สาวพาแมวไปเดินเล่น แต่กลับเจอคำพูดของคนเลี้ยงแมวมาว่าหน้าตาดีแต่เลี้ยงแมวพันธุ์ไทย

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Patumrat Jamfung ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้เจอกับประสบการณ์สุดย่ำแย่ หลังเธอนั้นได้พาแมวไปเดินเล่นยังสถานที่หนึ่ง และเธอนั้นก็ได้พบเจอกับคนเลี้ยงแมวที่พาน้องแมวมาเดินเล่นเช่นเดียวกัน และสาวคนนั้นก็ทักกับเธอมาว่า หน้าตาดีแต่เลี้ยงแมวพันธุ์ไทย? . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ไม่ชอบประโยคที่ว่า “หน้าตาดีแต่เลี้ยงแมวพันธุ์ไทย” ถ้าเลี้ยงให้ดีก็ควรเลี้ยงแมวพันธุ์ดีๆไปเลยเสียดีกว่า แล้วแมวตัวนี้ก็เอาไปให้คนอื่นเลี้ยงไป นี่เหรอคะความคิดของคนที่เลี้ยงแมวด้วยกัน เจอประโยคแบบนี้เข้าไปคืออึ้งไปสักพักเลยค่ะ เลี้ยงแมวไทยแล้วผิดตรงไหนคะ คือผิดตรงที่เป็นแมวพันธุ์ไทยใช่ไหม? นี่คือพาไปเดินเล่นค่ะ แล้วเจอกันเขาก็พาแมวมาเดินเล่นเจอพูดประโยคแบบนี้สตั้นเลยไปเลยค่ะ คือเราเจอประโยคนั้นเข้าไปคือรีบเดินกลับบ้านเลยค่ะ แล้วก็คิดด้วยว่าจะไม่พาไปเดินเล่นแถวนั้นอีกเลย และเธอยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แมวจรก็น่ารักนะคะ พอเวลาไปเดินตลาดไปทำบุญที่วัดแมวจรจะมาเล่นด้วยตลอด นางดูแบบเฟรนลี่กันทุกตัวอยากเก็บมาเลี้ยงที่บ้านมากๆเลยค่ะ ส่วนเจ้าตัวนี้เพิ่งจะเลี้ยงมาได้ประมาณ...

ยังคงคอยหลังพลัดหลงกับเจ้าของ นั่งเฝ้าท่านี้มานานหลายชม.ด้วยใจหวัง ว่าจะเจอเจ้าของกลับมารับตนอีกครั้ง

หากจะเอื้อนเอ่ยถึงความซื่อสัตย์จะคงจะหนีจากใครไปไม่ได้นอกจากสุนัข เพราะถ้าเพื่อนๆที่เคยได้เลี้ยงหรือเคยสัมผัสก็จะรู้จักกับความรักที่พวกเขานั้นมีให้กับเรา เพราะแม้เพียงแค่คุณเคยให้ข้าวให้น้ำเพื่อประทังความหิวพวกเขาก็จะจดจำพวกคุณไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ohm Phattaneeya ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้หลังจากที่เธอได้พบน้องเข้าที่หน้าเซเว่นแถวลาดกระบังในจังหวัดกรุงเทพ ด้วยเธอได้สังเกตเห็นว่าน้องเหมือนว่ากำลังคอยใครสักคนอยู่ เพราะด้วยน้องได้นั่งอยู่อย่างนี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว ซึ่งเธอก็ไม่เคยได้พบเห็นน้องมาก่อนเลยไม่รู้ว่าน้องจะหลุดมาหรือพลัดหลงกับผู้เป็นเจ้าของมา แต่ที่แน่ๆคือน้องไม่ยอมลุกไปไหนแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใดก็ตาม อีกทั้งเธอยังบอกไว้ว่าน้องนั้นมีปลอกคออยู่ด้วย เธอจึงกลัวว่าจะมีใครทำสุนัขหายหรือหลงลืมน้องเอาไว้ เพราะไม่อยากจะคิดไกลว่าถูกใครเขาเอามาเทแล้ว เธอจึงได้มาโพสต์เรื่องราวเพื่อจะตามหาผู้เป็นเจ้าของของน้องเพราะน้องยังคงเฝ้ารอด้วยใจหวังว่าเจ้านายจะกลับมา ซึ่งหากใครที่นำไปเทเอาไว้ก็อยากจะให้เปลี่ยนใจได้เห็นความรักที่เฝ้ารอหาเพื่อว่าจะได้พบกันอีกสักครั้งหนึ่ง ขอขอบคุณข้อมูลจาก Ohm Phattaneeya

ประกาศหาบ้านรูปลักษณะดูน่ารัก เป็นแมวพันธ์เคยเป็นจรไร้ที่อยู่อาศัยแต่ก่อนรับไปช่วยดูสรรพคุณ

ในบางครั้งการที่ถูกเลี้ยงดูมาก็มีผลทำให้บุคคลหรือสัตว์ต่างๆนั้นได้เติบโตมาเป็นในแบบที่ถูกเลี้ยง ดังคำว่าหลายคนเปรียบว่าเด็กนั้นก็เหมือนดังผ้าขาวสะอาด ที่ครอบครัวหรือผู้เป็นพ่อเป็นแม่ได้ใส่เสริมเติมสีให้จนได้เติบใหญ่มาจากการปรุงแต่ง และก็มิใช้เพียงแค่มนุษย์เพียงเท่านั้นแม้แต่สัตว์ก็ไม่ต่าง เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้เมื่อไม่นานมานี้ที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เพทาย ได้ประกาศหาบ้านให้กับน้องแต่ทว่าก็มีเงื่อนไขซึ่งเธอได้ย้ำและกำชับเอาไว้ว่าให้อ่านให้ละเอียด ทว่าน้องนั้นเป็นแมวจรในตอนแรกๆคนแถวนี้ก็เอ็นดูไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่ตามแต่ แต่ตอนนี้กลับมีนิสัยที่ไม่ดีและมีปัญหากับผู้คนแถวนี้ตลอด ด้วยทางเธอเองไม่สามารถี่จะรับเลี้ยงไดเพราะบ้านเธอนั้นก็มีแมวอยู่แล้ว ซึ่งน้องมีชื่อว่า โดนัท อายุไม่ทราบแต่เป็นเพศชาย ไม่เคยไปตรวจโรคใดๆซึ่งเธอก็ขอบ้านที่สามารถจะรับมือกับแมวดุได้น้องเอาแต่ใจน้องขี้หงุดหงิด จับไม่ได้เลยอุ้มไม่ได้เกินเพียงแค่ 2 วิ และงับได้เจ็บมากๆ ถ้าจะจับต้องเกาให้น้อง และขอเป็นบ้านที่ไม่มีแมวอื่นใดๆ เพราะด้วยน้องนั้นดุมากและฟัดแมวแถวนี้สิ้นใจไปหลายตัวแล้ว และนี่ก็คือเหตุผลหลักๆที่เริ่มมีปัญหา เพราะแมวที่น้องไปฟัดส่วนมากเป็นแมวมีเจ้าของและแม้แต่แมวตัวเมียน้องก็ไม่เว้น ฟัดตัวเมียสิ้นใจไปแล้ว 2 ล่าสุดเพิ่งจะไปฟัดกับลูกแมวของคุณลุงแถวนี้ไปอีกยกคอกอีก ซึ่งคุณลุงเองก็โกรธและเสียใจมากๆ และด้วยปกติแล้วคุณลุงเองก็เป็นคนรักแมวมากๆแต่ในตอนนี้ก็ไม่ชอบเจ้าโดนัทมากๆไปแล้ว...

สาวทาสแมวกุมขมับ ด้วยวันนี้วันดีได้ฤกษ์ปลูกบ้าน และในขณะที่เขากำลังทำพิธีเจ้าเหมียวก็อยากมีส่วนร่วม

หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงแมวแล้วก็จะเข้าใจกันดีถึงความอินดี้ที่สุดขั้วของพวกเขา เพราะในความจริงแล้วพวกเขานั้นทั้งฉลาดและแสนรู้แต่ก็อยู่ที่ว่าจะเลือกทำให้พวกเราได้เห็นมากน้อยแค่ไหน ด้วยนิสัยหรือการแสดงออกของแมวนั้นไม่เหมือนกับสุนัข และในบางครั้งมันก็ช่างเกินไปจริงๆ เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า กิตติยา บุญมาก ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวของเธอเองซึ่งในวันนี้วันที่เธอได้ฤกษ์ปลูกบ้านหลังใหม่ ด้วยการที่เราจะปลูกบ้านกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณนั้นก็จะมีพิธีเพื่อที่จะเป็นมิ่งขวัญมงคลแก่บ้านของตน ซึ่งก็แตกต่างกันไปตามภูมิภาคของประเทศไทยเรา และด้วยการที่จะได้ปลูกบ้านหลังใหม่เราก็จะมีการลงเสาเพื่อที่จะเป็นสิริมงคงแก่บ้านหลังนั้นๆ และในวันนี้เธอเองก็ได้เริ่มที่จะทำพิธีปลูกบ้านตามแบบฉบับของภูมิภาคของบ้านเกิดของเธอเอง แต่ทว่าเจ้าเหมียวสุดแซบของเธอทั้งคู่ก็อยากที่จะมีส่วนร่วมในพิธีกรรมในวันที่สำคัญนี้เช่นเดียวกัน เพราะในขณะที่เขาได้เริ่มที่จะทำพิธีกรรมอยู่เจ้าเหมียวตัวแสบทั้งคู่ก็ลงไปอยู่ในหลุมที่เขาได้ขุดเอาไว้ลงเสาเอก อย่างหน้าตาที่ขมักเขม้นเพราะเจ้าตัวแสบทั้งคู่นั้นได้ลงไปเจิมเป็นฤกษ์เปิดให้แก่บ้านหลังนี้ ซึ่งด้วยน้องๆได้ลงไปฉี่เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยอย่างหน้าตาที่จริงจัง จนเธออดที่จะขำไม่ไหวและได้ถ่ายรูปเอาไว้นำมาลงยังกลุ่มทาสแมว Offcial พร้อมกับข้อความระบุไว้ด้วยว่า วัดไหนดีมันใช่เรื่องใช่เวลาไหมเนี้ยเขากำลังทำพิธีกันอยู่นะ และด้วยเมื่อเพื่อนๆได้มาเห็นโพสต์ดังกล่าวก็อดขำและแสดงความคิดเห็นกันไม่ไหวเพราะด้วยสีหน้าและท่าทางของเจ้าเหมียวตัวแสบนี้เอง ทั้งนี้ก็อยากจะฝากไว้ว่าหากเพื่อนๆจะลงเสาบ้านก็อยากจะให้ช่วยเก็บแมวให้ดี ขอขอบคุณข้อมูลจาก กิตติยา บุญมาก  

เขาสั่งเอาไว้ว่าถ้าใครให้อาหารพวกหนูจะต้องถูกไล่ออก เพราะด้วยเป็นเพียงจรที่ไร้ค่า

ด้วยหัวอกคนเป็นแม่แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็แค่อยากให้ลูกได้อิ่มท้องนอนหลับสนิทไม่ต้องทุกข์ทนหรือดิ้นรนต่อสู้กับชีวิตมากนัก เพราะด้วยไม่ว่าจะต้องเสียสละหรือต้องทำอย่างไรก็ตามแต่ก็หวังแค่ให้ลูกได้สุขสบายก็เกินพอ แต่ชีวิตนั้นเลือกเกิดมาไม่ได้จึงทำได้เพียงแค่ดิ้นรนเพื่อที่จะให้หลุดพ้นไปในแต่ละวัน เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า กระหล่ำ ผัดไข่ หลังจากที่เธอได้พบเจอน้องแมวครอบครัวนี้ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ในจังหวัดน่านเมื่อเธอได้ไปเที่ยวยังที่นี้ซึ่งเธอได้บอกไว้ว่าทุกอย่างสำหรับการจัดการเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวดีหมด ยกเว้นแต่เจ้าเหมียวจรครอบครัวนี้ ที่ได้มีคำสั่งเด็ดขาด โดยใครที่ให้อาหารแมวครอบครัวนี้จะถูกไล่ออก ซึ่งที่นี้เองก็มีแมวจรอยู่ค่อนข้างเยอะแต่ละตัวก็น่ารักทั้งนั้น โดยตัวที่เธอได้ถ่ายรูปติดมาอยู่ในจุดชมวิว เห็นครอบครัวนึงมีลูกเล็ก 3 ตัวแอบอาศัยอยู่ในรูและเป็นภาพความสุขสำหรับครอบครัวด้วยแม้จะยากไร้แม้อาหาร แต่ผู้เป็นแม่เองก็ดิ้นรนทำเพื่อลูกอย่างสุดหัวใจด้วยการปกป้องลูกน้อยและเลี้ยงดูลูกน้อยของเขา เธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่อยากจะให้ใครที่มีเมตตารับพวกน้องๆไปดูแล เพราะการที่ต้องอยู่แบบนี้เท่ากับพวกน้องนั้นต้องอดอยาก อีกทั้งสภาพแวดล้อมในป่าก็เต็มไปด้วยอันตราย ที่พวกเด็กๆจะต้องได้พบเจอในแต่ละวัน ซึ่งผู้เป็นแม่นั้นก็คอยปกป้องลูกไม่ยอมห่าง เธอจึงได้มาโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงในกลุ่ม รักหมาแมวจร หาบ้านฟรี ด้วยหวังว่าครอบครัวตัวน้อยๆเหล่านี้จะได้บ้านที่อบอุ่น ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก กระหล่ำ...

เขาเอามาปล่อยไว้ที่โรงเรียนด้วยกลัวจนตัวสั่น ร้องสุดเสียงหาผู้เป็นแม่ ด้วยพวกหนูก็แสนจะกลัวแทบขาดใจ

ด้วยปัญหาที่เรามักจะบอกกับเพื่อนๆเสมอ ว่าด้วยเรื่องของการซึ่งจะนำสัตว์มาเลี้ยงเพราะสิ่งที่ตามมาคือภาระที่เราจะต้องดูแลพวกเขาให้ดี มิเช่นนั้นปัญหาการเลี้ยงในระบบเปิดจนทำให้เกิดเป็นวงจรก็จะตามมาโดยสิ่งที่จะต้องรับกรรมนั้นก็คือสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตน้อยๆที่ได้เกิดมาลืมตาดูโลกเพียงไม่นาน เชกเช่นเดียวกับเจ้าเหมียวตัวน้อยๆเหล่านี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ‎ยูอิ เปาวลี‎ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยๆลงในแฟนเพจ มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องถูกเอามาปล่อยเอาไว้ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดแพร่ ด้วยเพิ่งจะลืมตาดูโลกได้เพียงไม่นานแต่ก็ต้องถูกเขาพรากแม่ไปจากอก และอยู่กันด้วยความกลัวกกกันตัวสั่นเพราะเพียงตัวเองนั้นก็ยังคงเล็กและเด็กมาก ซึ่งน้องทั้งคู่เป็นแมวพันธุ์ขาวมณีซึ่งเป็นแมวไทยที่ทั้งตัวจะมีสีขาวและในตาเป็นสีฟ้าแต่ก็ยังไม่วายถูกเขาเอามาปล่อยไว้อย่างด้วยไร้แม้ความเมตตา เธอจึงได้นำมาโพสต์ไว้ยังแฟนเพจดังกล่าวเพื่อที่จะหวังหาบ้านให้กับเด็กๆ ซึ่งเธอเองก็ไม่สามารถที่จะรับน้องๆไว้ดูแลเองได้เนื่องจากเธอนั้นเป็นนักศึกษาฝึกสอน จึงอยากหาคนในพื้นที่ที่พร้อมจะดูแลด้วยเธอก็ยังได้ระบุพิกัดที่พวกน้องๆได้อยู่กันไว้ที่ อำเภอวังขึ้น จังหวัดแพร่ เพราะด้วยหัวอกแม่ก็คงจะถวิลหาร้องเรียกหาลูกในแก้วตาลูกจ๋าลูกอยู่ไหนแม่ยังคงคอย ทั้งนี้ก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากคิดจะนำพวกเขามาปล่อยเอาไว้แบบนี้ก็อยากจะให้นึกถึงหัวอกเขาหัวอกเราด้วยถ้าเป็นเราคงไม่มีใครอยากจะถูกพรากลูกไปจากอกของตัวแม่เอง ขอขอบคุณข้อมูลจาก ‎ยูอิ เปาวลี‎ 

ต้องทนอยู่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ไร้แม้แรงจะรุกขึ้นยืนหรือจะกินเพื่อมีอยู่ต่อ เพราะด้วยน้ำมือมนุษย์ล้วนๆ

หากเราจะเอ่ยถึงสัตว์ที่เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก ก็คงจะหนีจากไหนไปไม่ได้นอกจากมนุษย์เพราะด้วยมนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์ที่มีสมองและฉลาดจึงมีความเป็นสัตว์ที่เห็นแก่ตัวมากที่ โดยมักจะคำนึงถึงสิ่งที่มีผลประโยชน์กับตัวเองเพียงเท่านั้นโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ตามมาหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสัตว์ชนิดอื่นจะมีมากน้อยเพียงใด แต่ก็ไม่ใช่กับมนุษย์ทุกคนเสมอไปที่มีแต่ความเห็นแก่ตัวหรือไม่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า มูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัขและแมวจรจัด ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนอลาสก้าเหล่านี้ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 48 ชีวิต จากฟาร์มผสมพันธุ์เพื่อที่จะจัดจำหน่าย โดยทิ้งไว้เพียงความปวดร้าวทั้งกายและจิตใจที่ถูกเขาขังเอาไว้เพื่อสนองความอยากได้และความโลภเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินตรา ตามเท่าที่มนุษย์นั้นต้องการกับเสียงร้องที่ไม่มีใครได้ยิน ซึ่งในวันนี้ ป๊อปคอน เป็นสุนัขพ่อพันธุ์ที่หมดสภาพตัวนี้ ที่วันนี้พอจะมีแรงที่จะลุกเดินมีแรงที่จะกินอาหาร จากอาการเจ็บป่วยที่ต้องขาดน้ำขาดอาหารขากการรักษาพยาบาล เพราะด้วยในยามที่เจ็บป่วยก็กลายมาเป็นปัญหาหรือภาระที่ไร้แม้แต่ความเมตตาจะรักษาหรือเยียวยาดูแล โดยในวันนี้น้องก็ได้ฟื้นตัวขึ้นจากอาการเจ็บปวดทั้งกายและใจและเข้มแข็งเพื่อที่จะมีกำลังใจมีชีวิตต่อ เขาจึงอยากที่จะมาแชร์เรื่องราวของมนุษย์ผู้ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเห็นแก่ตัวที่สุดในโลก เพราะแค่เราเห็นสุนัขหรือแมวพันธุ์สวยๆที่ได้มาจากฟารม์ต่างๆแต่ใครเล่าจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังหรือแม้แต่ความเป็นมาว่าพวกเขานั้นต้องผ่านและต้องพบเจอกับอะไรมา จึงอยากจะฝากเอาไว้สำหรับใครๆที่เห็นสุนัขหรือแมวพันธุ์ดีๆและอยากได้ด้วยเบื้องหลังของพวกเขาอาจจะต้องพบเจอกับเรื่องร้ายๆมากมายเลย ขอขอบคุณข้อมูลจาก มูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัขและแมวจรจัด

แอบอาศัยอยู่ที่ใต้บันไดทางเข้า mrt ด้วยวันนี้ยังมีที่อยู่เพราะยังสร้างไม่เสร็จ หิวโซทั้งแม่ลูกแต่ก็ทนอยู่เพราะไม่มีที่ให้ไป

หากในวันนี้ในใจคุณกำลังท้ออยากให้คุณมองออกไปได้เห็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆที่อาศัยอยู่ในรอบๆตัวของคุณ ว่าพวกเขานั้นต้องทนทุกข์ทนลำบากที่จะต้องดิ้นรนเพื่อที่จะให้ตนนั้นมีทางสู้ชีวิตมากมายเพียงใด เพราะด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thunyaporn Chotsiripatch ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวหลังจากที่เขานั้นได้พบเจ้าเหมียวครอบครัวนี้ที่เป็นแมวสีสวาด(แม่แมว) และลูกแมวอีก 2 ตัวสีวิเชียรมาศ 1 ตัวและสีดำขาสีขาวใส่ถุงเท้าทั้ง 4 ข้าง โดยเธอเองก็ไม่ทราบเพศของพวกน้องๆอยากแน่ชัดนัก เพราะไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้ๆได้เนื่องจากมีกรวยล้อมรอบอยู่ ด้วยน้องทั้งสามนั้นน่ารักและสวย แต่ก็น่าจะเพิ่งจะเกิดมาได้ไม่นานนักเพราะเธอก็ไม่เคยได้เห็นน้องๆมาก่อนเลย น้องอาศัยอยู่ที่ใต้บันใดทางเข้า MRT พหลโยธิน ประตูที่ 4 ซึ่งเป็นทางผ่านที่เธอนั้นได้ไปทำงานอยู่เป็นประจำ อยู่แถวห้างยูเนี่ยนมอล ลาดพร้าว กทม...

ถูกเขาเอามาปล่อยไว้พร้อมกับถ้วยใส่น้ำเปล่า หวาดกลัวจนตัวสั่นได้แต่กอดเสาไฟ ด้วยหวังว่าแม่จ๋าจะกลับมาหาหนูที

เพราะด้วยชีวิตของคนเรานั้นเลือกที่จะเกิดไม่ได้ ซึ่งแม้แต่สัตว์ตัวน้อยๆเองก็เช่นเดียวกันแม้ว่าจะต้องเกิดมาพบเจอแต่ความทุกข์แต่สิ่งที่จะทำได้ก็เพียงแค่ก้มหน้าก้มตารับกรรมกับผลกรรมที่มนุษย์นั้นได้กระทำกับพวกเขา โดยแม้แต่เพิ่งจะเกิดมาลืมตาดูโลกไม่นานก็ตาม เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Eve Panida ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยทั้งสองตัวนี้หลังจากที่เธอได้พบน้องถูกคนใจร้ายนำมาปล่อยเอาไว้แม้จะมีอายุเพียงแค่ 3 สัปดาห์ก็ตามแต่ก็ถูกเขาพรากแม่ไปจากอกแม้นมยังไม่ทันได้หย่า แต่ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ก็ต้องอยู่กันอย่างรับกรรมที่มนุษย์ได้กระทำแก่ตัวนั้น ด้วยความกลัวก็ต้องอดทนกอดเสาไฟไว้ด้วยโลกใบใหญ่ที่ไร้แม้แม่จะเรียกหา ด้วยความระแวงจึงกอดกันด้วยน้ำตาจะเรียกหาแม่ผู้ปกป้องนั้นอยู่หนใด ซึ่งผู้โพสต์ยังได้เล่าอีกด้วยว่า น้องนั้นเป็นตัวเมียถูกนำมาปล่อยเอาไว้พร้อมกับถ้วยพลาสติกใส่น้ำเปล่าเพียงแค่ 1 ใบทั้งตัวก็ยังคงเล็กมากๆ ฟันก็กำลังเพิ่งจะขึ้น เธอจึงอยากให้น้องๆได้บ้านได้ที่อยู่อาศัย อยากให้มีอาหารกินได้ประทังความหิวมีบ้านที่อบอุ่นที่สามารถจะดูแลน้องๆได้ในระบบที่ปิด ซึ่งเธอก็ได้นำเรื่องราวมาโพสต์ในแฟนเพจ มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร และด้วยเธอเองก็ไม่สามารถที่จะรับน้องไว้เองได้เพราะเธอก็รักแมวและเคยแอบเลี้ยงจนมีปัญหากับเจ้าของบ้านและต้องย้ายออกมาภายใน 7 วัน โดยได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่เอาไง้ที่ sena fest...

สาวไปกินก๋วยเตี๋ยวจอดรถไว้ ตอนกลับเจอเจ้าตัวนี้อยู่ในตะกร้าหน้ารถ ถามเอากลับบ้านเลยดีมั้ย

หากเพื่อนๆที่ได้เป็นทาสแมวแล้ว เมื่อเวลาที่เราได้ไปไหนมาไหนแล้วเจอกับเจ้าเหมียวแล้วก็คงจะอดไม่ได้ถ้าหากจะเอื้อมมือเพื่อที่จะเข้าไปเล่น ซึ่งถ้าหากว่าเพื่อนๆเป็นอย่างที่กล่าวมาแสดงความเพื่อนๆตกเป็นเหยื่อของเจ้าเหมียวหรือตกเป็นทาสไปแล้วโดยปริยาย เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า JaAye Konghin ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เธอนั้นได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอได้ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์มาและจอดเอาไว้แถวๆหน้าร้านดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่เธอนั้นได้กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จก็ไม่ได้พบความผิดปกติแต่อย่างใด จนเมื่อได้เดินมายันรถที่เธอได้จอดเอาไว้ก็ได้พบกับเจ้าเหมียวตัวอ้วนตัวกลมตัวนึงกำลังนั่งมองเหม่ออยู่ที่หน้าตะกร้ารถอย่างสบายใจเฉิบ ด้วยความที่เป็นนายในตัวก็ไม่ได้สนโลกหรือแคร์สิ่งใด ยังคงนั่งนิ่งนอนใจไม่สนใจว่ารถคันนี้กำลังจะออกหรือไม่ ซึ่งเธอจึงได้ถ่ายทั้งคลิปและรูปเอาไว้พร้อมกับมาลงในกลุ่ม รักหมา ทาสแมว ซึ่งก็เป็นที่สนใจกับเพื่อนๆในกลุ่มเป็นจำนวนมากโดยเธอนั้นยังได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า ไปกินก๋วยเตี๋ยว จอดรถไว้ตอนกลับเจอเจ้าตัวนี้อยู่ที่หน้าตะกร้าหน้ารถ เอากลับบ้านเลยดีมั้ยนะ ซึ่งเพื่อนๆในกลุ่มเองก็ต่างพากันบอกว่าให้เอาน้องกลับบ้านไปเลยแบบไม่ต้องสนโลก แต่ทว่าเธอเองก็ได้มาเฉลยที่หลังไว้ว่าเอากลับไม่ได้เพราะน้องเป็นลูกของแม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวที่เธอได้ไปกิน ซึ่งถ้าเอากลับไปเลยก็คงจะกลับไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านเดิมอีกไม่ได้แล้วเพราะก๋วยเตี๋ยวก็อยากกินเพราะอร่อยส่วนแมวก็อยากจะได้เพราะน่ารักตัวอ้วนซะขนาดเนี้ย ขอขอบคุณข้อมูลจาก JaAye Konghin