่าน้องร้องมาจากตรงไหน จึงได้เดินตามเสียงไปพบว่าเสียงนั้นกลับดังขึ้นมาจากในเครื่องซักผ้า เขาจึงได้เปิดเครื่องซักผ้าดังกล่าวออกดูและเมื่อเปิดออกมาเขาก็ได้พบกับเจ้าเหมียวตัวน้อยๆที่เพิ่งจะแรกเกิดเป็นลายสีสลิด
ที่ญาญ่าเพิ่งจะอุ้มถ่ายรูปลงในไอจี แต่ทว่าในสิ่งที่ปะปนอยู่กับลูกแมวตัวน้อยๆที่แรกเกิดนั้นคือเจ้าเหมียวตัวที่ใหญ่กว่าซึ่งดูเหมือนกับว่าจะมีอายุประมาณเดือนเศษแล้ว หรืออาจจะเป็นลูกของผัวเก่าติดมาเขาจึงได้พยายามหาลังกระดาษเพื่อที่จะนำมาใส่เจ้าเหมียวตัวน้อยๆ
โดยขนาดที่แตกต่างของเจ้าเหมียวตัวโตนั้นก็แตกต่างจากลูกแมวแรกเกิดเยอะเลยทีเดียว แต่ทว่าแม่แมวก็กลับมาหาลูกในที่สุดและลูกตัวนี้ก็คงจะเป็นลูกที่เหลือตัวสุดท้ายของครอกที่แล้วของนางแน่ๆ ฟังแล้วก็น่าเศร้าใจเพราะด้วยชีวิตที่เป็นแมวจรจะเลี้ยงดูลูกที่วัยกำลังซนอย่างไรให้ปลอดภัยอย่างไรบนโลกใบใหญ่นั้นไม่ง่ายเลย และผู้โพสต์ก็ตัดสินใจว่าจะเลี้ยงพวกเด็กๆด้วยตัวเอง ทั้งนี้ก็ขอชื่นชมในความมีเมตตาของผู้โพสต์และร่วมยินดีต้อนรับเข้าสู่การเป็นทาสแมวอย่างเต็มตัว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Khajornsak Kalong
ออกหาอาหารเลี้ยงลูกน้อยจนเติบใหญ่ แม้สภาพตัวจะไร้เกินเยียวยา แต่ก็ยังอดทนต่อสู้มาหวังให้ลูกได้สุขสบาย
ถ้าพูดถึงหัวอกคนเป็นแม่แล้ว มนุษย์อย่างเรานั้นก็คงจะเข้าใจกันดีเพราะทุกคนที่ได้เกิดมาต้องมีแม่กันอยู่แล้ว ซึ่งว่าด้วยเรื่องของความรักของแม่นั้นยากแท้จะหาอะไรมาเปรียบได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่ได้ทำให้กับเรานั้นล้วนมาจากความรักที่แม่มีให้
และด้วยก็ไม่ใช่เพียงแต่แค่มนุษย์อย่างเราเท่านั้นที่มีความเป็นแม่อยู่เต็มอก แม้แต่สัตว์ต่างๆเองที่ได้เกิดมาบนโลกย่อมมีความเป็นแม่อยู่ในอกสูงไม่ต่างกัน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า วิกิ วิลาวัลย์ ได้โพสต์เรื่องราวของแม่แมวตัวนี้ผ่านทางโลกออนไลน์
โดยเธอได้ไปพบแม่แมวตัวนี้เข้าที่ตกอยู่ในสภาพที่สุดสะบักสะบอมหรือเรียกได้ว่าเกินจะเยียวยาก็ตามแต่ เพราะแม่สภาพของแม่นั้นสุดจะไม่ไหวแต่ด้วยความรักที่มีต่อลูกน้อยก็ยังคอยเฝ้าปกป้องไม่ห่าง ด้วยหาอาหารให้ได้อิ่มท้องด้วยนอนเฝ้านอนกอดให้ลูกหายเหน็บหนาว
ด้วยตัวที่เจ็บจนไม่กล้าที่จะร้องออกมาเพราะด้วยว่าหมาจะเข้ามาฟัดลูกได้ ซึ่งสภาพของน้องแมวถูกเขากระทำมาด้วยลูกตาที่เกือบจะหลุดแต่ก็ยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆลูกของตนเสมอ เธอเลยเข้าช่วยเหลือน้องและนำพาไปหาหมอในเวลาต่อมาซึ่งทั้งนี้เองหมอก็ได้ประเมินราคาไว้คราวๆเพียงเท่านี้
ด้วยทั้งนี้เองก็อยากจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับอุปการะแม่แมวรายนี้กับลูกๆก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นให้ลูกของหนูไม่ต้องทนหนาวขอเพียงข้าววันละมื้อให้ลูกได้อิ่มท้องของเพียงที่ซุกหัวนอนให้ลูกไม่ต้องถูกยุงกัดเพียงเท่านั้นจริงๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วิกิ วิลาวัลย์
สาวทาสแมวพยายามยื้อชีวิตแมวสุดที่รัก หลังเจ้าพีนัทล้มป่วยหนึ่งในโรคที่ร้ายที่สุดในแมว
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kate Chu Chu ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวของเธอมีชื่อว่าพีนัท พีนัทต้องจากไปแบบไม่มีวันได้กลับมาอีกด้วยหนึ่งในโรคที่ร้ายแรงที่สุดในแมว โดยผู้เป็นเจ้าของได้พยายามยื้อชีวิตพีนัทอย่างสุดความสามารถแล้ว
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ฝากดวงใจของแม่ลอยล่องไปบนนภา สุดขอบฟ้าหัวใจแม่จะไปถึง ได้สบตาแค่เพียงครั้งหนึ่ง หัวใจแม่ติดตรึง เพ้อรำพึงรำพันถึงเจ้าตัวน้อย...ผมมาลาทุกคนไปดาวแมวแล้วนะครับ หลังจากผมต้องต่อสู้กับโรคร้ายมาสองอาทิตย์กว่าแล้ว แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็ต้องสิ้นสุด
ผมทนความเจ็บต่อไปไม่ไหว ผมควรได้พักสักที แม่ผมสั่งยาจากต่างประเทศมาเพื่อรักษาผม แต่เพราะช่วงโควิด19 ยายังคงเดินทางมาไม่ถึงผมเสียที ผมจึงยังไม่มีโอกาสได้ใช้ ตอนนี้ผมเห็นแม่ผมร้องไห้ทุกวัน ผมอยากจะบอกแม่ว่า ให้คิดถึงผมและหยุดร้องไห้ได้แล้ว...
ถูกเขาเอาน้ำฉีดไล่ไสส่ง ด้วยเป็นจรไร้ที่อยู่อาศัย อาหารก็กินไม่ได้เพราะถูกน้ำฉีดไล่ใส่ทุกวัน
ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้หลายๆชีวิตต้องอยู่อย่างดิ้นรนต่อสู้ อีกทั้งถ้าเป็นจรไม่มีแม้ข้าวหรืออาหารจะตกถึงท้องในแต่ละวันยิ่งแล้วซ้ำ ถ้าเกิดพบเจอคนไม่ดีที่ไม่ชอบยิ่งแล้วใหญ่จะไปทางไหนมาไหนเขาก็รังเกียจ แค่ลำพังจะให้รอดในแต่ละวันก็หนักพอแล้ว
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sakaowrut Sonklung ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เธอพบน้องเข้า โดยน้องแมวอาศัยอยู่ในที่ส่วนบุคคลที่ห้ามให้อาหารสัตว์ ซึ่งเธอหมายเหตุเอาไว้ว่าเราก็ไม่เห็นว่าป้ายมีห้ามเอาไว้แต่อย่างใด เธอจึงได้นำอาหารมาให้น้องกิน
เพราะด้วยความสงสาร แต่ทว่าเมื่อได้เห็นน้องกินไปสักพักเมื่อเธอหันหลังไปก็มีคนเอาน้ำมาฉีดรถต้นไม้ แต่มันกลับโดนอาหารที่เธอได้ให้น้องเอาไว้จนเปียกโซกอีกทั้งยังโดนน้องแมวอีกด้วย แต่ทว่าก็ยังโชคดีที่น้องได้กินจนเกือบหมดแล้ว เมื่อเธอได้เดินไปเก็บจาน
เขาก็ยังฉีดน้ำกระเด็นใส่เธอจนเปียกแล้วกลับมาพูดว่า "ตรงนี้หา้มให้อาหารแมวนะครับ" แล้วเขาก็ฉีดน้ำใส่ต้นไม้เหมือนกับไล่น้องอีก ซึ่งเธอนั้นทำอะไรไม่ได้เลยเธอไม่สามารถช่วยน้องได้เลย เธอทำได้เพียงแค่ยืนร้องไห้ด้วยใจจะขาด ซึ่งทั้งนี้เองเธอได้ลงพิกัดเอาไว้ที่ Diamond Bangkok โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sakaowrut Sonklung
แอบอาศัยในตรอกแคบๆ หลังติดอยู่ในท่อระบายน้ำ โผล่หน้าออกมาส่งเสียงร้องหวังให้ช่วยเหลือหนูที
ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้หลายๆชีวิตต้องดิ้นรนต่อสู้กับสิ่งที่ตนได้พบเจอในแต่ละวัน ยิ่งถ้าเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์จรแล้วยิ่งใหญ่ต้องทนใช้ชีวิตให้อยู่รอดต่อความยากลำบากในแต่ละวัน เพราะด้วยเกิดมาไม่มีปากไม่มีเสียงที่จะพูดบอกใครเขาได้จึ่งได้แต่ทนใช้ชีวิตตามมีตามเกิด
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tanatcha Lueprasert ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้หลังจากที่ได้พบน้องพลัดกับผู้เป็นแม่มาได้สี่เดือนแล้ว ซึ่งน้องอายุเพียงแค่ 4-5 เดือนเพียงเท่านั้น ซึ่งตัวก็ยังคงเล็กมากๆ โดยน้องก็ได้แอบอาศัยอยู่ในตรอกแคบๆหลังตึก
และได้แต่วิ่งหาเศษอาหารกินจนกระทั่งเมื่อ 3 วันก่อนน้องได้หายออกไปจากหลังตึก โดยที่แท้น้องหลุดเข้าไปในท่อระบายน้ำและมาโผล่หน้าขอความช่วยเหลือจากมนุษย์อยู่ที่หน้าท้องถนนเพราะหาทางออกไม่ได้ โดยในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มาช่วยงัดเปิดท่อให้และช่วยน้องออกได้อย่างปลอดภัย และทางผู้โพสต์จึงได้นำน้องมาไว้ในความดูแลก่อนแต่ทว่าก็สามารถจะดูแลน้องได้เป็นชั่วคราวเพียงเท่านั้น และหากไม่สามารถที่จะหาบ้านให้น้องได้ผู้โพสต์ก็จะนำน้องไปปล่อยเอาไว้ที่เดิม
โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงแค่บ้านที่อบอุ่นให้กับน้องได้อยู่อาศัยไม่ต้องแอบอาศัยอยู่แบบหลบๆซ่อนๆแค่หวังให้ที่ปลอดภัยมีกินไม่ต้องอดเพียงเท่านั้นก็เกินพอ ซึ่งน้องเป็นแมวเพศเมียอายุได้ 4-5 เดือนและสามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tanatcha Lueprasert
ร้องสุดเสียงอ้อนวอนขออาหารจากคนที่เดินผ่านไปมา หวังแค่เพียงให้ลูกในท้องได้อิ่ม หลังจากถูกนำมาปล่อยเอาไว้
หากเราจะพูดถึงหัวอกของผู้เป็นแม่แล้ว เชื่อว่าใครๆก็คงจะเข้าใจความหมายของคำคำนี้ดีอยู่แล้ว ซึ่งขึ้นชื่อว่าแม่ก็สามารถที่จะยอมทำทุกอย่างได้เพื่อลูกเสมอ ไม่ว่าจะต้องเสียสละให้ตัวเองยากลำบากมากแค่ไหนแม่ก็ย่อมที่จะทำให้กับลูกได้เสมอเพราะด้วยความรักของแม่ที่ยิ่งใหญ่
เช่กเช่นเดียวกลับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Su Pas ได้่นำเรื่องราวมาโพสต์ลงยังกลุ่ม ทาสแมวจร หาบ้าน ช่วยเหลือแมวจรเจ็บป่วยด้อยโอกาส หลังจากที่เธอได้ไปสวนจตุจักรมาและได้ยินเสียงน้องร้องดังมาก ซึ่งมีแต่คนมองแต่กลับไม่มีคนสน ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้มีอะไรติดมือมาด้วย
เธอจึงบอกกับเพื่อนของเธอว่าให้รอตรงนี้เดี๋ยวจะไปซื้ออาหารมาให้น้องก่อน ซึ่งเธอจึงเดินย้อนกลับไปที่ร้านขายอาหารสัตว์ในสวนจตุจักรที่อยู่ไกลมาก และถ้าเดินไปกลับก็จะเหนื่อยมากแต่เธอก็เลือกที่จะเดินกลับไป เพราะสิ่งที่เธอได้เห็นทำให้เธอมีความสุขเพราะน้องได้อิ่มท้อง
โดยน้องแมวเป็นแมวพันธุ์วิเชียรมาศที่สวยมาก น้องท้องแก่และใกล้จะคลอด เธอสงสารเธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่มนี้เผื่อว่าจะมีเพื่อนๆที่เมตตาอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยง ซึ่งน่าน่าจะถูกคนเอามาปล่อยเอาไว้เพราะน้องท้องแก่ด้วย อีกทั้งยังเป็นวิเชียรมาสที่ตาเป็นสีฟ้าสวยมากๆ
ซึ่งทั้งนี้เธอยังได้มาอัพเดทอีกด้วยว่าน้องนอนในพุ่มไม้และในพุ่มไม้ตรงนั้นก็ยังมีแมวอีกหลายตัว โดยหากเพื่อนๆสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปที่ต้นโพสต์ได้เลยะนะคะ เพราะด้วยความเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ขอให้เพียงได้อิ่มท้องเพื่อลูกในท้องจะได้เติบใหญ่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Su Pas
เจ้าของชั่งใจปล่อยไซบีเรียนไว้กับทุเรียน หลังจากซื้อมาจากตลาดกะกลับบ้านจะกวาดให้เรียบ
หากเราจะพูดถึงสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ หลายๆคนก็อาจจะรู้จักฤิทธิ์เดชของสุนัขสายพันธุ์นี้กันดีว่าด้วยเรื่องของความแสบและซนแล้วนาทีนี้คงจะไม่มีสุนัขพันธุ์ไหนๆมาเทียบเคียง ยิ่งแล้วใหญ่หากบ้านไหนจะเรียกก็อาจจะถึงขนาดต้องเตรียมบ้านใหม่กันเลยทีเดียว
เพราะด้วยอุปนิสัยของไซบีเรียนฮัสกี้แล้วเป็นสุนัขที่แสนจะอยากรู้อยากเห็นและฉลาด (หรือป่าว) ซึ่งถ้าเคยได้สัมผัสแล้วก็จะพบว่าถ้าปล่อยให้หลุดไปถึงไหนถึงกันตีสามสีห้าก็ยังไม่เข้าบ้านเพราะจำทางกลับบ้านไม่ได้ ด้วยเพราะได้เห็นโลกใหม่ๆอะไรๆก็หน้าตื่นตาตื่นใจไปแทบหมด
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ได้โพสตบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าไซสุดแสบของเขาลงในกลุ่ม siAgain I Like Husky คนรักไซบีเรียนฮัสกี้ original หลังจากที่วันนั้นเขาตั้งใจไปตลาดและได้พบกับทุเรียนที่สุกกำลังน่ากินจึงได้ซื้อมาด้วยความภาคภูมิใจเพราะด้วยความหอมและราคาที่ไม่สูงนัก
จึงกะว่าในเย็นวันนี้จะกลับมากวาดกินซะให้เรียบ แต่เมื่อเขาได้กลับมาบ้านได้เห็นสิ่งที่ทำให้เขานั้นน้ำตาไหลออกมา เพราะทุเรียนที่เขาได้ซื้อมาถูกลูกของเขานั่นก็คือเจ้าไซ แกะให้เป็นที่เรียบร้อยเรียกได้ว่าช่างเป็นภาพที่ซึ้งใจซะเหลือเกินใครจะไปคิดกันละว่าเลี้ยงหมาแล้วหมาจะฉลาดปลอกทุกเรียนให้พ่อกินแบบนี้
แต่ทว่าสิ่งที่พวกเจ้าไซใช้ปลอกนั่นก็คือฟันของพวกเขา ใช่แล้วแหละฟังไม่ผิดเพราะทุเรียนที่พ่อได้ซื้อมาด้วยความภาคภูมิใจที่กะว่าจะกินให้หนำใจนักกลับถูกเจ้าไซแทะซะจนเหลือแต่เปลือกไม่เหลือข้างในไว้ให้เลย โดยทั้งนี้จึงได้นำเรื่องราวมาแบ่งปันให้ฟังว่าถ้าใครเกิดเป็นโรคซึมเศร้าแล้วแนะนำให้เลี้ยงไซเพราะชีวิตของคุณจะหาความสงบสุขไม่ได้อีกเลย ฮาๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ปิยวัฒน์ มุดม่วง
ถูกเขาเอามาปล่อยไว้เกาะกลางถนน ไม่รู้ว่าแม่ของตนนั้นอยู่ไหน ส่งเสียงร้องแทบขาดใจเมื่อไหร่แม่จะกลับมา
เพราะด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ให้หลายๆชีวิตนั้นต้องอยู่อย่างทนทุกข์ แม้ว่าเพิ่งจะได้เกิดมาลืมตาเพียงไม่นานแต่ก็กลับถูกเขาพรากจากอกแม่มาโดยเหมือนว่าไม่มีหัวจิตหัวใจ ไร้เรี่ยวแรงจะเดินต่อ ไหนจะต้องปกป้องตัวเองบนโลกใบใหญ่ ซ้ำจะเดินตามหาใครเพราะไม่มีที่ไหนปลอดภัยเท่าอกแม่เรา
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Witchayada Yuwawat ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่ตนได้เจอเจ้าเหมียวเหล่านี้หลังพบเจ้าเหมียวตัวน้อยถูกนำมาปล่อยเอาไว้เกาะกลางถนน ซึ่งเธอได้พบพวกน้องๆเข้าหลังจากที่ได้เดินกลับจากคอนโดแล้วได้ยินเสียงน้องแมวร้องจากเกาะกลาง
ซึ่งคนขายไก่ทอดที่อยู่หน้าคอนโดของเธอก็กำลังจะข้ามมาดูพอดีเธอก็เลยข้ามตามมาด้วย โดยคนขายไก่ได้บอกว่าเพิ่งจะได้ยินเมื่อตอนเวลา 1 ทุ่มของวันนี้ คาดว่าน่าจะถูกคนนำมาปล่อยเอาไว้ ซึ่งก็ใจร้ายเอามากๆเพราะเอาน้องมาปล่อยเอาไว้เกาะกลางถนนด้วยพวกน้องๆก็ยังเล็ก
และไม่รู้ประสีประสาแค่เดินออกมาก็สามารถสิ้นใจได้แล้ว หรือว่าเขาต้องการจะให้พวกหนูสิ้นใจทำไมถึงทำกันได้ลงคอ โดยเธอก็ได้เล่าอีกด้วยว่าน้องพยายามที่จะวิ่งออกมาจะลงมาที่ถนนเพราะด้วยความเป็นเด็กและยังไม่รู้เรื่อง เธอทำอะไรไม่ถูกจึงต้องหอบทั้ง 4 ตัวและวิ่งข้ามถนนมา
และเดินไปขอลังกระดาษที่เซเว่นพร้อมกับซือนมแพะสำหรับเด็กๆ แต่เธอเองก็สามารถที่จะดูแลพวกหนูๆได้แค่ 4 วันเพียงเท่านั้นเพราะในวันที่ 9 เธอต้องไปต่างจังหวัดหลายวัน...