เขาปิดกิจการแต่กลับไม่ต้องการ ปล่อยพวกหนูไว้ไม่มีแม้ที่หลบแดดหลบฝนใดๆ ด้วยชีวิตที่ใครจะเมตตา

ด้วยการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นก็เหมือนการที่เรานำเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยงดู ซึ่งจะทำให้เกิดผลที่ตามมานอกจากเราจะได้ความรักและความสุขกับพวกเขานั่นก็คือภาระที่จะต้องเลี้ยงดูพวกเขาไปจนกว่าจะสิ้นลม ซึ่งหากเราไม่เตรียมซึ่งความพร้อมแล้วผลที่จะตามมาก็คือปัญหาของการที่พวกเขาต้องอยู่อย่างเร่ร่อน เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Karanchida Ketchutr ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวเหล่านี้เมื่อเขานั้นได้ไปพบกับพวกเจ้าเหมียวถูกเจ้าของเก่าเทเนื่องจากปิดกิจการ โดยพวกน้องๆมีแมวท้องแก้ใกล้คลอดอยู่สองตัว และไม่มีแม้ที่หลบแดดหลบฝนใดๆเพราะสถานที่น้องๆได้เคยอยู่นั้นปิดกิจการไปและถูกทุบรื้อถอน ทำให้พวกน้องๆต้องทนอยู่กันตามยถากรรมที่เป็นมา โดยบางวันวันไหนโชคดีก็ได้อิ่มวันไหนไม่มีใครผ่านไปผ่านมามาเห็นก็จำต้องอด และด้วยตัวของเธอเองนั้นก็สามารถนำอาหารไปให้น้องแค่เพียงบางวันเพียงเท่านั้น แถมยังนานๆครั้งเพราะเธอเองก็ไม่สะดวกที่จะนำอาหารมาให้กับน้องๆแต่ก็ด้วยความสงสารจึงยากเย็นมากแค่ไหนก็ต้องทนมา ซึ่งเธอก็ได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ รามอินทรา ซึ่งเธอเองก็ได้ย้ำว่าถ้าใครอยากที่จะรู้จักเส้นทางก็ให้ติดต่อกลับเธอได้เลย อีกทั้งเธอยังบอกเอาไว้ว่าในแถวบริเวณนั้นมีคนใจร้ายที่คอยจ้องจะเอาชีวิตพวกน้องๆอีกด้วย จึงอยากจะรีบหาบ้านให้กับพวกน้องๆอย่างเร็วที่สุด โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์น้องๆต้องอยู่กันอย่างอดๆอยากเพราะด้วยมีกันหลายตัว ขอขอบคุณข้อมลจาก Karanchida Ketchutr

หนุ่มโพสต์ภาพแรกกับภาพสุดท้าย ของเจ้าเหมียวพันธุ์ไทยวิเชียรมาศที่เขาได้รับมาเลี้ยง

หากเพื่อนๆที่ได้เป็นทาสแมวแล้วก็จะรู้จักกันดีกับเจ้าเหมียวสายพันธุ์ไทยอย่างแมว วิเชียรมาศ ที่เป็นแมวไทยชนิดแรกๆที่ชาวต่างชาตินั้นรู้จักและตั้งชื่อให้กับน้องว่า Siamese Cat หรือว่าแมวสยาม ซึ่งเป็นแมวไทยต้นตระกูลที่ได้นำไปปรับปรุงพันธุ์แมวไทยอีกหลายสายพันธุ์ โดยที่เจ้า่เหมียวพันธุ์วิเชียรมาศนั้นเป้นแมวไทยที่ถูกจารึกลงในสมุดข่อยและถูกยกย่องให้เป็นแมวที่ให้โชคลาภ ด้วยเชื่อว่าถ้าใครเลี้ยงไว้จะได้เป็นขุนนางใหญ่โต ซึ่งชื่อของแมววิเชียรมาศนั้นก็มีความหมายอีกด้วยว่า เพชรแห่งดวงจันทร์หรือ Moon Diamond หรือในบางตำราเองก็เรียกว่าแมวแก้ว แต่ทว่าบางคนนั้นก็อาจจะไม่รู้ความลับของเจ้าเหมียวสายพันธุ์นี้เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้แฟนเพจรายหนึ่งได้โพสต์รูปเจ้าเหมียวพันธุ์วิเชียรมาศ ที่ได้มีสีอ่อนและน่ารักเมื่อยามเด็กแต่เมื่อแฟนเพจดังกล่าวบอกให้กลับไปดูรูปสุดท้ายสิ่งที่ได้ก็ทำให้หลายๆคนงง ด้วยแมวสายพันธุ์นี้อาจจะเปลี่ยนสีได้เพราะเมื่อในตอนเด็กสีที่หน้าของน้องก็มีสีอ่อนที่สดใสดูแล้วก็ออกจากน่ารัก แต่เมื่อโตมาเจ้าเหมียวตัวนี้ก็กลับมีสีหน้าที่เข้มดำปิ๊ดราวกับว่าน้องนั้นไปตากแดดเมืองไทยมามากไปจนทำให้หน้าดำเพราะโดยรังสียูวี หรือว่าจะลืมทากันแดด โดยทางแฟนเพจเองก็ยังได้ระบุข้อความข้างต้นเอาไว้ด้วยว่า ภาพแรกและภาพสุดท้ายตัวเดียวกัน ซึ่งเมื่อหลายๆคนได้เห็นเช่นนั้นก็งงกันหมด แต่เพื่อนๆหลายๆคนเองก็ได้มายืนยันนอนยันเป็นเสียงเดียวกันอีกด้วยว่าแมวที่บ้านของเขาเองก็เป็นพันธุ์วิเชียรมาศและเมื่อได้โตขึ้นสีของพวกเขาก็เข้มขึ้น เหมือนกับเจ้าเหมียวรายนี้ไม่มีผิด โดยทั้งนี้เองก็ยังเคยมีข่าวจากเว็บต่างประเทศอีกด้วยว่ามีหนุ่มรายหนึ่งพาแมวของเขาเองไปพบแพทย์ซึ่งเป็นแมวพันธุ์วิเชียรมาศ เพราะด้วยน้องนั้นมีสีหน้าที่เข้มขึ้นจนทำให้ผู้เป็นเจ้าของรายนั้นคิดว่าน้องแมวของเขาป่วย เขาจึงตัดสินใจพาน้องไปหาหมอและด้วยคำตอบที่ได้มาคุณหมอเองก็ได้บอกว่าแมวพันธุ์นี้สามารถเปลี่ยนสีได้ตามความอบอุ่นของสภาพอากาศเมื่อเข้าหน้าหนาวสีขนของพวกเขาก็จะเข้มขึ้นเป็นเรื่องปกติ ด้วยทั้งนี้เองก็ถือเป็นความรู้ใหม่สำหรับทาสแมวมือใหม่อย่างเราๆ ขอขอบคุณข้อมูลจาก JolieTwins

ถูกเขาเอามาเทกลางป่ารกยกครัวไม่รู้ตัวว่าตนอยู่หนไหน แต่หน้าที่แม่ก็ปกป้องลูกสุดใจจะอยู่ไหนแม่ก็ยอมพร้อมดูแล

เพราะทุกๆครั้งที่เราคอยบอกกับเพื่อนๆว่าการนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงก็เหมือนกับการรับเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยง เพราะสิ่งที่จะตามมาคือหน้าที่ที่เราจะต้องรักและดูแลพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะสิ้นใจ ซึ่งหากว่าเพื่อนๆไม่เตรียมความพร้อมกันแล้วปัญหาเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ก็จะเกิดขึ้น เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pandaa Diiz ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยๆสีส้มครอบครัวนี้หลังจากที่น้องถูกเจ้าของเก่านำมาเทเอาไว้ยกครอบครัว โดยที่ไม่กลัวหรือไม่ห่วงเรื่องความเป็นอยู่หรือการมีชีวิตรอด ซึ่งในบริเวณดังกล่าวนั้นก็เป็นถนนที่มีแต่ป่าค่อนข้างรก ซึ่งเธอเองก็กลัวว่าจะโดนไอ้เหลือมแถวนั้นซัดจนไม่เหลือ อีกด้วยน้องๆก็ยังคงเล็กกันมากๆโดยน้องๆทั้งหมดมีกัน 7 ชีวิตซึ่งมีผู้เป็นแม่แมวที่คอยเฝ้าอยู่กับเด็กๆไม่ห่างและซึ่งในใจแม่เองก็คงจะรู้ดีว่าถูกเขาเอามาเทไว้เสียแล้วแต่ก็ยังต้องทำตัวเข้มแข็งเพื่อที่จะปกป้องดวงใจดวงน้อยๆของแม่นี้ โดยทั้งนี้เองเธอจึงได้นำเรื่องราวของครอบครัวตัวส้มนี้มาลงยังโลกออนไลน์เพื่อที่จะรีบหาบ้านให้กับน้องๆ ด้วยกลัวว่าน้องๆจะไม่รอดพ้นไปได้ไม่กี่วัน ซึ่งเธอยังได้ถ่ายรูปบริเวณที่น้องอยู่ว่าด้วยมีสัตว์เลื้อยคลานมากมายอาศัย และความเป็นห่วงน้องๆอย่างสุดใจมีบ้านไหนพอจะรับน้องได้ที ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นที่จะสามารถดูแลพวกเขาให้เติบใหญ่และขอเป็นหลังสุดท้ายที่จะใช้ชีวิตไม่ต้องมาถูกเอามาไว้ให้อดทนใช้ชีวิตเร่ร่อนอย่างนี้อีก และหากเป็นไปได้ก็อยากจะให้บ้านที่สามารถรับได้ทั้งครอบครัวเพราะคงจะไม่มีแม่คนไหนน้ำตาไม่ตกในหากลูกต้องจากไปจากอ้อมอกตัวแม่เอง ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pandaa Diiz และชมคลิป https://www.facebook.com/pandaa.diiz/videos/954996074965951/

สาวได้แต่โทษตัวเอง หลังแมวที่เลี้ยงไว้จำยอมให้ถูกมดงับทั้งวันเพราะไม่สามารถลุกหนีไปไหนได้

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Napaporn Jitbanjong‎ ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ ในวันดังกล่าวนั้นเองเธอเองรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก และเธอก็ได้แต่โทษตัวเองที่ปล่อยให้มดงับน้องแมวของเธอ เพราะน้องแมวของเธอไม่สามารถขยับไปไหนได้ด้วยน้องเป็นแมวที่ขยับไปไหนมาไหนไม่ได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า กลับมาจากที่ทำงานอิแม่ลมแทบจับ แม่ขอโทษที่นะลูกเอ้ยที่แม่ดูแลหนูไม่ดีพอ โกรธตัวเองเป็นที่สุด วันนี้มดงับลูกสาวทั้งๆที่ลูกไม่สามารถลุกหนีไปไหนได้ น้องนอนให้มดมันงับโดยที่น้องได้แต่นอนนิ่งเฉยๆ หนูคงเจ็บมากใช่มั้ยลูกเอ้ย แม่ก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าหนูเลยนะมาลีเอ้ย... เวรกรรมอะไรของหนูนะถึงได้เป็นแบบนี้ด้วย แม่ขอโทษจริงๆรู้สึกผิด มากๆ สงสารมาลีที่สุดเลยลูก เพิ่มเติมนะคะน้องเป็นไรเข้าหูเข้าถึงระบบประสาทและสมองค่ะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นอัมพาตค่ะนอนเป็นผักไม่สามารถลุกไปไหนมาไหนได้ แม่หมดปัญญารักษาน้องแล้วค่ะ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในกลุ่มทาสแมว ชาวเน็ตในกลุ่มต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวให้กำลังใจกับสาวทาสแมวรายดังกล่าวพร้อมส่งกำลังใจให้กับเธอ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยเธอทำเต็มที่แล้ว แค่การดูแลรักษาน้องก็ยากยิ่งแล้ว ชาวเน็ตต่างให้คำแนะนำเกี่ยวกับมดและแมลงต่างๆ ลองใช้ผงไล่มดโรยตรงบริเวณที่น้องนอนอยู่ก็อาจช่วยได้นะเพราะมดจะไม่กล้าเดินเข้ามาใกล้...

แอบอาศัยบนหลังคาด้วยไร้ที่ ด้วยแม่นี้ไม่มีเหมือนใครเขา ด้วยไม่มีแม้ที่หลบแดดหลบฝนยามบรรเทา

หากเราจะเอื้อนเอ่ยถึงความเป็นแม่เชื่อได้ว่าทุกคนคงจะรู้จักกับคำคำนี้ดี ด้วยความรักที่แสนจะยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเขาจะมาเทียบได้ แม่ยอมสละเสียตัวเองแทนแม่ก็ยอมทำให้ได้เพื่อให้ลูกนั้นได้อยู่อย่างสุขสบาย ไม่ว่าแม้ตัวแม่เองนั้นจะต้องยากลำบากมากเพียงใดก็ตามแต่ เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Aon Ja ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของความเป็นแม่นี้ลงในกลุ่ม หาบ้านน้องหมาน้องแมว หลังจากที่เธอได้ผ่านในแถวนั้นก็ได้พบเห็นแม่แมวกับลูกแมวตัวน้อยๆ 4 ตัวนอนอยู่บนหลังคาซึ่งเป็นร้านค้าในซอยธนิยะสีลม กรุงเทพ ซึ่งน้องๆมักจะขึ้นๆลงๆอยู่ใต้หลังตาสีเขียว แต่ทว่าน้องแมวตัวน้อยก็น่าจะไม่สามารถลงไปหาอะไรกินเองได้ เพราะถ้ามองจากถนนขึ้นมาด้านล่างก็จะมองไม่เห็นน้องก็คงจะต้องอดด้วยเพราะไร้คนจะช่วยเหลือ แต่ทว่าการที่น้องๆได้ขึ้นไปอยู่แบบนั้นก็คาดว่าน่าจะเกิดจากแม่แมวเป็นผู้นำพาขึ้นไป ด้วยคำนึงถึงความปลอดภัยที่แม่แมวจรนั้นจะสามารถหาให้กับลูกได้จึงทำได้เพียงแค่ให้อยู่บนนี้หวังปลอดภัย ด้วยแม้ไร้จะหลบแดดหลบฝนก็ทนยอม ซึ่งเธอจึงอยากจะฝากถึงเพื่อนๆที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวที่ได้ผ่านไปมาหวังให้อาหารกับน้องหรือมีใครที่พอจะช่วยเหลือได้ก็วอนช่วยเหลือน้องที ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนอยากที่จะรับน้องไปดูแลก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์เพื่อที่จะสอบถามเพิ่มเติม ขอขอบคุณข้อมูลจาก Aon Ja

ถูกเขาโยนออกมาจากไซต์ก่อสร้าง เดินขาลากขากระเผลกหลบใต้ต้นไม้ใหญ่ ด้วยชีวิตที่ไร้คนต้องการ

ด้วยชีวิตที่ไร้คนต้องการเหมือนอย่างใครๆ ทำให้หลายชีวิตนั้นต้องเกิดมาอย่างไร้ค่าใช้ชีวิตตามมีตามเกิดแต่ในบางครั้งมนุษย์นั้นก็เป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัวและมองเห็นชีวิตน้อยๆไม่มีค่าอะไร ทำให้หลายชีวิตอาจจะต้องจบชีวิตไปด้วยไม่มีใครเขาต้องการ เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Arannee Watanateerakul‎ ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวส้มตัวน้อยนี้มาโพสต์ลงยังแฟนเพจ มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร หลังจากที่เธอได้พบน้องเหมียวตัวส้มนี้ถูกผู้คนใจร้ายโยนออกมาจากไซต์งานก่อสร้างแบบไม่เหลียวแลว่ามีชีวิต ซึ่งน้องก็ได้เดินลากขาเนื้อตัวเปียกโคลนออกมาด้วยความเจ็บ และแอบมานอนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยไร้แม้สิ้นหวัง เพราะชีวิตที่เลือกจะเกิดไม่ได้เพียงแค่ขออยู่อาศัยเขาก็ไม่ให้แถมยังกระทำขับไล่ออกมา อาจจะด้วยเขตในพื้นที่ก่อสร้างทำให้ต้องมีเครื่องมือต่างๆ เขาจึงไล่มาได้ลง เธอจึงได้ถ่ายรูปพร้อมกับแนบเรื่องราวมาลงในแฟนเพจดังกล่าวเพื่อที่จะร้องขอความช่วยเหลือ เพราะในบริเวณดังกล่าวตั้งอยู่ที่ สีลมซอย 9 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งน้องได้แอบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมถนน หากมีสุนัขจรผ่านมาก็ไม่มีที่ให้หนีได้เลย จึงอยากจะให้ใครสักคนเข้าช่วยเหลือน้องที ด้วยชีวิตน้อยๆที่ยังเหลือรอดและแววตาที่น่าสงสารนี้พอจะมีใครมีที่ว่างที่บ้านเหลือบ้างขอให้ได้อยู่ได้อาศัยกินวันละมื้อสองมื้อไม่สร้างความลำบากใจก็รบกวนช่วยเหลือหน่อย โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะเข้าช่วยเหลือน้องอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Arannee Watanateerakul‎ 

กระโดดขึ้นรถไม่ยอมลง ขอติดรถไปส่งของด้วย หลังพลัดหลงมากว่าจะลงได้เล่นต้องแอบวิ่งหนีขึ้นรถเลยทีเดียว

หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงสุนัขแล้วก็คงจะทราบและเข้าใจกันดีถึงความแสนรู้แสนฉลาดของพวกเขา ว่าพวกเขานั้นฉลาดและรักผู้เป็นเจ้าของมากแค่ไหนเพราะด้วยความซื่อสัตย์ที่เขาได้มีทำให้สุนัขในบางตัวนั้นสามารถมีผู้เป็นเจ้าของได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เราจึงมักจะบอกกับเพื่อนๆว่าให้เลี้ยงพวกเขาในระบบปิด เพื่อที่จะไม่เป็นปัญหาเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thammawiset Normal ได้โพสต์เล่าเรื่องราวเจ้าตูบรายนี้ ด้วยตัวเขาเองนั้นเป็นพนักงานขับรถส่งของบริษัทสีชมพู แต่ทว่าเขาก็กลับได้พบเจ้าตูบรายนี้มากระโดดขึ้นรถของเขาและไม่ยอมที่จะลง เขาจึงต้องตัดสินใจเอาเจ้าตูบขับรถไปส่งของร่วมกับเขาด้วยทั่วเคหะยัน ซึ่งไม่ว่านานแค่ไหนก็ตามเจ้าตูบก็ยังไม่ยอมที่จะลงไปอยู่ดี โดยเจ้าตูบนั้นได้ขึ้นมาตั้งแต่จากกลางตลาดและในตอนนี้เขาก็ไปส่งน้องเอาไว้ตรงกลางตลาดเหมือนเดิม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของจึงอยากวอนให้กลับมารับน้อง เพราะด้วยจากน้องน่าจะเป็นสุนัขที่ถูกเลี้ยงดูมาเพราะพูดรู้เรื่องและขี้อ้อน อีกทั้งยังดูเหมือนกับว่าน้องกำลังตามหาผู้เป็นเจ้าของ แถมกว่าที่เขาจะเอาน้องลงจากรถมาได้ก็ต้องแอบวิ่งหนีขึ้นรถเหงื่อตกเลย แถมน้องยังได้รับบาดเจ็บที่เท้าอีกด้วย ซึ่งเขาจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ยังกลุ่ม เคหะร่มเกล้า เคหะชุมชนร่มเกล้า บ้านเอื้ออาทรร่มเกล้า ซื้อขายของเคหะร่มเกล้า เผื่อว่าใครที่พอจะรู้จักกับเจ้าตูบหรือผู้เป็นเจ้าของน้องก็อยากที่จะให้ไปรับน้องกลับที และไม่รู้ว่าป่านนี้น้องจะเป็นอย่างไรบ้างคงจะคิดถึงผู้เป็นเจ้าของแย่แล้ว และหากเพื่อนๆคนไหนรู้จักเจ้าตูบรายนี้ก็สามารถไปติดต่อได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Thammawiset Normal

จากผู้ที่บอกว่าเอามาเลี้ยงทำไมให้เป็นภาระ เลี้ยงทำไมให้ปวดหัว คำพูดเหล่านั้นหายเข้ากลีบเมฆไปหมดแล้ว

หากเพื่อนๆบ้านไหนที่เคยอยากที่จะเลี้ยงแมวแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นไม่อยากที่จะให้เลี้ยง ก็คงจะเคยประสบกับปัญหาที่ว่าจะเอามาเลี้ยงทำไมให้เป็นภาระ หรือจะเอามาเลี้ยงทำไมให้ปวดหัวจะไปไหนมาไหนก็ไปไม่ได้เพราะต้องมานั่งดูแล หรือหนักที่สุดก็คือไม่ชอบและไม่รักสัตว์เลี้ยงก็มี เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ชื่อว่า กษมา ปัญโญนันท์ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของคุณแม่ของเธอหลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอเคยพูดบอกกับแม่ว่าเธอจะนำแมวมาเลี้ยง แต่ทว่าแม่ของเธอกลับบอกว่าจะเอามาเลี้ยงทำไมให้เป็นภาระเพราะด้วยการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงนั้นก็ไม่ต่างจากการที่เราจะต้องดูแลเด็ก ที่มีอายุเพียงแค่ 2 ขวบเพียงเท่านั้นซึ่งแม่ของเธอเองก็ไม่สนับสนุนหรือสนใจอยากที่จะให้เลี้ยงมากสักเท่าไหร่นัก เพราะอาจจะด้วยความเป็นผู้ใหญ่ที่มองว่าการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเล็กๆก็ไม่ได้ต่างจากการเลี้ยงเด็ก แต่เมื่อถึงเวลาที่เธอนั้นได้เอาเจ้าเหมียวตัวนี้เข้ามาเลี้ยงดูแล้ว ความเปลี่ยนแปลงก็ได้ค่อยๆเริ่มที่จะเกิดขึ้น เมื่อได้อยู่ร่วมกันในระยะเวลานานแม่ของเธอก็ค่อยๆที่จะเปิดใจและยอมรับกับสิ่งที่เธอได้เป็นคนเอาเข้ามาในวันนั้น นั่นก็คือชีวิตเล็กที่สร้างทั้งความรักและความผูกพันแม้กระทั่งรอยยิ้มหรือความเสียใจ เธอเองจึงได้มาเล่าเรื่องราวนี้ลงในกลุ่ม แมว เพื่อที่จะบอกเล่าให้กับเพื่อนๆในกลุ่มได้รับชมและเป็นเคสตัวอย่าง โดยภาพที่เธอได้โพสต์ก็เป็นภาพที่คุณแม่ของเธอนั้นกำลังกอดเจ้าเหมียวและอุ้มเจ้าเหมียวเหมือนกับลูกตัวน้อยๆของเธอเอง และได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า แม่ผู้ที่บอกว่าแมวคือภาระ และนี่คือสิ่งที่แม่ของเธอได้กระทำทั้งกอดทั้งหอมข้าวสวยลูกรักของยาย ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเอาไว้ด้วยว่าแมวนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของคนเราได้หากเราได้อยู่กับพวกเขาเพราะหัวใจของพวกเขานั้นเป็นหัวใจที่สุดแสนจะบริสุทธิ์ ขอขอบคุณข้อมูลจาก กษมา ปัญโญนันท์

เดินขากระเผลกหน้าเศร้าขอให้ช่วย ด้วยพลัดหลงหรือถูกเท เจ็บข้อเท้าด้วยเสียใจไม่รู้เจ้าของอยู่ไหนช่วยตามหาที

ด้วยสัตว์หรือสิ่งทีชีวิตตัวน้อยๆ เมื่อเพื่อนๆที่ได้เคยสัมผัสหรือได้เคยเลี้ยงพวกเขาก็จะรู้กันดีว่าพวกเขานั้นก็เหมือนกับเด็กตัวเล็กๆที่ไม่ต่างจากคนเลยแม้แต่น้อย ด้วยความคิดที่มีเทียบเท่ากับเด็กสองขวบเวลาที่ตัวได้เจอปัญหาหรือพบกับความยากลำบากก็มักจะนึกถึงผู้เป็นแม่อยู่เสมอ และก็ไม่ใช่เพียงแค่สุนัขเพียงเท่านั้นแม้แต่แมวเองก็ตามพวกเขาก็มีเหมือนเด็กเช่นเดียวกันอยู่ที่ว่าจะแสดงมุมที่เสียใจให้เราเห็นมากน้อยเพียงใดเท่านั้นเอง เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า น้าม น้าม ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องเข้า ซึ่งน้องนั้นเป็นแมวส้มเป็นแมวจรที่ได้พลัดหลงมา โดยเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าน้องตกรถหรือถูกนำมาเทไว้หรืออย่างใด โดยน้องนั้นหลงมาอยู่ที่บ้านของเธอ ด้วยข้อเท้าหน้าบาดเจ็บเห็นน้องมาอยู่ 2 วันแล้วแต่ก็ไม่สามารถที่จะรับน้องไว้เลี้ยงเองได้ แต่ด้วยการที่น้องเดินขากระเผลกมาขอความช่วยเหลือ พร้อมกับทำสีหน้าสุดอาลัย เธอก็เลยจำเป็นที่จะต้องดูแลน้องเอาไว้ เพราะเธออยู่บ้านแฟนและด้วยพ่อแม่ของแฟนเธอเองไม่ชอบ แมวเธอจึงอย่ากหาบ้านให้กับน้องก่อน เพราะกลัวว่าพ่อแม่แฟนมาเห็นจะนำน้องไปเทไว้ที่อื่น ซึ่งด้วยเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้เธอได้รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เพราะพ่อแม่ของแฟนเธอเคยนำลูกแมวไปเทไว้เช่นเดียวกันเพราะด้วยไม่ชอบพวกเขาเนื่องจากแม่แมวนั้นมาให้กำเนิดลูกจนสุดท้ายลูกแมวเหล่านั้นก็กลับถูกสุนัขเข้ามากระทำจนสิ้นใจ เธอจึงอยากที่จะรีบหาบ้านให้กับน้องก่อนที่พ่อแม่แฟนของเธอจะกลบมาบ้านในวันเสาร์อาทิตย์นี้ โดยน้องนั้นคุ้นกับคนมากและคาดว่าคงมีเจ้าของอย่างแน่นอนอีกทั้งยังอ้อนมากๆ ขอขอบคุณข้อมูลจาก น้าม น้าม และชมคลิป https://www.facebook.com/230495853992903/videos/596573231057724/

แมวนิสัยไม่ดีแถวบ้านชอบไล่ฟัดแมวเด็กที่ไร้ทางสู้ จนสาวทาสแมวทนไม่ไหวถ้าเจอครั้งหน้าแกเจอดีแน่

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Chachipha Phatsakonsirikun ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เธอได้เลี้ยงเอาไว้ โดยแมวของเธอเป็นแมวส้มอายุเพียงไม่กี่เดือน เจ้าแมวส้มของเธอมักถูกแมวตัวใหญ่แถวบ้านเข้ามาฟัด เข้ามาทำให้เจ็บอยู่เสมอ จนสาวเจ้าของโพสต์โกรธมากถ้าเจอกันครั้งหน้าอีกได้เจอดีแน่ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ปกติเราจะโพสต์แต่เรื่องขำขัน แต่พอตอนนี้เราขำไม่ออกเลย จากโพสต์ที่เราเคยโพสต์บอกว่าแมวส้มเราชอบไปนั่งดูแมวสลิดกินข้าวที่หน้าบ้าน แต่แมวเราโดนแมวตัวใหญ่ฟัดมาสองรอบ ครั้งแรกนั้นเราไปต่างจังหวัดเราให้แฟนเป็นคนดู ปกติเวลาเลี้ยงช่วงเช้ากับเย็น เราจะให้น้องเล่นกันหลังบ้านเพราะมีแมวแม่ลูกอ่อนกับลูกนางอีกสามตัวมาขอข้าวกิน เราจะให้นางเล่นด้วยกัน อันนี้น้องเล่นด้วยกันปกติไม่เคยฟัดกัน พอแมวตัวใหญ่เป็นตัวผู้มันไม่มาเห็นคนอยู่มันจะเข้ามาฟัดในทันที ผ่านไปประมาณอาทิตย์นึงน้องเป็นฝีเลยพาไปตรวจกับคุณหมอเอาฝีออก ทำแผลกินยาจนใกล้หายแล้วกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม แต่พอเช้านี้มันมาอีกแล้วเจ้าแมวตัวใหญ่มันมาฟัดอีกรอบ รอบนี้น้องถึงขั้นมีโลหิตออกตรงก้น แล้วก้อซึมไปเหมือนระบมไปทั้งตัวเลยเราสงสารลูกมากๆ ไปถามพี่บ้านข้างๆ เขาบอกแมวตัวนี้เป็นแมวอันธพาลชอบไล่ฟัด แล้วก็ขืนใจแมวตัวเล็กทุกตัวเลย...